Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

พอดีพึ่งเคยมีประสบการณ์ว่าหุ้นที่ถืออยู่จะออก esop ตามคำชี้แจงด้านล่างครับ

"การที่บริษัทออก ESOP ให้กับทีมงานบริษัท ก็เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้บุคลากรที่มีความสำคัญให้มีความตั้งใจในการทำงาน เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่บริษัท และมีความรู้สึกเป็นเจ้าขององค์กรและมีส่วนร่วมในความสำเร็จและการเติบโตของบริษัท"

ขอความเห็นจากเพื่อนๆพี่ๆที่มีประสบการณ์ด้วยครับ. ว่าการออก esop แบบนี้เป็นบวกหรือลบมากกว่ากันครับ. ขอบคุณครับ

ทราบแต่case ด้านบวก ของ avis rent a car อะครับ ผลดีก็อย่างคุณเขียนไว้ด้านบน ทำให้พนักงานรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าของมีส่วนร่วม ทุ่มเทให้กับบริษัทมากขึ้น ผลลัพธ์ก็ดีขึ้น
แต่case ด้านลบ ไม่ทราบครับ

สำหรับคนที่ลงทุนซื้อหุ้นเอง ผมมองว่าทำให้เกิดการไดลูทแน่นอน โดยเฉพาะ ถ้าตั้งราคาไว้ต่ำกว่าราคาตลาด
1. ช่วงที่มีการขาย ESOP ราคาหุ้นก็จะตกลงไป ซึ่งก็อาจเป็นจังหวะที่เราจะเก็บหุ้นที่เราหาจังหวะซื้ออยู่
2. แต่การที่พนักงานและผู้บริหารขายออกก็อาจเป็นช่วงที่เค้ามองว่าตอนนี้ได้ราคาดีแล้ว ช่วงปีต่อไป ราคาหุ้นอาจลดลง เหมือนตอนที่ผู้บริหารขาย

pot_c เขียน:"การที่บริษัทออก ESOP ให้กับทีมงานบริษัท ก็เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้บุคลากรที่มีความสำคัญให้มีความตั้งใจในการทำงาน เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่บริษัท และมีความรู้สึกเป็นเจ้าขององค์กรและมีส่วนร่วมในความสำเร็จและการเติบโตของบริษัท"

เป็นเหตุผลหรูๆ แต่ความจริงไม่เป็นผลดีต่อผู้ถือหุ้น ยิ่งแจกฟรี ยิ่งไดลูท บางบริษัทมีแจก 3-4 โครงการ ไม่มีวิธีจูงใจให้ตั้งใจทำงานแล้วหรือ ส่วนตัวผมไม่ชอบครับ

ขอร่วมวงด้วยครับ คุณ pot_c

การให้ ESOP นั้น ก็เหมือน ดาบ ครับ ความคมของดาบ มีทั้งแง่ดีและร้าย ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักประการสำคัญก็คือ ความมีธรรมาภิบาลของ CEO และคณะผู้บริหาร ครับ

แง่ดีนะครับ เป็นการกระตุกพลังการทำงานและความทุ่มเทของ key men สำคัญในบริษัทครับ คือพลังแห่งการ leverage ที่ดีที่สุดในการบริหารจัดการครับ ถ้า key men เพียง 10% มีพลังศรัทธา (พลังกาย พลังใจ พลังความคิดและพลังความรัก) และทุ่มเทเพื่อบริษัทแล้วล่ะก็ จะเป็นพลังขับเคลื่อนอีก 90% ที่เหลือ ส่งผลให้ผลผลิตจะเกิดขึ้นอย่างมหาศาลครับ (มหาศาลจริง ๆ ครับ โดยส่วนตัว ผมเป็นเจ้าของธุรกิจ เมื่อผมให้หุ้น key men เหล่านั้น โอ้โห !! ดีมากครับ ดีจริง ๆ ดีกว่าเพิ่มเงินเดือน หรือให้สวัสดิการอื่น ๆ อีกครับ แถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายบริษัทอีกด้วยครับ)

แง่ร้ายนะครับ เป็นอีกผลประโยชน์หนึ่งที่แบ่งกันเองได้อย่างถูกใจและถูกต้อง ครับ

ประเด็นก็คือ เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ความคมนี้จะอยู่ด้านใด ??

โดยส่วนตัวผมคิดว่า เราจะรู้ได้ด้วย 2 ลำดับของเวลา
ลำดับเวลาในอดีต ก็คือ การย้อนประวัติ ครับ เหตุการณ์ในอดีตเท่านั้นจะทำให้เรา พอเข้าใจได้ว่า ความคมอยู่ด้านใด
ลำดับเวลาอนาคต ก็คือ เฝ้ารอผลลัทธ์อีก 2 ไตรมาส ครับ ว่า ยอดขายและกำไรได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยะ หรือไม่

อย่าลืมนะครับ กิจการจะสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ คน ในองค์กร โจมตีทางใจ เป็นเสาเอกของการบริหารจัดการครับ

ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆมากครับ

พี่เคน ถ้าไม่รบกวนเกินไป อยากให้ช่วยแสดงความเห็นเพิ่มเติม ในห้องของหุ้นตัวนี้ด้วยครับ คิดว่าเพื่อนๆคงอยากฟังความเห็นของพี่เคน ต่อการเปลี่ยนแปลงของบริษัทหลายๆอย่างครับ. ขอบคุณครับ

ถ้าผมจำไม่ผิด Starbucks นี่ก็เป็นหนึ่งในบรรดาบริษัทที่ไม่ได้อยู่ใน IT และ advocate เรื่อง ESOP กันมากๆ ถึงขนาดที่เขาเรียกพนักงานในร้านว่า partner (คือผู้ร่วมหุ้น) เลยด้วยซ้ำไป

http://assets.starbucks.com/assets/tota ... -06-10.pdf

ถ้าราคาใช้สิทธิที่ออกโดยมติกกรมการบริษัทนั้นต่ำเกินกว่าจะกระตุ้นพนักงานได้ ในวันประชุมวิสามัญเพื่อขอมติออกหลักทรัพย์แปลงสภาพนั้น ผู้ถือหุ้นสามารถปรับเปลี่ยนราคาได้หรือไม่ครับ

KimVi เขียน:ถ้าราคาใช้สิทธิที่ออกโดยมติกกรมการบริษัทนั้นต่ำเกินกว่าจะกระตุ้นพนักงานได้ ในวันประชุมวิสามัญเพื่อขอมติออกหลักทรัพย์แปลงสภาพนั้น ผู้ถือหุ้นสามารถปรับเปลี่ยนราคาได้หรือไม่ครับ

ได้แน่นอน แต่ต้องเป็นเสียงส่วนใหญ่นะ

เรื่อง ESOP (อีสป ) คุณ kensorat กล่าวไว้ชัดเจนดี ทุกส่วน โดยเฉพาะท่อน Executive Thinking

kensorat เขียน:(มหาศาลจริง ๆ ครับ โดยส่วนตัว ผมเป็นเจ้าของธุรกิจ เมื่อผมให้หุ้น key men เหล่านั้น โอ้โห !! ดีมากครับ ดีจริง ๆ ดีกว่าเพิ่มเงินเดือน หรือให้สวัสดิการอื่น ๆ อีกครับ แถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายบริษัทอีกด้วยครับ)

กล่าวโดยทั่วไป การจะออก ESOP ให้กับ พนง. เราในฐานะ ผถห. ก็ต้องดูว่ามันสมควรหรือไม่ เช่นถ้า ผลิตภัณฑ์ของ บริษัท เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ แล้วอยู่ในภาวะอุปทานล้นเหลือ บ.เอง ใช้กำลังการผลิต 50% ก็ไม่รู้จะออกอีสปเพื่อจะกระตุ้นให้ขยันอะไร

ลองดูอดีตการแจกอีสป.ให้กับ พนง. ของบริษัทจดทะเบียนใน ตลท แล้วเปรียบเทียบกับยอดขาย และ บริษัทคู่แข่ง ดูสิครับ ว่ายอดขายมันทะลุทะลวงตามที่หวังไว้หรือไม่ แล้วในฐานะ ผถห เราจะได้คำตอบ

ผมว่า มันก็ดีนะครับ
ส่วนตัวคิด ข้อเสียจะเกิด เมื่อราคาแปลง ไม่สมเหตุสมผล มั้งครับ