ขั้นตอนการลงทุนหุ้นแบบวีไอ / Billionaire VI

[always24]

ขั้นตอนการลงทุนหุ้นแบบวีไอ

ผมลงทุนในหุ้นมา 21 ปีตั้งแต่ปี 40 ช่วงหลังเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง จำได้ว่าตอนนั้นวอลุ่มการเทรดหุ้นวันละหลักพันล้านบาท ตลาดเงียบเหงามากเหมือนเมืองล้างเพิ่งโดนระเบิดทิ้งบอมบ์ ผู้คนต่างหวาดกลัวการลงทุนในหุ้นเพราะนักลงทุนแบบเก็งกำไรหลายคนฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหาหนี้สินและล้มละลาย โดยสรุปตอนนั้นความรู้สึกตลาดหุ้นเหมือนเป็นบ่อนการพนันที่เข้ามาเสี่ยงโชคมากกว่า

หลังจากนั้นก็ใช้เวลา 13 ปีในการลงทุนแบบไม่รู้พื้นฐานหุ้นที่ลงทุนเลยเล่นตามข่าวอย่างเดียว จนถึงปี 2553 ก็ได้ศึกษาการลงทุนหุ้นแบบวีไอโดยอ่านหนังสือหลายเล่มทั้ง ตีแตก Intelligent Investor Buffetology จึงได้เริ่มลงทุนแบบวีไอจนถึงทุกวันนี้

ลงทุนขาดทุนน้อยมาก ผลตอบแทนต่อปีก็ทำได้อย่างที่คาดหวังไว้ (โดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 20% ต่อปี) ขั้นตอนการลงทุนที่ผมใช้ประจำจะเป็นลักษณะ Top Down Approach ดังนี้

1. เลือกอุตสาหกรรมที่เราชอบและถนัด วอร์เรน บัฟเฟตต์บอกว่าจงแข่งกับนักลงทุนคนอื่นด้วยขอบเขต Circle of competency เช่นถ้าเราเก่งในอุตสาหกรรมค้าปลีกเราก็ไม่ควรไปลงทุนในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเพียงเพราะราคาปรับตัวขึ้นจนดึงดูดความสนใจเราเข้าไปลงทุน โดยส่วนตัวลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ค้าปลีกและอาหาร เพราะคาดการณ์อนาคตได้ง่ายกว่า หลายท่านอาจจะโต้แย้งว่าผมสามารถคาดการณ์เทคโนโลยีได้อย่างไร หุ้นเทคโนโลยีบางตัวที่อเมริกามีคูเมืองป้องกันคู่แข่งได้อย่างแข็งแกร่งทำให้สามารถคาดการณ์อนาคตในอีก 10 ปีข้างหน้าได้

2. อ่าน Annual Report เพื่อเข้าใจธุรกิจและงบการเงิน เข้าใจธุรกิจแล้วใช้ Five Forces Model มาช่วยวิเคราะห์จะเยี่ยมมาก ส่วนงบการเงินโดยส่วนตัวเข้าใจและอ่านแบบนักลงทุนเท่านั้น ไม่ได้ใช้การคำนวณหามูลค่าหุ้นที่ซับซ้อนแบบ Discount Cash Flow (DCF)

3. ลงสำรวจตลาดดูสินค้าและบริการของบริษัทที่เราจะลงทุน เช่น เข้าไปลองชิมอาหารโรงแรมที่เราลงทุน หรือเข้าไปดูจำนวนลูกค้าที่เข้าใช้บริการว่ามากน้อยแค่ไหน จริงๆข้อนี้อย่าไปให้น้ำหนักมากเกินไปเพราะสาขาที่เราไปดูอาจเป็นแค่ตัวอย่างที่น้อยมากจากสาขาทั้งหมดที่มี นอกจากนี้การค้นหาข้อมูลของบริษัททางอินเตอร์เน็ตก็เป็นแหล่งข้อมูลที่ดีมากเพราะจะได้รับรู้ข้อมูลทั้งด้านดีและร้าย (ถ้ามี)

4. คำนวณหาราคาที่เหมาะสมโดยใช้หลักการ Present Value อย่างง่ายโดยเลือกบริษัทที่มีผลประกอบการณ์ที่เติบโตอย่างมั่นคงอย่างน้อย 15% ต่อปี คาดการณ์ Eaning per share (EPS) ใน 10 ปีข้างหน้าแล้วคิดหาค่า Present Value กลับมาเพื่อหามูลค่าที่เหมาะสมในปัจจุบัน ผมใช้ IRR เผื่อไว้ซัก 15%

5. เข้าซื้อหุ้นโดยส่วนมากจะแบ่งซื้อ 2-3 ครั้งเพราะเรามีความมั่นใจกับราคาที่ลงทุน

6. ติดตามผลประกอบการณ์รายไตรมาสแต่ส่วนมากผมติดตามข่าวของบริษัทฯรายวันด้วยเพราะความชอบโดยส่วนตัว

7. ถ้าหุ้นไม่เป็นไปอย่างที่เราคาดการณ์ไว้เมื่อลงทุนไปซัก 2-3 ปีก็โยกการลงทุนไปในหุ้นตัวอื่นๆ ถ้ายังดีอยู่ก็ถือจนเป็นมรดกให้ลูกหลาน

ทั้งหมดนี้เป็นขั้นตอนที่ผมใช้ลงทุนแบบวีไอมา 8 ปีล่าสุดทั้งในประเทศและที่อเมริกาทำให้สามารถสร้างผลตอบแทนการลงทุนอย่างน่าพอใจ ผมมีความเชื่อแนวทางการลงทุนแบบวีไอและจะลงทุนเรื่อยๆไปจนแก่ตัวแล้วส่งมอบให้ลูกหลานครับ

#การลงทุนแบบวีไอ #วอร์เรน #บัฟเฟตต์ #หุ้นวีไอ

[คาปูร้อน]

กรุณายกตัวอย่างวิธีคำนวณข้อ 4 ให้หน่อยครับผม ขอบคุณครับ