หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 20, 2010 8:51 pm
โดย PRO_BABY
เพิ่งเปิดพอร์ทได้ไม่นาน หลังจากที่ ศึกษา เรียน อ่าน ดูพอร์ทให้คนอื่นมาตอนทำงาน  แต่พอเอาเข้าจริงเงินตัวเอง(เงินไม่ติดภาระ) วิเคราะห์ก็แล้ว อ่าน ประเมิน  แต่พอซื้อแล้ว พอราคาลงไป 4-5 % ก็หวิวๆ ดูอยู่ สักพัก 2-3 วัน ก็เลยขาย แต่ตอนขาย อึกๆ อักๆ พอขายเสร็จกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เด้งกลับ ทั้ง 2 ตัว จะแก้ปัญหานี้ยังไงครับ :(

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 20, 2010 9:02 pm
โดย VI Wannabe
ซื้อเพราะอะไร
เหตุนั้นเปลี่ยนหรือยัง
ถ้ายังไม่เปลี่ยน ===> ถือ
ถ้าเปลี่ยนไปแล้ว ===> ขายลูกเดียว

ราคา - 5% เป็นเรื่องธรรมดาครับ ยิ่งเป็นหุ้นตัวเล็กๆ ด้วยแล้ว นักลงทุนรายกลางๆ ขายคนเดียวก็ลงได้

แนะว่าแทนที่จะสนใจราคา สนใจผลประกอบการดีกว่าครับ หรือ ข่าวที่จะมากระทบ ผลประกอบการ (อันนี้ก็ต้องฝึกกรองข่าวไร้สาระออกจากข่าวที่มีสาระ)

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 20, 2010 9:03 pm
โดย Hayate_VI
ถ้าใจไม่นิ่ง แนะนำซื้อกองทุนรวมดีกว่ามั้ยครับ  :8)

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 20, 2010 9:17 pm
โดย ซากคน
สวัสดีครับพี่ PRO_BABY

ผมเองยังเป็นมือใหม่หัดลงทุน  เพิ่งผ่านปัญหานี้มาไม่กี่วันกับหุ้นบางตัว แล้วเกิดความรู้สึกวูบวาบเหมือนพี่  ผมเจออย่างนี้ และคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองทันที  ไม่ปล่อยข้ามวัน  และพบว่า สาเหตุของปัญหานี้เกิดจาก

1. ไม่รู้ว่าธุรกิจของหุ้นที่ลงทุน มันหารายได้เข้าบริษัท ผ่านช่องทางไหน
2. ไม่รู้ว่าแต่ละช่องทาง คิดเป็น % ของรายได้รวมบริษัท
3. ไม่รู้ว่า ปีที่เกิดวิกฤติ  ส่วนไหนได้รับผลกระทบมากเป็นพิเศษ และส่วน
    ไหนที่ยังดำเนินไปอย่างปกติ
4. ไม่รู้ว่า ที่ผ่านมาบริษัทนี้ควบคุมต้นทุน ได้ดีเพียงใด  และต้นทุนนี้อ่อนไหว
    ไปตาม demand/supply ตลาดโลกเพียงใด
5. ไม่รู้ว่า กำไรของบริษัทนี้ ผันผวน หรือ เติบโตสม่ำเสมอ หรือ ทรงๆ
6. ไม่ได้ติดตาม ข่าวสาร เป้าหมายทางธุรกิจ ที่ผู้บริหารให้มา
7. ไม่ได้เอาข้อมูลที่หาได้  มาประเมินมูลค่าหุ้น ให้ได้ค่าที่ชัดเจน  ทำให้ไม่รู้
   ว่า ราคาหุ้นในตลาด มันถูก/แพงเกินไป เมื่อเทียบกับตัวธุรกิจ

ความไม่รู้ ไม่มั่นใจ ทั้งหลายนี้ ทำให้ผมวูบวาบไปกับนายตลาด จนซื้อ/ขาย
หุ้น ผิดวาระ ครับ

รอเพื่อนๆผู้มากประสบการณ์ มาตอบต่อนะครับ  ผมเป็นแค่ มือใหม่ ที่อยาก
ทำอะไรได้ตามเป้าหมายเท่านั้นครับ

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 20, 2010 9:28 pm
โดย Nevercry.boy
คิดแล้วคิดอีกว่าจะตอบคำถามนี้ดีหรือไม่

ขอตอบสั้น ๆ แบบนี้ครับ

"ใครเป็นอาจารย์ของคุณในเรื่องของการลงทุนครับ" อาจารย์ของคุณ เค้าให้หลักคิดอย่างไรบ้าง และคุณเอาคำสอนนั้นมาใช้ดัดแปลงให้ดีขึ้นอย่างไร

เริ่มแค่นี้ก่อนครับ

ปล. อาจารย์ในที่นี้ อาจเป็น บัฟเฟตต์, ลินซ์, อาจารย์นิเวศน์ หรือ กูรู หลาย ๆ ท่านในนี้ หรือท่านอื่น หรือแม้กระทั่งตนเป็นที่พึ่งแห่งตนได้หมด

สร้างวิธีการลงทุนของตนเองก่อน แล้วดูว่าวิธีนั้นมัน work หรือไม่ ถ้าไม่ก็ปรับปรุง ถ้าใช่ก็มุ่งมั่น

อย่ามัวแต่ซื้อ ๆ ขาย ๆ ซื้อแล้วก็ภาวนาว่าจะขึ้น ขายแล้วก็ภาวนาว่าจะลง นั่นไม่ใช่นักลงทุน

ก็ง่าย ๆ แค่นี้

เป็นกำลังใจให้ครับ

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 20, 2010 9:40 pm
โดย misterjai
มีคนเคยบอกไว้ว่า รักจะใหญ่ใจต้องนิ่งครับ

ประสบการณ์+เวลาช่วยได้ครับ

แรกๆๆก็อย่างนี้แหล่ะครับเดี๋ยวก็ชินเองไม่มีใครรู้หรอกครับว่า ราคาดุลยภาพอยู่ที่จุดไหน แต่ระยะยาวแล้ว ราคาจะวิ่งไปหามูลค่าของมันเอง  :wink:

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 20, 2010 9:42 pm
โดย PRO_BABY
Nevercry.boy เขียน:คิดแล้วคิดอีกว่าจะตอบคำถามนี้ดีหรือไม่

ขอตอบสั้น ๆ แบบนี้ครับ

"ใครเป็นอาจารย์ของคุณในเรื่องของการลงทุนครับ" อาจารย์ของคุณ เค้าให้หลักคิดอย่างไรบ้าง และคุณเอาคำสอนนั้นมาใช้ดัดแปลงให้ดีขึ้นอย่างไร

เริ่มแค่นี้ก่อนครับ

ปล. อาจารย์ในที่นี้ อาจเป็น บัฟเฟตต์, ลินซ์, อาจารย์นิเวศน์ หรือ กูรู หลาย ๆ ท่านในนี้ หรือท่านอื่น หรือแม้กระทั่งตนเป็นที่พึ่งแห่งตนได้หมด

สร้างวิธีการลงทุนของตนเองก่อน แล้วดูว่าวิธีนั้นมัน work หรือไม่ ถ้าไม่ก็ปรับปรุง ถ้าใช่ก็มุ่งมั่น

อย่ามัวแต่ซื้อ ๆ ขาย ๆ ซื้อแล้วก็ภาวนาว่าจะขึ้น ขายแล้วก็ภาวนาว่าจะลง นั่นไม่ใช่นักลงทุน

ก็ง่าย ๆ แค่นี้

เป็นกำลังใจให้ครับ
เป็น 3 ท่านนี้ครับ (อาจเป็น บัฟเฟตต์, ลินซ์, อาจารย์นิเวศน์ )เพราะศึกษาแนวทางแต่ละท่านมาหลายปี  แต่พอซื้อหุ้นเป้นพอร์ทตัวเองชักหวิวๆ  ส่วนการเลือกหุ้นผมดูที่ ธุรกิจก่อนครับว่าอันไหนน่าสนใจ แล้วดูบริษัทในกลุ่มนั้นๆ แล้วเลือกที่ผลประกอบการทีี่เป็นต้นๆ ในกลุ่ม จากนั้นก็ศึกษาข้อมูล ธุรกิจอย่างละเอียด ประเมินมูลค่า เท่าที่มีความรู้จากการอ่าน เรียนมา  แล้วก้ซื้อด้วยความตั้งใจ  แต่...ก็หวิวครับเวลาซื้อแล้ว

ขอบคุณทุกท่านครับ

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 20, 2010 9:48 pm
โดย Nevercry.boy
งั้นแถมให้อีกคน

อาจารย์เบน แกรแฮม

เคยสอนบัฟเฟตต์และวอลเตอร์ J สล็อซ

ให้ใช้วิธีเปรียบเทียบ

เช่น หุ้นที่เราชอบ กับหุ้นตัวอื่นแล้วดูว่าราคาที่เราซื้อถูกจริง ๆ หรือไม่

ถ้าใช่ก็ค่อยซื้อ

ก็ง่าย ๆ แค่นี้ครับ

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 20, 2010 9:49 pm
โดย satantuey
ถ้ายังลังเล  สับสนระหว่างว่าจะขายดีหรือไม่ขายดี....แนะนำว่าลองขายออกมาซักครึ่งนึงก่อน  ถ้ามันลงต่ออย่างน้อยก็ขายไปแล้วครึ่งนึง  ถ้าขึ้นไป  ก็ยังเหลืออีกครึ่งนึงไว้ลุ้น.........

แต่จุดสำคัญไม่ใช่ตรงขายครึ่งนึงนะครับ........จุดสำคัญเราต้องกลับมาวิเคราะห์เหตุการณ์  วิเคราะห์สิ่งที่ผ่านมาหรือบทเรียน  ว่าทำไมเราถึงขาย  ตอนที่เราซื้อ  ตอนนั้นเราคิดว่ายังไง  แล้วเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปเป็นเพราะอะไร  เพราะเราวิเคราะห์หรือคาดการพลาด   หรือบกพร่องตรงไหน  ค่อยๆปรับ  ค่อยๆแก้ครับ  ใหม่ๆใจก็เต้น.....เป็นทุกคน  เหอๆ :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 20, 2010 10:01 pm
โดย manza125
ธรรมดาครับ
เวลาเราซื้อหุ้นจะลง เวลาขายหุ้นจะขึ้น
โดยเฉพาะหุ้นที่มีคนติดตามเยอะๆ (เก็งกำไร ปั่น)
พอเข้าไปซื้อปุบ เค้าจะรู้เพราะมีพวกมาก พอเราเห็นว่าขาดทุนแล้วต้องตัดใจขายไป ก็ไม่ต่างจากแมงเม่า

ฉะนั้นเมื่อเข้ามาในเว็บแห่ง vi แล้ว เชื่อว่าทุกคนต้องได้อะไรดีๆไปแน่
แรกๆก็เป็นกันแบบนี้หมดแหละ แต่ถ้าเราซื้อหุ้นที่ถูกจริงๆ ยังไงซักวันมันก็ขึ้น อย่ารีบ แต่โปรดติดตามข่าวในหุ้นที่เราซื้อด้วยก็ดี
แรกๆควรซื้อหุ้นตามเค้าไปก่อน แล้วศึกษาดูว่าพี่ๆทำไมถึงเลือกหุ้นตัวนี้ แล้วซักพักก็จะชิน แล้วเลือกหุ้นเองโดยไม่ต้องดูคนอื่น

อย่างที่คุณ misterjai ว่าไว้ เวลา+ประสบการณ์ คือสิ่งสำคัญ  :twisted:

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 20, 2010 10:07 pm
โดย blueplanet
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการซื้อหุ้น (ไม่ใช่การขายหุ้น)
และคิดว่า ถ้าหุ้นตัวนั้นลง 15% คุณรู้สึกอย่างไร
ถ้ารู้สึกกลัว หรือเฉยๆ ก็อย่าซื้อ
เราจะซื้อ ก็เฉพาะ หุ้นเมื่อมันลงไป 15% เราอยากซื้อเพิ่ม
(ก่อนจะซื้อเพิ่มก็ต้องดูหุ้นตัวนั้นให้ละเอียดรอบคอบมากขึ้นซึ่งน่าจะดู
ดีๆก่อนซื้อแล้ว)
นี่คือคำแนะนำของปีเตอร์ลิน
หลังจากที่ผมใช้หลักคิดข้อนี้ หุ้นที่ผมอยากได้มีน้อยมาก
ตอนนี้ ทั้งตลาด มีแค่ 2-3 ตัวเอง

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 20, 2010 11:34 pm
โดย gradius173
เป็นปกติของคนที่พึ่งเข้ามากลัวไปหมด

การแก้ปัญหาคือซื้อเฉพาะสิ่งที่อยู่ในขอบข่ายความรู้ของเรา
และเห็นว่าได้กำไรที่ราคาซื้อ(มีmargin of safetyที่เพียงพอ)

และต้องทำใจว่าไม่มีใครในโลกที่จะได้ซื้อหุ้นที่ราคาต่ำสุด แล้วขายที่ราคาสูงสุดได้เสมอไป

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 21, 2010 12:25 am
โดย MYBIZ
สู้ต่อไปครับ เรียนรู้จากความผิดพลาด เป็นประสบการณ์เพื่อความสำเร็จในอนาคต
วินัยในการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อได้วิเคราะห์มาดีแล้วอย่าหวั่นไหว
ซื้อแล้วนิ่ง นิ่งแล้วลง ขายแล้วขึ้น มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ผมโดนมาเยอะ ดีว่าพอร์ตยังลูกออ๊อดอยู่ เลยมีเวลาเรียนรู้ อิอิๆๆ

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 21, 2010 12:31 am
โดย PRO_BABY
ขอบคุณทุกท่านๆครับ  ผมตั้งเป้าลงทุนระยะยาว ผลตอบแทน 15-17% แบบทบต้น เท่านี้ก็อลังการแล้วครับ :D

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 21, 2010 12:41 am
โดย GeneraX
เซียนหลายๆคนว่าไว้ว่าการลงทุนเป็น ศาสตร์ครึ่งหนึ่ง ศิลป์อีกครึ่งหนึง

คน2คน ที่เก่งเหมือนกัน รู้ทุกอย่างเหมือนกัน แต่คนนึงจิตใจเข้มแข็ง อีกคนจิตใจอ่อนแอ แค่นี้ก็ทำให้ผลตอบแทน 2 คนนี้ต่างกันมหาศาลได้แล้วครับ

ผมเองเข้าตลาดมาตอนต้นปี 08 ครับ วันแรกๆที่ซื้อหุ้น พอราคาตกลงมา 1% ผมก็เครียดและกังวลแล้วครับ ขายทิ้งแบบพี่ก็มีครับ จำได้ว่าตั้งแต่วันแรกที่เริ่มลงทุนขาดทุนยาวมาโดยตลอดครับ ช่วง 3-4 เดือนแรกๆก็อยู่ที่ ลบ3-4% ช่วง 2 เดือนแรกๆยอมรับว่ากังวลมากครับ แต่ก็กัดฟันถือมาและก็ศึกษาหุ้นเหล่านั้นให้มากขึ้นและมั่นใจว่าเราเลือกไม่ผิดแน่ๆ หุ้นในปีนั้นที่ผมมีมากสุดก็คือ BGT BOL TNH ซึ่งพอ SET ไหลลงมาที่ 380 ตอนตุลา ผมก็ลงมาด้วยครับ

วันที่ SET ลงมา 380 ตอนนั้น PORT ผมขาดทุนไป 35% ครับ ที่แปลกคือความกังวลและความเครียดของผมในตอนนั้นกลับแทบไม่มีเลยครับ ถ้าเทียบกับวันแรกที่ขาดทุนแค่ 1% (จริงๆคือ ขาดทุนจนด้านชา :lol:)

ที่เล่ามาก็แค่จะบอกว่า มันเป็นเรื่องของจิตวิทยาล้วนๆครับ ถ้าเราเข้าใจจุดอ่อนของจิตใจเราได้เมื่อไหร่ และเราสามารถหาเหตุผลมาหักล้างความกังวลนั้นๆได้ เมื่อเวลาผ่านไปความรู้สึกกลัวแบบนั้นมันจะหายไปเองครับ

แนะนำให้ลองหาหนังสือ "จิตวิทยาการลงทุน มาอ่านครับ แล้วจะรู้เลยว่าจิตใจคนเราทำให้เราทำอะไรที่ไร้เหตุผลเอาได้ง่ายๆ และส่วนมากเราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไปครับ ที่น่าสนใจคือในหนังสือได้พูดถึง เงินตัวเอง กับ เงินคนอื่น ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจและความกลัวในการลงทุนด้วยครับ ซึ่งมันคือเคสเดียวกับที่พี่เจออยู่เลยครับ

หนังสือเล่มนี้ภาษาไทยไม่มีขายแล้วนะครับ ถ้าจะหาอ่านก็ลองหาที่มารวยดูครับ ไม่งั้นก็ต้องหาซื้อที่เป็นภาษาอังกฤษที่ชื่อ Psychology of Investing ครับ สั่ง Pre order กับทาง Asiabooks น่าจะได้ครับ

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 21, 2010 6:20 am
โดย กุหลาบงามหลังฝน
ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวไหมนะครับ


แต่พี่ PRO_BABY น่าจะมีสติกับการลงทุนให้มากขึ้น

รู้ตัวว่ากำลังทำอะไร ไม่ให้อารมณ์มาชี้นำเหตุผล

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 21, 2010 6:53 am
โดย ซุนเซ็ก
-5% จิ๊บๆมากครับ ผมถือจนเคย -60% มาแล้ว (เล่าให้ฟังเฉยๆ อย่าเอาอย่างนะครับ :lol: )

แนะนำ คุณโปร หาเล่มนี้มาอ่าน
รูปภาพ
จะช่วยทำให้ใจนิ่งดั่งหินผาเลยทีเดียว

อีกอย่าง อ่านลืมนะครับ ทุกๆ -1% ที่ขาดทุน
จะทำให้ทุกๆ +1% ทำได้ยากขึ้นเรื่อยๆ จากเงินต้นที่หายไป

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 21, 2010 7:24 am
โดย mprandy
แนะนำหนังสือท่านแม่ทัพเล่มใหม่ ชื่อ 35 ไอเดียของการลงทุนในตลาดหุ้นไทย

อ่านบท Equity Mind .. จะได้เข้าใจครับ

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 21, 2010 8:05 am
โดย Warantact
ผมซื้อแล้วมันขึ้น T-T ยังเก็บไม่ครบเลย

วันนี้มันลงมาแล้ว ^-^ แสนจะดีใจ จะได้เก็บต่อ

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 21, 2010 8:37 am
โดย sathaporne
ซื้อแล้วไม่ดูราคาหุ้นอีกเลยซักระยะเวลาหนึ่งครับ
ถ้าหุ้นดีจริงเปิดมาดูอีกทีอาจจะแปลกใจก็ได้ว่าทำไมมันขึ้นมาตั้งขนาดนี้แน่ะ
หุ้นตัวที่ผมถืออยู่บางตัวที่ไม่คิดจะซื้อขายเลยผมก็จะไม่ดูเลย เพราะผมคิดว่าตัวเองคงจะทำใจได้ยากหากราคาลง
หรืออาจจะมือบอนขายไปทั้งๆที่ได้กำไรแค่นิดหน่อย
(แต่ระยะหลังนี่ก็ดูราคาบ่อยเหมือนกันโดยเฉพาะเวลาเราไปอ่านเจอในห้องของหุ้นที่เราถือแล้วเค้าเฮกัน ผมก็จะเปิดดู
แต่ถ้าเขาเหี่ยวกันเรื่องราคาผมก็จะไม่เปิดดูราคาครับยกเว้นว่าเรายังอยากจะเก็บตัวนั้นอยู่)
ผมก็อาจจะตั้งกฎว่าเดือนนึงจะดูราคาหุ้น (ตัวที่ไม่ได้ดูทุกวัน)ซักครั้งนึงครับ
หรือถ้าเดือนนั้นเรารู้ว่าเซ็ตลงกันทั้งตลาด เมื่อถึงกำหนดอนุญาตให้เปิดดูได้ ผมก็จะไม่ดูเลยสำหรับเดือนนั้นครับ
ผมรู้จักตัวเองดีครับว่าเป็นประเภทข่มใจเองไม่ค่อยได้ก็เลยใช้วิธีหลีกเลี่ยงครับ
เหมือนบุหรี่ครับ ผมคิดว่าถ้าลองแล้วผมคงข่มใจตัวเองให้ไม่ติดไม่ได้ ผมก็ไม่ลองเลยครับ

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 21, 2010 8:56 am
โดย คลายเครียด
มันเป็นเช่นนั้นเองครับ

อีกหน่อยก็จะชินไปเอง

ลองอ่านกระทู้นี้ดู


http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 48625.html


:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 21, 2010 10:02 am
โดย por_jai
:8) คนที่ซื้อหุ้นแล้วคิดว่าหุ้นจะไม่ลงไปต่ำกว่าที่ตัวเองซื้ัออีกแล้ว
 
     นั่นแปลว่าคุณคิดว่าคุณซื้อได้ถูกสุด ต่ำสุด

     นั่นแปลต่อได้ว่าคุณเป็นเทพไม่ใช่เป็นคน...ฮ่า...

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 21, 2010 11:17 am
โดย saichon
[quote="por_jai"]:8) คนที่ซื้อหุ้นแล้วคิดว่าหุ้นจะไม่ลงไปต่ำกว่าที่ตัวเองซื้ัออีกแล้ว

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 21, 2010 11:49 am
โดย Onokung
mprandy เขียน:แนะนำหนังสือท่านแม่ทัพเล่มใหม่ ชื่อ 35 ไอเดียของการลงทุนในตลาดหุ้นไทย

อ่านบท Equity Mind .. จะได้เข้าใจครับ
ต้องไปหาอ่านบ้างครับ ขอบคุณครับ

ส่วนทางพี่โปรเบบี้

ล๊อกอินของพี่ ปี 2003 ผมว่าไม่หวิวแล้วล่ะคับ

น่าจะเป็นมือเก๋า เลยแหละครับ สู้ ๆ คับ

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 21, 2010 12:03 pm
โดย ส.สลึง
mprandy เขียน:แนะนำหนังสือท่านแม่ทัพเล่มใหม่ ชื่อ 35 ไอเดียของการลงทุนในตลาดหุ้นไทย

อ่านบท Equity Mind .. จะได้เข้าใจครับ
ซื้อมาแล้วครับ :8)
หนังสือของท่านแม่ทัพเห็นแล้วต้องรีบหยิบใส่ตะกร้า
ใครต้องการ หาซื้อได้ที่ร้าน B2S หรือไม่ก็ศูนย์หนังสือจุฬาครับ :)

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 21, 2010 12:06 pm
โดย kurapica
ซุนเซ็ก เขียน: รูปภาพ
สองเล่มในรูป มีขายที่ se-ed ป่าวครับ อยู่ต่างจังหวัดหายากเหลือเกิน

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 21, 2010 12:41 pm
โดย GeneraX
kurapica เขียน: สองเล่มในรูป มีขายที่ se-ed ป่าวครับ อยู่ต่างจังหวัดหายากเหลือเกิน
ก่อนจะออกไปซื้อที่ SE-ED ลองโทรเช็คกับทางสาขาดูก่อนได้ครับ ถ้าสาขาที่จะไปไม่มี เค้าก็น่าจะโยกจากทางสาขาใกล้เคียงมาให้ได้ภายในไม่กี่วันครับ

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 21, 2010 5:09 pm
โดย PRO_BABY
ขอบคุณทุกท่านครับ  Login 2003 ก็จริง  แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยเปิดพอร์ทเป็นของตัวเองครับ  ไปลงทุนนอกตลาด(สร้างเครือข่ายใน MLM)  พอมีเงิน มีรายได้ ก็ซื้อนู่นซื้อนี่  ตอนนี้ก็เลย ตั้งต้นใหม่  ขายรถ(เกินความจำเป็น ฟุ่มเฟือย เหลือคันเดียว) เอาเงินที่นอนอยู่ มาเปิดพอร์ท  

วันนี้เริ่มใหม่ครับ  ตั้งสติ เชื่อมั่นในตัวเอง หาข้อมูล เริ่มทยอยลงทุนบ้างแล้วครับ ประมาณ 50% ของเงิน

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 21, 2010 5:16 pm
โดย PRO_BABY
[quote="คลายเครียด"]มันเป็นเช่นนั้นเองครับ

อีกหน่อยก็จะชินไปเอง

ลองอ่านกระทู้นี้ดู


http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 48625.html


:lol:

เอาเข้าจริงๆก็หวิวๆครับ (ทำใจยังไง)

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 21, 2010 6:59 pm
โดย tae30866
ผมก็เพิงเปิดพอร์ทเข้าตลาดหลังจากอ่านมานานครับ
ตอนแรกกะๆไว้ว่าจะรอรอบใหญ่(ครั้งแรกพลาดเลยเดี๋ยวใจเสีย)
แต่ก็อดไม่ได้จนต้องเข้าหุ้นไปเหมือนกัน
มองในแง่ดี ผมอาจจะได้มีโอกาสเรียนรู้การเจ็บตัวและรู้จักบริหารพอร์ทตั้งแต่ยังเป็นพอร์ทจิ๋วอยู่ก็ได้
คิดเอาเองปสก.น้อยต้องศึกษามากๆครับ เป็นกำลังใจให้ทุกคนและตัวเองตลอดด้วย
ปล.พยายามจะไม่ดูราคาหุ้นแต่สำหรับมือใหม่มันทำยากจริงๆ (ตอนนี้ต้องใช้หนังสือและCD ธรรมะเข้าช่วยครับ จิตแจ่มใส)