หน้า 1 จากทั้งหมด 1

แนวคิดการลงทุนหุ้นปันผล

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 17, 2017 5:28 pm
โดย sert
ผมสนใจลงทุนหุ้นปันผล ถือยาว เก็บปันผลไปเรื่อยๆ ไม่จำเป็นก็จะไม่ขาย เป้าหมายปันผล 5%ขึ้นไป ผมเริ่มจากการเลือกกิจการที่ดี ผลงานดี จ่ายปันผลสม่ำเสมอมานาน(ตามหลักการของ VI) ในอตีตผลเคยซื้อ NTV SAUCE EASTW ตอนที่ปันผลยังมากกว่า5% ปัจจุบันก็ยังถืออยู่ไม่ได้ขาย แต่ไม่ซื้อเพิ่มเพราะปันผลไม่ถึง5% ตอนนี้ผมเล็ง TIP TTW TMD LH ซึ่งทั้ง4ตัว ในเรื่องกิจการ ผลงาน ประวัติการจ่ายปันผล ผมว่าโอเค แต่ผมไม่แน่ใจแนวคิดและการทำแบบผม มันใช้ได้หรือไม่ ดูมันง่ายไปไหม หรือควรระมัดระวังอะไร คือเมื่อเราคัดเลือกกิจการแล้ว เราก็เพียงรอราคาให้ได้ปันผลมากกว่า5% แล้วก็ทยอยซื้อ เผื่อราคาตกลงมาอีก เราซื้อเพิ่มก็จะได้จำนวนหุ้นมากขึ้น ต่อเมื่อราคาสูงขึ้นจนปันผลไม่ถึง5% เราก็หยุดลงทุน ไปหาตัวอื่นต่อไป แนวคิดและการทำแบบผม รบกวนพี่ๆ ช่วยเสนอความเห็นให้ด้วยนะครับ ขอขอบคุณอย่างสูง

Re: แนวคิดการลงทุนหุ้นปันผล

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 17, 2017 5:55 pm
โดย fallenfault
น่าจะต้องดู อนาคตของธุรกิจด้วยว่าสามารถเติบโตได้ไหม หรือเรื่อยๆไม่โต หรือถดถอย
และDCA ของธุรกิจด้วยว่าบ.ไหนยั่งยืนกว่ากัน

เช่น สมมติว่าประวัติDividend yield ของธุรกิจสื่อตัวนึงสูงในระดับที่พอใจ แต่เมื่อเจอสถานการณ์ทีวีดิจิตอลแล้ว ในอนาคตจะเป็นอย่างไร
รึอย่างTTW ที่อาจจะไม่ต้องหาลูกค้ามากนัก และค่อนข้างผูกขาดในพื้นที่แต่ยังอาจจะขยายกำลังกลังการผลิตอีก แต่ก็จะมีเรื่องระยะเวลาสัมปทานที่ต้องมาคำนึงถึงด้วย

Re: แนวคิดการลงทุนหุ้นปันผล

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 17, 2017 6:21 pm
โดย chaitorn
ในทางการเงินนั้นเวลาที่บริษัทมีกำไร

จะต้องตัดสินใจ 3 เรื่องสำคัญ
1. การจ่ายปันผล
2. เก็บเงินไว้เพื่อการลงทุนขยายกิจการเพื่อเพิ่มผลกำไร
3. การซื้อหุ้นคืนหากราคาหุ้นต่ำกว่าพื้นฐานที่มีอยู่มากและบริษัทมีสภาพคล่องมากพอ

หากจ่ายปันผลมากโดยไม่มีการลงทุนขยายงานสุดท้ายปันผลในอนาคตอาจลดลงเพราะกิจการไม่สามารถเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันได้

หากเก็บเงินสดไว้มากแต่ไม่มีการลงทุนแบบนี้ก็ยิ่งทำลายมูลค่าเพราะเงินเฟ้อ


หากลงทุนขยายกิจการก็ต้องแน่ใจว่าการลงทุนนั้นให้ผลตอบแทนคุ้มค่าที่ดี

จะซื้อหุ้นคืนก็ต้องแน่ใจว่าพื้นฐานหุ้นขณะนั้นต่ำกว่าเป็นจริงการซื้อหุ้นคืนทำให้ตัวหารจำนวนหุ้นลดลงกำไรต่อหุ้นในอนาคตก็สูงขึ้นได้แม้กำไรรวมจะใกล้เคียงเดิม เป็นต้น

ดังนั้นการลงทุนหุ้นปันผลนั้น ก็ควรเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลเติบโตในระยะยาวด้วย หากจ่ายคงที่หรือจ่ายในอัตราที่ลดลง แบบนี้ก็อาจทำให้นักลงทุนตกหลุมพรางที่ปันผลดีระยะสั้นแต่ระยะยาวไม่ดีเป็นต้น ซึ่งบางกิจการก็หรอกล่อแมงเม่ามาซื้อหุ้นเพราะใช้ตัวล่อปันผลดีระยะสั้นครับ ต้องระวัง

Growth ก็ยังเป็น key สำคัญของหุ้นปันผลครับ

Re: แนวคิดการลงทุนหุ้นปันผล

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 18, 2017 12:43 am
โดย Tibular
อันตรายมากครับถ้าจะดูแค่ปันผล เพราะราคาหุ้นนั้นขึ้นลงไปตามปัจจัยต่างๆ นั่นอาจทำให้เราขาดทุนได้มากกว่าปันผลเสียอีก
เพราะฉะนั้น เราควรดูการเติบโตของกิจการมากกว่า หลักที่สำคัญนั้น ปีเตอร์ ลินซ์ ให้ดูว่า กิจการมีการเติบโตยังไง
คือ 1. ลดต้นทุน 2. เพิ่มราคา 3. ขยายตลาดใหม่ 4. ขายสินค้าและบริการให้ลูกค้าเดิมได้มากขึ้น 5. ตัดขายหน่วยธุรกิจที่ไม่มีกำไร
ลองมองดูให้ดี เรื่องพวกนี้ไม่ยากเกินไปครับ ทีนี้ เรื่องสำคัญ คือเรา ต้องให้ความสำคัญกับราคาซื้อหน่อย
ว่าแพง หรือ ถูก ซึ่งการที่เราจะรู้ว่าหุ้นแพงหรือถูก เราต้องสามารถประเมินมูลค่าหุ้นได้นั่นเอง ตรงนี้ต้องใช้ความรู้และประสบการณ์มากพอ...
และเวลาจะซื้อหุ้นต้องมีมาร์จินออฟเซฟตี้ครับ ไม่งั้นอันตราย จะมองแค่ปันผลเป็นหลักไม่ได้

Re: แนวคิดการลงทุนหุ้นปันผล

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 18, 2017 11:05 am
โดย sert
ผมขออนุญาติเปลี่ยนคำถามครับ คือหลังจากที่เราคัดสรร บริษัทที่เราจะลงทุนแล้วว่าดีในระดับที่เราพอใจ เป้าหมายหลักของเราคือ ปันผล5% จากนั้นเราก็ดูราคาที่ได้ปันผล5% ก็ซื้อลงทุน ในการคิดและทำแบบนี้ของผม ผมรู้สึกว่ามันง่ายเกินไป น่าจะมีจุดบกพร่องหรือทำอะไรได้ดีกว่านี้ เท่าที่นึกได้ตอนนี้ เช่น 1เปรียบเทียบกับบริษัทในกลุ่มเดียวกันว่าตัวที่เราจะซื้อดีกว่าตัวอื่น หรืออย่างน้อยก็อยู่ในค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม 2ดูกราฟราคา หาจังหวะที่เราจะซื้อ 3ข้อนี้เจอโดยบังเอิญ 3.1ปันผลจากกำไรสะสม 3.2ปันผลจากกำไรสุทธิและจากกำไรสะสม 3.3ปันผลจากกำไรสุทธิ ขอถามทั้งสามข้อ บอกนัยอะไรครับ ส่วนข้ออื่นๆ หรือแนวทางอื่นๆ รบกวนพี่ๆ ช่วยด้วยนะครับ

Re: แนวคิดการลงทุนหุ้นปันผล

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 18, 2017 1:51 pm
โดย nut776
ผมว่าใช้ บทสวด ดร นิเวศน์น่าจะช่วยได้เยอะนะคับ
รายได้โต
กำไรโต
ปันผลโต


คือบทสวด มันคือ บทสรุป พี่ๆที่ว่ามาด้านบน
น่าจะช่วยลดความผิดพลาดได้บ้าง

Re: แนวคิดการลงทุนหุ้นปันผล

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 20, 2017 9:58 pm
โดย dr1
ลองดูอันนี้ฮะ

แนวคิดลงทุนหุ้นปันผล มีหลายแง่มุม

http://www.valuewalk.com/2017/03/7-tips ... investors/

Re: แนวคิดการลงทุนหุ้นปันผล

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 20, 2017 10:16 pm
โดย dr1
แล้วก็ อย่าโฟกัสที่เป้าหมายปันผล5%อย่างเดียวนะฮะ
ผมเองโดนมาแล้ว ระวังกับดักด้วยฮะ

http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=35&t=9187

Re: แนวคิดการลงทุนหุ้นปันผล

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 21, 2017 5:06 pm
โดย miracle
การลงทุนในตลาด(ห)ลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คนส่วนใหญ่เน้นที่
ทำกำไรให้ได้สูงที่สุด โดยหาวิธีที่ให้ราคาสะท้อน ความเจริญเติบโตของกิจการให้มากที่สุด
ส่วนเรื่องปันผลนั้นเป็นเรื่องของดอกผลที่บริษัทจ่ายออกมาเป็นเงินสด ให้แก่ผู้ถือหุ้น เป็นรายการเดียวที่จ่ายสม่ำเสมอ
แต่ราคาของหุ้นที่บริษัทดำเนินการนั้น ตัวที่พลักดันคือ แรงเงินของนักลงทุนที่สะท้อนความเชื่อมั่น ,ความคาดการณ์,การเจริญเติบโตของบริษัทนั้นๆ ในช่วงเวลานั้นๆ

การซื้อขายหุ้นในตลาด(ห)ลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นั้น ไม่เสียภาษี แต่ทว่า เงินปันผลที่จ่ายมานั้นเสียภาษี ร้อยละ 10 ณ ที่จ่าย โดยที่เงินปันผลนั้น จ่ายมาจากบริษัทได้เสียภาษีนิติบุคคลในอัตราที่กำหนดไว้คือ ร้อยละ 20 (ยกเว้นพวก BOI ที่ไม่คิดภาษี ณ ที่จ่าย และไม่ต้องนำมารวม,ส่วนพวกอื่นๆนี้หัก ณ ที่จ่ายแต่ไม่สามารถคิดเครดิตภาษีคืนได้)
ดังนั้น ตอนปลายปีที่ยื่นภาษีบุคคลที่ จ่ายภาษีน้อยกว่า 25% สามารถขอคืนเครดิตภาษีแล้วคุ้มค่า นั้นเอง

ซื้อขายหุ้นสามารถใช้ Margin ได้ คือ กู้มาซื้อหุ้นแล้วเอาหุ้นค้ำประกันทำให้อัตราการทำกำไรเพิ่มขึ้น แต่อีกด้านคือ หากราคาหุ้นลงก็ต้องเพิ่มเงินลงไปด้วย เวลาขาดทุนก็อาจจะหมดตัวได้เลย รวยก็รวยได้เร็วและรวยมหาศาลได้
แต่ปันผลได้เพราะจำนวนหุ้นที่มีในมือ ไม่มีก็ไม่ได้ปันผล ซื้อช้าหลังจากขึ้นเครื่องหมายไม่ได้เงินปันผลอีก

ตามที่บอกไว้นั้นเอง ปันผลนั้น คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นน้ำจิ้ม นั้นเอง
:)

Re: แนวคิดการลงทุนหุ้นปันผล

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 21, 2017 7:01 pm
โดย atsu
ข้อควรระวังทั้งหมดรวมถึงเรื่องที่ควรศึกษาข้อมูลทุกด้านของหุ้น เพื่อนๆพี่ๆก็ช่วยกันเตือนแล้วผมคงไม่พูดซ้ำ

แต่ผมอยากพูดถึงจุดอ่อนของวิธีนี้อีกด้านคือการจะขายไปซื้อตัวอื่นแทนเมื่อปันผลไม่ถึง 5%แล้วอ่ะครับ
จากประสบการณ์ของผมหุ้นที่ปันผลมากอยู่แล้วถ้าไม่ได้มีการประกาศปันผลพิเศษอะไรแล้วอยู่ดีๆราคาหุ้นดันขยับวิ่งขึ้นไปมากจนทำให้ %ปันผลน้อยลง ส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะกำไรเพิ่มขึ้นมากหรือมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในบริษัทนะครับ ทำให้คนที่ติดตามหุ้นตัวนี้อย่างใกล้ชิดเข้ามาซื้อจนราคาพุ่งไปมาก ซึ่งถ้าเราไม่ได้ศึกษาบริษัทให้ดีแล้วเรารีบขายไปตั้งแต่ปันผลเริ่มไม่ถึง 5%แล้วก็มีโอกาสสูงมากครับที่เราจะขายหมูตัวเบ้อเริ่ม

Re: แนวคิดการลงทุนหุ้นปันผล

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 21, 2017 10:32 pm
โดย valued
ปันผลที่ดี มาจากบริษัทที่ดี ลองมองหาบริษัทที่ดีมีคุณภาพมากกว่าจะมองจากมุมปันผลอย่างเดียวดีมั้ยครับ ปันผลเยอะก็ดี แต่ว่าเราลองมองหาว่ากิจการนั้นแข็งแกร่งด้วยรึเปล่า อย่างเช่นตั้งคำถามเพิ่มเติมว่า
-บริษัทนั้นเป็นที่เท่าไหร่ในอุตสาหกรรม(ติด 1 ใน 3 น่าจะดี)
-มีความได้เปรียบอะไรที่บริษัทอื่นไม่มี(เช่น AOT ที่ผูกขาดสนามบินในประเทศไทยไม่มีคู่แข่ง)
-หนี้เยอะหรือน้อย (DE ยิ่งน้อยยิ่งดี)
-ลงทุนเยอะมั้ย ROE เท่าไหร่ (มากกว่า 15 ถือว่าดี)
-ผู้บริหารเป็นยังไง พูดอะไรไว้แล้วทำตามคำพูดได้มั้ย ขี้โม้รึเปล่า (Buffet เคยบอกว่าผู้บริหารที่ดี คือคนที่เรายอมยกลูกสาวให้แต่งงานกับเค้าได้)
-เทรนด์อุตสาหกรรมเป็นยังไง ขาขึ้นหรือขาลง (เลือกอุตสาหกรรมขาขึ้น พวกขาลงเหมือนพายเรือทวนน้ำครับ เหนื่อยมาก ตอนนี้ขาลงที่ชัดๆก็เช่นอุตสาหกรรมหนังสือ คนอ่านหนังสือน้อยลง หันไปอ่าน Tablet แทน)
-เปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมเดียวกันแล้วอัตรากำไรมากหรือน้อยกว่า ถ้าบริษัทอื่นได้ 10 % เราได้ซัก 15 % ก็แสดงว่าคุณภาพดีกว่า
-ดูรายได้กับกำไร ห้าปีย้อนหลังว่ามีแนวโน้มขึ้นตลอดมั้ย ถ้าขึ้นตลอด รายได้โต กำไรโตตลอดก็มีแนวโน้มที่จะได้ปันผลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามอัตราการโตของกำไร โดยที่เราไม่ต้องขายเลย
-ตั้งคำถามเกี่ยวกับคุณภาพกิจการหลายๆมุมดูครับ พยายามมองให้รอบทุกด้านทั้งโอกาส ความเสี่ยง คู่แข่ง หรืออื่นๆที่เราคิดได้ครับ ยิ่งถามเยอะเท่าไหร่แล้วเราหาคำตอบได้ก็แปลว่าเราเข้าใจกิจการนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ

ถ้าเราเจอบริษัทที่ปันผลดีด้วย แล้วคุณภาพดีด้วย อาจจะถือเป็นโชคสองชั้นเลยก็ได้นะครับ ...
ขอให้โชคดีในการลงทุนครับ

Re: แนวคิดการลงทุนหุ้นปันผล

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 22, 2017 11:13 am
โดย Koo
ผมคิดว่า ประเด็นของคุณ Sert แบ่งได้เป็น 2 คำถามสำคัญที่น่าสนใจมาก คือ
1. ถ้าต้องการผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 5% ต่อปี กลยุทธการเลือกซื้อหุ้นของบริษัทที่เราเลือกแล้วว่ามีพื้นฐานดี มีประวัติของผลกำไรและจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยเข้าซื้อในราคาที่ได้ปันผลมากกว่า 5% เป็นกลยุทธที่ดีหรือไม่

คำถามนี้น่าจะเป็นคำถามจริงๆที่คุณ Sert ต้องการจะสื่อ ผมคิดว่าถ้าความต้องการคือเงินปันผลประมาณ 5% ต่อปี กลยุทธนี้ก็เป็นกลยุทธที่ดีครับ มันอาจจะดูง่ายเกินไปอย่างที่คุณ Sert สงสัย แต่การลงทุนมันก็ง่ายๆแบบนี้แหละครับ ถ้าดูตัวอย่างบริษัทที่คุณ Sert ยกมา ยิ่งสะท้อนถึงวิธีการเลือกหุ้นที่ดีครับ แต่ละบริษัทมีข้อได้เปรียบในอุตสาหกรรมของตัวเอง มีงบดุลที่แข็งแกร่ง หนี้น้อย ถ้ารักษามาตรฐานการทำกำไรเท่าปีก่อนๆโดยที่ไม่มีการเติบโต ความสามารถในการจ่ายปันผลก็จะได้เท่าๆกับที่เราต้องการครับ
จริงๆมีอยู่จุดนึงที่ต้องถามคุณ Sert เพิ่มเติมคือ คำว่า "ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ขาย" นั้นหมายถึงความจำเป็นส่วนตัวรึเปล่า เพราะจริงๆต้องมีอีกความจำเป็นนึงคือ พื้นฐานบริษัทเปลี่ยนไปจนเราคิดว่ากำไรในอนาคตน่าจะลดลงจนจ่ายปันผลให้เราไม่ได้หรือได้น้อยลง

2. กลยุทธการลงทุนที่ต้องการเงินปันผล 5% ต่อปีนั้นถูกต้องหรือไม่
คำถามนี้คุณ Sert ไม่ได้ถามนะครับ แต่ผมคิดว่าเป็นคำถามที่พี่ๆและตัวผมเองคิดว่าสำคัญมากและอาจจะเป็นกับดักทางการลงทุนอย่างหนึ่ง แต่ละคำตอบจึงพยายามสื่อในมุมของคำถามนี้มากกว่า
มีสมการหนึ่งที่น่าสนใจคือ Expected return = Risk Free rate + Risk
ถ้าเราลงทุนในหุ้น เราควรคาดหวังผลตอบแทนเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าเรารับความเสี่ยงอยู่เท่าไหร่ เช่นถ้าเรารับความเสี่ยงเป็น 0 เท่ากับว่าผลตอบแทนเท่ากับอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี (Risk Free rate มักใช้ตัวนี้อ้างอิง) ซึ่งคือประมาณ 3% เราก็ควรลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล แต่ถ้าเราลงทุนในตราสารทุน Expected return จึงควรจะมากกว่า 3% เพราะความเสี่ยงมันมากกว่า
Risk ตัวความเสี่ยงถ้าเราถือหุ้นที่ราคาผันผวนมากกว่าตลาด (ค่า beta) แปลว่าเราต้องความหวังผลตอบแทนที่มากขึ้น แต่ถ้าเอาผลตอบแทนเฉลี่ยของตลาดย้อนหลังจะอยู่ที่ประมาณ 10% ดังนั้นภาพกว้างๆของการลงทุนในตลาดหุ้นเฉลี่ยควรจะได้ผลตอบแทนประมาณ 13% (กรณีที่เรารับความเสี่ยงได้เท่ากับตลาดรวม)
จริงๆคำถามว่า expected return 5% ต่อปีเหมาะสมหรือไม่ ไม่มีถูกผิดนะครับ ขึ้นกับความรู้ความสามารถในการลงทุนของแต่ละบุคคล (เพราะ Risk แปลผกผันกับ ความรู้) แต่สำหรับคุณ Sert ดูจากการตั้งคำถามและตัวอย่างบริษัทที่ยกมา ผมคิดว่าคุณ Sert มีความรู้ความเข้าใจที่ดีมาก ลองมอง expected return ที่มากกว่า 5% ต่อปีดูมั้ยครับ :D :D :D

Re: แนวคิดการลงทุนหุ้นปันผล

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 08, 2017 1:27 pm
โดย Suysak
เอาพวกที่จ่ายปันผลจากกำไรจากการดำเนินงานดีกว่าครับ เพราะมาจากการค้าขายจริงๆเลย

คิดอะไรง่ายๆเข้าไว้ดีแล้วครับ คิดมากปวดหัวเอาเวลาไปทำงานดีกว่า ฝากเพิ่มไปอีกนิดคือ ลองสมมุติว่า ไอ้บริษัทที่เราถือนี่เขาจะสามารถทำกิจการนั้นให้กำไรได้นานๆหรือป่าว

สมมุติสักนิด เช่น พวกร้านหนังสือนี่ เมื่อก่อนชีวิตดี้ดี เด่วนี้ยังกะจมคลองแสนแสบ แบบนี้ไม่เวิคอะจ้ะ

ถ้าได้ก็ซื้อๆไปเหอะ แล้วก็เอาที่ได้ปันผลมา มาซื้อเพิ่มอีก จบ

Re: แนวคิดการลงทุนหุ้นปันผล

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 10, 2017 9:16 am
โดย CKUNAKORNPOR
ซื้อหุ้น ผมคิดว่าไม่ควรมองแต่ปันผลเพียงอย่างเดียว ควรมองธุรกิจ การเติบโต และคาดหวัง Capital Gain ด้วย

เพราะเวลาเกิดวิกฤตตลาดหุ้นลงไป 20-30%+++ อาจจะทำให้ผลตอบแทนคาดหวัง 5% ไม่เป็นไปตามหวัง

Re: แนวคิดการลงทุนหุ้นปันผล

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 11, 2017 2:39 pm
โดย Plant
sert เขียน:ผมขออนุญาติเปลี่ยนคำถามครับ คือหลังจากที่เราคัดสรร บริษัทที่เราจะลงทุนแล้วว่าดีในระดับที่เราพอใจ เป้าหมายหลักของเราคือ ปันผล5% จากนั้นเราก็ดูราคาที่ได้ปันผล5% ก็ซื้อลงทุน ในการคิดและทำแบบนี้ของผม ผมรู้สึกว่ามันง่ายเกินไป น่าจะมีจุดบกพร่องหรือทำอะไรได้ดีกว่านี้
ที่รู้สึกว่าง่ายเพราะเราคำนวนแล้วได้ราคาที่ซื้อได้ตามที่ต้องการคือปันผล 5% ครับ
มันจะยากตอนราคามันขึ้นไปหมดแล้วหาตัวไหนก็ซื้อไม่ได้ปันผล 5 % เลยหนะครับ...^^)
sert เขียน:เท่าที่นึกได้ตอนนี้ เช่น 1เปรียบเทียบกับบริษัทในกลุ่มเดียวกันว่าตัวที่เราจะซื้อดีกว่าตัวอื่น หรืออย่างน้อยก็อยู่ในค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม 2ดูกราฟราคา หาจังหวะที่เราจะซื้อ 3ข้อนี้เจอโดยบังเอิญ 3.1ปันผลจากกำไรสะสม 3.2ปันผลจากกำไรสุทธิและจากกำไรสะสม 3.3ปันผลจากกำไรสุทธิ ขอถามทั้งสามข้อ บอกนัยอะไรครับ ส่วนข้ออื่นๆ หรือแนวทางอื่นๆ รบกวนพี่ๆ ช่วยด้วยนะครับ
โดยส่วนตัวที่ผมลงทุน ผมจะกลับไปเช็คเรื่องคุณภาพของบริษัทครับ ทั้งด้านการเติบโตของรายได้&กำไร
ความสามารถในการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอและเพิ่มมากขึ้น กับความสามารถของตัวผู้บริหาร

หากผู้บริหารตั้งเป้าที่จะเติบโตทุกๆปีแล้วสิ้นปีทำออกมาได้จริงหรือใกล้เคียง รายได้และกำไรเติบโต
บริษัทก็จะมีเงินจ่ายปันผลได้เองครับ

ส่วนเรื่องกราฟราคา น่าจะเป็นเรื่องหาจังหวะซื้อ จังหวะขายมากกว่านะครับ ถ้าจังหวะซื้อก็จะประเมินจาก
ซื้อแล้วได้ปันผล 5% ครับ ส่วนจังหวะขายผมก็จะใช้การประเมินมูลค่า ถ้าราคามันขึ้นไปเกินมูลค่าก็ขาย
หรืออีกจุดนึงคือถือแล้วได้ปันผล 5% ต่อปี แต่ถ้าขายได้กำไรมากกว่าปันผลก็ขายครับ แล้วค่อยกลับมาซื้อใหม่
...^^)