เรียนประธานมนและท่านรอง VIB ครับ มีเรื่องบ่นให้ฟังครับ

[คัดท้าย]

ผมยอมรับเลยว่าพี่เจ๋ง เป็น VI พันธ์แท้จริงๆครับ

เห็นได้จากพี่โดดออกจาก PSL แล้วไปเข้า DTC ... ทิ้งโอกาสอันหอมหวานของ VS โดยเลือกเข้า DTC ตามแบบของ VI

ถือว่าจิตใจแน่วแน่ครับผม ..

[Jeng]

อิอิ ไม่ได้แน่วแน่อะไรหรอก น้องคัดท้าย

พอร์ทของพี่ 90 เปอร์เซ็นต์ VI

อีก 10 เป็น VS

เรื่อง Psl นี่ ไม่แน่นะ ก็เตรียมตัวเข้าอยู่เหมือนกัน

มีอะไรก็สอนพี่เยอะๆเด้อ

โดยเฉพาะในเรื่องเกร็งกำไร

[chatchai]

ขอแย้งคณคัดท้ายครับ

ถ้ากราฟแม่นยำจริง เซียนเทคนิคตามหน้าหนังสือพิมพ์คงเป็นเศรษฐีกันไปหมดแล้วครับ

แต่ผมยังคงเห็นทำงานเขียนลงหนังสือพิมพ์อย่เลย

ผมถามจริงๆครับว่าตอน Black Monday ตอนซัดดัมบกอิรัก ตอนดัชนล่วงจาก 1700 จด ตอนปฎิวัติสมัย รสช. ตอน World Trade โดนถล่ม กราฟบอกได้ไหมครับ

การลงทนแบบ VI ก็รวยได้ครับ อย่าง Buffett ซิครับ หรือถ้าในประเทศไทยก็ อ.นิเวศน์ไงครับ

ส่วนผมก็โอเคนะครับ คณว่าผลตามแทนดีไหมละครับ ลงทน 6 แสน ประมาณ 5 ปี กำไร 20 ล้าน

แถมไม่เครียด ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ หลับสบาย ไม่เที่ยวได้อย่างสบายใจ

[Boring Stock Lover]

กลุ่มคนรู้จักและเล่นตามเทคนิค ส่วนใหญ่ตกรถไฟ ยกเว้นคนที่เทรดเดือนละ xxxล้านที่กลับตัวและลองเสี่ยงเล่นหรือถือตรงข้ามสัญญาณเทคนิคบ้าง แต่พวกเงินน้อยนั้นตกรถไฟและต้องมาขึ้นทีหลัง

ปัญหาของเทคนิคนั้นในมุมของผมคือสัญญาณนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่เรื่องจริงเกิดขึ้น ในระหว่างช่วงเวลาความชัดเจนนั้นน้อย เป็นสัญญาณที่ไม่แน่นอน ก้มีคนกล่าวไว้อย่างมากว่า ไม่มีวันรู้ว่าฟองสบู่จะแตกเมื่อใด จนวันที่มันแตกแล้ว

ผมเองก็ใช้กราฟช่วยในตอนซื้อหุ้น เพื่อให้รู้ว่าราคามันมาและไปอย่างไร แต่ก็ไม่สำคัญเท่าราคานั้นมีส่วนต่างจากที่ผมคาดไว้ในสัดส่วนที่ทำให้มีความปลอดภัยในการถือครองระยะยาวหรือไม่

ผมไม่ได้เป็นคนเชี่ยวชาญเรื่องเทคนิค ก็ถือว่าเป็นแลกเปลี่ยนประสบการณ์

แต่จากการสังเกตุผู้คนที่ออกมาพูดทางทีวี ผมจะนั่งหัวเราะทุกครั้ง

"...ถ้าท่านติดตามผมอยู่ตลอด ตลาดก็ขึ้นมาตามที่ผมเคยว่าไว้..."

ผมจำได้ว่า เมื่อ2 สัปดาห์ยังออกมาให้ลดการลงทุนอยู่เลย หรืออาจเป็นเพราะวันไดวันหนนึ่งในรอบ 10 วันทำการ ผู้พูดเปลี่ยนมุมมอง แต่ผมไม่ได้ติดตาม

[sirivajj]

ผมขอสนับสนุนแนว VI+VS ครับ
อย่างที่เคยเขียนเอาไว้ว่า ถ้าเป็นปลูกต้นไม้ในสวน ผมก็อยากจะปลูกนอกจากไม้ยืนต้นที่รอเก็บผลปีละครั้งแล้ว ผมก็จะแบ่งพื้นที่บางส่วนหลังจากดูแลไม้ยืนต้นจนดีแล้ว สำหรับปลูกไม้ล้มลุกที่พอจะเก็บเกี่ยวได้ไวไวบ้าง (แต่ต้องหมายถึงศึกษากันอย่างดีแล้ว และแน่นอนคงไม่ใช่ขนาด Day Trade เพราะต้องศึกษาสภาพแวดล้อมดินฟ้าอากาศและพืชพรรณที่จะเอามาปลูกไงครับ)

[คัดท้าย]

อืม จะบอกว่าไงดี คืองี้ครับ การเล่นเทคนิคก็มีท่าไม้ตายที่ต่างกันครับแต่ละคน อันนี้ถ้าได้เล่นเทคนิคมาพอควรจะทราบ คนเล่นเทคนิคลึกๆเค้าก็ไม่บอกกันครับ ไอ้ที่ดูกราฟ Moving Average, RSI ขึ้น Over Brought Over Sold ได้พวกนี้พื้นๆครับ อ่อนๆใครๆก็รู้ และเมื่อใครๆก็รู้มันจึงไม่ได้ผล ผมเองดูมากกว่านั้น มีวิธีการอ่านมากกว่านั้นเยอะ แต่บอกไม่ได้

ปล. ไอ้กราฟตามหนังสือพิมพ์ อย่าไปเชื่อมากครับ ผมดูประจำส่วนใหญ่หาสาระไม่ได้เลย ดูแบบนั้นเด็กๆเรียนเทคนิคมาใหม่ๆก็ทำได้ มันเหมือนว่าไปตามเรื่องตามราวหนะครับ ผมเห็นมาเกตติ้งหลายคนชวนลูกค้าให้ซื้อหุ้นตามเทคนิค ยกนู้นยกนี่ว่ามั่วพูดเป็นต่อยหอย ผมเห็นแล้วอยากเดินเข้าไปบอกว่า น้องเอ๊ย.. ถ้ารู้แค่นี้ก็อย่าไปทำให้คนอื่นเค้าเจ็บตัวเลยหวะ ก็คงคล้ายๆกับนักวิเคราะห์บางคนที่ออกมาวิเคราะห์พื้นฐานแบบมั่วนิ่มๆ แหละครับ (ผมเลยมาที่นี่ไง เพราะที่นี่ไม่มั่วนิ่ม)

ท่าไม้ตาย จะไม่มีใครบอกใครครับ ไม่เหมือน VI ที่บอกกันได้
และ ทำไมบอกกันไม่ได้ เพราะว่าท่าไม้ตายจะใช้ได้หากคนรู้ไม่เยอะ ถ้ารู้เยอะ เจ้ามือจะรู้ด้วย เค้าจะสร้างกราฟหลอกได้ครับ แต่เทคนิคก็ไม่ได้ใช้ได้ในตัวเองล้วนๆ เทคนิคต้องใช้คู่กับพื้นฐานครับ ใช้เดี่ยวๆไม่ได้

ถ้าใช้เดี่ยวๆได้ ผมเองคงไม่ศึกษาพื้นฐานหรอกครับ ?
แต่ว่าการที่ทราบเทคนิคด้วย จะทำให้เราซื้อของได้ถูกลงกว่าเดิมนะครับ พี่ๆที่เป็น VI ไม่อยากได้ของถูกลงเหรอครับ ? จิงมะ

ถ้าให้เปรียบเทียบ กับนักรบ นักรบจะใช้ดาบอย่างคล่องแคล่วได้ถือว่าเยี่ยม วิชาดาบนั้นพอเพียงให้นักรบสามารถอยู่ในสนามรบได้ แต่มันจะดีกว่ามั้ย ถ้านักรบมีความสามารถอื่นๆด้วย เช่น ขว้างอาวุธลับพวก ชูริเคนได้ หรือ ยิงธนูได้
แม้ว่าความสามารถในการขว้างชูริเคน หรือยิงธนู จะไม่พอเพียงต่อการรบตะลุมบอน แต่ว่าก็เป็นส่วนช่วยเสริมให้นักรบผู้นั้นสามารถเอาตัวรอดในสถานะการคับขันบางสถานะการได้ จริงมั้ยครับ

พื้นฐานแบบ VI ผมอยากให้มองเหมือนวิชาดาบ จำเป็นแน่นอน
แต่วิชากราฟมันก็เป็น Value Add ครับ ผมว่าไม่ควรปฏิเสธมันนะครับ

อย่างพี่ chanchai บอกว่าลงทุน 6 แสน กำไร 20 ล้าน ผมก็บอกได้ ว่าสมัยตอนนั้น ตลาดหุ้นแย่สุดๆ เป็นผมผมก็เลือกหุ้นปันผลดีครับ เอาหินเขวี้ยงไปซักตัวแล้วถือ 5 ปี กำไรเป็น 10 เท่าเหมือนกัน

มีคนบอกว่า เล่นหุ้นตอนนี้ ใครๆก็เล่นได้ เพราะมันเป็นขาขึ้น แต่ต่อไปนี่ซิครับ ใครมั่นใจได้บ้างว่า VI ถือหุ้นขาลงแล้วยังจะได้กำไรเท่านี้อีก ?

ผมเพียงแต่อยากให้มองในอีกมุมนึงแค่นั้นแหละครับ
ยังไงหุ้นพื้นฐานดี มันคือของจริงอยู่แล้ว แต่เป็นคนชอบเรียนรู้หลายๆด้านครับ

ตัวอย่างการขว้างชูริเคนของผมตอนนี้ คือ PSL ที่พี่เจ๋งโดดออกมาหนะครับ แต่ละรอบผมได้เต็มๆ เพราะเข้าที่จุดต่ำสุดหรือเกือบจะต่ำสุด แล้วผมโดดออกที่จุดสูงสุดของแต่ละรอบ จริงหรือไม่จริง ผมโพสต์บอกใน Taladhoon.com ตลอดครับ ตอนนี้แค่ผมโดดเข้าออกหุ้น 2 ตัว TTA กับ PSL ผมฟันกำไรไป 50%(+) แล้วครับ ในแค่ 1-2 สัปดาห์ ขณะที่หุ้นทั้ง 2 ตัวนั้นขึ้นกันใน 2 สัปดาห์ไปแค่ 30% ได้มั้งครับ แต่ผมได้มากกว่านั้นเกือบ 2 เท่า

ทำไมผมกล้าทำ ? เพราะผมมั่นใจว่ามันเป็นขาขึ้นแน่ๆ ... โดยดูจากเหตุผล พื้นฐาน ... แต่ผมใช่เทคนิคสร้างอัตราเร่งของกำไร
ถ้าตลาดหุ้นกำลังขาลงละ ? ผมก็ชักวิชา VI ออกมาซิครับ เก็บชูริเคน แล้วชักดาบออกมา .. จิงมะครับ

ผมเองมาที่นี่เพราะรู้ตัวดีว่า วิชาดาบ ผมยังอ่อนหัด ผมจึงมาฝากเนื้อฝากตัวขอเป็นศิษย์ของ TVI แต่ผมเองก็ยังอยากตอบแทนคุณพี่ๆ โดยบอกว่าพี่ๆครับ เมืองข้างๆเค้ามีวิชาธนูกับปามีดนะครับพี่ พี่ๆน่ารู้ไว้นะ ผมลองแล้วได้ผลนะ ก็เท่านั้นเองครับ

คำถามที่เจอบ่อยๆ แล้วทำไม Buffet ไม่เล่นเทคนิคเลย ?
แน่ใจเหรอครับว่าบัพเฟท ไม่ดูเลย ?
แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ บัฟเฟต เค้าเปรียบเหมือนโคตรยักษ์ เค้าขยับตัวทีทุกคนรู้หมด ทราบหมด เค้าใช้เทคนิคยากครับ พื้นฐานจึงเป็นเรื่องที่เหมาะกับยักษ์ แต่ผมถามจริงๆเหอะ กองทุนข้ามชาติที่มันเข้ามาในตลาดเรามันไม่ใช้เทคนิคเหรอครับ? แล้วกองทุนพวกนี้ของใครครับ ?

[Jeng]

ก็คงเหมือนธรรมะ ของพระพุทธเจ้า ยังแยกเป็น สายปริญัติ กับสายปฏิบัติ

ไม่รู้เหมือนกันตอนพระพุทธเจ้าสอน พระพุทธเจ้ามีการแบ่งให้เป็นสองสายหรือเปล่า

โลกเราก็แบบนี้แหละครับ หยิน หยาง

สุดท้าย แล้ว VI บางคนก็มาลอง VS

VS บางคนก็มาลอง VI

ก็คงจะปรับเปลี่ยนหมุนเวียนเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ

ส่วนในเว็บนี้

ในที่สุด คุยกันไปคุยกันมา

เผลอแปล๊บเดียว คุณฉัตรชัย มี 1000 ล้านบาทไปแล้ว

เพราะแนวทาง VI เน้นรักษาเงินต้น

และเมื่อมีกำไร ก็เป็นกำไรจริงๆ ที่มากับการดำเนินงาน และใช้ระยะเวลา กว่าจะได้กำไรมา

ทำให้สามารถรักษาเงินไว้ได้

เช่นลงทุน 20 ล้านบาท ผลตอบแทน 20 เปอร์เซ็นต์ ใน 1 ปี ดูเหมือนน้อย แต่ ผ่านไป 1 ปี มีเงินต้นรวม 24 ล้านบาท

ปีต่อมาทำได้สมมุติ 10 เปอร์เซ็นต์ ก็เพิ่มมาอีก 2.4 ล้านบาท

กลายเป็น 26.4 ล้านบาท

ปีต่อมา ทำได้ สมมุติ 30 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มอีก 7.92 ล้านบาท

รวมเป็น 34.32 ล้านบาท

ปีต่อมา ไม่กำไร ก็ไม่เป็นไร

เป็นต้น

ของแบบนี้ต้องวัดกันระยะยาว และแนว VI จะดีในระยะยาว

พอหุ้นขึ้นมากๆ ก็มีการแกว่ง ด้านอารมณ์เล็กน้อย

ผมเองก็เลย เล่นตามกระแสแบบหนุกๆ ก็เท่านั้นเอง

[Jeng]

ขอบคุณน้องคัดท้าย เรื่อง การเก็งกำไรสอนพี่เลยครับ อะไรที่สอนแบบไม้ตาย ก็PM มาบอก จะขอบคุณมากครับ

แต่อย่างไรก็ตาม ระวังอย่ามั่นใจตัวเอง เพราะเมื่อเรามั่นใจมากๆ จะมีบางวันที่เราทุ่มหมดตัว ถ้าโชคไม่ดีอย่างที่คุณฉัตรชัยว่าไว้ เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้หุ้นเปิดมาแล้วฟลอร์เลย

ถึงเวลานั้น ขายตอนฟลอร์ แล้วยังไม่มีคนซื้อ

สาเหตุเพราะหุ้นขึ้นมาเกินพื้นฐานหลายร้อยเปอร์เซ็นต์

ถึงเวลานั้น เราจะคิดถึงคำพูดของคุณฉัตรชัย

ซึ่ง ตัวพี่เองก็เคยเจอครับ BBL ตก 2 ฟลอร์ตอน พฤษภาทมิฬ

พี่เข้าไปซื้อ 62 บาท สมัยนั้น ซ์อเสร็จก็ตกต่อเลยครับ

...........................................................................
เอ ทำไมพูดแบบนี้

เพราะหมอยงบอกว่า เพื่อนหมอ ที่มีเงิน 80 ล้านบาท จากหุ้น ปัจจุบันติดลบ 4 ล้านบาท

ไม่น่าเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อครับ

[คัดท้าย]

เห็นด้วยกับพี่เจ๋ง 100% ครับ ผมเองมาที่นี่เพราะต้องการเรียนรู้วิธีการของ VI ครับ

ข้อดีของ VI ที่ดีกว่า VS คือ
1. VI ไปเที่ยวได้ VS ติดคุก อันนี้พี่เจ๋งได้ลองแย้วว
2. ยิ่งมีเงินมาก VI ยิ่งจะเป็นวิธีการลงทุนที่สะดวกขึ้น ไม่เหมือน VS ที่ยิ่งเงินมายิ่งลำบาก (ยกเว้นจะยกระดับไปเป็นเจ้ามือ)
3. VI คือ การเล่นหุ้นแบบสันติ แต่การเล่นหุ้นแบบ VS คือ การเล่นหุ้นแบบเบียดเบียน เน้นซื้อถูกขายแพง โยนของใส่ชาวบ้าน

ผมเองกำลังปรับมาเป็น VIครับ เพียงแต่เริ่มต้นผมเริ่มด้วย VS เพื่อสร้างเงินต้นเท่านั้นเอง

เพราะอย่างที่พี่เจ๋งบอก เงินของ VI มันทวีคูณ แต่ผมอยากให้เงินต้นผมมากพอ จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาทวีคูณช่วงแรกๆนานนักครับ

เพิ่งรู้ว่าพี่ชาญชัยมีเป็น 1000 ล้านแล้ว เยี่ยมครับ นี่ของจริงเลยนะครับเนี่ย รวยขนาดนี้ยังสละเวลามาเล่นที่นี่ ขอบคุณพี่มากครับ ผมคงมีคำถามอีกเยอะเลยครับพี่ๆ

[คัดท้าย]

ขอบคุณน้องคัดท้าย เรื่อง การเก็งกำไรสอนพี่เลยครับ อะไรที่สอนแบบไม้ตาย ก็PM มาบอก จะขอบคุณมากครับ

แต่อย่างไรก็ตาม ระวังอย่ามั่นใจตัวเอง เพราะเมื่อเรามั่นใจมากๆ จะมีบางวันที่เราทุ่มหมดตัว ถ้าโชคไม่ดีอย่างที่คุณฉัตรชัยว่าไว้ เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้หุ้นเปิดมาแล้วฟลอร์เลย

ถึงเวลานั้น ขายตอนฟลอร์ แล้วยังไม่มีคนซื้อ

สาเหตุเพราะหุ้นขึ้นมาเกินพื้นฐานหลายร้อยเปอร์เซ็นต์

ถึงเวลานั้น เราจะคิดถึงคำพูดของคุณฉัตรชัย

ซึ่ง ตัวพี่เองก็เคยเจอครับ BBL ตก 2 ฟลอร์ตอน พฤษภาทมิฬ

พี่เข้าไปซื้อ 62 บาท สมัยนั้น ซ์อเสร็จก็ตกต่อเลยครับ

...........................................................................
เอ ทำไมพูดแบบนี้

เพราะหมอยงบอกว่า เพื่อนหมอ ที่มีเงิน 80 ล้านบาท จากหุ้น ปัจจุบันติดลบ 4 ล้านบาท

ไม่น่าเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อครับ

นั่นแหละครับพี่เจ๋ง ผมกลัวอยู่ทุกวันเลยครับพี่เจ๋ง กลัวเหตุการณ์ก่อการร้าย กลัวเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

แล้วเชื่อด้วยว่า วันหนึ่ง มันจะเกิด ............... ต้องเกิดแน่ๆ
VI จะเป็นสิ่งที่ทำให้ผมรอด ......................

แต่ผมคิดงี้ครับพี่ ถ้าผมเล่นแบบ VI ตอนนี้ ผมก็ไม่คิดว่าผมจะรอดเหมือนกัน เพราะหุ้นดีๆตอนนี้ก็ขึ้นมาสูงซะเกินมูลค่าเยอะมากๆ ลองคุ้ยๆๆๆ หาหุ้นที่มันยังถูกก็หาเองไม่เจอ มาเจอก็ DTC ที่พี่เจ๋งบอกหนะแหละครับ แฮะๆ

เล่าให้พี่ฟังว่าช่วงที่ผ่านมา ผมได้ลองเล่นหุ้นแบบ VI แล้วทนไม่ได้ เพราะผมซื้อ FANCY SITHAI PRANDA SAFE ทำผมน้ำตาซึม เพราะดันมาซื้อหุ้น VI ตอนช่วงนี้ ร่วงกันจนผมแทบร้องไห้ เซ็งเลยครับช่วงนั้น คือตอนนั้นจะลองครับ ผมปิดตำราเทคนิค ดูพื้นฐานแล้วซื้อเลย ... ซวยเลย

ไปคุยกับเพื่อนที่เป็น VI เพื่อนผมบอกว่า แล้วใครใช้ให้เอ็งไปซื้อตอนนี้เล่าวะ VI มันต้องซื้อหุ้นตอนหุ้นถูกๆ ต้องซื้อตอน Mr.Market เสนอขายถูกๆ ผมก็ถามเพื่อนผมไปว่า แล้วเอ็งจะให้ข้ารออีก 5 ปีฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไงฟะ ตอนนี้จะให้ข้าทำไรกับเงินข้าละตอนนี้ มันก็หัวเราะ คือ ไม่รู้จะตอบยังไง

ต่อมาผม เลยต้องดูเทคนิคการเข้าซื้อประกอบด้วย ปรากฏว่าได้ผลครับ
อย่าง GFPT นี่ผมได้ราคาต่ำสุดของช่วงเลยนะครับ แล้วก็ถือมาเรื่อยๆ ไม่เคยกลัวขาดทุน ซำบายมาก

นี่ดู DTC ของพี่เจ๋งแล้วครับ ถ้ามีเงินซื้อได้เลย ยิ่งถ้าพี่มั่นใจพื้นฐานตามหลัก VI ว่าดีจริงๆนะครับพี่ อย่างตอนนี้ถ้าดูกราฟ พี่เจ๋งจะเห้น Belinger Band บีบแคบเข้ามามาก อย่างของ DTC นี่มันเป็นรูเข็ม ส่วน Indicators ตัวอื่นๆทุกอย่างเป็นกลางหมด

ในกรณีนี้ คนที่ดูเทคนิค จะบอกได้แค่ว่า หุ้นตัวนี้กำลังเกร็ง เกร็ง .... คือ มันพร้อมจะระเบิด ขึ้น หรือ ลง อย่างรุนแรง
ทีนี่ต่อมา คัดท้าย ก็จะไปถามพี่เจ๋ง พี่เจ๋งครับ DTC พื้นฐานเป็นไงบ้างครับพี่ .. ถ้าพี่เจ๋งบอกว่า ไอ้น้องเอ้ยย ห่วยแตกหวะ ผมก็จะแผ่เมตตาให้พวกที่ถือเลยครับ เพราะอาจลงแบบ Floor ได้
แต่ถ้าพี่เจ๋งบอกว่า ไอ้คัดท้ายเอ้ยย สุดยอดหวะ พื้นทองแท้ เลยหวะ อย่างนี้ผมซื้อแบบไม่ยั้งเลยครับ

ปล. ถ้าพื้นฐานดีจริงแบบพี่เจ๋งว่า พี่เจ๋งรับบานแน่ครับพี่รอบนี้

[Jeng]

คัดท้ายครับ เรื่องพื้นฐาน DTC ต้องถามพี่ครรชิต และลุงขวดครับ

ส่วนเรื่อง FCF ต้องถามคุณฉัตรชัย ว่า DTC ดีละเปล่า

ส่วนเรื่อง DCA ของ DTC ต้องถามคุณมน และน้องวิบูลย์

ส่วนพี่ พี่จะทำการบ้านที่คัดท้ายถามมาครับ

ขอตั้งสติก่อน เพราะสาเหตุที่ซื้อ DTC

คือ

1. หนี้ลดลง
2. ซ์อหุ้นคืน
3. ถ้ามีมีเงิน 3570 ล้านบาท พี่ซ์อหมดเลย และพี่ก็ได้เป็นเจ้าของโรงแรมดุสิตธานี

พี่จะซ์อหรือเปล่า คำตอบคือ ซื้อครับ

เพราะพี่มีเงิน 3570 ล้านบาท พี่ก็ไม่สามารถสร้างโรงแรมขึ้นมาแข่งกับดุสิตธานีได้

หลายเรื่องครับ
เช่น
1. สายสัมพันธ์ที่ทำให้กิจการของดุสิตธานีอยู่ได้
2. good will ที่สั่งสมมานาน
3. สถานการณ์ปัจจุบันที่ดอกเบี้ยลดลง
4. รัฐบาลสนับสนุนการท่องเที่ยว ดูตัวอย่างการแก้ปัญหาโรคซาร์ ที่นายก ไม่ใส่ผ้าแมสปิดปาก แล้วไปเดินที่ดอนเมือง

..............................................................................

พี่อยากถามคัดท้ายว่า

โค้ด: เลือกทั้งหมด

นี่ดู DTC ของพี่เจ๋งแล้วครับ ถ้ามีเงินซื้อได้เลย ยิ่งถ้าพี่มั่นใจพื้นฐานตามหลัก VI ว่าดีจริงๆนะครับพี่ อย่างตอนนี้ถ้าดูกราฟ พี่เจ๋งจะเห้น Belinger Band บีบแคบเข้ามามาก อย่างของ DTC นี่มันเป็นรูเข็ม ส่วน Indicators ตัวอื่นๆทุกอย่างเป็นกลางหมด 

หมายความว่าอย่างไร เจ้า Belinger Band นี่

[คัดท้าย]

ขอบคุณครับพี่ เดี๋ยวผมว่าจะลองไปเริ่มศึกษาเกี่ยวกับพื้นฐานโดยเริ่มจากเจ้า DTC นี่แหละครับ สงสัยจะมาถามครับ

ส่วนที่พี่เจ๋งถามเรื่อง Belinger Band ให้พี่เจ๋งดูรูปล่างซ้ายของรูปข้าง พี่เจ๋งจะเห็นช่องที่ลากลากประกบบนล่างไปกับกราฟหุ้น DTC (สี่ม่วงๆ) เจ้ากราฟนี้ เราเรียกว่า Belinger Band จริงๆถ้าดูกราฟที่ทำดีๆละเอียดๆ จะมี 3 เส้น มันจะมีเส้นกลางอีก 1 เส้น แต่ไอ้รูปนี้รู้สึกว่าจะไม่แสดงไว้ Belinger Band นี้โดยหลักการสามารถใช้เป็นแนวรับแนวต้านได้

แต่ ... ผมไม่เชื่อครับ เพราะทดสอบแล้วว่าได้ผลน้อยครับ ... ยกเว้นดูคู่กับ Indicators อื่นๆ เช่น Moving Average, STO, RSI แต่ผมขอไม่พูดถึงตอนนี้แล้วกัน

แต่ที่ดูง่ายๆ อันนึงแล้วได้ผลมากคือ เมื่อไหร่ ที่เจ้าเส้นขอบสองเส้นมันบีบเข้ามาหากัน เกิดเป็นช่องแคบๆ เมื่อนั้น สามารถบอกได้ถึงอาการเกร็ง เกร็ง (อูยยตระคิวกินขา) คือ เกิดารอัดตัวของของกราฟ มักเกิดจากการเก็บหุ้นของเจ้ามือ การรอข่าวอะไรซักอย่าง การรอคอยอะไรซักอย่าง (แต่บางครั้งก็หมายถึงการดับสูญ ไม่ใช่แค่รอ เช่น Roynet )





ถ้าดูในกราฟจะเห็นว่า DTC เกิดการอัดตัวจนเป็นรูเข็มแล้ว อย่างนี้คืออาการอัดตัวครับ ถ้าหลับหูหลับตาไม่ดูพื้นฐาน เราจะบอกได้แค่ ไอ้เจ้าหุ้นตัวนี้ มันกำลังจะชิบหาย หรือ รุ่งโรจน์ในไม่ช้า คือ ถ้าเทียบกับคน เราบอกได้ว่าชีวิตของไอ้คนคนนี้มันกำลังจะเปลี่ยนไปอย่างมากในไม่ช้า เพียงแต่ไม่รู้ว่าดีขึ้นหรือเลวลงแค่นั้นเองครับ


ทีนี้ถ้าวิเคราะห์ตามมุมมองของ VS สำหรับหุ้นตัวนี้ ถ้ายังมีตัวอื่นให้เลือกกินส่วนต่าง ผมจะยังคงไปซื้อหุ้นตัวอื่นก่อน เพราะดูตาม Indicators หลายๆตัวแล้ว หุ้นตัวนี้ ยังต้องอยู่อย่างนี้ไปอีกพักนึงเป็นอย่างน้อยครับ

แต่ถ้ามองในมุม VI ก็ซื้อได้เลยครับ ตามอัธยาศัย เลยครับ

[Jeng]

ขอบคุณมากครับ น่าสนใจมากครับ

ไม่รู้เหมือนกันว่า จะดีจริงอย่างที่คิดหรือเปล่า

แต่ดูจากพื้นฐานแล้ว

1. หนี้ลดลง ปัจจุบัน .32 ต่อ 1
2. กำไรเมื่อเทียบกับเงินที่ลงทุน ถ้าทำได้ ซัก 4 บาทต่อหุ้น คือ 340 ล้านบาท และให้ PE ในช่วงบูมซัก 15
ราคาก็จะอยู่ที่ 4 คูณ 15 = 60 บาทต่อหุ้น

เมื่อมีหุ้นน้อยลง 4.5 ล้านหุ้น เหลือ 85-4.5 = 80.5 ล้านหุ้น

กำไรต่อหุ้นจะเป็น 340/80.5 = 4.22

เมื่อคูณ PE 15 ได้ราคา 15 คูณ 4.22 = 63.30

อันนี้พี่เดานะ คือแบบว่าตอนหุ้นขึ้น ทุกอย่างก็ดูดีไปหมด PE 15 ก็เป็นไปได้

ผู้อ่านโปรดพิจารณา เพราะเดาล้วนๆ

.........................................................................

คุณฉัตรชัยครับ อยากถามว่าสมัยก่อน ตอนช่วงหุ้นบูม

หุ้นโรงแรมนี่ ขึ้นตามคนอื่นหรือเปล่าครับ

อยากรู้ PE ของกลุ่มโรงแรมในอดีต จะต้องไปดูที่ไหนครับ

[PRO_BABY]

คัดท้ายครับ....จริงๆแล้วพี่เจ๋งพูดถูกครับบางทีเราดูเทคนิคมาอธิบายไม่ได้หรอกครับเราต้องดูพื้นฐาน หรือความเป็นจริงของกิจการครับ ผมว่า มี3570 ล้านก็สร้างโรงแรมเหมือนดุสิตธานีไม่ได้ครับ
ถามว่าแข็งแกร่งไหมผมว่าเยี่ยมครับ ถ้าไม่มีเรื่อง ก่อการร้าย ประกอบกับรัฐบาลสนับสนุนการท่องเที่ยว และถ้าอนาคตกำไรเมือนปี 2002 2001 2000 EPS สัก 5 บาท ผมว่า 1 ปี 2 ปี ผมก็ถือครับเย็นสบายครับ
ดูอย่างMETCO สิครับ ดูเทคนิคจบเลย เพราะลงมา มูลค่าตลาด 4000 กว่าล้าน ราคา 212 คนบอกว่าลงได้อีก เป็นไงล่ะครับ เด้งเลย ก็ลงต่ำกว่าพื้นฐานครับ กำไร METCO ปีละ เกือบๆ 1000 ล้าน ถือ 4 ปีก็ได้ทุนคืนแล้ว ดีใจกะพี่เจ๋งด้วยนะครับ เอาเป็นว่าผมเห็นด้วยครับ ผมว่าสักกลางปีหน้า DTC คงเห็น 60-65 ครับ เกือบๆๆ50 % นะครับ
ขนาด MBK ยังทำได้ DTC ก็ทำได้ครับ

[Stock Broker]

ขอแจมแบบงูๆ ปลาๆ ด้วยคนแล้วกันนะครับ

เจ้า B.Band จริงๆ แล้วมันก็คือการวัดค่าความเบี่ยงเบนหรือความแปรปรวนของราคาหุ้นหรือกราฟแท่งเทียนนั่นแหละครับ ดังนั้นช่วงที่ Band แคบเข้ามันก็สะท้อนมาจากการที่ราคาหุ้นช่วงนั้นเหวี่ยงตัวน้อย ไม่เชื่อลองพิสูจน์ดูจากราคาหุ้นตัวไหนก็ได้

แล้วการที่ในช่วงเวลาหนึ่งๆ ราคาหุ้นมีการเคลื่อนไหวแคบ ในทางจิตวิทยามันก็สื่อถึงการที่นักลงทุนกำลังอยู่ในภาวะ นะจังงัง คือจะซื้อก็ไม่กล้า จะขายก็กลัว เมื่อต่อมามีโวลุ่มจำนวนมากเข้ามาไม่ว่าจะเป็นในทางบวกหรือลบก็ตาม จึงส่งผลให้หุ้นนั้น Break Out ง่าย เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ก็รอคนมา Lead อยู่แล้วนั่นเองครับ

สำหรับผม ให้น้ำหนัก พื้นฐาน 70-80% เทคนิค 20-30% ครับ เพราะส่วนใหญ่เทคนิคจะใช้ได้ดีเฉพาะเมื่อหุ้นมีโวลุ่มสม่ำเสมอเท่านั้น ถ้ามีใครลากหรือมีใครคุม เทคนิคก็บ่มิไก๊ครับ (ส่วนใหญ่ใช้ได้ดีสำหรับหุ้นที่แกว่งตัวแบบ Sideway ในกรอบ)

ผู้ที่สนใจศึกษาเทคนิค เชิญที่ http://www.e-analytics.com/tutor2.htm

สำหรับผู้ที่สนใจตามรอยเซียนเทคนิคเมืองไทย เชิญที่ http://www.all-4-thai.com/rockriverarms/index.php

[บุคคลทั่วไป]

คุณคัตท้าย
.....................................................................................................................................
นั่นแหละครับพี่เจ๋ง ผมกลัวอยู่ทุกวันเลยครับพี่เจ๋ง กลัวเหตุการณ์ก่อการร้าย กลัวเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

แล้วเชื่อด้วยว่า วันหนึ่ง มันจะเกิด ............... ต้องเกิดแน่ๆ
VI จะเป็นสิ่งที่ทำให้ผมรอด ......................
....................................................................................................................................

ผมจำไม่ได้ว่าด้านบน อยู่ความคิดเห็นที่เท่าไร

แต่ทั้ง 2 แบบ สามารถทำให้คุณคัตท้าย อยู่ได้ คือ...........ด้วยการ ' ลงทุน '

เป็นอีกความคิดเห็นนึงครับ ^.^

[Jeng]

คัดท้ายครับ เรื่อง แนวทางของคัดท้าย ไม่ได้มีใครแอนตี้นะครับ

คือแบบว่าเว็บนี้เขาชอบแลกเปลี่ยน แบบเป็นเหตุเป็นผล ซึ่ง ถ้าไม่คุ้นเคย จะรู้สึกว่าพูดคุยไม่ค่อยสนุก ไม่ค่อยมันส์เลย

ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร

พี่ว่าเว็บนี้ ถ้าเป็นสมัยก่อน ก็ระดับ จอหงวนคุยกัน เพื่อหาแนวทาง ปรัชญา อะไรทำนองนั้นครับ

ไม่ได้มีใครว่าใครจริงจัง

เว็บจอหงวน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า พอร์ทจะโตนะครับ

พอร์ทแต่ละคนก็โตแบบค่อยเป็นค่อยไป

ด้วยสไตล์ VI ละครับ

..........................................................

ที่พูดแบบนี้กลัวว่าคะท้ายจะหายไปเลย

เหมือนโดนถล่ม

[Stock Broker]

เห็นด้วยกับพี่ Jeng นะครับ

ทุกวันนี้ผมก็พึ่งเทคนิคเหมือนกัน (เป็นสาวกตัวยงของท่าน Rock เลยแหละ)

ถ้าวันไหนคุณคัดท้ายอยากถ่ายทอดวิชา บอกด้วยนะครับ จะขอร่วมวิจารณ์และเรียนรู้ด้วยคน

ที่คุณคัดท้ายบอกว่าไม้ตายไม่มีใครบอกกันหรอก ผมว่าไม่จริงนะครับ ต่อให้คุณบอกก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะ Get กันได้ง่ายๆ เรื่องกราฟเทคนิคถ้าคุณไม่เข้าใจที่มาของมันจริงๆ เอาแค่งูๆ ปลาๆ มันไม่ Success หรอกครับ ลองดูตัวอย่างจากท่าน Rock สิครับ ไม่มีเก็บเคล็ดวิชา มีเท่าไรบอกหมด มีแต่คนสรรเสริญทั่วบ้านทั่วเมือง

แล้วเผอิญ คนส่วนใหญ่ก็จะเป็นประเภทที่ชอบเครื่องมือแบบพร้อมใช้เสียด้วย อยากรู้แค่หุ้นตัวนี้ Target เท่าไร ให้วิเคราะห์เองเขาไม่เอาหรอกครับ

ถ้าอยากแลกเปลี่ยนอะไรก็โพสท์คุยกันดีกว่าครับ การถกเถียงกันเท่านั้นที่จะนำไปสู่แนวทางสร้างสรรค์ใหม่ๆ