หน้า 1 จากทั้งหมด 1

แบบจำลองกู้เงินมาเล่นหุ้น

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 07, 2009 12:11 pm
โดย pat4310
ว่างๆระหว่างรอหุ้นขึ้นผมก็นั่งคิดไปเรี่อย ดูงบทุกบริษัทก็มีหนี้ ถ้าหนี้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจัดการได้ก็ทำกิจการอย่างไม่ทุกข์ ผลตอบแทนส่วนของผู้ถือหุ้นก็สูงขึ้นด้วย เกิดความคิดว่ากู้เงินมาเล่นหุ้นอย่างไรไม่ให้ทุกข์

สมมติฐาน
1.ในพอร์ดมีทั้งเงินกู้และเงินตัวเอง
2.กู้เงินมาด้วยอัตราดอกเบี้ยร้อยและ L
3.ผลตอบที่ที่นักลงทุนต้องการเท่ากับ k
4.ใช้เงินปันผลที่ได้มาจ่ายดอกเบี้ย (เงินต้นถือไว้เอาcapital gain และเอาปันผลมาจ่ายดอกไปเรื่อยๆ)

ทฤษฎีที่ใช้
1.Dividend discount model
2.การตัดสินใจลงทุน
3.ต้นทุนทางการเงินเฉลี่ย (wacc)

แบบจำลอง
จากแบบจำลอง Dividend discount model จะได้
P0=D1/(K-g)................(1)
P0 ราคาปัจจุบัน
D1 เงินปันผลที่คาดว่าจะได้รับ
K ผลตอบแทนที่คาดหวัง
g อัตราการเจริญเติบโตของเงินปันผล

ย้ายข้างสมการจะได้
K-g = D1/p0
K=D1/p0+g............(2)

ให้ Df=D1/p0 = อัตราเงินปันผลที่คาดว่าจะได้รับ.....(3)
ให้ K=WACC=(1-i).k+i.L โดยที่ i+(1-i)=1.....(4)

แทนค่า (3)และ(4)ใน(2) จะได้
WACC=Df+g
(1-i).k+i.L = Df+g ......(5)

จาก ทฤษฎีการตัดสินใจลงทุน นักลงทุนจะตัดสินใจลงทุนเมื่อ ผบตอบแทนที่ได้มากกวส่าต้นทุนทางการเงินเฉลี่ย ดังนั้นจากสมการที่(5)จะตัดสินใจลงทุนเมื่อ

(1-i).k+i.L < Df+g.........(6)

สรุปเป็นภาษาที่มนุษย์เข้าใจคือ เราจะกู้เงินมาเล่นหุ้นเมื่อคำนวณแล้วว่าผลตอบแทนจากการลงทุน(เล่นหุ้น)ที่คาดการณ์ยำอีกทีว่าคาดการณ์(ในแบบจำลองคือเงินปันผลและอัตราการเจริญเติบโตของเงินปันผล)มากกว่าต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยของพอร์ดเรา(WACC)

สิ่งที่คิดได้เพิ่มเติม
อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน เท่ากับ i/(1-i)
leverage ratio เท่ากับ 1/(1-i)

เพื่อนๆลองแทนค่าตัวเลขกันดูครับสนุกดี หรือจะปรับสมมติฐานให้เข้ากับพอร์ดตัวเองก็ได้

แบบจำลองกู้เงินมาเล่นหุ้น

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 07, 2009 1:17 pm
โดย support
ใช้กู้ มาจิ้น มาเล่นหุ้นหรอครับ
ระวัง Fund flow ออกนะครับ แล้วจะหาว่าไม่เตือน พี่กอง กับรายย่อยไม่เอากันแล้ว

แบบจำลองกู้เงินมาเล่นหุ้น

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 20, 2009 9:26 pm
โดย pat4310
ตัวอย่างการใช้งาน
พอร์ทหุ้นผมมีเงินอยู่ 200,000 ได้ผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ย 8% ต่อปี

ได้มรดกจากแม่เป็นแหวนเพชรมูลค่า 1 กะรัต มูลค่า 100,000

วันดีคืนดีไม่รู้คึกอะไรมีความคิดว่าจะคุ้มไหมที่จะเอาแหวนเพชรไปจำนำ ดอกเบี้ยร้อยละ 15 เอามาเสริมพอร์ทตัวเองให้ใหญ่ขึ้น เอาเงินปันผลรวมของทั้งพอร์ทมาจ่ายดอกเบี้ย(กะจ่ายดอกไปเรื่อยๆไม่ไถ่ เพราะต้องการมหัศจรรดอกเบี้ยทบต้น)

1.เอาแหวนไปจำนำได้เงินมา 50,000 ดอกเบี้ยร้อยละ 15
2.หาผลตอบแทนที่คาดหวัง
หนี้ 50000 ทุน 200000
สัดส่วนหนี้เท่ากับ 50000/200000=0.25

สมมติให้ผลตอบแทนที่คาดหวังสำหรับนักลงทุนเท่ากับ 0 เพราะคิดว่าอย่างนั้นผลตอบแทนจากเงินปันผลต้องพอเอามาจ่ายหนี้ก่อน เผื่อไว้แม้ว่าเราจะขาดทุนก็ยังมีเงินปันผลมาจ่ายดอก ถ้าไม่จ่ายเดี๋ยวแหวนหลุดจำนำไปจะยุ่ง

ดังนั้นผลตอบแทนที่คาดหวังของทั้งพอร์ทเท่ากับ

(1-0.25)*0+0.25*0.15=0.0375 หรือ 3.75%
ผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยเท่ากับ 8%

3.75% < 8%

ต่อให้หุ้นไม่ขึ้น แต่ถ้ายังปันผลเท่าเดิมคือ 8% ก็รอดละ หลังจากจ่ายดอกยังมีเงินเหลือไปลงทุนเพิ่มได้อีก

ส่วนกรณีเลวร้ายที่สุดถ้าไม่ปันผลก็ตัวใครตัวมันล่ะคร้าบไปหาเงินสดมาจ่ายดอกแล้วกัน ตัวใครตัวมันเด้อ

แบบจำลองกู้เงินมาเล่นหุ้น

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 21, 2009 7:12 am
โดย นักดูดาว
ไม่น่าจะใช่นะครับ สำหรับ * 0

ต้นทุนการเงินไม่มีเลยหรือครับ อย่างน้อยก็ควรให้เท่ากับอัตราดอกเบี้ยไร้ความเสี่ยง จะเป็นดอกเบี้ยเงินฝากประจำหรือตั๋วเงินคลังก็พอได้

แบบจำลองกู้เงินมาเล่นหุ้น

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 21, 2009 8:48 am
โดย นักดูดาว
ผมว่าสูตรน่าจะเป็น

ผลตอบแทน = (เงินทุน + เงินกู้)*อัตราผลตอบแทน - เงินกู้*อัตราดอกเบี้ย

สมมุติ อัตราดอกเบี้ย 15% อัตราผลตอบแทน 8% เงินทุน 1 เงินกู้ 0.25

ผลตอบแทน = (1+0.25)*8% - 0.25*15%

= 10%-3.75%

= 6.25%

สรุปว่าถ้าต้นทุนการเงินของเงินกู้ สูงกว่าผลอัตราตอบแทนจากการลงทุน ควรใช้เงินทุนอย่างเดียวจะได้ผลตอบแทนดีกว่าครับ

แบบจำลองกู้เงินมาเล่นหุ้น

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 21, 2009 8:55 am
โดย นักดูดาว
หวังว่าคุณคงไม่ได้จำนำแหวนจริงๆนะครับ เพราะถ้าได้เงิน 50,000 บาท สินทรัพย์ค้ำประกัน 100,000 บาท ดอกเบี้ย 15% นี่ถือว่าโหดมากสำหรับการลงทุนในหุ้น ใช้บัญชีมาร์จิ้นธรรมดายังปลอดภัยกว่า เพราะดอกเบี้ยน่าจะประมาณ 6% เพราะมีหุ้นค้ำประกันอยู่แล้ว และได้อัตรามาร์จิ้นสูงกว่าด้วย ควรรีบปรับโครงสร้างหนี้โดยด่วน

แบบจำลองกู้เงินมาเล่นหุ้น

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 21, 2009 9:25 am
โดย hagrid
ผมว่าตามทฤษฎีคงทำได้ครับ

แต่ทางการปฎิบัตินะสิครับ เพราะตลาดหุ้นล้วนมีอารมณ์

เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้มีความผันผวนสูง

ผู้ลงทุนต้องรับความเครียดจากความผันผวนนั้น

ยิ่งถ้าไปกู้มายังต้องเพิ่มต้นทุนจากดอกเบี้ย และภาระ

ที่ต้องชำระคืนเงินต้นด้วยแล้ว ก็ยิ่งจะเพิ่มความกดดัน

เข้าไปอีก เพราะฉะนั้นการกู้มาลงทุนคงเหมาะกับ

คนที่มีภาวะทางอารมณ์ค่อนข้างสูงสักหน่อยหละครับ

ตอนผมทำงานอยู่ และหุ้นลงหนักๆ บางทีผมก็เคย

คิดจะกู้สหกรณ์มาซื้อหุ้น เพราะมองเห็นแต่โอกาส

ที่จะทำกำไร (แค่ปันผลก็คุ้มดอกเบี้ยที่จ่ายให้สหกรณ์แล้ว)

แต่เมื่อวิเคราะห์ตัวเอง ก็พบว่าไม่เหมาะที่จะรับความกดดัน

ที่เกิดขึ้น เลยคิดว่า รวยช้าหน่อยด้วยเงินตัวเองเนี่ยแหละ

สบายใจดี

แบบจำลองกู้เงินมาเล่นหุ้น

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 21, 2009 10:01 am
โดย นักดูดาว
ผมว่าการกู้มาลงทุนเป็นเรื่องปกตินะครับ ตราบใดที่มีต้นทุนการเงินต่ำ เป็นเรื่องที่ทำกันโดยทั่วไปครับ แม้แต่บัฟเฟตก็ใช้หลักการนี้ในการลงทุน

ยกตัวอย่างบริษัทประกันภัยประกันชีวิตหรือธนาคาร พวกนี้ได้เงินต้นทุนต่ำมากจากลูกค้า ซึ่งยังไม่ได้รับรู้รายได้เป็นของบริษัท ยังเป็นของเจ้าหนี้อยู่(คือเงินในบัญชีลูกค้า..เงินฝาก ..เงินเบี้ยประกัน)  แต่ก็นำมาลงทุน เพื่อให้ได้ผลตอบแทน เป็นรายได้ พวกนี้สัดส่วนทุนของบริษัทในพอร์ตต่ำมากครับ

พอทราบมาว่าเซียนหลายๆท่านในที่นี้ก็ใช้เงินกู้เพื่อเพิ่มผลตอบแทนครับ  

แต่การกู้เงินมา "เก็งกำไร" ด้วยความเสี่ยงสูงๆ ผลตอบแทนไม่แน่นอน อย่างการเล่นเดย์เทรด อันนี้ผมว่าไม่คุ้มเลย

แบบจำลองกู้เงินมาเล่นหุ้น

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 21, 2009 11:01 am
โดย pat4310
นักดูดาว เขียน:ผมว่าสูตรน่าจะเป็น

ผลตอบแทน = (เงินทุน + เงินกู้)*อัตราผลตอบแทน - เงินกู้*อัตราดอกเบี้ย

สมมุติ อัตราดอกเบี้ย 15% อัตราผลตอบแทน 8% เงินทุน 1 เงินกู้ 0.25

ผลตอบแทน = (1+0.25)*8% - 0.25*15%

= 10%-3.75%

= 6.25%

สรุปว่าถ้าต้นทุนการเงินของเงินกู้ สูงกว่าผลอัตราตอบแทนจากการลงทุน ควรใช้เงินทุนอย่างเดียวจะได้ผลตอบแทนดีกว่าครับ
ถ้าคิดตามสูตรนี้มันคือผลตอบแทนที่เป็นตัวเงินนะครับหน่วยไม่ได้ออกมาเป็น %

แบบจำลองกู้เงินมาเล่นหุ้น

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 21, 2009 11:30 am
โดย pat4310
นักดูดาว เขียน:หวังว่าคุณคงไม่ได้จำนำแหวนจริงๆนะครับ เพราะถ้าได้เงิน 50,000 บาท สินทรัพย์ค้ำประกัน 100,000 บาท ดอกเบี้ย 15% นี่ถือว่าโหดมากสำหรับการลงทุนในหุ้น ใช้บัญชีมาร์จิ้นธรรมดายังปลอดภัยกว่า เพราะดอกเบี้ยน่าจะประมาณ 6% เพราะมีหุ้นค้ำประกันอยู่แล้ว และได้อัตรามาร์จิ้นสูงกว่าด้วย ควรรีบปรับโครงสร้างหนี้โดยด่วน
ถ้ากู้เต็มจำนวนDE ratio50%คงนอนไม่หลับกันกันพอดี กู้มาเท่านี้ DE ratio 25% ไม่หนักเกินไป อีกอย่างถ้าเราเอาเงินกำไรมาลงทุนมาทบเรื่อยๆ DE ratio ก็ลดลงเรื่อยๆนะครับ ปันผลก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามส่วนของทุนที่เพิ่มขึ้น ปีไหนที่ปันผลมากกว่าเงินต้นค่อยเอาเงินไปไถ่มรดกแม่คืนมา เหอเหอ

ขอบคุณทุกท่านที่มาเข้าร่วมถกเถียง และชี้แนะครับ ผมชอบบรรยากาศของการถกเถียงโดยใช้หลักวิชาการเป็นตัวอ้างอิงแบบนี้ จะทำให้ตำราไม่เป็นเพียงตำราอีกต่อไป สามารถนำมาใช้ได้จริง ได้มุมมองที่หลากหลายขึ้นด้วย

แบบจำลองกู้เงินมาเล่นหุ้น

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 21, 2009 11:56 am
โดย worapong
ผมคิดว่าเงินกู้ที่มีดอกเบี้ย 15% นี่เอาชนะไม่ง่ายนะครับ คิดง่ายๆว่าผลตอบแทนเฉลี่ยของตลาดอยู่เกือบๆ 10% แสดงว่าคนส่วนใหญ่ที่ทำได้ไม่ดีกว่าตลาดอาจจะเหนื่อยหน่อยนะครับ แต่สำหรับคนที่มีผลงานดีมากๆ เช่นปู่บัฟที่ทำได้เกิน 20% นิดหน่อย สมมุติว่า 23%นะครับ หลังจ่ายดอกเบี้ยแล้ว ผลตอบแทนก็เหลือแค่ 8%ครับ

แบบจำลองกู้เงินมาเล่นหุ้น

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 21, 2009 12:14 pm
โดย นักดูดาว
ผมไม่แน่ใจเรื่องการบันทึกบัญชีการจำนำทรัพย์สินนะครับ เพราะเราเสียการถือครองทรัพย์ ไม่เหมือนการจำนองที่เรายังถือครองทรัพย์นั้นอยู่ เรื่อง D/E ในกรณีนี้ ก็ลงไม่ถูกเหมือนกัน ผมลองคิดดูนะครับ

งบดุลเริ่มต้น
สินทรัพย์ แหวน 100,000 บาท = ส่วนของเจ้าของ 100,000 บาท

ทำการจำนำ
สินทรัพย์ เงินสดจากการจำนอง 50,000 บาท +แหวนติดค้ำประกัน  100,000 บาท
= หนี้สิน 50,000 บาท +ส่วนของเจ้าของ 100,000 บาท

D/E = 50%

ถ้าได้เงินมา 100% จะทำให้ D/E = 100% ครับ
ถ้าไม่ถูกต้อง ช่วยแก้ไขด้วยนะครับ ... ประเด็นก็คือเราขาดการถือครองสินทรัพย์ค้ำประกันแล้ว จะลงบัญชีแบบนี้ได้หรือไม่

แบบจำลองกู้เงินมาเล่นหุ้น

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 21, 2009 1:50 pm
โดย นักดูดาว
pat4310 เขียน:ผมว่าสูตรน่าจะเป็น
ถ้าคิดตามสูตรนี้มันคือผลตอบแทนที่เป็นตัวเงินนะครับหน่วยไม่ได้ออกมาเป็น %
ลองคิดเป็นตัวเงินก็ได้ครับ

กรณีที่ 1 ใช้เงินทุนอย่างเดียว 200,000 บาท ลงทุนได้ผลตอบแทนในอัตรา 8% ต่อปี

ผลตอบแทน =200,000*8% = 16,000 บาท

กรณีที่ 2 ใช้เงินทุน 200,000 บาท และ เงินได้จากการจำนำ 50,000 บาท ดอกเบี้ย 15% ลงทุนได้ผลตอบแทน 15%

ผลตอบแทน = (200,000+50,000)*8% = 20,000 บาท
ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย = 50,000 *15% = 7500 บาท
ผลตอบแทนรวม = 20,000 - 7,500  = 12,500 บาท

ดังนั้น กรณีที่สองจะได้ผลตอบแทนรวมต่ำกว่ากรณีแรก 16,000-12,500 = 3,500 บาท

แบบจำลองกู้เงินมาเล่นหุ้น

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 22, 2009 7:59 am
โดย Moo Ping 07
ตามหลักแล้ว เนื่องจากการลงทุนในหุ้นไม่ใช่เป็นแบบโปรเจค (คือลงทุนได้ตามกำลังที่มี)จึงไม่จำเป็นต้องนำต้นทุนมา weight everage

ดังนั้นหากนำเงินที่มีต้นทุน 15% มาลงทุนแล้วต้องการชัวร์ๆก็ควรได้ปันผลที่สม่ำเสมอ 15% ในหลักทรัพย์นั้นๆเป็นอย่างน้อย (จะมีป่าวหว่า)

ส่วน Capital gainที่อาจจะได้ (หรือไม่ได้) ก็จะเป็นกำไรครับ