Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

เมื่อวานโทรคุยกับพี่ท่านหนึ่งที่เป็น MD ของ บริษัทผลิตฮาร์ดดิสก์รายใหญ่ที่ตั้งโรงงานผลิตอยู่ในเมืองไทย ได้ความว่า เครื่องจักรไม่มีปัญหา น้ำลดเมื่อไหร่ แป้บเดียว (1-2 อาทิตย์) ก็กลับมาผลิตได้ 100% ดังเดิม ยกเว้น clean room lab ที่อาจจะนานนิดนึง เพราะ operation ปกติ อยู่ชั้นสองขึ้นไปทั้งหมด มีการป้องกันความเสียหายด้านเครื่องจักรเรียบร้อยดี ปัญหาตอนนี้คือน้ำมันท่วม คนมาทำงานไม่ได้เท่านั้นเอง น้ำลด ทำความสะอาดชั้นล่าง เปิดสายการผลิตต่อได้

ส่วนโรงงานก็คงมีโอกาสจะย้ายสูง แต่จะย้ายไป ระยอง หรือ ไปต่างประเทศต้องศึกษาทำแผนเปรียบเทียบก่อน ช่วงนี้ก็พยายามเพิ่มกำลังการผลิตที่เพิ่มไม่ค่อยได้ ในต่างประเทศไปกอ่น

เช้านี้ได้โทรคุยกับพี่ท่านนึงที่มีโรงงานผลิต อคิลิค รายใหญ่ ในนิคมลาดกระบัง และถือหุ้นจำนวนมากของบริษัทที่ผลิต cutting tools รายใหญ่ (พี่เคนของเรานี่เอง 555+ ) ได้ความว่าเคยบินไปดูที่ฟิลิปปิน เรื่องเปิดโรงงานขยายฐานการผลิต พบว่าแรงงานฝีมือของฟิลลิปปินนั้น ยังห่างไกลกับไทย อีกหลายปี ทั้งฝีมือ และโดยเฉพาะความขยัน ส่วนโรงงานของพี่เคนนั้น ตอนนี้ปิดหยุดงานแล้ว ให้พนักงานกลับไปดูแลครอบครัว น้ำลดเมื่อไหร่ให้กลับมาทำงาน ไม่มีเลย์ออฟ และไม่ลดค่าแรง พี่เคนเล่าว่า เวลาเดือดร้อนแบบนี้ จะทิ้งพนักงานไม่ได้ จะจากกัน ต้องจากกันในวันที่ดี และพนักงานมีที่ไปที่ดีกว่า (ผมฟังแล้วซึ้งใจน้ำตาไหล เฮียแมนมาก) ส่วนเครื่องจักรนั้น มีการจัดการเตรียมการเรียบร้อยแล้ว อาจจะมีความเสียหายบ้าง แต่ไม่มีปัญหาหนักอะไร


พิจารณาจากทั้งสองท่าน ผมพบว่า

1> จริงๆแล้ว แม้น้ำท่วมหนักจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่ถ้ามีเวลาเตรียมการล่วงหน้า และมีข้อมูลเพียงพอ ก็สามารถบริหารจัดการได้ ไม่เสียหายมากเท่าไหร่ สามารถยกเครื่องจักรหนีน้ำ และย้ายสต้อคหลบไปที่แห้งได้ ปัญหาจริงๆคือ รัฐต้องให้ข้อมูลที่แท้จริงกับ อย่าหลอกผู้ประกอบการว่าไม่มีปัญหา แล้วปล่อยให้รันเครื่องจักรจนวินาทีสุดท้าย แล้วน้ำเข้ามาท่วมเสียหาย แบบหลายๆโรงงานในนวนคร

2> นิคมฝั่งตะวันออก กำลังยิ้มแก้มปริ เพราะก็แม้บางส่วนจะย้ายไปต่างประเทศก็ตาม ก็จะยังมีอีกจำนวนมาก จะแห่มานิคมฝั่งตะวันออก แต่ปัญหาคือ จะขยายได้แค่ไหน เพราะยังมีปัญหาา มลภาวะ ปัญหาการขยายนิคม และอื่นๆ คาราคาซังอยู่

ประเทศไทยครั้งนี้ รับศึกหนักมากจริงๆ แต่ผมคิดว่าอาจจะเป็นเรื่องดี ที่ทำให้เราได้วางแผนระดับชาติกันซะที ว่าระยะยาวจะเอายังไง จะใช้พื้นที่ไหน รองรับน้ำ และจะใช้แม่น้ำสายไหน ระบายน้ำลงทะเล ไม่ใช่ตามมีตามเกิด จังหวัดไหน ขวางน้ำไว้ได้ ก็แห้ง ปล่อยจังหวัดข้างๆท่วม แล้วพอเวลาผ่านไป ท่วมอีก ก็เหมือนเดิมอีก ...

ขอบคุณครับ
เห็นภาพหลายๆอย่างชัดเจนขึ้นเยอะเลย

ครับผมก็มองว่า ทางภาคตะวันออกคงจะขยายตัวขึ้นมาก โรงงานเก่า คงไม่ย้ายในทันที แต่ 10 ปีข้างหน้า

ทางด้านตะวันออก คงมีการเกิดของโรงงานใหม่ขึ้นมาอีกเยอะ 555

อยากเห็นโรงงานย้ายไปอยู่ที่ดอน หรือพื้นที่แห้งแล้งหน่อย เขตน้ำท่วมถึงน้อยหรือเพาะปลูกยากลำบาก ที่ราบลุ่มเอาไว้เพาะปลูก เช่นขึ้นทางอีสาน หรือเหนือให้มากขึ้น ไม่ใช่หนีมาออกันอยู่ภาคตะวันออกมากๆ

ผมว่าโรงงานทุกๆที่ถ้ากลับดำเนินการอีกครั้ง ย่อมต้องการกลุ่มคนงานและพนักงานเดิมที่เคยทำอยู่ให้ได้มากที่สุด เพื่องานจะได้แก้ไขและเดินเครื่องการผลิตที่มีคุณภาพได้รวดเร็วที่สุด ทิ้งคนงานทิ้งพนักงานก็เท่ากับทิ้งโอกาสการฟื้นตัวกลับของบริษัทอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน ทรัพยากรบุคคลผมว่าสำคัญมากๆสำหรับงานคุณภาพที่ดี

pakhakorn เขียน:อยากเห็นโรงงานย้ายไปอยู่ที่ดอน หรือพื้นที่แห้งแล้งหน่อย เขตน้ำท่วมถึงน้อยหรือเพาะปลูกยากลำบาก ที่ราบลุ่มเอาไว้เพาะปลูก เช่นขึ้นทางอีสาน หรือเหนือให้มากขึ้น ไม่ใช่หนีมาออกันอยู่ภาคตะวันออกมากๆ

ผมว่าโรงงานทุกๆที่ถ้ากลับดำเนินการอีกครั้ง ย่อมต้องการกลุ่มคนงานและพนักงานเดิมที่เคยทำอยู่ให้ได้มากที่สุด เพื่องานจะได้แก้ไขและเดินเครื่องการผลิตที่มีคุณภาพได้รวดเร็วที่สุด ทิ้งคนงานทิ้งพนักงานก็เท่ากับทิ้งโอกาสการฟื้นตัวกลับของบริษัทอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน ทรัพยากรบุคคลผมว่าสำคัญมากๆสำหรับงานคุณภาพที่ดี

รัฐบาลก็อยากให้เป็นอย่างงั้นครับ สังเกตุได้ว่าทางเหนือและอีสานจะอยู่ในโซน 3 ของ BOI ที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด เช่น ยกเว้นภาษี 8 ปี หรือ ภาษีนำเข้าต่างๆ
แต่ที่หลายๆบริษัทไม่อยากทำเนื่องจากข้อจำกัดทางด้านค่าใช้จ่ายขนส่ง และทรัพยากรคนซึ่งหาคนเก่งๆยากกว่า (โดยเฉพาะมาทำด้านบัญชี)

ยกตัวอย่าง Suzuki motor โรงงานอยู่ที่ระยอง พวก first tier, second tier ... Suppliers ของ Suzuki motor ก็คงอยากตั้งโรงงาน หรือ เช่าโรงงานแถวๆระยองเพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายการขนส่อีกอย่างหนึ่ง จะเข้าพบไปพูดคุยเพื่อรักษาความสัมพันธ์ก็ทำได้ง่ายกว่า

ส่วนพื้นที่ในการขยับขยายฝั่งตะวันออกของ amata กับ hemraj เท่าที่ทราบยังคงไปได้เรื่อย เพียงแต่ว่า amata ยังไม่ค่อยอยากให้ amata nakorn ที่ชลบุรีพัฒนาเสร็จไวซักเท่าไหร่ อาจจะอยากขายทางฝั่ง amata city ระยองก่อน

เรื่องย้ายฐานไปประเทศอื่น สำหรับประเทศญี่ปุ่นผมยังไม่ได้ยินนะ แต่ถ้าท่วมชลบุรีกับระยองไปด้วยนี่น่าคิด

ได้คุยกับพ่อตะกี้ (ขายอะไหล่โรงงาน) บอกว่าผู้ประกอบการจะหนีไปเยอะเหมือนกันค่ะ
คงย้ายอยู่ในไทยนี่แหละ แต่นิคมที่รับน้ำไปเต็มๆคงไม่พิจารณาลงทุนแล้ว
คราวนี้คงเห็น labor shift กัน
จะไปอีสานก็แล้งเกินบางปี ใต้ก็คงไม่ไหวที่ไม่เหมาะ

pakhakorn เขียน:อยากเห็นโรงงานย้ายไปอยู่ที่ดอน หรือพื้นที่แห้งแล้งหน่อย เขตน้ำท่วมถึงน้อยหรือเพาะปลูกยากลำบาก ที่ราบลุ่มเอาไว้เพาะปลูก เช่นขึ้นทางอีสาน หรือเหนือให้มากขึ้น ไม่ใช่หนีมาออกันอยู่ภาคตะวันออกมากๆ

ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่น่าจะเห็นได้ที่ไม่ได้ย้ายไปทางภาคอิสาน น่าจะเรื่องการจัดการเรื่อง logistic และการส่งออกนอกประเทศครับ
ที่อิสานคงมีปัญหาที่ไม่มีท่าเรือน้ำลึกแบบในเขตภาคตะวันออกกระมัง

Dekfaifah เขียน:

pakhakorn เขียน:อยากเห็นโรงงานย้ายไปอยู่ที่ดอน หรือพื้นที่แห้งแล้งหน่อย เขตน้ำท่วมถึงน้อยหรือเพาะปลูกยากลำบาก ที่ราบลุ่มเอาไว้เพาะปลูก เช่นขึ้นทางอีสาน หรือเหนือให้มากขึ้น ไม่ใช่หนีมาออกันอยู่ภาคตะวันออกมากๆ

ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่น่าจะเห็นได้ที่ไม่ได้ย้ายไปทางภาคอิสาน น่าจะเรื่องการจัดการเรื่อง logistic และการส่งออกนอกประเทศครับ
ที่อิสานคงมีปัญหาที่ไม่มีท่าเรือน้ำลึกแบบในเขตภาคตะวันออกกระมัง

อีสานกำลังจะมีรถไฟไปจีนจาก AEC แล้วนะคะ

ขอบคุณครับ ฝากบอกพี่เคนด้วยว่าเป็นกำลังใจให้นะครับ

สิ่งที่ประเทศนี้ขาดที่สุด คือแผนการพัฒนาที่เป็น master plan ไม่ใช่ทำไปวันๆ

เราจำเป็นต้องมี zoning คือ แบ่งโซนว่าจังหวัดใหนทำเกษตรกรรม จังหวัดใหนอุตสาหกรรมหนัก โซนใหนทำที่อยู่อาศัย

ไม่งั้นมันก็เป็นอย่างนี้แหละครับ น้ำท่วมเพราะไปขวางทางน้ำ น้ำแล้งเพราะรัฐไม่ได้ใส่งบบริหารจัดการน้ำให้พอกับโรงงาน NGOร้องเพราะอุตสาหกรรมไปรบกวนความเป็นอยู่

ทำโซนนิ่งซะมันก็ชัด จัดหนักหน่อย แน่นอนว่าต้องใช้เงิน แต่มีเงินไม่ใช่หรือครับ หนี้สินต่อ GDP ก็ต่ำ เอาเงินทำอย่างนี้ดีกว่ามั้ย จะได้ไม่ต้องมานั่งร้องไห้กันในระยะยาว

kabu เขียน:

pakhakorn เขียน:อยากเห็นโรงงานย้ายไปอยู่ที่ดอน หรือพื้นที่แห้งแล้งหน่อย เขตน้ำท่วมถึงน้อยหรือเพาะปลูกยากลำบาก ที่ราบลุ่มเอาไว้เพาะปลูก เช่นขึ้นทางอีสาน หรือเหนือให้มากขึ้น ไม่ใช่หนีมาออกันอยู่ภาคตะวันออกมากๆ

ผมว่าโรงงานทุกๆที่ถ้ากลับดำเนินการอีกครั้ง ย่อมต้องการกลุ่มคนงานและพนักงานเดิมที่เคยทำอยู่ให้ได้มากที่สุด เพื่องานจะได้แก้ไขและเดินเครื่องการผลิตที่มีคุณภาพได้รวดเร็วที่สุด ทิ้งคนงานทิ้งพนักงานก็เท่ากับทิ้งโอกาสการฟื้นตัวกลับของบริษัทอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน ทรัพยากรบุคคลผมว่าสำคัญมากๆสำหรับงานคุณภาพที่ดี

รัฐบาลก็อยากให้เป็นอย่างงั้นครับ สังเกตุได้ว่าทางเหนือและอีสานจะอยู่ในโซน 3 ของ BOI ที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด เช่น ยกเว้นภาษี 8 ปี หรือ ภาษีนำเข้าต่างๆ
แต่ที่หลายๆบริษัทไม่อยากทำเนื่องจากข้อจำกัดทางด้านค่าใช้จ่ายขนส่ง และทรัพยากรคนซึ่งหาคนเก่งๆยากกว่า (โดยเฉพาะมาทำด้านบัญชี)

ยกตัวอย่าง Suzuki motor โรงงานอยู่ที่ระยอง พวก first tier, second tier ... Suppliers ของ Suzuki motor ก็คงอยากตั้งโรงงาน หรือ เช่าโรงงานแถวๆระยองเพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายการขนส่อีกอย่างหนึ่ง จะเข้าพบไปพูดคุยเพื่อรักษาความสัมพันธ์ก็ทำได้ง่ายกว่า

ส่วนพื้นที่ในการขยับขยายฝั่งตะวันออกของ amata กับ hemraj เท่าที่ทราบยังคงไปได้เรื่อย เพียงแต่ว่า amata ยังไม่ค่อยอยากให้ amata nakorn ที่ชลบุรีพัฒนาเสร็จไวซักเท่าไหร่ อาจจะอยากขายทางฝั่ง amata city ระยองก่อน

เรื่องย้ายฐานไปประเทศอื่น สำหรับประเทศญี่ปุ่นผมยังไม่ได้ยินนะ แต่ถ้าท่วมชลบุรีกับระยองไปด้วยนี่น่าคิด

แถว นั้น ไม่มีมหาลัย เหรอครับ เรื่องบัญชี นี่ ต้องจบ ระดับไหนละนี่

ผมว่าเรื่องขนส่งมากกว่า ที่อีสาน ไม่สะดวก

ไม่รู้รถไฟรางคู่จากโคราชไปมาบตาพุดเสร็จเรียบร้อยหรือยัง
อีกอย่างตอนนี้หัวเมืองใหญ่ในภาคอีสานมีห้างดังไปเปิดหลายจังหวัด
อาจดึงดูดให้คนกลับไปต่างจังหวัดก็ได้

เข้าใจว่าที่แห้งแล้ง อาจจะไม่สามารถย้ายอุตสาหกรรมบางอย่างไปทำได้ครับ และคงห่างไกล ทำให้เพิ่มต้นทุนทาง logistic ผมคิดว่าน่าจะเป็นแบบที่ว่ากันคือ ได้เวลาตกลงกันสักทีว่า แถบไหนทำเกษตร แถบไหนทำอุตสาหกรรม แล้วจัดการระบบน้ำระดับประเทศ ผันน้ำให้ไหลไปเป็นที่เป็นทาง แล้วตกลงกันเลยว่า ต่อไปนี้เวลาน้ำท่วม จะปล่อยไปท่วมโซนไหน เอาให้เรียบร้อยชัดเจน

ส่วนนึงที่อุตสาหกรรมกระจุกตัวในพื้นที่ และไม่ขยายไปยังภาคอื่น ๆ เช่น อีสาน
ก็เพราะเหตุผล การขนส่ง (logistic) เป็นเหตุผลหลักครับ
หากย้ายไปอีสาน แน่นอนว่า ว่าค่าขนส่งจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และทำให้ไม่สามารถแข่งขันเชิงธุรกิจได้ครับ
ซึ่งปัจจุบันในไทย เองเมื่อเทียบต้นทุนค่าใช้จ่ายในการขนส่ง กับประเทศอื่น ๆ แล้ว
ก็ยังมีต้นทุนการขนส่งที่สูงกว่าประเทศที่อยู่ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งมีระบบการบริหารจัดการที่ดีกว่า อยู่พอสมควร
เพียงแต่จำตัวเลขไม่ได้แล้วว่าค่าเฉลี่ยอยู่ที่เท่าไหร่
ซึ่งจากเดิมอยู่ใกล้แหล่ง หากย้ายไปไกลขึ้น ก็จะกระทบต่อต้นทุน และการแข่งขันครับ

แต่คิดว่าอุตสาหกรรมยังสามารถขยายตัวไปทางตะวันออกได้พอสมควร ซึ่งอยู่ใกล้กับท่าเรือ
แต่อาจจะเพิ่มต้นทุนอีกนิดหน่อย สำหรับการขนส่งกระจายสินค้าภายในประเทศ

ถ้าด้านความได้เปรียบทางภูมิประเทศเรายังมีลูกเล่นให้เล่นมากกว่า หลายประเทศที่เป็นเกาะ หรือติดทะเลอย่างเลือกเกิดไม่ได้
ยกเว้นต่างชาติจะไปหาที่สร้างโรงงานที่ต่างประเทศ ประเทศที่ไม่เคยโดนวิกฤต แล้วรอเปิดเสรีแรงงาน จึงขนย้ายแรงงานมีฝีมือไทย ไปทำที่ฐานต่างประเทศแทน

ดีเหมือนกันที่น้ำท่วมก่อน หากงบโครงการประชานิยมดำเนินก่อนแล้วน้ำมาท่วมหลังจากลงทุนไปแล้วคงเสียหายมากกว่านี้
หวังว่านักธุรกิจและรัฐจะเรียนรู้ว่าzoneไหนเหมาะจะทำโรงงาน หรือบ้าน หรือเกษตรกรรม มากขึ้น

ขอบคุณ อ. เบสครับ

คนตาดำๆอย่างเรายังมองออก

ผมว่าผู้มีอำนาจบริหารประเทศก็มองออกเช่นกัน

ขอร้องเถอะ ทำการเมืองเพื่อส่วนรวม ต่อต้านคอรัปชั่นครับ

ประเด็นนี้ผมถือว่า โอเค ครับกระจ่าง
แต่สิ่งที่ในความคิดผมยังไม่กระจ่างคือ ชิ้นส่วนที่นำมาผลิต
เป็นพวก IC และ แผนไอซี บ้างชิ้นผลิตในประเทศบ้างชิ้นผลิตต่างประเทศ
ซึ่งหากโรงงานตั้งอยู่ที่นั้นแสดงว่า การขนส่งสินค้าใช้ต้นทุนต่ำกว่าที่อื่น
แล้วโรงงานรอบๆข้างที่ผลิตให้สามารถฟื้นฟูได้ในระยะเวลาเดียวกับโรงงานที่ฟื้นฟูได้หรือไม่
ถ้าหากเกิดการไม่เข้าจังหวะของชิ้นส่วนมันก็เหมือนกับต้องรอกันไปรอกันมา

ผมยกตัวอย่างของการผลิตรถยนต์ที่ชิ้นส่วนมีเป็นหมื่นชิ้นในการประกอบรถแต่ละคัน
ตอนที่เกิดซึนามิ การผลิตรถยนต์หยุดเพราะชิ้นส่วนบ้างชนิดที่ผลิตที่ญี่ปุ่นทำไมไม่ได้
โดยที่ส่วนใหญ่ของรถยนต์ผลิตเสร็จแล้ว กว่าจะแก้ไขปัญหานี้ได้ต้องรอเวลาประมาณ 1-2 เืดือนกว่าผลิตได้

สิ่งนี้แหละที่น่ากลัวเพราะเดี๋ยวนี้การผลิตไม่ได้ Stock สินค้าไว้มากมายเหมือนเมื่อก่อน
ใช้ระบบ Just in Time (JIT) กัน ถ้าชิ้นส่วนไหนมีปัญหามันจะกระทบเป็นลูกโซ่ไปหมด

ต้องรอดูผลประเมินจากปลายน้ำคือ HP,Dell,Apple ดีกว่า ว่านักวิเคราะห์จาก US ประเมินว่า
กระทบกี่เดือน เพราะมีแค่บทวิเคราะห์เบื้องต้น ถ้าจากด้านโน้น อีกอย่างข้อมูลมันเ็ป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ตรวจสอบได้

ขอบคุณครับ

จะย้ายไปที่ไหนในไทย์ก็ได้

แต่ ขอให้เป็นเทคโนโลยีสะอาด ได้ไหม ทุกโรงงานเลย อย่าปล่อย ควันเสีย น้ำเสีย เลย

ตอนนี้โตโยต้าเมกา จะลดกำลังการผลิตแล้วเพราะชิ้นส่วนจากไทย ส่งไปไม่ได้