หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 03, 2011 9:12 pm
โดย chatchai
DOW สูงสุดที่ 12928 ตอนนี้ประมาณ 10857 ลดลง 16.02%

DAX สูงสุดที่ 7600 ตอนนี้ประมาณ 5343 ลดลง 29.70%
CAC สูงสุดที่ 4170 ตอนนี้ประมาณ 2910 ลดลง 30.22%
FTSE สูงสุดที่ 6105 ตอนนี้ประมาณ 5025 ลดลง 17.69%

Nikkei สูงสุดที่ 10891 ตอนนี้ 8545 ลดลง 21.54%
HSI สูงสุดที่ 24988 ตอนนี้ 16822 ลดลง 32.68%
STI สูงสุดที่ 3313 ตอนนี้ 2621 ลดลง 20.89%
Korea สูงสุดที่ 2231 ตอนนี้ 1770 ลดลง 20.66%
Jakarta สูงสุดที่ 4196 ตอนนี้ 3349 ลดลง 20.19%
SET สูงสุดที่ 1148 ตอนนี้ 869 ลดลง 24.30%

ไม่มี Comment ครับ

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 03, 2011 9:15 pm
โดย Unstablemind
หมีออกแล้วถึงเวลาหาน้ำผึ้งกันแล้ว :D

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 03, 2011 9:16 pm
โดย ziannoom
บทจะลงอะไรก็ห้ามไม่อยู่ การลงทุน กด รีสตาร์ทเหมือนเกมส์ไม่ได้ ระมัดระวังกันด้วยนะครับ
ปล ผมเจ็บมาเยอะ :'O

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 03, 2011 9:18 pm
โดย Sumeth6
ขอบคุณพี่ฉัตรชัยครับ โดนหนักกันถ้วนหน้า เอเซียก็พลอยหนักกับเค๊าไปด้วย... :cry:

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 03, 2011 9:36 pm
โดย Green
ไทยแลนด์ นี้ สงสัยเพิ่งจะมาวิ่งลงวันหลังๆ แปร๊บๆ จะแซงเพื่อนๆ ซะแล้ว

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 03, 2011 9:57 pm
โดย pakhakorn
Green เขียน:ไทยแลนด์ นี้ สงสัยเพิ่งจะมาวิ่งลงวันหลังๆ แปร๊บๆ จะแซงเพื่อนๆ ซะแล้ว

สงสัย ดีเซลเครื่องรุ่นเก่า ต้องอุ่นเครื่องก่อน พอได้ที่ วิ่ง ซิ่งสุดๆ ว่าแต่ไม่รู้ตรวจสอบ เบรค ก่อนออกตัวหรือเปล่าไม่รู้? กลัวเบรคไม่ดี แล้วยัง แซงเพื่อนๆ อีก

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 03, 2011 10:03 pm
โดย chatchai
เพิ่มเติม อีก 2 ประเทศในกลุ่ม PIIGS

SPAIN สูงสุดที่ 11165 ตอนนี้ประมาณ 8349 ลดลง 25.22%
ITALY สูงสุดที่ 23274 ตอนนี้ประมาณ 14718 ลดลง 36.76%

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 03, 2011 10:05 pm
โดย aonzzung
ปู่ SET นี่ ตอนแรกก็งึกๆงักๆอยู่
วันดีคืนดีคึก มาแรงแซงทางโค้งเลยนะครับเนี่ย :shock:

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 03, 2011 10:08 pm
โดย chatchai
ประเทศสหรัฐที่มีปัญหาหนักหนา หุ้นตกไปเท่าไรกัน

DOW สูงสุดที่ 12928 ตอนนี้ประมาณ 10857 ลดลง 16.02%
S&P500 สูงสุดที่ 1370 ตอนนี้ประมาณ 1123 ลดลง 18.03%

ตกลงสหรัฐมีปัญหามากหรือเปล่าเนี่ย ตกน้อยสุดในโลกเลยมั๊ง

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 03, 2011 10:28 pm
โดย pakhakorn
chatchai เขียน:ประเทศสหรัฐที่มีปัญหาหนักหนา หุ้นตกไปเท่าไรกัน

DOW สูงสุดที่ 12928 ตอนนี้ประมาณ 10857 ลดลง 16.02%
S&P500 สูงสุดที่ 1370 ตอนนี้ประมาณ 1123 ลดลง 18.03%

ตกลงสหรัฐมีปัญหามากหรือเปล่าเนี่ย ตกน้อยสุดในโลกเลยมั๊ง
ผมสงสัย คงเป็นเครดิตในฐานะคนกำหนดเกมที่จะเล่น ครับพี่ฉัตรชัย

เช่น บิดๆงอๆ ที่ออกมาใหม่ เขารู้อยู่แล้วว่า ผลจะเป็นเช่นวันนี้ ผมยังไม่รู้คิดร้ายไปหรือเปล่า? หนึ่งในหลายๆผลรับที่ต้องการ...เพื่อเร่งยุโรปเข้าทางตันเร็วยิ่งขึ้น? ทั้งหมดก็หันมาพึ่งUSยิ่งขึ้น เที่ยวนี้สั่งได้ทั่วไปเหมือนเดิม

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 03, 2011 11:00 pm
โดย คนขายของ
พี่ฉัตรครับ แต่ถ้าเราเทียบกับตั้งแต่ก่อน Subprime Crisis นะครับ

CAC40 นี่มาจาก 6000 กว่าจุด แล้วทำ low ที่ประมาณ 2500 กว่าจุดตอนต้นปี 2009 ผ่านมาสามปีกว่าดัชนีเพิ่งมาอยู่ที่ 2900 กว่า ณ วันที่ 3 ตุลาคม ขึ้นมาแค่ 16%
DAX มาจาก 8000 กว่าจุด ทำ low ที่ 3600 จุดโดยประมาณ ผ่านมาสามปี ตอนนี้อยู่ที่ 5370 จุด ขึ้นมา 50% จากจุดต่ำสุด

SET ทำ LOW 360 จุดโดยประมาณ ตอนปลายปี 2008 ตอนนี้ผ่านมาสามปีกว่าขึ้นมามากกว่า 100% นะครับ

ตอนนี้

SET P/E 10.54
DAX P/E 9.53
CAC40 P/E 8.4
FTSE100 P/E 9.8

ผมขอลองยก SECTOR ค้าปลีกมาเป็นตัวอย่าง

ตอนนี้ TESCO listed @ London Stock Exchange P/E 11.23
WALMART @ NYSE P/E 11.87
TARGET @ NYSE P/E 11.54
HOME DEPOT @ NYSE P/E 14.58
ที่ไม่นำ CARREFOUR ของฝรั่งเศสมาเพราะค่า P/Eติดลบเนื่องจาก Realized one time loss เมื่อไม่นานนี้

BIGC P/E >25
MAKRO P/E >23
HMPRO P/E > 25

ผมว่าการลงของ SET น่าจะพอมีเหตุผลบางประการนะครับ

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 03, 2011 11:18 pm
โดย beaeaebe
หุ้นไทยแพงนะ สมควรแล้วล่ะที่ควรลง ผมมีเงินสดเยอะผมยังไม่คิดจะเข้าไปซื้อเลยตอนนี้ ไม่ใช่ลงแล้วกลัว แต่หุ้นดีๆ มันไม่ถูกน่ะสิ ดร.นิเวศน์ยังบอกเลยว่าไม่เห็นอะไรถูก

ผมว่าโวยวายกับตลาดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอกครับ ถึงจะบอกว่ามันไม่ควรลงเยอะหรืออะไร ถ้าตลาดไม่เล่นด้วย มันก็ลงของมันน่ะแหละ

ลงเยอะลงน้อย แต่ละประเทศเทียบกันผมว่าก็งงๆ ไม่รู้จะไปเทียบทำไม กิจการเราดี mos ดีไหม PE PB fwd ที่เราให้ bias ไปไหม หรือตลาดมันโง่เอง อันนั้นช่วยไม่ได้ เรามั่นใจของเราก็น่าจะ ok ผิดถูก มันก็ตอบของมันเอง

บางทีเทียบๆกันไปก็ไม่ได้อะไร

บางทีคิดแค่ว่า แต่ละที่ราคามันเหมาะสมรึเปล่า ที่ไหนแพงไปรึเปล่า จะน่าคิดมากกว่ามั๊ยครับ

ของที่เราคิดว่าดี ถ้าคนอื่นเค้าว่าไม่ดี เราก็บังคับตลาดไม่ได้หรอกครับ

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 04, 2011 12:00 am
โดย pornjalern
ผมมองว่าถึง PE ตลาดเกิดใหม่ เช่น ไทย ตอนนี้จะใกล้เคียงกับยุโรป แต่ GDP growth 2011-12 ยังไงก็มากกว่า ยุโรป (EUมีโอกาสติดลบสูงมาก) ฉะนั้นในเชิงเปรียบเทียบคงยังสรุปไม่ได้ชัดว่าตลาดไทยแพงกว่ายุโรป แต่อาจจะแพงเมื่อเทียบกับในตลาดไทยในอดีต

Reflexivity Theory ของ Soros เริ่มปรากฎให้เห็นตอนนี้
++++ เมื่อราคาตก ก็ทำให้มุมมองต่อ asset เปลี่ยนเป็นลบมากขึ้น ทำให้เกิดการขาย และการขายก็ยิ่งทำให้ราคาตก ยิ่งทำให้วงจรนี้ลงลึกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ฝูงนักลงทุนเริ่มสงบและเคลื่อนไหวไปอย่างไร้ทิศทางสักระยะหนึ่ง จากนั้นจ่าฝูงของนักลงทุนก็จะเริ่มมองโลกในแง่ดีขึ้นและเริ่มตลุยซื้ออีกครั้งซึ่งทำให้วงจร Reflexivity พลิกกลับไปอีกด้าน+++++++

ผมมีแนวคิดว่า(ซึ่งอาจจะผิดก็ได้นะครับ ขอคำชี้แนะด้วย) ในห้วงตลาดหมีเราควร มองตลาดในแง่บวกไว้หน่อย แต่ในยามตลาดกระทิงเราควรมองตลาดในแง่ลบมากหน่อย แต่ไม่ได้แปลว่ามองสวนตลาดนะครับเพียงแต่อย่ามองร้ายมากเกินไปในยามนี้ เพราะธรรมชาติของเรามีโอกาสที่จะ Bias สูงอยู่แล้วในภาวะแบบนี้

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 04, 2011 12:23 am
โดย คนขายของ
pornjalern เขียน:ผมมองว่าถึง PE ตลาดเกิดใหม่ เช่น ไทย ตอนนี้จะใกล้เคียงกับยุโรป แต่ GDP growth 2011-12 ยังไงก็มากกว่า ยุโรป (EUมีโอกาสติดลบสูงมาก) ฉะนั้นในเชิงเปรียบเทียบคงยังสรุปไม่ได้ชัดว่าตลาดไทยแพงกว่ายุโรป แต่อาจจะแพงเมื่อเทียบกับในตลาดไทยในอดีต

Reflexivity Theory ของ Soros เริ่มปรากฎให้เห็นตอนนี้
++++ เมื่อราคาตก ก็ทำให้มุมมองต่อ asset เปลี่ยนเป็นลบมากขึ้น ทำให้เกิดการขาย และการขายก็ยิ่งทำให้ราคาตก ยิ่งทำให้วงจรนี้ลงลึกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ฝูงนักลงทุนเริ่มสงบและเคลื่อนไหวไปอย่างไร้ทิศทางสักระยะหนึ่ง จากนั้นจ่าฝูงของนักลงทุนก็จะเริ่มมองโลกในแง่ดีขึ้นและเริ่มตลุยซื้ออีกครั้งซึ่งทำให้วงจร Reflexivity พลิกกลับไปอีกด้าน+++++++

ผมมีแนวคิดว่า(ซึ่งอาจจะผิดก็ได้นะครับ ขอคำชี้แนะด้วย) ในห้วงตลาดหมีเราควร มองตลาดในแง่บวกไว้หน่อย แต่ในยามตลาดกระทิงเราควรมองตลาดในแง่ลบมากหน่อย แต่ไม่ได้แปลว่ามองสวนตลาดนะครับเพียงแต่อย่ามองร้ายมากเกินไปในยามนี้ เพราะธรรมชาติของเรามีโอกาสที่จะ Bias สูงอยู่แล้วในภาวะแบบนี้
ผมเห็นด้วยกับคุณ pornjalern ครับว่า ยุโรป ที่อาการขนาดนี้คงหวัง Growth อะไรไม่ได้มาก การเติบโตของเศรษฐกิจโลกคงฝากไว้กับ Emerging Markets มากกว่า และเนื่องจาก Growth มากกว่า PE ก็ควรจะมากกว่า

แต่มีบางบริษัทในยุโรป ที่มีรายได้มาจากตลาดต่างประเทศ (โดยเฉพาะ Emerging Markets) เช่น TESCO มีการขยายตัวนอกยุโรปอย่างมาก ประเทศไทยก็พลเมืองพอๆกับอังกฤษ

อีกบริษัทนึง เช่น BMW รถหรูหราทีเรารู้จักกันดี ตอนนี้ PE 8.87 ณ PE ตอนนี้ยังถูกกว่า STANLY กับ SAT บ้านเราอีกครับ

ผมว่าตลาดให้ discount มากไปในบางบริษัท โดยเฉพาะเมื่อ EUR อ่อนค่าลงมาน่าจะยิ่งช่วยส่งเสริมได้อีกนะครับ

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 04, 2011 7:31 am
โดย terati20
set น่าจะลงได้อีก :)

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 04, 2011 7:38 am
โดย tum_H
คนขายของ เขียน: ผมขอลองยก SECTOR ค้าปลีกมาเป็นตัวอย่าง

MAKRO P/E >23
HMPRO P/E > 25

ผมว่าการลงของ SET น่าจะพอมีเหตุผลบางประการนะครับ
ผมก็เชื่อว่า เราจะมีโอกาสซื้อในราคาที่มีพรีเมี่ยมมากกว่านี้ครับ
หุ้นแข็งแกร่งหลายตัวตอนซับพาร์ม ก็ยังทานกระแสตลาดไม่ไหว

ในระยะสั้นความผันผวนสูง ระยะยาวถือเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทน
ที่ดีที่สุดเช่นกันครับ



:o

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 04, 2011 8:29 am
โดย OutOfMyMind
stock prices are public opinions. We can drive them up or down by providing good and bad news. Value lies in the eye of the beholder.

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 04, 2011 8:52 am
โดย DragonKing
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
แต่ตัวที่เล็งๆไว้ ยังลงไม่มากเท่าไร

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 04, 2011 10:05 am
โดย ccc111
ตอนนี้

SET P/E 10.54
DAX P/E 9.53
CAC40 P/E 8.4
FTSE100 P/E 9.8
ผมว่าตอนนี้ตลาดไทยควรจะมี PE มากกว่าตลาดยุโรป
PE ตลาดที่ 10 เท่า ผมว่าไม่แพง แต่ก็ไม่ถูกนัก
และผมว่าตอนี้คนที่ขายหุ้นออกมานั้น
ส่วนใหญ่ไม่ได้ขายเพราะคิดว่าแพงแล้ว
แต่ขายเพราะคิดว่าหุ้นจะลงอีก และจะซื้อได้ถูกกว่าเดิม

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 04, 2011 10:30 am
โดย nACrophiles_117
ไตรมาสสามพวกหุ้นน้ำมันทั้งหลายจะกำไรหดหรือขาดทุนกันไหมครับ จากสต๊อกน้ำมัน ถ้าแบบนั้นน่าจะทำให้ราคาตรงนี้ PE จะกลายเป็นสูงขึ้น???

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 04, 2011 11:02 am
โดย บูรพาไม่แพ้
เช้านี้ 1 รอบแล้ว..ไม่รู้วันนี้จะมีกี่รอบหรอเด้งขึ้นเลยนะ

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 04, 2011 11:14 am
โดย chukieat30
chatchai เขียน:DOW สูงสุดที่ 12928 ตอนนี้ประมาณ 10857 ลดลง 16.02%

DAX สูงสุดที่ 7600 ตอนนี้ประมาณ 5343 ลดลง 29.70%
CAC สูงสุดที่ 4170 ตอนนี้ประมาณ 2910 ลดลง 30.22%
FTSE สูงสุดที่ 6105 ตอนนี้ประมาณ 5025 ลดลง 17.69%

Nikkei สูงสุดที่ 10891 ตอนนี้ 8545 ลดลง 21.54%
HSI สูงสุดที่ 24988 ตอนนี้ 16822 ลดลง 32.68%
STI สูงสุดที่ 3313 ตอนนี้ 2621 ลดลง 20.89%
Korea สูงสุดที่ 2231 ตอนนี้ 1770 ลดลง 20.66%
Jakarta สูงสุดที่ 4196 ตอนนี้ 3349 ลดลง 20.19%
SET สูงสุดที่ 1148 ตอนนี้ 869 ลดลง 24.30%

ไม่มี Comment ครับ

+1ให้พี่ฉัตรครับ

แป๊ปเดียว บ้านเราก้ลงมากกว่าเพื่อนบ้านแล้ว

ถึงแม้พีอีเซท จะอยู่แถว10 เท่า แต่หุ้นหลายตัวที่ได้รับผลกระทบ พีอี 2-3เท่าก้มี

เกลื่อยนกลาดครับ

ตลาดไม่ถูก แต่ หุ้นถูก(บางตัว)

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 04, 2011 11:27 am
โดย viim
ตอนนี้เหมือนกับว่าพวกเราจะให้ความสำคัญกับ Mr.Market ไปมากหรือป่าวครับ ไม่ว่าจะเป็น Mr.Market ที่ไหนก็ตาม ผมว่าความถูกความแพงมันก็มักจะโยงกับคำว่าคุณค่าเสมอ ไม่มีคำตอบตายตัวว่าตรงไหนถูกหรือแพง เพราะแต่ละคนจะให้ความถูกแพงไม่เหมือนกัน ตอนนี้ผมคิดว่าของจริงในการเป็นส่วนหนึ่งของตลาดทุนของผมคือ ผมจะถือบริษัทไหนดีและบริษัทไหนที่ผมถือแล้วจะมีกระแสเงินสดที่อยู่ในรูปปันผลมาเข้ากระเป๋าผมได้บ้างและมากกว่าการฝากกินดอกเบี้ยในธนาคาร ตรงนั้นเป็นจุดอ้างอิงเปรียบเทียบมากกว่า และวิเคราะห์หนี้ สภาพคล่องของกิจการในกรณีเศรษฐกิจแย่สุดๆว่ากิจการไหนของผมมีความน่าจะเป็นที่จะอยู่หรือเจ๊ง ถ้ามีความน่าจะเป็นที่จะอยู่ (ตามความคิดของเรา) เราก็ถือต่อและไม่สนใจ mr.market ที่อารมณ์ไม่อยู่กับร่องกับรอย และผม timing market ไม่เป็นซะด้วย แต่แน่นอนผมต้องมีเงินสดส่วนหนึ่งเพื่อให้มีสภาพคล่องพอสมควรในการจับจ่ายใช้สอยสำหรับชีวิตประจำวัน ตอนนี้สิ่งที่ผมพยายามทำอยู่คือวิเคราะห์กิจการตามความรู้ที่มีอันน้อยนิดในเรื่องตลาดทุนของผมว่ากิจการไหนที่ผมควรถือในสภาวะแบบนี้และมองไปอีก 3-5 ปีว่ามันจะสามารถผลิตกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่องให้กับผมได้ ถ้าผมวิเคราะห์ผิด ก็แสดงว่าประสบการณ์อาจจะไม่เพียงพอ และจะนำมาซึ่งการเจ็บตัวทางบัญชีชั่วคราวหรืออาจจะถาวร :( ก็ไม่เป็นไร คราวหน้าวิเคราะห์ต่อ ฝึกมันไปเรื่อยๆ ไม่หนีไปจากตลาดแน่ เพราะยังไงผมก็ยังมีความเชื่อในตลาดทุนอยู่ ผมมองยาวๆแล้วสบายใจดีครับ

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 04, 2011 12:03 pm
โดย chukieat30
viim เขียน:ตอนนี้เหมือนกับว่าพวกเราจะให้ความสำคัญกับ Mr.Market ไปมากหรือป่าวครับ ไม่ว่าจะเป็น Mr.Market ที่ไหนก็ตาม ผมว่าความถูกความแพงมันก็มักจะโยงกับคำว่าคุณค่าเสมอ ไม่มีคำตอบตายตัวว่าตรงไหนถูกหรือแพง เพราะแต่ละคนจะให้ความถูกแพงไม่เหมือนกัน ตอนนี้ผมคิดว่าของจริงในการเป็นส่วนหนึ่งของตลาดทุนของผมคือ ผมจะถือบริษัทไหนดีและบริษัทไหนที่ผมถือแล้วจะมีกระแสเงินสดที่อยู่ในรูปปันผลมาเข้ากระเป๋าผมได้บ้างและมากกว่าการฝากกินดอกเบี้ยในธนาคาร ตรงนั้นเป็นจุดอ้างอิงเปรียบเทียบมากกว่า และวิเคราะห์หนี้ สภาพคล่องของกิจการในกรณีเศรษฐกิจแย่สุดๆว่ากิจการไหนของผมมีความน่าจะเป็นที่จะอยู่หรือเจ๊ง ถ้ามีความน่าจะเป็นที่จะอยู่ (ตามความคิดของเรา) เราก็ถือต่อและไม่สนใจ mr.market ที่อารมณ์ไม่อยู่กับร่องกับรอย และผม timing market ไม่เป็นซะด้วย แต่แน่นอนผมต้องมีเงินสดส่วนหนึ่งเพื่อให้มีสภาพคล่องพอสมควรในการจับจ่ายใช้สอยสำหรับชีวิตประจำวัน ตอนนี้สิ่งที่ผมพยายามทำอยู่คือวิเคราะห์กิจการตามความรู้ที่มีอันน้อยนิดในเรื่องตลาดทุนของผมว่ากิจการไหนที่ผมควรถือในสภาวะแบบนี้และมองไปอีก 3-5 ปีว่ามันจะสามารถผลิตกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่องให้กับผมได้ ถ้าผมวิเคราะห์ผิด ก็แสดงว่าประสบการณ์อาจจะไม่เพียงพอ และจะนำมาซึ่งการเจ็บตัวทางบัญชีชั่วคราวหรืออาจจะถาวร :( ก็ไม่เป็นไร คราวหน้าวิเคราะห์ต่อ ฝึกมันไปเรื่อยๆ ไม่หนีไปจากตลาดแน่ เพราะยังไงผมก็ยังมีความเชื่อในตลาดทุนอยู่ ผมมองยาวๆแล้วสบายใจดีครับ

ผมมองว่า ถ้ากิจการบางประเภท เราไปลงทุนเองใช้กี่บาท และ้ถ้าเราซื้อกิจการต่ำกว่า

ราคาเจ้าของ ผมว่ามันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มนะครับ

ดูจากราคาหุ้น *จำนวนหุ้น แล้วดูว่ากิจการนั้น ถ้าซื้อคนเดียวใช้เงินกี่บาท

แล้วจะรู้ ว่าคุ้มไม่คุ้ม ครับ

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 04, 2011 12:42 pm
โดย viim
ถูกต้องครับคุณชูเกียรติ และต้องเป็นกิจการที่จะสามารถทำกำไรให้เราได้เรื่อยๆด้วยยิ่งดีใช่มั๊ยครับ กระแสเงินสดใช้ได้ หนี้ไม่เยอะ อาจจะมียอดขาย รายได้สะดุดชั่วคราวบ้างแต่มองไกลๆน่าจะไปได้ อะไรแบบนี้มั๊ยครับ

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 04, 2011 1:14 pm
โดย tum_H
chukieat30 เขียน: ผมมองว่า ถ้ากิจการบางประเภท เราไปลงทุนเองใช้กี่บาท แลถ้าเราซื้อกิจการต่ำกว่า

ราคาเจ้าของ ผมว่ามันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มนะครับ
ที่สำคัญคือ เราเลือกถือหุ้นที่มีผู้บริหารดีๆและเก่งๆได้
หากให้ผมบริหารเอง มีหวังกำไรหด

เป็นเจ้าของโดยอ้อม อย่างนี้สบายใจกว่าเยอะ



:D

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 04, 2011 1:23 pm
โดย chukieat30
viim เขียน:ถูกต้องครับคุณชูเกียรติ และต้องเป็นกิจการที่จะสามารถทำกำไรให้เราได้เรื่อยๆด้วยยิ่งดีใช่มั๊ยครับ กระแสเงินสดใช้ได้ หนี้ไม่เยอะ อาจจะมียอดขาย รายได้สะดุดชั่วคราวบ้างแต่มองไกลๆน่าจะไปได้ อะไรแบบนี้มั๊ยครับ
มองเป็นเทรนด์ด้วย ก้ดีครับ

ทุกอย่างบนโลก เมื่อสิ่งหนึ่งได้ จะมีอีกสิ่งที่ต้องเสียครับ

น้ำท่วม คนเสียโอกาศ แต่คนขายขึ้ผึ้ง เรือ อาหารกระป๋อง และ รถอีแต๋น กลับมีดีมานท์ที่มากล้น

มันขึ้นกับว่า เราจะเห็น โอกาศ อันนั้นหรือเปล่าครับ

วิกฤติ ดีมานท์ก้ต้องลดลง แต่ วิกฤติที่ไม่ได้เกิดบ้านเรา ก้ไม่ทำให้

นโยบายที่ประกาศก่อนเลือกตั้งเปลี่ยนนี่ครับ

การสร้างรถไฟฟ้า10 สาย

ถมทะเลสร้างเขื่อน

สร้างรถไฟรางคู่

ทำถนน ซ่อมน้ำท่วม

บ้านหลังแรก รถคันแรก


ผมยังมองว่า วิกฤติยุโรปไม่ได้ทำให้ นโยบายเปลี่ยนไป ทางที่ดี

เห็นโอกาศ ก้ ซื้อไว้ก่อนครับ เพราะหลายคน ก้ไม่เห็น

มองว่าอันตราย มองว่าไม่น่า ทางที่ดี อย่าไปฟังความคิดด้านลบคนอื่น

หากมองว่า มันคือ วิกฤติในโอกาศ ก้ซื้อ แล้ว นอนยาวครับ

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 04, 2011 1:33 pm
โดย chukieat30
มองแต่ปัญหา แต่ ไม่มองอีกด้านของเหรียญ ก้จะพลาดโอกาศดีๆๆครับ

จอหน์ ดี ร๊อคกี้เฟลเลอร์ ลูกชาวนา แต่สุดท้ายเป็นเศรษฐี น้ำมันสแตนดาร์ดออยล์

กล่าวไว้

ในวิกฤติ มีโอกาศ

ถ้ามองเหรียญแค่ด้านเดียว คุณก้จะเสพแต่สื่อด้านเดียว หากเราเห็นโอกาศ ก้จงอย่าไป

ตกใจกับโอกาศ เพราะโอกาศบางประเภท ต้องใช้เวลา

สุดท้ายแล้ว เมื่อคุณเอาเหรียญ หันไปด้านหัว คนที่อยู่ด้านหัวชนะ คนด้านก้อยก้ต้องแพ้

สัจธรรมของชีวิตครับ

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 04, 2011 7:32 pm
โดย mincho
chatchai เขียน:DOW สูงสุดที่ 12928 ตอนนี้ประมาณ 10857 ลดลง 16.02%
S&P500 สูงสุดที่ 1370 ตอนนี้ประมาณ 1123 ลดลง 18.03%

DAX สูงสุดที่ 7600 ตอนนี้ประมาณ 5343 ลดลง 29.70%
CAC สูงสุดที่ 4170 ตอนนี้ประมาณ 2910 ลดลง 30.22%
FTSE สูงสุดที่ 6105 ตอนนี้ประมาณ 5025 ลดลง 17.69%

Nikkei สูงสุดที่ 10891 ตอนนี้ 8545 ลดลง 21.54%
HSI สูงสุดที่ 24988 ตอนนี้ 16822 ลดลง 32.68%
STI สูงสุดที่ 3313 ตอนนี้ 2621 ลดลง 20.89%
Korea สูงสุดที่ 2231 ตอนนี้ 1770 ลดลง 20.66%
Jakarta สูงสุดที่ 4196 ตอนนี้ 3349 ลดลง 20.19%
SPAIN สูงสุดที่ 11165 ตอนนี้ประมาณ 8349 ลดลง 25.22%
ITALY สูงสุดที่ 23274 ตอนนี้ประมาณ 14718 ลดลง 36.76%
SET สูงสุดที่ 1148 ตอนนี้ 869 ลดลง 24.30%
เอามาจากพันทิพย์ครับ

ถ้าลองเทียบ Bottom ช่วงซับไพร์ม -> Peak ล่าสุด

SET 380.05 -> 1,148.28 = +202.14%
DOW 6469.95 -> 12876.00 = +99.01%
DAX 3,588.89 -> 7,600.41 = +111.78%
HSKI 10,676.29 -> 24,468.64 = +129.19%


ถ้าลองเทียบจาก Bottom ช่วงซับไพร์ม -> ราคาปัจจุบัน จะเห็นว่า..
SET 380.05 -> 869.31 = +128.74%
DOW 6,469.95 -> 10,700.00 = +65.38%
DAX 3,588.89 -> 5,376.70 = +49.82%
HSKI 10,676.29 -> 16,822.15 = +57.57%

ถ้ามองแบบหลังนี่เราจะมีโอกาสลงอีกได้เยอะกว่า ชาวบ้านเค้ารึป่าวครับ

ที่มา http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 51077.html

Re: เปรียบเทียบการลดลงของดัชนีหุ้น

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 04, 2011 9:27 pm
โดย tobacco
ช่วงซับไพร์ม SET โดนผลกระทบจากการเมืองด้วยครับ