AH 15 บาท

[Jeng]

น่าซื้อหรือไม่

ถามนักลงทุนที่ติดตาม AH มาครับ

เห็นราคาแว๊บๆ เมื่อเช้า 15.30

[สามัญชน]

ที่จริงผมว่าจะตอบนะครับ

แต่เสียดายที่ไม่ได้ติดตาม AH มา

เลยตอบไม่ได้......ไม่งั้นละก็.......

[โอ@]

ก็เหมือนที่เคยบอกแหละพี่ ผมว่า 19 ยังน่าสนเลยด้วยซ้ำ

[Jeng]

กำไรปีนี้ จะได้เท่ากับ ปีที่แล้วหรือไม่ครับ โอ@

[สามัญชน]

ปิดที่ 16.2

pe 7.5 pb 1.1  โอ.....เกิดอะไรขึ้นครับ

[Doraemon]

ใครจะตอบก็ตอบเถิดครับ มาช่วยกันแชร์ข้อมูล  :D

รายงานสภาพตลาดกันก่อน....วันนี้เล่นกันหนักจริงๆ หลุดไป 15 กว่าๆ แล้วก็ไล่กลับมา 16 กว่าๆ จากนั้นยื้อกันตลอดวัน มีคนตั้ง bid ไว้ที่ 16 และ 16.5 หลายแสนหุ้น (น่าจะเป็นบริษัท) แต่ก็เอาไม่อยู่ มีแรงขายไม้ใหญ่ๆ ทิ้งใส่ตลอดวัน ไม่รู้ไปเอาจากไหนมาขาย

ส่วนตัวยังคงมั่นใจในอนาคตบริษัทภายใต้สมมติฐานว่าหากโครงการต่างๆ ประสบความสำเร็จด้วยดี(กำไรปีนี้จะลดลง โครงการใหม่กว่าจะเห็นผลก็ปลายปีหน้า) แต่สงสัยเหมือนกันว่ามี insider information อะไรหรือไม่ถึงได้ถูกขายหนักขนาดนี้ อย่างไรก็ตามในช่วงที่หุ้นร่วงเอาๆ นี้ไม่มีผู้บริหารคนไหนขายหุ้นออกมา

คิดว่าซื้อลงทุนได้ แต่ยังไงดูสถานการณ์ไปก่อนก็จะดี อาจมีข่าวร้ายที่แฝงอยู่ภายในก็เป็นได้ คนที่ยังไม่ได้ซื้อนี่ได้เปรียบอยู่แล้ว...ผมดิ ใจชักจะสั่นๆ  :oops:

[โอ@]

ปีนี้กำไร 114x4 = 456 ล้านบาทครับ อย่าไปคาดหวังอะไรมาก 1.80 บาทต่อหุ้นเอง (254 ล้านหลังซื้อหุ้นคืน)

ปีหน้ากำไร 114x4 + 1600x8% + 80 = 664 อย่างต่ำ รายละเอียดในร้อยคนร้อยหุ้นครับ
หารหุ้นก็ 254 ล้านหุ้น 2.61 บาทต่อหุ้น

[Jeng]

ขอบคุณครับ โอ@ อืม ดูกราฟปีเล่นๆ แต่ก่อนนี่ 35 เลยนะ

โห 35 >>> 16.20 หวาดเสียวจริงๆ

[โอ@]

เพิ่งเคยเจอหุ้นลงกระหน่ำขนาดนี้ .... ต้นทุนโอ๊ตยัง 18 เลยเนี่ย กำลังจะเฉลี่ยเพิ่มไปเรื่อยๆอยู่ พรุ่งนี้ถ้าเปิดตลาดยังเจอทุบตุ๊บๆ ลงไป 15 อีกนี่สงสัยต้องรออีกวัน

[san]

งานนี้  เจอลูกยาวอ่ะ ครับ  กระสุนปืนใหญ่นะครับ
พวก นักวิเคราะห์ เขา แค่ะ กันใหญ่ครับ
เขาบอกว่ามันจะฟื้นปี  2550  
เฮ้อ.....ดูเขายิงปืนใหญ่  แล้วน่ากลัวอ่ะครับ  อยู่ในหลุมดีกว่าครับ
แต่ว่า...ปกติ  ก่อนยิงปืนใหญ่  ฝ่ายเสธฯ  มันคงวางแผนกันมาแล้วมังครับ  เขาน่าจะมีเป้าหมายนะครับ  ว่า ยิงกี่ลูก  แล้วได้ผลเท่าไร  กะนับศพเท่าไร  ถึงหยุดยิง

ก็ยังไงๆ  ขอส่งกำลังใจให้  นักรบที่ยังอยู่สนาม...มีความอดทนนะครับ  สู้ๆนะครับ เพื่อน
 
จากผม....คนเข็ดเขี้ยวเรื่อง story ครับ  ไม่ขอทุรนทุรายอีกแล้วครับ


http://www.settrade.com/brokerpage/IPO/ ... _ah_t1.pdf

http://www.settrade.com/brokerpage/IPO/ ... 606021.pdf

[มดง่าม]

เพิ่งเคยเจอหุ้นลงกระหน่ำขนาดนี้ .... ต้นทุนโอ๊ตยัง 18 เลยเนี่ย กำลังจะเฉลี่ยเพิ่มไปเรื่อยๆอยู่ พรุ่งนี้ถ้าเปิดตลาดยังเจอทุบตุ๊บๆ ลงไป 15 อีกนี่สงสัยต้องรออีกวัน

:lol: โถ น่าจะช่วยพยุง หรือกลังเพื่อนฝูงเขาจะขัดจะเขิน

โอกาส มาแว้วว

[KITCHAI]

ok พรุ่งนี้ลุยแหลก

[โอ@]

ok พรุ่งนี้ลุยแหลก

ผมพยุงไปรอบนึงที่ 17 แล้วน๊า แต่เอาไม่อยู่ เหอๆ เดี๋ยวมาพยุง 15.5 อีกรอบละกัน ขอดูสถานการณ์พรุ่งนี้ก่อน ไปๆมาๆมีหวังตัวนี้ถึง 70% ของพอร์ตแน่ๆเลยถ้าลงต่อไปแบบนี้

[nanchan]

อย่าไปคาดหวังอะไรมากกับธุรกิจ OEM เลยครับ

วัตถุดิบราคาขึ้น ก็ต้องรอไปอีก3-6เดือนกว่าจะขึ้นได้

แต่ละปีก็ต้องลดcost ให้พวกมัน(ลูกค้านะ) อีกปีละ3-10%
ยิ่งorder มากขึ้น ก็ยิ่งต้องลดราคา
ผมเห็นธุรกิจอื่นเค้า demand มากขึ้น ราคาเพิ่มขึ้น
แต่นี่ตรงกันข้าม  ขำขำ

กำไรขั้นต้นสูง ก็ต้องถูกลดลงอีก

มันไม่พอใจ ก็ขู่ย้ายฐาน ขำขำ ไม่เห็นย้ายซักที

[nanchan]

เวลาเค้าเสนอราคากันนะ ประมาณ2-3หน้ากระดาษ

ต้องแจงให้มัน(ลูกค้านะ) เห็นว่ามีต้นทุนอะไรบ้าง

กำไรก็ต้องแอบๆ ซุกไว้ในตรงนี้บ้าง ตรงนั้นบ้าง
งบจะได้ออกมากำไรไม่เยอะเกินไป ขำขำ

[โอ@]

จริงๆเดี๋ยวนี้อุตสาหกรรมเป็นอย่างนี้หมดครับ ถ้าไม่ใช่ ขายสินค้าตรงให้ลูกค้าที่ไม่รู้อะไร

SNC ก็แบบนี้ แต่มันต้องแข่งกันที่ต้นทุนครับ อีกอย่างก็เทคโนโลยี

จะว่าไปลูกค้าของ OEM พวกนี้ก็ไม่ได้เอาเปรียบนะครับ ช่วงปีแรกๆที่สั่งสินค้า และช่วงที่สินค้าเขาบูมแรกๆก็ให้ margin บริษัทผลิตซะดีจนแทบจะคืนทุน ดูอย่าง AH ลงทุนไปกี่ล้าน กี่ปีคืนทุน ลองดูกระแสเงินสดเข้าปีละ 1 000 ล้าน เขาลงทุนแค่เท่าไหร่เองครับ 3 ปีก็คืนทุนแล้ว

ส่วนที่เกิดจาก 3 ปีนั้นคือ extra ครับ ซึ่งแน่นอน extra มันก็ควรได้กำไรน้อยหน่อย อยากได้กำไรเพิ่มมากขึ้นก็สร้างโรงงานใหม่

[yoyo]

ธุรกิจ OEM มีความเสี่ยงพอสมควร ในเรื่องขอการถูกกดราคานะผมว่า
เวลาดูระยะยาวต้องคิดหนักๆหน่อย

แต่ทุกอย่างก็ต้องมีข้อยกเว้น
ผมว่าก็มีหุ้น oem บางตัวที่สามารถผ่านพ้นปัญหาเรื่องนี้ไปได้พอสมควร อย่าง snc นี่ผมว่าเอาตัวรอดได้สบายๆ เพราะตัว oem ของเค้านั้นแตกต่างจากกลุ่ม oem รถยนต์ทั่วๆไปมาก
สาเหตุหลักๆดูได้จาก พวกชิ้นส่วนยานยนต์ส่วนใหญ่ที่ผลิตให้พวก toyota izusu พวกนี้ขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับลูกค้า นอกจากนี้ mk share ก็ต่ำมากด้วย อย่างวันนี้ผมไปฟัง tkt เค้าว่า share เค้าประมาณ 1% เพราะฉะนั้น อำนาจการต่อรองของลูกค้านี่สูงเอามากๆ

แต่สำหรับ snc นี่แม้ size เค้าจะเล็กเมื่อเทียบกับลูกค้า
แต่จุดแกร่งหลักๆคือ
- การที่เค้าครอง mk share สูงมาก อย่าง compressor เค้ากินเกือบ 100% แอร์บ้านก็แทบไม่มีคู่แข่งเลย มีแต่ snc กับลูกค้าผลิตเอง ถ้าไม่นับที่ลูกค้าผลิตเอง snc ก็เหมือนกันกิน mk share 100% เช่นกัน ทำให้อำนาจการต่อรองไม่ตกอยู่กับลูกค้าเพียงฝ่ายเดียว
- การหนีพ้นปัญหาการกดราคาอีกอย่างหนึ่งคือการสร้าง product ใหม่ๆ สร้างยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อทดแทน GP ที่ลดลง ตัว snc เองนี่ก็มีสินค้าใหม่มาให้ผมเห็นแทบทุกไตรมาสเลยครับ เริ่มแรกจาก แอร์บ้าน กับ compressor ต่อมาก็แอร์รถ อีกไตรมาสมาก็บอกว่าได้ชิ้นส่วนตู้เย็น แผ่นฝาแอร์ ฝาตู้เย็น ตามมาติดๆด้วย เครื่องซักผ้า แม่พิมพ์ ล่าสุดก็มีพวกเครื่องจักรเกี่ยวกับทำความเย็น ทำเครื่องจักร์เกี่ยวกับอาหาร แล้วอนาคตยังมีแนวโน้มที่จะประกอบแอร์ทั้งเครื่องให้ลูกค้าอีก ผมติดตามฟังมาทุกไตรมาส คุณสมชัยแต่ก็ขยันหารายได้เพิ่มให้ตลอด ผมไม่แปลกใจเลยครับถ้า snc จะสามารถโตเฉลี่ย 40% up ได้ติดต่อกันหลายๆปี

เอ... นี่ผมเชียร์หุ้นตัวเองออกนอกหน้าไปมั๊ยครับเนี่ย  :P

[NinjaTurtle]

เอ... นี่ผมเชียร์หุ้นตัวเองออกนอกหน้าไปมั๊ยครับเนี่ย  

มากไปนิดนึงครับ รอผมเก็บของก่อนสิครับ กระสุนหมดนะขอครับ

[jaychou]

หุ้นลงควรช่วยทุบครับ เป็นการลดต้นทุน

[Linzhi]

อ่านในประวัติศาสตร์ของหุ้นอเมริกา ระวังกลุ่มยานยนต์นะครับ เป็น cycle เอามาก ๆ ถ้าคิดว่าเป็นแค่ระยะสั้นก็โอเคครับ ราคานี้ น่าซื้อ

แต่ถ้าเป็นขาลงล่ะก็ ผมว่าราคานี้ไม่ปลอดภัยเลยครับ

อีกอย่างมันเป็นขาลงแบบ ลงในลงครับ คือทั้งอุตสาหกรรมและตัว product DMAX เอง ดังนั้นถ้าจะซื้อเพิ่ม ผมแนะนำ short มากกว่า ซื้อเฉลี่ยครับ

ผมได้ยินเหมือนกับเกี่ยวกับว่ากฎเกณฑ์ให้ maker ลดต้นทุนทุกปีให้ได้ตามเป้าหมายอย่างที่คุณ Nanchan ว่า
ผมเห็นแล้วเป็นห่วงทั้งตัวโรงงาน maker เอง แล้วก็ผู้บริโภคอย่างผมด้วย  :(

[Thaworn]

อย่ายึดติดความรู้ของ Gu หรือ Guru ที่เราชื่นชอบ เพราะอาจจะทำให้เราพลาดการเรียนรู้บางอย่างไปอย่างน่าเสียดาย ถนัดหรือเก่งแบบไหนก็ลงทุนไปแบบนั้นๆครับ อย่าลืมว่าทุกคนหรือแม้กระทั่งลุงบัฟก็เริ่มต้นจากการไม่รู้เรื่องในการลงทุน แล้วขอบข่ายของความรู้เราจะเอาอะไรมาวัด เพราะถ้าเราเรียนรู้มันอยู่ตลอดเวลา?  
   
   ขอแชร์ด้วยคนนะครับ ตามประสาคนดูพื้นฐานและเอาเทคนิคมาหาช่วงจังหวะการซื้อ สำหรับ AH ตอนหลุด 25 กลางเดือน พ.ค. ไม่ควรเข้าไปยุ่งแล้วครับ เพราะมันจะลงยาว หุ้นตะวันตกดินน่ะครับ ต่ำแล้วมีต่ำอีก เจ้ามือหรือนักลงทุนมือใหญ่เค้ามี Insider น่ะครับ(ผมเชื่อเช่นนั้น ไม่งั้นมันไม่สามารถกินรายย่อยได้) อย่าลืมนะครับเจ้าของ AH ต้นทุนเค้าคือราคาพาร์ แถมเค้าได้ปันผลตั้งแต่แรกอีกด้วย ดังนั้นถ้าบริษัทมีอะไรไม่ดีซ่อนอยู่แล้วการที่เจ้ามือจะขายหุ้นทิ้งเกือบทุกราคาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก การที่จะมารอดูผลประกอบการในบางครั้งผมว่าเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดนัก

   เอาง่ายๆนะครับ กราฟระดับ week ของ AH ค่า MACD มันมุดหัวลงใต้ศูนย์ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วแถมต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยความโลภลงไปถึง 21 บาท แล้วมาปีนี้มันดีดขึ้นไปถึง 28.5 บาท แต่ค่า MACD ก็ยังไม่โผล่พ้นน้ำอีก และราคาก็ยังต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยความโลภระยะสั้นอีก(เส้น 13 กับ 34 วีค) ผมวิเคราะห์เองนะครับราคาต่ำกว่า 15 บาทจะมีดีดตัวระยะสั้นอีกครั้งแต่ไม่มาก แล้วมีสิทธิ์มุดลงต่ำลงไปอีกถึงต่ำกว่าหรือประมาณ 13 บาท (สังเกตประโยคนี้ใช้คำว่ามีสิทธิ์นะครับ) เพราะว่ามันยังลงไม่ครบคลื่นการปรับตัวเลยนี่พึ่งลงคลื่น C ใหญ่ ตั้งแต่หลุด 26 บาทมานี่แหละ
    ข้อสังเกตสุดท้ายในเดือนมิ.ย.นี้ ราคาต้องทะลุ 17.5-18 บาท หรือต้องยืนได้แข็งขาไม่สั่นคือมี Volumn สนับสนุน ถ้าไม่ก็มีสิทธิ์อยู่ ICU อีกนานครับ(คือลงไปทำจุดต่ำใหม่อีก)
    ข้อคิดเห็นของผมนี้ไม่ต้องการให้ผู้ที่หาเงินมาด้วยความยากลำบากต้องเข้าไปติดกับดักหุ้นเพื่อความหวังในการฟื้นตัว อย่ามองว่ามันเคยมีราคาสูงเท่านั้นเท่านี้ ถ้าดูพื้นฐานก็ขอให้มองที่ worst case ด้วยครับที่อาจเกิดขึ้นได้แล้วถ้ามันเกิดจริงจะมีผลต่อรายได้และอัตรากำไรของบริษัทมากน้อยเท่าไหร่ ดูเคสหุ้นกลุ่มเดินเรือและ ATC เป็นตัวอย่างครับ หาความเป็นไปได้ก่อนซื้อครับ อย่ากลัวไม่ได้หุ้น อ้อ สุดท้ายนี้ ไม่มีเจ้าของหรือผู้บริหารคนไหนหรอกที่กล้าบอกผู้ถือหุ้นว่าบริษัทตัวเองมีปัญหาซ่อนอยู่

    ราคาหุ้นหยุดลง  ก็ต่อเมื่อผู้ขาย(รายใหญ่)หยุดขาย ไม่ใช่ผู้ซื้อพยายามเอาชนะผู้ขาย
    เช่นกันราคาหุ้นย่อมหยุดขึ้น ก็ต่อเมื่อผู้ซื้อหยุดซื้อ(ไม่ใช่รายย่อย) ไม่ใช่ผู้ขายพยายามเอาชนะผู้ซื้อ

    ตอนหุ้นขึ้นนั้นขึ้นมากกว่าที่คาด มากกว่าที่หวัง
    ตอนหุ้นลงก็ย่อมลงมากกว่าที่นึก ลึกกว่าที่คิด และไวกว่าที่คาดเช่นกัน

    อย่าพยายาม Agianst the Trend (Trend ของหุ้นไม่ใช่ของ Set Index)เพราะคุณจะขายหมู(ตอนขึ้น)และติดดอย(ตอนลง)

[Jeng]

AH 15 แล้ว ไม่น่าเชื่อ

รับเท่าไรดีนี่

12 13

[nanchan]

[quote="Linzhi"]

ผมได้ยินเหมือนกับเกี่ยวกับว่ากฎเกณฑ์ให้ maker ลดต้นทุนทุกปีให้ได้ตามเป้าหมายอย่างที่คุณ Nanchan ว่า
ผมเห็นแล้วเป็นห่วงทั้งตัวโรงงาน maker เอง แล้วก็ผู้บริโภคอย่างผมด้วย

[nanchan]

ต่อไปเราคงเห็นคนออกมาทุบรถอีกเรื่อยๆ


โอ้ละหนอ

ในอดีตเราเป็นเกษตรกรรม ใช้ควายไถ่นา

แต่ปัจจุบันเราเป็นนิกส์แล้ว นิกส์แปลว่าอะไรไม่รู้เหมือนกัน

แต่ปัจจุบันเรากำลังจะมีต่างชาติมาจับเราไถ่แทน

[กล้วยทอด]

ต่อไปเราคงเห็นคนออกมาทุบรถอีกเรื่อยๆ


โอ้ละหนอ

ในอดีตเราเป็นเกษตรกรรม ใช้ควายไถ่นา

แต่ปัจจุบันเราเป็นนิกส์แล้ว นิกส์แปลว่าอะไรไม่รู้เหมือนกัน

แต่ปัจจุบันเรากำลังจะมีต่างชาติมาจับเราไถแทน

[bigshow]

มีใครจะให้ผมยืมสักแสนห้าหรือเปล่า อยากได้สัก 10000 หุ้น :lol:

[Jeng]

Code: เลือกทั้งหมด

bigshow

ถามคุณ bigshow หน่อยว่า ในเมือบริษัทก็รับซื้อคืนที่ 18 กว่าๆ และตั้งใจจะรับคืนตั้ง 28.2 ล้านหุ้น หรือ 10 % ของหุ้นทั้งหมด

ทำไมคนขายต้องทุบให้ราคามันลงมาด้วยครับ

ทำไมไม่ค่อยๆขายให้บริษัทซื้อไป

[bigshow]

วาระที่ 2 พิจารณาและอนุมัติการออกและการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่กรรมการและ
พนักงานของบริษัท (ESOP)

ประธานฯ ได้เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาว่า เพื่อเป็นการจูงใจกรรมการและพนักงาน
ของบริษัทเพื่อให้ปฏิบติหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท ทางคณะ
กรรมการของบริษัทจึงขอให้ทางที่ประชุมพิจารณาและอนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดง
สิทธิ ให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัท (ESOP) ตามรายละเอียดเบื้องต้น
ดังต่อไปนี้

ชนิดใบสำคัญแสดงสิทธิ:ใบสำคัญแสดงสิทธิชนิดระบุชื่อผู้ถือและโอนเปลี่ยนมือได้

อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ:ไม่เกิน 5 ปี นับจากวันที่ออกและเสนอขาย

จำนวนที่เสนอขาย:ไม่เกิน 2,823,600 หน่วย

ราคาเสนอขายต่อหน่วย :หน่วยละ 0 บาท (ศูนย์บาท)

อัตราการใช้สิทธิ:ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ 1 หุ้น
(ยกเว้นมีการปรับสิทธิ)

ราคาการใช้สิทธิ :26 บาท ต่อหุ้น

ระยะเวลาการใช้สิทธิ:ทุก ๆ รอบ 12 เดือนนับจากวันที่ออกและเสนอขาย

[yoyo]

ราคาใช้สิทธิ์ 26 บาท Fair ดีครับ
แบบนี้แสดงว่าผู้บริหารก็ต้องเชื่อว่าโอกาสไปถึง 26 บาทก็ต้องมี
ไม่งั้นก็ไม่รู้จะแจกทำไม 8)

[2024]

ผมวิเคราะห์เองนะครับราคาต่ำกว่า 15 บาทจะมีดีดตัวระยะสั้นอีกครั้งแต่ไม่มาก แล้วมีสิทธิ์มุดลงต่ำลงไปอีกถึงต่ำกว่าหรือประมาณ 13 บาท (สังเกตประโยคนี้ใช้คำว่ามีสิทธิ์นะครับ) เพราะว่ามันยังลงไม่ครบคลื่นการปรับตัวเลยนี่พึ่งลงคลื่น C ใหญ่ ตั้งแต่หลุด 26 บาทมานี่แหละ

สุดยอด.........