“บิทคอยน์” กับ “คนรุ่นใหม่” ตอนจบ
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 30, 2018 9:08 am
หนังสือพิมพ์ โพสต์ทูเดย์
“บิทคอยน์” กับ “คนรุ่นใหม่” ตอนจบ
ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์
วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต
http://www.CsiSociety.com
Add Line: @CsiSociety
เราได้คุยกันเรื่อง “บิทคอยน์” กับ “คนรุ่นใหม่” ตอนที่ 1 ไปแล้ว ซึ่งเราคุยกันถึง หนึ่ง คนรุ่นใหม่...โอกาสจากงานประจำไม่ดีนัก สอง เริ่มต้นลงทุนด้วยเงิน 1,000 บาท...คุณจะได้อะไรบ้าง? และสาม เอาง่ายๆ...เริ่มต้นอย่างไรดี? วันนี้ขอคุยต่ออีก 3 หัวข้อที่เหลือดังนี้ครับ
สี่ ดูแนวโน้มราคาของบิทคอยน์ง่ายๆ อย่างไร?
วิธีง่ายๆที่ผมอยากแนะนำให้คุณผู้อ่านดูแนวโน้มราคาของบิทคอยน์ก็คือ การดูจากเว็บไซต์ซื้อขายบิทคอยน์ใหญ่ๆในต่างประเทศ ผมเคยค้นมาแล้วหลายแห่ง แต่คิดว่า 3 แห่งนี้ดีที่สุด
- https://www.bitfinex.com/
- https://www.bithumb.com เว็บซื้อขายที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้
- https://bitflyer.com/ เว็บซื้อขายที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น
สามเว็บไซต์ซื้อขายบิทคอยน์ด้านบนนี้อยู่ในกลุ่มของเว็บไซต์ที่ซื้อขายบิทคอยน์มากที่สุดในโลก ดังนั้นก่อนที่คุณผู้อ่านจะซื้อบิทคอยน์ ก็แวะเข้าไปดูระดับราคาในเว็บไซต์ทั้งสามแห่งข้างต้นนี้เสียก่อน เพราะระดับราคาของเว็บไซต์ทั้งสามแห่งนี้ มักจะชี้นำราคาของเงินสกุลดิจิตอลในตลาดอื่นๆทั่วโลก และเพื่อจะได้วางแผนในการซื้อขายเงินสกุลดิจิตอลได้
ห้า ควรลงทุนในเงินสกุลดิจิตอลตัวไหนดี?
“บิทคอยน์” ควรจะเป็นตัวแรกที่หลายๆคนอาจจะเริ่มต้นลงทุนได้ เพราะบิทคอยน์มีปริมาณการซื้อขายเป็นอันดับหนึ่ง มีราคาที่ผันผวนเริ่มจะน้อยลงมากแล้ว ทำให้ความเสี่ยงในปัจจุบันก็ลดลงมามากเมื่อเทียบกับในอดีต เช่น ปี 2555-2557 ราคาบิทคอยน์เริ่มจากประมาณ 5 ดอลลาร์ แล้วก็ทะยานขึ้นไปสูงกว่า 1,000 ดอลลาร์ คิดเป็นเพิ่มขึ้นกว่า 200 เท่าภายในระยะเวลาประมาณ 2 ปี หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์บริษัทเมาท์ก๊อกซ์ที่อยู่ในกรุงโตเกียว และเป็นศูนย์รับแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดในโลกในเวลานั้น เกิดปัญหาโดยมีคนเข้ามาแฮ็คระบบและขโมยบิทคอยน์ไป ทำให้ราคาบิทคอยน์ตกลงไปต่ำกว่า 200 ดอลลาร์ หรือตกลงไปกว่า 80% ภายใน 6 เดือน ทุกวันนี้โอกาสที่ราคาบิทคอยน์จะตกลงมาต่ำกว่า 50% ยังเป็นไปได้ยากมาก บิทคอยน์...จึงเป็นเงินสกุลดิจิตอลสำหรับคนมือใหม่ที่คิดจะลงทุนในเงินสกุลดิจิตอล ส่วนเงินสกุลอื่นๆที่จะแนะนำมีดังนี้ครับ
- Ethereum (ETH) อีเธอเรียม เป็นเงินสกุลดิจิตอลที่สามารถเขียนโปรแกรมได้ (Programmable Money) โดยผู้คิดค้นเงินตัวนี้ก็คือ โปรแกรมเมอร์หนุ่มชาวรัสเซียที่มีชื่อว่า Vitalik Buterin หลังจากนั้นระบบของอีธีเรียมก็เป็นที่แพร่หลาย และมีการระดมทุนเงินสกุลดิจิตอลใหม่ๆ (Initial Coin Offering) โดยใช้ระบบอีเธอเรียมกันอย่างมากมาย
- Ripple (XRP) ริปเปิลเป็นเงินสกุลดิจิตอลที่ออกแบบมาเพื่อการโอนเงินโดยเฉพาะ ตัวอย่างเช่น บิทคอยน์ใช้เวลาโอนเงินประมาณ 10 นาที อีเธอเรียมใช้เวลา 5 นาที ขณะที่ริปเปิลใช้เวลาเพียง 3 วินาที ทุกวันนี้ ริปเปิลได้รับการตอบรับค่อนข้างดีมากจากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการระดับโลกหลายรายด้วยกัน เช่น Bank of America, Merrill Lynch, Mitsubishi UFJ Financial Group หรือแม้กระทั่งธนาคารไทยพาณิชน์ในประเทศไทย
- Bitcoin Cash (BCH) บิทคอยน์แคชเป็นเงินสกุลดิจิตอลอีกตระกูลหนึ่งที่มีรากเหง้ามาจากบิทคอยน์ ในความรู้สึกของผม ผมคิดว่าบิทคอยน์แคชเป็นเงินสกุลดิจิตอลที่มีเรื่องของการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องมากที่สุด เริ่มตั้งแต่การอยากเปลี่ยนชื่อตัวเองให้เป็นบิทคอยน์ และเปลี่ยนชื่อบิทคอยน์ดั้งเดิมให้กลายไปเป็นบิทคอยน์เลกาซี (Bitcoin Legacy) แต่ในที่สุดก็ทำไม่สำเร็จ การออกข่าวปัญหาของบิทคอยน์ที่มีค่าโอนที่สูงมากและโอนช้า การออกข่าวว่าผู้คนย้ายไปใช้บิทคอยน์แคชกันหมดแล้ว เพราะค่าโอนถูกและรวดเร็ว แต่ทุกวันนี้บิทคอยน์แคชก็ยังไม่สามารถยึดบัลลังก์จากบิทคอยน์ได้
ในปีที่ผ่านมาริปเปิลเป็นเงินสกุลดิจิตอลที่สร้างผลตอบแทนสูงที่สุดคือเพิ่มขึ้นเกือบ 360 เท่า ในขณะที่อีเธอเรียมเพิ่มขึ้นมากกว่า 90 เท่า และบิทคอยน์เพิ่มขึ้นประมาณ 13 เท่า ผมเองได้ลงทุนทุกตัวที่กล่าวมาแล้วทั้งสิ้น...ยกเว้นอีเธอเรียมครับ
หก สุดยอดวิทยายุทธในการลงทุนเงินสกุลดิจิตอล
ไม่ว่าคุณผู้อ่านจะเป็นคนที่ลงทุนแบบพื้นฐานหรือลงทุนแบบเทคนิคอลก็ตาม ผมขอแนะนำสุดยอดวิทยายุทธในการลงทุนเงินสกุลดิจิตอล นั่นคือ “กลยุทธ์ในการเอาเงินออก” ผมเองมีความรู้สึกว่า ด้วยโมเมนตัมขาขึ้นของเงินสกุลดิจิตอลในขณะนี้ คุณผู้อ่านหลายท่านน่าจะพบกับช่วงเวลาขาขึ้นหลายต่อหลายครั้งเป็นแน่ และน่าจะมีหลายครั้งที่เราอยากจะนำเงินเขาไปลงทุนเพิ่มขึ้นอีก...เพิ่มขึ้นอีก...และเพิ่มขึ้นอีก จนกระทั่งอาจคิดถึงการกู้หนี้ยืมสินมาลงทุนในเงินสกุลดิจิตอลกันเลยทีเดียว ผมเองก็มีช่วงเวลาที่นำเงินกู้มาลงทุนเหมือนกัน แต่ผมจะกลับตัวได้เร็ว และผมมักจะใช้กลยุทธ์การเอาเงินออกอย่างสม่ำเสมอ
กลยุทธ์ “การเอาเงินออก” ผมมักจะตั้งเป้าหมายที่เงินสกุลดิจิตอลนั้นๆ ราคาขึ้นไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ แล้วก็ขายออกไปจำนวนหนึ่ง ส่วนเงินที่ได้มาจะแบ่งสองก้อน ก้อนแรกจำนวนมากจะนำไปลงทุนในกองทุน ผมจะไม่นำเงินที่ขายได้ไปลงทุนในหุ้นไทย เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว ผมต้องใช้สมองในการลงทุนทั้งเงินสกุลดิจิตอลและทั้งหุ้นไทย ผมคิดว่าการโฟกัสการลงทุนเป็นตัวๆไป...น่าจะดีกว่า ส่วนเงินก้อนที่สองที่น้อยกว่า ผมก็จะนำไปทำบุญบริจาคบ้าง แจกญาติมิตรบ้าง นำไปซื้อของสะใจบ้าง ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ ไม้กอล์ฟ หรือแม้กระทั่งรถยนต์ เพื่อไปกระตุ้นจิตใต้สำนึกของตัวผมเอง...ให้เกิดความพากเพียรพยายามที่จะตั้งใจศึกษาและเอาชนะการลงทุนในเงินสกุลดิจิตอลครั้งต่อๆไป
ที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้...เป็นตัวตนจริงๆของผม ซึ่งผมก็คงพยายามกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ขยันหมั่นเพียรในการลงทุนให้มากที่สุด เพื่อเอาชนะความยากจนและเปลี่ยนชีวิตของเขาให้มีฐานะและความสุขที่เพิ่มขึ้น ท้ายนี้ขอให้คุณผู้อ่านประสบความสำเร็จในการนำองค์ความรู้ที่ได้ศึกษามา นำไปพิชิตการลงทุนทุกประเภทให้บรรลุผลสำเร็จและนำมาซึ่งชีวิตที่มีความสุขมากขึ้นนะครับ
หาอ่านบทความ และความรู้ด้านการลงทุนของผู้เขียนได้เพิ่มเติมได้ที่ http://www.doctorwe.com
บทความ...“บิทคอยน์” กับ “คนรุ่นใหม่” ตอนที่ 1
http://www.doctorwe.com/posttoday/20180125/6836
บทความ… เงิน 1,000 บาท กับการลงทุนใน “บิทคอยน์” เชิญอ่านได้ที่ลิงก์นี้
http://www.doctorwe.com/bangkokbiznews/20171215/6809
บทความ… “บิทคอยน์” สร้าง…ความร่ำรวย ได้หรือไม่? เชิญอ่านได้ที่ลิงก์นี้
http://www.doctorwe.com/bangkokbiznews/20170922/6815
บทความ...“บิทคอยน์” เรื่องราวของ…คนกลัวตกรถ…คนติดดอย
http://www.doctorwe.com/bangkokbiznews/20171117/6820
บทความ... “บิทคอยน์” ความเชื่อ vs. ความจริง
http://www.doctorwe.com/bangkokbiznews/20180112/6826