สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 1

สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 1

โพสต์

สรุปรอบนี้อาจ งงๆไปซักนิดนะครับ เพราะ คุยกับเพื่อนเพลินไปหน่อยแล้วช่วงหลังเนื้อหาดีมากแต่ไวมากเช่นกัน อายุมากขึ้นเลยจดกับจำได้อาจไม่ครบถ้วนครับ บางสวนได้ปรับให้เป็นภาษาไทยทั้งหมดนะครับ รอบนี้ค่อนข้างไปต่างประเทศ ศัพท์ต่างๆเยอะไปหมด T_T

ลงทุนอย่างไรให้ชนะตลาดในและต่างประเทศ โดย ไอร่า

ถาม จำเป็นหรือไม่ที่ต้องลงทุนในต่างประเทศ

คุณนคร การลงทุนต่างประเทศเป้นทางเลือกหนึ่งในจังหวะที่ ศก มีความผันผวน บางที่โตเร็ว โตช้า ในอัตราเร่งที่ไม่เท่ากันเท่ากัน ปีที่แล้วตลาดในเอเชียโตหมด หรือในเมกา ก็ยังเติบโต แต่ปีนี้จะโตไม่เท่ากันแล้ว ไทยและเพื่อนบ้านปีนี่น่าจะเล่นลำบากเพราะปีที่แล้วเราโตไปเยอะมาก และเงินเฟ้อเป็นปัจจัยกดดันที่สำคัญ

ลองเปรียบเทียบ ในศก โลก ปีที่แล้ว เอเชียเป้นเบอร์ 1 เมกา 2 ยุโรบ 3 แนวโน้ว ศก ก็เติบโตราวๆ 4.2% บางประเทศโตมากกว่า น้อยกว่า อัตราเงินเฟ้อ เอเชียที่ 6% ยุโรบ 2% เมกา 1.6% ซึ่งเทียบตรงนี้จะเห็นว่า บ้านเรามันเริ่มเสี่ยงมากขึ้นเมื่อเทียบกับเมกา

BUY USA เนื่องจาก ยุโรบยังมีปัญหาเรื่องหนี้อยู่ เอเชียก็มีข่าวกดดันเรื่องการชึ้นดอกเบี้ย ฟองสบู่อสังหาเป็นปัจจัยลบกดดันหุ้นเอเชีย เช้น จีน ในไทย อินโด ฟิลิปินก็เช่นกันที่รัฐบาลเริ่มมีนโยบายเข้มงวดทางการเงินคือ ขึ้นดอกเบี้ยมาตลอด ก็เปเนผลลบกันหุ้นทั้งนั้น จีนในปี 2555 จะมีการเปลี่ยนถ่ายอำนาจครั้งใหญ่ในรัฐบาลหูจินเทา ซึ่งมีเนวโน้วที่ ปลายรัฐบาลนี้จะทำให้ ศก ชะลอตัว เพื่อให้รัฐบาลใหม่บริหารงานได้ง่ายให้รัฐบาลใหม่ได้สร้างผลงาน ครึ่งปีหลังจีนจึงน่าจะกลับมาได้ เหตุผลที่สนใจตลาดเมกาเพราะ เมกาตอนนี้มีปัจจัยต่างๆที่เกื้อหนุนให้หุ้นขึ้นไม่ว่าจะเป้นมาตรการ qe2 การกดดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำ การต่อมาตรการภาษีต่างๆออกไป เป้นตัวทำให้ GDP ของเมกาเติบโตได้ต่อและส่งผลต่อราคาหุ้น ตัวที่น่าพิจารณาอีกตัวคือ อัตราการว่างงานของเมกา ที่ตอนนี้อยู่ในระดับยสูงแต่มีแนวโน้วที่ลดลง ซึ่ง 60% ของ GDP เมกาเป้นการบริโภค ถ้าตัวนี้กลับมาได้หุ้นเมกาน่าจะไปได้อีกไกล
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 1

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 2

โพสต์

คุณสุธี : เรื่องความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศ ก็มีความสเยงแต่ในความเสี่ยงก็ต้องดูว่าเรารับได้ไหม โดยให้มีความสมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ต้องการจำด้รับ ไปต่างประเทศแน่นอนโอกาสการลงทุนมากกว่าแต่ความเสี่ยงที่แลกมาคือเรามีความรู้ในต่างประเทศที่น้อย จึงต้องเพิ่มเวลาในการศึกษาเพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าว เพราะถ้าลองดูปัจจุบัน GDP ไทยคิดเป็น 0.5% ของ GDP โลก และขนาดของตลาดหุ้นไทยคิดเป็น 0.3% ของตลาดโลก โอกาสลงทุนและหากำไรในต่าประเทศมีอีกมากเลย ซึ่งถ้าไม่กล้าเล่นหุ้นรายตัว ตอนนี้ การลงทุนใน ETF ที่ลงทุนใน INDEX ของแต่ละประเทศก็น่าสนใจ เพราะปีที่แล้ว MSCI ของไทย ได้ผลตอบแทน 77% สูงที่สุดในโลก ถ้ามองว่าปีนี้จะพุ่งได้ต่อก็ดูจะลำบาก เมือ่เทียบกับ MSCI ของประเทศอื่นๆที่โตไม่มากนัก ความเสี่ยงอีกตัวคือค่าเงินที่ต้องพิจารณาให้ดีบางทีกำไรหุ้นพอแลกกลับมาเป้นเงินไทยก็ขาดทุนได้ และเรื่องของภาระภาษีที่ต้องติดตามด้วย

เทคนิคการควบคุมความเสียงตัวหนึ่งที่แนะนำคือการลงทุนในหหลักทรัพย์หรือ INDEX ที่มีค่าควาสัมพันธ์กันน้อย คือตัวนึงขึ้นอีกตัวหนึ่งลง ก็เป็นการช่วยได้ อย่ายกตัวอย่าง MSCI ของฝรั่งเศส กับเยอรมันมันสัมพันไปทางเดียวกันคือขึ้นก้ขึ้นเหมือนกันลงก็ลงเหมือนกัน ถ้าลง 2 ตัวนี้ก็ไม่ช่วยอะไร ถ้าลองเอามาเทียบ MSCI ไทยกับฝรั่งเศส อันนี้พอได้คือวิ่งไปทางตรงข้ามกันไทยขึ้น ฝรั่งเศสลง พอบริหารได้

นอกจากนั้นก็มีการซื้อดัชนีบางตัวเช่น Dow jones US Real Estate index พี่วิ่งขึ้นลงตามอสังหาริมทรัพย์ก้มีเหมือนกัน
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 1

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 3

โพสต์

คุณ นคร : หุ้นต่างประเทศก็ลองดูพวกบริษัทที่เรารู้จักดี อย่างกูเกิล แอปเปิ้ล ซิตี้กรุ๊ป มอแกนสแตนเลย์ เหล่านี้ ก็พอให้เราอุ่นใจได้ในระดับหนึ่งคือเป้นที่รู้จัก การเปิดบัญชีก็ทำได้ง่าย เมือ่เปิดแล้วก็สามารถเล่นผ่านอินเตอรืเน็ทได้เลยคีย์ตั้งคำสั่งก่อนล่วงหน้าก็ได้ เรื่องภาษีถ้าเอาเงินเข้าข้ามปีก็ได้รับยกเว้นภาษี
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 1

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 4

โพสต์

คุณปวีณา : ทางไอร่าได้มองหุ้น 5 ตัวในประเทศที่คาดว่าจะชนะตลาดโดยให้เป้าเซตที่ 1400 จุดหรืออีกประมาณ 20% ได้แก่

กลุ่มรับเหมา STEC CK ITD พิจารณาจากเม็ดเงินที่ลทุนในโครงการรถไฟฟ้าเกือบ 3แสนล้านแล้วกลุ่มเหล่านี้ก็เป็นหุ้นรับเหมาขนาดใหญ่ที่มีดอกาสได้งาน ตัวที่พื้นฐานดีสุดก็คือ STECมองว่ากำไรจะโต 70% ทั้งจากโครงการรถไฟฟ้าและงานก่อสร้างในมาบตาพุดที่ปลดลอกแล้ว หนี้สินก็ไม่มี เทียบกับ CK ITD ที่ปรที่แล้วขาดทุนแต่ปีนี้จะกลับมามีกำไรได้เป้นเทินอะราว เป้า STEC 17.30 บาท

กลุ่มปิโตเคมี พลังงาน จุดเด่นคือกำลังการผลิตมีการขยายอย่างมากจากการปลดลอกมาบตาพุดและประเด็นควบรวมในกลุ่ม ปตท และการซื้อกิจการในต่างประเทส ที่น่าสนใจคือ BANPU กำไรโต 60% จากปริมาณถ่านหินที่มากขึ้นกว่าเท่าตัว และราคาถ่านหินเป็นขาขึ้นอยู่ เป้า 994 บาท กับ PTTCH ปีนี้กำไร 80% จากโรงแยกกาซ 6 และการควบรวมที่คาดว่าจะใช้สูตร 4หุ้น pttar กับ 1pttch เป้าหมายที่ 181 บาท

กลุ่มธนาคารพาณิชย์ จากการทำเรทติ้งธนาคาร พบว่าตัวที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยคือ BBL SCB KBANK โดยเลือก SCB ที่ปีนี้ตั้งเป้าสินเชือ่โต 10-12% โดยปล่อยกุ้กับกลุ่มที่เปเนรายใหญ่ไปซื้อกิจการในยต่างประเทศอย่าง ssi กับ ITD และมีผลตอบแทนต่อผุ้ถือหุ้นสูงสุดในหมวด ส่วน Kbank เน้นลุกค้ารายย่อยที่ได้ดอกเบี้ยสูงกกว่าแต่เสี่ยงกว่า
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 1

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 5

โพสต์

คุณสมพงษ์ : มุมมองทางเทคนิคบอกว่าปี 54 เป้นปีเทรดดิ้ง ปี 53 ใครถือยาวรวยปีนี้คงต้องเทรดสั้นๆ โดยวัดจากหุ้นขุ้นมาจาก 700จุด เราก็ขึ้นๆลงๆตามประเทศในกลุ่ม TIP ที่ต้นปีก็ปรับฐานไปล้ว 1ใน 3 แล้วเด้งต่อทำให้ยังคงเป้นขาขึ้นอยู่ อีกตัวคือค่าเงินจาก 29 บาทตอนนี้ 31 บาทแต่กราฟมีแนวโน้วจะแข้งขาอีกครั้ง กลุ่มธนาคารยังเป้นขาขึ้นใหญ่ และกลุ่มพลังงานจะขึ้นใหญ่ ตัวที่กราฟน่าสนใจได้แก่ STEC ไซเวย์, PTTCH และSCB bullish , BANPU กำลังจะรีบาวครั้งใหญ่ , KTC ดาวเด่น 14.80 บาท , IRPC ขาขึ้นรอบใหญ่
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 1

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 6

โพสต์

คุณสุธี : ประเมินปีนี้ว่าถ้าจะลงทุนต่างประเทศก็มองว่าที่ไหนเสี่ยงกกว่ากัน ปัจจัยในต่างประเทสพวกโครงสร้างต่างๆรอบรับหรือไม่อย่างเรื่องการปล่อยกู้ในเมกาก็ยังไม่มาก คนว่างงานยังสูงบริษัทก็ใช้เทคโนโลยีมากขึ้นถามว่าเค้าจะอยากกลับไปใช้แรงงานจำนวนมากหรือเปล่า แต่ที่สำคัญกลัวเรื่องเงินเฟ้อที่สุด
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 1

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 7

โพสต์

กระแสโลกและผลกระทบหุ้นปี 54

อ.สุวิทย์ : ถ้าพูดถึงกระแสโลก มี 3 ประเด็นที่ต้องกล่าวคือ
1พลวัตรการเปลี่ยนแปลงของโลกนำไปสู่อะไร
2การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่เกิดขึ้นนำไปสุ่อะไร
3เราจะอยู่ในโลกใหม่อย่างไร

1 พลวัตรการเปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดเวลานับตั้งแต่ ปี 1000-1800 สังคมจะอยุ่แบบนิ่งๆ การสื่อสารต้างๆจะกินรัศมีประมาณ 10 กิโลเมตร ต่อมาก็เปลี่ยนแปลงเป้นสังคมเมือง (10 th century) และใน 21 th Centuryสังคมเปลี่ยนผ่านมาเป็นสังคม transnational ที่การกระทำหรือผลกระทบในที่ใดที่หนึ่งมันกระทบไปทั้งโลก คือ โครงสร้างโลกค่อยๆเปลี่ยนจาก รุปแบบที่คงที่เป็นโลกที่ลื่นไหลไปเรื่อยๆ ทั้งในแง่ของการเงิน ศก วัฒนธรรม ข่าวสาร มีการเชื่อมโยงกันไปเป้นเครือข่าย ความซับซ้อนของโลกในการวิเคราะห์มีมากขึ้นเพราะมันปนกันหมด ประเด็นสนใจในที่หนึ่งๆอาจถูกพูดถึงกลาวเป้นประเด็นสากล เช่น ปัญหาต้มยำกุ้ง y2k ฟองสบูอสังหา ราคาของแพง มากมายหรือวิกฤติการในอียิปที่มันเหมือนจะเป้นเรื่องของประเทศใดประเทศหนึ่งแต่มันกลายเป้นปัญหาของคนทั้งโลก

อีกประเด้นคือความไม่สมดุลของประชากร ในประเทศที่มีรายได้มากแต่กลับเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ กับประเทศยากจนแต่มีแรงงานจำนวนมาก ที่น่าคิดเพราะความมั่งคั่งจาก โลกาภิวัตรมันเกิดจาก 1ความมีเสถียรภาพ 2 ความมั่นคง 3 ความยั่งยืน

2.ในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่เกิดขึ้นได้แก่
2.1 ด้านภูมิเศรษฐศาสตร์
2.2ภูมิรัฐศาสตร์
2.3ภูมิอากาศ
2.4ประชากร

2.1ในด้านภูมิเศรษญศาสตร์ ในปี 2010 เป้นปีแรกที่ประเทศพัฒนาแล้วกับประเทศกำลังพัฒนามีอัตราการเติบโตที่เท่ากัน โครงสร้างโลกเริ่มเปลี่ยนแปลงคือ ความร่ำรวยได้กระจายตัวจากประเทศที่เจริญแล้วไปยังประเทสกำลังพัฒนา การค้าโลกจากเดิมที่ค้าขายกันเองของกลุ่มประเทศตะวันตกกับตะวันตก ตะวันออกกับตะวันออก หรือคู่ค่าที่พัฒนาแล้วด้วยกัน เกิดการค้าขายระหว่างกันมากขึ้นจากตะวันออกสู่ตะวันตก

พอเข้าสู่ครึ่วหลังของวิกฤติแฮมเบอร์เกอล่าสุด ย่านเอเชียหรือกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเติบโตเฉลี่ยนที่ 4-9% แต่กลุ่มที่พัฒนาแล้วเติบโตแค่ 1-3% ทำให้ช่องว่างของ2กลุ่มลดลงไปมาก ถ้าเที่ยบในแง่ GDPแล้วมีการคาดการว่าอีก 30ปี จีนจะกลายเป็นประเทศที่รำรวยที่สุดในโลก โดยปัญหาหลักๆของประเทศที่พัฒนาแล้วคือปัญหาหนี้ที่มีจำนวนมาก ปัญหาของประเทศกำลังพัฒนาที่สำคัญคือเงินเฟ้อ

ประเทศที่พัฒนาแล้วมักจะก่อหนี้เกินกว่า GDP ทั้งเมกาหรือล่าสุดญี่ปุ่นก็ก่อหนี้ไปถึง 200% ของGDP ภาระดอกเบี้ยนี่จะเป้นปัญหาระยะยาวของประเทศพัฒนาแล้วที่แก้ได้ยาก ต่างจากเอเชียประเทศกำลังพัฒนาที่โดนปัญหาเงินเฟ้อเข้าโจมตี
ที่น่าสนใจอีกประเด็นคือถ้ามองใน 10ปีนี้ หมาอำนาจในโลกทางศก ก็คงยังเป็น เมกา ยุโรบ ญี่ปุ่นอยู่ แต่คาดการว่าการเติบโตจะเป็นไปแบบเชื่องช้า และเงินลงทุนก็จะไหลเข้าไปลงทุนในประเทสกำลังพัฒนาเพือแสดงหาประโยนช์ทาง ศก จุดนี้จะทำให้การเคลื่อนย้ายเงินทุนมีความผันผวนมากเพราะส่วนหนึ่งการเคลื่อนย้ายเงินทุนทำได้ง่ายกว่าแต่ก่อนมากด้วย สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ การเกิดของระชาตินิยมทางเศษรฐกิจหรือที่เราว่า ฟรีเทรดมาร์เกต หรือเขตการค้าเสรีในเขตต่างๆที่จะมีการรวมตัวกันเผื่อแข่งกันในระดับโลก ซึ่งล่าสุด เอเชียก็เป็นที่จับต่อมองทั้งนี่ไม่ใช่เพราะอาเซียนอย่างเดียว แต่เรายังดึง จีน อินเดีย อื่นๆเข้ามาเป้นจำนวนมากในภูมิภาคนี้ทำให้กิน GDP ถึง 22% ของโลก คือ ASEAN+6

มองการเติบโตในอาเซียนก็มีความน่าสนใจในแง่ของชนชั้นกลางของประเทศในกลุ่มนี้ มีจำนวนมากขึ้นมากเมื่อเที่ยบกับแต่ก่อน การมีชนชั้นกลางจำนวนมากทำให้เกิดการปริโภคมากขึ้น ทั้งรถยนต์ การศึกษา การรักษาพยาบาลที่ดีขึ้น มือถือ การท่องเที่ยว ที่น่าจะเป็นดอกาสทางธุรกิจของหลายๆบริษัท

2.2 ในมุมภูมิรัฐศาสตร์ ต้องจับตามอง บทบาทของเอเชียในเวทีโลกจะมีมากขึ้น จีน จะเข้ามาท้าทายเมกามากขึ้น จากเดินไม่มีประเทศไหนไปท้าทายเมกาในระดับโลก การสะสมอาวุธจะมีมากขึ้นเพราะแต่ละประเทศที่เจริญขึ้นทาง ศก ก็จะเริ่มมองในแง่ความมั่นคงของประเทศ โอกาสในการร่วมมือระดับโลกจะมีมากขึ้นแต่ทำได้ยากขึ้น (หมายถึงงานที่ต้องทำด้วยกันแก้ปัญหาด้วยกันระดับโลกเยอะแต่กว่าจะจับมือกันได้คงทะเลาะกันก่อน) กลุ่ม NGO จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในเวทีโลก การก่อการร้าย ก็จะมีมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกันตาม ศกที่เจริญมากๆ

2.3 ในมุมของประชากร โลกจะแบ่งออกเป้น 3 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ อย่างเกาหลี อีก 30ปีข้างหน้าคนจะหายไป(ตาย) 10% วัยทำงานจะลดลง 30% คนแก่จะเพิ่มขึ้น 150% ซึ่งอัตราการแบงรับนี้เป้นปัญหาที่รัฐบาลเค้าคงเตรียมการแก้ไว้แล้ว

กลุ่มโลกที่ 3 คือเป้นไปด้วยคนหนุ่มสาววันทำงานแต่ประเทศยากจนก็จะตกเป็นเป้าหมายของประเทศอื่นๆในการมองหาค่าแรงราคาถูกๆ

กลุ่มประเทศโลกที่ 2 คือมีทั้งคนแก่และหนุ่มสาวในอัตราที่พอเหมาะ เช่นไทย ตุรกี อินเดีย และมี ศกที่พอรองรับได้พวกนรี้จะเติบโตไปได้ในอนาคต

2.4 ภูมิอากาศ ต้องจับตาพวกสิ้นค้าเกษตรและอาหารซื้อต่อไปนี้อากาศที่แปรปรวนจะทำให้ราคาสินค้าเหล่านี้ผันผวนและมีราคาแพงขึ้น เมือ่ศึกษาย้อนไปจะพบว่าสินค้าพวกอุตสหกรรมแทบไม่ขึ้นเลย สิ้นค้าที่ขึ้นและทำให้เกิดเงินเฟ้อคือสิ้นค้าพวกอาหารและพลังงาน การศึกษาของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอชียหรอื ABD รายงานว่า ประเทศในเอเชียรวมทั้งไทย ถ้าเกิดภาวะอากาศแปรปรวนจะกระทบถึงการเติบโตของเราประมาณ5% มีอุตาหกรรมที่โดนผลกระทบจากอากาศแปรปรวนโลกร้อน ได้แก่อาหารและพลังงาน ส่วน พวกไม่กระทบได้แก่พวก เทคโนโลยี
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 1

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ดร.นิเวศน์ เห้นด้วยกับความคิดที่ว่า คนรวยจะมากขึ้น แล้วคนก็จะใช้เงินมากขึ้น
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 1

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 9

โพสต์

อ.วรภัทร : ในเรื่องของกระแสโลกก็อยากกล่าวสรุป ดังนี้

1ที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงจากพลเมืองเป็นพลโลกยกตัวอย่างตัวเองในปี 1960 จากการอ่านบทความก็พบคำว่าหมู่บ้านโลก เขาก็อธิบายว่ามันมีการสื่อกสารที่ขว้างไกลขึ้นนะ เราก็ยังเฉยๆ จนปี 1980 เป็นปีแล้วที่เรแกนกล่าวสุทรพจผ่านโทรทัศน์ให้ทุกคนมีโอกาสได้ฟังซึ่งเมื่อก่อนไม่มีเลยที่จะได้ยินเสียงสดๆจากคนผ่านทีวีจะมีแต่ภาพนิ่งกับเสี่ยงภาคของคนอื่นอีกที สตีฟจ๊อปออก 2E ครั้งแรก IBMออก PC มาให้ใช้งาน จากเด็ก ป โท ที่ต้องใช้การ์ดในการพิมงานมาให้คอมพิวเตอร์ทำงาน จากคำว่าหมู่บานโลกก็เกิดเป็นคำว่าโลกาภิวัตน์ คือเราเข้าใจอะไรมากขึ้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลกเราก็ได้เห็นหมด เป้นแบบ เวลาและสถานที่จริงๆ อย่างภาพเหตุระเบิดต่างๆคนเมื่อก่อนกว่าข่าวสารจะมาถึงก็นานแต่เราก็เห็นถ่ายทอดสดๆเลย คนเดินทางไปทั่วดลกได้ถูกลง เทคโนโลยีทุกวันนี้ทำให้คนไม่รู้จักเพื่อนบ้านแต่รู้จักคนทั้งโลก คือเราคุยกันคนอื่นแบบไม่เห้เนหน้าผ่านโปรแกรมมากมาย ปัญหาที่เกิดให่อียิปแป๊บเดียวก็ปานปลายออกไปโดดยรอบอย่างรวดเร็ว

2โลกมีคนเมืองเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันพบว่ามีคนเมือทั้งโลกประมาณ 50.5% ซึ่งตัวเลขจริงน่าจะสูงกว่านี้ในอนาคตเพราะจีนมีคนเมืองถึง 43% อินเดีย29% ทำให้มีนตกลงเพราะ2 ประเทศนี้มีคนมาก ใสนอนาคตคนเมืองก็จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่ตามมาคือการขยายตัวของคนเมืองทำให้มีการบริโภคสูงขึ้น พวกนี้จะมีรสนิยนของตัวเอง มีเงินเยอะ ชอบอยู่พื้นที่เล็กๆ มีสังคมส่วนตัว มีวัฒนธรรมของกลุ่ม เปิดโอกาสให้เกิดธุรกิจต่างๆขึ้นมากมายเป้นช่องทางทำเงิน

3กระแสของความโปรงใส ความรับผิดชอบ และจริตยธรรมทางธุรกิจ ที่สังคมเรียกร้องมากขึ้นเรื่อยๆ ยกตัวอย่างเทียบอย่าง เมกาที่สอนเราเรื่องความโปร่งใส ก็โดนปัญหาคดี Enron (เป้นบริษัทที่มีปัญหาในการตกแต่งปัญชีจนล้มละลายผู้ถือหุ้นและตลาดเมกาพังไปเป็นแถบๆ) แต่พอมีป๊ญหาเข้าก็จัดการอย่างเฉียบขาดคือผู้บริหารติดคุก ผู้สอบบัญชีโดยคุกปิดกิจการหมดทางหากินไปคือมีการลงโทษ แต่บ้านเราถ้าผู้บริหารทำผิดก็อาจโดนลงโทษพอคดีซาๆก็กลับมาทำอีกคือเรามีกระบวนการแต่ไม่มีการบังคับใช้ที่เด็ดขาด

ตัวอย่างที่น่าสนใจอีกคือ เมื่อปีที่ผ่านมา มีคนโดดตึกที่จีนทุกเดือน 8 รายซึ่งในโรงงานเดียวกันที่ผลิตชิ้นส่วนให้แอปเปิ้ล ซึ่งจีนก็บอกว่าเป็นปกติคนงานเค้า 8แสนคนโดดแค่ 8คนอยู่ในระดับที่รับได้ ซึ่งพอสืบไปมาจะพบว่า พวกแรงงานบรัทนี้ได้ค่าแรงที่น้อยมาก ได้นอนวันละ 4ชม หยุดเดือนละ 3 วัน คำถามที่แอปเปิ้ลดดยคือ คุณปล่อยให้ซับไพเออร์ของคุณทำแบบนี้ได้อย่างไร กลายเป็นปัญหาขของแอปเปิ้ลไป ที่ต้องเข้าไปดู กรณีของวอลมาทก็เช่นกันปัจจุบันมีผุ้ผลิตสินค้ากว่า 6000 รายต่อจากนี้ สินค้าทุกประเภทที่ขายในวอลมาทจะต้องมีการตรวจย้อนกลับไปว่ามาจากที่ไหน คุณภาพเป็นอย่างไร คุณภาพชีวิตของคนงานเป้นอย่างไร ทำให้ผู้ซื้อเกิดความเชื่อมันว่าเงินของคุณได้สนับสนุนกิจการที่ดี
ถ้าไม่ทำอยู่ได้ไหม ตอบวง่าไม่ได้แต่เดี๋ยวนี้ทุกที่ก็รายงานว่าทำหมดแต่ไม่รู้ว่าทำจริงหนือเปล่า สิ่งที่เกิดตามมาคือเราพยายามสร้างพวกนกหวีดก็ได้แก่คนในองคืกรที่จะคอยสอดส่องว่าถ้าบริษัทเราไปโม้อะไรไม่จริงไว้ คนในองกรณืก็จะออกมาเป่านกหวีดให้สังคมได้รู้แต่คงยังเกิดขึ้นในไทยลำบากเพราะมันกระทบกับการทำงาน นอกจากนี้ก็มี NGO ที่มีบทบาทในการตรวจสอบมากจึ้นอย่างล่าสุดก็ วิกิลีค ที่ออกมาเอาความลับที่รัฐบาลแต่ละประเทศทำไม่ดีมาประจาน และตอนนี้เค้าก็ประกาศว่าจะไปขุดคุ้ยพวกบริษัทใหญ่ๆด้วยถ้าทำไม่ดีโดยแฉแน่ๆ
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 1

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ดร.นิเวศน์ : ก็สริมว่าตั้งแต่จำควาไมด้สมัยเด้กๆ ตอนที่บ้านมีวิทยุมาทุกคนตื่นเต้นมากเพราะถือเป้นของราคาแพงเที่ยบกับรายได้แต่ตอนนี้ วิทยุ ทีวี ตู้เย็น เป้นของที่มีกันุกบ้าน มันถูกลงเมื่อเที่ยบกับรายได้ที่มีมากขึ้น การขนส่ง การบินไปไหนมาไหนมันก็ถูกสะดวกไปหมด ราคาลดลงไปเยอะ ต้นทุนต่ำลงไปเยอะยิ่งอนาคต ไม่มีเรือ่งภาษีที่กั้นระหว่างประเทศพวกสินค้าหลายๆตัวคงแข่งขักันดุเดือด ถ้าการลงทุนเราก็ต้องมองหาอะไรที่ปลอดภัย ไม่ค่อยมีคนแข่งขัน หรือเข้ามายากมมีลักษณะเป็น Local มากกว่าโกบอล
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 1

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 11

โพสต์

คุณสุวิทย์ : สุดท้ายคือจะกล่าวคือเราจะอยู่ในกระแสนี้ได้อย่างไร คือจากนี้ความมั่งคั่งจะอยู่กับการบริการคือการจัดการของแต่ละประเทศให้มีเงินเข้ามากกว่าเงินออก อย่างสิงดปไม่มีอะไรเลยก็บริหารจัดการด้านความรู้ทำให้โตไปเรื่อยๆ ในระบบธุรกิจไทย ในอนาคตก็ต้องแข่งกันระดับสากลหนีไม่ได้ เราก็ต้องไปดูแล้วตัวไหนที่ไปแข่งขันกับต่างประเทศได้ ไปซือกิจการต่างประเทส มีการขยายสาขาไปต่างประเทศ แต่แน่นอน นอกจากมิติด้านกำไรอย่างเดียวไม่เพียงพอ มันต้องดูเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม มนุษยธรรมด้วย เพราะคนทั่วโลกเขาจับตา เกมส์ธุรกิจเปลี่ยนไปมาก ทั้งถือถือหุ้น โครงสร้างบริษัท ให้เราเน้นที่คนเก่ง และดีจะได้ลงทุนกับเข้าไปนานๆ ต้องวมี CSR คู่ไปกับกำไร อย่างตอนนี้เรือ่ง MBA เป็นตัวอย่างที่หลายประเทศไม่เรียนกันแล้ว เพราะการสร้างผู้นำ ต้องมี 3 มิติคือ คิด (thinking) ที่หลักสูตรสอน แต่ 2 คือ ทำ (Doing) ที่ไมได้สอยเท่าไหรเลยทำไม่ค่อย กับ 3 being ซึ่ง MBA ไมได้สอนเลย คือถ้าเรามองว่าการทำ CSR เปเนภาระต้นทุนมันก็จะไม่ไปไหนแต่ถ้าเราเชื่อว่ามันเป้นขาดทุนระยะสั้นแต่ช่วนให้กำไรระยะยาว มันก็จะเกิดขึ้นได้เป็นต้น
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 1

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 12

โพสต์

คุณวรภัทร : ปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงที่อยากฝากให้พืจารณาคือ 1 ปีนี้ก็เป็นการเลือกตั้ง ระยะกลาง 4-5 ปีจะเป้นเรื่องประขาคมอาเซียนที่มีการเคลื่อนย้ายแรงงาน ระยะยาวก็ดูคน เพราะ บริษัทมันก็เป้นแค่ตึก อาคาร ซึ่งถ้าคนในทีมงานเป้นคนเก่ง มีความสามารถ และมีความเชื่อว่า do good and do well คือ เชื่อว่า ทำดีรับผิดชอบต่อสังคม do good และจะทำให้บริษัทมีกำไร do well ก็เป็นบริษัทที่ดี เพราะงานวิจัยในเมกา ก็ยังไม่ยืนยันชัดเจนว่าถ้า do good แล้วมันจะ do well ด้วยก็ต้องรอดูผลต่อไป
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 1

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ดร.นิเวศ : เทรนที่มองคือรู้สึกว่าคนไทยมีชนชั้นกลางมากขึ้น อาจอยู่ตามต่างจังหวัด แล้วคนเหล่านี่ก็พยายามทำตัวให้เหมือนคน กทม คือใช้ของเหมือนๆกันแต่อาจถูกกว่า ทำให้ธุรกิจมีโอกาสเติบโตจากการบริโภคได้เรื่อยๆ อนาคต กทมมีอะไร ต่างจังหวัดก็จะมีแบบนั้น ฉนันอะไรที่ตอนนี้มีในกทม แล้วตวจ ยังไม่มีมาก แล้วจะขยายไปได้ก็น่าสนใจ
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 1

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ท่านใดต้องการเพิ่มเติมที่สรุปไม่ครบยินดีเลยนะครับ
และต้องขออภัยเรื่องคำผิดเช่นเดิม T_T
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
ming1714
Verified User
โพสต์: 1246
ผู้ติดตาม: 1

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ขอบคุณมากครับ...พี่จำหมด..และจดทันได้ไงเนี่ย...ผมทึ่งมากๆครับ :D
ร้อยลี้ ต้องมีก้าวแรก....
joe_joe_246
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 67
ผู้ติดตาม: 1

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ขอบคุณ คุณ champ_st มากๆเลยครับ ได้รับความรู้เยอะเลย :D
atitus.b
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 166
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 17

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
อกาลิโก
Verified User
โพสต์: 323
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ขอบคุณค่ะ
อกาลิโก
yy
Verified User
โพสต์: 6427
ผู้ติดตาม: 2

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ขอบคุณท่านเทพเลคเชอร์มากๆครับ :cool: :cool: :cool:
คนที่รู้ว่าตัวเองยังไม่รู้ ย่อมมีโอกาสเรียนรู้
IWILLBEVI
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 363
ผู้ติดตาม: 1

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ขอบคุณมากครับ :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
SunShine@Night
Verified User
โพสต์: 2196
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 21

โพสต์

ขอบคุณมากครับ :)
VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์

หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
st33tnw
Verified User
โพสต์: 91
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 22

โพสต์

ขอบคุณครับ :B
ภาพประจำตัวสมาชิก
KGYF
Verified User
โพสต์: 399
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 23

โพสต์

ขอบคุณมากครับ

:bow: :bow: :bow:
" สัพพะทานัง ธัมมะทานัง ชินาติ = การให้ธรรมะเป็นทาน ย่อมชนะการให้ทั้งปวง "

" ทุกข์มี เพราะยึด ทุกข์ยืด เพราะอยาก ทุกข์มาก เพราะพลอย ทุกข์น้อย เพราะหยุด ทุกข์หลุด เพราะปล่อย"
blueplanet
Verified User
โพสต์: 1155
ผู้ติดตาม: 1

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 24

โพสต์

ขอบคุณมากครับ คุณแชมป์
Blueplanet
ilovemom
Verified User
โพสต์: 72
ผู้ติดตาม: 1

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 25

โพสต์

ขอบคุณค่ะ :)
joeco
Verified User
โพสต์: 74
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 26

โพสต์

ขอบคุณมากคับ
CR[t]
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 225
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 27

โพสต์

ขอบคุณครับ
Someone’s sitting in the shade today because someone planted a tree a long time ago - Warren Buffett
ภาพประจำตัวสมาชิก
Saran
Verified User
โพสต์: 2377
ผู้ติดตาม: 4

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 28

โพสต์

ขอบคุณมากๆครับ คุณแชมป์
b4solid
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1137
ผู้ติดตาม: 73

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 29

โพสต์

อีกแล้ว ครับท่าน
ขอบคุณครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
sai
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4095
ผู้ติดตาม: 292

Re: สรุปงานสัมนาวันที่ 19 กพ 2554 ลงทุนต่างประเทศกับกระแสโลก

โพสต์ที่ 30

โพสต์

ครบถ้วนเช่นเคยครับ ละเอียดกว่าได้ไปด้วยตนเอง ขอบคุณแชมป์มากครับ
Small Details Make a Big Difference
โพสต์โพสต์