Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

หุ้นทีธรรมาภิบาลจัดว่าดีมากกกก แต่อยู่ในธุรกิจที่แข่งขันรุนแรง เพื่อนๆจะลงทุนมั้ยครับ

“The single most important decision in evaluating a business is pricing power,” Buffett told the Financial Crisis Inquiry Commission in an interview released by the panel last week. “If you’ve got the power to raise prices without losing business to a competitor, you’ve got a very good business. And if you have to have a prayer session before raising the price by 10 percent, then you’ve got a terrible business.”

Buffett, 80, accumulated the world’s third-largest personal fortune through a career of stock picks and takeovers. He has bought companies such as railroads and electricity producers, whose pricing power stems from a dearth of competitive options available to clients. Buffett has also built stakes in firms like Coca-Cola Co. and Kraft Foods Inc., which rely on the appeal of their brands to attract and keep customers.

“The extraordinary business does not require good management,” Buffett said in the interview, which was conducted on May 26 in Omaha, Nebraska.

http://www.bloomberg.com/news/articles/ ... management

แต่ ถ้า ธรรมาภิบาลแย่ขนาด คดโกง ก็ ตัวใครตัวมัน...

kongkiti เขียน:“The single most important decision in evaluating a business is pricing power,” Buffett told the Financial Crisis Inquiry Commission in an interview released by the panel last week. “If you’ve got the power to raise prices without losing business to a competitor, you’ve got a very good business. And if you have to have a prayer session before raising the price by 10 percent, then you’ve got a terrible business.”

Buffett, 80, accumulated the world’s third-largest personal fortune through a career of stock picks and takeovers. He has bought companies such as railroads and electricity producers, whose pricing power stems from a dearth of competitive options available to clients. Buffett has also built stakes in firms like Coca-Cola Co. and Kraft Foods Inc., which rely on the appeal of their brands to attract and keep customers.

“The extraordinary business does not require good management,” Buffett said in the interview, which was conducted on May 26 in Omaha, Nebraska.

http://www.bloomberg.com/news/articles/ ... management

แต่ ถ้า ธรรมาภิบาลแย่ขนาด คดโกง ก็ ตัวใครตัวมัน...

ขอบคุณครับ ผมกำลังพยายามศึกษาเรื่องนี้อยู่ครับ

VAEEEEE เขียน:หุ้นทีธรรมาภิบาลจัดว่าดีมากกกก แต่อยู่ในธุรกิจที่แข่งขันรุนแรง เพื่อนๆจะลงทุนมั้ยครับ

ผมมีเพื่อนเป็น ผบห หรือแม้แต่เจ้าของ บริษัทมหาชน อยู่หลายคน

แต่ถามว่าผมจะลงทุนกับเค้าหรือไม่

โห

ผมคิดว่าไม่มีทางเด็ดขาด

ธุรกิจที่แข็งแกร่งมีการเติบโตที่ชัดเจน ผมว่าสำคัญกว่าครับ

“A horse that can count to ten is a remarkable horse—not a remarkable mathematician.”
― Warren Buffett, The Essays of Warren Buffett: Lessons for Corporate America

Nevercry.boy เขียน:

VAEEEEE เขียน:หุ้นทีธรรมาภิบาลจัดว่าดีมากกกก แต่อยู่ในธุรกิจที่แข่งขันรุนแรง เพื่อนๆจะลงทุนมั้ยครับ

ผมมีเพื่อนเป็น ผบห หรือแม้แต่เจ้าของ บริษัทมหาชน อยู่หลายคน

แต่ถามว่าผมจะลงทุนกับเค้าหรือไม่

โห

ผมคิดว่าไม่มีทางเด็ดขาด

ธุรกิจที่แข็งแกร่งมีการเติบโตที่ชัดเจน ผมว่าสำคัญกว่าครับ

อย่าง BDMSถือว่าเป็นธุรกิจที่แข็งแกร่งเติบโตชัดเจนหรือเปล่าครับแต่เรื่องธรรมาภิบาลของBDMSผมไม่แน่ใจครับ

kur2519 เขียน:

Nevercry.boy เขียน:

VAEEEEE เขียน:หุ้นทีธรรมาภิบาลจัดว่าดีมากกกก แต่อยู่ในธุรกิจที่แข่งขันรุนแรง เพื่อนๆจะลงทุนมั้ยครับ

ผมมีเพื่อนเป็น ผบห หรือแม้แต่เจ้าของ บริษัทมหาชน อยู่หลายคน

แต่ถามว่าผมจะลงทุนกับเค้าหรือไม่

โห

ผมคิดว่าไม่มีทางเด็ดขาด

ธุรกิจที่แข็งแกร่งมีการเติบโตที่ชัดเจน ผมว่าสำคัญกว่าครับ

อย่าง BDMSถือว่าเป็นธุรกิจที่แข็งแกร่งเติบโตชัดเจนหรือเปล่าครับแต่เรื่องธรรมาภิบาลของBDMSผมไม่แน่ใจครับ

No comment ครับ ไม่ได้ติดตาม

ธรรมาภิบาลดีหรือไม่ดีวัดอย่างไรครับ วัดที่ราคาหุ้น วัดที่เงินปันผล วัดที่การสร้างผลตอบแทนให้ผถห หรือวัดที่ความตั้งใจทำงานของผู้บริหาร ผมว่าคนยังเข้าใจผิดเรื่องนี้อยู่เยอะนะ

- หุ้นจ่ายปันผลสม่ำเสมอ แต่อยู่ในธุรกิจที่ย่ำแย่ ราคาหุ้นก็ไม่ไปไหนแถมถอยหลังลงคลอง วันดีคืนดีราคาขึ้นมา แต่สุดท้ายก็ถูกทิ้งลง
- หุ้นจ่ายปันผลไม่สม่ำเสมอ ขึ้นกับผลกำไร แต่ก็จ่ายทุกครั้งเมื่อมีกำไร หรือมีเงินสดเหลือพอจ่าย
- หุ้นที่อยู่ในธุรกิจที่ย่ำแย่ แต่ผบห ไม่ขี้โม้ และพยายามทำงานเต็มที่เพื่อให้บริษัทกลับมามีกำไร แต่หลายปีผ่านบริษัทก็ยังไม่มีกำไร จนราคาหุ้นตกต่ำ และล่าสุดกลับมามีกำไร 2-3Q แต่นักลงทุนก็ยังไม่เชื่อมั่นเพราะมองเป็นหุ้นปั่น แบบนี้ถือว่า CG ดีมั้ยครับ
- หุ้นราคาขึ้นเอา นลท กำไรกันเป็นกอบเป็นกำ มีสตอรี่ให้เล่นตลอด แต่ผลประกอบการอาจจะไม่ขาดทุน แต่ก็ไม่ได้เติบโตเท่าไหร่ แถมปันผลก็น้อย บางปีก็ไม่ปันผล แบบนี้ ใครว่า CG ดีบ้างครับ

อยากทราบเหมือนกันครับ ว่าเค้าวัดกันยังไง

ผมว่าน่าจะพอเปรียบเทียบได้กับสองกรณีเล็กๆ

1. เพื่อนคนหนึ่งขอยืมเงินไปลงทุน โมเดลธุรกิจก็งั้นๆ แต่เรารู้ว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนเก่ง และเชื่อใจได้
2. เพื่อนอีกคนขอยืมเงินไปลงทุน โมเดลธุรกิจสุดยอดมาก แต่เรารู้ว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนไม่เอาไหน และไว้ใจไม่ได้

ถ้าผมต้องเลือกว่าจะฝากเงินให้ใครลงทุน ผมคงเลือกคนแรกครับ โมเดลธุรกิจน่าจะเปลี่ยนแปลงได้ง่ายกว่านิสัยคน

(แต่ถ้ามีทางเลือกที่ดีกว่าสองคนนี้ก็ค่อยว่ากัน )

ผมว่าเป็นคำถามที่ลึกซึ้ง
ในโลกความเป็นจริงเมื่อมีการแข่งขันรุนแรง ผู้บริหารแต่ละบริษัทฯ มักจะงัดกลยุทธกันออกมาแบบสุดๆ และ มักจะลงเอยด้วยการขาด ธรรมาภิบาล เช่น มี 2 บัญชี การเอาเปรียบ Suppliers หรือ ลูกจ้าง การไม่รักษาสิ่งแวดล้อมฯลฯ
อีกนัยหนี่ง ถ้าคุณยังทำธุรกิจแบบมีธรรมาภิบาล คุณจะรอดมั้ย ถ้าคนอื่นเค้าลด Cost แบบนี้กันหมด

ความเห็นผม จะกลับมาที่ Business Model ของคุณครับว่ามี Competitive Edge ที่คู่แข่งเอาชนะได้ยากหรือไม่ ถ้าไม่มีมันจบแล้วตั้งแต่ตอนนั้น
ถ้ามี Competitive Advantage ที่ดี การมีธรรมาภิบาลที่ดี มัน Guarantee ว่าบริษัทคุณจะยังคงรักษา Assets (tangible และ intangible) ที่คุณสะสมมาได้ ไม่ว่าจะเป็น Capitals (Cash Flow/Cash Conversion Cycle/Low cost operation...), Brand Equity รวมทั้ง Human Resources ที่ดี
แต่ถ้าคุณ ไม่มีธรรมาภิบาล ผม Guarantee ได้เลยว่า Assets ที่คุณสะสมมาในบริษัทจะ Deteriorate เสื่อมถอยลงเรื่อยๆ และ ในที่สุด Competitive Edge ที่มีมันก็รักษาไม่ได้ เช่น ถ้าคุณเอาเปรียบลูกจ้างมากๆ คนดีๆก็จะหนีคุณไป เหลือแต่คนไม่ดี ...หรือ คุณอยากลดต้นทุนการผลิต ด้วยการปล่อยน้ำเสียออกไปโดยไม่บำบัด ไม่นานชาวบ้านเค้าจะออกมาประท้วงคุณ Brand Equity คุณอาจจะถูกทำลายได้ในวันเดียวถ้าข่าวเสียหายนี้มันออกโทรทัศน์ประจานคุณ

ผมว่ามันคงแยกกันประมาณนี้นะครับ

ขอบคุณสำหรับคำตอบของพี่ๆทุกคนครับ

Case CPALL เป็นโจทย์ให้คิดเลย

kongkiti เขียน:Case CPALL เป็นโจทย์ให้คิดเลย

เป็นเคสกลับกัน ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่จะกระอักกว่าหุ้นไม่ดีแต่ธรรมาภิบาลดี

เพราะกรณีนี้ หุ้นที่ผลประกอบการดีมาก (และน่าจะดีอีกในอนาคต)
แต่ไม่มีธรรมาภิบาลโดยชัดเจนขนาดนี้ นักลงทุนจะทำอย่างไร

ผมมองว่าเคสนี้เป็นพื้นที่สีเทา
บางคนว่าเทามาก บางคนว่าเทาน้อย
ก็ว่ากันไป

ยกตัวอย่าง

เวลาเราไปซื้อของ
เราอยากซื้อของในราคาถูก
ฝั่งแม่ค้าอยากขายให้เราแพง
การเจรจาต่อรองจึงเกิดขึ้น

แต่จะเกิดอะไรขึ้น
ถ้าผมเดินไปซื้อของในร้านของผมเอง
ในขณะที่เงินที่ผมจ่าย
เป็นของผมกับเพื่อนคนละครึ่งๆ

vim เขียน:ผมว่าน่าจะพอเปรียบเทียบได้กับสองกรณีเล็กๆ

1. เพื่อนคนหนึ่งขอยืมเงินไปลงทุน โมเดลธุรกิจก็งั้นๆ แต่เรารู้ว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนเก่ง และเชื่อใจได้
2. เพื่อนอีกคนขอยืมเงินไปลงทุน โมเดลธุรกิจสุดยอดมาก แต่เรารู้ว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนไม่เอาไหน และไว้ใจไม่ได้

ถ้าผมต้องเลือกว่าจะฝากเงินให้ใครลงทุน ผมคงเลือกคนแรกครับ โมเดลธุรกิจน่าจะเปลี่ยนแปลงได้ง่ายกว่านิสัยคน

(แต่ถ้ามีทางเลือกที่ดีกว่าสองคนนี้ก็ค่อยว่ากัน )

พี่ vim เปรียบเทียบได้เห็นภาพมากครับ อ่านแล้วโดนใจจริงๆ

แม่บ้านผมไปจ่ายตลาดซื้อผลไม้ข้างบ้าน
หลังจากเลือกผลไม้เสร็จ มีแต่ธนบัตร 1000 บาท จึงบอกแม่ค้าว่า เดี๋ยวไปซื้อของอย่างอื่นก่อน แล้วจะมาจ่ายเงินทีหลัง

หลังจากไปซื้อของอย่างอื่นเสร็จ กลับมาที่ร้าน เห็นแม่ค้ากำลังเอาผลไม้บางส่วนออก และใส่ผลไม้ใกล้เน่่ามาให้เรา

แม่ค้า ขายได้กำไรเยอะขึ้น ต้นทุนผลไม้เน่าเสียลดลง
แต่ลูกค้าจะซื้อผลไม้ร้านนี้อีกหรือไม่ในครั้งต่อไป เมื่อเห็นพฤตืกรรมแบบนี้

CGแย่ + ธุรกิจดี ยังพอทนลงทุนได้

CGแย่ + ธุรกิจแย่ = high alert ระวัง cook book

คือความโลภมันไม่เข้าใครออกใครแล้ว CG พวกนี้ก็ขึ้นอยู่กับตลาดประเทศนั้นๆด้วย ประเทศเราถ้าเทียบกับ US ก็คงไม่ไหวในด้านนี้ แต่ที่ผมรับไม่ได้คือ ลงโทษหรือความเข้มข้น กลต ยังเบาไปไหม?


ธุรกิจดีมันก็จะไปได้ของมัน แต่ก็ต้องหา mos รับตัว CG กันเอง

VAEEEEE เขียน:หุ้นทีธรรมาภิบาลจัดว่าดีมากกกก แต่อยู่ในธุรกิจที่แข่งขันรุนแรง เพื่อนๆจะลงทุนมั้ยครับ

จขกท ได้เคสจริงมาให้ศึกษาเลย 555