กูรูชี้ กรณีเลห์แมนบราเธอร์ส นับเป็นการล้มละลายครั้งใหญ่สุด

[vichit]

กูรูชี้ กรณีเลห์แมนบราเธอร์ส นับเป็นการล้มละลายครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ เตือนอาจ
เกิดโดมิโนศก.ตามมา

             กูรูระบุ กรณีการยื่นพิทักษ์ของเลห์แมนบราเธอร์สนับเป็นการล้มละลายครั้งใหญ่ที่สุดใน
ประวัติศาสตร์ เนื่องจากเลห์แมนบราเธอร์ส ซึ่งก่อตั้งมา 158 ปี มีหนี้สินกว่า 600 พันล้าน
ดอลลาร์ และอาจส่งผลให้เกิดโดมิโนเศรษฐกิจ
             รายงานข่าวบนเว็บไซท์บลูมเบิร์กดอทคอมระบุว่า นาย ชาร์ลส์ ทาเทลบัม ทนายความ
คดีล้มละลายที่อดอร์โนแอนด์ยอสส์ในฟลอริด้ากล่าวว่า กรณีการล้มละลายของเลห์แมนบราเธอร์
สนับเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจโลก เนื่องจากบริษัทมีหนี้สินมากกว่า 613
พันล้านดอลลาร์ มากกว่าเวิร์ลคอมที่ล้มละลายในปี 2002 และมากกว่าเดร็กเซลเบิร์นแฮมแล
มเบิร์ทส์ที่ล้มละลายเมื่อปี 1990
            โดยเลห์แมนบราเธอร์สจำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการล้มละลายตามมาตราที่ 11 หรือ
Chapter 11 หลังบราเคลย์สและแบงก์ออฟอเมริกายุติการเจรจาซื้อหุ้นเลห์แมนบราเธอร์ส ขณะ
ที่ราคาหุ้นเลห์แมนบราเธอร์สได้ลดลงแล้ว 94% ในปีนี้
           นอกจากนี้ นาย ทาเทลบัม ยังแสดงความกังวลว่า การล้มละลายของเลห์แมนบราเธอร์
สอาจนำไปสู่โดมิโนทางเศรษฐกิจ
            'มีความเป็นไปได้ทีจะเกิดโดมิโนทางเศรษฐกิจกับบริษัทหรือบุคคลที่เกี่ยวกับทางการ
เงินกับเลห์แมน กล่าวอย่างตรงไปตรงมาคือ การล้มละลายครั้งประวัติศาสตร์นี้เป็นภัยต่อ
เศรษฐกิจสหรัฐฯอย่างยิ่ง' นาย ทาเทลบัม กล่าว



ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย     วันที่   15/09/08   เวลา   15:55:07

[surachaichia]

นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ โรงพยาบาลปิยะเวชและนักลงทุนรายใหญ่ ทั้งในหุ้นและอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยถึงกรณี บริษัท เลห์แมน บราเธอร์ส เข้าสู่กระบวนการล้มละลายทางกฎหมายว่า ยอมรับว่าได้รับการติดต่อให้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่ถือโดยเลห์แมน บราเธอร์ส แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตัดสินใจ โดยเฉพาะการซื้อโรงแรมเมอร์ริเดียนที่ภูเก็ตและสมุย ซึ่งก่อนหน้านี้ทางกลุ่มได้ขายให้กับทางเลห์แมนฯ ในวงเงินกว่า 4,000 ล้านบาท

นพ.บุญ

ตอนนี้ยังไม่สรุปเรื่องราคาขายต้องขึ้นอยู่กับผู้ที่จะยื่นแข่งขันซื้อด้วย แต่หุ้นโรงแรมราคาไม่น่าจะลดลงมากนัก ต่างจากราคาคอนโด มิเนียม ที่ดินเปล่า หรือรีสอร์ตที่อาจต้องเร่งขายทำให้ได้ราคาไม่ดีนัก นพ.บุญ กล่าว

อย่างไรก็ตาม การขายทรัพย์สินของเลห์แมนฯ จะไม่เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่จะขายของทั่วโลกด้วย และการเข้าสู่ขบวนการฟื้นฟูอาจทำให้ไม่ต้องเร่งขายทรัพย์ก็ได้ เพราะกฎหมายคุ้มครองป้องกันไม่ให้เจ้าหนี้เร่งยึดทรัพย์

นายวิชัย ทองแตง ประธานคณะกรรมการ บริษัท ประสิทธิพัฒนา (PYT) เปิดเผยว่า จะกลายเป็นโอกาสของกลุ่มทุนไทยเข้าไปรับซื้อเงินลงทุน หรืออสังหาริมทรัพย์ที่เลห์แมนฯ ได้ลงทุนในประเทศไทย และส่วนใหญ่จะเป็นอสังหาริมทรัพย์ ที่ตั้งในทำเลดีๆ เช่น ภูเก็ตและกรุงเทพฯ

มีข่าวในตลาดมาตลอดว่าทางเลห์แมนฯ เร่ขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งล่าสุดได้ขายโรงแรมเมอร์คิวรี่ในกรุงเทพฯ ได้แล้ว แต่กลุ่มของผมยังไม่สนใจเข้าซื้อตอนนี้

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ (SIRI) กล่าวว่า เมื่อต้นปีได้ขายหุ้นบริษัท สิริภูเก็ต ให้กับเลห์แมนฯ และปัจจุบันบริษัทไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเลห์แมนฯ แต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม มองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นจังหวะเข้าซื้อทรัพย์สินที่ดีของเลห์แมนฯ แต่ต้องรอดูแผนฟื้นฟูกิจการก่อนว่าเป็นอย่างไร เพราะเลห์แมนฯ อาจไม่ขายสินทรัพย์ในไทยซึ่งส่วนใหญ่เป็นของดีๆ ออกก็ได้ แต่เลือกจะขายที่เกาหลีและญี่ปุ่นก่อน

ด้านนายกิตติ ตั้งศรีวงศ์ กรรมการและผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส บริษัท ไรมอนแลนด์ (RAIMON) กล่าวว่า บริษัทจะไม่มี ผลกระทบกับเงินกู้ที่บริษัทกู้มา จากเลห์แมนฯ ใช้ในการลงทุน ซึ่งขณะนี้เหลือวงเงินกู้อยู่ประมาณ 350 ล้านบาท ที่นำมาใช้ซื้อที่ดิน และกว่าจะครบกำหนดชำระคืนก็คือเดือน ก.พ. 2552 ยังมีเวลาที่จะติดต่อสถาบันการเงินในประเทศเพื่อรีไฟแนนซ์ได้

สำหรับบริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND) ซึ่งถือหุ้นกว่า 70% โดย บริษัทในเครือเลห์แมนฯ คาดว่าจะได้รับผลกระทบด้วย

นายพัฒนพงษ์ ตนุมัธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแอสคอน คอนสตรัคชั่น (ASCON) กล่าวว่า เลห์แมนฯ ถือหุ้นบริษัทฯประมาณ 7.5% และยังไม่มีการขายหุ้น ออก ถ้าหากต้องการขายออก ทางผู้ถือหุ้นใหญ่พร้อมรับซื้อหุ้นบริษัทคืน เงินที่เขาลงมาน้อยมาก ไม่ได้กระทบอะไรกับเราและเขาก็ไม่ได้เข้ามาบริหาร นายพัฒนพงษ์ กล่าว

asset ที่ เลย์แมน ถือในเมืองไทยจะเป็นยังไงและ หุ้นไทยที่เลยืแมนถือนี่มีมากไหมครับเนี่ย

[por_jai]

เพิ่งทราบว่าพี่กูรูขอบสนามของเรา
     ออกcommentเรื่องนี้ด้วย

[คลายเครียด]

ได้เวลาที่คนไทยจะเอาคืนบ้างแล้วครับ

เมื่อสิบกว่าปีก่อน  เลห์แมนมากอบโกยสินทรัพย์ที่ลดกระหน่่ำในไทย
แบบซื้ือหนึ่ง  แถมสอง แถมสาม  เอาไปขายทำกำไรมหาศาล

ตอนนี้น่าจะมีใครตั้งกองทุนเฉพาะกิจ
เพื่อไปซื้อสินทรัพย์ที่เลห์แมนจะโดนบังคับขายเลหลังแบบลดกระหน่ำ

เอาให้มันเข้าข่าย

กงเกวี่ยน  กำเกวียน


 :cheers:  :cheers:  :cheers:  :cheers:  :cheers:
 :cheers:  :cheers:  :cheers:  :cheers:  :cheers:
 :cheers:  :cheers:  :cheers:  :cheers:  :cheers:
 :cheers:  :cheers:  :cheers:  :cheers:  :cheers:

[กูรูขอบสนาม]

[quote="por_jai"] เพิ่งทราบว่าพี่กูรูขอบสนามของเรา

[คลายเครียด]

[quote="กูรูขอบสนาม"]
เออ คุณคลายเครียด
ขอหาเรื่องกับภาษาหน่อยครับ
Lehman สามารถสะกดและอ่านเป็นภาษาไทยว่า เล่ห์แมน ได้หรือเปล่า
แค่ชื่อก็บอกอยู่แล้ว เอิ๊ก เอิ๊ก

[น้ำครึ่งแก้ว]

:lol:  :lol:  :lol:  :cheers:  :cheers:  :cheers:

เห็นด้วยครับผม  กับเฮียคลายเครียด
ใครมีเงินเก็บเยอะๆ  ไปขอซื้อแบบต่อราคาถูกๆหน่อยนะครับ
เห็นรูปพนักงานขนของออกจากสำนักงานแล้วก็ไม่รู้จะพูดยังไง
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว  ต่อราคาสักนิดก็ดีนะครับ

ส่วนปัญหาที่เมกาเนี้ย    ถ้าเมกาทำเหมือนที่เคยบอกกับชาวโลก
ตอนเจอวิกฤตต้มยำกุ้ง คือให้ haircut เอาหนี้ออกมาแยกขายให้
ต่างชาติ แบบลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์  เรื่องคงไม่บานปลายถึงปานนี้

แต่ทางรัฐบาลเมกาคงไม่ยอมให้  พวกจีน  ตะวันออกกลาง  
หรือ รัสเซีย  เข้ามาถือหุ้นในธุรกิจเส้นเลือดใหญ่ของตัวเอง  
ด้วยเหตุผลความมั่นคงแน่นอน

สงสัยเรื่องนี้ท้ายสุด   เจ้าของโรงพิมพ์ธนบัตรคงต้องอุ้มให้หมด
ถึงจะจบได้จริงๆ  โอมม.......เพี้ยง

ขอบคุณครับผม

[ปรัชญา]

รอซื้อหุ้นราคาถูกๆ   ในกระดานเมืองไทยก็ได้

เพราะเล่ห์แมน   มีการลงทุนไว้หลายกองทุง

คงขายแบบไม่สนใจพื้นฐาน  เพื่อนำเงินกลับไป

[ปรัชญา]

BBL เผยมีการลงทุนหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันของ"เลห์แมน" อยู่ 3.5 พันลบ.

[noooon010]

 ผมพยายามรวบรวมข่าวที่ได้จาก broker ของผมมาไว้ เผื่อเป็นข้อมูลในการลงทุนนะครับ
ทบทวนให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนนะครับ
โชคดีครับ

ชำแหละหุ้นแบงก์ หลังเลห์แมน บราเดอร์ส พัง

           บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ได้ออกบทวิเคราะห์ระบุว่า ผลกระทบจาก
เลห์แมนต่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์

t       ผลกระทบสำคัญต่อตลาดทุนไทย

         วันที่ 15 ก.ย. 51 เลห์แมน บราเดอร์ส วาณิชธนกิจ รายใหญ่อันดับ 4 ของ
สหรัฐ ยืนยันว่าบริษัทยื่นขอความคุ้มครองทรัพย์สินตามกฎหมายล้มละลาย ผล
กระทบต่อตลาดหุ้นไทยโดยรวมมีแน่นอน ทั้งทางจิตวิทยา และการไหลออกของเงิน
ลงทุนต่างชาติ หลังจากเกิดปัญหาเศรษฐกิจ และสภาพคล่องในอเมริกา นักลงทุน
ต่างชาติทยอยขายหุ้นในเอเชียอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเคลื่อนย้ายเงินทุนดังกล่าวเกิด
ขึ้นนับจากต้นปีที่ผ่าน โดยขณะนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิไปแล้วกว่า 1.2 แสนล้าน
บาทนับจากต้นปี จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาเศรษฐกิจของอเมริกามีผลกระทบอย่าง
มากต่อตลาดเงินทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย

t        ผลกระทบต่อธนาคารพาณิชย์ไทย

      ผลกระทบที่มีต่อระบบการเงินไทยส่วนใหญ่เป็นธุรกรรมที่เกิดในตลาดการเงิน
โดยธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง มีเงินลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศ ณ สิ้นเดือน
ก.ค. ประมาณ 102,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.3% ของสินทรัพย์รวมทั้งหมด ซึ่งนับ
ว่ายังอยู่ในสัดส่วนที่น้อยจึงยังแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับปัญหาการเงินในสหรัฐ ใน
ส่วนของการทำธุรกรรมกับเลห์แมนนั้น ธนาคารพาณิชย์ไทยปล่อยสินเชื่อและเงินลง
ทุนในตราสารที่ออกโดย เลห์แมน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4.3 พันล้านบาท และธุรก
รรมด้านอนุพันธ์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการทำธุรกรรมประเภท cross currency interest
rate swap มูลค่าตามสัญญา 5.3 พันล้านบาท ความเสียหายโดยประมาณเบื้องต้นไม่
เกินร้อยล้านบาท ในช่วงที่ตลาดเงินต่างประเทศประสบปัญหาอยู่ย่อมส่งผลต่อภาวะ
เศรษฐกิจโลกโดยรวมด้วย ซึ่งคาดผลกระทบจะเกิดขึ้นในหลายๆอุตสาหกรรม อาทิ
เช่น ภาคการส่งออก เป็นต้น รวมถึงกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน อันส่งผล
ย้อนกลับมาที่การขยายสินเชื่อที่น่าจะชะลอลงในครึ่งปีหลังนี้

t       ผลกระทบรายธนาคาร

ข้อมูลจากการสอบถามไปยังธนาคารต่างๆ

      BBL : มี exposure ประมาณ 3.5 พันล้านบาท โดยธนาคารอยู่ระหว่างประเมิน
ผลกระทบ แต่หากอยู่ในรูป CDO ก็จะไม่มีผลกระทบเนื่องจากมีการตั้งสำรอง 100%
ไปแล้ว (BBL มีเงินลลงทุนใน CDO ประมาณ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.7 พันล้าน
บาท) แต่อย่างไรก็ตาม เราประเมินความเสียหายที่จะเกิดขึ้นไม่มีผลกระทบที่มีนัย
สำคัญต่อธนาคาร เนื่องจากฐานกำไรและฐานเงินกองทุนที่สูง

         BAY : ผลกระทบจากการลงทุนใน CDO โดย BAY มีเงินลงทุนใน CDO
ประมาณ 85 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2.8 พันล้านบาท มีการตั้งสำรองฯไป
แล้ว 51% ดังนี้จึงยังคงมีความเสี่ยงสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 1.4 พันล้านบาท (ในขณะที่
ประมาณการของเราได้ตั้งสำรองฯไปแล้ว 80% ดังนี้จึงมีความเสี่ยงเพียงแค่ 600 ล้าน
บาท) ดังนี้คาดจะมีการตั้งสำรองฯเพิ่มเติมในไตรมาส 3/51

      KBANK : ธนาคารยืนยันไม่มีธุรกรรมกับทางเลห์แมน ไม่ได้รับผลกระทบ

        KTB : ไม่มีธุรกรรมโดยตรงกับทางเลห์แมน อาจได้รับผลกระทบจากเงินลงทุน
ใน CDO ซึ่ง KTB มีเงินลงทุนใน CDO ประมาณ 160 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ
ประมาณ 5.3 พันล้านบาท มีการตั้งสำรองฯไปแล้ว 80% ดังนี้จึงยังคงมีความเสี่ยงสูง
สุดอยู่ที่ประมาณ 1.1 พันล้านบาท

       SCB : มี exposure ซึ่งธนาคารอยู่ระหว่างการประเมินมูลค่าผลกระทบ

         SCIB : ในเบื้องต้นประเมินว่าไม่ได้รับผลกระทบที่มีนัยสำคัญ

     TMB : ในเบื้องต้นประเมินว่าไม่ได้รับผลกระทบที่มีนัยสำคัญ

     TCAP : ในเบื้องต้นประเมินว่าไม่ได้รับผลกระทบที่มีนัยสำคัญ

         TISCO : มี exposure ในรูปของสินเชื่อที่ปล่อยให้แก่บริษัทลูกของ เลห์แมน
ในประเทศไทย มูลค่าประมาณ 1 พันล้านบาท เพื่อนำไปซื้ออาคารมาปล่อยเช่า โดย
เงินกู้ดังกล่าวมีอาคารเป็นหลักประกันและมีมูลค่าหลักประกันสูงกว่ามูลค่าสินเชื่อ อีก
ทั้งยังเป็นลูกหนี้ที่ดีอยู่ มีการจ่ายดอกเบี้ยปกติ
       BT : เป็นอีกธนาคารที่เราคาดว่าน่าจะมี exposure จากกรณีเลห์แมน ล้ม
ละลาย เนื่องจากเป็นธนาคารหนึ่งที่มีการทำธุรกรรมในตลาดเงินระหว่างประเทศค่อน
ข้างมาก แต่ในขณะนี้เรายังไม่สามารถติดต่อทางธนาคารได้

หลักทรัพย์ที่ Lehman Brothers ถือครองหุ้นทางตรงและทางอ้อมได้แก่

1.       ถือทางตรง Siam Steel International ( SIAM ) สัดส่วน 2% ของทุนชำระแล้วบริษัท จำนวน 13.29 ล้านหุ้น

2.       ถือทางอ้อม Grand Assets Hotel & Property (GRAND) เป็นการถือโดยบริษัทในเครือ Lehman Brothers คือ Giant Mauritius Holdings สัดส่วน 43.23% จำนวน 540.87 ล้านหุ้น

3.       ถือหุ้นผ่านทาง NVDR  (แบบไร้ใบหุ้น) ได้แก่  

-          BT สัดส่วน 17.78% ของ NVDRจำนวน 20.843 ล้านหุ้น

-          CNS สัดส่วน 2% จำนวน 0.147 ล้านหุ้น

-          ASCON สัดส่วน 99.76% จำนวน 22.5 ล้านหุ้น

-          PHATRA สัดส่วน 0.51% จำนวน 0.1929 ล้านหุ้น

-          PTT สัดส่วน 0.98% จำนวน 0.356 ล้านหุ้น


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

จากการสอบถามทางผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ ได้ทราบว่า BBL มี exposure กับ Lehman Brothers อยู่ 3.5 พันล้านบาท (ซึ่งทางธนาคารไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นส่วนของเงินลงทุนหรือการให้สินเชื่อจำนวนเท่าไหร่) ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจต้องมีการตั้งสำรองเพิ่มเพื่อรองรับในส่วนนี้ ซึ่งหากต้องตั้งสำรองทั้งหมดอาจจะส่งผลกระทบต่อกำไรของ BBL ปีนี้ 15% (คาดกำไรปีนี้ 23.3 พันล้านบาท) ส่วนอีกธนาคารหนึ่งที่รอการตอบกลับของทางผู้บริหารอยู่คือ SCB ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมี exposure กับ Lehman อยู่เช่นกันแต่น่าจะน้อยกว่า BBL

กูรู เผยเลห์แมนฯ เตรียมยื่นล้มละลายกระทบแบงก์ในไทยทางอ้อม ส่งผลทำ
ธุรกิจยากขึ้น

           จากกรณี เลห์แมน บราเดอร์ส วาณิชธนกิจสหรัฐ  ประกาศว่าจะยื่นขอล้ม
ละลายเพื่อปกป้องสินทรัพย์และให้มีมูลค่ามากที่สุด เลแมน  บราเดอร์สระบุใน
แถลงการณ์ว่าบอร์ดผู้อำนวยการได้อนุมัติการขอยื่นล้มละลายแล้ว  และจะยื่นต่อศาล
ล้มละลายในนิวยอร์กวันจันทร์     แถลงการณ์ระบุว่าลูกค้าของเลแมน บราเดอร์ส  รวม
ถึงลูกค้าของบริษัทลูกชื่อนูเบอร์เกอร์ เบอร์แมน โฮลดิงส์  อาจสามารถซื้อขายหรือ
ดำเนินการได้ต่อไป
                 บทวิเคราะห์ บล. กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอ
ตัว และปัญหา subprime ยังคงส่งผลกระทบต่อเนื่องในกลุ่มสถาบันการเงินในต่าง
ประเทศ โดยมองว่าไม่ส่งผลกระทบทางตรงอย่างมีนัยสำคัญต่อระบบธนาคารไทย
แต่ทางอ้อมย่อมมีผล ทำให้การทำธุรกิจยากขึ้น และต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น
ต้องอาศัยระบบบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ
          สำหรับประเด็นธนาคารต่างชาติที่เข้ามาร่วมทุนกับธนาคารพาณิชย์ไทย
อย่างกรณี GE และ BAY รวมถึง Scotia  และ TCAP จากการสอบถามกับทาง
ธนาคาร  ยังไม่มีปัญหาที่น่าเป็นห่วง
           แต่อย่างไรก็ตามทางฝ่ายวิเคราะห์ ต้องติดตามผลกระทบดังกล่าวอย่างต่อ
เนื่อง
             ณ เวลา 16.04 น. ราคาหุ้น BAY อยู่ที่ 19.00 บาท ลดลง 0.80 บาท หรือ
4.04% มูลค่าการซื้อขาย 111.10 ล้านบาท และราคาหุ้น TCAP อยู่ที่ 11.20 บาท ลด
ลง 0..20 บาท หรือ 1.75% มูลค่าการซื้อขาย 10.85 ล้านบาท
           
           

ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย     วันที่   15/09/08   เวลา   16:08:19

[noooon010]

ประมาณการการลงทุนของ Lehman Brothers ในด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย
Investment Estimated Value
ASCON Lehman Brothers International (Europe) ถือหุ้น 7.5% 22.5 ล้านหุ้น
GRAND การเข้าถือหุ้นผ่าน Giant Mauritius Holdings ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ
RAIMON 1) Lehman Brothers Bangkok Riverside Development Pte.Ltd. ถือหุ้น 25% 300 ล้านบาท
ใน บริษัท ตากสิน โฮเทล โฮลดิ้ง จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการ The River
2) Lehman Brothers Commercial Corporation Asia Ltd. มี option ในการเข้าถือหุ้น 25% 100 ล้านบาท
ใน บริษัท ไรมอน แลนด์ พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการ 185 ราชดำริ หากมีการชำระ
เงินครบตามเงื่อนไข
PA Lehman Brothers Thailand เช่าที่ดินเปล่า ในเกาะสมุยรวม 3 แปลง จำนวน 138 ไร่ 1,175 ล้านบาท

[surachaichia]

ขอบคุณ คุณnoooon010 สำหรับข้อมูลนะครับ  

[surachaichia]

23 บจ.สถาบันการเงินสหรัฐถือหุ้น

ขณะเดียวกันบทวิเคราะห์ บล.แอสเซทพลัส ระบุว่า ฝ่ายวิจัยได้ตรวจสอบข้อมูลผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใน SET 50 ที่มีการปิดสมุดทะเบียนโอนหุ้นเป็นชื่อสถาบันการเงินขนาดใหญ่ในต่างประเทศ พบว่า มอร์แกน สแตนเลย์ มีการถือครองหุ้นหลายบริษัท ส่วนเมอร์ริล ลินช์ มีการถือหุ้น 5 บริษัท ส่วน เลแมน บราเดอร์ส ไม่พบว่ามีรายชื่อในการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น

แต่จากการติดตามข้อมูลพบว่าเลแมน ส่วนใหญ่จะมีบทบาทในตลาดตราสารหนี้เป็นหลัก โดยรายละเอียดการถือครองหุ้นมีดังนี้

หุ้นที่เมอร์ริล ลินช์ ถือ 5 บริษัทประกอบด้วย หุ้นบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำนวน 60.79 ล้านหุ้นคิดเป็น 0.80% หุ้นธนาคารกสิกรไทย 1.59 ล้านหุ้นคิดเป็น 0.10% หุ้นบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำนวน 113.81 ล้านหุ้นคิดเป็น 3.2% หุ้นบริษัท ปตท.โรงกลั่นและอะโรเมติกส์ จำนวน 19.44 ล้านหุ้นคิดเป็น 0.70% หุ้น ปตท. 0.29 ล้านหุ้นคิดเป็น 0.10%

ขณะที่หุ้นมอร์แกน สแตนเลย์ ถือลงทุนประกอบด้วย หุ้นอมตะ จำนวน 2.35 ล้านหุ้นคิดเป็น 0.22% หุ้นแบงก์กรุงเทพ 3.45 ล้านหุ้นคิดเป็น 0.18% หุ้นแบงก์กรุงศรีอยุธยา 10.811 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.18% หุ้นบ้านปู 0.53 ล้านหุ้นคิดเป็น 0.20% หุ้นบีอีซี จำนวน 9.71 ล้านหุ้นคิดเป็น 0.49% หุ้นซีพีแอลจำนวน 61.84 ล้านหุ้นคิดเป็น 1.38% หุ้นแบงก์กสิกรไทย 3.37 ล้านหุ้นคิดเป็น 0.40% หุ้นธนาคารกรุงไทย จำนวน 4.23 ล้านหุ้นคิดเป็น 0.04% หุ้นแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ 35 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.35%

หุ้นเมเจอร์ 29.62 ล้านหุ้นคิดเป็น 3.36% หุ้น อสมท 5.14 ล้านหุ้นคิดเป็น 0.75% หุ้นหุ้นบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำนวน 22.22 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.62% หุ้นพรีเชียส 4.50 ล้านหุ้นคิดเป็น 0.43% หุ้น ปตท.สผ 31.17 ล้านหุ้นคิดเป็น 0.09% หุ้น ปตท. 2.44 ล้านหุ้นคิดเป็น 0.09% หุ้นปูนใหญ่ (SCC) 0.86 ล้านหุ้นคิดเป็น 0.87% หุ้นแบงก์ไทยพาณิชย์ 5.16 ล้านหุ้นคิดเป็น 0.27% หุ้นแม็คโคร (MAKRO) 1.08 ล้านหุ้นคิดเป็น 0.45% หุ้นการบินไทย (THAI) 3.86 ล้านหุ้นคิดเป็น 0.23% หุ้นโทรีเซนไทย (TTA) 4.64 ล้านหุ้นคิดเป็น 0.72% และหุ้นแอดวานซ์ 3.69 ล้านหุ้นคิดเป็น 0.12% นางสาวอาภาภร แสวงพรรค รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามว่าปัญหาวิกฤติซับไพร์มจะบานปลายไปยังสถาบันการเงินอื่นๆ หรือไม่ เช่น เอไอจี, โกลด์แมนแซคส์, มอร์แกน สแตนเลย์ รวมถึงต้องดูว่าธนาคารกลางสหรัฐจะดำเนินการแก้ไขปัญหาวิธีใด ถ้าปัญหาดังกล่าวจบที่เลแมน บราเดอร์ส ก็ไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรที่รุนแรงกับตลาดหุ้นไทย แต่ถ้าลามไปที่อื่นๆ เชื่อว่าจะมีผลกระทบที่รุนแรง

เก็บมาเพิ่ม

[ปรัชญา]

[ ฉบับที่ 931 ประจำวันที่ 17-9-2008  ถึง 19-9-2008 ]


12 กองทุนโลกถอดใจถอนทุนทิ้งตลาดหุ้น

เลห์แมนฯ เฉือนธุรกิจเสริมสภาพคล่อง

เวทีเศรษฐกิจโลก กำลังเผชิญมรสุมรุนแรงระลอกใหม่ เมื่อกองทุน ขนาดใหญ่ยักษ์ระดับโลกนับสิบกองทุน รวมมูลค่ากว่า 4.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นประมาณ 24 เท่าของมูลค่ารวมเศรษฐกิจไทย ต่างพากัน ถอดใจ ลดการลงทุนมหาศาลในห้วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

ข้อมูลการสำรวจวิจัยความคิดเห็นผู้บริหารกองทุนของธนาคารฮ่องกง เซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น (เอชเอส-บีซี) งวดล่าสุดชี้ชัดว่าผู้บริหารกองทุนระดับโลก จำนวน 12 กองทุน รวมมูลค่า กว่า 4.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ มี แนวโน้มที่จะลดการลงทุนในตลาดหุ้นลงอย่างมาก ในช่วงไตรมาสที่ 3 ซึ่งจะ สิ้นสุดลงในสิ้นเดือนกันยายนนี้

คณะผู้บริหารกองทุนระดับโลกทั้ง 12 กองทุน ซึ่งประกอบไปด้วย เอชเอส-บีซี, อัลลายแอนซ์เบิร์นสไตน์, อัลลายซ์เอสอี, แบริ่งแอสเส็ทแมเนจเมนท์, ดอยซ์แบงก์, ฟิเดลิตี้อินเวสเมนท์แอนด์ แมเนจเมนท์, แฟรงคลินรีซอร์ซ, อิน-เวสโก, อินเวสเทคแอสเส็ทแมเนจเมนท์, เจพีมอร์แกนเชสเจเอฟแอสเส็ทแมเนจเมนท์, ชโรเดอร์ส และโซซิเอเต้เยนเนอราล มีความเห็นสอดคล้องกันเป็นส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 44 ว่าในระยะไตรมาส ที่ 3 นี้ จะลดการลงทุนในตลาดหุ้นให้น้อยลง ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ขยายตัวสูงขึ้น อย่างมหาศาลถึงร้อยละ 34 เมื่อเทียบ กับไตรมาสที่ 2 ขณะที่มีเพียงร้อยละ 22 เท่านั้นที่ยังยืนยันจะทุ่มเทเพิ่มเงินลงทุน ในตลาดหุ้นมากขึ้น และร้อยละ 34 ไม่เพิ่มไม่ลดการลงทุนในตลาดหุ้น

ในทางกลับกัน ผลการศึกษาวิจัย ของเอชเอสบีซี พบว่า ผู้บริหารกองทุน ขนาดใหญ่เหล่านั้นส่วนใหญ่ร้อยละ 44 บอกว่าจะเพิ่มการลงทุนในพันธบัตรให้มากขึ้น เทียบกับในช่วงไตรมาสที่ 2 ซึ่งมีอยู่เพียงร้อยละ 20 เท่านั้น

โดยที่ผู้บริหารกองทุนร้อยละ 38 บอกว่าจะเพิ่มการถือครองเงินสดให้มากขึ้น เพื่อความ อุ่นใจ เทียบกับช่วงไตรมาสที่ 2 ซึ่งมีอยู่เพียงร้อย ละ 30

เหตุผลสำคัญที่สุดที่ผู้บริหาร กองทุนหันเหทิศทางการลงทุนออกจาก ตลาดหุ้น เป็นเพราะว่าแนวโน้มผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้น ได้ ไม่คุ้มเสีย โอกาสเจ๊ง มีมากกว่าโอกาสรวย

รูปธรรมชัดเจนที่ยืนยันความเสื่อมของธุรกิจบริหารจัดการ การลงทุน ได้อย่างชัดเจน คือปฏิกิริยาล่าสุดของ บริษัทเลห์แมนบราเธอร์ส ที่เคยทรงอิทธิพลยิ่งใหญ่ และเคยเข้ามาสวมบท อีแร้งอำมหิต จิกทึ้งผลประโยชน์บนคราบน้ำตาของคนไทย ในยามที่ประเทศไทยเผชิญวิกฤตการณ์เศรษฐกิจ เมื่อปี 2540 ซึ่งบัดนี้กำลังต้องชดใช้กรรมที่ก่อไว้อย่างสาสม

ฐานะความมั่งคั่งมั่นคงของเลห์แมนบราเธอร์ส เวลานี้กำลังระส่ำระสายอย่างหนัก ถึงขั้นต้องถือคติ ยอมเสียแขนขารักษาชีวิต ด้วยการ ตัดใจโละขายกลุ่มธุรกิจบริหารจัดการการลงทุนแบบยกเข่ง เพื่อ แปลงสินทรัพย์ เป็นเงินสด นำไปหล่อเลี้ยงสภาพคล่องทางการเงินที่กำลังเหือดแห้งอย่างรุนแรง แต่ยังอุตส่าห์ไว้เชิง โก่งราคาขายสูงลิ่วถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ต้นสายปลายเหตุที่ทำให้เลห์แมนบราเธอร์ส ต้องรับเคราะห์กรรม อดอยากปากแห้ง เป็นเพราะประสบกับปัญหาขาดทุนมหาศาลหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งจากการลงทุน และจากการปล่อยกู้แล้วโดนเบี้ยวหนี้

บาปกรรมที่ทำกับเมืองไทย ไม่เพียงทำให้เลห์แมนบราเธอร์ส เจ๊งวินาศ สันตะโร ถึงขนาดต้องเฉือนทิ้งธุรกิจ ที่เคยทำกำไรเป็นกอบเป็นกำออกไปเท่านั้น แต่ยังจะต้อง ลอกคราบ ครั้งใหญ่

บรรดาผู้บริหาร คนใหญ่คนโตทั้งหลายที่เคยสมคบกันก่อกรรมทำเข็ญทุบราคาซื้อทรัพย์สินในประเทศไทย เมื่อ 10 ปีที่แล้ว กำลังต้องชดใช้ กรรม กลายเป็น เทวดาตกเก้าอี้ กันระนาว

[CEO]

ถ้ารายย่อยเจ๊งหุ้นปั่นก็เจ้ามือได้ไป แล้วถามผู้รู้หน่อยครับว่าเลห์แมนเจ๊งแบบนี้ ใครได้ประโยชน์ไปมากสุดครับ แล้วเงินพวกนั้นตอนนี้กำลังจะไปไหน

[ply33]

"หมื่นล้าน" นี่คือมูลค่าพอร์ตทรัพย์สินอสังหาฯ ที่อยู่ในมือ "เลแมน บราเดอร์ส" ที่อาจจะถึงขั้น "เปลี่ยนมือ" เพื่อความอยู่รอด

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : "เลแมน บราเดอร์ส"  วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐที่เดินมาถึงจุดต่ำสุด เมื่อประกาศล้มละลายกิจการ เป็นข่าวสะเทือนเศรษฐกิจไปทั่วโลก  ในไทยก็เช่นกัน แม้จะเป็นผลกระทบโดยอ้อม  แต่การล้มของยักษ์ใหญ่ด้านการเงินระดับท้อปไฟว์ของอเมริกา ผู้ซึ่งเข้ามาลงทุนอสังหาจำนวนมากในไทย รวมทั้งเข้าถือหุ้นในกิจการอสังหาฯ และก่อสร้างหลายบริษัท ย่อมทำให้หลายคนกังวลถึงผลที่จะตามมา

แหล่งข่าวจาก บริษัท แคปปิตอล แอดไวเซอรี่ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการที่ปรึกษาแนะนำธุรกิจและบริหารทรัพย์สิน "พร็อพเพอร์ตี้ ช้อยส์" ในเครือเลแมน บราเดอร์ส (ไทยแลนด์) กล่าวว่าขณะนี้ บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติ  แต่อนาคตก็ไม่ทราบว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร

จับตา..ขายทิ้งอสังหาฯไทย

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวเผยว่า เลแมนฯยังมีทรัพย์ชิ้นใหญ่ประเภทอาคารสำนักงาน โรงแรม ที่ซื้อไปเมื่อช่วงปี 2549-2550 รวมมูลค่าไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท เช่น ซื้ออาคารอิตัลไทย ถ.เพชรบุรี จากบมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์, อาคารเมอร์เคียวรี่ ตรงข้ามเซ็นทรัล ชิดลม, อาคารเมืองไทยภัทร ถ.รัชดาภิเษก อาคารแปซิฟิควัน และ แปซิฟิคทู ถ.สุขุมวิท

นอกจากนี้ยังมีโรงแรม รีสอร์ท และที่ดินเปล่าในเมืองท่องเที่ยว เช่น ซื้อที่ดินเปล่าในเกาะสมุย 2 แปลง จำนวน 131ไร่ และเช่าที่ดินเนื้อ 7 ไร่ ในเกาะสมุย ราคารวม 1,175 ล้านบาท จากบริษัท แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PA  โดยกลุ่มเลแมนฯต้องการขายให้กับผู้สนใจ แต่ในบางโครงการเป็นสัญญาเช่า เช่น อาคาร อาคารเมอร์เคียวรี่, อาคาร แปซิฟิค วัน, แปซิฟิค ทู ที่ดินที่ใช้สร้างอาคารเป็นที่ดินเช่า เหลือสิทธิเช่าอีกไม่กี่ปี ทำให้ขายได้ยาก นอกจากนี้ เลแมนฯยังต้องการขายทิ้ง หุ้นที่ถืออยู่ในบริษัท แกรนด์ แอสเสท จำกัด (มหาชน) ผ่าน Giant Mauritius Holdings ด้วย

ลุ้นกลุ่มทุนอื่นเทคโอเวอร์

นายปฏิมา จีระแพทย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่กล้าฟันธงว่าจะเป็นอย่างไร แต่ตามหลักการแล้ว ต้องดูว่าแผนฟื้นฟูกิจการเลแมนฯ จะออกมาในลักษณะไหน  เจ้าหนี้ที่ถือหลักประกันอยู่ คงต้องแสดงตนในฐานะเจ้าหนี้ ส่วนการจำหน่ายสินทรัพย์ มีความเป็นไปได้ ทั้งตัดขายเป็นรายชิ้นหรือขายยกพอร์ต แต่ไม่ว่าจะเป็นลักษณะใดก็ตาม ถือเป็นโอกาสดีของนักลงทุนที่มีความพร้อมด้านการเงินจะเข้าไปซื้อทรัพย์สินนั้นๆ  และเมื่อทรัพย์สินถูกเปลี่ยนมือไปสู่กลุ่มใหม่ก็ไม่น่ามีปัญหา

สำหรับธุรกิจในไทยที่เลแมนฯเข้ามาลงทุน นายปฏิมา ระบุว่าคงได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม ขณะที่โครงการที่อยู่อาศัยซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง อาจส่งผลกระทบต่อผู้ซื้อรายย่อย ต้องหันไปพึ่งสคบ.ในการเรียกร้องสิทธิ์ หากการก่อสร้างล่าช้า

เรื่องนี้ถือเป็นวัฎจักรธุรกิจข้ามชาติ และเชื่อว่าจะมีภาพแบบนี้ออกมาให้เห็นอีกเรื่อยๆ นายปฏิมา กล่าว

กลุ่มร่วมหุ้นผวาทุนขาดช่วง

ด้านนายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ต้องรอดูแผนฟื้นฟูกิจการเลแมนฯว่า จะเป็นอย่างไร แต่สำหรับผลกระทบต่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ไทย คงแยกเป็น 2 กรณี คือ กรณีที่โครงการนั้นได้เงินสนับสนุนมาแล้วจะไม่กระทบ แต่สำหรับโครงการที่ทำสัญญาลงทุนแล้ว แต่เงินยังไม่เข้าคงกระทบแน่ ทั้งผู้ซื้อและการก่อสร้างที่อาจไม่เสร็จตามกำหนด ซึ่งเท่าที่ทราบ มีหลายโครงการทั้งในกรุงเทพและเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ เช่น พัทยา

ทั้งนี้ หากย้อนรอยดูจาก  โครงการที่ดำเนินการภายใต้บริษัท แกรนด์ แอสเสทฯ ที่ยังไม่ได้ส่งมอบ ณ 31 ธันวาคม 2550 ประกอบด้วย 1.โครงการหัวหิน บลู ลากูน รีสอร์ท มูลค่ายังไม่ส่งมอบ 383 ล้านบาท ความคืบหน้าโครงการ 99% 2.โครงการเดอะ เทรนดี้ คอนโดมิเนียม มูลค่าโครงการที่ยังไม่ส่งมอบ 2,288 ล้านบาท ความคืบหน้าโครงการ 72%

3.โครงการเดอะ รีเจ้นท์ เรสซิเดนซ์ มูลค่าโครงการที่ยังไม่ส่งมอบ 3,900 ล้านบาท ความคืบหน้าโครงการ 21%  และ 4.โครงการเดอะ เซลส์ คอนโดมิเนียม พัทยา มูลค่าโครงการที่ยังไม่ส่งมอบ 1,500 ล้านบาท ความคืบหน้าโครงการ 7%

[ply33]

LEHMAN ล้มตอนนี้ที่น่ากลัวกว่าคือที่ซ่อนอยู่ในสัญญาทางการเงินต่างๆที่ทำไว้กับสถาบันการเงินอื่นๆนะครับ กลัวว่าจะล้มเป็น Domino น่ะสิ ถ้าเกิดขนาดนั้น Impact มากกว่านี้แน่ครับ

CDO, CDS ต่างๆที่ทำต่อๆกันไป เบื้องต้น Blommberg บอกว่ามีมากกว่า 150 Bn USD แน่ะ

omg omg omg ...