หน้า 3 จากทั้งหมด 3

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 24, 2005 10:10 pm
โดย Tao Investor
FCF คือ Free Cash Flow ครับ เป็นเงินสดที่ไม่มีภาระผูกพันและสามารถเอามาจ่ายให้ผู้ถือหุ้นได้ครับ

คือเงินสด ในบริษัท ณ เวลานั้นๆ เลยหรือครับ

ไม่มีภาระผูกพัน คือ ยังไม่มีจุดประสงค์ที่จะใช้งานใช่ไหมครับ

ถ้าไปกู้มา ถือว่า มีภาระผูกพัน ไหมครับ :?:

ถ้าต้องเอาไว้ซื้อวัตถุดิบในอีก 6 เดือนข้างหน้า ถือว่ามีภาระผูกพันไหมครับ :?:

เหมือนกับ เงินสดของกิจการ (แล้วไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์)
เลยเอามาให้ผู้ถือหุ้นไปทำประโยชน์เอาเอง ใช่ไหมครับ :?:

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 24, 2005 10:16 pm
โดย house
เหมือนกับ เงินสดของกิจการ (แล้วไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์)
เลยเอามาให้ผู้ถือหุ้นไปทำประโยชน์เอาเอง ใช่ไหมครับ
ใช่ครับ

สูตรการหาดูได้จากกระทู้นี้ครับ
http://www.thaivalueinvestor.com/webboa ... php?t=1186

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 24, 2005 10:21 pm
โดย Tao Investor
ถ้าอยากศึกษาเกี่ยวกับ เรื่องพวก นี้ DcF FCF ฯลฯ

ต้องอ่านหนังสือเล่มไหนครับ :?:

เอาแบบ ภาษาไทยนะครับ (มีตัวอย่างด้วยก็จะดีมากๆ เลยครับ)

รบกวนพี่ๆ ช่วยแนะนำด้วยนะครับ
ขอบคุณครับผม

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 12:54 pm
โดย wpong
ก่อนอืนต้องขออภัย พี่ผู้ใหญ่ทีมีใจเป็น VI หลายท่านที่ไม่ได้ใช้งบกระแสเงินสดเป็นหลักในการคำนวน ผมไม่ได้ต้องการลบหลู่ ผมรู้ว่าพี่เหล่านั้นมีวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองอยู่แล้ว ไม่ว่าการใช้สูตรพื้นฐานใดก็ตาม หากรวมกับประสบการณ์ที่ยาวนาน ก็สามารถประสบความสำเร็จได้

ผมเพียงแต่เห็นน้องๆหลายๆคน รู้สึกภาคภูมิใจในความเข้าใจแนวคิด โดยไม่ได้มีความรู้พ์นฐานทางการเงินรองรับ ผมกลัวเขาจะเครียดเกินไปในภาวะปัจจุบัน


ข้อดีของ DCF คือทำให้เราต้องไล่งบตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต เป็นการฝึกคิดไปในตัว โดยตัวมันเองก็ไม่ใช่สูตรสำเร็จเช่นเดียวกัน :P

ค่าที่ได้จากการคำนวน DCF ยังสำคัญน้อยกว่า ข้อมูลต่างๆที่ได้มาเพื่อใช้ในการคำนวน
ตัว FCF ในแต่ละปีของบางบริษัท ก็ผกผันอย่างรุนแรง

อ่านงบ คำนวน DCF ก็เหมือนกับการเรียนรู้บ. ดูวงจร และการใช้เงินของเขา

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 1:48 pm
โดย HI.ผมเอง
Tao Investor เขียน:ถ้าอยากศึกษาเกี่ยวกับ เรื่องพวก นี้ DcF FCF ฯลฯ

ต้องอ่านหนังสือเล่มไหนครับ

เอาแบบ ภาษาไทยนะครับ (มีตัวอย่างด้วยก็จะดีมากๆ เลยครับ)

รบกวนพี่ๆ ช่วยแนะนำด้วยนะครับ
ขอบคุณครับผม
ไปลองยืนอ่านที่se-edก่อนก็ได้ว่าตรงกับที่ต้องการู้หรือไม่ครับ
รูปภาพ
รูปภาพ
wpong เขียน:ข้อดีของ DCF คือทำให้เราต้องไล่งบตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต เป็นการฝึกคิดไปในตัว โดยตัวมันเองก็ไม่ใช่สูตรสำเร็จเช่นเดียวกัน

ค่าที่ได้จากการคำนวน DCF ยังสำคัญน้อยกว่า ข้อมูลต่างๆที่ได้มาเพื่อใช้ในการคำนวน
ตัว FCF ในแต่ละปีของบางบริษัท ก็ผกผันอย่างรุนแรง

อ่านงบ คำนวน DCF ก็เหมือนกับการเรียนรู้บ. ดูวงจร และการใช้เงินของเขา
จำได้ว่าเมื่อเร็วๆนี้ อ.นิเวศน์ ท่านเคยเขียนเรื่องDCFในคอลัมน์ของท่าน(โลกในมุมมองของVI) แต่บังเอิญลองค้นหาแล้วไม่เจอ
ท่านให้ความเห็นว่าVIในแบบท่านนิยมความเรียบง่ายเป็นหลัก
DCF นั้นค่อนข้างจะมีตัวเลขหลายตัวที่เกิดจากการคาดเดา
หากผู้คิดมีการให้ตัวเลขแบบเอนเอียง ผลที่ได้รับก็จะผิดเพี้ยนมาก

โดยส่วนตัวแล้วผมเห็นว่า การคาดเดายอดขายและกำไรก็นั้นก็มีความยากระดับหนึ่งแล้ว
แต่หากการคาดเดา FCFยิ่งยากกว่าหากไม่เข้าใจในการทำธุรกิจนั้นมากพอ
เพราะมีค่าอื่นๆมาเป็นตัวแปรอีกมากมาย
ไหนจะคาดเดาอัตราการเติบโตของFCFในแต่ละปีอีก ซึ่งก็คงไม่พ้นต้องใช้ข้อมูลในอดีตผสมกับการคาดเดาการเติบโตของอนาคต
แถมตัวDISCOUNT RATE ที่หาได้นั้นใกล้เยงความจริงมากน้อยแค่ไหน และยังส่งผลต่อสูตรการคำนวนอีกมาก

ผมจึงค่อนข้างเห็นด้วยกับหลักความเรียบง่ายครับ

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 1:52 pm
โดย Supra
:D :D :D

การเข้าใจแนวคิดที่ถูกต้องเป็นเพียงจุดเริ่มเล็กครับ ส่วนเรื่องความรู้การเงิน การลงทุนมันก้อต้องอาศัยเวลา ความรู้ ประสบการณ์ ผู้ที่ประสบความสำเร็จก้อคงต้องผ่านจุดเหล่านี้มาทั้งน้าน เพียงแต่เราต้องไม่ลำพองตัวว่ารู้แล้ว ฉลาดแล้ว เข้าใจ เก่งกาจแล้ว

ความผิดพลาดมันก้อเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จที่เราต้องผ่าน ไม่รู้ย่อมไม่ผิดหรอกครับ ความรู้ไม่มีวันหมดสิ้นครับ ไม่รู้ใช่ว่าจะผิด แต่คิดว่ารู้สิอาจทำให้ผิดได้ครับ 8) 8) 8) :D :D

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 1:57 pm
โดย chatchai
HI.ผมเอง เขียน: จำได้ว่าเมื่อเร็วๆนี้ อ.นิเวศน์ ท่านเคยเขียนเรื่องDCFในคอลัมน์ของท่าน(โลกในมุมมองของVI) แต่บังเอิญลองค้นหาแล้วไม่เจอ
ท่านให้ความเห็นว่าVIในแบบท่านนิยมความเรียบง่ายเป็นหลัก
DCF นั้นค่อนข้างจะมีตัวเลขหลายตัวที่เกิดจากการคาดเดา
หากผู้คิดมีการให้ตัวเลขแบบเอนเอียง ผลที่ได้รับก็จะผิดเพี้ยนมาก

โดยส่วนตัวแล้วผมเห็นว่า การคาดเดายอดขายและกำไรก็นั้นก็มีความยากระดับหนึ่งแล้ว
แต่หากการคาดเดา FCFยิ่งยากกว่าหากไม่เข้าใจในการทำธุรกิจนั้นมากพอ
เพราะมีค่าอื่นๆมาเป็นตัวแปรอีกมากมาย
ไหนจะคาดเดาอัตราการเติบโตของFCFในแต่ละปีอีก ซึ่งก็คงไม่พ้นต้องใช้ข้อมูลในอดีตผสมกับการคาดเดาการเติบโตของอนาคต
แถมตัวDISCOUNT RATE ที่หาได้นั้นใกล้เยงความจริงมากน้อยแค่ไหน และยังส่งผลต่อสูตรการคำนวนอีกมาก

ผมจึงค่อนข้างเห็นด้วยกับหลักความเรียบง่ายครับ
การคำนวณ DCF นั้นมีตัวแปรมากมาย ซึ่งถ้าเราพิจารณาบริษัทที่มีผลการดำเนินงานสม่ำเสมอ คาดการณ์ได้ไม่คาดเคลื่อนมากนัก ก็จะช่วยได้มาก แต่บริษัทเหล่านี้มักจะไม่มีอัตราการเติบโตที่น่าตื่นเต้น ไม่มี Story ให้นักเก็งกำไรมาจุดพลุ คุณจะทนถือไหวหรือเปล่าครับ

ส่วนเรื่อง Discount Rate นั้น คนอื่นจะใช้เท่าไร ผมก็ไม่ค่อยสนใจครับ ผมใช้ค่าผลตอบแทนที่ผมพอใจครับ

หลักการเรียบง่าย บางครั้งก็ทำให้นักลงทุนน่าใหม่เข้ามาลงทุน แต่ยุคสมัยนี้การพิจารณาเพียงแค่ง่ายๆ ผ่านๆ จะถูกหลอกเอาได้ง่ายๆครับ ต้องระวังให้มาก หลายคนลงทุนเพียงแค่ดู P/E P/B Yield แค่นี้ ระยะยาวจะรอดไหมครับ?

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 2:27 pm
โดย yoyo
ผมเองก็ใช้ DCF ในการวิเคราะห์หุ้นครับ
หลักการก็เหมือนที่คุณ chatchai ว่ามา
เวลาผมประมาณ FCF ไม่ใช่ผมจะพยายามให้ใกล้เคียงมากที่สุดเพราะมันยากเกินความสามารถ
แต่ผมจะประมาณให้ conservative มากที่สุด คือให้ต่ำๆเอาไว้ก่อน ... เมื่อ discount ลงมาแล้วยังมีราคาถูกอยู่มันก็ปลอดภัยแล้วครับ

ส่วน discount rate นั้นก็เหมือนพี่ chatchai อีกนั่นแหละ. :o
ผมใช้ผลตอบแทนที่ผมอยากได้โดยปกติผมใช้ 14%
และสุดท้าย margin of safety อีกอย่างต่ำ 25% ..

การคำนวณราคาเป้าหมายได้แบบนี้ทำให้ผมรู้ตัวเองมากขึ้นครับว่ากำลังทำอะไรอยุ่

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 2:30 pm
โดย Tongue
หลักการเรียบง่าย บางครั้งก็ทำให้นักลงทุนน่าใหม่เข้ามาลงทุน แต่ยุคสมัยนี้การพิจารณาเพียงแค่ง่ายๆ ผ่านๆ จะถูกหลอกเอาได้ง่ายๆครับ ต้องระวังให้มาก หลายคนลงทุนเพียงแค่ดู P/E P/B Yield แค่นี้ ระยะยาวจะรอดไหมครับ?
เท่าที่ผ่านมา โดนไปแล้วครับ
หาตังค์ได้ ใช้ตังค์เก่งครับ

อยากถามพี่ ฉัตรชัย พอดีครับว่า
หลักการลงบัญชี ของ บริษัทๆ นึงนี่เปลี่ยนแปลงได้ไหมครับ
คือ ปีหนึ่ง ใช้แบบหนึ่ง อีกปีใช้อีกแบบหนึ่ง

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 3:00 pm
โดย chatchai
เปลี่ยนแปลงได้แน่นอนครับ แต่บริษัทที่ดีควรบอกให้ละเอียดครับว่าใช้หลักการอะไร

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 3:57 pm
โดย Tongue
โอ้โห อย่างนี้ หุ้นแปลกๆ กำไรพุ่งๆ นี้ น่ากลัว มากๆ

โดยเฉพาะ ไตรมาสสี่

อืม... ขอบคุณมากครับ

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 4:45 pm
โดย wpong
คุณ Hi ครับ
เพราะมันมีตัวแปรเยอะ ผมถึงชอบครับ

การใช้ตัวแปรเส้นตรงจะถูกต้องมาก ถ้าเป็น Steady State หรือ Cash Cow แต่ก็จะพลาดโอกาสงามๆ หรือตกลงไปสู่ บ. ที่ถดถอยได้เหมือนกัน

ผมใช้ DCF ดูเรื่องราวของบริษัท

ผมอาจทำนายผิดก็ได้ แต่มันก็น่าสนุกที่ผิดบนความไม่รู้ของตัวเองครับ

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 5:13 pm
โดย HI.ผมเอง
chatchai เขียน:การคำนวณ DCF นั้นมีตัวแปรมากมาย ซึ่งถ้าเราพิจารณาบริษัทที่มีผลการดำเนินงานสม่ำเสมอ คาดการณ์ได้ไม่คาดเคลื่อนมากนัก ก็จะช่วยได้มาก แต่บริษัทเหล่านี้มักจะไม่มีอัตราการเติบโตที่น่าตื่นเต้น ไม่มี Story ให้นักเก็งกำไรมาจุดพลุ คุณจะทนถือไหวหรือเปล่าครับ
ยอมรับครับ ว่าทนไม่ไหว :mrgreen:
chatchai เขียน:ส่วนเรื่อง Discount Rate นั้น คนอื่นจะใช้เท่าไร ผมก็ไม่ค่อยสนใจครับ ผมใช้ค่าผลตอบแทนที่ผมพอใจครับ
WGเนี่ยคุณฉัตรชัยใช้เท่าไหร่ครับ :roll:
chatchai เขียน:หลักการเรียบง่าย บางครั้งก็ทำให้นักลงทุนน่าใหม่เข้ามาลงทุน แต่ยุคสมัยนี้การพิจารณาเพียงแค่ง่ายๆ ผ่านๆ จะถูกหลอกเอาได้ง่ายๆครับ ต้องระวังให้มาก หลายคนลงทุนเพียงแค่ดู P/E P/B Yield แค่นี้ ระยะยาวจะรอดไหมครับ?
ขอบคุณที่เตือนครับ
เริ่มต้นจากสิ่งง่ายๆก่อน น่าจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ ส่วนเรื่องระยะยาวนั้น จะรอดหรือไม่นั้น ..... คงไม่ได้อยู่ที่เรื่อง DCFเพียงอย่างเดียวมั๊งครับ 8)


wpong เขียน:คุณ Hi ครับ
เพราะมันมีตัวแปรเยอะ ผมถึงชอบครับ

การใช้ตัวแปรเส้นตรงจะถูกต้องมาก ถ้าเป็น Steady State หรือ Cash Cow แต่ก็จะพลาดโอกาสงามๆ หรือตกลงไปสู่ บ. ที่ถดถอยได้เหมือนกัน

ผมใช้ DCF ดูเรื่องราวของบริษัท

ผมอาจทำนายผิดก็ได้ แต่มันก็น่าสนุกที่ผิดบนความไม่รู้ของตัวเองครับ
ดีใจด้วยครับ ที่ลงทุนแล้วมีความสุข :)
เห็นด้วยครับเรื่องเรียนรู้อย่างสนุกจากประสบการณ์ในการลงทุน

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 7:43 pm
โดย chatchai
HI.ผมเอง เขียน: ขอบคุณที่เตือนครับ
เริ่มต้นจากสิ่งง่ายๆก่อน น่าจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ ส่วนเรื่องระยะยาวนั้น จะรอดหรือไม่นั้น ..... คงไม่ได้อยู่ที่เรื่อง DCFเพียงอย่างเดียวมั๊งครับ
คงไม่ใช่ DCF หรอกครับ แต่คงต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทให้มากที่สุดครับ

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 25, 2005 8:51 pm
โดย Dech
โห ไม่รู้อะไร เลย คุยกันไม่รู้เรื่องแล้วครับ

ที่ผ่านมาผมเดาเอาและอาศัยอ่านและลอกตามผู้รู้ในนี้ตลอดเลย

ไม่พัฒนาซะที ขี้เกียจนั่นเองครับ ไม่แนะนำให้ทำตาม

รักจะเป็น Value Investor เป้นเรื่องง่ายหรือไม่

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 19, 2009 3:40 pm
โดย khaolad
thank you