หน้า 1 จากทั้งหมด 3

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 13, 2009 9:36 pm
โดย hongvalue
ตอบช้าๆก็ได้นะครับ แต่ขอยาวๆ :lol:


1.กรณี case svi มีเรื่อง mbo ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ใหม่ในเมืองไทยอยากถามว่า ก่อนหน้านั้นพี่ tos เข้าใจลายละเอียดของเรื่องนี้มาจากไหนเคยอ่านจาก case ตปท อะไรมาก่อนหรือเปล่าเพราะเห็นตอบแบบรู้ลึก

2.กรณีที่มีเรื่อง mbo อยาก case svi เข้าใจว่าเป็นผลดีเพราะว่า
ในแง่ของผู้ถือหุ้นเดิมนั้นได้ขายหุ้นเยอะและกดดันไม่ให้ราคาหุ้นไปได้
แต่กรณี svi ผู้ถือหุ้นรายใหม่อย่าง mfg น่าจะไม่มีแรงกดดันเรื่องนี้
อยากถามว่า case mbo ในต่างประเทศเวลาทำมักจะทำเพราะอะไรครับ เพราะว่าผู้ถือหุ้นเดิมไม่ถูกกัน หรือว่า เหตุผลอะไรบ้างครับที่จะทำให้เกิดการทำ mbo

3.การทำ mbo ของตปท มักจะค่า d/e สูงมากใช่ไหมครับ
แล้วมีการเก็บสถิติไหมครับว่าหลังจากทำ mbo แล้วผลตอบแทนของหุ้นจะเป็นยังไง เพราะว่า roe จะสูง แต่ d/e ก็สูงฉะนั้นหลังจากทำ mbo เราต้องคอยดูว่าบริษัทจะจัดการกับหนี้สินยังไงถูกไหมครับ
แล้วมีอะไรเพิ่มเติมไหมครับ

4.พี่พอจะเล่าได้ไหมครับว่า case mbo ของ phatra มีความต่างจาก case   svi ยังไง ทำไม phatra ถึงทำ mbo

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 13, 2009 10:03 pm
โดย สวนหย่อม
ผมเป็นคนหนึ่งที่อาศัยใบบุญพี่ picatos ในเคสนี้ ขอขอบคุณอย่างเป็นทางการไว้ที่นี้เลยนะครับ  ขอบคุณท่านฮงล่วงหน้าสำหรับการเจาะลึกครั้งนี้ด้วยครับ

:bow:  :bow:  :bow:

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 13, 2009 10:06 pm
โดย hongvalue
[quote="สวนหย่อม"]

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 13, 2009 10:16 pm
โดย kornjackrit
มารอฟังพี่ๆ Discuss กัน

:B  :B

Re: คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 13, 2009 10:27 pm
โดย picatos
ขอตอบเร็วๆ แต่สั้นๆ ได้ไหมครับ?

ถูกผิดอย่างไร ผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยครับ...
1.กรณี case svi มีเรื่อง mbo ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ใหม่ในเมืองไทยอยากถามว่า ก่อนหน้านั้นพี่ tos เข้าใจลายละเอียดของเรื่องนี้มาจากไหนเคยอ่านจาก case ตปท อะไรมาก่อนหรือเปล่าเพราะเห็นตอบแบบรู้ลึก
รู้จักคำว่า MBO ครั้งแรกนี่ได้ยินสมัยทำงานแบงค์ ได้ยินเพราะได้ยินคำว่า LBO จากการที่ในต่างประเทศมี Product เกิดขึ้นจากผลของการทำ LBO กันเยอะ...

ส่วนข้อมูลนี่ผมก็ search ๆ เอาจาก google บ้าง อ่าน wikipedia บ้าง
2.กรณีที่มีเรื่อง mbo อยาก case svi เข้าใจว่าเป็นผลดีเพราะว่า
ในแง่ของผู้ถือหุ้นเดิมนั้นได้ขายหุ้นเยอะและกดดันไม่ให้ราคาหุ้นไปได้
แต่กรณี svi ผู้ถือหุ้นรายใหม่อย่าง mfg น่าจะไม่มีแรงกดดันเรื่องนี้
อยากถามว่า case mbo ในต่างประเทศเวลาทำมักจะทำเพราะอะไรครับ เพราะว่าผู้ถือหุ้นเดิมไม่ถูกกัน หรือว่า เหตุผลอะไรบ้างครับที่จะทำให้เกิดการทำ mbo
เข้าใจว่าที่ต่างประเทศ ผู้ถือหุ้นจะกระจายๆ กัน ถือกันคนละนิด คนละหน่อย เสร็จแล้วทีนี้ พอเป็นหุ้นที่ไม่อยู่ในกระแส หรือมีปัญหาทางธุรกิจ ราคามันก็เลยต่ำเกินจริง ซึ่งผู้ถือหุ้นไม่เห็นค่า แต่ management ของบริษัทนั้นเห็นค่า ก็เลยเข้ามา take over โดนการหา Financial Sponsor เข้ามาช่วย Funding ในการทำ MBO
3.การทำ mbo ของตปท มักจะค่า d/e สูงมากใช่ไหมครับ
แล้วมีการเก็บสถิติไหมครับว่าหลังจากทำ mbo แล้วผลตอบแทนของหุ้นจะเป็นยังไง เพราะว่า roe จะสูง แต่ d/e ก็สูงฉะนั้นหลังจากทำ mbo เราต้องคอยดูว่าบริษัทจะจัดการกับหนี้สินยังไงถูกไหมครับ
แล้วมีอะไรเพิ่มเติมไหมครับ
LBO ทำแล้วล้มเหลวมีเยอะครับ แต่ผมเข้าใจว่า MBO นี่ทำแล้วไม่ค่อยล้มเหลวเท่าไหร่ เพราะ Management เป็นคนที่เห็นมูลค่ากิจการดีที่สุด ดังนั้นถ้า Management กล้าที่จะมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แทนที่จะกินเงินเดือนทำงานชิวๆ ไปเรื่อยๆ นี่ แสดงว่า หุ้นมันต้อง undervalue มากๆ คุ้มค่าที่ Management จะเข้ามาเสี่ยงที่จะทำให้บริษัทมีฐานะทางการเงินด้อยลง
4.พี่พอจะเล่าได้ไหมครับว่า case mbo ของ phatra มีความต่างจาก case

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 13, 2009 10:55 pm
โดย yoyo
เห็นมั๊ยฮง.. ว่าพี่โตสของจริงๆ
พี่แกบอกผมหุ้นตั้งแต่จิบเบียร์รอบก่อน.. ผมไม่เล่นด้วย ไม่งั้นรวยไปแล้ว  :oops:

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 13, 2009 11:22 pm
โดย woody
ไม่ใช่พี่ picatos แต่ขอแจมเล็กน้อยนะครับ

1. ที่เมืองนอกที่มีการเปิดเสรีทางการเงินจะมีกรณีแบบนี้บ่อยๆ ครับ เนื่องจากเค้าถือว่าตลาดที่มีประสิทธิภาพนั้นจะเป็นตัวช่วยเรื่องธรรมาภิบาลที่ดี กล่าวคือ ผู้บริหารต้องบริหารงานให้ได้มีประสิทธิภาพ ถ้าไม่ก็จะไม่มีนักลงทุนมาให้มูลค่ากับกิจการหุ้นก็จะ undervalue ซึ่งก็จะเป็นเป้าหมายของการ Takeover ผู้บริหารก็อาจจะไม่มีงานทำได้ โดยบางครั้งการ takeover นั้นอาจจะเป็นการทำจากทางตัวผู้บริหารเอง ในกรณีหลังแบบนี้ก็จะเรียกว่า MBO ครับ

2. เหตุผลในการทำ MBO นั้นถ้าจะว่ากันไปตาม theory และมองในทางบวกแล้ว ก็คือผู้บริหารคิดว่าการที่เค้าสามารถรวมหุ้นให้ได้มีเสียงข้างมากนั้น จะทำให้เค้าบริหารงานได้สะดวกมากกว่าครับ โดยเค้าอาจจะนำหุ้นออกนอกตลาดไปทำการเพิ่มประสิทธิภาพซัก 5-7 ปี แล้วหลังจากนั้นก็จะนำกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นใหม่ครับ ทั้งนี้การบริหารงานจะเริ่มลดความสำคัญของกำไรทางตัวเงินลง แล้วไปเพิ่มความสำคัญให้กับการบริหารเงินสดแทน เพราะถ้าเราลองคิดดูจริงๆ แล้ว มูลค่าของบริษัทแล้วในที่สุดก็จะเท่ากับความสามารถในการทำเงินสดแล้วคิดลดมูลค่าตามเวลามา ดังนั้นการทำ LBO และ MBO ที่ดีแล้วจะเป็นการทำให้บริษัท Lean ขึ้นครับ

3. เคยเห็นการเก็บสถิติในส่วน LBO นะครับ แต่ MBO ยังไม่เคยได้ศึกษานะครับ ถ้าจำไม่ผิดการทำ LBO ในช่วง 80s นั้นถือว่าได้ผลดีครับ แต่ในช่วง 90s นั้น ดีล LBO ส่วนใหญ่นั้น ผลลัพธ์จะไม่ค่อยดีครับ ทั้งนี้หนึ่งในปัจจัยที่ต่างกันก็เรื่องของราคาในการซื้อครับ จริงๆ จะมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากเช่นความเชี่ยวชาญของผู้บริหาร Board of directors ที่จะเป็นคนคอยดูแลและให้ความเห็นที่เหมาะสมในการบริหาร

4. ขอเวลาศึกษาหน่อยนะครับ

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 13, 2009 11:28 pm
โดย woody
อ้อ ลืมไปอีกเรื่องครับ เรื่อง D/E เท่าที่ทราบมา ถ้าเป็น LBO แล้วโดยเฉลี่ยจะใช้กันที่อัตรา 10:1 ครับ  เพราะการมีหนี้เยอะนั้น สามารถจะมองได้ว่าเป็นการช่วยเรื่องธรรมาภิบาลอีกทางหนึ่งผ่านการลดของ Asymmetric informationในตลาด เนื่องจากว่า นักลงทุนก็จะทราบแล้วว่าต่อไปเงินสดที่ผลิตได้จากบริษัทนั้น ผู้บริหารจะต้องเอาไปใช้หนี้ ต่างจากเดิมที่ต้องมานั่งเดาว่าผู้บริหารอาจจะเอาไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย เรื่อง

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 12:26 am
โดย Solomon
เมืองไทยเคยมีเคสที่ใกล้เคียงบ้าง อย่างเคสของ IEC และ SGT ที่แยกจากปูน แต่รูปแบบยังต่างจาก SVI มากครับ ลองอ่านดูครับ ตาม LINK

CASE: "ไออีซี+เอสซีที ส่วนเกินของปูนซีเมนต์ไทย"
 http://www.gotomanager.com/news/printnews.aspx?id=9664

ถ้าสนใจลองหาซีรีย์ญี่ปุ่นเรื่อง "เกมล่าธุรกิจ" มาดูครับ อยู่ช่วงตอนท้าย ๆ ใกล้จบ ซีรีย์ครับ ดูสนุก เข้าใจง่ายครับ ไว้ว่าง ๆ จะหา Link มาโพสไว้ครับ เคยเจอใน Youtube อยู่ครับ

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 1:34 am
โดย chode
คุณPicatos พอจะทราบไหมครับว่าการที่แบงก์จะปล่อยกู้เพื่อเอามาจ่ายปันผลแบบนี้ แบงก์มีเกณฑ์อย่างไร

อยากให้แบงก์มาทำแบบนี้กับบริษัทคุณภาพหลายบริษัทในตลาดที่มีส่วนของทุนมากเกินไป  ผมว่าเป็นสิ่งที่แบงก์น่าปล่อยกู้มากกว่าบริษัทส่งออกตอนนี้เสียอีก

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 3:29 am
โดย final
มาขอบคุณ คุณ picatos ด้วยอีกคนค่ะ  แม้ดิฉันไม่มีความรู้เรื่อง finance  แต่คุณก้อช่วยอธิบายให้เห็นตรรกะของการเกิด case นี้

ปกติไม่ค่อยชอบเสี่ยงมาก แต่การที่มีคนมารอขอซื้อหุ้นในราคา 1.8 บาทหลังปันผล ทำให้คิดว่า down side risk ต่ำมาก และเห็น อนาคตของหุ้นตัวนี้

หวังว่าจะเจอกันในวันประชุมผู้ถือหุ้น (ถ้ามีอะไรดีๆ แบบนี้อีก กระซิบบอกได้เลยนะคะ เพราะคงไม่ได้ไปจิบเบียร์)

ขอบคุณค่ะ

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 5:47 am
โดย picatos
[quote="chode"]คุณPicatos พอจะทราบไหมครับว่าการที่แบงก์จะปล่อยกู้เพื่อเอามาจ่ายปันผลแบบนี้ แบงก์มีเกณฑ์อย่างไร

อยากให้แบงก์มาทำแบบนี้กับบริษัทคุณภาพหลายบริษัทในตลาดที่มีส่วนของทุนมากเกินไป

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 5:51 am
โดย picatos
พี่ woody กับ พี่ Solomon นี่สิของจริง... :cool:

ขอบคุณนะครับสำหรับข้อมูล

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 8:08 am
โดย sattaya
อ่านแล้ว งงไปโง่ไป  :oops:

รบกวนถามพี่ๆหน่อยครับ MBO กับ LBO นี่มันอะไรครับ ช่วยอธิบายให้หน่อยครับ

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 8:32 am
โดย BABY TERMITE
[quote="final"]มาขอบคุณ คุณ picatos ด้วยอีกคนค่ะ

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 8:46 am
โดย sanfran
[quote="BABY TERMITE"][quote="final"]มาขอบคุณ คุณ picatos ด้วยอีกคนค่ะ

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 9:04 am
โดย BABY TERMITE
[quote="sanfran"][quote="BABY TERMITE"][quote="final"]มาขอบคุณ คุณ picatos ด้วยอีกคนค่ะ

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 10:18 am
โดย sanfran
[quote="BABY TERMITE"][quote="sanfran"][quote="BABY TERMITE"][quote="final"]มาขอบคุณ คุณ picatos ด้วยอีกคนค่ะ

Re: คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 4:43 pm
โดย hongvalue
picatos เขียน:ขอตอบเร็วๆ แต่สั้นๆ ได้ไหมครับ?
ขอต่อรองเป็นตอบไม่ต้องเร็วไม่ต้องช้า

ตอบไม่ต้องยาวไม่ต้องสั้นได้ไหมครับ :lol:

พี่มีเรื่องสงสัยหน่อยครับ svi ปีนี้(ก่อนหน้านี้)

ปันผล .10 ใช่ไหมครับ จากกำไร .44

ก็ต่ำกว่าเกณฑ์ปัน 30% ของกำไร

เวลาเขานับว่าปันผลเท่าไหร่ของกำไร

เขาจะเอากำไรปีที่แล้วมา แล้วมาดูว่าปีนี้ทั้งๆปี

ปันผลถึง ไหมใช่ไหมครับ

ดังนั้นปันผลงวดก่อน .10 ก็ไม่ผิดกฏ เพราะว่า

ยังไม่ได้บอกว่าทั้งปีจะปันเพิ่มหรือเปล่า

แต่ถ้าทั้งปีนี้ไม่ปันเพิ่มแล้วจาก 0.10 แบบนี้จะผิดกฏถูกไหมครับ

Re: คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 4:54 pm
โดย picatos
...svi ปีนี้(ก่อนหน้านี้)

ปันผล .10 ใช่ไหมครับ จากกำไร .44

ก็ต่ำกว่าเกณฑ์ปัน 30% ของกำไร

เวลาเขานับว่าปันผลเท่าไหร่ของกำไร

เขาจะเอากำไรปีที่แล้วมา แล้วมาดูว่าปีนี้ทั้งๆปี

ปันผลถึง ไหมใช่ไหมครับ
ตอนแรกก็งงๆ กันอยู่ว่าจะใช้รอบไหนคิด แต่ผลปรากฎว่าใช้กำไรสุทธิของปีที่แล้วเป็นฐานในการคิด

ขอแก้นิดนะครับ เกณฑ์ที่ใช้คือ ปันผลมากกว่า 70% ของกำไรสุทธิในรอบบัญชีครับ
ดังนั้นปันผลงวดก่อน .10 ก็ไม่ผิดกฏ เพราะว่า

ยังไม่ได้บอกว่าทั้งปีจะปันเพิ่มหรือเปล่า

แต่ถ้าทั้งปีนี้ไม่ปันเพิ่มแล้วจาก 0.10 แบบนี้จะผิดกฏถูกไหมครับ
ที่ไม่ผิดกฎเพราะ เค้าใช้ฐานของปีที่แล้ว

แต่ถ้าพูดถึงของปีนี้ ก็ต้องไปสรุป ดูกำไรสุทธิของปี 2552 ทั้งปีก่อน ว่าจ่ายปันผลเกิน 70% ของกำไรสุทธิรึเปล่า ถ้าเกิดปีนี้กำไรสุทธิทั้งปีดันทะลึ่งออกมา 0.10 บาท ก็คงต้องปรับสิทธิด้วยมั้งครับ... ไม่รู้เหมือนกันแฮะ...

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 5:00 pm
โดย hongvalue
เฮีย tos

ผมขอถามแบบกว้างๆ

เฮียคิดว่าการที่เฮียตีแตก svi ได้เกิดจากคุณสมบัติอะไรในตัวเฮียครับ

เช่น
1.รู้ทฤษฏี finance
2.รู้พื้นฐานของหุ้น
3.ดูแรงจูงใจของบริษัทออก
4.ใจถึง -----> ส่วนตัวผมว่าคนเล่น case นี้ต้องใจถึงเพราะว่าก่อนหน้านั้นก็ออกมาบ่นกันเรื่องปันผลน้อย
ทำไมขอขึ้นค่าตอบแทนให้ตัวเอง
แถมหนักเข้ามีเรื่อง delist เดี่ยวก็ mfg ทำ tender ราคาไม่ยุติธรรม
ผมมานั่งคิดว่าถ้าเป็นผมคงถือไม่ไหวหรอก



ช่วยเรียงลำดับคุณสมบัติที่คิดว่าสำคัญจากมากไปน้อยให้หน่อยครับ


ผมว่าการถามลักษณะนี้จะทำให้ได้รู้ว่าคนคิดมี skill แบบไหน ผมว่ามัน work กว่าคุยแต่หลักการ

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 5:07 pm
โดย hongvalue
ผมมาลองนั่งคิดดูที่บอกว่าพี่ tos เก่ง finance ก็เลยได้ตีแตก แต่ผมมาคิดแล้วมันมีศาสตร์ที่ไม่เหมือนกันนะ

คือถ้า finance แบบทั่วไปก็คือ dcf wacc pv npv ใช่มะ

แต่ผมว่าแบบที่ใช้อ่านเกมส์เนี้ยมันเป็นในเชิง

finance ธุรกรรมทางการเงินซึ่งเอาไปใช้ดูแรงจูงใจของผู้บริหาร

ผมว่า finance แบบแรกน่าจะศึกษาไม่ยาก

แต่ finance แบบที่ใช้อ่านเกมส์กรณี svi ผมว่าต้องเป็นระดับพวก cfa นะ อย่างพี่ ib ก็จบ cfa ก็ดูเกมส์ขาด

ส่วนพวกพี่ฉัตร ลุงขวด พวกนั้นเทพ ไม่เกี่ยวกัน


ว่าแต่มีอะไรแนะนำไหมครับ สำหรับการศึกษา finance เรื่องธุรกรรมในรูปแบบต่างๆที่ใช้อ่านเกมส์ผู้บริหาร

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 5:13 pm
โดย hongvalue
woody เขียน:4. ขอเวลาศึกษาหน่อยนะครับ

ขอบคุณมากนะครับ สำหรับรายละเอียด

แล้วอย่าลืม update เรื่องที่ไปศึกษานะครับ

น้องๆรอฟังครับ  :lol:

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 9:38 pm
โดย oatty
ทำไมเรียกแต่เฮีย Picatos ล่ะครับ น่าจะกวักมือเรียก พี่เวบ พี่ลูกอิสาน ด้วย โดยเฉพาะพี่โจเนี่ย จำได้ว่า ปีที่แล้วยังมาตั้งกระทู้เรื่องกำไรติดต่อกัน 11 ไตรมาส แต่ราคาหุ้นไม่ไปไหน อยู่เลย

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 9:54 pm
โดย hongvalue
oatty เขียน:ทำไมเรียกแต่เฮีย Picatos ล่ะครับ น่าจะกวักมือเรียก พี่เวบ พี่ลูกอิสาน ด้วย โดยเฉพาะพี่โจเนี่ย จำได้ว่า ปีที่แล้วยังมาตั้งกระทู้เรื่องกำไรติดต่อกัน 11 ไตรมาส แต่ราคาหุ้นไม่ไปไหน อยู่เลย

เฮีย oat ครับ จริงๆอยากจะเรียกมาทุกคนเลยครับ

แต่เห็นพี่โจมีคนถามเยอะมากแล้วในกระทู้เขา

ส่วนพี่เว็บเดี่ยวผมจะถามเขาเพิ่ม(ถ้าเขามาตอบนะ)

ถ้ายังไงพี่ลูกอีสานกับพี่เว็บอ่านรบกวนช่วยเล่าประสบการณ์มุมมองที่ได้ตีแตก svi ในตอนนั้นว่า

มอง downside upside มากน้อยอย่างไร
เทียบความเสี่ยงยังไงบ้าง

หรืออย่างน้อยช่วยเข้ามาแสดงตัวหน่อยได้ไหมครับ

จะได้ขอถามหน่อยครับ  :lol:

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 10:15 pm
โดย hongvalue
ระหว่างรอเฮีย tos เฮียโจ เฮีย web

ผมขอคั่นรายการด้วยการฝอย

น้ำอาจจะเยอะกว่าเนื้อ  :oops:  อย่าถือสาเลยนะครับ



ผมได้คุยกับอาจารย์ของผมคนนึงเขาบอกว่า

ถ้าดูหุ้นอสังหริมทรัพย์ เขาจะสนใจหุ้นตัวที่ผู้บริหาร

หรือเจ้าของถือหุ้นเยอะๆ เพราะว่าถ้าเขาถือหุ้นน้อยเขาย่อมไม่มีแรงจูงใจในการทุ่มเทเพื่อบริษัท

เวลาจะซื้อที่ดินก็จะให้นอมินีไปซื้อก่อนแล้วค่อยซื้อต่อจากนอมินี

การที่บริษัทถือหุ้นน้อยทำมากก็ไม่ได้อะไร
หาทางไซฟ่อนเงินดีกว่า

แต่ถ้าบริษัทไหนผู้บริหารถือหุ้นมาก

เขาก็มีแรงจูงใจที่จะทำให้บริษัทรายงานกำไรออกมาดี

เพราะราคาหุ้นจะได้ขึ้นและจะได้มีปันผลเยอะๆ

อย่างบริษัท develop บางแห่งตั้งแต่เข้าบริษัทมาเจ้าของไม่เคยขายหุ้นเลยแม้แต่ครั้งเดียวแถมถือหุ้นเยอะมาก

แบบนี้ถ้าดูจากโครงสร้างผู้ถือหุ้นแล้วก็น่าสนใจในแง่
แรงจูงใจของผู้บริหาร

และที่กล่าวมาก็ยังไม่พอ เราจำเป็นจะต้องดูว่าบริษัทที่ว่า
เป็น wealth หลักของเจ้าของหรือไม่

ถ้าเจ้าของมี wealth ทั้งหมด 30000 ล้าน แต่ว่าหุ้นที่เขาถือในบริษัทนี้มีแค่ 6000 ล้าน แบบนี้น้ำหนักก็จะน้อยลง
เพราะเราไม่แน่ใจว่าเจ้าของจะ focus ที่จะทำให้อะไร
เป็นแกนหลักของเขา
ไม่เหมือนคนที่มี 30000 ล้านแล้ว wealth ทั้งหมดอยู่ในหุ้นตัวเดียว แบบนี้ก็น่าคิดว่าเขาจะสู้ตายเพื่อ wealth เพียงหนึ่งเดียวของเขา

และอาจารย์ของผมก็ยังสอนต่อไปว่า
เวลาอ่านคำให้สัมภาษของผู้บริหารต้องอ่านเกมส์ให้ออกว่า บริษัทในเครือของเขาหลายแห่งที่อยู่ในตลาดหุ้น คิดว่าที่ไหนที่เขาจะปั่นให้โตได้ และที่ไหนที่เจ้าของคิดว่ามันอยู่ตัวแล้ว

อย่างเช่นบริษัทในเครือ xxx ผู้บริหารบอกเองเลยว่า
หุ้น x ไม่ค่อยโตแล้ว แต่พอเป็นอีกบริษัทชื่อ y เขากับตั้งธงว่าจะเติบโตเท่านั้นเท่านี้ ตลาดยังโตได้อีกเท่าไหร่


ที่ผมฝอยมาเพราะผมมองว่าคนที่ตีแตก case svi ส่วนนึงก็มองในแง่การอ่านเกมส์ระหว่างกลุ่มผู้ถือหุ้นต่างๆ
ที่มีการทำรายการมากมายว่าเขามองว่าอะไรเขาคิดอะไร
จุดสุดท้ายของเกมส์น่าจะลงเอยอย่างไร



ผมว่านี้เป็นอีกรูปแบบในการวิเคราะห์หุ้นที่บางครั้งประเด็นแบบนี้ก็ช่วยชี้เป็นชี้ตายราคาหุ้นให้กับเราได้


อาจารย์ผมยังสอนผมอีกเยอะ เอาไว้ว่างๆผมจะมาฝอยคั่นรายการต่อ

ตอนนี้รอ เฮียๆก่อนดีกว่า

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 10:21 pm
โดย hongvalue
จะว่าไปไม่รู้ว่าซวยหรือเปล่า

ซื้อ svi เมื่อวานวันนี้ฝรั่งแม้ng ขายหุ้นออกมาเลย

ทีถือเงินสดตั้งนานดันไม่ขาย

เวรจริงๆ

แต่ซื้อด้วยเหตุผลทางเก็งกำไรแนวvi ก็คงไม่เอาไปปนกับ fundflow

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 10:59 pm
โดย hongvalue
เผื่อเฮียเว็บโดนแซวจะแวะมาแจม

ปีที่แล้วผมไปอบรมงานนึงแล้วเจอเฮียเว็บ

ก็ได้นั่งกินข้าวโต๊ะเดียวกันด้วย

ผมไปเอากุ้งเทมปุระมาเต็มเลย

เพราะเป็นบุฟเฟ่

เฮียเว็บผู้รักสุขภาพบอกผมว่า

กินกุ้งเยอะๆ คอเลสเตอรอลเยอะนะ

ตอนนั้นผมตอบไปว่า  นานๆทีกินทีครับเฮีย


ล่าสุดตอนเจอกันที่ตลาดหลักทรัพย์ก็ถามเฮียเรื่องหนังสือแปล เฮียบอกว่าอาจจะมี dhaho  (ไม่แน่ใจผมสระกดถูกไหม) ผมถามเฮียว่าขาย cpall ไปยัง
เฮียตอบว่า xxx (ให้เฮียมาตอบเองนะครับ :lol: น้องๆอยากคุยด้วย) แล้วเฮียก็ถามว่าเห็นโพสเรื่อง money flow แล้วถ้า moeny flow ขัดกับพื้นฐานหุ้นผมจะตัดสินใจอย่างไร ผมก็ตอบไปว่า xxx (อิอิ)

ไม่มีไรครับ แซวเฮีย web หลายๆรอบเพื่อจะมาคุยกับน้องๆ

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 11:37 pm
โดย damiano
hongvalue เขียน:ระหว่างรอเฮีย tos เฮียโจ เฮีย web
ผมได้คุยกับอาจารย์ของผมคนนึงเขาบอกว่า

ถ้าดูหุ้นอสังหริมทรัพย์ เขาจะสนใจหุ้นตัวที่ผู้บริหาร

หรือเจ้าของถือหุ้นเยอะๆ เพราะว่าถ้าเขาถือหุ้นน้อยเขาย่อมไม่มีแรงจูงใจในการทุ่มเทเพื่อบริษัท

เวลาจะซื้อที่ดินก็จะให้นอมินีไปซื้อก่อนแล้วค่อยซื้อต่อจากนอมินี

การที่บริษัทถือหุ้นน้อยทำมากก็ไม่ได้อะไร
หาทางไซฟ่อนเงินดีกว่า

แต่ถ้าบริษัทไหนผู้บริหารถือหุ้นมาก

เขาก็มีแรงจูงใจที่จะทำให้บริษัทรายงานกำไรออกมาดี

เพราะราคาหุ้นจะได้ขึ้นและจะได้มีปันผลเยอะๆ
อิอิ ผมค่อนข้างชอบประเด็นนี้มากทีเดียว เพราะผมว่า หลักการนี้ สามารถใช้ได้กับบริษัทส่วนมากทีเดียว ไม่เฉพาะ กลุ่มอสังหาครับ

ถามว่า เรามาลงทุน เราต้องการอะไร มีสองอย่างแน่ๆที่เราต้องการ คือ capital gain และ เงินปันผล

ซึ่งเวลาผมเลือกหุ้น ผมก็มักจะคิดว่า ผู้บริหารมีส่วนได้ส่วนเสียยังไงบ้างกับบริษัท

พูดแบบง่ายๆเลยก็คือ เรามาถือหุ้น เราเป็นเจ้าของบริษัทนะครับ ผู้บริหาร เป็นแค่ลูกจ้างของเรา

อย่างเช่นเคสของ SVI นี้ เมื่อก่อน ผู้บริหารมีหุ้นอยู่น้อยมาก สิ่งที่เค้าได้จากบริษัท คือเงินเดือน ทำให้ ผู้บริหารไม่สนใจที่จะจ่ายเงินปันผลออกมาให้ผู้ถือหุ้น เพราะตัวเองไม่มีส่วนได้ส่วนเสียเท่าไหร่ ราคาหุ้นก็ไม่ขึ้น เค้าก็เฉยๆ แบบ ทำไมอ่ะ ก็เรามีห้นอยู่นิดเดียว

ผมคิดว่า คุณโพธิ์ ท่านมองเห็นช่องว่างของการถือหุ้นของกองทุนนี้มานานแล้ว ว่า สุดท้ายแล้ว ก็จำเป็นต้องขายหุ้นทิ้งออกมา เพราะ เป็นกองทุนที่มีอายุที่ต้องเอาเงินมาคือผู้ถือหน่วยลงทุน

คุณโพธิ์ จึงไม่ยอมจ่ายเงินปันผลออกมา เพื่อจะให้เงินยังอยู่ในบริษัท เมื่อเวลามาซื้อต่อ จะได้จ่ายปันผลพิเศษออกมาเป็นจ่ายเงินกู้

การที่จ่ายเงินปันผลออกมาน้อยเมื่อการ มีจุดที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ทำให้หู้นตัวนี้ ไม่มีความน่าสนใจในวงกว้าง ส่งผลให้ โวลุ่มที่มีการซื้อขายน้อย และจึงเป็นการกดดันให้กองทุนไม่สามารถขายหุ้นออกมาได้ เพราะ เมื่อมีข่าว ราคาจะตกลงมามากเกินไป ทำให้ขายไม่ได้ราคา

ผมว่า เป็นเพราะเหตุนี้ที่ทำให้ กองทุนยอมขายหุ้นให้คุณโพธ์ในราคาที่เรามองกันว่าแสนจะถูก เนื่องจากกองทุนไม่มีทางเลือก

ต่อมา เมื่อผู้ถือหุ้นใหญ่คือคุณโพธิ์ ท่านมีหุ้นอยู่เยอะมาก แนวทางและผลประโยชน์ของท่าน จึงเป็นไปในเเนวทางเดียวกับผม ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย

เป็นทาง วิน วิน ทั้งสองฝ่ายครับ

ไม่ทราบว่า พี่ๆมีความเห็นยังไงบ้าง

คุณ picatos ครับขอถามเรื่อง finance หน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 11:47 pm
โดย hongvalue
เห็นด้วยกับคุณ damiano เลยครับ

ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกันครับ