Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

http://www.set.or.th/en/news/econ_mkt_d ... orshow.pdf

เป็น slide ที่แสดงคว่ามแข็งแกร่งของตลาดหลักทรัพย์ไทยในช่วงที่ผ่านมา มีหลายประเด็นใน slide ที่สรุปไว้น่าสนใจมาก เช่น

1. เป็นแหล่งระดมเงินทุนที่สร้างความสมดุลย์ให้กับตลาด ได้แก สินเชื่อ หุ้นกู้ และตลาดทุน
2. Avg turnover ดีที่สุดใน asian แซงตลาดสิงคโปร์ด้วย
3. หุ้น market cap มากกว่าเท่ากับ 1$ billion และมี volumn trade มากกว่าหรือเท่ากับ 10$ million มีถึง 22 บริษัท แซงสิงคโปร์ไปแล้วที่มี 19 บริษัท
4. Norminal return from investment ของหุ้นประเทศไทย จากปี 2004 ถึง 2013 มีอัตราการเติบโตทบต้น 9.6% ดีที่สุดในโลก และดีที่สุดในเอเชีย(ไม่รวมญี่ปุ่น) เท่ากับ 8.5%
5. การเติบโตของผลตอบแทนที่สูงมาจาก ผลกำไรสุทธิและการเติบโตของรายได้ของบริษัทในตลาดอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา แม้จะได้รับผลดระทบจากภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศก็ตาม
6. นอกจากนี้ ปัจจัยความยั่งยืนที่สะท้อนจาก asian corporate Corporate scorecard ดีขึ้นต่อเนื่อง จนลำดับล่าสุด เป็นอันดับ 3 รองจาก สิงคโปร์และฮ่องกง อละหากคัดเลือกบริษัทใหญ่สุด 100 อันดับแรกของแต่ละตลาดใน asian ที่จับมือกันทำ พบว่า ประเทศไทยเป็นอันดับ 1 แซง มาเลย์ และสิงคโปร์ มีเฉพาะเรื่อง ดาวน์โจนส์ index ที่เน้นเรื่องการเติบโตยั่งยืนและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เราอยู่ใน list ค่อนข้างน้อยกว่าเพื่อนบ้าน แม้ว่าจะมีิอัตราการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นก็ตาม
7. ความสำคัญที่ทำให้บริษัทในตลาดมีการขยายตัวสูงสวนทางกับ gdp ในประเทศ เพราะบริษัทในประเทศไทยเริ่มขยายตัวทำธุรกิจกับตลาดต่างประเทศ เป็น global and regional players ทั้งการลงทุนและการค้าขายมากขึ้น ทำให้มีรายได้จากการลงทุนและการค้าในต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
8. ในตลาด clmv นั้นปัจจุบันประเทศไทยก็เข้าไปมีส่วนในการลงทุนและการค้ามากขึ้นด้วยเช่นกัน รองรับกับ aec ในอนาคต

รายละเอียดตัวเลขอ่านเพิ่มเติมได้ครับ

จากข้อมูลสรุปของ set ดังกล่าว

จะเห็น บริบท context หรือสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนไปของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย ที่เราเคยเน้นหุ้นราคาถูกที่ดูจาก p/e ratio ทำให้อาจละเลยหุ้นที่เป็น growth stock คุณภาพชั้นดีที่ได้ประโยชน์จากการขยายตัวหรือการเติบโตจากผู้เล่นในประเทศเป็นผู้เล่นที่ใหญ่ขึ้นและออกไปเล่นในต่างประเทศ มีความได้เปรียบการแข่งขันที่เป็น winner มากขึ้น ซึ่งจะสร้างรายได้และผลกำไรจำนวนมากในอนาคตที่เปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบัน

วิธีหนึ่งในการประเมินมูลค่าหุ้นที่เปลี่ยนไป แทนที่จะดูเฉพาะ pe หรือดูเฉพาะหาหุ้นที่เติบโตแต่ราคาค่อนข้างแพงไปแล้ว

วิธีดังกล่าวจึงมีการประสมประสานการลงทุนของหุ้น คุณค่าที่สะท้อนราคาถูกจาก p/e ต่ำ และ growth stock ที่สะท้อนการเติบโตของตุณภาพศักยภาพของการเติบโตรายได้และความสามารถการทำกำไรที่สูงขึ้นมากและสูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาด หรือ g เป็นวิิธีใหม่ที่เราเรียกว่า peg

มีผลวิจัยจากอาจารย์ใหญ่ของเราคือ อ.ไพบูลย์ ได้ทำการวิจัยในเรื่องนี้ไว้ ซึ่งได้ข้อสรุปที่น่าสนใจตามนี้ครับ
http://www.scirp.org/journal/PaperDownl ... erID=19395

จึงไม่แปลกใจว่่า ทำไม warren buffett จึงมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการลงทุนที่เน้น value growth stock ที่คำนึงถึงคุณภาพธุรกิจมากขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีการปรับเปลี่ยนไปในอเมริกาที่่เราเห็น growth stock จำนวนมากขึ้น

และวิธีดังกล่าวจึงเริ่มมาปรับใช้ในประเทศไทยได้ผลดีขึ้นด้วย เพราะสภาพแวดล้อมของประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมนั้นเอง

ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณมากครับ ขออนุญาติ แชร์

ขอบคุณครับ พี่ chaitorn