Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

BERKSHIRE HATHAWAY INC.

PRESS RELEASE FOR IMMEDIATE RELEASE December 14, 2004

On December 14, 2004, Berkshire Hathaway Inc.s Board of Directors voted to elect William H. Gates III to serve as a director to fill the current vacancy on the Board of Directors. Mr. Gates has long been a shareholder of Berkshire Hathaway and is the founder of Microsoft Corporation and has served as Chairman of Microsoft since the Companys incorporation in 1981. Mr. Gates served as Microsofts CEO from 1981 until January 2000 when he resigned as CEO and assumed the position of Chief Software Architect. Berkshire Hathaway and its subsidiaries engage in a number of diverse business activities among which the most important is the property and casualty insurance business conducted on both a direct and reinsurance basis.

Common stock of the Company is listed on the New York Stock Exchange, trading symbols BRK.A and BRK.B.

Contact: Marc D. Hamburg (402) 346-1400

END

คุณ โคทาโร่ แล้วคุณคิดว่าไงครับ บิลเกตส์จะครองโลกเลยป่าวครับเนี่ย

คุณ โคทาโร่ แล้วคุณคิดว่าไงครับ บิลเกตส์จะครองโลกเลยป่าวครับเนี่ย

คนที่มี power มากกว่าบิลเกตส์ ผมว่าเป็นตระกูล Wal-Mart นะครับ

ตระกูลนี้มีเงินมากกว่า Gates รวมกับ Buffet อีกครับ

บิลเกตส์ กับ บัฟเฟต เขาเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว บิลเกตส์ก็เป็นผู้ถือหุ้นของ Berkshire อยู่แล้วครับ พอดีมีตำแหน่ง board ว่าง ผู้ถือหุ้นก็อยากจะให้ Gates มาเป็นกรรมการบริหารด้วยครับ

[/quote]

คนที่มี power มากกว่าบิลเกตส์ ผมว่าเป็นตระกูล Wal-Mart นะครับ

ตระกูลนี้มีเงินมากกว่า Gates รวมกับ Buffet อีกครับ

บิลเกตส์ กับ บัฟเฟต เขาเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว บิลเกตส์ก็เป็นผู้ถือหุ้นของ Berkshire อยู่แล้วครับ พอดีมีตำแหน่ง board ว่าง ผู้ถือหุ้นก็อยากจะให้ Gates มาเป็นกรรมการบริหารด้วยครับ[/quote]

ผมเคยอ่าน แซม วอลตัน ผมยอมรับว่า เขาสุดยอดจริงๆ ครับ เรื่องการเป็นนักประกอบการ ที่ชอบการแข่งขัน ถ้ารวมกันทั้งตระกูลก็น่าจะอย่างนั้นนะครับ เพราะ ขายของกินของใช้ จะขยายไปทั่วโลกด้วย

หวังว่า สามตระกูลนี้ (เกตส์+วอลตัน+บัฟเฟตต์) คงไม่รวมตัวกันทำธุรกิจนะครับ ไม่งั้น โลกอาจจะยุ่งเหยิงได้ อิอิ

Sam Walton ผู้ก่อตั้ง Wal-Mart ซึ่งเสียชีวิตไปกว่า 10 ปีแล้วถ้าเป็นนักลงทุนก็คงเป็น VI พันธุ์แท้ครับ รวยล้นฟ้าแต่ขับรถกระบะธรรมดาๆที่มีกรงหมาอยู่ท้ายรถ เวลาเข้าพักที่โรงแรมก็อยู่ห้องเดียวกันหลายๆคน เท่าที่ผมอ่านมา Sam Walton เป็นคนที่ Competitive มากและเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่หลงระเริงกับความสำเร็จในอดีต
ส่วน Bill Gates ผมเคยดูการบรรยาย เวลาที่เขาพูดถึง Microsoft ตาเป็นประกายทีเดียว ท่าทางก็ดูเหมือนคนทั่วๆไป ไม่มีทีท่าความโอ้อวด หยิ่งยโสอะไรเลยทั้งๆที่เป็นคนที่รวยที่สุดในโลก ผมเชื่อว่า Gates มีความสุขกับงานของเขาและมีความร่ำรวยเป็นผลพลอยได้ ไม่ใช่เริ่มต้นจากความคิดว่าอยากรวยแล้วค่อยมาคิดว่าจะทำอะไรดี ถึงรวย Gates เป็นคนชอบเรียนรู้มาก จะบริจาคเงินในเรื่องหนึ่งๆก็ต้องหาหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆมาอ่านให้กระจ่าง

WEB เขียน:Sam Walton ผู้ก่อตั้ง Wal-Mart ซึ่งเสียชีวิตไปกว่า 10 ปีแล้วถ้าเป็นนักลงทุนก็คงเป็น VI พันธุ์แท้ครับ รวยล้นฟ้าแต่ขับรถกระบะธรรมดาๆที่มีกรงหมาอยู่ท้ายรถ เวลาเข้าพักที่โรงแรมก็อยู่ห้องเดียวกันหลายๆคน เท่าที่ผมอ่านมา Sam Walton เป็นคนที่ Competitive มากและเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่หลงระเริงกับความสำเร็จในอดีต
ส่วน Bill Gates ผมเคยดูการบรรยาย เวลาที่เขาพูดถึง Microsoft ตาเป็นประกายทีเดียว ท่าทางก็ดูเหมือนคนทั่วๆไป ไม่มีทีท่าความโอ้อวด หยิ่งยโสอะไรเลยทั้งๆที่เป็นคนที่รวยที่สุดในโลก ผมเชื่อว่า Gates มีความสุขกับงานของเขาและมีความร่ำรวยเป็นผลพลอยได้ ไม่ใช่เริ่มต้นจากความคิดว่าอยากรวยแล้วค่อยมาคิดว่าจะทำอะไรดี ถึงรวย Gates เป็นคนชอบเรียนรู้มาก จะบริจาคเงินในเรื่องหนึ่งๆก็ต้องหาหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆมาอ่านให้กระจ่าง

ซุนวูกล่าวไว้ว่า ขุนศึกเก่ง มิเท่าชัยภูมิดี เปรียบได้กับการทำธุรกิจ เค้าว่าถ้าเราเลือกธุรกิจที่ดี ก็มีชัยได้ง่ายกว่า แต่ถ้าเราเลือกธุรกิจผิด ต่อให้เก่งกาจ ก็อาจพ่ายแพ้ แม้ชนะ ก็อาจต้องเหนื่อยลากไส้ ซึ่งเรื่องนี้ VI คงทราบดีอยู่แล้ว

แต่ถ้ามองในแง่ขุนศึกแล้ว ขุนศึกที่ผมชอบที่สุดในใจเลย ผมยกให้ ไมเคิล เดล ครับ

ทำไมผมชอบไมเคิล เดล ? เพราะว่าเค้ารวยอันดับต้นๆของอเมริกาเหมือนกัน จากธุรกิจ IBM PC Compattible ซึ่งเป็นยอดนรกแห่งชัยภูมิ

ในที่สุดเมื่อไม่นานมานี้ IBM ต้องขาย PC Unit ให้กับบริษัทสัญชาติจีนไป บางท่านอาจคิดว่าจีนเก่งมา เทคโอเวอร์ ได้ แต่แท้จริง Unit นี้ IBM อยากจะขายทิ้งมานานแล้ว เนื่องจากเป็นตัวถ่วงของธุรกิจ

Compaq เจ้าพ่อแห่ง PC ในอดีต ก็ประสบสภาวะย่ำแย่ จนในที่สุดต้องโดน Merge แบบเทคโอเวอร์ กับ HP ไป ซึ่ง ดังเตี่ยอุ้มค่อม HP เองก็ทำธุรกิจ PC ได้ห่วยแตก มีกำรี้กำไร เลี้ยงบริษัทก็มาจากการขายเครื่องพิมพ์ และ ตลับหมึก(แพงๆ) เท่านั้น หล่อเลี้ยง UInit อื่นๆซึ่งขาดทุนแทบจะเรียกได้ว่าเกือบทุก Unit

แต่ว่า Dell คอมพิวเตอร์ กับสร้างความมั่งคั่ง จากการ ขาย PC เพียงอย่างเดียว !!!! จนรวยอันดับต้นๆของอเมริกา แล้วประสบความสำเร็จได้ยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน ทำได้ยังไงกับสินค้าที่แม้แต่ พันทิพย์พลาซ่า ยังทำขายได้ โดยไม่มีความแตกต่าง !!?

ผมถึงชื่นชมวรยุทธ ของท่านไมเคิลเดลมากครับ ใครอยากทราบประวิติ ลองไปซื้อหนังสือแปลมาอ่านได้ครับ ปล.แม่ของเค้าเป็นนักค้าหุ้นนะ อิอิ

แถมท่านคัดท้ายนิดนึงครับ ในช่วงเวลาสิบห้าปีที่ผ่าน ไม่มีบริษัทใดในโลกที่มี
อัตราการเติบโตสูงกว่าหรือใกล้เคียง Dell แม้แต่ Microsoft และพวก dot com

อิ อิ แถมท่าน CK นิดนึงครับว่า คนที่ได้กำไรจากการซื้อหุ้น Dell จนโด่งดังก็คือ Bill Miller แห่ง Legg Mason ตอนที่ซื้อ P/E ของ Dell แค่ 6 เท่า แถมยังโดนต่อว่าด้วยว่าเป็น VI ทำไมถึงซื้อ Dell

Sam Walton ผู้ก่อตั้ง Wal-Mart ซึ่งเสียชีวิตไปกว่า 10 ปีแล้วถ้าเป็นนักลงทุนก็คงเป็น VI พันธุ์แท้ครับ รวยล้นฟ้าแต่ขับรถกระบะธรรมดาๆที่มีกรงหมาอยู่ท้ายรถ เวลาเข้าพักที่โรงแรมก็อยู่ห้องเดียวกันหลายๆคน เท่าที่ผมอ่านมา Sam Walton เป็นคนที่ Competitive มากและเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่หลงระเริงกับความสำเร็จในอดีต

อืม นั่นก็เป็นด้านนึง แต่คนรวยก็คือคนรวยนะ เขาจะใช้เงินก็ไม่น่าจะผิดอะไร
ผมเองก็เคยอ่านใน reader digest เล่มนั้นมีแต่เรื่องของ sam walton ก็อย่างที่ว่าไว้ ว่าใช้รถกระบะเก่าๆ เวลาไปเยี่ยมชมร้าน wal-mart ที่สาขาต่างๆ ก็ใช้วิธีไม่ให้ใครรู้ว่าตัวเองไป เพื่อที่จะรู้จริงๆว่า บริการเป็นอย่างไร

ขอเสริมอีกนิดนึง คือ ที่บ้านของ Sam เป็นคฤหาสน์ที่มีห้อง 70 ห้อง แต่ละห้อง จะมีของต่างๆ จากทั่วโลก

อยากรวยบ้างจัง