Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

เมื่อมีเหตุการณ์สำคัญครั้งนี้ ระดับ Buffet พูดยังว่า "หุ้นยิ่งลง ผมยิ่งซื้อ" เลยเป็นประเด็นขึ้นมา ว่าต้องมีกระสุนสำรอง..ถึงจะทำได้่ ปัญหาตามคือ...

1. การมีกระสุนสำรอง จำเป็นมากแค่ไหน?

2. จะจัดการอย่างไรดี..ให้มีกระสุนสำรองที่เพียงพอ ชุดแรกหาจากไหน? ชุดต่อๆไปจะหาได้จากที่ไหน? เพราะส่วนตัวเห็นว่า ข้อได้เปรียบจะดีสุด เมื่อมีกระสุนสำรองเพื่อไปรับของถูก(ที่ว่า "หุ้นยิ่งลง ผมยิ่งซื้อ")

3. จะมีวิธีบริหารจัดการ การใช้กระสุนสำรองอย่างไร ให้มีกระสุนสำรองเหลือใช้ได้จนถึง..ใกล้จบหรือจนจบเหตุการณ์

4. จะต่อราคาซื้ออย่างไร ถึงจะซื้อได้ราคาใกล้เคียงราคาต่ำสุด

ส่วนตัวผมเองมือยังใหม่เตรียมกระสุนสำรองไว้บ้างแล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาเกี่ยวกับกระสุนสำรองดังว่า จึงใคร่ขอเรียนเชิญ พี่ๆ และเพื่อนๆสมาชิกvi ช่วยแนะนำ ช่วยแชร์ วิธี แนวทาง ประสบการณ์ บ้าง ครับ เช่นถ้าจำไม่ผิดเหตุครั้งผ่านมา ได้ฟังว่าท่าน ดร.นิเวศน์ ยังใช้marginซื้อหุ้นเลย(กระสุนสำรองอีกแหล่งหนึ่ง?)

ขอบคุณ ครับ

เปิดประเด็นได้น่าสนใจมากครับ
ผมก็อยากรู้

กระสุนสำรองของผมคือ
1 - เงินเดือนที่ได้รับทุกเดือน งานพิเศษที่รับมาทำ
ถ้าช่วงไหนหาหุ้นไม่ได้ก็ไม่ซื้อ หรือ ซื้อไม่ครบจำนวนเงินที่ตั้งไว้
เก็บไปเรื่อยๆ ทบไปเรื่อยๆ มันจะค่อยๆก้อนใหญ่ขึ้นมา

2 - ปันผลที่ได้ ปันผลก้อนแรกๆของผมมันก็เป็นแค่เงินหลักร้อย
ทบไปเรื่อยๆ ลงทุนไปเรื่อยๆ บริษัทเติบโตขึ้น จ่ายปันผลมากขึ้น จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น
มันก็กลายเป็นหลักพัน หลักหมื่น หลักแสน ....

3 - อันนี้เงินพิเศษ กระสุนสำรองจากประเป๋าหวานใจตัวเอง


ปล. ผมยังลงทุนแบบ Dollar Cost Average นะครับ แต่เป็น DCA แบบถ่วงน้ำหนัก
ไม่ได้ซื้อแบบเป๊ะๆทุกๆเดือนๆ ตามกำหนด

ผมจะกันเงิน 10-20% ไว้เผื่อจะเจอหุ้นที่กำลัีงจะขึ้นครับ โดยอีก 10-20% จะรอซื้อตามตลาดเพื่อที่จะขายได้ง่าย เพื่อที่จะเอามาเป็นทุนสำรองต่อไปแทน 10-20% ที่เก็บไว้

กระสุนสำรองของผมอยู่ที่ภรรยาครับ ยังเหลือพอๆกับมูลค่าพอร์ตในตอนนี้ ไว้มี crisis ขึ้นมาค่อยไปอ้อนวอนแคะกระปุก

ขอบคุณ.. ทุกความเห็นและคำแนะนำ ทำให้ผมเริ่มเห็นช่องทาง การหามาซึ่ง..กระสุนสำรองที่ผมไม่เคยคิดถึงมาก่อนนอกจากกันไว้แบบตรงๆเลย รวมทั้งแยกกระสุนสำรองไว้ให้ไกลๆมือแบบคุณjek ae เวลาจะใช้จริงๆต้องอนุมัติอีกที

แล้วก็..ใคร่ขอเรียนเชิญ พี่ๆ และเพื่อนๆสมาชิกvi ช่วยแนะนำ ช่วยแชร์ วิธี แนวทาง ประสบการณ์ เพิ่มเติมนะ ครับ

ขอบคุณ ครับ

ผมไม่มีกระสุกสำรอง ผม ค่อย ๆ เก็บเงินเดือนไปเรื่อย ๆ ครับ

บริหารความโลภให้พอๆกับความรู้ ความเข้าใจบริษัทที่เราลงทุนครับ

แล้วเราจะตอบตัวเราเองได้ว่า เราควรลงทุนเท่าไหร่ ด้วยเม็ดเงินเท่าไหร่
และระยะเวลาลงทุนในบริษัทนั้นๆเป็นเวลาเท่าไหร่

การลงทุนจึงเป็นศิลปะ และเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งครับ

มีความสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม

ผมเห็นว่า เราควรมีเงินสดสำรองไว้บ้าง ยามฉุกเฉิน หรือเมื่อมีโอกาสมาถึง จะได้ช้อนของดีราคาถูกได้ครับ ยิ่งในภาวะที่ตลาดร้อนแรง ขึ้นมาเยอะเหมือนในเวลานี้ ปกติช่วงนี้ผมพยายามจะถือเงินสดอยู่ประมาณ 5% (อันที่จริงยังว่าดูน้อยเกินไปหรือเปล่า ก็กลัวเสียโอกาสไปเหมือนกันน่ะครับ)

ปรับฐานย่อย ๆ ที่ผ่านมาไม่นานนี้ ผมยังได้ใช้เงินสดที่เตรียมไว้เหมือนกันครับ ใช้จนรู้สึกว่าพอตลาดปรับฐานจริง ๆ ทำไมตอนตลาดดี ๆ เราไม่เก็บเงินสดให้มากกว่านี้อีกหน่อย ใช้แป๊บเดียว เงินสดแทบหมดน่ะครับ

ผมมองว่า ตลาดปรับฐานย่อย ๆ และเราเห็นว่าหุ้นมี value เพิ่มขึ้น น่าสนใจ เราก็ซื้อเิพิ่ม แต่ถ้ามันเกิดลงหนักจริง ๆ ผมว่าเราควรอยู่เฉย ๆ แล้วครับ ไม่ควรซื้อเฉลี่ยเพิ่มอีก เพราะเราไม่รู้ว่ามันจะลงไปลึกแค่ไหน (อันนี้เจอประสบการณ์ตรงจากตอน Subprime - -") อาจใช้วิธีการปรับพอร์ตแทน โดยขายตัวที่ลงน้อย ไปซื้อตัวที่ลงเยอะ และมี value มากกว่าแทน

แต่ถ้าตลาดปรับลงมามากแบบเราคิดว่าสุด ๆ จริง ๆ ถึงเวลานั้น ถ้าดูสถานการณ์แล้ว downside risk น้อยจริง ๆ ผมว่า การใช้ margin เป็นแผนการสุดท้าย อย่างที่ ดร.ทำ ผมก็เห็นด้วยนะครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ดี อันนี้แล้วแต่ฝีมือแต่ละคน และความสามารถในการรับความเสี่ยงของแต่ละคนแล้วล่ะครับ

ถ้าหุ้นตกต่อเนื่อง1-3ปี
ผมว่านอกจากกระสุนสำรองหมดแล้ว
viบางท่านอาจสาบส่งตลาดไปเลย
555

sarawut_p เขียน:ผมไม่มีกระสุกสำรอง ผม ค่อย ๆ เก็บเงินเดือนไปเรื่อย ๆ ครับ

เงินเดือนก็เป็นแหล่งผลิต..กระสุนสำรอง ครับ
และผลิตได้เรื่อยๆไม่มีวันจบถ้าเราไม่ยกเลิกมันเสียก่อน (ส่วนตัวผมไม่มีแหล่งนี้แล้วครับ)

การบริหารหมุนเวียน..กระสุนสำรอง แบบคุณchootana ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย(น่าต่อยอดได้) ทำให้ผมเห็นว่า บางครั้งมันก็อยู่ที่ข้างตัวเรานี่เอง(ที่ผมมองข้าม) แต่เราต้องรู้วิธีจัดการให้มันยืดหยุ่นบ้าง ครับ

pakhakorn เขียน:

sarawut_p เขียน:ผมไม่มีกระสุกสำรอง ผม ค่อย ๆ เก็บเงินเดือนไปเรื่อย ๆ ครับ

เงินเดือนก็เป็นแหล่งผลิต..กระสุนสำรอง ครับ
และผลิตได้เรื่อยๆไม่มีวันจบถ้าเราไม่ยกเลิกมันเสียก่อน (ส่วนตัวผมไม่มีแหล่งนี้แล้วครับ)

การบริหารหมุนเวียน..กระสุนสำรอง แบบคุณchootana ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย(น่าต่อยอดได้) ทำให้ผมเห็นว่า บางครั้งมันก็อยู่ที่ข้างตัวเรานี่เอง(ที่ผมมองข้าม) แต่เราต้องรู้วิธีจัดการให้มันยืดหยุ่นบ้าง ครับ

รบกวนถามนิดนึงครับ

โพสต์แรกบอกว่ามือใหม่

แต่บอกว่าไม่มีแหล่งเงินเดือนแล้ว

แปลว่าเป็นเจ้าของกิจการหรือว่ามีอิสรภาพทางการเงินแล้วหรือครับ

istyle เขียน:

pakhakorn เขียน:

sarawut_p เขียน:ผมไม่มีกระสุกสำรอง ผม ค่อย ๆ เก็บเงินเดือนไปเรื่อย ๆ ครับ

เงินเดือนก็เป็นแหล่งผลิต..กระสุนสำรอง ครับ
และผลิตได้เรื่อยๆไม่มีวันจบถ้าเราไม่ยกเลิกมันเสียก่อน (ส่วนตัวผมไม่มีแหล่งนี้แล้วครับ)

การบริหารหมุนเวียน..กระสุนสำรอง แบบคุณchootana ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย(น่าต่อยอดได้) ทำให้ผมเห็นว่า บางครั้งมันก็อยู่ที่ข้างตัวเรานี่เอง(ที่ผมมองข้าม) แต่เราต้องรู้วิธีจัดการให้มันยืดหยุ่นบ้าง ครับ

รบกวนถามนิดนึงครับ

โพสต์แรกบอกว่ามือใหม่

แต่บอกว่าไม่มีแหล่งเงินเดือนแล้ว

แปลว่าเป็นเจ้าของกิจการหรือว่ามีอิสรภาพทางการเงินแล้วหรือครับ

ผมยังเป็นมือใหม่ที่มาหัดลงทุนโดยหุ้น แล้วก็เจ็บกับหุ้นมากหลายตัว เพราะไม่นิ่งพอ ซึ่งขาดความรู้แบบที่พี่ฉัตรชัยเตือนประจำ แต่บวกลบแล้วก็ยังไม่เข้าเนื้อเพราะภาวะตลาดพาไป(รู้ว่ายังไม่ใช่ฝีมือตัวเอง) ผมออกจากบริษัท.....แล้ววันนี้ก็แค่ขายมือถือตู้เล็กๆในห้างครับ แต่ได้อ่านและเรียนรู้จากเว็บนี้เพื่อหาทางขัดเกลาความคิดตัวเองในการลงทุน(ซึ่งใช้ความรู้ที่ผมไม่ได้เรียนมามากเหลือเกิน) แต่สิ่งที่ผมมีประสบการณ์จากเรียนรู้ข้างนอกคือ.. คนที่มีชีวิตอยู่จึงมีสิทธิ์ที่จะสร้างหรือแก้ไข...สิ่งที่ตัวเองคิด ผมจึงยังลงทุนเท่าที่ความรู้และความสามารถผมจะรองรับความผิดพลาดได้ ยังไม่มีอิสรภาพทางการเงิน ครับ กำลังเดินตามหามันอยู่ และยังหวังว่าจะได้พบ สำหรับผมช้าหน่อยไม่เป็นไร ครับ

ถ้าเราไม่ใส่ลงในหุ้น 100%

ยังไงเราก็มี กระสุนสำรอง