Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

มีอะไรบ้างครับ ที่เป็นสัญญาณบอกว่าจะมีการเพิ่มทุนของบริษัทในเร็วๆ นี้

Sunrise  ครับ
เข้ามาป่วน

[quote="Oatarm"]Sunrise

ปกติบริษัทจะเพิ่มทุนเมื่อไม่สามารถกู้เงินเพิ่มได้ ปกติผมจะดูว่า D/E สูงแค่ไหน, TIE ต่ำเกินไปหรือเปล่า เทียบกับปริมาณเงินที่บริษัทต้องการใช้ในการลงทุนทั้งในสินทรัพย์ถาวรและ workging capital

บางบริษัทไม่มีหนี้เลยแต่ Working Capital/Sale สูงมาก ก็เพิ่มทุนให้นักลงทุนหัวทิ่มบ่อกันมาแล้ว ดังนั้นการเพิ่มทุนนี่มองเห็นได้ยากอ่ะครับ

TIE คือไรเหรอครับ

เพิ่มทุนหรือแจกวอแลน
ดูจาก PE ว่าสูงหรือเปล่า เพราะต้นทุนเงินทุนของบริษัทต่ำที่สุด
(หากไม่รีบร้อนอะไร)

แต่ถ้ารีบร้อนก็เพิ่มทุนแจกวอ ตอนไหนก็เหมือนกัน

ฮิฮิ

SunShine@Night เขียน:TIE คือไรเหรอครับ

Time Interest Earn = EBIT/Interest Expense
ที่ผมเคยมองๆเห็นเพิ่มทุนช่วงค่านี้ 3-4 เท่า สำหรับหุ้นที่ไม่ใช่ cylicle นะครับ cylicle กำไรผันผวนคงดูค่านี้ไม่ได้ ดูใจผู้บริหารกันเอาเองละกันครับ :lol:
Sunrise Effect ผมว่าหลังๆชักจะไม่ขลังนะ ไว้ PTL เพิ่มทุนค่อยมายำเกรงกันอีกที :lovl:

นอกจากสัญญาณการเพิ่มทุนแล้ว ผมคิดว่าอีกเรื่องที่ควรสนใจคือการเพิ่มทุนนั้น เป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับผู้ถือหุ้นหรือไม่ด้วยครับ เช่น ถ้าการเพิ่มทุนเอาไปขยายงานในส่วนที่บริษัททำกำไรได้ดี แล้วก็มีคูเมืองป้องกันคู่แข่ง อันนี้ผมคิดว่าเป็นการเพิ่มทุนที่ดี ส่วนการเพิ่มทุนที่ไม่ดีก็มีเยอะครับ ตั้งแต่ไปขยายงานที่ไม่ดี จนถึงหาทางสูบเงินผู้ถือหุ้นรายเล็กๆ

เห็น topic นี้โต๊กกะใจ

alastor อธิบายไวชัดเจนแล้วครับ สำหรับการเพิ่มทุน
ส่วนผมมันเป็นอดีตไปแล้ว ไม่ต้องกลัว  :lol:

เพิ่มทุนเพื่อขยายสาขาเนี้ย ถือว่าดีไหมครับ

ไม่ต้องดูอะไร  พี่เทพ  แจกอีสป  ทรูก็แจก

หรือเป็นวัฒนธรรมองค์กร

Alastor เขียน: Time Interest Earn = EBIT/Interest Expense

ถ้าเป็นการวิเคราะห์อย่างง่ายๆ  สูตรนี้ก็โอเคครับ

แต่ถ้าให้ดีเปลี่ยนเป็น   Net CashFlow from Operation + Interest / Interest  น่าจะดีกว่านะครับ

เพราะ EBIT สำหรับบางบริษัทแตกต่างจากกระแสเงินสดมากทีเดียวครับ

พี่ฉัตรชัยครับ
D/E เท่าไหร่ต้องระวัง
net cashflow from op.+interest / interest เท่าไหร่ต้องระวังครับ

Alastor wrote:
SunShine@Night wrote:
TIE คือไรเหรอครับ  

Time Interest Earn = EBIT/Interest Expense


ถ้าเป็นการวิเคราะห์อย่างง่ายๆ  สูตรนี้ก็โอเคครับ

แต่ถ้าให้ดีเปลี่ยนเป็น   Net CashFlow from Operation + Interest / Interest  น่าจะดีกว่านะครับ

เพราะ EBIT สำหรับบางบริษัทแตกต่างจากกระแสเงินสดมากทีเดียวครับ

พี่ฉัตรชัย ครับ Interest ที่ใช้ ในงบกระแสเงินสด หรือ ในงบกำไรขาดทุนละครับ

เพราะใน net cash flow from operation ผมเห็นมีการรวมรายการดอกเบี้ยด้วย เลยไม่แน่ใจครับ

ชอบคุณมากครับ

yuttana3152 เขียน:พี่ฉัตรชัยครับ
D/E เท่าไหร่ต้องระวัง
net cashflow from op.+interest / interest เท่าไหร่ต้องระวังครับ

D/E ปรกติน่าจะไม่เกิน 3 เท่านะครับ  แต่ถ้าให้ดีก็ดูแนวโน้มว่าลดลงหรือเปล่า  บริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเพียงพอที่จะชำระหนี้หรือไม่  ใช้เวลานานกี่ปีถึงจะหมด

ส่วนสูตรอัตราดอกเบี้ย  ถ้าใกล้เคียง 1 เท่าเท่าไรก็ยิ่งน่ากลัว

niyom_value เขียน:พี่ฉัตรชัย ครับ Interest ที่ใช้ ในงบกระแสเงินสด หรือ ในงบกำไรขาดทุนละครับ

เพราะใน net cash flow from operation ผมเห็นมีการรวมรายการดอกเบี้ยด้วย เลยไม่แน่ใจครับ

ชอบคุณมากครับ

ผมว่าดอกเบี้ยในงบกำไรขาดทุน  หรือ  งบกระแสเงินสด  ไม่น่าจะแตกต่างกันมากนักนะครับ  ถ้าพิจารณางวดบัญชีเป็นปี  เพราะส่วนใหญ่ดอกเบี้ยก็จะจ่ายจริงทุกสิ้นเดือนอยู่แล้ว

Net Cash Flow from Operation ยุคใหม่มีการรวมดอกเบี้ยจ่ายกลับมา  ก็ใช้นำมาหารดอกเบี้ยจ่ายได้เลยครับ

chatchai เขียน:

ผมว่าดอกเบี้ยในงบกำไรขาดทุน

แวะมาขำด้วยคนนะครับพี่ atsu  :D

ชอบคุณพี่ฉัตรชัยด้วยคนครับ  :shock:

แฮะๆๆ
โทษทีครับ ที่เผอิญ เผยความในใจออกไป โดยไม่ได้ตั้งใจครับ  

ไม่เป็นไร  คนชอบดีกว่าคนเกลียด  หรือเป็นเพราะช่วงหลังไว้หนวดเลยเริ่มมีแรงดึงดูด  :roll:

ง่า พวกพี่ๆ Thaivi พอไม่มี vi สาวๆ ชอบกันเองซะแล้ว  :lol:

chatchai เขียน:ไม่เป็นไร  คนชอบดีกว่าคนเกลียด  หรือเป็นเพราะช่วงหลังไว้หนวดเลยเริ่มมีแรงดึงดูด  :roll:

ไม่รู้ว่าเพราะหนวดหรือเปล่า แต่ตาสดใสเป็นประกายมากครับ  :lol:

กำ

กลายเป็นกระทู้สีม่วงซะแล้ว

SunShine@Night เขียน:กำ

กลายเป็นกระทู้สีม่วงซะแล้ว

สีม่วงถึงไม่ดีเท่าสีเขียว แต่ก็ดีกว่าสีแดงนะครับ  :lol:

เริ่มต้นจากการติดตามข่าวของบริษัท ว่าจะมีการลงทุนอะไรหรือไม่

ถ้ามีก็ต้องดูว่าจะลงทุนทำอะไร ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจะตกกับใครเท่าไหร่ ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจะตกอยู่กับใครเท่าไหร่

จากนั้นก็ถึงตอนยากครับ ต้องเดาดูว่าเงินลงทุนก้อนนี้ บริษัทจะหามาจากไหน สัดส่วนเท่าไหร่ ถ้าจะใช้เงินจากการระดมทุนในตลาด (เพิ่มทุนหรือออกวอร์แรนท์) ทำไมต้องทำ เช่นลองมองดูว่าทำไมไม่กู้  (วิธีการทางการเงิน ลองอ่านได้จากความเห็นของเซียนด้านบนครับ)

นอกจากนี้อาจจะต้องดูประวัติผู้บริหารของบริษัทว่าที่ผ่านมาการลงทุนผู้บริหารชุดนี้ นิยมระดมทุนด้วยวิธีไหน


ท้ายสุดถ้ายังไม่ชัวร์ก็ต้องใช้ sunrise indicator ครับ :lol:  :lol:  :lol:

chatchai เขียน:

D/E ปรกติน่าจะไม่เกิน 3 เท่านะครับ

ยกตัวอย่าง HMPRO ที่ขยายสาขาปีละ 3-4 สาขา จะดูยังไงครับว่าบริษัทมีความเสี่ยงที่จะเพิ่มทุนหรือยัง

tachikoma เขียน:

สีม่วงถึงไม่ดีเท่าสีเขียว แต่ก็ดีกว่าสีแดงนะครับ

อ่า.....
แล้วถ้าเอา....เอ้ย...ม่ายช่ายยยย    
แล้วถ้าเป็น  สีกา  ได้ป่าวครับ  อิอิอิ