เราจะรู้ได้อย่างไรว่าตลาดจะปรับ PE ของหุ้นตัวนั้นๆ หรืออุตสาหกรรมนั้นๆขึ้น/ลง?

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
WT10
Verified User
โพสต์: 8
ผู้ติดตาม: 7

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าตลาดจะปรับ PE ของหุ้นตัวนั้นๆ หรืออุตสาหกรรมนั้นๆขึ้น/ลง?

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เนื่องจากผมพึ่งเข้าตลาดหุ้นได้ไม่นาน ตอนนี้เวลาประเมินมูลค่าหุ้นด้วย PE ในอดีต หรือตามกลุ่มอุตสาหกรรม


จึงอยากจะสอบถามความคิดเห็น และขอคำแนะนำจากพี่ๆที่อยู่ในตลาดมานานครับ


เราจะรู้ได้อย่างไรว่าตลาดจะปรับ PE ของหุ้นตัวนั้นๆ หรืออุตสาหกรรมนั้นๆขึ้น/ลง?


ขอบคุณพี่ๆมากครับ
lukton2000
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 353
ผู้ติดตาม: 14

Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าตลาดจะปรับ PE ของหุ้นตัวนั้นๆ หรืออุตสาหกรรมนั้นๆขึ้น/ลง?

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ถ้าไม่มองในแง่ macro ปัจจัยหลักก็คือการเติบโตของกำไรและความต่อเนื่อง เช่นมีหุ้นตัวหนึ่งกำไรสม่ำเสมอ แต่เติบโตแค่ 5-10 % ต่อปี ปันผลใช้ได้ หุ้นก็อาจจะมีการซื้อขายกันที่ PE 10-12 แต่ถ้าด้วยเหตุใดก็ตามทำให้ core profit จะมีโอกาสเติบโตได้เป็น 20-30 % ต่อเนื่องไปอีกหลายปี เมื่อนักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มตระหนักรู้ ราคาหุ้นก็จะขยับขึ้นไปเทรดที่ PE สูงขึ้น เช่นเป็น 15-30 เท่า ขึ้นอยู่กับความคาดหวัง และกระแสการเก็งกำไร รวมทั้งความสนใจจากรายใหญ่
max888
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1484
ผู้ติดตาม: 415

Re: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าตลาดจะปรับ PE ของหุ้นตัวนั้นๆ หรืออุตสาหกรรมนั้นๆขึ้น/ลง?

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอเสริมจากพี่ที่ตอบไปก่อนหน้าครับ

ถ้าตอบตามทฏษฏี PE มักจะปรับตาม growth ของบริษัทหรืออุตสาหกรรม ตามสมการ
Justified-PE-Ratio-Formula.jpg
นั่นแปลว่า เราอาจจะพอ quantify ระดับของ PE ที่ควรจะเป็นของบริษัทนั้นๆได้ แต่มุมมอง growth อย่างเดียว อาจจะไม่ครบถ้วน เพราะมีอีกตัวแปรคือ Ke ซึ่งคือ required return ของ Equity
นั่นแปลว่า PE จะสูงหรือต่ำ ตามทฤษฏีแล้ว คือ g เทียบกับ Ke ซึ่งไม่ได้ผิดจากหลักการที่ว่า G สิ่งสูง PE ก็จะสูงตาม
แต่อีกมุม คือ บางอุตสาหกรรม Ke ต่ำ พอมี growth ที่อาจจะไม่สูงมาก ก็อาจจะทำให้ PE สูงได้ เช่น อุตสาหกรรมโรงไฟฟ้า ที่ PE ถูก rerate ขึ้นมา
หรือบางอุตสาหกรรมที่ Ke สูง ถึง growth จะสูง แต่ด้วยความเสี่ยงที่สูงทำให้ Ke สูงตามไปด้วย นักลงทุนมักจะไม่ค่อยให้ PE สูงแม้ growth จะแรง เช่น กลุ่ม commodity หรืออสังหาริมทรัพย์เป็นต้น
เพราะฉะน้้นสรปตามทฤษฏีคือ g จะเอาไปเทียบกับความเสี่ยงของบริษัท ค่อยออกมาเป็น PE ที่ควรจะเป็น
นอกจากนี้ยังมีอีกมุม คือ เอา PE ไปเทียบกับ growth ออกมาเป็น PEG ซึ่งปกติถ้าเกิน 1 ไปมากๆ จะถือว่า แพง เป็นต้น

อันนั้นตามทฤษฏี แต่ความเป็นจริงในตลาด ราคาก็คือจิตวิทยาหมู่ของนักลงทุน ซึ่งก็มีนักลงทุนไม่น้อยที่ไม่ได้มาสนใจว่า PE ควรจะเป็นเท่าไหร่ ตราบใดที่ ราคาที่เค้าซื้อ แล้วยังเชื่อว่ามีคนที่กล้าซื้อต่อในราคาที่แพงกว่า ในสถานการณ์นี้ก็ต้องเข้าใจว่า อยู่ในสภาพตลาดของการเก็งกำไร พูดอีกอย่างคือ ตลาดจะปรับ PE ขึ้นลงตามสภาวะการเก็งกำไรว่ามากหรือน้อย ไม่สามารถบอกได้ว่า PE ที่เหมาะสมจะเป็นเท่าไหร่ เราจะรู้ต่อเมื่อราคามันฟ้องออกมาแล้วเท่านั้นแหละครับ
"Because nobody wants to get rich slow."-Warren Buffett-
ร่วมพูดคุยหุ้นต่างประเทศกับผมได้ที่เพจ ชีพจรลงทุน ครับ
https://www.facebook.com/profile.php?id=61550070748326
โพสต์โพสต์