หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ต้องตีความกันให้ดีๆ กับประโยคยอดฮิตที่ว่า

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 12, 2012 9:07 am
โดย คลายเครียด
จงกล้าเมื่อคนอื่นกลัว จงกลัวเมื่อคนอื่นกล้า



เราต้องตีความให้ได้ว่า
ใครเป็นคนกลัว ใครเป็นคนกล้า
และใครเป็นคนพูดคำนั้นออกมา

ถ้าป๋าบุฟเฟต์พูด ก็สมควรจะเชื่อ
เพราะเป็นผู้ที่ครอบครองทั้ง
เงินที่มีอำนาจซื้อนำ และหุ้นที่มีอำนาจขายนำ

รายย่อยร้อยคนรวมกันกลัว
จึงมีความสำคัญน้อยกว่า

ป๋าบุฟเฟต์กล้าคนเดียว


สรุปแบบ vsop ก็คือ
เราจะเชื่อ แล้วทำตามอะไร
ต้องดูความสามารถตามปัจจัยพื้นฐานของตัวเองเป็นหลักครับ

เรียกว่า รู้เราต้องมาก่อนรู้เขา คงจะประมาณนั้น

สำหรับผม

มักจะกล้า เมื่อปัจจัยพื้นฐานของหุ้น ที่มี margin of safety สั่งให้กล้า
มักจะกล้ว เมื่อปัจจัยพื้นฐานของหุ้น ที่ไม่มี margin of safety สั่งให้กลัว



:mrgreen: :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:

Re: ต้องตีความกันให้ดีๆ กับประโยคยอดฮิตที่ว่า

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 12, 2012 9:27 am
โดย prichar s.
ภาวะ "กล้า" ตามตลาด ตามกระแสตลาด ฮึกเหิม มองบวกเกินไป เห็นแต่กำไรตรงหน้า เก็งกำไรเกินไป
จนลืมปัจจัยพื้นฐาน เป็นปฐมบทของฟองสบู่ ส่วนฟองสบู่จะแตกเมื่อไรอีกนานแค่ไหน ไม่มีใครตอบได้
นักปัจจัยพื้นฐานจึงพึงระมัดระวัง และ "กลัว" ภาวะตลาดแบบนี้ไว้บ้าง

ภาวะ "กลัว" ตามตลาด ตามสภาพตลาดขณะนั้น มักมีสภาพย่ำแย่ตกต่ำแล้วตกต่ำอีก ย่ำแย่ทั้งพอร์ตหุ้น
ทั้งเงินในบัญชีธนาคาร รวมทั้งสภาพจิตใจ คนทั่วไปหมดหวัง ละทิ้งตลาดและหวาดกลัวตลาด
จนลืมนึกถึงปัจจัยพื้นฐานของหุ้น ของกิจการ
ว่าที่จริงแล้ว มีหุ้นดีและถูกจำนวนมาก รอการเก็บเกี่ยว
นักปัจจัยพื้นฐานจึงควรถือเป็นโอกาสอันงดงามที่จะสร้างความมั่งคั่ง แม้จะมีเพียงคนจำนวนน้อยที่ "กล้า" โดด
เข้าตลาดในภาวะเยี่ยงนั้น

ทั้งหลายทั้งปวง ตัวตัดสินสำคัญหนึ่งคือ ความแม่นและมั่นคงในปัจจัยพื้นฐานกิจการของแต่ละคนนั้่นเอง

Re: ต้องตีความกันให้ดีๆ กับประโยคยอดฮิตที่ว่า

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 12, 2012 9:33 am
โดย pat4310
เป็นบทความที่ดีมากครับ

คนจะลงทุนทำธุรกิจดูแล้วดูอีกกว่าจะมั่นใจเอาเงินมาลง
แต่ในตลาดหุ้น มีคนกระซิบบอกว่า "เสี่ย***กำลังเก็บตัวนี้อยู่" ซื้อทันที :D

Re: ต้องตีความกันให้ดีๆ กับประโยคยอดฮิตที่ว่า

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 12, 2012 11:13 am
โดย humdrum
สวัสดีครับพี่ ผมมาขอบคุณสำหรับความคิดต่างๆที่พี่มาสอนน้องๆ เสมอครับ

คิดถึงประโยคที่พี่ว่าเรื่อง "จงกล้าเมื่อคนอื่นกลัว จงกลัวเมื่อคนอื่นกล้า" ได้ยินครั้งแรก ใจผมคิดคนพูดประโยคนี้ในหัวต้องมีแต่เรื่อง expected value และเวลาทำงานผ่านไปหลายปีจนเข้าวัยกลางคนอย่างนี้ ก็ยิ่งมองสิ่งต่างๆ เป้นเรื่องของ expected value ไปเกือบอัตโนมัติ

ผมคิดถึงเมื่อวานตอนแผ่นดินไหว น้ำทะเลลด คนแตกตื่น เมื่อวานนั่งดูข่าวนี้แล้วก็คิดว่าถ้าตัวเองอยู๋ในสถานที่ตรงนั้น คงตกใจอย่างแน่นอน แต่ถ้าแยกความกลัวออกจากการตัดสินใจได้ ตอนนั้นผมจะทำอย่างไรบ้าง ผมจะออกไปพายเรือกลางทะเล แทนที่จะวิ่งหนีเหมือนคนอื่น ไม่ใช่เพื่อเอาตัวรอด แต่เพื่อทำอะไรบางอย่างให้เป็นพี่สนใจของทีวี

พี่จะทำอย่างไรบ้างครับ

Re: ต้องตีความกันให้ดีๆ กับประโยคยอดฮิตที่ว่า

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 12, 2012 11:25 am
โดย คลายเครียด
humdrum เขียน: ผมคิดถึงเมื่อวานตอนแผ่นดินไหว น้ำทะเลลด คนแตกตื่น เมื่อวานนั่งดูข่าวนี้แล้วก็คิดว่าถ้าตัวเองอยู๋ในสถานที่ตรงนั้น คงตกใจอย่างแน่นอน แต่ถ้าแยกความกลัวออกจากการตัดสินใจได้ ตอนนั้นผมจะทำอย่างไรบ้าง ผมจะออกไปพายเรือกลางทะเล แทนที่จะวิ่งหนีเหมือนคนอื่น ไม่ใช่เพื่อเอาตัวรอด แต่เพื่อทำอะไรบางอย่างให้เป็นพี่สนใจของทีวี

พี่จะทำอย่างไรบ้างครับ
ผมคงจะตามดูสำนักข่าวอินโดนีเซียจากทีวีดาวเทียมครับ
เห็นด้วยกับที่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า
ถ้าอาเจะไม่เป็นอะไร ก็ไม่ควรระบุเวลาคลื่นเข้าฝั่งไทย
เพราะอาเจะเป็นอะไรไป
เรายังมีเวลาเตรียมตัวอีกหนึ่งช้่วโมง

ยังไงก็เที่ยวสงกรานต์กันให้สนุกครับ
ปิดตลาดเช้า คงไม่ได้เข้ามาโพสต์อะไรเพิ่มเติม
จนกว่าจะถึงวันอังคารหน้าครับ

:B :B :B :B

Re: ต้องตีความกันให้ดีๆ กับประโยคยอดฮิตที่ว่า

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 12, 2012 12:09 pm
โดย nut776
คุณพิชัย จาวลา แกว่า ราคาวิ่งไปในทิศทางที่ mass ขาดทุนเสมอ

ถ้า mass เป็น contrarian ผมก็ไม่เอาด้วยคับ

Re: ต้องตีความกันให้ดีๆ กับประโยคยอดฮิตที่ว่า

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 12, 2012 1:11 pm
โดย นพพร
ขอบคุณทุกท่านที่แชร์ข้อมูลดีๆครับผม

Re: ต้องตีความกันให้ดีๆ กับประโยคยอดฮิตที่ว่า

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 12, 2012 2:30 pm
โดย ซุนเซ็ก
เห็นด้วยครับ
เพราะประโยค "จงกล้าเมื่อคนอื่นกลัว จงกลัวเมื่อคนอื่นกล้า" เป็นความหมายอย่างกว้างราวมหาสมุทร
และกลายเป็นอันตรายแทนได้ หากผู้ฟังใช้ประโยคนี้ในการตัดสินใจลงทุน

Re: ต้องตีความกันให้ดีๆ กับประโยคยอดฮิตที่ว่า

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 12, 2012 3:30 pm
โดย ดำ
จะดีกว่ามั้ย ถ้าเปลี่ยนเป็นคอยดูใจเราเองว่า โลภอยู่มั้ย กลัวอยู่มั้ย หรือใจเป็นกลาง

Re: ต้องตีความกันให้ดีๆ กับประโยคยอดฮิตที่ว่า

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 12, 2012 6:03 pm
โดย harikung
รู้แต่ว่าวันนี้ผมไปทานข้าวรวมญาติๆกัน อยู่ดีๆป้า(พี่สาวพ่อ)อายุเกือบ70แล้วล่ะครับซึ่งปกติแกงกสุดๆ มาบอกว่าให้ผมเอาเงินไปลงทุนให้หน่อย หรือกระซิบบอกได้มั้ยว่าซื้อตัวไหนดี อืม...นี่มันเป็นเวลาที่เราต้องกลัวสุดขีดแล้วล่ะ เก็บความกล้าเอาไว้ก่อนดีกว่า

Re: ต้องตีความกันให้ดีๆ กับประโยคยอดฮิตที่ว่า

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 12, 2012 6:31 pm
โดย sipoonya
ขอบคุณ เฮียคลายเคลียดครับ

คำพูดนี้ เข้าใจว่าเป็นเรื่องของ การตัดสินใจในการเข้าลงทุน
หลังจากการคิดอย่างมีเหตุผลด้วยตัวเองแล้วครับ
ถ้ามีเหตุผลและเป็นตัวของตัวเองพอ ก็ไม่ต้องกลัวการมีอำนาจชี้นำตลาดเท่าไหร่
เพราะในท้ายที่สุด ผลประกอบการของบริษัท จะเป็นเจ้าตัวจริง
ประกอบกับการเลือกบริษัท ธรรมาภิบาล ก็เป็นประเด็นสำคัญมาก
แต่ที่บัฟเฟตต์ มีมากหลังเข้าซื้อ คือ อำนาจในการบริหารกำไรของบริษัท มากกว่า
อันนี้ผมก็อยากได้ ผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหาร ที่เห็นประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเล็กๆบ้างครับ ฮิฮิ :mrgreen:

Re: ต้องตีความกันให้ดีๆ กับประโยคยอดฮิตที่ว่า

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 14, 2012 3:19 pm
โดย DragonKing
เฮียครับ ขอถามหน่อยครับ
จากประโยคของเฮียที่ว่า
มักจะกล้า เมื่อปัจจัยพื้นฐานของหุ้น ที่มี margin of safety สั่งให้กล้า
มักจะกล้ว เมื่อปัจจัยพื้นฐานของหุ้น ที่ไม่มี margin of safety สั่งให้กลัว

จะถามว่าถ้าเรามีหุ้นตัวนั้นอยู่ และหุ้นตัวนั้นกำลังจะไม่มีmargin of safety
เฮียจะขายหุ้นตัวนั้นไปก่อนหรือไม่ อย่างไรครับ :idea:

ขอบคุณครับเฮียคลายเครียด

Re: ต้องตีความกันให้ดีๆ กับประโยคยอดฮิตที่ว่า

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 17, 2012 8:17 am
โดย คลายเครียด
DragonKing เขียน:เฮียครับ ขอถามหน่อยครับ
จากประโยคของเฮียที่ว่า
มักจะกล้า เมื่อปัจจัยพื้นฐานของหุ้น ที่มี margin of safety สั่งให้กล้า
มักจะกล้ว เมื่อปัจจัยพื้นฐานของหุ้น ที่ไม่มี margin of safety สั่งให้กลัว

จะถามว่าถ้าเรามีหุ้นตัวนั้นอยู่ และหุ้นตัวนั้นกำลังจะไม่มีmargin of safety
เฮียจะขายหุ้นตัวนั้นไปก่อนหรือไม่ อย่างไรครับ :idea:

ขอบคุณครับเฮียคลายเครียด

ต้องขอโทษ ที่ตอบช้าไปหลายวันครับ

จริงๆแล้ว ผมจะทำตาม margin of satisfaction ของตัวเอง
ที่มี margin of safety กำกับอีกที
เพื่อไม่ให้ทำอะไรแบบตามใจตัวเอง แล้วเกิดความเสียหายในภายหลัง

margin of satisfaction ในเรื่องหุ้นของผมก็คือ

ส่วนต่างระหว่าง

ถือหุ้นทน
กับ
ทนถือหุ้น



ยกตัวอย่างล่าสุด
ตอน mcs ราคา ๑๒ บาท ก็ยังถือหุ้นทน
เพราะเจ้าของเอาข่าว เอสเกรด มาแจก
เข้าใจว่า วีไอหลายคน ก็ติดกับดักข่าวนั้นเหมือนกัน

พอราคาหุ้นมันเหลือแค่ ๘ บาท
ก็เริ่มรู้สึกว่า กำลังทนถือหุ้น
เพราะค่า อี มีแนวโน้มจะลดลงต่อ

ก็เลยต้องจัดการ คลายเครียดเรโช
ให้มันกลับมาเป็น ถือหุ้นทน อีกครั้ง
ด้วยการขายเอาเงินต้น บวกกำไรบางส่วนขึ้นมาก่อน

คำถามก็คือ ทำไมไม่ขายให้หมด
คำตอบก็คือ ผมไม่รู้อนาคต

ถ้ารู้ ป่านนี้พอร์ตน่าจะโตมากกว่านี้ซัก ยี่สิบเท่า

:mrgreen: :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:

Re: ต้องตีความกันให้ดีๆ กับประโยคยอดฮิตที่ว่า

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 17, 2012 9:28 am
โดย siebelize
ขอบคุณแนวคิดดีๆนะครับ

แต่ผมว่าให้เจ๋งจริง

ต้องไม่เหลือความกล้าและไม่มีความกลัว อยู่ในการตัดสินใจลงทุนอีกแล้ว
:D