หน้า 1 จากทั้งหมด 1

การเล่นมาร์จิ้น vs การกู้มาเล่น

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 18, 2008 2:05 am
โดย Juninho
ถ้าดอกเบี้ย บัญชีมาร์จิ้น 6 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี
กับการกู้มาเล่นดอกเบี้ย 10 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
อย่างไหนมีความน่าสนใจกว่ากันครับ ถ้าเป็นพี่ จะเลือกแบบไหน
มีปัจจัยอะไรบ้างที่ควรคำนึงถึง

(ถ้าพี่คนใดคิดว่า เล่นมาร์จิ้นดีกว่า เนื่องจากดอกเบี้ยน้อยกว่าการกู้เงิน
อยากถามต่อว่า แล้วดอกเบี้ยแค่ไหน พี่ถึงคิดว่าเป็นการกู้มาลงทุนที่น่าสนใจ)

ปล. ดอกเบี้ยมาร์จิ้น ประมาณ 6 เปอร์เซ็นต์หรือเปล่า ผมไม่แน่ใจ  :oops:

ขอบคุณครับ

การเล่นมาร์จิ้น vs การกู้มาเล่น

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 18, 2008 8:26 am
โดย beammy
ติดตาม post ของคุณ frog บ่อยๆ  :8)

เพิ่งเริ่มลงทุนไม่นาน จะเล่น Margin แล้วหรอครับ

ผมลงทุนปีนี้ครบปีที่ 5 ยังไม่เคยคิดใช้ Margin เลยครับ
มีทั้ง Maintenance Margin มีทั้ง Force Sell  :lol:

แต่หากจะใช้ Margin จริงๆ

คุณ frog เป็นข้าราชการ ลองพิจารณาสินเชื่อเพื่อข้าราชการ ของธนาคารกรุงไทยดูสิครับ ดอกเบี้ยน้อยมาก เข้าใจว่าไม่เกิน 5%  :8)  ...

การเล่นมาร์จิ้น vs การกู้มาเล่น

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 18, 2008 8:29 am
โดย ปรัชญา
มาร์จิ้น ใช้หุ้นค้ำประกัน  หุ้นบางตัวโบรกก็ไม่รับ
หุ้นที่ใช้ค้ำประกันก็ลง  อาจถูกจับขาย  ช่วงขณะหุ้นลง
มาร์จิ้นจึงจะมีผลดี  เมื่อหุ้นทะยานขึ้น  เพิ่มกำลังซื้อ

กู้เงิน  ค้ำว่ากู้เงิน  เป็นเงินโอดี  หรือกู้อย่างไร
ถึงอธิบายถูก

การเล่นมาร์จิ้น vs การกู้มาเล่น

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 18, 2008 8:54 am
โดย CK
สิ่งที่ต้องระวัง

1. ต้นทุนการเงิน คือดอกเบี้ย คุ้มผลตอบแทนระยะสั้นหรือไม่

2. ระยะเวลาในการกู้เงิน (มาร์จิ้นมีโดน call ถ้ากู้จะโดนเรียกคืนไหม)

3. แนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ถ้ารัฐขึ้นดอกเบี้ยพรวดพราด
   ผลที่เกิดขึ้นคือต้นทุนสูงขึ้นในขณะที่หุ้นจะราคาร่วงลง

4. ความมั่นคงของบริษัทที่ลงทุนไป

5. จิตใจที่หนักแน่น และวินัยการลงทุนที่เยี่ยมยอด

6. เวลาในการติดตามข้อมูลและทำงาน

การเล่นมาร์จิ้น vs การกู้มาเล่น

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 18, 2008 2:39 pm
โดย Juninho
การกู้มาเล่นของผมคือ ยืมเพื่อน ๆ ญาติ ๆ นะครับ แต่ก็ต้องให้ดอกเบี้ยเขาบ้าง
ก็มีข้อสงสัยว่า ควรให้ดอกเบี้ยเขาเท่าไรจึงเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ
จะยืมเป็นรายปี นะครับ พี่ CK พอครบปีต้องคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย
ดอกเบี้ยในใจผมคิดว่า 10 เปอร์เซ็นต์

งั้นขอถามคำถามใหม่ว่า ถ้าเป็นพี่ มีคนเอาเงินมาให้พี่กู้ ดอกเบี้ย
10 เปอร์เซ็นต์ต่อปี โดยจะต้องคืนต้นเงินพร้อมดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนด 1 ปี
เป็นพี่พี่สนใจไหม หรือ ปฏิเสธ

ปล.ขอบคุณบีมมี่ สำหรับคำเตือน ผมก็กลัว Maintenance Margin กับForce Sell   เหมือนกัน ก็คิดว่า จะเลือกยืมเงินมาเล่นนะครับ
คุณ บีม เริ่มเล่นหุ้นเร็วดีนะครับ เล่นมา 5 ปี น่าจะประมาณปี 2
โอโห ช่วงนั้นเรียนหนักนะครับคุณบีม ทั้งหนี้ ละเมิด อาญา ฯลฯ  :bow:
ไม่ชวนเลย  :D  อยากลงทุนเร็ว ๆ อย่างนี้บ้าง เสียดายเวลา

การเล่นมาร์จิ้น vs การกู้มาเล่น

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 18, 2008 4:58 pm
โดย CK
frog2 เขียน:จะยืมเป็นรายปี นะครับ พี่ CK พอครบปีต้องคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย
ดอกเบี้ยในใจผมคิดว่า 10 เปอร์เซ็นต์

งั้นขอถามคำถามใหม่ว่า ถ้าเป็นพี่ มีคนเอาเงินมาให้พี่กู้ ดอกเบี้ย
10 เปอร์เซ็นต์ต่อปี โดยจะต้องคืนต้นเงินพร้อมดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนดระยะเวลา 1 ปี โดยระยะเวลาชำระหนี้ดังกล่าวอาจผ่อนผันได้เล็กน้อย
เป็นพี่พี่สนใจไหม หรือ ปฏิเสธ
10% ไม่คุ้มความเสี่ยงครับ

ถ้าในตลาดสภาพปัจจุบัน ผมจะยอมกู้ถ้าดอกเบี้ยต่ำกว่า 6% เท่านั้นครับ
สำหรับกรอบระยะเวลา 3 ปีขึ้นไป อันนี้ความเสี่ยงต่ำมาก

สูตรคิดง่ายๆ ลองประเมินจากความสามารถตัวเองครับ ว่าทำ IRR ได้เท่าไหร่
ในสภาพที่ conservative ที่สุด คือตลาดเหงาๆ เศรษฐกิจไปแบบเอื่อยๆ

ถ้าได้ซัก 12% ชัวร์ๆ กู้ 6% ก็แทบจะ risk free ครับ มีกำไรพอตู๊ความเสี่ยงได้

ลองคุยแบบนี้ครับ กู้ 3 ปี แต่จ่ายดอกบี้ย 1.5% ต่อไตรมาส
จ่ายให้ทุกไตรมาส อันนี้น่าจะพอจัดการได้ครับ

การเล่นมาร์จิ้น vs การกู้มาเล่น

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 18, 2008 6:20 pm
โดย fantasia
[quote="frog2"]

ปล.ขอบคุณบีมมี่ สำหรับคำเตือน ผมก็กลัว Maintenance Margin กับForce Sell

การเล่นมาร์จิ้น vs การกู้มาเล่น

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 18, 2008 8:19 pm
โดย MindTrick
เห็นด้วยกับท่าน fantasia ครับ แต่เจ๊งแล้วไปยืมเค้ามาเล่น ก็กดดันอีกนั่นล่ะครับ หนักกว่าเดิมด้วย


เวลา ใช้เงิน"เกินตัว" มาใส่ตลาดหุ้น ..มันกดดันมากขึ้นเยอะนะครับ ไม่ว่าจะเล่น margin, กู้ , รูดบัตรมาก่อน, เล่นnet, เล่น futures

ถ้าอยากทดสอบตัวเอง เอาง่ายๆ ไปลองเทรดฟิวเจอร์ดูครับ ค่าเรียนห้าหมื่นกว่าบาท(คือ เทรด1สัญญา แล้วยอมเสียไม่เกิน 50,000 จะเทรดกี่ครั้งก็เถอะ)

**แล้วจะค้นพบตัวเองได้ดีขึ้นครับ**

การเล่นมาร์จิ้น vs การกู้มาเล่น

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 18, 2008 10:05 pm
โดย Juninho
ขอบคุณทุกท่านครับ
การตั้งกระทู้ของผมเป็นการหาข้อมูลเฉย ๆ ครับ
ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรทั้งนั้น
เมื่อเราไม่รู้เราก็ต้องถาม เพื่อให้รู้ข้อดี ข้อเสียของสิ่งต่าง ๆ
จากผู้มีประสบการณ์มากขึ้น
สรุป คำตอบที่ได้สำหรับผม
ถ้าจะกู้จริง ๆ  กู้ได้แต่ดอกเบี้ยที่คุ้มความเสี่ยงไม่ควรเกิน 6 เปอร์เซ็นต์
ในกรอบระยะเวลา 3 ปี

ปล. ถามหน่อยครับ ตั้ง Debt/Asset ในใจไว้ที่เท่าไรเหรือครับ ถึงได้กลัวโดน force sell ขนาดยอมเสียดอกเบี้ยมากกว่าตั้ง 4% เนี่ย
ไม่มีอะไรหรอกครับ ให้ดอกน้อยเดี๋ยวโดนเพื่อนเตะเอาครับ  :D  :D

การเล่นมาร์จิ้น vs การกู้มาเล่น

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 18, 2008 11:02 pm
โดย Belffet
พี่ๆว่า Buffett เคยใช้มาร์จิ้น หรือกู้เงินมาซื้อหุ้นในกิจการที่เขาสนใจบ้างไหมครับ

นอกเรื่องไปหน่อยแต่ผมว่าคำตอบคือ ใช่ ครับ

ผมว่านะ...

การเล่นมาร์จิ้น vs การกู้มาเล่น

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 19, 2008 12:06 am
โดย โอ@
Belffet เขียน:พี่ๆว่า Buffett เคยใช้มาร์จิ้น หรือกู้เงินมาซื้อหุ้นในกิจการที่เขาสนใจบ้างไหมครับ

นอกเรื่องไปหน่อยแต่ผมว่าคำตอบคือ ใช่ ครับ

ผมว่านะ...
จำได้ว่ามีคนเคยถาม Buffett ว่าทำไมไม่กู้คุณจะรวยเร็วขึ้นอีกเยอะเลย
เขาบอกว่า "ถ้าผมรู้ว่าผมจะตายที่ไหน ผมจะไม่ไปที่นั่น"
ประมาณว่าถึงโอกาสพังจะมีน้อย แต่ถ้าเกิดมันก็พังทันทีเลย

การเล่นมาร์จิ้น vs การกู้มาเล่น

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 19, 2008 1:42 am
โดย mambo
Belffet เขียน:พี่ๆว่า Buffett เคยใช้มาร์จิ้น หรือกู้เงินมาซื้อหุ้นในกิจการที่เขาสนใจบ้างไหมครับ

นอกเรื่องไปหน่อยแต่ผมว่าคำตอบคือ ใช่ ครับ

ผมว่านะ...
เท่าที่ทราบนะครับ Buffett เน้นการใช้ Leverage จากเงินสด เป็นจุดเริ่มต้นในการลงทุน ทีนี้การใช้ leverage ไมได้แปลว่ากู้เสมอไปนะครับ แต่เป็นการเอาเงินที่จอดไว้นิ่งๆ (ในบริษัทประกัน) มาทำให้งอกเงยอย่างรวดเร็วและปราศจากความเสี่ยง

หลังจากได้ leverage มากพอ เขาก็เข้าซื้อกิจการที่มีปัญหาระยะสั้น แต่ระยะยาวมีศักยภาพ แล้วเข้าไปนั่งในบอร์ด ล้วงข้อมูลเชิงลึก และผลักดันธุรกิจให้ได้ผลกำไรมากที่สุด นี่คือเคล็ดลับความสำเร็จของ Buffett ที่แม้คนอื่นอยากลอก ก็ลอกไม่ได้

เพราะ Buffett เป็นทั้งนักธุรกิจที่เก่งกาจ และเป็นนักลงทุนที่ชาญฉลาดในเวลาเดียวกัน ผมไม่เคยเห็นใครที่ทำสองอย่างได้ดีเลิศพร้อมๆ กันเลย อาจจะมีอีกคนคือ Bill Gates นี่คงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Buffett ประสบความสำเร็จมากกว่านักลงทุนทั่วไป

การเล่นมาร์จิ้น vs การกู้มาเล่น

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 19, 2008 8:58 am
โดย phobenius
เสียดายสุขภาพมากกว่าครับ ซึ่งอาจเป็นผลจากความเครียด ทำให้แก่เร็ว ถึงแม้จะลงทุนแบบหุ้นคุณค่า ก็บางทีมันก็ต้องผ่านร้อนผ่านหนาวเหมือนกัน เฮอะๆ

การเล่นมาร์จิ้น vs การกู้มาเล่น

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 19, 2008 4:14 pm
โดย Belffet
แล้วก่อนหน้าที่จะซื้อ บริษัทประกันล่ะครับ

พี่ๆคิดว่าคุณปู่เขาเอาเงินมาจากไหน?

การเล่นมาร์จิ้น vs การกู้มาเล่น

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 19, 2008 4:18 pm
โดย beammy
Belffet เขียน:แล้วก่อนหน้าที่จะซื้อ บริษัทประกันล่ะครับ

พี่ๆคิดว่าคุณปู่เขาเอาเงินมาจากไหน?
เข้าใจว่าเขาไม่ได้กู้ และไม่ได้ใช้มาร์จิ้น ครับ

เป็นการรวบรวมเงินจากญาติพี่น้องและคนที่นับถือเชื่อใจ ลงเป็นห้างหุ้นส่วน แล้วนำเงินไปลงทุน ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 30% 15 ปีติดต่อกัน

ผิดถูกอย่างไรชี้แนะด้วยครับ  :8)   ...

การเล่นมาร์จิ้น vs การกู้มาเล่น

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 19, 2008 4:42 pm
โดย Belffet
จากนั้นเขาก็ขายหุ้นทั้งหมดคืนผู้ร่วมลงทุนเมื่อเห็นว่าตลาดขึ้นไปสูงเกินไปอย่างไม่มีเหตุผล

เหตุการณ์นี้เกิดก่อนการเข้าซื้อ berkshire และการซื้อบริษัทประกันด้วย berkshire

ตรงนั้นเขาเอาเงินมาจากไหน?

การเล่นมาร์จิ้น vs การกู้มาเล่น

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 19, 2008 5:03 pm
โดย CK
Belffet เขียน:ตรงนั้นเขาเอาเงินมาจากไหน?
คุย bel ลองไปถาม buffett ดูเองสิครับ

ผมไม่รู้ครับ และไม่สนใจด้วย และผมว่ามันไม่เห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ครับ
บัฟเฟตต์ทำได้ไม่ได้แปลว่าทุกคนทำได้หรือควรทำครับ

การเล่นมาร์จิ้น vs การกู้มาเล่น

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 19, 2008 5:37 pm
โดย tanapol
margin หรือการกู้มาเล่นก็ตาม สำหรับตัวเองแล้วไม่ว่าจะอยู่ในตลาดอีกหลายสิบปี ก็คงยังไม่คิดเล่นครับ เพราะ...

1.โอกาสเจ๊งมีนะครับ แม้ว่าจะซื้อหุ้น พีอีต่ำเตี้ยก็ตาม จำได้(มีคนบอก)ว่าตอนฟองสบู่นี่ หุ้นพีอี สองสามเท่าเกลื่อนตลาด ส่วนหุ้นในพอร์ตผมนี่ อย่างเก่งพีอีก็หกเจ็ดเท่า... ถ้ากลับมาสองสามเท่าอีก คงต้องโดนบังคับขายแน่ๆครับ

2.ถ้าเล่น margin ผมคงต้องดูหุ้นทุกวันแน่(หุ้นขึ้น หรือนิ่งอาจไม่ดู) ลองตกมากๆ ไม่ดูจะไหวหรอครับ...ผมว่ามันทุกข์มากเลยนะ กับการต้องมานั่งเฝ้าหุ้นตลาดหุ้น... ผมให้ราคากับความสุขตัวเองมากกว่า...

3.ถ้าสมมติเล่นได้ ผมว่ามันจะเป็นการเพาะนิสัยเสีย...เพราะเราอาจย่ามใจเกิดไปเล่นช่วงหุ้นกระทิง...แล้วมันหมีขึ้นมา กลับตัวไม่ทันแน่ครับ...
ตอนฟองสบู่เนี่ย มีหลายคนต้องฆ่าตัวตายเพราะเจ๊งหุ้น ซึ่งก็เกิดจากการกู้มาเล่นทั้งนั้นนะครับ

4.leverage มันเจ๊งมาเยอะแล้วครับ ดู subprime สิ ก็ leverage ทั้งนั้น...ดังนั้นอย่าไปเสี่ยงเลยครับ

5.ผมว่ารวยช้าๆสบายใจกว่า เอาเวลาไปหาเงิน มาลงทุนน่าจะดีกว่าใช้เวลาเลือกว่า วันนี้เราต้องทำไงดี หุ้นตก จะขายตัวไหนดี เฮ้อ....กลุ้มเปล่าๆครับ

การเล่นมาร์จิ้น vs การกู้มาเล่น

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 19, 2008 9:22 pm
โดย Belffet
ขออภัยครับ

การเล่นมาร์จิ้น vs การกู้มาเล่น

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 19, 2008 9:41 pm
โดย romee
Belffet เขียน:จากนั้นเขาก็ขายหุ้นทั้งหมดคืนผู้ร่วมลงทุนเมื่อเห็นว่าตลาดขึ้นไปสูงเกินไปอย่างไม่มีเหตุผล

เหตุการณ์นี้เกิดก่อนการเข้าซื้อ berkshire และการซื้อบริษัทประกันด้วย berkshire

ตรงนั้นเขาเอาเงินมาจากไหน?
อาจจะเป็นเงินใน บ.ของแกก็ได้ เพราะถ้ามีเงินเหลือคืนขนาดคืนให้ผู้ร่วมลงทุน ก็คงเหลือเฟือจริงๆนั้นละ

แต่เรื่องการเล่นมาจิ้น คิดว่าปู่บัฟแก"คงไม่ใช้นะครับ"

ส่วน จขกท. ถ้าใจไม่นิ่งจริง หรือไม่มั่นใจจริงๆ...อย่าพึ่งใช้เลยครับ ข้อเสีย หรือผลข้างเคียงมันเยอะ่อ่ะ

การเล่นมาร์จิ้น vs การกู้มาเล่น

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 21, 2008 9:31 pm
โดย frontosa
แบบสองเสี่ยงน้อยกว่าครับ แต่ถ้าต้องกู้ดอกสิบเปอร์เซ็นต์ ไม่รู้ว่าจะเหลือกำไรเท่าไหร่สิครับ โอกาสมันไม่แน่ไม่นอน

แต่มันจะมีคนให้เรากู้รึเปล่าล่ะครับ ถ้ามีขอด้วยซิ ให้ดอกซัก 7 % ละกัน  :lol:

การเล่นมาร์จิ้น vs การกู้มาเล่น

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 23, 2008 1:25 am
โดย MO101
ความเสี่ยงต่างกัน
คือ กู้มา จ่ายเงินมากแต่ไม่โดนบังคับขาย

จะลงทุนควรเป็นเงินเย็นๆ ความเสี่ยงจะลดลง
แนวทาง VI ผมว่าควรตั้งหน้าตั้งตาลดความเสี่ยงจะดีที่สุด