....................
....................................................
....................................................
เมื่อครั้งยังวัยเยาว์ การฝากเงินไว้กับธนาคารเคยให้ผลตอบแทนถึงระดับ 15% ต่อปี ถ้าคุณมีเงินก้อนแล้วนำไปฝากบัญชีออมทรัพย์ ก็แทบไม่ต้องหางานทำแล้ว นอนกินดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ สบายๆ ผู้คนไม่ได้สนใจเรื่องการลงทุนมากนัก (จะเสี่ยงไปทำไมกันล่ะ?) หากจำไม่ผิดในยุคสมัยที่ผมเริ่มต้นย่างเท้าเข้าไปยังตลาดหุ้นไทย ดอกเบี้ยเงินฝากน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2-3% ทั้งหมดนี้คือสภาพแวดล้อมด้านการเงินและการลงทุนของผมในยุคแรก
....................................................
...
ผลตอบแทนตลาดหุ้นในระยะยาวค่อนข้างดำเนินไปตามทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจระดับมหภาคของประเทศ หากสถานที่แห่งนั้นมีสภาวะทางเศรษฐกิจเอื้ออำนวย ตลาดหุ้นก็คงมีอนาคตอันสดใส หากเศรษฐกิจย่ำแย่ การคาดหวังผลตอบแทนสูงๆในตลาดหุ้นนั้นคุณจำเป็นต้องมีความสามารถมากกว่า เก่งกว่าค่าเฉลี่ยของคนส่วนใหญ่ ซึ่งผมคิดว่าหากเราขยันและทุ่มเทมากเพียงพอก็ยังสามารถไขว่คว้าผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจได้ เช่น เราต้องขุดคุ้ย พลิกแผ่นดินหาหุ้นเติบโตสูงให้เจอเป็นคนกลุ่มแรก หรืออาจเข้าซื้อหุ้นที่คนส่วนใหญ่มีมุมมองในแง่ลบ แต่ความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้แย่อย่างที่คิด
....................................................
....................................................
....................................................
การลงทุนต้องค้นหาจริตส่วนตัวของตนเองให้เจอ ผมชอบอ่านหนังสือตั้งแต่เด็กๆ ชอบตั้งคำถามเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมรอบตัว และพยายามค้นหาคำตอบ เลยคิดว่าอาชีพที่เน้นการอ่านและวิเคราะห์น่าจะเหมาะสมกับตัวตนมากที่สุด ในช่วงแรกของการศึกษาด้านการลงทุนนั้น คุณจำเป็นต้องเรียนรู้หลากหลายแนวทาง และเมื่อไหร่ที่พอจะจับทิศทางได้ก็ควรมุ่งเน้นไปยังเส้นทางนั้นเลย
....................................................
....................................................
ความยากของการลงทุนมักเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ย่ำแย่ มันตอกย้ำว่าคุณจะยังเชื่อมั่นหรือเปล่าว่าคุณมีศักยภาพมากพอที่จะหวนกลับมายืนในจุดซึ่งดีกว่าสิ่งที่เคยเป็น หากคุณเริ่มไม่มั่นใจในความสามารถของตนเอง ผมคิดว่านั่นแหล่ะจะทำให้ผลลัพธ์ที่บังเกิดขึ้นมากลายเป็นหนังคนละม้วน ที่สุดแล้วการอยู่ในสภาพแวดล้อมหรือสังคมที่ผู้คนมองโลกในแง่บวกเป็นเรื่องสำคัญมาก การลงทุนจะต้องมีช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างแน่นอน และทุกครั้งที่ขาดทุนไม่ได้หมายความว่าคุณจะพ่ายแพ้ในระยะยาว ซึ่งคนส่วนใหญ่มักถอดใจและล้มเลิกกลางคัน
....................................................
การลงทุนในหุ้นควรมองภาพรวมของพอร์ตทั้งหมด การถือครองหุ้นที่ขาดทุนบ้างไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย หากสามารถทำผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายในระยะยาว เมื่อคุณคาดหวังที่จะทำให้อาชีพการลงทุนสามารถเลี้ยงชีพได้จริง คุณต้องลงทุนในความรู้ให้มากที่สุด จนถึงวันหนึ่งความรู้บางอย่างที่ได้ลงแรงเอาไว้จะมอบผลตอบแทนอันคุ้มค่าคืนกลับมาอย่างคาดไม่ถึง วินัยและความรู้คือเครื่องมือการันตีว่าในระยะยาวคุณจะประสบความสำเร็จในโลกแห่งการลงทุน
.........
...
...
...
...
...
คุณสมบัติ 3 ข้อแรกเป็นเรื่องที่ฝึกฝนได้ เชี่ยวชาญตามประสบการณ์ที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนเรื่องของสภาพจิตใจนั้นยากมาก ผมมีมุมมองว่าจิตวิทยาเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถฝึกฝนหรือพัฒนาได้อย่างลื่นไหลทั้งหมด การฝึกฝนสติและสมาธิก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง สุดท้ายการสร้างพอร์ตลงทุนให้เติบโตได้ในระยะยาวนั้นผมคิดว่าคุณต้องมีคุณสมบัติโดยรวมให้ครบทั้ง 4 ข้อนี้ และหมั่นฝึกฝนทบทวนความรู้ตลอดเส้นทางการเป็นนักลงทุน ตลอดเส้นทางแห่งชีวิต
.....................
...
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวัน นะครับ
....................................................
...
...
...
...