หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
luckyingame
Joined: พฤหัสฯ. ก.ย. 16, 2010 9:03 am
21
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - luckyingame
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: MoneyTalk@SET11/11/60หุ้นเด่นโค้งสุดท้าย&ยุทธศาสตร์สู้วิ
Money Talk @ SET 11 November 2017 ช่วงที่1 หุ้นเด่นโค้งสุดท้าย คุณบวร วงศ์สินอุดม ประธานกรรมการ PRM คุณสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTGC คุณนที พานิชชีวะ ประธานกรรมการ UNIQ เกริ่นนำ PRMเป็นบริษัทขนส่งน้ำมันทางเรือรายใหญ่ที่สุดในไทย มีอัตรากำไรสูงสุดในอุตสาหกรรม มีแผนการเติบโตที่สูงมากๆ เห็นบอกจะขยายกองเรืออีกเกินเท่าตัวในสามปี แต่โตได้ต่อเนื่องไหม ต้องมาคุยกันครับ ดร ไพบูลย์ถามว่าขนาดเรือประมาณเท่าใด คุณบวรตอบว่าขนาดเรือขนาดเท่ากับสี่สนามฟุตบอลขนาดใหญ่ PTTGC เป็นบริษัทผู้ผลิตปิโตรเคมีรายใหญ๋ที่สุดในอาเซียน ปีนี้เป็นเหมือนปีทองของปิโตรเคมี แผนเติบโตน่าสนใจ หลายอย่างตั้งแต่ต้นน้ำไปถึงปลายน้ำ และยังขยายไปธุรกิจใหม่อีก UNIQ เคยให้สัมภาษณ์ที่รายการMoney Talkว่าชื่อ Uniq มาจากความไม่เหมือนใคร หมายถึงรับงานรับเหมาที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ได้GPสูงสุดในบริษัทที่ทำรับเหมา ช่วงแค่3ปีกลายเป็น TOP4 คำถามที่1 ประวัติความเป็นมาของแต่ละบริษัท เริ่มที่บริษัทPRM หมอเคถามคุณบวรว่าธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันดีอย่างไร ทำไมมาทำธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้ คุณบวรตอบว่า ธุรกิจเรือขนส่งน้ำมัน เวลาดีก็ดีใจหาย เวลาไม่ดี แย่สนิทเลย ต้องระวัง ทำอย่างไรให้กำไรไม่แกว่งมาก บริษัทมีแผนการธุรกิจที่ทำมา 30 ปีค่อยๆเติบโตมาเรื่อยๆ พยายามbalanceรายได้ไม่ให้แกว่งตัว รายได้ที่แกว่งตัวเยอะๆตอนนี้มีสัดส่วน 10% แต่ก็มีผลทำให้กำไรแกว่งตัวมาก ส่วนอีก 90%รายได้ไม่ค่อนแกว่งตัว เรามีธุรกิจที่แตกต่างกันออกไป โดยใช้เรือที่มีวัตถุประสงค์ต่างกัน บางบริษัทที่เจ็งไปเพราะไปrely on ธุรกิจที่รายได้แกว่งตัวเยอะๆ ธุรกิจแรกของบริษัท รับจ้างเอาเรือมาขนน้ำมันต่างที่กันมาผสมเพื่อให้ได้สัดส่วน ตามที่ลูกค้าต้องการ ถือเป็นรายได้จากค่าต๋ง เราก็ตกลงกับแต่ละบริษัทเช่าเป็นรายปี ถือว่ารายได้นี้เป็นแบบproject base จะเป็นรายได้ที่แน่นอน ธุรกิจที่2 น้ำมันที่ขุดขึ้นมาเช่นที่บริษัท PTTEP มีแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล หลังจากได้น้ำมัน ผมก็นำเรือมาใส่น้ำมัน พอได้น้ำมันพอ ก็มาแบ่งใส่เรือเล็ก และมาส่งให้ลูกค้าอีกที ธุรกิจที่3 เรามีเรือลอยน้ำเอาไว้ให้เป็นที่นอนสำหรับพนักงานที่ทำงานบนแท่นขุดเจาะ ลูกค้าได้แก่ PTTEP , เชฟรอน ถือเป็นอีกธุรกิจหนึ่ง แต่รายได้ค่อนข้างแกว่งตัว เพราะเจอมรสุม เราก็ถอยออก รับลูกค้าไม่ได้ ทำให้พนักงานอาจนอนที่แท่นขุดเจาะแทน สัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21เริ่ม เราก็ตื่นเต้น ธุรกิจก็จะดีขึ้นเยอะ ทำให้ธุรกิจเดินเรือเติบโตมาก เรามีเรือหลายอย่าง ผมมีธุรกิจที่สี่ ฝึกพนักงานใหม่สำหรับทำงานบนเรือแต่ละแบบเพื่อสามารถทำงานให้ได้มาตรฐานที่กำหนด นี่คือภาพที่เราได้จากธุรกิจ4อย่าง เป็นธุรกิจแบบ Cost plus เช่นเรื่องmanagement ทำให้ที่ผ่านมามีกำไร20-30%มาตลอด คู่แข่ง ทำคนละแบบกับเรา แต่ละคนจะมีธุรกิจเฉพาะ เช่น ธุรกิจให้นอน เท่านั้น แต่ธุรกิจเรือผสมน้ำมันยังไม่มีใครทำได้ อุตสาหกรรมผสมน้ำมันนี้มีเรือที่มีหน้าที่แบบนี้อยู่ทั้งหมด 18 ลำ จอดอยู่แถวมาเลเซีย สิงคโปร์ เรามีเรือแบบนี้อยู่ 6 ลำ ถือเป็นหนึ่งในสามของเรือทั้งหมด หมอเคสรุปบริษัทมีเรืออยู่ 4แบบ ได้แก่ 1.เรือขนส่งน้ำมัน 2.เรือที่จอด เพื่อปรับสัดส่วนน้ำมัน บางที่มีค่าออกเทนต่ำ บางที่ค่าออกเทนสูง ต้องมาผสมตามที่ลูกค้าต้องการเพื่อเอาไปขายเช่น ที่สิงคโปร์ 3.เรือให้เช่านอน 4. เรือสำหรับฝึกอบรม ธุรกิจนี้ไม่ง่าย หมอเคถามว่า สำหรับเรือ ต้องซื้อตอนไหน คุณบวรตอบเองว่า ต้องซื้อตอนเหล็กถูกและในช่วงที่เศรษฐกิจไม่บูม บางครั้งราคาเหล็กสูง เราก็ขายเรือเก่าเป็นเศษเหล็กเพื่อเอากำไรได้ บางครั้งราคาเหล็กลง เราก็ซื้อเรือใหม่ กองเรือมีทั้งหมด 26 ลำ อายุเฉลี่ย 19 ปี ถือว่าเยอะ ตอนนี้เริ่มต่อเรือใหม่ที่จีน เพื่อลดอายุกองเรือให้น้อยลง ซึ่งอายุของกองเรือมีผลต่อการคิดเบี้ยประกันภัย ถ้าราคาเหล็กดีหมายถึงราคาถูกลง เราอาจซื้อเรือใหม่เข้ามาด้วย Opportunityอาจไม่ใช่ซื้อเรือ แต่อาจร่วมกับบริษัทอื่นทำเกี่ยวกับธุรกิจปิโตรเคมี ที่มี 3,000-4,000 ล้านลิตรที่เหลือใช้จากการผลิต ต้องจ้างต่างชาติมาขนแทน เพราะเรามีเรือจำกัดคิดเป็นสัดส่วนแค่ 10%เอง การบรรทุกสารเคมีกับน้ำมันมีความแตกต่างกัน ต้องมีการอบรมพนักงานก่อนทำงานจริง หมอเคถามว่า Project base สัญญากี่ปี คุณบวรตอบว่า มีหลายแบบ ขึ้นกับการแบ่งตามตลาด หรือ ขึ้นกับการตกลง ลูกค้าเรามีแต่รายใหญ่ มาตรฐานสูง การหาเรือกว่าจะได้ค่อนข้างยาก ดังนั้นจะเน้นคุณภาพมากกว่าราคา PTTGC หมอเคเกริ่นว่าบริษัทอยู่ในช่วงปีทอง เน้นธุรกิจปลายน้ำมากขึ้น คุณสุพัฒนพงษ์ พูดเกริ่นนำสำหรับ PTTGC ว่า เป็นบริษัทปิโตรเคมีครบวงจร ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ใหญ่ที่สุดของอาเซียน มีอายุแค่ 6 ปี เพราะเกิดจากการรวมตัวของ 4 บริษัทเป็นแนวคิดของปตท เมื่อรวมกันแล้ว เรามีครบวงจร เรามีโรงกลั่น ที่มีกำลังการผลิต 2แสนบาร์เรลต่อวัน ปิโตรเคมีเกือบ9ล้านตัน , asset 3แสนล้านบาท และมีสิ่งที่ดีจากการควบรวม4บริษัท Value chainทอดยาว สำหรับช่วยทำให้ผ่อนแรงกระทบจากความผันผวน ปี2014 ราคาน้ำมัน 120 $ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นช่วงส่งมอบงานจากคุณบวร หลังจากนั้นราคาน้ำมันลงเหลือ 40$ ด้วยการเปลี่ยนแปลงขนาดนี้ กำไรตอนนั้นยังมีเท่ากับ 15,000 ลบ สามารถหล่อเลี้ยงบริษัทได้ ซึ่งช่วงนั้นบริษัทน้ำมันขนาดใหญ่ของโลกขาดทุนกันหมด เป็นการพิสูจน์ของภูมิคุ้มกันที่มีครบวงจร หลังจากนั้นก็ค่อยๆเจริญเติบโต ปีนี้เป็นปีประวัติการณ์ แค่ช่วงระยะเวลา 9เดือน รายได้ 29,000 ลบ เติบโต88% เฉพาะ Q3 1x,xxx ลบ ปีนี้เป็นปีที่เราทำได้ดี อุตสาหกรรมปิโตรเคมีเริ่มเติบโตขึ้นมา ปีนี้ธุรกิจทุกส่วนดีทุกตัว Aromatic , ปิโตรเคมี ค่าการกลั่น ราคาน้ำมัน ดีขึ้นหมด โรงกลั่นตอนนี้สร้างกันน้อย สาเหตุมาจากการขาดทุนของโรงกลั่นในปี2014เยอะ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเราในปีหน้า ปีโตรเคมี มาจากบริษัทในUSที่ขยายตัว บริษัทที่นั่นมีการขยายกำลังการผลิต แต่ก็ยังมีเหลือ 2ล้านตัน ส่วนหนึ่งจะส่งมาย่านเอเชียคือจีน และ South America กระทบเราไม่เยอะ เพราะเราหาแหล่งใหม่สำรองแล้ว เราไปขยายการเติบโตการใช้เม็ดพลาสติกใน CLMV เขมร เวียดนาม ลาว และ พม่า การเติบโตของประเทศในCLMV โตมากกว่าประเทศเราเยอะ GDP Growthจนถึง double digit 9-12% เมื่อก่อนยอดขายให้ประเทศในCLMV 30,000-40,000 ตันต่อปี ตอนนี้ขายได้มากกว่า 300,000 ตันต่อปี กำไรที่ขึ้นมา80%ในช่วง9เดือนไม่ได้จากการเพิ่มของราคาอย่างเดียว แต่เกิดจากการพัฒนาของเรา โดยเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่ายที่ทำกันมานาน เริ่มส่งผลต่อกำไรในปีนี้ เกือบ50% เป็นเรื่องน่าสนใจ ต้องขอชมคุณบวรที่ทำได้ดีมาก่อน และผมมาสานต่อ หมอเคถามว่านักลงทุนจะประเมินการเติบโตของแต่ละธุรกิจของPTTGCได้อย่างไร คุณสุพัฒนพงษ์ อธิบายถึงวิธีการดูว่าธุรกิจเติบโตดูจาก 1 ค่าการกลั่น 2. ส่วนต่างของ Arometic หรือดูอ้อมจาก Thai oil ก็ได้ 3. ราคาเม็ดพลาติก ถ้าดีขึ้นกว่าปีที่แล้วน่าจะดีขึ้น ปกติจะดีสลับกับไม่ดีในแต่ละปี แต่ถ้าดูอย่างหยาบ คือ ราคาน้ำมันดีขึ้น ส่วนใหญ่ราคาเม็ดพลาสติกจะดี หมอเคถามว่า ความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจปิโตรเคมีแข่งกันที่อะไร ข้อได้เปรียบของเราเทียบกับคู่แข่งในเรื่องการทำกำไรมีอะไรบ้าง คุณสุพัฒนพงษ์ตอบว่า 1.เรามีโรงงานขนาดใหญ๋ 20 โรง ที่มาบตาพุด และกระจายโรงงานไปอีกใน 7 ประเทศ การขยายธุรกิจโดยมีต้นทุนที่ไม่แพง คนอื่นมาทำ ไม่เคยทำ ก็จะยากที่จะเข้ามาสู่ธุรกิจได้ 2 เรามีวัตถุดิบผสม โดยมีก๊าซธรรมชาติเป็นสัดส่วนที่เยอะซึ่งราคาจะนิ่งกว่า กับ อีกส่วนคือน้ำมัน 3 ตลาด เรามีลูกค้าอยู่ในมือ คู่แข่งมาเจาะลูกค้ายาก เพราะความคุ้นเคย ความใกล้ชิด ทางตะวันออกกลางเข้ามาเจาะตลาดเรายากเพราะเรื่องความคุ้นเคย บริษัทที่3 UNIQ เป็นบริษัทเติบโตเยอะ ราคาหุ้นโตมา4เท่าใน4ปี คุณนทีเริ่มด้วยการพูดว่า ฟังทั้งสองบริษัทพี่บวรและพี่พงษ์พูดแล้วอยากไปซื้อหุ้นทั้งสองบริษัท เราเป็นบริษัทชั้นนำด้าน Infrastructure แต่เทียบกับอีกสองบริษัทก็ถือว่ายังเล็ก บริษัท สัดส่วน 100%ทำสาธารณูโภค ทางบก อากาศ น้ำ สาธารณูปโภคบนบก infrastructure เช่น สะพาน รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง สนามบิน การบริหารจัดการน้ำ เราเน้นงานรัฐอย่างเดียว มีงานต่อเนื่องเสมอ มีมากขึ้นเรื่อยๆ เดิมคิดว่า Projectมูลค่าแค่ 2ล้านล้านบาท แต่พบว่า ตอนนี้มูลค่าโครงการขึ้นไปถึง 3 ล้านล้านบาทแล้ว มีงานเจาะอุโมงค์ให้แม่น้ำทั้งสองสายเชื่อมกัน เราโต20% ในกรุงเทพก็ทำกับรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ เช่น จตุจักร ก็เป็นชุมทางที่ใหญ่ที่สุดของรถไฟ ซึ่งเป็นMass transit รวมถึงรถไฟความเร็วสูงด้วย ท่าเรือก็มีที่ปากบารา เรามุ่งเน้น infrastructure อย่างเดียวทำให้เติบโตสูงกว่าคู่แข่งที่จะรับงานหลายอย่าง บริษัทอื่นจะมาแข่งก็ต้องดูผลงาน และ คุณภาพด้วย เราถนัดงานเกี่ยวกับเหล็ก หมอเคถามถึงBacklog ใช้เวลากว่ารับรู้รายได้กี่ปี คุณนทีตอบว่า Backlogใช้เวลากว่ารับรู้รายได้ 3-4 ปี ซึ่งอนาคตจะมีBacklogเพิ่มขึ้นตามแผนงานของรัฐบาล ส่วนสนามบินอู่ตะเภาถ้ามีการประมูล เราก็ต้องการประมูลในส่วนสนามบินด้วย เราได้GPสูง อยู่ที่การควบคุมต้นทุน เช่น ตอนเหล็กที่แนวโน้มลง เราก็ซื้อเหล็กตุนไว้ก่อน อีกfactorคือ การบริหารเรื่องความเร็วในการดำเนินงาน ก็จะช่วยลดต้นทุนได้ด้วย ส่วนการรับงานมา เรามีsubcontractในการทำบางเรื่อง แต่งานส่วนใหญ๋เราทำเอง ทำให้เราได้กำไรเยอะ ถ้าราคาเหล็กมีแนวโน้มจะลง เราจะพยายามmatchปริมาณการใช้เหล็กเข้ากับงานเพื่อป้องกันความผันผวนของราคาเหล็ก คำถามช่วงที่2 ผลประกอบการที่ผ่านมา และ อนาคตเป็นอย่างไร 1.PRM หมอเคยิงคำถามทันทีว่า ปีนี้ที่คุณชาญวิทย์ CEO บอกว่า 1H17 โตลดลง แต่2H17ก็จะโตเยอะ อยากให้คุณบวรช่วยอธิบายด้วยครับ คุณบวร บอกว่ารายได้ของเราโตต่อเนื่องจากปี2558 =3,800, ปี2559 =4,200 ดังนั้นปีนี้น่าจะโตต่อเนื่อง แต่กำไรไม่แน่ใจว่าจะโตต่อเนื่อง เพราะมีโครงการใหม่ๆที่กำไรอาจยังไม่มา แต่งานที่ขยายต่อในอนาคต เราเอาเงินจากการทำIPO จำนวน 5,000กว่าล้านบาท ไปลงทุนเพิ่มเรือปีละ10ลำ ซึ่งเงินที่เหลือที่จะลงทุนในปีต่อไป หมายถึง เงินIPOที่จะไปซื้อเรือในปีที่สองและปีที่สาม ตอนนี้ต้องคิดว่าจะเอาเงินที่เหลือจากIPOไปทำอะไรเพื่อสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้น ปริมาณการขนส่งจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปริมาณเรือที่เราเพิ่มขึ้น ส่วนที่เกินเราส่งต่อให้กับPartnerทำ PRM marine ดูแลpartnerว่าถ้ามีแต่เรือ เราหางานให้ หรือมีวัตถุดิบ เราหาเรือให้ แล้วเก็บค่าต๋ง Asia pacific มีการใช้น้ำมันขยายปีละ 3% ตัวเลขดูเหมือนโตน้อยแต่ถ้าคิดเป็นมูลค่าเท่ากับ 3,000-4,000 ล้านลิตรต่อปี แต่ถือเป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับที่ไทยทำได้ นี่คือโอกาสที่เติบโตอีกมากในอนาคต บริษัทพยายามทำกำไรให้กับผู้ถือหุ้น เงินที่ต้องใช้ในปีที่3 คุณบวรคิดว่าอาจเอาเรือเข้า Infrastructure fund เพื่อได้เงินมาซื้อเรือ แต่ละstepที่เราจะเดิน เรามีสัญญาถือไว้ บางสัญญายาวมาก แต่ก็อาจมีความเสี่ยงถ้าเศรษฐกิจไม่ดี partnerอาจยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงสัญญาได้ เรือลอยน้ำที่ผสมน้ำมัน ทำกำไรสูงสุด พยายามขยายในส่วนนี้ แต่ก็พยายามหาธุรกิจใหม่เพื่อกระจายความเสี่ยง ถึงแม้PTTจะแข็งแกร่ง เราก็อยากเพิ่มทางเลือกของบริษัทให้มากขึ้น เราจะdiversifyในประเทศซึ่งมีอยู่25%หรือต่างประเทศเพิ่มขึ้น หมอเคถามต่อว่า ถ้าแยกตามประเภทของเรือ ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเติบโต คืออะไร คุณบวรตอบว่า เรือขนส่ง กับ เรือผสมน้ำมันที่เติบโตเร็วให้กำไรเยอะ เราเกาะแน่นเลย และมีแผนสำหรับเรือ2ประเภทนี้ที่ต้องตามตลาดไป หลังปี2020 ให้ลดลงจำนวน%ของกำมะถันในน้ำมันเตาจาก2%เหลือ 0.5% ซึ่งทำได้ยากมาก โรงกลั่นต้องลงทุนเยอะ คำถามคือ ที่ไหนที่ทำง่าย คำตอบก็คือ ทำบนเรือ และ ทำที่ไหน คือ สิงคโปร์ ถือเป็นโอกาสของเราที่เข้ามาบริการส่วนนี้ อีกเรื่อง ตอนนี้มีพรบเดินเรือพาณิชย์ไทย การเดินเรือจะเปลี่ยนแปลง ต่อไปให้เรือชักธงไทยทุกลำต้องregisterเรือในไทย ถึงจะใช้เรือไทยได้ในการบรรทุกน้ำมันในอ่าวไทย ทำให้ต่างชาติเข้าไม่ได้ เป็นโอกาสของเรา ผมทำงานในบริษัทคนไทยตลอด ตั้งแต่ Thaioil , PTTGC, PRM คนไทยมาช่วยบริษัทสร้างกองเรือไทย ช่วยsupportประเทศไทย ผมรู้สึกภูมิใจในชีวิตครับ หมอเคถามถึงปัจจัยเสี่ยงของบริษัท มีอะไรบ้างที่นักลงทุนต้องกังวล คุณบวร ตอบว่า ทุกธุรกิจก็มีปัจจัยเสี่ยง สำหรับเรื่องของเรื่องก็มีปัจจัยเสี่ยงได้แก่ 1. Rateแกว่งตัวมาจาก demand,supplyของเรือ และ ราคาเหล็กผันผวน เรื่องกฎหมาย และ พรบเปลี่ยน หรือ %ของกรดกำมะถันเปลี่ยนแปลง ก็มีผลกระทบต่อธุรกิจ บางครั้งผลเหมือนกับเป็นลบต่อธุรกิจ แต่เราก็พยายามทำให้เป็นโอกาสมาผสมให้กับคนอื่น 2. ลูกค้าอาจไม่จ้างเรา หรือ อากาศไม่ดี ไม่มีการเดินเรือ หรือแวะจอด แต่เราอาศัยประสบการณ์เพื่อช่วยผ่อนหนักเป็นเบา การตั้งโรงเรียนสอนก็เอาประสบการณ์มาแชร์ได้ 3. ราคาน้ำมันหรือบังเกอร์ถ้าแพงขึ้น เป็นต้นทุน40% และ ได้รับค่าเช่าเท่าเดิม ก็จะแย่ ต้องพยายามทำสัญญาราคาค่าขนส่งแปรผันกับราคาน้ำมัน เช่น PTTGC ก็ทำสัญญาให้ปรับเพิ่มตามราคาน้ำมันได้ 2. PTTGC หมอเคถามว่า บริษัทจะดีต่อไปในอีกสามปีข้างหน้าไหม คุณสุพัฒนพงษ์ ตอบว่า 1.เรามีบริหารความเสี่ยง และมีvalue chain ที่ยาวเพื่อลดความผันผวน เรามีแผนสำหรับการเติบโต แนวโน้มองค์ประกอบการใน3sector คือ โรงกลั่น, aromatic ,ปิโตรเคมี ปีนี้ดีพร้อมกัน ปีหน้ายังดี อาจมีอ่อนตัวในส่วนของปิโตรเคมี แต่เราปกป้องความเสี่ยงโดยหาตลาดสำรองไว้ 2. ต้นปีหน้า เราขยายกำลังการผลิต โดยโรงงานใหม่ที่สร้างมาสองปีเปิดแล้ว เริ่มดำเนินการเม็ดพลาสติก(โพลีเอสเทอรีน)400,000ตันออกขายได้ ทำให้มีรายได้เกิดขึ้น 3. ช่วงปีที่ผ่านมา มีการซ่อมโรงงานใหญ่ เพื่อให้กลับมาทำใหม่อีกหลายปี ปีนี้มีซ่อมใหญ่หลายโรง แต่ปีหน้าไม่มีการซ่อมใหญ่ 4.เราตัดสินใจลงทุน 7 หมื่นกว่าล้านบาทด้านต้นน้ำทางปิโตรเคมี และ ปลายน้ำเพื่อต่อยอด เอาproductกลางน้ำไปทำเป็นproduct ปลายน้ำ ระยะยาวอีก 3 ปี เป็นประโยชน์ต่อบริษัทและไทย ผลิตภัณฑ์พลาสติกเป็นเบอร์หนึ่งในอาเซียน เราต้องการเป็นพลาสติกเชิงวิศวกรรม (Super engineering) ตอนรัฐบาลเปิด EEC เราทำroad show เชิญชวนเจ้าของเทคโนโลยี เรามีที่ดิน วัตถุดิบ วิศวกรที่ดี มาร่วมมือกัน เราทำไป 17 บริษัท เซ็นต์MOU=1ราย น่าจะร่วมทุนกันได้ต้นปีหน้า โดยเราลงทุน30% เราขายที่ดิน น้ำประปา ไฟฟ้าให้เขาได้ และยังมีคุยกันอีก 2-3 ราย แผนการซื้อกิจการ หรือ M&A เราเล็งหาโอกาสตลอดเวลา เรามีอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีเทคโนโลยีมาช่วยเรา ทำให้เรามีภูมิคุ้มกัน ตอนนี้กำลังหาอยู่ โครงการ MAX ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นปีละ 3,000 ลบ ปีที่สองเป็น 6,000 ลบ ปีที่สามจะเป็น 9,000 ลบ บริษัท Global Clean chemical (GCC) เป็นบริษัทลูกซึ่งเป็น1 บริษัทที่ทยอยเข้าตลาด วัตถุดิบของเราเส่วนใหญ่ ป็นGas ซึ่งจะทยอยหมดไป แต่ศักยภาพของเราใช้แค่60% ถึงแม้หายไป40%ก็ยังเพียงพอ แต่แผนระยะยาว20ปีต้องหาsolutionอื่น เราใช้เงินลงทุน 50%ของ 70,000 ลบ โดยสร้างโรงงานใหม่ให้ใช้Gasน้อยลง และใช้น้ำมันมากขึ้น สัมปทานปิโตรเลียมฉบับที่ 21 ทำให้เรามีงานมากขึ้น แต่ถ้าGasยังมีให้ใช้ต่ออีก เราก็ลงทุนปลายน้ำมากขึ้น Plastic engineering ราคา 8พัน$ต่อตัน แต่ตอนนี้เราขายได้แค่ 1400$ต่อตัน ดังนั้นการสร้างมูลค่าเพิ่ม จะมีประโยชน์มากขึ้นในอนาคต 3.UNIQ ปีนี้โตน้อยกว่า3-4ปีที่แล้ว เพราะหลายโครงการของรัฐdelayออกไป โดยเฉพาะรถไฟรางคู่ที่จะประมูลเมื่อ ต้นปี17 แต่มีการเลื่อนออกไป ดูแล้วบริษัทจะมีกำไรใกล้เคียงเดิม สัญญาณที่โครงการเลื่อน สมัยก่อน มีเหตุผลมาจากเปลี่ยนรัฐบาล แต่คราวนี้มาจากการทบทวนให้ละเอียดจากรัฐบาล เช่น Project EEC มีโครงการที่เกี่ยวข้องกับ EECมีมากขึ้น ทำให้มูลค่าของโครงการเพิ่มเป็น 3 ล้านล้านบาท ประเมินจากสิ่งที่เคยทำและได้งานในอดีต เราน่าจะได้สัก 10% หรือ 300,000 ลบ ตอนนี้มีBacklog 30,000 ลบ ทยอยรับรู้รายได้ พอๆกับปีที่แล้ว ตอนนี้รถไฟรางคู่มีการประมูลที่น่าจะได้ ปัญหาการรับงาน เราสามารถบริหารจัดการได้ ค่อนข้างมั่นใจบริหารจัดการได้ ส่วนเรื่องกฎหมายแรงงาน เราต้องจ้างแรงงานมากขึ้น แรงงานพม่าต้องมีการทำสัญญา มีคนที่จัดการแรงงานพม่าอยู่ ไม่มีปัญหา เวลาเข้าประมูล บริษัทที่ประมูลมาจากCreditจากธนาคาร เรามีประวัติและประสบการณ์ ที่ได้รับBid bondเป็นโครงการที่ไม่ต้องใช้เงินสด DE หรือหนี้สินต่อทุน อยู่ประมาณ 2.5 เท่า แต่เป็นธรรมชาติของธุรกิจ แต่ถ้าเป็นเงินกู้จริงที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยคิดเป็น1เท่าเอง ความเสี่ยงของธุรกิจมีสองส่วน 1 ความเสี่ยงที่controlได้ ไม่มีปัญหา 2 ความเสี่ยงที่controlไม่ได้ คือ project delay หรือเลื่อนการประมูลออกไป หรือ ประมูลProjectไม่ได้ เราประมูลโครงการรถไฟรางคู่ 18,000 ลบ ได้ แต่ยังไม่เซ็นต์สัญญา ยังถือเป็นBacklogไม่ได้ เรามีการทำPRECAST ทำให้ควบคุมต้นทุนและประหยัดเวลา เราควบคุมต้นทุน ดังนั้นสามารถแข่งขันราคากับคู่แข่งได้ สุดท้ายขอขอบคุณวิทยากรทุกท่านรวมถึงทีมงาน Money Talkมา ณ โอกาสนี้ครับ
โดย
luckyingame
อาทิตย์ พ.ย. 12, 2017 11:24 am
0
1
Re: หุ้นกลุ่มไหนได้ประโยชน์ จากภัยแล้งครับ
Eastw ไหมครับ. เห็นขึ้นจังครัช
โดย
luckyingame
อาทิตย์ มี.ค. 06, 2016 10:19 pm
0
2
Re: เอาบทความมาฝากให้อ่านกันครับ เกี่ยวกับเรื่อง Business Mo
ขอด้วยคนครับ
[email protected]
ขอบคุณมากครับ
โดย
luckyingame
อาทิตย์ พ.ย. 30, 2014 7:33 pm
0
0
Re: ประสบการณ์ชีวิต ของพี่ WEB พรชัย รัตนนนทชัยสุข ครับ
ขอบคุณมากครับ. ได้ข้อคิดในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้นเยอะเลย
โดย
luckyingame
เสาร์ ต.ค. 18, 2014 10:59 am
0
0
Re: *อีก 1 วันเท่านั้น* งานสังสรรค์ VI Q4/56 "วิถีวีไอ"
เต็มหรือยังครับ
โดย
luckyingame
อาทิตย์ มี.ค. 23, 2014 3:59 pm
0
0
Re: ฟรี ! แบ่งปันสรุปหุ้นรายตัว ย้อนหลัง 15 ปี ง่าย
[email protected]
. ขอบคุณมากครับ
โดย
luckyingame
พฤหัสฯ. ส.ค. 29, 2013 7:17 am
0
0
Re: ฟรี! ระบบข้อมูลงบการเงินย้อนหลัง อัตราส่วนงบการเงิน และข
[email protected]
. ขอบคุณครับ
โดย
luckyingame
อาทิตย์ ก.พ. 24, 2013 7:30 am
0
0
Re: มีเหตุผลอะไรบ้างที่ทำให้ไม่เป็นเป็นนักลงทุน vi แล้ว
ก้อตามเมื่อดลาดขี้นมาเยอะ หาหุ้นที่ under value ไม่ได้ครับ แต่ผมคิดว่ามันจะเป็นวัฏจักรครับทุกอย่างมีลงก้อต้องมีขี้น โชคดีกับการลงทุนครับ
โดย
luckyingame
เสาร์ พ.ค. 05, 2012 4:48 pm
0
0
Re: ขอตัวอย่างหุ้น 10 เด้ง หน่อยครับ
จริงน่าจะมีการวิเคราห์ ด้วยนะครับ ว่าได้ กี่เด้ง เพราะมีปัจจัย หรือ พื้นฐานใดมาสนับสนุนในช่วงเวลานั้น ๆ จะได้เป็นวิทยาทานและประสบการณ์ เพื่อว่าจะได้เจอหุ้น 10 เด้งในอนาคตข้างหน้า
โดย
luckyingame
ศุกร์ มิ.ย. 17, 2011 3:19 pm
0
1
หน้า
1
จากทั้งหมด
1
ชื่อล็อกอิน:
luckyingame
ระดับ:
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
พฤหัสฯ. ก.ย. 16, 2010 9:03 am
ใช้งานล่าสุด:
พฤหัสฯ. พ.ย. 07, 2024 9:26 am
โพสต์ทั้งหมด:
21 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.00% จากโพสทั้งหมด / 0.00 ข้อความต่อวัน)
GO_TO_SEARCH_ADV
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ Value Investing
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ คอร์สออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ งบแสดงฐานะการเงิน รายได้และค่าใช้จ่าย
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว