เซมิคอนดัคเตอร์ อุตสาหกรรมชี้วัด เศรษฐกิจ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
โอบาน่า
Verified User
โพสต์: 257
ผู้ติดตาม: 0

เซมิคอนดัคเตอร์ อุตสาหกรรมชี้วัด เศรษฐกิจ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ผมเคยทำงานอยู่โรงงานเซมิฯมาบ้างจากนั้นก็ผันแปรมาเป็น sales ในวงการเดียวกัน ก็เลยพอมีความรู้จากการทำงานบ้าง จากการพูดคุยกับเพื่อนในวงการทั้งไทยทั้งเทศบ้าง หรือแม้แต่เจ้านายบ้าง เจ้าของสินค้าบ้าง


    ก่อนอื่นผมขอจำแนกดังนี้ก่อน ในโลกของวิศวกรรมนั้น สมัยก่อนแบ่งแยกใหญ่ๆได้เป็น 3 ประเภท คือ ไฟฟ้า เครื่องกล และ ก็โยธา หลายคนที่ไม่เข้าใจก็ถามผมว่า เครื่องกลคืออะไร บ้างก็เรียกว่า ช่างกล


    ผมตอบอย่างนี้ว่า ทุกคนรู้จักหรือพอจะเข้าใจว่าวิศวะไฟฟ้านั้นคืออะไร และ โยธาคืออะไร ส่วนเครื่องกลผมก็บอกว่า อะไรก็ตามในโลกนี้ที่มองดูแล้วเป็นช่างๆนั้น ให้ลบด้วยโยธาและไฟฟ้า ก็คือ วิศวกรรมเครื่องกลทั้งหมด ไม่ว่า จะเป็นเรื่องของพลังงานความร้อน ลม โรงไฟฟ้า โรงปูน แอร์ พัดลม ตู้เย็น แม่พิมพ์ เคมี เครื่องยนต์ คอมเพรสเซอร์ ฯลฯ


    จากนนั้นก็แตกเป็นสาขาต่างๆ เช่น วิศวะเคมี โลหะการ คอมพิวเตอร์ อิเลคโทรนิคส์ โทรคมนาคม สื่อสาร


    เฉพาะส่วนของอิเลคโทรนิคส์ ที่เราเห็นนั้น ก็ประกอบไปด้วย คอมพิวเตอร์ ทีวี วิทยุ โทรศัพท์ โทรสาร ที่ช่างอิเลคโทรนิคส์ เขาเรียนกัน หรือ พวกวิศวะก็เรียน แต่ไปคนละแนวทาง


    ไอ้ที่เราเห็นว่าเป็นอิเลคโทรนิคส์นั้น เกี่ยวข้องกับ 3 อุตสาหกรรมใหญ่ๆ ที่ผมแบ่งเอาเองตามความเข้าใจของผมก็คือ Hard Disk Drive ก็คือ โรงงานที่ผลิตเกี่ยวกับ ฮาร์ดดิสค์ ที่ใช้ใน คอมพิวเตอร์ ในประเทศไทย เท่าที่ผมพอจะรู้ ก็มีโรงงานที่ผลิต เช่น Western Digial, Seagate เป็นค่ายของ อเมริกัน ส่วยค่าย ญี่ปุ่นนั้น ผมไม่แน่ใจว่า Fujitsu ผลิตด้วยรึเปล่า


    จาก Hard Disk Drive ก็มาถึง อุตสาหกรรมที่เรียกว่า PCBA (Print Circuit Board Assembly) ก็คือ แผ่นสีเขียวๆ ที่เราเห็นใน computer (main board) หรือ ในมือถือ ซึ่งในประเทศไทย ก็มีอย่างเช่น Celestica, SVI, Kimball, Team and etc


    สุดท้ายก็คือ Semiconductor ที่ผมได้จ่อหัวไว้ ซึ่งอันนี้ก็แบ่งเป็น ต้นน้ำ กับ ปลายน้ำ ต้นน้ำก็คือ พวกที่ทำ wafer (wafer fabrication) ซึ่งบ้านเรายังไม่มี แต่เกือบจะมี แต่ล้มไปก่อนในวิกฤตปี 40 ตั้งชื่อบริษัทว่า Submicron จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ก็ยังไม่สามารถที่จะสร้างขึ้นมาได้ ซึ่งอุตสาหกรรมนี้ hi-tech มากๆ ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเมื่อไร ส่วนไอ้ปลายน้ำก็คือที่ ผลิตตัว ICs นี่แหละ ที่เรามีเยอะ แต่ก็ยังแพ้ มาเลเซีย ไม่นับรวม Singapore ตัวอย่างเช่น Hana


    อิเลคโทรนิคส์ทั้งหลายแหล่นั้น เริ่มด้วย ตัว ICs นี่แหละ ที่จะไปเชื่อมกับแผงสีเขียว แล้วทำเป็น เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น คอมพ์ มือถือ แอร์ อุปกรณ์ควบคุมต่างๆ ฯลฯ


    เพราะฉะนั้นหากเศรษฐกิจส่อเค้าไม่ดี คำสั่งซื้อ รวมถึงการผลิตจะเริ่มลดลงก่อนใครเพื่อน สมัยก่อนเขาว่ากันว่า รอบของมันคือ ทุก 4 ปี หมายความว่า ฝรั่งจะสั่งผลิต ทุกๆวันเป็นเวลาเกือบ  4 ปี แต่ในระหว่างปี ก็มีรอบของมันอีกว่า ช่วงไหนเยอะช่วงไหนน้อย แต่ก็ไม่ค่อยสำคัญ เพราะเป็นการแค่บริหารการจัดการเท่านั้นเอง เป็นอย่างนี้มาเรื่อยๆ จนถึงต้มยำกุ้ง รอบเหล่านี้ก็เปลี่ยนไป และ ยากแก่การทำนาย เพราะทุกคนไม่แน่ใจ เลยไม่กล้าลงทุน แต่ก็ฝ่าวิกฤตมาได้ จนมาถึงยุค Hamburger Crisis ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามที่บอก เพราะอุตสาหกรรมเซมิ ยังไม่ได้ล้มลง แต่เกิดการล้มลง ของภาคอสังหา รามไปถึงการเงิน จนมาถึง เซมิฯ


    สาเหตุก็เพราะว่า อเมริกาและอีกหลายประเทศ ได้สร้างความฟุ้งเฟ้อมาอย่างยาวนาน จนวันนึงภาคอสังหารับไม่ไหว ก็เลยระเบิดขึ้นมาก่อนในขณะที่อุตสาหการรมเซมิยังไปได้ดี สังเกตได้จาก คอมพ์ มือถือ ฯลฯ เนื่องจากภาคอสังหามีความผูกพันอย่างมากกับภาคการเงิน ในที่สุดภาคการเงิน ก็ออกอาการ ก่อน เซมิ


    ท้ายสุด แล้ว ภาคเซมิ หรือ อิเลคโทรนิคส์ที่เป็นภาคฟุ้งเฟ้อ และ ทำลายโลกมากภาคหนึ่ง ก็กำลังได้รับผลกระทบ ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในไทยอย่างมาก ในความเห็นของผม วิกฤตครั้งนี้จะยาวนานและซึมลึก แตกต่างจากตอนปี 40 เนื่องเพราะว่า ทั่วโลกนั้นได้รับผลกระทบ ความมั่งคั่งของคนทั่วโลก หายไป ภาคการผลิต ไมสามารถผลิตได้ ผู้บริโภค ไม่มีกำลังซื้อมากมายอย่างเช่นแต่ก่อน เงินที่หามาได้ ต้องถูกใช้ไปในการชำระหนี้ ไม่สามารถซื้อของใหม่ๆได้


    ถามว่า อยู่ได้ไหม ในภาพรวมผมว่ายังอยู่ได้ คนรวยก็มีเงินใช้ต่อไป คนจนก็หาเงินใช้หนี้ แทนที่จะหาเงินมาแล้วใช้ไปในการบำรุงบำเรอความสุขของตน ของที่จะต้องใช้ ยืดได้ก็ยืดไปก่อน


    ด้วยเหตุผลนี้ เศรษฐกิจของโลกก็ไม่อู้ฟู่ พี่ไทยที่เป็นผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรม ก็จะผลิตน้อยลง การจ้างงานก็น้อยลง เงินไหลเวียนก็น้อยลง แต่อย่างที่เคยเขียนไว้ครั้งก่อนๆ นี่เป็นโอกาสอันดีที่คนทั่วโลก จะช่วยฟื้นฟูโลกของเรา จากการทำลาย และ ใช้ทรัพยากรอย่างไม่บันยะบันยัง แต่แทนที่จะทำอย่างนั้นกลับ อัดเงิน ให้คนทำลายทรัพยากรมากขึ้น


  เฮ้อ พี่ฝรั่ง ไม่ยอมเปลี่ยนแนวคิดเลย

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=378922

เอามาฝากในวันที่ฝนโปรยปรายครับ
*
*
*
จะรวยต้อง เก่ง+เฮง ที่สำคัญต้องมีเมียดี
tamrollin
Verified User
โพสต์: 79
ผู้ติดตาม: 0

เซมิคอนดัคเตอร์ อุตสาหกรรมชี้วัด เศรษฐกิจ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ไม่ทราบว่าคุณ โอบาน่าเรียนที่ KMUTT เหรอครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
j21
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 690
ผู้ติดตาม: 1

เซมิคอนดัคเตอร์ อุตสาหกรรมชี้วัด เศรษฐกิจ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณครับ   :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
unnop.t
Verified User
โพสต์: 924
ผู้ติดตาม: 1

เซมิคอนดัคเตอร์ อุตสาหกรรมชี้วัด เศรษฐกิจ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

รู้สึกว่าข้อมูลไม่ค่อย update นะครับ เพราะตอนนี้ภาคอุตสาหกรรมอิเลกฟื้นตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วทั่วโลก รวมทั้งไทย การจ้างงานในอุตสาหกรรมกลับมาเหมือนเดิม บางช่วงขาดคนด้วย  :)
ตลาดหุ้นมักจะหลอกเราด้วย ความโลภ และความกลัว.....
ถุงเงินเก่า
Verified User
โพสต์: 358
ผู้ติดตาม: 0

เซมิคอนดัคเตอร์ อุตสาหกรรมชี้วัด เศรษฐกิจ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ข้อมูลเก่า(ม.ค. 52) แถมยังเป็นช่วงหลังเกิดวิกฤต (ต.ค. 51) อีกนะ
เฮ้อ … ข้อมูล ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงเลย  :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
โอบาน่า
Verified User
โพสต์: 257
ผู้ติดตาม: 0

เซมิคอนดัคเตอร์ อุตสาหกรรมชี้วัด เศรษฐกิจ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

เอามาให้ดู cycle นะครับ อ่านประดับความรู้ครับ สำหรับผมใหม่เก่าอ่านหมดครับ ครับผมเรียน kmutt
*
*
*
จะรวยต้อง เก่ง+เฮง ที่สำคัญต้องมีเมียดี
โพสต์โพสต์