ผลของ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

[NH]

ตอนนี้ยังเป็นร่างอยู่ บังคับใช้ปี 2549
มีผลดีต่อกลุ่มโรงแรมเพราะอัตราลดลง
มีผลเสียต่อบริษัทที่ถือครองที่ดินเปล่าไว้แต่ไม่ได้ทำประโยชน์ เพราะเสียในอัตราก้าวหน้า

http://www.manager.co.th/mgrWeekly/View ... 8%b4%d4%b9

คำถามครับ กลุ่มพัฒนาอสังหาฯ และกลุ่มนิคมอุตฯ ตอนนี้เสียภาษีโรงเรือน ภาษีบำรุงท้องที่ อยู่ในอัตราเท่าไหร่ครับ หากยกเลิกไปใช้ พ.ร.บ. ใหม่จะทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ครับ

[genie]

ต้นทุนในเชิงการดำเนินการจะไม่ถูกผลกระทบ แต่ถ้าเป็นต้นทุนจากการเก็งกำไรมีผลทันที แต่ผมว่าก็สมควรแล้วละครับ ให้พวกLand Loard คายๆให้เกิดการพัฒนาบ้างไม่ใช้ปล่อยให้จมจนเกิดต้นทุนทางสังคมอย่างงี้

[ek_tt]

กล่มอสังหาฯ เพื่อการให้เช่าอย่างเช่น ศูนย์การค้า อพาร์ตเมนท์ เจ้าหน้าฝ่ายรายได้ของเขตนั้นๆ จะจัดเก็บ โดยจะจัดเก็บประมาณร้อยละ 12.5 ของรายได้จากการให้เช่า ซึ่งรายได้ดังกล่าวก็จะระบุไว้ในสัญญาเช่า พอตอนปลายปีก็จะต้องกรอกแบบฟอร์ม (ผมจำไม่ได้แล้วว่าเรียกว่าแบบอะไร) แจงเป็นรายการว่ามีรายได้จากผู้เช่าคนไหนบ้าง (ถ้าเป็นศูนย์การค้าค่าเช่าของแต่ละสัญญาจะไม่เท่ากัน แต่ถ้าเป็นอพาร์ตเมนท์น่าจะคิดง่ายหน่อยเพราะแต่ละห้องปล่อยเช่าในราคาเท่าๆ กัน)
โดยความเห็นส่วนตัว ภาษีที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้น่าจะเหล่ๆ ไปทางพวกหาบเร่แผงลอยตามฟุตบาทบ้าง พวกนี้ไม่ได้จนอย่างที่เห็น (บางคนมีรถ 2-3 คันด้วยซ้ำ) ภาษีเงินได้ก็ไม่ต้องเสีย ค่าเช่าก็ไม่ต้องเสียแถมยังบังหน้าร้านเขาด้วย ต้นทุนค่าก่อสร้างก็ไม่มี ภาษีโรงเรือนยิ่งไม่ต้องเสียใหญ่เลย ที่สำคัญฟุตบาทที่พวกเขาตั้งก็เกิดจากภาษีของพวกเราอีกต่างหาก พอคนมาไล่ก็อ้างความจนออกมาโวยวาย อย่างนี้มันต้องฟันให้หนักๆ ครับ ไม่ใช่เอาตังค์เข้ากระเป๋าเทศกิจ (บางคนที่ทุจริต)