Re: ยื่นแบบภาษีทางอินเตอร์เน็ตปีนี้ BRR ไม่มีในรายชื่อ ทำอย่างไรครับ โดย Yaileela เสาร์ ม.ค. 02, 2016 10:16 am

Re: *ขั้นตอน*ต่ออายุสมา​ชิกสมาคมฯ ตรวจสอบให้ด้วยครับ โดย Yaileela เสาร์ ส.ค. 08, 2015 10:46 pm

Re: ฟรี ! แบ่งปันสรุปหุ้นรายตัว ย้อนหลัง 15 ปี ง่าย [email protected] โดย Yaileela จันทร์ ก.ค. 28, 2014 3:38 pm

Re: ยื่นแบบภาษีเงินได้ ปีภาษี 2556 ของลูกสาว โสดยื่นปีแรก เรียบร้อยแล้ว ของผมกัแฟน ยังแยกยื่นไม่ได้ สอบถามแล้ว เป็นที่ระบบ โดย Yaileela พฤหัสฯ. ม.ค. 02, 2014 12:04 pm

Re: ยื่นแบบภาษีเงินได้ ปีภาษี 2556 กันหรือยังครับ ปีนี้แยกยื่นไม่ได้ครับ คงต้องรอไปก่อน โดย Yaileela พุธ ม.ค. 01, 2014 9:27 pm

Re: อายุ 35 ปี ฉันจะมีเงิน'หกพันล้าน'ฝันสูง 'วีไอรุ่นเด็ก' น Nitcharee Nitinavakorn สวัสดีค่ะพี่ๆทุกคน จะขอมาแก้ข่าวนิดหน่อยค่ะ นานิคาดว่าน่าจะมีการเข้าใจผิดกันกับพี่นักข่าวค่ะ คือพี่เค้าถามว่าถ้าให้ตั้งเป้าสูงสุดเล่นๆ อยากตั้งว่าเท่าไหร่ นานิเลยjoke ไปว่าหกพันละกันค่ะพี่ เลขสวยดี แต่ไม่ได้บอกว่าอยากทำได้ตอนไหน อายุเท่าไหร่ 35 คืออายุที่อยากเกษียณเฉยๆค่ะ แล้วก็นานิก็คิดเหมือนกันว่าหกพันก่อนสามสิบห้า ไม่ไหวแน่นอน ถ้าลงทุนอย่างเดียว เพราะนานิก็ยังไม่ได้ลงทุนเก่ง ยังไม่เคยผ่านวิกฤตแรงๆเลย เลยยังไม่สามารถเรียกตัวเองว่านักลงทุนได้เต็มปากด้วยซ้ำ ต้องขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิดนะคะ4 minutes ago via mobile · Like· 1 โดย Yaileela อังคาร ก.ย. 17, 2013 4:36 pm

Re: แจ้งปัญหาการใช้งานร้อยคนร้อยหุ้น [โปรดรวมที่นี่] ผมใช้ mozilla firefox เปิดอ่านร้อยคนร้อยหุ้น อยากทราบว่าหลังอ่านแล้ว ไฟแสดงสถานะทำไมไม่ปิด เหมือนการใช้ ie ครับ โดย Yaileela พุธ ก.ค. 17, 2013 4:51 pm

Re: ฟรี! ระบบข้อมูลงบการเงินย้อนหลัง อัตราส่วนงบการเงิน และข [email protected] โดย Yaileela อาทิตย์ ก.พ. 24, 2013 12:37 pm

Re: ยื่นภาษีปี 2555 14.00 ยื่นผ่านหมดแล้ว 3 คน โดย Yaileela พุธ ม.ค. 02, 2013 2:05 pm

Re: แจ้งปัญหาการใช้งานร้อยคนร้อยหุ้น [โปรดรวมที่นี่] ผมอ่าน first unread post ในร้อยคนร้อยหุ้นด้วย galaxy tab เมื่ออ่านแล้วทำไมไฟสีส้มไม่ดับครับ ทำให้จำไม่ได้ว่าอ่านหรือยัง โดย Yaileela อังคาร ต.ค. 16, 2012 2:23 pm

Re: เข้าร้อยคนร้อยหุ้นไม่ได้ เข้าได้แต่ข้อมูลย้อนไปเริ่มต้นปี2010 โดย Yaileela จันทร์ ต.ค. 01, 2012 1:21 am

Re: ฟรี ! แบ่งปันสรุปหุ้นรายตัว ย้อนหลัง 15 ปี ง่าย [email protected] ขอบคุณครับ โดย Yaileela เสาร์ ก.ย. 01, 2012 1:30 pm

Re: สถานะยังไม่ปรับเป็น "สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า"เพราะ test status โดย Yaileela จันทร์ ส.ค. 06, 2012 10:35 am

Re: ความเสี่ยง/ธันวา เลาหศิริวงศ์ อยากให้ขนาดตัวอักษรของบทความใหญ่ขึ้นครับ โดย Yaileela จันทร์ ก.ค. 23, 2012 1:15 pm

Re: แจ้งข่าว มารดา ของ ดร.นิเวศน์ เสียชีวิต ครับ ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวอาจารย์ครับ โดย Yaileela อาทิตย์ มี.ค. 25, 2012 11:36 am

Re: เอาบทความมาฝากให้อ่านกันครับ เกี่ยวกับเรื่อง Business Mo [email protected] Thanks. โดย Yaileela อังคาร ก.พ. 21, 2012 10:32 am

Re: ขอเปลี่ยน username ด้วยครับ ขอเปลี่ยนเป็น yaileela ครับ โดย Yaileela อังคาร ก.พ. 07, 2012 2:13 pm

จิบเบียร์ Q3/53 (เสาร์ 27 พย 2553) เวลา 11-15.00 น. 1 ที่ครับ โดย Yaileela อังคาร พ.ย. 16, 2010 10:48 am

ถามเพื่อนครับ มี โบ๊คไหนอีกที่ไม่มีขั้นต่ำแล้ว OK บ้าง [quote="matee"]ถามเรื่องย้ายหุ้น จาก โบร๊ค นึงไปอีก โบร๊ค นึงครับว่า ต้นทุนหุ้น จะเท่าเดิมหรือว่า ได้ตามราคาใหม่ครับ พอดีผมเสียดายราคา ที่โชว์ ครับ โดย Yaileela เสาร์ ต.ค. 09, 2010 9:30 am

นี้มันการพนัน ชัดๆเลย พี่ครรชิตครับ ca pa เหล่านี้มีผลต่อ set index หรือไม่ครับ โดย Yaileela จันทร์ ก.ย. 27, 2010 3:03 pm

ลงทุนในหุ้ืน หรือ ลงทุนในอสังหาฯดีกว่ากัน จากปสก.จริงในขณะนี้ 1.ผมเริ่มด้วยการหาที่ดินที่อยู่ในทำเลที่ต้องการสร้าง apartment 2.ให้สถาปนิกออกแบบหน้าตาให้ดูทันสมัยมากขึ้นโดยใช้แบบก่อสร้างที่มีผู้ขอไว้แล้วที่เขต...ในส่วนนี้วิศวกรเขตช่วยได้เป็นอย่างดี..เสียค่าแบบไม่แพง 3.หาผู้รับเหมาที่ไว้ใจได้มารับงานก่อสร้างในส่วนค่าแรง วัสดุอย่างอี่นซื้อเอง(และใช้ของดีไปเลย)เป็นเงินสดถูกกว่ามากเลย โดยนานๆทีก็รบกวนให้วิศกรคนเดิมมา comment งานให้บ้าง..มีคชจ.นะครับ 4.เสร็จงานโครงสร้างใน 1 ปีเศษ (ช้ากว่าแผนไปหน่อย)ได้ห้องพักขนาด 23-27 ตรม.ติดตั้งฝ้ายิบซั่มแผ่นเรียบกันเสียงรบกวน   ประตูระเบียงเป็นอลูมิเนียมสีขาว กระจกสีเขียว มีผ้าม่านอย่างดีสีสดใสกันคนภายนอกแอบมอง ไม่มีหน้าต่างทุกห้อง ห้องน้ำปูกระเบื้องลายทันสมัย สุขภัณฑ์รุ่นล่าสุดสีขาวสะอาดตา มีฝักบัวอาบน้ำพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่นไม่ต้องทนหนาวเมื่อปลายปีมาเยือน built-in เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นในห้องเพี่อให้เกิดความแตกต่างกับหอพักโดยทั่วไป ที่มักใช้ เฟอร์ฯราคาถุก เวลาแฟนมาหาจะได้ไม่ต้องอาบเขาหรือเธอ ติดแอร์เบอร์ 5 ทุกห้อง แอร์ซื้อเองเงินสดถูกมากๆ จ่ายแต่ค่าแรงติดตั้ง ต่อไปนี้กลางวันก็ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป 5.ไฟฟ้า ประปา โทรฯ เคเบิล internet ป้าย และอื่นๆ ถาโถมเข้ามาติดตั้งอย่างรวดเร็วเพราะเรามีสโลแกนว่า สดทันทีเมี่อเสร็จงาน6.เปิดให้จองได้แล้ว  มาก่อนเลือกก่อน มัดจำค่าเสียหาย 2 เดือน+ชำระค่าเช่าก่อนอยู่ 1 เดือน มีรายได้ซะทีหลังจากจ่ายอยู่ข้างเดียว ช่างโชคดีเสียนี่กระไร เปิดปุ๊บคนมาจองปั๊บ บางห้องแม่บ้านยังไม่ทำความสะอาดเสียด้วยซ้ำเพราะทำไม่ทัน จำเป็นอยู่เองที่ต้องช่วยกันทำ ทั้งสนุกทั้งเหนื่อย มีรายรับเข้ามา หักค่าใช้จ่ายแล้วทีเหลือเอามาลงทุนในหุ้นต่อหุ้น เริ่มมีปันผลจากหุ้นอีกทางดีจริงๆ ขายบ้านที่อยู่ มาเป็นผู้เช่าบ้างดีกว่าไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไป-กลับอีกแล้ว เงินที่ได้เอามาซื้อหุ้นที่มีปันผลต่ออีก..ห้องเต็มตลอด ปีหน้าว่าจะขยายอีกหลัง subprime มาเยือนขาดทุนหุ้นเกินครื่ง ศก.แย่ ห้องเริ่มว่าง ลุ้นทุกสิ้นเดือนว่าจะแจ้งออกอีกกี่ห้อง ช่างเหมือนหุ้นเสียนี่กระไร เหลือไม่ถึงครึ่ง ขายอสังหาที่มีและไม่ได้ใช้ ราคาไม่ต้องพูดถึงเหมือนหุ้นที่มีผลประกอบการขาดทุน โดนกดราคาน่าดู เอาเงินมาซื้อหุ้นต่อ ยังไม่ได้สรุปครับว่าอะไรดีกว่า มีธุระต้องไปก่อน ถ้ามีเวลาเมื่อไรค่อยมาเล่าต่อ โดย Yaileela อาทิตย์ ก.ย. 12, 2010 4:58 pm

อยากให้เปิดห้องขอบคุณ /เห็นด้วย /เข้ามาเชียร์/+1/และอื่นๆ ไม่เห็นด้วยครับ ทำให้ซับซ้อนและเสียเวลามากขึ้นครับ รบกวนช่วยอธิบายหน่อยว่าซับซ้อนอย่างไร และเสียเวลามากขิ้นอย่างไร เอาแบบรูปธรรม ไม่ใช่ความรู้สึก โดย Yaileela เสาร์ ก.ย. 11, 2010 8:42 pm

จิบเบียร์คิว2 ศุกร์ที่ 3 กย. 6โมงเย็น สโมสรทหารบก(กระทู้สาม) ผมพอจะจองทันมั้ยครับ มีใครที่จองไว้และสละสิทธิื้ืที่ผมจะเข้าไปแทนได้รึเปล่าครับ ไปแทนผมก็ได้ครับ ต้องพาลูกสาวไปสอบ smart 1 แทนแม่เค้า เสียดายมากๆเลยเพราะแพลนไว้นานแล้ว... lecture ได้ความอย่าวไรรบกวน pm มาบอกด้วยแล้วกัน ขอโทษพี่พอใจด้วยครับ โอกาศหน้าว่ากันใหม่ครับ โดย Yaileela จันทร์ ส.ค. 30, 2010 2:02 pm

หุ้นพื้นฐาน ในความคิดเห็นของ VI Friday, 26 March 2010 0136: Evaluating a Business &laquo; 0135: Dickson G. Watts | Main | 0137: Notes on Valuations &raquo; เวลาพูดว่า บริษัทหนึ่งมี "ปัจจัยพื้นฐาน" ดีหรือไม่ดีนั้น เราดูจากอะไร? ก่อนอื่นต้องขอเน้นว่า คนที่คิดจะลงทุนโดยวิธีดูปัจจัยพื้นฐานนั้น จะต้องเป็นคนที่มีระยะหวังผลตอบแทนที่ยาวๆ (เป็นปีๆ) เท่านั้น เหตุเพราะ ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทมักเป็นคุณสมบัติที่ติดตัวบริษัทอยู่เป็นเวลานาน ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงง่าย ดังนั้น มันจึงแทบไม่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในระยะสั้นเลย (หรือแม้แต่ผลกำไรในระยะสั้นก็ตาม) ถ้าเราวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นตัวหนึ่งว่าดีแล้วเข้าซื้อจากนั้นราคาหุ้นก็ปรับตัวขึ้นได้เลย ส่วนใหญ่แล้วมาจากความบังเอิญแท้ๆ เพราะปัจจัยพื้นฐานที่ดีมักเป็นเรื่องที่เป็นมาก่อนหน้าที่เราจะพิจารณาแล้ว บริษัทไม่รู้หรอกว่า เราเข้ามาซื้อตอนไหน มันจึงไม่จำเป็นต้องขึ้น หลังจากที่เราซื้อเลย ถ้าใครมีระยะหวังผลสั้น (เช่น <1ปี) ควรใช้วิธีการอย่างอื่น เช่น การเก็งข่าวบริษัท หรือการวิเคราะห์ทางเทคนิค จะได้ผลมากกว่า การลงทุนที่มีระยะหวังผลแบบยาวนั้น เราไม่ได้มองหาหุ้นที่ "ซื้อแล้วขึ้นเลย" แต่เรามองหาหุ้นที่ ถ้าสมมติว่า เราซื้อแล้ว"ซวย" มันดันเป็นขาลงพอดี มันจะต้องที่มีโอกาสสูงที่ ถ้าหากเราถือต่อไปอีก มันจะกลับมาสูงกว่าเดิมได้อีก หุ้นลักษณะนี้ต่างหากที่น่าสนใจลงทุนในระยะยาว   เมื่อคิดได้อย่างนี้แล้ว เราย่อมคิดได้โดยอัตโนมัติด้วยว่า หุ้นที่เหมาะกับการลงทุนระยะยาวต้องเป็นหุ้นของกิจการที่มีโอกาสเจ๊งต่ำๆ และในเวลาเดียวกัน ก็ต้องมีโอกาสที่กิจการจะเติบโตใหญ่ไปเรื่อยๆ ในระยะยาวๆ ด้วย เพราะกิจการลักษณะนี้ย่อมกลับมาทำกำไรสูงสุดได้อยู่เรื่อยๆ ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสที่ราคาหุ้นจะกลับมาสูงขึ้นอีกได้ใหม่อยู่เรื่อยๆ คุณสมบัติเช่นนี้ช่วยทำให้ผลตอบแทนของเราไม่จำเป็นต้องพึ่งพาภาวะตลาดในระยะสั้นพวกมันจึงเป็นหุ้นที่ทำให้เราตอบคำถามตัวเองได้ว่าทำไมเราจะต้องยอมถือพวกมันไว้นานๆ แทนที่จะเอาเม็ดเงินไปทำอย่างอื่นด้วย และปัจจัยที่จะใช้บอกว่าหุ้นมีปัจจัยพื้นฐานดีหรือไม่ ก็ควรเป็นปัจจัยที่ช่วยบ่งชี้ถึงคุณสมบัติที่กล่าวมานี้นั่นเอง ผมลองนั่งนึกดูว่า ที่ผ่านมา เวลาผมตัดสินปัจจัยพื้นฐานของหุ้น ผมมักจะดูจาก 8 ประเด็นนี้เป็นปัจจัยหลัก 1.บริษัทขายสินค้าที่ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงบ่อยหรือไม่? แต่ละอุตสาหกรรมมีวงชีวิตของมันอยู่ อุตสาหกรรมเหล็กมีอายุนับหลายร้อยปี และนานครั้งกว่าที่จะมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมนี้ เหล็กก็คือเหล็ก มนุษย์ชาติยังต้องบริโภคเหล็กหน้าตาแบบเดิมๆ ไปอีกนาน การเปลี่ยนแปลงมักเป็นแบบทีละนิดเล็ก บริษัทปรับตัวตามได้ง่าย ไม่ใช่แบบหน้ามือเป็นหลังมือ ล้างไพ่ใหม่หมด ในขณะที่ ธุรกิจบันเทิงต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพราะรสนิยมและสื่อสมัยนิยมเปลี่ยนไปตลอดเวลา ในแง่นี้ ธุรกิจเหล็กย่อมเหมาะกับการลงทุนระยะยาวมากกว่าธุรกิจบันเทิง เพราะธุรกิจของบริษัทมีโอกาสที่จะล้มหายตายจากไปได้ยากกว่า ส่วนธุรกิจบันเทิงนั้น ถ้าเราลงทุนในบริษัทที่เป็นเจ้าของรายการโทรทัศน์หรือเกมยอมฮิตในเวลานั้น ย่อมมีโอกาสน้อยที่บริษัทเดิมจะกลับมาประสบความสำเร็จซ้ำอีกครั้งกับรายการใหม่หรือเกมตัวใหม่ บริษัทที่ผลิตรายการฮิตซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างต่อเนื่องไม่ค่อยจะมี จึงมีเหตุผลน้อยที่เราจะถือมันไว้ในระยะยาวๆ เป็นต้น   2.ลักษณะธุรกิจของบริษัทเป็นแบบ Project-based หรือไม่? ธุรกิจ Project-based เช่น รับเหมาทำระบบ ประมูลงานเป็นจ๊อบๆ เป็นธุรกิจที่มีความแน่นอนของรายได้ค่อนข้างต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าโปรเจ็คมีอายุงานสั้น การได้โปรเจ็คในแต่ละปี ไม่ได้การันตีว่า ปีหน้าจะได้เหมือนเดิม จึงหวังได้น้อยถ้าหากจะถือไว้ในระยะยาวเพื่อให้รายได้เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ต่างกับธุรกิจแบบน้ำซึมบ่อทราย เช่น ขายยาสีฟัน เมื่อใดที่ลูกค้าชอบยี่ห้อของบริษัทแล้ว มีโอกาสสูงที่ลูกค้าจะกลับมาซื้ออีกเป็นประจำ ทำให้รายได้ของบริษัทมีความมั่นคง อย่างไรก็ตาม ถ้าหากรายได้ของลูกค้าแต่ละรายคิดเป็นสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับรายได้รวม ธุรกิจ Project-based ก็ไม่ถือว่าน่ากลัว เพราะกฏของความมากช่วยทำให้รายได้รวมของบริษัทมีความแน่นอนได้ ตัวอย่างเช่น ธุรกิจพัฒนาโครงการบ้าน แต่ละโครงการอาจมีลักษณะเป็น Project แต่ถ้าหากแต่ละปีบริษัททำ 40-50 โครงการทุกปี รายได้ของบริษัทก็มีความแน่นอนในระดับหนึ่ง พึ่งระวังพวกธุรกิจ OEM ที่มีรายได้จากลูกค้ารายใหญ่ที่สุด 10 อันดับแรกคิดเป็นสัดส่วนเกินร้อยละ 50 ของรายได้รวม 3. สินค้าของบริษัทน่าจะมีความต้องการของตลาดสูงขึ้นในอนาคตเร็วกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวมหรือไม่? ประเด็นนี้มักพิจารณาได้จากเทรนด์หรือไลฟ์สไตล์ของสังคมที่เปลี่ยนไป อาหารแช่แข็งน่าจะเติบโตได้ดีถ้าสังคมมีลักษณะเป็นครอบครัวเดี่ยวและต้องใช้ชีวิตแบบเร่งรีบมากขึ้น ผู้คนในอนาคตน่าจะฟังวิทยุน้อยลง ในขณะที่ใช้อินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือกันมากขึ้น ซื้อหนังสือพิมพ์เป็นเล่มๆ น้อยลง ซื้อรถยนต์คันเล็กลง ใช้ไฟฟ้าในสัดส่วนที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับน้ำมัน ฯลฯ 4. บริษัทกำลังทำให้รายได้เติบโตได้ด้วยวิธีการใด และอะไรคือเพดานการเติบโตของบริษัท? การเพิ่มรายได้นั้นมีหลายวิธี เช่น เพิ่มปริมาณการบริโภคของลูกค้าต่อราย เพิ่มจำนวนราย เพิ่มรายการสินค้า เพิ่มเขตการค้า เพิ่มสายธุรกิจ ซื้อกิจการ ฯลฯ วิธีแรกๆ นั้นจะมีความเสี่ยงต่ำแต่สร้างการเติบโตได้จำกัด ในขณะที่วิธีหลังๆ จะเติบโตได้เป็นกอบเป็นกำมากกว่า แต่ความเสี่ยงก็สูงกว่าด้วย ลองพิจารณาดูว่า บริษัทกำลังเติบโตด้วยวิธีใด และยังมีวิธีอื่นที่บริษัทยังไม่ได้เริ่มใช้หรือไม่ ถ้ายังมีอีกเยอะ บริษัทก็ยังมี Upside ทางธุรกิจอีกมาก เหมาะกับการลงทุนกับบริษัทในระยะยาว ทุกธุรกิจจะมีบางสิ่งบางอย่างทำให้เกิด "เพดาน" การเติบโตของรายได้เสมอ ทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว การมองให้ออกว่าเพดานรายได้ของธุรกิจนั้นคืออะไรจะช่วยทำให้เราประเมินขนาดของ Upside ของธุรกิจนั้นได้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น เพดานของธุรกิจโรงแรมในระยะสั้นคือจำนวนห้องพักทั้งหมด ธุรกิจโรงแรมไม่สามารถโตไปได้อีกเมื่อไรก็ตามที่ห้องพักเต็มแล้ว อย่างมากก็คือการขึ้นค่าห้องพักซึ่งทำได้ค่อนข้างจำกัด ธุรกิจโรงแรมจึงเป็นธุรกิจที่มีเพดานการเติบโตในระยะสั้นที่จำกัดมาก ในระยะยาว ถ้าทำเลของโรงแรมดีขึ้นมาก โรงแรมอาจก่อสร้างตึกเพิ่มเติม ทำให้โตต่อไปได้อีก แต่ก็จะไปติดเพดานที่จำนวนห้องอีกเหมือนเดิมอีก ที่ดินโรงแรมมักจำกัด ขยายได้แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น ถ้าจะทำให้โรงแรมโตได้เรื่อยๆ ในระยะยาว บริษัทจะต้องมีนโยบายเปิดสาขาเท่านั้น Upside ของโรงแรมที่มีการเปิดสาขา กับไม่มี จึงไม่เท่ากัน ธุรกิจการผลิตส่วนมากมี กำลังการผลิต เป็นเพดานรายได้ในระยะสั้น ถ้าเราลงทุนในบริษัทที่ใช้กำลังการผลิตเต็มอยู่ Upside ในระยะสั้นก็แทบจะไม่มีเหลือแล้ว การขยายกำลังการผลิตจะต้องลงทุนเพิ่ม ทำให้ต้องนำประเด็นเรื่องการเพิ่มทุนมาพิจารณาร่วมด้วยเสมอ 5.ธุรกิจของบริษัทมีอะไรบ้างที่แตกต่างและเป็นข้อได้เปรียบ? การที่บริษัทจะได้กำไรมากกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันนั้น บริษัทจะต้องเป็นเจ้าของบางสิ่งบางอย่างที่แตกต่างและสิ่งนั้นสามารถใช้เป็นข้อได้เปรียบในธุรกิจนั้นๆ ได้ด้วย ถ้าเรานึกไม่ออกเลย ก็เป็นลางบอกเหตุว่า บริษัทนั้นมีคุณค่าต่ำ ยังไม่ต้องเปิดงบการเงินดูเลยก็ได้ ของแตกต่างที่ว่านี้จะเป็นสินทรัพย์ที่มีตัวตนหรือไม่มีตัวตนก็ได้ ลองนึกออกมาให้หมด ยิ่งมีมากเท่าไรยิ่งเป็นสัญญาณดี ตัวอย่างเช่น บริษัทเป็นเจ้าของเทคโนโลยีหรือ know-how ที่คู่แข่งไม่มี บริษัทมีตราสินค้าที่เหนือกว่า บริษัทมีฐานลูกค้ามากกว่าอย่างมีนัยสำคัญทำให้มีข้อได้เปรียบเรื่อง Scale การผลิต สำหรับบ้านเรา การที่บริษัทมีเส้นสายหรือคอนเนกชั่นที่ดี ก็เป็นข้อแตกต่างที่สำคัญมากอย่างหนึ่งด้วย พึ่งระวังพวกธุรกิจที่มีแค่เครื่องจักรเอามาตั้งแล้วเดินเครื่องเฉยๆโดยที่เป็นเครื่องจักรที่ใครมีเงินก็ซื้อมาตั้งได้ทั้งนั้น ธุรกิจอย่างนี้ยากมากที่จะทำกำไรได้จริง ลองเช็คดูข้อได้เปรียบแต่ละอย่างว่า ถ้าคู่แข่งจะเลียนแบบบ้าง มันจะยากแค่ไหน ถ้าทำได้ง่ายมาก แสดงว่าข้อได้เปรียบนั้นไม่ดีจริง แต่ถ้าต้องเข็นครกขึ้นภูเขา แสดงว่าข้อได้เปรียบนั้นแข็งแกร่ง ดูด้วยว่า Key Success Factor หรือ Key Value Driver ของธุรกิจนั้นคืออะไร แล้วข้อได้เปรียบที่บริษัทมีอยู่นั้นเกี่ยวข้องกับ Key เหล่านี้มากน้อยแค่ไหน 6.อุตสาหกรรมของบริษัทเป็นอุตสาหกรรมที่รายใหม่กระโดดเข้าไปได้ง่ายแค่ไหน พูดง่ายๆ ก็คือ มี Barrier to Entry ขนาดไหน ธุรกิจควบคุม ธุรกิจสัมปทาน ที่ขอใบอนุญาตใหม่ได้ยาก ย่อมดีกว่าธุรกิจเสรีทั่วไป ลองดูจำนวนบริษัทที่อยู่ในตลาดปัจจุบันว่ามีมากน้อยแค่ไหน ถ้ามีมากเป็นกองทัพมดเลย ก็น่าเป็นห่วง ถ้ามีแค่ 2-3 เจ้า ทั้งปีทั้งชาติก็มีอยู่แค่นี้แสดงว่าต้องมีอะไรบางอย่างกันไม่ให้เจ้าใหม่เข้ามาได้ง่ายๆ แบบนี้ดี หรือลองสังเกตว่าคู่แข่งทุกรายกำไรหมด แสดงว่าอุตสาหกรรมนี้ดี เข้ามาได้ก็กำไรแล้ว แต่ถ้าบางรายกำไร บางรายขาดทุน แสดงว่าอุตสาหกรรมนี้ไม่ค่อยดี คนที่จะได้กำไรต้องมีข้อได้เปรียบคู่แข่งเท่านั้น ลองสังเกตด้วยว่า ลูกค้าของธุรกิจนั้นเป็นอย่างไร ถ้าลูกค้าเป็นรายเล็กๆ จำนวนมากๆ บริษัทย่อมมีอำนาจต่อรองกับลูกค้าสูง เป็นสัญญาณดีอีกเช่นกัน 7.ฐานะทางการเงินของบริษัทเป็นอย่างไร? อันนี้พิจารณาได้จากงบดุลเป็นหลัก ดูว่า ROA เฉลี่ยในรอบหลายๆ ปีสูงหรือต่ำ สัดส่วนหนี้สินต่อทุนสูงหรือไม่เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ทำธุรกิจเดียวกัน การมีหนี้ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะช่วยประหยัดภาษีได้ ต้องมีหนี้มากผิดปกติเท่านั้นที่เป็นสัญญาณอันตราย ที่จริงแล้ว เราอยากลงทุนกับบริษัทที่โตพอสมควรโดยไม่ต้องอาศัยหนี้มากๆ เพราะจะเติบโตได้อย่างยั่งยืนมากกว่าพวกที่โตได้เยอะๆ ในระยะสั้น แต่แบกหนี้สูงไว้ตลอดเวลา พร้อมจะประสบปัญหาสภาพคล่องถ้าเศรษฐกิจสะดุด   นักธุรกิจที่ทำธุรกิจแบบรอบคอบนั้นจะเหลือ Lending Capacity เอาไว้ส่วนหนึ่งเสมอ เพื่อเวลาโอกาสในการลงทุนใหม่มาถึง บริษัทจะสามารถขยับตัวขอกู้เงินมาลงทุนเพิ่มได้ทันที บริษัทที่ขอกู้จนสุดขีดตลอดเวลา บ่งบอกถึงอุปนิสัยของผู้บริหาร และมีความเสี่ยงสูงที่จะประกาศเพิ่มทุนในอนาคตอันใกล้ 8.บุคลิกขององค์กรเป็นอย่างไร ทุกองค์กรจะมีบุคลิกประจำตัว ถ้าหากเราสัมผัสกับองค์กรนานพอ เราจะรู้ ถ้าเป็นองค์กรเล็ก บุคลิกจะขึ้นอยู่กับผู้บริหารค่อนข้างมาก ส่วนถ้าเป็นองค์กรใหญ่ บุคลิกจะขึ้นอยู่กับ Corporate Culture ลองพิจารณาดูว่าบริษัทมีบุคลิกแบบ entrepreneurial หรือ bureaucrat มากกว่ากัน บริษัทที่จะเติบโตได้ดีควรมีวัฒนธรรมเป็นแบบแรกมากกว่า บริษัทยังแสวงหาการเติบโตอยู่เรื่อยๆ หรือว่าอยู่ในโหมดประคองตัว จ่ายเงินเดือน จ่ายปันผล ไปเรื่อยๆ ก็พอ แต่ละปีบริษัทมีอะไรใหม่ออกมาให้เห็นบ้าง หรือว่าไม่มีเลย โปรเจ็คเพิ่มรายได้ของปีนี้คืออะไร บริษัทตั้งเป้าหมายไว้ว่าอะไร ที่สำคัญลอง track อดีตว่า บริษัทเคยตั้งเป้าหมายไว้แล้วสามารถทำได้ใกล้เคียงบ่อยแค่ไหน การตรวจสอบผลงานในอดีตเป็นวิธีที่ดีกว่าการใช้ความรู้สึกตัดสินผู้บริหาร หรือฟังข่าวลือต่างๆ ที่สำคัญ ขนาดของหุ้นไม่ได้บ่งบอกวัฒนธรรมหรือโอกาสในการเติบโต 8 ประเด็นนี้ แม้จะไม่ได้ลงลึกมากนัก ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว สำหรับการลงทุนแบบที่มีการกระจายความเสี่ยงร่วมด้วย ไม่จำเป็นที่จะต้องหาหุ้นที่ได้ A+ ในประเด็นเหล่านี้ทุกประเด็น เพราะเป็นไปไม่ได้ ถ้าเราลงทุนในบริษัทที่ได้ B+ ในประเด็นเหล่านี้สัก 4-6 บริษัท กลับจะดีกว่า bet กับบริษัท A+ แค่เพียงแค่ 1-2 บริษัท เพราะยังไงเราก็ต้องเผื่อความผิดพลาดในการมองของตัวเราเองด้วยเสมอ จึงควรอาศัยภาพรวมของพอร์ตมากกว่าการพึ่งพาหุ้นเด็ดตัวใดตัวหนึ่งแค่ตัวเดียว ที่สำคัญ ไม่ใช่วิเคราะห์แล้วซื้อทันที แต่ควรคัดหุ้นที่เข้าตาเก็บไว้ใน Watch List ของเราไว้ แล้วรอซื้อเมื่อมันมีราคาที่ไม่แพงจนเกินไป ถ้าทำได้อย่างนี้ เราก็จะสามารถสร้างพอร์ตลงทุนระยะยาวที่มีคุณภาพให้กับตัวเองได้แล้วล่ะครับ โดย Yaileela อาทิตย์ ส.ค. 22, 2010 11:09 am

จิบเบียร์คิวสอง ศุกร์ที่ 3 กันยา หกโมงเย็นครับ 1 ที่ครับ โดย Yaileela พุธ ส.ค. 04, 2010 9:13 am

การอ่าน 56-1 หรือรายงานประจำปี มันเสียเวลา? ทำอย่างไรถึงจะเปิดอ่านได้อย่างต่อเนืองครับ โดย Yaileela พุธ ก.ค. 14, 2010 9:27 am

อาจารย์มนตรี กับคุณพรรณ จะมีเปิดคอร์สอีกหรือเปล่าครับ จองไว้ก่อน 1 ที่ครับ ยิ่งนานวันเข้ายิ่งรู้สึกว่าตัวเองรู้น้อยลงไปทุกวัน  ต้องศึกษาให้มากขึ้น ใครเป็นอย่างผมบ้าง โดย Yaileela ศุกร์ มิ.ย. 25, 2010 5:15 pm

อาจารย์ของผม : ชาร์ลี มังเจอร์ (ฉบับภาษาไทย) แปลได้สละสลวยมากๆครับ บทความดีๆควรย้ายไปเก็บที่คลังกระทู้คุณค่า และถ้าเป็นไปได้แปลอีกครับ ขอบคุณครับ โดย Yaileela ศุกร์ มิ.ย. 25, 2010 5:08 pm

แอบดู......พอร์ตคนดัง ขอของนพ.วิเชียร ศรีมุนินทร์นิมิต ต้วยครับ โดย Yaileela ศุกร์ มิ.ย. 18, 2010 10:13 am

แบบนี้จะเรียกว่าลอกการบ้านหรืออ่านตำราเฉลยข้อสอบ ? naris wrote: เห็นด้วยครับตั่วเฮีย.ผมก็ลอกการบ้านพร้อมอ่านตำราเฉลยมานักต่อนัก แต่ผมเคยเจอเคสที่ตรงข้ามครับเฮีย  ผมเคยบอกเพื่อนสนิทคนหนึ่งซึ่งเป็นมือใหม่สำหรับวงการหุ้น เขาอีโก้ค่อนข้างสูงตรงที่บอกหุ้นเขาไปแล้วเขาจะไม่ค่อยอยากซื้อและศึกษาตัวที่ผมบอกสักเท่าไหร่ แต่เขาจะพยายามหาตัวใหม่ๆเอง ที่ผ่านมาผมก็พยายามบอกเขาอยู่เสมอว่า หุ้นที่ผมได้มาทุกตัวนั่นมีคนบอกทั้งนั้นแหละ เพื่อนๆในเวปบอกมั่ง หนังสือพิมพ์บอกมั่ง ข่าวสารทางอินเตอร์เน็ตบอกมั่ง ผมบอกเพื่อนว่าใครบอกไม่สำคัญเท่ากับเราคำนวณมูลค่าของกิจการนั่นออกจริงๆหรือเปล่า ถ้าออกก็เป็นใช้ได้ อย่าไปยึดติดใน การที่เราต้องไปหาหุ้นเองเลย..... [/color] สนับสนุนอีก 1 เสียง มีประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองดังนี้ ผมซื้อหุ้นที่เน้นปันผลตั้งแต่ต้นปี2550 แล้วเริ่มเข้าบ้านนี้เมื่อเดือนมิ.ย 2550 จากนั้นก็เริ่มถามผู้รู้หลายๆคนเกี่ยวกับหุ้นที่สนใจส่วนใหญ่ได้คำตอบแบบแบ่ง รับแบ่งสู้ (สงสัยหุ้นที่ผมถามไม่เข้าตา) พอปลายปีผลตอบแทนจากราคาปิด +4% ขึ้นปี2551 ลงทุนเพิ่มอีก 2 เท่าของปี 2550 โดยหาหุ้นเองบ้าง สอบ ถามในนี้บ้างปรากฏว่าปลายปีขาดทุน 40 %(ในระหว่างปีมีปันผลจากปี 2550 บ้างและปันผลระว่างกาลปี 2551 พอขึ้นปี2552 ลงทุนเพิ่มอีก 30 % ของที่ลงไปแล้วและเริ่มเปลียนแนวทางการลงทุนโดยการลอกการบ้าน อาจารย์ในเว็บ ปรากฎว่าผลงานที่ลอกการบ้านอาจารย์ให้ผลตอบแทนที่ดี มากๆ  ผลงานปลายปี2552 จาก-40% กลับมาเป็น + 23 % และยังมีหุ้นที่ ราคาไม่ไปไหนแต่มีปันผลที่ผมเลือกเองอีกพอสมควร มาถึงขณะนี้ผลตอบ แทนเพิ่มเป็น 48 % จากหุ้นที่ลอกการบ้านมาทั้งสิ้น ผมยังไม่รู้เลยว่าถ้าผมไม่รู้จักบ้านนี้ผมจะเป็นอย่างไร อย่างมากก็เท่าทุนและ ได้รับปันผลเล็กๆน้อยๆต่อไป ขอขอบคุณผู้คนมากมายที่มีน้ำใจในบ้านหลังนี้ และความรู้อีกมหาศาลที่ผม ได้รับจนในวันนี้ผมได้เป็นผู้ถือหุ้น>0.5%อยู่ 2 บริษัทที่ผมเพิ่งรู้จักจากบ้าน หลังนี้ ขอบคุณอีกครั้งครับอาจารย์ทุกท่านที่เปิดกระดาษคำตอบให้โดยไม่ปิดบัง โดย Yaileela จันทร์ มิ.ย. 14, 2010 2:25 pm

หุ้น 10 เด้งวันนี้ยังมีอยู่ไหม? Posted: Fri Jun 11, 2010 10:56 pm    Post subject:   -------------------------------------------------------------------------------- KB wrote: miracle wrote: KB wrote: miracle wrote: ส่ง TCC เข้าประกวด ตอนนี้ราคา 1.03 บาทครับ หนี้จากไตรมาสหนึ่ง 17 ล้านบาท ส่วนสินทรัพย์ประมาณ 300 กว่าล้านบาท market cap 700 กว่าล้านบาท ไปดูกันเอาเองเด้อ พูดจริงหรือพูดเล่นอะครับ มันจะไหวหรอบริษัทนี้ แม้แต่ปีที่ดีของธุรกิจถ่านหิน บริษัทนี้ยังทำขาดทุนได้เลยอะ มันเพิ่งทำครับ ถ่านหิน เริ่มต้นปีที่แล้วครับ ซึ่งปีที่แล้วบอกอะไรไม่ได้ เพราะ เริ่มนับหนึ่งสร้างโรงงาน แล้วเอาของเน่าของเสียออก ปีนี้ล่ะ จะ do or die เลยล่ะ นึกว่าทำมานานแล้ว เห็นปีก่อนๆ บริษัทอื่นกำไรกันเละเทะ แสดงว่าไม่ได้อ่าน 56-1 ล่ะซิเีนี่ย ถ้าอ่านและติดตามข่าว รู้เลยว่า บริษัทนี้เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ในปี 2552-2553 ก่อนหน้านั้น ออกจาก กลุ่มฟื้นฟูออกมาแล้ว สภาพกิจการยังเละเทะ ตอนนี้เริ่มเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์ คุณ Miracle เชียร์กันขนาดนี้ ไม่เก็บไม่ได้แล้ว อาจจะมี Miracle Effect เกิดอีก ก็ได้ เหมือน Jmart ที่โดน Dr Effect. เข้าไปก็ได้ โดย Yaileela เสาร์ มิ.ย. 12, 2010 4:25 pm

ดัชนี SET มีผลต่อการตัดสินใจซื้อขายกันรึเปล่าครับ romulus Posted: Sat Jun 12, 2010 1:58 am    Post subject: ดัชนี SET มีผลต่อการตัดสินใจซื้อขายกันรึเปล่าครับ -------------------------------------------------------------------------------- ถ้าเราเจอราคาถูกใจของหุ้นตัวนึงก่อนจะซื้อจะขาย เราควรจะคำนึงถึงดัชนีด้วยหรือไม่ครับ? คำถามน่าจะถามว่า  ก่อนจะซื้อ  มากกว่า  ก่อนจะขาย คำตอบ   ถ้าตั้งใจจะซื้อก็ซื้อได้เลยไม่ต้องต่อราคาเดี๋ยวอดได้ของแต่ถ้าเมื่อ คืนพี่ดาวน์ลบไปซัก 3 % ผมว่าไม่มีใครกล้าซื้อที่ราคาปิดเมี่อวานแน่นอน แสดงว่าดัชนีน่าจะมีผลอย่างน้อยก็ทางอ้อมในเรื่องการตัดสินใจซื้อ ในทางกลับกันถ้ามีหุ้นอยู่แล้วดัชนีไม่น่าจะมีผลต่อการตัดสินใจขายครับ โดย Yaileela เสาร์ มิ.ย. 12, 2010 4:07 pm

แอบดู......พอร์ตคนดัง vichit Regular Joined: 17 Jun 2007 Posts: 7055 Posted: Mon Jun 07, 2010 8:35 am    Post subject:     -------------------------------------------------------------------------------- angra wrote: พี่โจ ลูกอีสาน กับ พี่ naris ครับ   นาย นริศ จิระวงศ์ประภา No.   % Share Last Update 1 SIS DISTRIBUTION (THAILAND) PUBLIC COMPANY LIMITED 2.60 22/04/10 2 HALCYON TECHNOLOGY PUBLIC COMPANY LIMITED 2.43 19/04/10 3 NATION BROADCASTING CORPORATION PUBLIC COMPANY LIMITED 1.55 07/05/10 4 BGT CORPORATION PUBLIC COMPANY LIMITED 1.25 07/05/09 5 THAI FACTORY DEVELOPMENT PUBLIC COMPANY LIMITED 1.10 07/05/08 6 THAI NAKARIN HOSPITAL PUBLIC COMPANY LIMITED 1.08 08/12/08 7 KIATTANA TRANSPORT PUBLIC COMPANY LIMITED 1.01 30/03/10 8 INTERLINK COMMUNICATION PUBLIC COMPANY LIMITED 1.00 16/03/09 9 TIRATHAI PUBLIC COMPANY LIMITED 0.99 05/04/07 10 CHARN ISSARA DEVELOPMENT PUBLIC COMPANY LIMITED 0.93 28/04/10 11 ADVANCED INFORMATION TECHNOLOGY PUBLIC CO.,LTD. 0.83 28/08/08 12 AIKCHOL HOSPITAL PUBLIC COMPANY LIMITED 0.64 28/04/10 13 UNIMIT ENGINEERING PUBLIC COMPANY LIMITED 0.62 16/10/07 14 SNC FORMER PUBLIC COMPANY LIMITED 0.58 16/08/07 15 IT CITY PUBLIC COMPANY LIMITED 0.56 11/03/09 16 WHITE GROUP PUBLIC COMPANY LIMITED 0.50 09/04/07 กว่าครึ่งขายออกไปแล้วครับ ดูได้จากวันที่ล่าสุด โดย Yaileela อังคาร มิ.ย. 08, 2010 11:53 am

ใครยังไม่ได้หนังสือรับรองการหักภาษีบ้างครับ ได้ครบหมดแล้วครับ  ผมว่า tsd ออกให้ใหม่แน่ๆเลย (email ไปสอบถาม )เพราะเอกสารที่มาใหม่จริงๆ โดย Yaileela ศุกร์ มิ.ย. 04, 2010 8:45 am

แจก work sheet excel สำหรับ คำนวณเครดิตภาษีปันผล [email protected] ขอบคุณครับ โดย Yaileela ศุกร์ มิ.ย. 04, 2010 8:42 am

เปี๋ยนไป๋ เรียงอันดับหรือเปล่าครับ โดย Yaileela พฤหัสฯ. มิ.ย. 03, 2010 9:56 am

ตลาดหุ้น เขตบางนา แนะนำกิมเอ็ง seacon square ครับ โดย Yaileela อังคาร มิ.ย. 01, 2010 8:42 am

ใครยังไม่ได้หนังสือรับรองการหักภาษีบ้างครับ YAI_ LASALLE wrote: Saran ใช้บริการ https://www.tsd.co.th/investorportal/ ของศูนย์ฯ ดูสิครับ เข้าไปลงทะเบียนให้เรียบร้อย แล้วจะสามารถ download รายงานหนังสือรับรองการหักภาษีได้ย้อนหลัง 3 ปี ออกมาเป็นไฟล์ PDF นะครับ ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่รู้ donload ยังไงรบกวนด้วยครับ หลังจากใส่ชื่อ Login กับ Password แล้วให้เลือก "รายงาน-หนังสือรับรองการหักภาษี" ตรงฝั่งด้านซ้ายมือครับ แล้วกดเลือกรายชื่อบริษัทที่ต้องการได้ มันจะขึ้น download มาให้อัตโนมัติ ลองดูแล้วครับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย โดย Yaileela จันทร์ พ.ค. 31, 2010 3:29 pm

ใครยังไม่ได้หนังสือรับรองการหักภาษีบ้างครับ Saran ใช้บริการ https://www.tsd.co.th/investorportal/ ของศูนย์ฯ ดูสิครับ เข้าไปลงทะเบียนให้เรียบร้อย แล้วจะสามารถ download รายงานหนังสือรับรองการหักภาษีได้ย้อนหลัง 3 ปี ออกมาเป็นไฟล์ PDF นะครับ ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่รู้ donload ยังไงรบกวนด้วยครับ โดย Yaileela จันทร์ พ.ค. 31, 2010 2:37 pm

ขอรายชื่อหุ้นที่มี GPM มากกว่า 40 % -------------------------------------------------------------------------------- ไม่ทราบว่าจะเอาไปทำอะไรหรอครับ เท่าที่พอๆจะเคยเห็น ก็มี SENA กับ QLT ส่วนอันอื่นไม่เคยอ่านครับ    ส่วนอันอื่นไม่เคยอ่านครับ ผมเคยทำธุรกิจซี้อมา-ขายไป โดยกำหนดราคาขายต้องมี GPMไม่ต่ำกว่า30 %โดยแทบจะไม่คำนึงถีงราคาขายในท้องตลาดเนื่องจากคิดว่าราคาขายที่ กำหนดสามารถแข่งขันได้ในธุรกิจและทำให้บริษัทอยู่ได้ ( งานอาจจะหนัก หน่อยเพราะต้องชี้แจงให้ลูกค้าทราบถึงความแตกต่างของสินค้า )สินค้าบาง รายการขายไม่ได้เลยเพราะลูกค้าบ่นว่าราคาแพงเกินไป มาตรการที่ผมทำคือ การต่อรองราคากับ suppliersให้ลดราคาสินค้าลง ผลปรากฎว่าประสบความ สำเร็จ ผมก็เลยอยากนำแนวความคิดนี้มาประยุกต์ใช้ในการหาหุ้นที่จะลงทุน เพราะผมเชื่อว่าโอกาศที่จะบริษัทจะขาดทุนเป็นไปได้ยาก ผิดถูกอย่างไรชี้แนะได้ครับ โดย Yaileela เสาร์ เม.ย. 10, 2010 11:41 pm

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ EGCO http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=33509&postdays=0&postorder=asc&start=300 IRP, MODERN, GLOW http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=33509&postdays=0&postorder=asc&start=1020 โดย Yaileela อาทิตย์ เม.ย. 04, 2010 4:57 pm

มารวบรวมเครดิตภาษีสำหรับเงินปันผลปี 2553 กันดีกว่าครับ :) stpi.....boi  ว้นนี้วันสุดท้ายก่อน xd โดย Yaileela อังคาร มี.ค. 16, 2010 9:23 am

อยากทราบรายชื่อบริษัทที่แจ้งอัตราภาษีงินได้ 25-30 % 2.มีมติเห็นชอบให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2552 ในอัตราหุ้นละ 2.00 บาทซึ่งได้จ่ายเงิน ปันผลระหว่างกาลไปแล้วอัตราหุ้นละ 0.75 บาท เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2552 คงเหลือจ่ายในงวดนี้อีกอัตราหุ้นละ 1.25บาท ให้กับผู้ถือหุ้นของธนาคาร เป็นการจ่ายจากกำไรสุทธิที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราร้อยละ 30 ซึ่งผู้รับเงินปันผลที่เป็นบุคคล ธรรมดาจะได้รับเครดิตภาษีตามมาตรา 47 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 30 เมษายน 2553 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของ พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยวิธีปิดสมุด ทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 4 พฤษภาคม 2553 และกำหนดจ่ายเงินปันผลภายในวันที่ 20 พฤษภาคม 2553                       โดยไม่ขอจัดสรรเงินกำไรไว้เป็นทุนสำรองตามกฎหมายเนื่องจากธนาคารได้จัดสรรเงินกำไรไว้เป็นทุนสำรองครบร้อยละ 10 ของทุนจดทะเบียนตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว ตามนี้เลยครับ โดย Yaileela ศุกร์ มี.ค. 12, 2010 10:42 pm

ถามเรื่อง โอนหุ้้นให้ลูก investor9000 wrote: ถ้าการโอนหุ้นให้บุตร ยังคงเป็นหุ้นของคุณอยู่ (ตามคำพิพากษา) ยังไงคุณก็ยังต้องเสียภาษีอยู่ดี ถ้ายื่นขาด จะโดนภาษีย้อนหลังอีก โอย ปวดตับ ถ้าโดนฟ้องแล้วศาลจะให้เหตุผลว่ายังไงครับ ว่ายังคงเป็นหุ้นพ่ออยู่ ทั้งๆที่ชื่อก็ลูกเป็นเจ้าของตามกม. ประเด็นน่าจะอยู่ที่ว่าหุ้นที่จะโอนเป็นหุ้นที่เป็นหุ้นที่ซื้อมาในตลาดหลักทรัพย์ หรือไม่  ผมเปิดพอร์ทให้ลูกปีที่แล้ว( อายุ 20 ปี )  แล้วโอนหุ้นที่ซือจากตลาด ให้ รับปันผลมา 2 แสนเศษ และยังได้เครดิตภาษีอีก 6 หมื่นกว่าเรียบร้อยแล้ว ครับ โดย Yaileela อังคาร มี.ค. 02, 2010 11:34 am

กิมเอ็ง จะเก็บ 50 บาทต่อวัน ทุกบัญชีแม้ว่าจะไม่มีการเทรด ชี้แจงเรื่องค่าธรรมเนียม 50 บาท              บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ในปัจจุบันบริษัทฯมีการคิดค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ 50 บาทต่อวัน เฉพาะบัญชีเงินสด (บัญชีรหัส 1) ที่ส่งคำสั่งผ่านอินเทอร์เน็ตและเจ้าหน้าที่การตลาด      ส่วนลูกค้าอินเทอร์เน็ต (บัญชีรหัส 7) ได้รับการยกเว้นไม่เก็บค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ   อย่างไรก็ดีบริษัทมีกำหนดการที่จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ 50 บาทต่อวัน จากทุกบัญชี ทั้งการส่งคำสั่งประเภทผ่านเจ้าหน้าที่การตลาดและผ่านโปรแกรมอินเทอร์เน็ต   ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2553 เป็นต้นไป               ดังนั้นในกรณีที่มีการตั้งประเด็นว่า หากลูกค้าไม่ได้เทรด(ส่งคำสั่งซื้อขาย)ก็จะถูกบริษัทฯเก็บค่าธรรมเนียมขั้นต่ำวันละ 50 บาทหรือไม่นั้น   ขอเรียนชี้แจงว่า บริษัทฯไม่มีการเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมกรณีลูกค้าไม่มีการซื้อขาย    แต่จะเรียกเก็บเฉพาะวันที่ท่านลูกค้ามีรายการซื้อขายได้จริงและค่าธรรมเนียมรวมที่คำนวณได้จากการซื้อขายจริงตลอดวันของแต่ละบัญชี คิดแล้วต่ำกว่า 50 บาท บริษัทฯก็จะเรียกเก็บ 50 บาท ฝ่ายสื่อสารองค์กร บมจ.หลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) แจงเรื่อง"หากลูกค้าไม่เทรดภายใน 30 วัน บริษัทฯ จะปิดบัญชี"          บริษัทฯ ขอชี้แจงประเด็นที่ว่า   หากลูกค้าไม่เทรดภายใน 30 วัน  บริษัทจะปิดบัญชีของท่านลูกค้า บริษัทฯขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง  และน่าจะเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับโปรแกรม KE Trade เท่านั้น กล่าวคือ กรณีลูกค้าไม่มีการส่งคำสั่งซื้อขายภายใน 30 วัน โปรแกรมของบริษัทฯจะล๊อกโดยอัตโนมัติทำให้ลูกค้าใช้โปรแกรม KE Trade ไม่ได้เพียงโปรแกรมเดียวเท่านั้น แต่ท่านลูกค้ายังสามารถใช้โปรแกรมอื่นๆของบริษัทฯเพื่อเข้าไปดูข้อมูลหรือส่งคำสั่งซื้อขายได้ตามปกติ ได้แก่โปรแกรม KE Liberty (ใช้เทรดผ่านเครื่อง Mac ได้ด้วย)  โปรแกรมของ SETTRADE   โปรแกรม IIIS  โปรแกรม KE Cyber  โปรแกรม Kim Eng PDA  โปรแกรม KE Mobile  เป็นต้น  เมื่อท่านลูกค้ามีการซื้อขายหรือติดต่อเจ้าหน้าที่การตลาดและดำเนินการตามเงื่อนไขของบริษัทฯ ท่านลูกค้าจะสามารถกลับมาใช้โปรแกรม KE Trade ได้เช่นเดิม         ระบบจะล็อคการใช้โปรแกรม KETrade นั้น ต้องประกอบไปด้วย 2 เงื่อนไขพร้อมกัน   ดังนี้ 1.บัญชี ไม่มีการซื้อขายหุ้น หรือ อนุพันธ์ ภายใน 30 วัน และ  2. มูลค่าของเงินฝากและหุ้น/สัญญาอนุพันธ์ในพอร์ต รวมกันต่ำกว่า 50,000 บาท ฝ่ายสื่อสารองค์กร บมจ.หลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) โดย Yaileela พุธ ก.พ. 17, 2010 4:04 pm

ไม่ทราบว่าใครมีอาชีพเดียวกับผมมั่งครับ MrRobot ตอนเรียนมหาลัย เลยเป็นติวเตอร์ ฟิสิกส์ กับคณิตศาสตร์ครับ หลังจากทำงาน ความรู้ก็คืนอาจารย์ไปหมดเเล้วครับ   _________________ "VI Robot The Great" กำลังอยากหา tutor ทั้ง 2 วิชาอยู่พอดีครับ พอแนะนำใครให้บ้างมั้ยครับที่สอนแบบตัวต่อตัว โดย Yaileela อังคาร ก.พ. 09, 2010 12:05 pm

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ เรื่องลูกต้องลองมีสักคนจะรู้ครับ ก่อนแต่งงานผมอยากมีลูกสัก 4 คน คงอบอุ่นดี พอมีแค่คนแรกก็รู้แล้วว่าไม่เหมือนที่คิด เหนื่อยมั่กๆ แต่ก็อุตสาห์มีได้อีกตั้ง 2 คน ในเมี่อคุณโจไม่มีปัญหาในเรื่องค่าใช้จ่ายการเลี้ยงดูลูก แล้วทำไมต้องกังวลที่จะมีลูกมากละครับ  มีไปเลย 6 คน แล้วคุณโจจะรู้ว่ามันมีความสุขขนาดไหนแต่ก่อนผมก็คิดว่าจะมีสัก 2 คนก็พอ มาถ็งตอนนี้ผมยังเสียดายที่มีน้อยเกินไป แม่ผมมีลูก 6 คน แกยังบอกว่ามีน้อยไปเพราะใม่ค่อยมีใครไปเยี่ยมแกเลย (เข้าใจเหน็บ) ทุกวันนี้ผมจึงมักโทรคุยกับแกทุกวัน และแกจะถามผมเป็นประจำว่าเมี่อไรจะมาเยี่ยมแม่กันอีก เพราะแกอยากให้เพื่อนบ้านรู้ว่าแกก็เป็นคนที่ลูกยังคิดถึงคนหนึ่ง..... โดย Yaileela อังคาร ธ.ค. 15, 2009 9:42 pm

สอบถามเรื่องการยื่นภาษี เนื่องจากปีที่แล้วกรอกรายการเงินปันผลที่ได้รับไม่ถูกต้องทำให้ได้รับเครดิตภาษีช้ามาก   ปีนี้จึงขอเตรียมข้อมูลให้ถูกต้องเสียแต่เนิ่นๆ จึงขอถามผู้รู้ดังนี้ครับ. 1.เงินปันผลตามรายละเอียดดังนี้จะกรอกรายการอย่างไรครับ 2.จำเป็นต้องกรอกทุกรายการหรือไม่  โดยเฉพาะเงินปันผลข้อ 2.อื่นๆ ประเภทเงินได้ที่จ่าย 1. ( ข ) ( 2 ) ( 2.1 ) กำไรสุทธิของกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ( BOI ) 1. ( ข ) ( 2 ) ( 2.2 ) เงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งของกำไรที่ได้รับยกเว้นไม่ต้อง นำมารวมคำนวณเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล 2.อื่นๆ ( ระบุ ) จากกำไรสุทธิที่ไม่ได้ผ่านการเสียภาษีเงินได้นิติบุคล 2.อื่นๆ ( ระบุ ) จากกำไรสะสมส่วนที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคล ขอบคุณล่วงหน้าครับ โดย Yaileela พฤหัสฯ. ธ.ค. 10, 2009 4:42 pm

ขอถามเกี่ยวกับการซื้อ-ขายถัวเฉลี่ยหน่อยครับ 1000 Posted: Wed Oct 21, 2009 6:39 pm    Post subject:   -------------------------------------------------------------------------------- ถ้าจะจับเสือมือเปล่าและมีหุ้นอยู่ให้ซื้อผ่าน nvdr ดีกว่านะครับ ช่วยขยายความให้ละเอียดอีกหน่อยครับ โดย Yaileela พุธ ต.ค. 21, 2009 7:18 pm

วันนี้ SET เลื่อนเปิดไป 1 ชม. ตลาดหลักทรัพย์ฯมีการแจ้งเลื่อนการเปิดตลาดเฉพาะวันนี้ pre open จากเดิม 9.30 เป็น 10.30   น.      Open จากเดิม 10.00 เป็น 11.00 น. Inter Mission  คงเดิม คือ 12.30 น. โดย Yaileela พุธ ก.ย. 02, 2009 9:41 am