Re: Euro Tarp - Why It Will Be A Screaming Failure !!!! ขอบคุณมากครับ โดย i_sarut พฤหัสฯ. ก.ย. 29, 2011 8:52 pm

Re: หุ้นตก = ความทุกข์ของคนมีตังค์! คิดเหมือนกันครับ หุ้นตก เงินลงทุนเราลดลงหรือก็แค่กำไรน้อยลง (2 - 3 ปีที่ผ่านมาก็กำไรกันไปเยอะ) แต่ชีวิตเรายังอยู่ได้สบายกว่าคนที่บ้านและอาชีพหายไปครับ โดย i_sarut ศุกร์ ก.ย. 23, 2011 11:28 pm

Re: อุปนิสัยแห่งชัยชนะ 23 ข้อของนักลงทุน ดีจริงๆ ขอบคุณมากครับ :D โดย i_sarut ศุกร์ ก.ย. 16, 2011 10:33 pm

Re: กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้ เสนอให้ย้ายกระนี้ไปห้องคลังกระทู้คุณค่าครับ :D เห็นด้วยครับ เป็นกะทู้ที่ได้ข้อคิดดีจริงๆ :D โดย i_sarut พฤหัสฯ. ก.ย. 15, 2011 11:04 pm

Re: สิ่งที่ผมเรียนรู้จากการอยู่ในตลาดหุ้นมา 8 ปี โดนใจมากครับ :bow: โดย i_sarut จันทร์ ก.ย. 05, 2011 2:31 am

Re: สิ่งที่ผมเรียนรู้จากการอยู่ในตลาดหุ้นมา 8 ปี โดนใจมากครับ :bow: โดย i_sarut จันทร์ ก.ย. 05, 2011 2:31 am

Re: Morgan stanley upgrade ไทยแล้ว เป็น EW จาก UW.... จริงๆปีนี้ก็เห็นหลายรอบแล้วนะครับ พอหุ้นตกหนักๆก็ปรับ UW พอช่วงขึ้นแรงๆก็มาปรับขึ้นใหม่ :wink: โดย i_sarut พุธ ส.ค. 31, 2011 8:03 pm

Re: การเกิดแก่เจ็บตายของหุ้น โดย พี่นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์ ขอบคุณมากครับ เพิ่งเคยอ่าน :bow: โดย i_sarut อาทิตย์ ส.ค. 28, 2011 11:19 pm

Re: ทอง ทอง ทอง/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร บทความ 'ทอง ทอง ทอง' version อัพเดตสินะครับเนี่ย :D โดย i_sarut จันทร์ ส.ค. 22, 2011 10:00 pm

Re: USA พิมพ์แบ้งก์ จ่ายหนี้ตรงๆเลยได้หรือไม่ครับ หนี้สาธารณะของไทยตอนนี้ สุงกี่เปอร์เซ็นต์ของ จีดีพีครับ ประมาณ 41% ครับ ข้อมูลหนี้สาธารณะรายเดือน (พฤษภาคม) - Public Debt Monthly Report (May 2011) http://www.pdmo.mof.go.th/?q=th/node/1746 โดย i_sarut พฤหัสฯ. ส.ค. 11, 2011 6:31 pm

Re: การลด credit rating ของ S&P ถือว่าผิดรัฐธรรมนูญไหมครับ ? ใครมีเวลาลองหาหนังเรื่อง inside job มาดูก็ดีครับ จะเห็นว่าพวกบริษัทให้เรทติ้งนี่เป็นอย่างไร +1 ครับ เป็นหนังสารคดีที่ดีมากๆ สมแล้วที่ได้รางวัลออสการ์ ทำให้ความน่าเชื่อถือของ บริษัทจัดเรตติ้ง นายธนาคารหลายๆคน ลดลงไปพอสมควรด้วยครับ โดย i_sarut พฤหัสฯ. ส.ค. 11, 2011 4:22 pm

Re: ชีวิตนักลงทุนรุ่นปัจจุบัน โดยที่เราต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และติดจามเหตุการณ์ต่างๆอย่างไม่ตื่นตระหนก อย่าตื่นเต้นเกินจริงไปกับการรายงานข่าวที่ดูน่าตื่นเต้นเกินจริง ถ้าเรายังอยากจะเป็นนักลงทุนอยู่ เราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อที่เราจะยังได้รับผลตอบแทนที่ดี และมีความสุขในการลงทุนเหมือนเดิมครับ สุดยอดมากครับ :D เรื่องความรู้ความเข้าใจในเหตุการณ์อย่างแท้จริง เราอาจจะทำไม่ได้มาก เพราะข้อมูลเราอาจจะมีไม่เท่าคนอื่นๆที่มีแหล่งข้อมูลพร้อมกว่าเราหลายเท่า แต่ การควบคุมความตื่นเต้นและความกลัวในการรับรู้ข่าวสารต่างๆ เป็นสิ่งที่เราควบคุมตัวเองได้ครับ โดย i_sarut จันทร์ ส.ค. 08, 2011 5:51 pm

Re: รูป Free Fall รากเหง้า - ทางออกแห่งวิกฤติการณ์การเงินโลก โจเซฟ สติกลิตซ์ กับวิกฤติเศรษฐกิจและสังคม หลังจากถดถอยมาเป็นเวลากว่าสองปี เศรษฐกิจโลกมีทีท่าว่าจะฟื้นคืนชีพกลับมาอย่างมั่นคงแล้ว ในช่วงที่ภาคต่างๆ กำลังถดถอยอยู่นั้น ภาคหนึ่งซึ่งขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การเขียนหนังสือวิจารณ์ปัจจัยที่ก่อให้เกิดวิกฤติและการแก้ไข ในช่วงเวลาเพียงสองปีมีหนังสือพิมพ์ออกมาในอเมริกาไม่ต่ำกว่า 34 เล่ม ในจำนวนนี้ เล่มที่วิจารณ์ตามหลักวิชาเศรษฐศาสตร์อย่างกว้างขวางที่สุด ได้แก่ Freefall : America, Free Markets, and the Sinking of the World Economy โดย ดร. โจเซฟ สติกลิตซ์ นอกจากจะมีประสบการณ์ทางด้านวิจัย จนได้รางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์แล้ว ดร.สติกลิตซ์ ยังมีประสบการณ์จากการทำงานกับรัฐบาลอเมริกัน และกับธนาคารโลกอีกด้วย ประสบการณ์เหล่านั้นเอื้อให้เขามองปรากฏการณ์ต่างๆ ได้อย่างลุ่มลึก ด้านหนึ่งที่เขามุ่งเน้นเป็นพิเศษในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ได้แก่ กระบวนการโลกาภิวัตน์ กระบวนการนี้มีข้อดีมากมาย แต่ในขณะเดียวกัน มันก็มีผลร้ายสูงมากหากบุคคลและสังคมไม่เข้าใจ ก่อนเขียนเรื่อง Freefall ดร. สติกลิตซ์เขียนหนังสือสำคัญเกี่ยวกับกระบวนการโลกาภิวัตน์ไว้สองเล่ม คือ Globalization and Its Discontents และ Making Globalization Work ซึ่งมีบทคัดย่อเป็นภาษาไทยที่อาจดึงออกมาได้จากเว็บไซต์ http://www.sawaiboonma.com Freefall เป็นหนังสือขนาด 360 หน้าซึ่งพิมพ์ออกมาครั้งแรกเมื่อต้นปี 2553 นอกจากเนื้อหาที่น่าสนใจในแต่ละบทแล้ว ผู้เขียนยังรวมชื่อเอกสารอ้างอิงและคำอธิบายจำนวนมากไว้ในตอนท้ายเล่มอีก ด้วย เอกสารและคำอธิบายยาวกว่า 60 หน้ากระดาษนี้ น่าจะมีประโยชน์เป็นพิเศษสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาบางประเด็นให้ลึกลงไป ในบรรดาเนื้อหาทั้งหมด ผมเห็นว่าบทสุดท้ายควรจะได้รับความใส่ใจสูงสุด เพราะผู้เขียนสรุปปัจจัยพื้นฐานของวิกฤติ และชี้ทางกว้างๆ ที่ชาวโลกจะต้องหาทางออกกันต่อไป เพื่อทำให้สังคมมีโอกาสอยู่ได้อย่างยั่งยืน ดร. สติกลิตซ์ สรุปว่า ปัจจัยพื้นฐานของวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐ คือ วิกฤติทางศีลธรรมจรรยา ที่เขาเรียกตามแนวเศรษฐศาสตร์ ว่า “การขาดดุลทางศีลธรรมจรรยา (moral deficit)” เขาประเมินว่า การขาดดุลนี้ยากที่จะแก้มากกว่าการขาดดุลทางเศรษฐกิจของสหรัฐ อันเกิดจากการใช้จ่ายเกินตัวของชาวอเมริกันและความบกพร่องในการควบคุมภาคการ เงิน ซึ่งก่อให้เกิดภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์เสียอีก ในปัจจุบันนักธุรกิจอเมริกันแยกความดีกับความชั่วแทบไม่ออก จึงตกแต่งบัญชีและมีพฤติกรรมจำพวกฉ้อโกงอย่างกว้างขวาง ในขณะที่ผู้บริหารญี่ปุ่นอาจคว้านท้องตัวเอง และผู้บริหารอังกฤษลาออกเมื่อบริษัทล้มละลาย ผู้บริหารอเมริกันกลับแย่งเงินโบนัสกัน นอกจากนั้น ดร. สติกลิตซ์ ยังสรุปอีกว่า แนวคิดทางเศรษฐกิจและสังคมของสหรัฐได้เดินเข้าสู่ทางตันแล้ว ทั้งนี้ เพราะมันผลักดันให้คนมองเฉพาะประโยชน์ส่วนตัวและบริโภคแบบตกขอบซึ่งนำไปสู่ ความล่มสลายของความไว้เนื้อเชื่อใจกันและความเป็นชุมชน เมื่อปราศจากฐานสำคัญทางสังคมทั้งสองนี้ การทำงานร่วมกันย่อมเกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลให้เกิดปัญหาสารพัดอย่าง รวมทั้งความล้มเหลวของภาคการเงิน ยิ่งกว่านั้น มันยังนำไปสู่การสูญเปล่าของทรัพยากรที่สำคัญที่สุด ซึ่งได้แก่ ทรัพยากรมนุษย์อีกด้วย ทั้งนี้ เพราะในระยะหลังๆ นี้ นักศึกษาที่เก่งที่สุดมักมุ่งเข้าเรียนทางด้านการเงิน เพื่อหวังจะสร้างความร่ำรวยอย่างรวดเร็ว แทนที่จะเรียนทางวิทยาศาสตร์ แพทย์ หรือครูดังที่รุ่นปู่ย่าและพ่อแม่เคยทำ นักศึกษามุ่งทำเช่นนั้น เพราะระบบเศรษฐกิจอเมริกันให้รางวัลแก่ผู้ทำงานในภาคการเงินสูงจนเกินขอบเขต เนื่องจากปัญหามีที่มาจากปัจจัยพื้นฐาน ฉะนั้น ผู้เขียนมองว่าการแก้ไขจะต้องยกเครื่องระบบสังคมและเศรษฐกิจแนวอเมริกันทั้ง หมด ไม่ใช่ทำเพียงรื้อนั่นนิด แก้นี่หน่อย ดังที่รัฐบาลอเมริกันพยายามทำอยู่ในขณะนี้ เขาไม่ได้เสนอรายละเอียดของการยกเครื่องใหม่ ซึ่งคงจะเป็นเนื้อหาของหนังสือเล่มต่อไปของเขา นอกจากพูดคร่าวๆ ถึงการลดการบริโภคและการสร้างความสมดุลของสิ่งต่างๆ รวมทั้งระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐ ระหว่างบุคคลกับชุมชน ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติและระหว่างวิธีการและจุดมุ่งหมาย หนังสือเล่มนี้ทำให้ผมนึกถึงวิกฤติเศรษฐกิจไทยเมื่อปี 2540 ตอนนั้นมีการวิจารณ์กันไปต่างๆ นานาถึงที่มาของวิกฤติ คงเพราะคำวิจารณ์ของผมออกไปนอกกรอบเศรษฐศาสตร์ จึงไม่มีสื่อแห่งไหนนำไปเสนอจนกระทั่งหลังผมไปบรรยายในสถาบันผู้บริหารชั้น สูงของกระทรวงศึกษาธิการที่วัดไร่ขิง เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2542 วันนั้นรองปลัดกระทรวงศึกษาธิการไปนั่งฟังอยู่ด้วย หลังเสร็จการบรรยาย ท่านให้สัมภาษณ์สื่อและอ้างถึงเนื้อหาส่วนหนึ่งของการบรรยาย ซึ่งได้แก่ ผมมองว่าวิกฤติเศรษฐกิจครั้งนั้นเป็นอาการของโรคร้าย ไม่ใช่เป็นตัวโรคเอง โรคร้าย ได้แก่ วิกฤติทางศีลธรรมจรรยาของสังคมไทย สื่อส่วนใหญ่คงไม่เห็นด้วย จึงมีหนังสือพิมพ์เพียงฉบับเดียวที่เอ่ยถึงเรื่องวิกฤติทางศีลธรรมจรรยา และหลังจากนั้นมา ก็ไม่มีใครพูดถึงอีก แม้วิกฤติเศรษฐกิจครั้งนั้นจะยุติลง แต่ผมมองว่าวิกฤติทางศีลธรรมจรรยาหายุติไม่ ตรงข้ามมันกลับทวีความเลวร้าย และแสดงอาการออกมาในรูปของวิกฤติการเมืองติดต่อกันมาเป็นเวลานานหลายปี ตัวอย่างของอาการอันแสนเลวร้ายชั้นดีเยี่ยม ได้แก่ ผู้ชุมนุมทางการเมืองบุกเข้าไปในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดร.สติกลิตซ์จะเขียนหนังสือเกี่ยวกับเศรษฐกิจแนวใหม่หรือไม่และเนื้อหาจะ เป็นอย่างไร คงต้องรอกันไปอีกสักระยะหนึ่ง เท่าที่เขากล่าวถึงในเรื่อง Freefall โดยเฉพาะเกี่ยวกับความจำเป็นในการลดการบริโภคและการสร้างความสมดุลต่างๆ ผมค่อนข้างแน่ใจว่า ข้อเสนอของเขาจะอยู่ในกรอบของเศรษฐกิจพอเพียง แม้เขาจะไม่ใช้คำนี้ก็ตาม น่าเสียดายที่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจแนวคิดใหม่นี้ จึงยังไม่นำไปใช้เพื่อการดำรงชีวิต และป้องกันวิกฤติเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ดร.ไสว บุญมา http://sawaiboonma.com/joseph-stiglitz-books โดย i_sarut อาทิตย์ ก.ค. 31, 2011 2:15 pm

Re: อึดอัดกันบ้างไหม? บางทีพิมพ์อะไรไปแล้วก็ลบทิ้งไม่โพสต์บ้าง ระยะหลังมานี้เป็นบ่อยเหมือนกันครับ เลยไม่ค่อยได้โพส :D โดย i_sarut เสาร์ ก.ค. 30, 2011 11:09 pm

Re: ภาพเตือนสติมือใหม่ ขอบคุณมากครับ :D โดย i_sarut เสาร์ ก.ค. 30, 2011 12:41 am

Re: ความเลวร้ายของระบบทุน....ด่วน !! รัฐบาลกรีซได้เตรียมนำทร เท่าที่ทราบ หลังจากแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ทั้ง บราซิล อาเจนติน่า เค้าก็ฟื้นตัว แล้วก็เจริญเอาๆ นะครับ ขึ้นอยู่ว่า จะนำเสนอด้านบวกหรือลบ ขนาดประเทศคอมมิวนิสอย่างจีน ยังพยายามแปรรูปรัฐวิสาหกิจ เพื่อไม่ให้เป็นภาระของรัฐบาล (ไม่เห็นมีใครโจมตีว่าขายชาติเลย) จนตอนนี้ (ถ้าจำไม่ผิด) รู้สึกว่าจะ 1 ใน 3 ของรายได้งบประมาณของประเทศจีน มาจากผลกำไรของรัฐวิสาหกิจ จากเดิมที่รัฐบาลต้องแบกภาระขาดทุนมาตลอด Some countries benefit from defaulting on their debt... http://upic.me/i/uz/20110625_woc054.gif To default, or not to default? Jun 20th 2011, The Economist online http://www.economist.com/blogs/dailychart/2011/06/sovereign-defaults-and-gdp โดย i_sarut พุธ มิ.ย. 22, 2011 6:44 pm

Re: จุดแข็ง จุดอ่อน ของ Value Invetment จุดอ่อนของ VI คือ เป็นหลักการที่ต้องใช้ความอดทนสูง ในการถือหุ้นให้ได้ตามกรอบเวลาที่เราวางเอาไว้ (ในมุมมองของผมการถือหุ้นเกิน 6 เดือน ถือว่านานแล้วสำหรับตลาดหุ้น), ต้องอดทนเมื่อหุ้นเรายังไม่ขึ้น แต่ตัวอื่นวิ่งเอาๆ พอเราขายมันก็จะชอบวิ่ง, อดทนเรื่องอื่นๆ และ ต้องประเิมินมูลค่าอย่างเหมาะสมให้ได้ (ไม่ประเมินเวอร์ไป และ ไม่ประเมินต่ำเกินไป) ซึ่ง 2 อย่างนี้ถือว่ายากพอสมควรครับ โดยเฉพาะคนที่เพิ่งเริ่มต้น โดย i_sarut จันทร์ มิ.ย. 13, 2011 6:51 pm

Re: คิดว่าไง จริงๆแล้ว ผมลองตั้งข้อสังเกตุส่วนตัวขึ้นมาก็คือว่า ราคาหุ้นจะตามผลประกอบการไม่ได้ตาม bv แต่หุ้นที่ bv ต่ำมากๆถ้าผลประกอบการจากขาดทุนพลิกกลับมาได้ น่าจะเป็นหุ้นที่ให้ return สูง เห็นด้วยครับ เอาไว้รอวิกฤตรอบหน้าจะลองดูบ้าง :D โดย i_sarut พฤหัสฯ. มิ.ย. 02, 2011 9:44 pm

Re: หุ้นที่ EPS โตขึ้น 3 ไตรมาส ติดต่อกันย้อนจาก Q1/2011 ขอบคุณมากครับ ข้อมูลมีประโยชน์จริงๆ :bow: โดย i_sarut พุธ พ.ค. 25, 2011 4:00 pm

Re: $$ รวมหุ้น Turns a low $$ กลุ่มนิคมฯ รู้สึกว่าจะเปลี่ยนนโยบายการรับรู้รายได้เป็นรับรู้เมื่อโอนครับ กำไรเลยลดเยอะ เพราะขายที่แล้วแต่ยังไม่รับรู้รายได้ โดย i_sarut พฤหัสฯ. พ.ค. 19, 2011 11:04 pm

Re: เล่นหุ้นตามเซียน-ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร คิดเอง หาหุ้นเอง ดีกว่่าตามแห่ ถึงผลตอบแทนเราไม่เท่าเซียนแต่อย่างน้อย ฝีมือเราก็พัฒนาขึ้น เห็นด้วยมากครับ :D โดย i_sarut อังคาร พ.ค. 17, 2011 3:17 pm

Re: คุณซื้อหุ้นเพราะอะไร ก็ขายเพราะเหตุผลนั้น โดนใจครับ :cool: โดย i_sarut เสาร์ พ.ค. 14, 2011 11:01 pm

Re: company visit UAC 28/5/54 จอง 1 ที่ครับ โดย i_sarut เสาร์ พ.ค. 07, 2011 8:38 pm

Re: LHBANK (IPO) น่าสนใจไหมครับ ถ้ายังไม่่รู้ราคาก็น่าสนใจครับ ธุรกิจอยู่ในช่วงเพิ่งเริ่มเติบโต :D โดย i_sarut พุธ เม.ย. 13, 2011 5:11 pm

Re: เด็กเลี้ยงแกะมาแว้ว ตอน มันนี่ทอล์ค สูตรลับของวีไอ (2703 ปลดๆๆ :D โดย i_sarut อังคาร มี.ค. 29, 2011 8:22 pm

Re: ทฤษฎี VI (1) ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผมเข้าอ่านเป็นประจำครับ ยังอ่านไม่หมดเลย มีเวลาว่างก็ค่อยๆอ่านที่ละบทความ พี่รวบรวมไว้หลายคน ดีครับ หามาเพิ่มเยอะๆนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ ขอบคุณอีกครั้งครับผม :D โดย i_sarut ศุกร์ มี.ค. 18, 2011 12:28 pm

Re: พายุลูกนี้ใหญ่เท่าไหน ญี่ปุ่นกับผลกระทบที่แท้จริง ขอบคุณมากครับ มีประโยชน์จริงๆ :bow: โดย i_sarut พฤหัสฯ. มี.ค. 17, 2011 11:58 am

Re: ทฤษฎี VI (1) ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ทฤษฎี VI (1-3) : ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร : http://bit.ly/gII0Kp ผมเอามาจากเวบบลอกของพี่ นี่เลยครับ เพียงแต่เซฟ url ไว้นานจนจำไม่ได้ว่าเป็นบลอกของใครสักคนในเวบนี้ :mrgreen: :mrgreen: ในบลอก มีบทความดีๆเยอะเลยครับ ขอบคุณครับที่ติดตาม นึกว่าจะไม่มีคนอ่านซะแล้ว :welcome: โดย i_sarut พุธ มี.ค. 16, 2011 9:41 pm

Re: ทฤษฎี VI (1) ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ทฤษฎี VI (1-3) : ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร : http://bit.ly/gII0Kp โดย i_sarut พุธ มี.ค. 16, 2011 12:31 pm

Re: จะเกิดอะไรถ้า...ดอกเบี้ยขึ้น !!! ดอกเบี้ยขึ้นเรื่อยๆ เงินฝากประจำระยะสั้น จะน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ โดย i_sarut พฤหัสฯ. มี.ค. 03, 2011 11:46 pm

Re: หุ้นไทยเทียบกับเพื่อนบ้าน คงต้องดูปัจจัยภายในประเทศประกอบกันด้วยครับ :D โดย i_sarut พุธ มี.ค. 02, 2011 7:58 pm

Re: เมื่อ VI เต็มตลาดแล้วมือใหม่จะเป็นใช่ไร ??? 4. หุ้นดี ราคาถูก ตลาดไม่สนใจ viไม่สนใจ <-เซียนต้องเล่นแบบนี้ ถ้าขยันหาข้อมูลเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เก่งเองครับ แรกๆอาจตามๆเขาไปก่อน ไปๆมาๆเดี๋ยวก็เก่งเองล่ะ เห็นด้วยครับ หุ้นบางตัว VI สนใจกันเยอะ ก็อาจกลายเป็นไม่น่าสนใจได้ครับ :juju: ขยันหาไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอครับ :D โดย i_sarut จันทร์ ก.พ. 28, 2011 8:44 pm

Re: เผื่อจะเป็นประโยชน์เล็กน้อยก็ยังดีครับ พี่ฮงกลับมาโพสแล้ว :B โดย i_sarut จันทร์ ก.พ. 28, 2011 12:43 am

Re: การทำใจในการลงทุน : ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร บทความเก่า แต่ดีมากๆครับ ใช้ได้ทุกยุคสมัย :D โดย i_sarut อังคาร ก.พ. 22, 2011 10:45 pm

Re: เปิดใจคุณทองมา เจ้าของพฤกษากรุ๊ป‏ บทความดีมากครับ ขอบคุณครับ :D โดย i_sarut อาทิตย์ ก.พ. 20, 2011 12:24 am

Re: คนพอร์ทใหญ่ๆ ส่วนใหญ่เอาตังค์ที่ไหนมาลงทุนกันครับ ลองคำนวนด้วยตัวเองดูครับ http://www.mathsisfun.com/money/compound-interest-calculator.html โดย i_sarut อาทิตย์ ก.พ. 20, 2011 12:15 am

Re: รวมหุ้น..ที่ทำให้VIต้องช้ำใจ UMS โดย i_sarut ศุกร์ ก.พ. 11, 2011 6:43 pm

Re: กระทู้ชวนคิด"ลงทุนแบบไหน workที่สุด" เป็นกะทู้ที่ดีครับ หลากหลายแนวทาง สู่เป้าหมายเดียวกัน :D โดย i_sarut พุธ ก.พ. 09, 2011 11:23 pm

Re: ขอแนะนำเวปรวบรวมข่าวครับ ขอบคุณมากครับ มีประัโยชน์จริงๆ :bow: โดย i_sarut พุธ ก.พ. 09, 2011 8:26 pm

Re: อยากเป็น VI ต้องทำอย่างไร อ่านแล้วต้อง :bow: โดย i_sarut พุธ ก.พ. 09, 2011 12:17 am

Re: ในภาวะตลาดแบบนี้ ท่านมีกลยุทธการลงทุนอย่างไรกันบ้างครับ รอซื้อถูก รอขายแพง โดย i_sarut อังคาร ก.พ. 08, 2011 8:42 pm

Re: หุ้นอะไรบ้างครับที่มีการขยายสาขาออกไปเรื่อย TWZ โดย i_sarut เสาร์ ม.ค. 08, 2011 7:42 pm

Re: นายขาดทุนกำไรจากการไม่ได้ขาย กับ นายขายหมู.. ไรแสบกว่ากั หมูจนชิน :lol: โดย i_sarut พุธ ธ.ค. 22, 2010 10:20 pm

Re: company visit PREB 17/12/2010 10.00 รับได้ 20 ท่านครับ 1 ที่ครับ โดย i_sarut จันทร์ ธ.ค. 13, 2010 4:34 pm

Re: พฤหัสนี้ พบวีไอportใหญ่ นพ.พงษ์ศักดิ์ ใน moneytalk http://www.mediafire.com/?ibbet5qsqy8dtkw เอามาฝากผู้ที่พลาดชมนะครับ โหลดไปดูกัน แต่ช่วงแรกของรายการหายไปเล็กน้อยนะครับ เนื่องจากผม record ไม่ทัน :oops: ขอบคุณมากครับ :bow: โดย i_sarut เสาร์ ธ.ค. 04, 2010 12:35 am

Re: พฤหัสนี้ พบวีไอportใหญ่ นพ.พงษ์ศักดิ์ ใน moneytalk ทาง net ดูไม่ได้นะครับ อดดูเลย :'O โดย i_sarut พฤหัสฯ. ธ.ค. 02, 2010 5:18 pm

Re: ตลาดบ้าคลั่งอย่างนี้ ยังจะมีหุ้น 5 เด้งเหลืออยู่บ้างไม๊ ถ้าหวังผลตอบแทนสูง ก็จะหายากครับ ถ้าลดผลตอบแทนลงมาก็จะเจอมากขึ้นเรื่อยๆครับ โดย i_sarut จันทร์ พ.ย. 29, 2010 11:28 pm

Re: จะเล่นหุ้นให้ชนะตลาด จำเป็นต้องiq สูง เรียนเก่งๆมั้ยครับ แล้วผมจะไปหา ข้อมูลเกี่ยวกับ Issac Newton เล่นหุ้นได้ที่ไหนครับ ขอบคุณครับ http://www.tommcmahon.net/2010/10/isaac-newton-investor-in-the-south-sea-company-bubble-of-1720.html http://en.wikipedia.org/wiki/South_Sea_Company โดย i_sarut อาทิตย์ พ.ย. 28, 2010 12:23 am

เปิดตัว เฮียคลายเครียด ชอบมากครับ หนังสือ Temple Boxing สอนอะไรหลายๆอย่าง  :bow: โดย i_sarut พฤหัสฯ. พ.ย. 04, 2010 9:42 pm

มาขอฝาก Blog ใหม่ครับ สุดยอดมากครับ โกอินเตอร์  :shock: โดย i_sarut พฤหัสฯ. พ.ย. 04, 2010 9:37 pm