>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 2

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ผมสงสัยมานานแล้วว่าเจ้าความเห็นของโบรกทั้งหลายจาก SAA Consensus ของ Settrade นั้นใช้การได้มากน้อยแค่ไหน เป็นกับดักมหาภัยสำหรับนักลงทุนมือใหม่ผู้บริสุทธิ์ต่อโลกหรือเปล่า จึงได้เก็บข้อมูลตามที่ปรากฏบนเว็บจาก SAAฯ เอาไว้ ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2550 มาจนถึงวันนี้ซึ่งเป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2551 (ตอนโพสวันที่ 2 แล้ว :lol:) ก็ครบรอบ 1 ปี พอดีเด๊ะ การศึกษาครั้งนี้จึงได้ผลลัพธ์ออกมาให้เห็น

ข้อมูลทั้งหมดมาจาก 23 โบรกเกอร์ รวม 1,816 ความเห็น ครอบคลุม 230 หลักทรัพย์จดทะเบียน

ในเว็บ Settrade เขาบอกไว้อย่างนี้ว่า
สมาคมขอสงวนลิขสิทธิ์ในข้อมูลและความเห็น SAA Consensus ที่ปรากฎข้างต้นนี้ ห้ามมิให้ผู้ใดนำข้อมูลและความเห็นดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ คัดลอก ดัดแปลง ทำซ้ำ นำออกแสดงหรือเผยแพร่ต่อสาธารณชนไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากสมาคมล่วงหน้า
ฉะนั้น ผมก็จะถือว่าเป็นการนำมาเล่าสู่กันฟังเฉยๆ ในรูปของข้อสนเทศที่สรุปแล้วจากข้อมูลที่ปรากฏในปัจจุบันเทียบกับความเห็นที่ปรากฏในอดีต จัดเป็นข้อสนเทศใหม่ มิใช่การคัดลอก ดัดแปลง ทำซ้ำฯ แต่ประการใด แต่แม้อย่างนั้น สำหรับข้อมูลที่เป็นรายชื่อหลักทรัพย์ ตลอดจนรายชื่อบริษัทหลักทรัพย์ ผมจะปิดเอาไว้ทั้งหมดเพื่อไม่ให้เป็นปัญหา เดี๋ยวเว็บ TVI จะโดนเล่นงานเอา

วัตถุประสงค์
วัดความแม่นในคำทำนายของโบรกเกอร์ ว่าสามารถเทียบชั้นกับหมอลัก หมอนิด หมอฯลฯ ได้รึไม่ 8)

ผลการศึกษา
นำมาแสดงในรูปอัตราผลตอบแทนคิดเป็นเปอร์เซนต์รวมของพอร์ตการลงทุนที่ประกอบด้วยหลักทรัพย์จดทะเบียนตามแต่ละความเห็นของแต่ละบริษัทหลักทรัพย์ แต่ละหลักทรัพย์ถ่วงน้ำหนักในพอร์ตเท่ากัน โดยแยกเป็นความเห็นหลักๆ เพียง 3 ความเห็นเท่านั้น คือ "ซื้อ" "ขาย" และ "ถือ"
ราคาฐานคือราคาปิดของแต่ละหลักทรัพย์ ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2550
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 2

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 2

โพสต์

Broke ที่ 1 รวม 141 ความเห็น
       ความเห็น   ผลตอบแทน(%)
ซื้อ        71             17.28%
ขาย       34             20.21%
ถือ        35             10.82%

Broke ที่ 2 รวม 125 ความเห็น
       ความเห็น   ผลตอบแทน(%)
ซื้อ        31             25.02%
ขาย       20             20.92%
ถือ        13             20.39%

Broke ที่ 3 รวม 123 ความเห็น
       ความเห็น   ผลตอบแทน(%)
ซื้อ        66             22.24%
ขาย       25             4.48%
ถือ        19             9.19%

Broke ที่ 4 รวม 123 ความเห็น
       ความเห็น   ผลตอบแทน(%)
ซื้อ        53             20.70%
ขาย       7             16.52%
ถือ        18             15.23%

Broke ที่ 5 รวม 110 ความเห็น
       ความเห็น   ผลตอบแทน(%)
ซื้อ        39             18.40%
ขาย       12             20.45%
ถือ        11              13.45%

Broke ที่ 6 รวม 104 ความเห็น
       ความเห็น   ผลตอบแทน(%)
ซื้อ        62             21.62%
ขาย       13             16.91%
ถือ        29             12.96%

Broke ที่ 7 รวม 100 ความเห็น
       ความเห็น   ผลตอบแทน(%)
ซื้อ        55             19.92%
ขาย       22             -1.09%
ถือ        23             23.87%

Broke ที่ 8 รวม 99 ความเห็น
       ความเห็น   ผลตอบแทน(%)
ซื้อ        53             25.23%
ขาย       4             26.64%
ถือ        11             5.97%

Broke ที่ 9 รวม 93 ความเห็น
       ความเห็น   ผลตอบแทน(%)
ซื้อ        52             11.39%
ขาย       5             -18.71%
ถือ        36             17.91%

Broke ที่ 10 รวม 80 ความเห็น
       ความเห็น   ผลตอบแทน(%)
ซื้อ        26             8.73%
ขาย        3             0.79%
ถือ          0              -

Broke ที่ 11 รวม 79 ความเห็น
       ความเห็น   ผลตอบแทน(%)
ซื้อ        56             11.82%
ขาย       11             14.41%
ถือ         6             30.15%

Broke ที่ 12 รวม 78 ความเห็น
       ความเห็น   ผลตอบแทน(%)
ซื้อ        38             17.31%
ขาย       11             14.86%
ถือ         16             11.97%
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 2

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 3

โพสต์

Broke ที่ 13 รวม 73 ความเห็น
       ความเห็น   ผลตอบแทน(%)
ซื้อ        37             15.58%
ขาย        7             14.33%
ถือ        10             -3.01%

Broke ที่ 14 รวม 73 ความเห็น
       ความเห็น   ผลตอบแทน(%)
ซื้อ        31             10.97%
ขาย       21             19.78%
ถือ        21             36.21%

Broke ที่ 15 รวม 71 ความเห็น
       ความเห็น   ผลตอบแทน(%)
ซื้อ        16             9.96%
ขาย        4             -17.40%
ถือ         6             28.11%

Broke ที่ 16 รวม 66 ความเห็น
       ความเห็น   ผลตอบแทน(%)
ซื้อ        26             8.20%
ขาย        3             16.33%
ถือ          3             -31.52%

Broke ที่ 17 รวม 57 ความเห็น
       ความเห็น   ผลตอบแทน(%)
ซื้อ        11             38.93%
ขาย        4             5.25%
ถือ        11             28.92%

Broke ที่ 18 รวม 53 ความเห็น
       ความเห็น   ผลตอบแทน(%)
ซื้อ        28             16.85%
ขาย       11             38.28%
ถือ         0             -

Broke ที่ 19 รวม 50 ความเห็น
       ความเห็น   ผลตอบแทน(%)
ซื้อ        25             22.04%
ขาย        3             13.95%
ถือ        22             16.57%

Broke ที่ 20 รวม 43 ความเห็น
       ความเห็น   ผลตอบแทน(%)
ซื้อ        3             12.57%
ขาย       0             -
ถือ        3              39.40%

Broke ที่ 21 รวม 31 ความเห็น
       ความเห็น   ผลตอบแทน(%)
ซื้อ         3             26.66%
ขาย        3             17.40%
ถือ          0             -

Broke ที่ 22 รวม 30 ความเห็น
       ความเห็น   ผลตอบแทน(%)
ซื้อ        23             23.90%
ขาย        0             -
ถือ          0             -

Broke ที่ 23 รวม 14 ความเห็น
       ความเห็น   ผลตอบแทน(%)
ซื้อ         8             26.76%
ขาย        0             -
ถือ         2             -1.64%

ความเห็นที่หายไปส่วนใหญ่จะเป็นชนิดที่ไร้ Recommend หรือไม่ก็ซื้อเก็งกำไร ซื้อเมื่ออ่อนตัว อะไรทำนองนั้น จัดเป็นความเห็นแบบมีเงื่อนไขผมจึงตัดออก
ที่ผมใช้คำว่า ความเห็น ก็เพราะผมเห็นว่ามันเป็นความคิดเห็นของพวกเขาจริงๆ ไม่อยากเรียกว่า วิเคราะห์ เพราะอาจทำให้ไขว้เขวจนมองหุ้นต่างๆ ดีเกินความเป็นจริงได้

การศึกษาเท่าที่ยกมานี่ราคาเป้าหมายที่เค้าระบุไม่เกี่ยวนะครับ :mrgreen:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 2

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 4

โพสต์

รูปภาพ

SET 657.00 -->810.86  +23.42%

เกณฑ์การตัดเกรด 8)

สอบผ่าน :P
+15%-> Market _____ O [Outstanding]
+5-15% Market _____ E [Exceeds Expectations]
+0-5% Market _____ A [Acceptable]

สอบตก :la:
-0-5% Market _____ P [Poor]
-5-15% Market _____ D [Dreadful]
-15%-> Market _____ T [Troll]

ตัดเกรดจากอัตราผลตอบแทนของพอร์ตแนะ "ซื้อ" ในแต่ละบริษัทหลักทรัพย์ได้ดังนี้

เกรด O   1 โบรก (No.17)
เกรด E   -
เกรด A   5 โบรก (No.23, 21, 8, 2, 22)

เกรด P   5 โบรก (No.3, 19, 6, 4, 7)
เกรด D   11 โบรก (No.5, 12, 1, 18, 13, 20, 11, 9, 14, 15, 10)
เกรด T   1 โบรก (No.16)

สรุปว่า สอบ O.W.L. (Ordinary Wise-broker Level) ไม่ผ่านถึง 17 จาก 23 บริษัทหลักทรัพย์ คือสอบตกถึง 74% :lol:
กล่าวอีกแง่หนึ่งก็คือ 3 ใน 4 ของบริษัทหลักทรัพย์ที่ส่งบทวิเคราะห์ไปที่ SAAฯ มีอัตราผลตอบแทนของพอร์ตที่ลงทุนตามคำแนะนำ "ซื้อ" แพ้ตลาด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 2

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 5

โพสต์

วิจารณ์และสรุปผล

เมื่อพิจารณาถึงรายละเอียดของโบรกทั้ง 6 ผู้ที่มีพอร์ตแนะ "ซื้อ" ชนะตลาดนั้น

โบรกที่ 21 และโบรกที่ 23 อาจไม่ใช่ผู้ชนะที่แท้จริง เพราะอัตราผลตอบแทนก็ไม่ได้ชนะตลาดมากนัก และที่สำคัญก็คือให้คำแนะนำมาน้อยตัวอย่างเกินไป
  - โบรกที่ 21 แนะซื้อ 3 แนะขาย 3 และพอร์ตแนะขายยังบวกตั้ง 17.40% แพ้ตลาดเพียง 6%
  - โบรกที่ 23 แนะซื้อมาแค่ 8

โบรกที่ 2 แม้จะให้อัตราผลตอบแทนชนะตลาด แต่พอร์ตแนะขาย แนะถือ ก็ได้อัตราผลตอบแทนสูงเช่นกันคือเกิน 20% ทั้งคู่ นี่สมควรเป็นเรื่องน่าประหลาดใจสำหรับเขา :lol:

โบรกที่ 8 มีพอร์ตแนะขายชนะแนะซื้อ แต่เนื่องจากมีคำแนะขายเพียง 4 แต่แนะซื้อถึง 53 หลักทรัพย์ จึงนับเป็นผู้ชนะและสามารถรักษาหน้าเอาไว้ได้

โบรกที่ 22 ค่อนข้างมีความมุ่งเน้น เห็นได้ว่าเขาไม่แนะนำขายหรือถือเลย เพียงแนะซื้ออย่างเดียวถึง 23 หลักทรัพย์ และก็สามารถสร้างอัตราผลตอบแทนได้ถึง 23.90% ย่อมเป็นผู้ชนะเช่นกัน

และสุดท้ายคือโบรกที่ 17 ซึ่งนับว่าโดดเด่นที่สุดจากทุกโบรก เขาส่งบทวิเคราะห์มาไม่มากนัก และก็ไม่แนะพร่ำเพรื่อ พอร์ตแนะซื้อของเขาชนะตลาดอย่างเด็ดขาด พอร์ตแนะขายก็แพ้ตลาดอย่างเด็ดขาด แม้แต่การแนะถือของเขาก็ยังชนะตลาด :lol:

ฉะนั้น อาจกล่าวได้ว่ามีผู้ชนะอยู่ 4 โบรก คือ โบรก 17, 8, 2 และ 22

อย่างไรก็ตาม ผู้ชนะในวันนี้ ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นผู้ชนะต่อไปในอนาคต
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 2

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 6

โพสต์

สิ่งที่พิจารณาต่อไปก็คือ คำแนะนำต่างๆ ทั้ง "ซื้อ" "ขาย" หรือ "ถือ" นั้น มันควรจะสะท้อนภาพที่ชัดเจนตามคำแนะนำของโบรกทั้งหลายอย่างที่มันควรจะเป็นหรือไม่

เมื่อใช้คำว่า "ซื้อ" นั่นย่อมหมายความว่าหลักทรัพย์นั้นถูกวิเคราะห์มาแล้วว่ามูลค่าตลาด ณ ขณะนั้นต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงตามที่พวกเขาคำนวณได้ ราคาเป้าหมายที่เขาระบุมาก็สามารถเทียบได้ว่าอัตราผลตอบแทนที่ควรจะเป็นในกรอบ 12 เดือน อย่างที่เขาระบุนั้นสามารถให้อัตราผลตอบแทนแก่นักลงทุนได้น่าพอใจเพียงใด

เมื่อใช้คำว่า "ขาย" ย่อมหมายความว่าหลักทรัพย์นั้นมีมูลค่าที่แท้จริงต่ำกว่าราคาตลาด พื้นฐานของบริษัทอาจกำลังปรับตัวแย่ลง นักลงทุนที่ยังไม่มีหุ้นอยู่ก็ไม่ควรซื้อ หากมีหุ้นเหล่านี้อยู่อาจต้องพิจารณาขายออกไปเพื่อไม่ให้ประสบกับภาวะขาดทุน

เมื่อใช้คำว่า "ถือ" ย่อมหมายความว่าหลักทรัพย์นั้นมีมูลค่าที่แท้จริงใกล้กับราคาตลาด นักลงทุนไม่จำเป็นต้องรีบร้อนซื้อหรือขาย หรือไม่ก็ควรรอให้ปัจจัยอันอาจเป็นบวกหรือลบที่จะส่งผลต่อบริษัทแห่งนั้นส่งผลออกมาให้ชัดเจนก่อนจะตัดสินใจอย่างอื่นใดออกไป

โดยความคาดหวัง นักลงทุนย่อมคาดหวังการปฏิบัติตามคำแนะนำ "ซื้อ" ว่าจะให้อัตราผลตอบแทนที่ดี ซึ่งแน่นอนว่ามันควรจะชนะตลาด ไม่เช่นนั้นนักลงทุนจะมาแบกรับความเสี่ยงในการลงทุนด้วยการเลือกซื้อหุ้นเองเป็นรายหลักทรัพย์ทำไม ไปซื้อหน่วยกองทุนรวมหุ้น หรือซื้อ TDEX จะไม่ดีกว่าหรือ แต่แม้อย่างนั้น เนื่องจากโบรกทั้งหลายจะเน้นวิเคราะห์เพียงบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ มีมูลค่าการซื้อขายมาก มีน้ำหนักถ่วงดัชนีตลาดมาก นักลงทุนจึงไม่อาจคาดหวังอัตราผลตอบแทนที่วิเศษเลิศลอยไปเกินกว่าดัชนีตลาดได้มากนัก อัตราผลตอบแทนที่ได้รับจึงอาจใกล้ๆ กับดัชนี อาจน้อยกว่าดัชนีได้บ้างแต่จะดีที่สุดถ้ามันชนะดัชนี

สำหรับการปฏิบัติตามคำแนะนำ "ขาย" นักลงทุนย่อมคาดหวังว่าเมื่อขายหลักทรัพย์เหล่านั้นออกไปแล้วราคาตลาดของพวกมันจะลดลง หรืออย่างน้อยถ้ามันไม่ลดลงก็ควรจะแพ้ตลาดอย่างมีนัยสำคัญ

ส่วนการปฏิบัติตามคำแนะนำ "ถือ" นักลงทุนย่อมคาดหวังว่าอัตราผลตอบแทนที่ได้รับอาจจะไม่โดดเด่นนัก เพราะหากมูลค่าที่แท้จริงของหลักทรัพย์นั้นพอๆ กับราคาตลาด ราคาในอนาคตของหลักทรัพย์นั้นคงจะไม่วิ่งไปไกลเท่าไหร่ หรือไม่หลักทรัพย์เหล่านี้ก็ควรอยู่ในสภาพลอยตามน้ำ ดัชนีขึ้นก็ขึ้นตามดัชนีลงก็ลงตาม ราคาอาจแกว่งไปแกว่งมาแต่ไม่ทำให้นักลงทุนขาดทุนหรือกำไรมากนัก อย่างมากที่สุดที่คาดหวังได้คือมันจะตามน้ำไปกับดัชนีและยังได้กำไรจากเงินปันผล

ฉะนั้น พอร์ตแนะ "ซื้อ" ควรให้อัตราผลตอบแทนสูงสุด พอร์ตแนะ "ถือ" ควรให้อัตราผลตอบแทนรองลงมา ส่วนพอร์ตแนะ "ขาย" ต้องให้อัตราผลตอบแทนต่ำสุด

ผลการศึกษาที่ได้ ให้ผลไปในแนวทางที่คาดหวัง คือ

พอร์ตแนะ "ซื้อ" ให้ผลตอบแทน 18.79% ถ่วงน้ำหนักด้วยจำนวนคำแนะนำให้ผลตอบแทน 18.23%
พอร์ตแนะ "ถือ" ให้ผลตอบแทน 15.00% ถ่วงน้ำหนักด้วยจำนวนคำแนะนำให้ผลตอบแทน 16.44%
พอร์ตแนะ "ขาย" ให้ผลตอบแทน 12.22% ถ่วงน้ำหนักด้วยจำนวนคำแนะนำให้ผลตอบแทน 14.09%

SET 657.00 -->810.86  +23.42%
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 2

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ที่น่าสนใจก็คือ ในภาพรวม ความเห็นของบริษัทหลักทรัพย์ทั้งหมดนั้นล้วนแพ้ตลาด แม้อัตราผลตอบแทนจากพอร์ตแต่ละกลุ่มจะต่างกันอย่างมีนัยสำคัญแต่มันก็ไม่ใช่ตัวเลขที่มากนัก พอร์ตแนะถือหรือแนะขายของบางโบรกยังให้ผลตอบแทนชนะตลาดอีกด้วย งามหน้าที่สุดก็คือโบรกที่ 18 เพราะแนะขายมา 11 หลักทรัพย์ แต่พอร์ตกลุ่มนี้กลับมีอัตราผลตอบแทนสูงถึง 38.28%

เมื่อพิจารณาในรายละเอียด มีอยู่ 18 โบรกที่ส่งคำแนะนำครบทั้ง 3 แบบ อัตราผลตอบแทนที่ควรจะเป็นคือ ซื้อ>ถือ>ขาย นั้น ปรากฏว่ามีเพียง 3 โบรกเท่านั้นที่ผ่านเกณฑ์ ได้แก่ โบรกที่ 3, 17 และ 19 ซึ่งอัตราผลตอบแทนโบรกที่ 17 นั้นกล่าวไปแล้วในฐานะที่เป็นผู้ชนะ ส่วนโบรกที่ 3 และ19 ให้อัตราผลตอบแทนของพอร์ตแนะซื้อมากกว่า 22% ทั้งคู่ ซึ่งแพ้ตลาดไม่มากจัดอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ไม่เสียหาย ทั้ง 3 โบรกนี้ ล้วนส่งบทวิเคราะห์และคำแนะนำมาในจำนวนที่มีนัยสำคัญพอที่จะกล่าวถึง

(โบรกทั้ง 3 แห่งนี้ สมควรได้รับคำสดุดี อย่างน้อยๆ ก็จากผมล่ะ เพราะผมดูในรายละเอียดแล้วเห็นว่าเขาไม่ค่อยมั่ว เห็นชื่อบริษัทของเขาแล้วก็ต้องยอมรับนับถือพวกเขาจริงๆ :lol: แต่เนื่องจากผมไม่คิดว่าการเปิดเผยรายชื่อของพวกเขาในที่สาธารณะเป็นการกระทำอันสมควร เพื่อป้องกันปัญหาผมขอที่จะไม่กล่าวถึงชื่อของพวกเขา และเช่นเดียวกัน กลุ่มโบรกที่เป็นผู้แพ้ตั้งแต่ระดับเล็กน้อยจนถึงขั้นอเนจอนาถนั้นผมก็จะไม่เอ่ยชื่อพวกเขาเช่นกัน)

เมื่อพิจารณาจากโบรกทั้งหมด มีอยู่ 20 โบรกที่ส่งคำแนะนำขาย จากทั้ง 20 โบรกนี้ มีอยู่ 7 โบรก ได้แก่ โบรกที่ 1, 5, 8, 11, 14, 16 และ 18 มีพอร์ตแนะขายชนะพอร์ตแนะซื้อ
(ให้ 1 ตัว จากใจ :rofl: )

หากพิจารณาจาก 22 โบรกที่ส่งคำแนะนำอย่างน้อย 2 อย่าง จะได้อีก 4 โบรก ที่พอร์ตแนะซื้อไม่ได้เป็นผู้ชนะ ได้แก่ โบรกที่ 7, 9, 15 และ 20
ส่วนที่เหลือนั้น แม้พอร์ตแนะซื้อจะเป็นผู้ชนะ แต่มันไม่ได้ชนะตลาด

ผมไม่ต้องการจะประณามเขาหรอก แต่โบรกที่ 10, 15 และ 16 นั้น เขาจะต้องมีปัญหาอะไรสักอย่างแน่ๆ :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 2

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ที่น่าสนใจต่อมาคือลักษณะการกระจายความเสี่ยง จากคำแนะนำทั้ง 1,331 คำแนะนำนั้นจำแนกได้เป็น
ซื้อ 813
ขาย 223
ถือ 295
เพราะฉะนั้น คำแนะซื้อจึงมีการกระจายความเสี่ยงมากที่สุด และนั่นก็อาจเป็นการกระจายความเสียหายไปในตัวหากโบรกแต่ละแห่งไม่ใช้ความสามารถของตนให้มากพอ จากรูป ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานนั้นผมนำมาแสดงเป็นรายโบรก จะเห็นว่ากลุ่มซื้อนั้นอัตราผลตอบแทนสูงสุดและความผันผวนน้อยสุด กลุ่มขายมีอัตราผลตอบแทนต่ำสุดและความผันผวนตรงกลาง และกลุ่มถือมีอัตราผลตอบแทนตรงกลางแต่ความผันผวนมากที่สุด

ในกลุ่มขายและถือนั้นนับว่าเป็นกลุ่มที่โบรกทั้งหลายมีลักษณะเสียงแตก แต่ละโบรกจะเชียร์ต่างๆ กัน ผลที่ออกมาจึงค่อนข้างชี้ไปคนละทิศละทาง ย่อมเป็นธรรมดาที่กลุ่มขายนั้นอาจมีบางโบรกไปจับเอาหุ้นที่มีแนวโน้มจะถูกเก็งกำไรด้วยปัจจัยแวดล้อมต่างๆ มาแนะขาย การกระทำเช่นนี้อาจนำมาซึ่งความอัปยศอดสูแก่เขาหากภายหลังมันกลับพุ่งขึ้นไปมากๆ ด้วยเหตุที่เราก็รู้ว่าอะไร

ดังนั้น โบรกที่ฉลาด ผ่านโลกมามาก ย่อมไม่ทำตัวอ่อนเชิงด้วยการหยิบหุ้นเล็กๆ เหล่านั้นมาแนะขาย อันที่จริงพวกเขาจะวางเฉยไม่ไปใส่ใจกับความผันผวนเล็กน้อยที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดมาในประวัติศาสตร์ตลาดหลักทรัพย์ หากลูกค้าถามก็อาจบอกเพียงว่าเขาไม่ได้ตามหุ้นนั้น หรือบางทีก็อาจเพียงแนะให้เก็งกำไรเป็นครั้งคราว

อย่างไรก็ตาม โบรกต่างๆ ที่ชอบให้คำแนะนำพร่ำเพรื่อนั้นมีแนวโน้มจะหน้าแหกมากกว่าการรู้จักสงบปากสงบคำแล้วให้คำแนะนำแต่ที่พวกเขาแน่ใจจริงๆ

คำแนะนำ "ถือ" นั้นเป็นอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจเพราะมันอาจเป็นที่ซุกซ่อนของอะไรหลายๆ อย่าง นอกจากการสะท้อนให้เห็นว่ามูลค่าที่แท้จริงใกล้กับราคาตลาดแล้ว มันอาจมาจากการที่พวกโบรกเกิดเกรงใจไม่กล้าเชียร์ขายออกนอกหน้าจึงบิดตะกูดให้ถือแทน ไม่อย่างนั้นก็อาจเพราะว่าพวกเขาด้อยภูมิรู้เกี่ยวกับกิจการของบริษัทจดทะเบียนแห่งนั้นจนไม่อาจคาดการณ์อนาคตอันแม่นยำออกมา เมื่อไม่อาจฟันธงไปด้านใดด้านหนึ่งทั้งซื้อหรือขายเขาจึงแนะถือแล้วก็ปล่อยให้ราคาหุ้นล่องลอยไปตามกระแสตลาด

โบรกแต่ละแห่งอาจมีมุมมองในการแนะถือไม่เหมือนกันก็ได้ และความอึมครึมของมันอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มันมีความผันผวนสูงที่สุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 2

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 9

โพสต์

โดยทั่วไป โบรกเกอร์ต่างๆ จะออกบทวิเคราะห์เฉพาะกับบริษัทที่มีขนาดใหญ่ มูลค่าการซื้อขายมากเพราะนั่นเป็นช่องทางรายได้ของเขาซึ่งนักลงทุนปกติก็ทราบและพร้อมที่จะไม่ว่าอะไร กลุ่มบริษัทที่มีขนาดใหญ่ก็กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มธนาคารและพลังงานเป็นผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แกว่งตัวขึ้นลงได้รุนแรงตามการแกว่งตัวของราคาหลักทรัพย์ในกลุ่มเหล่านี้ บริษัทยิบย่อยขนาดเล็กนั้นแทบไม่มีผลกับดัชนีตลาด

ผมนำเสนอการศึกษานี้โดยคิดเป็นอัตราผลตอบแทนของพอร์ตรวม แต่ละหลักทรัพย์ถ่วงน้ำหนักเท่ากัน ผลที่จะทำให้อัตราผลตอบแทนเบี่ยงเบนไปตามการถ่วงน้ำหนักของบริษัทขนาดใหญ่อย่างดัชนีตลาดนั้นจึงไม่มี โอกาสที่อัตราผลตอบแทนของแต่ละพอร์ตจะเบี่ยงเบนไปจากดัชนีตลาดย่อมมีมากขึ้น นอกจากนั้นมันยังเป็นการให้น้ำหนักบทวิเคราะห์แต่ละฉบับเท่ากันอีกด้วย เพราะถือว่านักลงทุนใดๆ อาจตัดสินใจลงทุนตามบทวิเคราะห์แต่ละฉบับด้วยโอกาสที่เท่ากัน

สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนจากผลการศึกษาก็คือ อัตราผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุนโดยเฉลี่ยแล้ว ล้วนให้อัตราผลตอบแทนที่แพ้ตลาด

ความไม่สมดุลกันของคำแนะนำก็นับเป็นอีกประการหนึ่ง จัดเป็นเรื่องปกติที่บริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ จะมีคำแนะนำ "ซื้อ" มากกว่าการแนะนำ "ขาย" หลายช่วงตัว ไม่ว่าเราจะสุ่มเก็บข้อมูล ณ เวลาใดๆ ของปี หากดัชนีตลาดพุ่งขึ้นมากๆ โบรกทั้งหลายก็จะกลืนน้ำลายตัวเองแล้วปรับเป้าปรับประมาณการณ์ใหม่เพิ่มขึ้นกันเป็นแถวเพื่อที่จะบอกว่าหุ้นมันจะขึ้นไปอีก คำแนะนำ "ซื้อ" ย่อมมีมากกว่า "ขาย" ในทางกลับกัน หากดัชนีตลาดร่วงลงมามากๆ บ้าง เขาก็จะบอกว่าหุ้นในตลาดขณะนี้ราคาถูกเหลือเกิน อัตราปันผลสูงขึ้น P/E ต่ำ ฯลฯ ซึ่งเขาก็จะแนะ "ซื้อ" มากกว่า "ขาย" อยู่ดี

การมองง่ายๆ ตามหลักความน่าจะเป็นย่อมยังให้เกิดความฉงนสนเท่ห์เป็นอันมากว่า หากหุ้นของบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ของตลาดที่มีมูลค่าตลาดสูงสามารถขึ้นไปได้อย่างมากภายใน 12 เดือน อย่างที่เขานำเสนอมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก็คงจะวิ่งทะลุ 1,000 จุดไปนานแล้ว และที่ยิ่งกว่านั้นมันควรจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ในอัตราทบต้นปีละ 15-20% ตลอดไปเสียด้วยซ้ำ ซึ่งความจริงมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น

เขาอาจจะแก้ตัวว่าเป้าหมาย 12 เดือน ไม่ได้หมายความว่าราคาหุ้นนั้นๆ มันจะขึ้นไปที่นั่น ณ สิ้นเดือนที่ 12 มันอาจจะขึ้นไปก่อนหน้านั้นแล้วจนเกินมูลค่าและเขาก็ได้ปรับประมาณการณ์ใหม่ตามที่ได้ออกบทวิเคราะห์ใหม่มาแล้วไม่ว่าจะแนะขายหรือถือหรือไม่แนะอะไรเลยก็แล้วแต่

ในความเป็นจริง สถานการณ์อย่างที่เขาว่ามันก็เป็นไปได้แต่นั่นไม่ใช่สิ่งเดียวที่เกิดขึ้น สถานการณ์อื่นๆ ที่เป็นไปได้เช่นว่าราคาหุ้นได้เพิ่มสูงขึ้นจนทะลุเป้าหมายของเขา ทางโบรกจึงได้ปรับมุมมองใหม่ มองหาข่าวดีใหม่ๆ เพื่อที่จะบอกว่าหุ้นมันจะต้องขึ้นไปอีก อาจมีหลายๆ โบรกที่ปรับมุมมองเปลี่ยนเป็นถือหรือขาย แต่มันก็อาจมาพร้อมๆ กับที่เขาเกิดไปได้ลูกรักคนใหม่มาพะเน้าพะนอเพื่อที่จะบอกว่าเจ้าหุ้นใหม่นี้แหละที่จะขึ้นไปมากๆ ในอีก 12 เดือนจากนี้ แล้ววัฏจักรก็จะซ้ำรอยเดิม การเก็บข้อมูล ณ ช่วงเวลาใหม่ ภาพรวมของโบรกทั้งหมดก็ยังคง แนะ "ซื้อ" มากกว่า "ขาย" ไม่เปลี่ยนแปลง

บริษัทหลักทรัพย์แต่ละแห่ง นักวิเคราะห์แต่ละท่าน อาศัยปัจจัยใดในการให้คำแนะนำเหล่านี้ เราก็คงจะต้องไปดูให้ละเอียดในบทวิเคราะห์แต่ละชิ้นนั้นเอง แต่การแนะขายปกติแล้วมักจะไม่ออกจากปากพวกเขาง่ายนัก ไม่ว่าจะเพราะกลัวโดนเจ้านายด่า/ลูกค้าด่าถ้าหุ้นมันขึ้นสวน หรือเพราะเกรงจะเสียสัมพันธภาพอันดีกับบริษัทที่เป็นเจ้าของหุ้นก็แล้วแต่ การสงวนถ้อยสงวนคำของเขาในการแนะขาย มันน่าจะแสดงให้เห็นว่าหุ้นของบริษัทจดทะเบียนแห่งนั้นจะต้องแย่จริงๆ หรือมีราคาตลาดที่สูงจนไม่น่าจะถือเอาไว้อีกต่อไป แต่ข้อมูลที่ปรากฏกลับไม่เป็นเช่นนั้น

การที่โบรกแนะ "ขาย" น้อยกว่าการแนะ "ซื้อ" ก็ย่อมมีการกระจายความเสี่ยงน้อยกว่า ซึ่งผลก็ออกมาค่อนข้างชัดเจนว่าความผันผวนของอัตราผลตอบแทนของพอร์ตแนะ "ขาย" สูงกว่าแนะ "ซื้อ" แต่แม้อย่างนั้นก็ยังให้ผลออกมาดังข้างต้น ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา SET บวก 23.42% หลักทรัพย์ที่แพ้ SET มีมากกว่า 300 หลักทรัพย์และมีมากกว่า 260 หลักทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนติดลบ บริษัทหลักทรัพย์ที่มีพอร์ตแนะขายชนะแนะซื้อนั้น ผมขอกล่าวตามตรงว่าพวกเขาควรที่จะละอายและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาตัวเอง

คำแนะนำเหล่านี้อาจสะท้อนความเป็นมนุษย์ มากกว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตตามการวิเคราะห์ด้วยความสามารถเท่าที่มีของมนุษย์

แม้ข้อมูลตามการทดลองนี้จะเก็บจาก SAA Consensus ของ settrade แต่จำนวนบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกและส่งบทวิเคราะห์เข้าไป ตลอดจนจำนวนบทวิเคราะห์ที่ส่งเข้าไปทั้งหมดนั้น นับว่ามากพอที่จะสะท้อนภาพของบริษัทหลักทรัพย์ทั้งหลายในภาพรวม ฉะนั้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 2

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 10

โพสต์

สรุป เขียน: 1. การปฏิบัติตามคำแนะนำ "ซื้อ" สามารถให้อัตราผลตอบแทนทางการลงทุนได้เหนือกว่าคำแนะนำ "ถือ" และการปฏิบัติตามคำแนะนำ "ถือ" ก็สามารถให้อัตราผลตอบแทนทางการลงทุนได้เหนือกว่าไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ "ขาย"

2. คำแนะนำ "ถือ" มีความผันผวนของอัตราผลตอบแทนสูงที่สุด

3. การไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำคำแนะนำ "ขาย" ให้อัตราผลตอบแทนต่ำกว่าการปฏิบัติตามคำแนะนำ "ซื้อ" เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

4. การปฏิบัติตามคำแนะนำ "ซื้อ" "ขาย" หรือ "ถือ" จากบริษัทหลักทรัพย์ที่ต่างกัน ให้อัตราผลตอบแทนที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ

5. อัตราผลตอบแทนที่แตกต่างกันจากบริษัทหลักทรัพย์ที่ต่างกันบ่งชี้ว่า คุณภาพของคำแนะนำ "ซื้อ" "ขาย" หรือ "ถือ" จากแต่ละบริษัทหลักทรัพย์ต่างกัน กล่าวคือ มีบริษัทหลักทรัพย์ที่คำแนะนำเชื่อถือได้มาก และบริษัทหลักทรัพย์ที่คำแนะนำเชื่อถือได้น้อย

6. กลยุทธ์การลงทุนโดยปฏิบัติตามคำแนะนำ "ซื้อ" เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ไม่ได้ เพราะโดยเฉลี่ยแล้ว อัตราผลตอบแทนจากกลยุทธ์เช่นนี้จะแพ้ตลาด

7. คำแนะนำ "ซื้อ" "ขาย" หรือ "ถือ" ใดๆ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ตามที่ปรากฏในบทวิเคราะห์นั้น โดยเฉลี่ยแล้วไม่สามารถชนะตลาดได้ คำแนะนำเหล่านี้จึงไม่ควรแก่การนำมาใช้ตัดสินใจลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดี สำหรับนักลงทุนที่ไม่มีเวลาเพียงพอสำหรับการศึกษาข้อมูลหรือไม่ประสงค์ที่จะศึกษาข้อมูล เพื่อให้ได้รับอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นและมีความผันผวนลดลงสมควรที่จะต้องพิจารณาการลงทุนในรูปแบบอื่น
mprandy
Verified User
โพสต์: 1992
ผู้ติดตาม: 9

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 11

โพสต์

เป็นข้อมูลที่เยี่ยมยอด สมกับเป็นเจ้าแห่งข้อมูล ผมว่าถ้า SAA เข้ามาอ่านน่าจะเอาไปใช้จัด rating หรือปรับปรุงให้มันดีกว่าการนั่งเทียนในปัจจุบัน

จริง ๆ จะยิ่งสุดยอดขึ้นไปอีก ถ้าคุณ Ryuga เอามาแยกแยะให้ฟังว่า แต่ละโบรก มีความแม่นยำ (accuracy) มากน้อยแค่ไหน เอาแค่ ถ้าแนะให้ซื้อ แล้วดูว่าหุ้นขึ้นหรือไม่ ถ้าแนะให้ขาย แล้วดูว่าหุ้นลงหรือไม่

แนะนำกี่ตัว ถูกกี่ตัว คิดเป็นเปอร์เซ็นต์กันเลย

อยากรู้ว่านอกจาก Broker No.17 แล้ว มีที่ไหนอีกที่มีความแม่นยำสูง

แล้ว No.17 นี่ accuracy มากน้อยแค่ไหน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 2

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 12

โพสต์

เช่นเดียวกันกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย หากมีหลักฐานข้อมูลชิ้นอื่นที่ให้ผลแตกต่างไปจากการศึกษาเดิมก็สามารถหักล้างผลการศึกษาหรือทฤษฎีเดิมไปได้ ผลการศึกษานี้ผมสรุปตามข้อมูลที่ปรากฏ หากพี่ๆ ท่านอื่นมีหลักฐานข้อมูลอื่นใดนอกเหนือจากนี้ ไม่ว่าจะให้ผลสนับสนุนหรือคัดค้าน ก็ขอนำมาแชร์ให้ทราบบ้างนะครับ เพราะข้อมูลนี้ผลเก็บปีเดียว ดูปีเดียว นับว่ายังไม่ครอบคลุมระยะเวลาที่ยาวนานมากพอสำหรับการชี้ชัดว่าผลการศึกษานี้เป็นจริงในภาพรวมทั้งหมด หรืออย่างน้อยก็ให้ผลอยู่ในขอบเขตความเชื่อมั่นมากกว่า 95%

จากค่าเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนถ่วงน้ำหนักด้วยจำนวนบทวิเคราะห์ คำแนะนำ "ซื้อ" ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่าคำแนะนำ "ถือ" เพียง 2% และคำแนะนำ "ถือ" ก็ให้ผลตอบแทนต่อการคัดค้านคำแนะนำ "ขาย" เพียงแค่ 2 % นอกจากนั้น คำแนะนำ "ซื้อ" ยังให้อัตราผลตอบแทนแพ้ตลาดมากกว่า 5% เพราะฉะนั้นโดยภาพรวมแล้วจึงนับว่าความเห็นจากบริษัทหลักทรัพย์ค่อนข้างจะไร้สาระ

หากมีหลักฐานสนับสนุนมากพอ ผมจะคิดตั้งให้เป็น ทฤษฎีไร้สาระ (Ridiculous/Nonsense Theory :lol: ) อุทิศให้แก่โบรกเกอร์ทั้งปวงว่า ความเห็นของพวกเขาไม่มีสาระเพียงพอที่จะทำให้นักลงทุนผู้ปฏิบัติตามชนะตลาดได้
(นับว่าพวกเขาโชคดีเพราะรอบปีที่ผ่านมาดัชนีตลาดปรับตัวบวกขึ้นไป หากดัชนีติดลบคงดูไม่จืด :lol: )

บทวิเคราะห์ก็ยังคงบ่งบอกตัวตนของผู้วิเคราะห์มากกว่าสิ่งที่พวกเขาทำการวิเคราะห์อยู่นั่นเอง อย่างที่เราก็เห็นกันตำตาบ่อยครั้งว่า เวลาตลาดอารมณ์ดีเขาก็ปรับประมาณการณ์ขึ้น เวลาตลาดอารมณ์บูดเขาก็ปรับประมาณการณ์ลง คนที่เชื่อบทวิเคราะห์ตอนแรกไปแล้ว ซื้อก็ซื้อแล้ว เสร็จแล้วก็ติดดอยทันทีพร้อมๆ กับที่พี่ท่านปรับประมาณการณ์ลงหน้าตาเฉยทันทีเหมือนกัน เมื่อบทวิเคราะห์ถูกปรับไปปรับมาตามอารมณ์ตลาด การลงทุนตามบทวิเคราะห์โดยเฉลี่ยซึ่งแพ้ตลาดอยู่แล้ว หากต้องมาซื้อๆ ขายๆ ก็อาจทำให้แพ้ตลาดหนักข้อขึ้นไปอีกอันเนื่องมาจากผลของค่าธรรมเนียม

อย่างไรก็ตาม ผมกล่าวถึงเฉพาะ "คำแนะนำ" ของพวกโบรกเท่านั้นว่าค่อนข้างไร้สาระ แต่ข้อเท็จจริงอย่างอื่นๆ ที่เขานำเสนอมาในบทวิเคราะห์ด้วยนั้นไม่เกี่ยว บทวิเคราะห์จึงนับว่ายังมีประโยชน์ควรค่าแก่การอ่านอยู่ เพียงแต่การหลงเชื่อความเห็นของพวกเขาอาจจะทำให้เรา Broke ได้ :lol:

ข้อเท็จจริงย่อมโกหกกันไม่ได้และแน่นอนว่าบริษัทหลักทรัพย์ไหนๆ ก็คงไม่โง่พอที่จะโกหก แต่ข้อคิดเห็นนั้นไม่แน่ มันอาจจะแฝงอะไรบางอย่างอยู่ภายใน :juju:

การศึกษาชิ้นนี้ไม่ใช่การศึกษาที่สมบูรณ์แบบ ฉะนั้นก็ถือว่าดูกันสนุกๆ ละกันนะครับ 8)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 2

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 13

โพสต์

มองย้อนหลังไปดูรายละเอียดข้อมูลก็ตลกดีเหมือนกัน ขอยกตัวอย่างสักหน่อย เช่น

น้อง Broke ที่ 18 แนะขาย BANPU เพราะมีราคาเหมาะสมเพียง 175.00 บาท (23 มกราคม 2550) - ให้ 1 ตัว  :rofl:
น้อง Broke ที่ 5 แนะซื้อ TMB ราคาเป้าหมาย 3.80 บาท (3 มกราคม 2550) - ให้ไปเลย 2 ตัว  :rofl:  :rofl:
สะเทือนวงการ สะท้านเว็บไซต์ ต้องยกให้น้อง Broke ที่ 9 เธอสวนกระแสชาวบ้านเขาหมดเพราะแนะซื้อ ITV ราคาเป้าหมาย 1.60 บาท (25 มกราคม 2550) แหม เธอช่างมองโลกในแง่ "ดีเหลือเกิน"  อันนี้ให้ไปเลย 3 ตัว  :rofl:  :rofl:  :rofl:

(ในวงเล็บคือ update ล่าสุด ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2550)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 2

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 14

โพสต์

mprandy เขียน:เป็นข้อมูลที่เยี่ยมยอด สมกับเป็นเจ้าแห่งข้อมูล ผมว่าถ้า SAA เข้ามาอ่านน่าจะเอาไปใช้จัด rating หรือปรับปรุงให้มันดีกว่าการนั่งเทียนในปัจจุบัน

จริง ๆ จะยิ่งสุดยอดขึ้นไปอีก ถ้าคุณ Ryuga เอามาแยกแยะให้ฟังว่า แต่ละโบรก มีความแม่นยำ (accuracy) มากน้อยแค่ไหน เอาแค่ ถ้าแนะให้ซื้อ แล้วดูว่าหุ้นขึ้นหรือไม่ ถ้าแนะให้ขาย แล้วดูว่าหุ้นลงหรือไม่

แนะนำกี่ตัว ถูกกี่ตัว คิดเป็นเปอร์เซ็นต์กันเลย

อยากรู้ว่านอกจาก Broker No.17 แล้ว มีที่ไหนอีกที่มีความแม่นยำสูง

แล้ว No.17 นี่ accuracy มากน้อยแค่ไหน
อย่างที่ว่านั่นแหละครับ เขาชนะปีนี้ก็ใช่ว่าจะชนะต่อในปีหน้า ผลสรุปข้อ 4 และ 5 นั้น ผมใช้ความรู้สึกส่วนตัวเข้าตัดสินด้วยเช่นกันเพราะผมเห็นชื่อบริษัทเขา ยังไงก็คงต้องดูกันยาวๆ นะครับ แต่เรื่องโบรกมั่วนี่ผมเชื่อมั่นอย่างสูงว่ามีจริง :lol:

ผมชอบโบรก 3,17,19 ครับ 8)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Alastor
Verified User
โพสต์: 2590
ผู้ติดตาม: 3

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 15

โพสต์

เยี่ยมครับ ว่าแต่เจ้าเบอร์ 17 เป็นใครเนี่ย :P
Wir sind das Rar, der Stolz und der Wert
...
Verified User
โพสต์: 1817
ผู้ติดตาม: 0

Re: >>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007

โพสต์ที่ 16

โพสต์

Ryuga เขียน:ข้อมูลทั้งหมดมาจาก 23 โบรกเกอร์ รวม 1,816 ความเห็น ครอบคลุม 230 หลักทรัพย์จดทะเบียน
โอ้ววจอร์จ มันยอดมากเลย  :shock:

พี่ Ryuga มีเวลาทำได้ไงเนี่ย นับถือในความพยายามและความเอื้อเฟื้อในการแชร์ข้อมูลครับ  :bow:


แวบแรกที่อ่าน โอ มันช่าง "ดีเหลือเกิน"
ต่อจากนี้เวลาเจอบทวิเคราะห์ในร้อยคนร้อยหุ้น จะได้คิดถึงกระทู้นี้ประกอบไปด้วย  :wink:

ดูแต่ข้อเท็จจริง ส่วนคำแนะนำ.. คงต้องวัดดวง  :rofl:
แมงเม่าบินเข้ากลางใจ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 2

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 17

โพสต์

ถ้าอยากทราบว่าใครเป็นใคร ผม pm ให้อาจารย์ prandy jewelra แล้วครับ ต้องขอความกรุณาทุกท่านด้วยในอันที่จะไม่เปิดเผยชื่อพวกเขาเป็นการสาธารณะ (สงสาร :lol: )
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 2

Re: >>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007

โพสต์ที่ 18

โพสต์

[quote="..."]
พี่ Ryuga มีเวลาทำได้ไงเนี่ย นับถือในความพยายามและความเอื้อเฟื้อในการแชร์ข้อมูลครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Eragon
Verified User
โพสต์: 271
ผู้ติดตาม: 0

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ผมก็สงสัยมานานว่ามันได้ผลใกล้เคียงความเป็นจริงแค่ไหน  แต่ไม่รู้จะทำยังไง  วันนี้ได้กระจ่างซะที  ขอบคุณท่านเรียวมากๆ
:cool:  :cool:  :cool:


:bow: :bow: :bow:

ขอบคุณมากๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Pn3um0n1a
Verified User
โพสต์: 1935
ผู้ติดตาม: 1

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ขอหลังไมค์ ด้วยครับ

โดยเฉพาะ 16 กะ 17

:lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
alexx
Verified User
โพสต์: 332
ผู้ติดตาม: 0

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 21

โพสต์

lสุดยอดเลยครับ ท่าน Ryuga นับถือ  ในการทำเจาะรายละเอียดอย่างยิ่ง  :bow:  :bow:  :bow:
อิอิ อยากรุ้หลังไมค์ ด้วยครับ :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tanasit
Verified User
โพสต์: 63
ผู้ติดตาม: 0

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 22

โพสต์

สุดยอดมาก คุณ Ryuga ทำได้ยังงัยนี่ :bow:  :bow:  :bow:
แค่เข้ามาอ่านเฉยๆ ยังตาลายเลย ไม่อยากนึกว่าถ้าต้องทำเอง คง :vm:
สงสัยว่า เบอร์ 3, 17 ,19 นี่ เป็นเบอร์ตามตลาดหลักทรัพย์ หรือกำหนดเองครับ รบกวน PM ให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
Blueblood
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3645
ผู้ติดตาม: 20

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 23

โพสต์

สุดยอดเลยครับ  :bow:

ขอด้วยครับ 17 กับ 16 เหมือนกัน :)

ขอบคุณครับ :)
It's earnings that count
VI Jr.
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 894
ผู้ติดตาม: 0

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 24

โพสต์

หุหุ SAA มาเห็น จะหน้าชา  :oops:  ไหมครับ

ขอ pm ด้วยคนครับ

นับถือ ในสิ่งที่พี่ Ryuga ทำจริงๆครับ
เรากำลังตามหา หุ้นดีๆ
หุ้นดีๆ ก็กำลังตามหาเราอยู่
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 1

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 25

โพสต์

สุดยอด อีกแล้วครับท่าน

ถามหน่อย คุณริวใช้ target price เทียบด้วยหรือเปล่า

คือผมเจอบ่อยๆ  ตย. ราคาหุ้น 10 บาท
โบรกนึง ให้ target price 13 บาท แนะซื้อ
แต่อีกโบรก ให้ 14 บาท แต่แนะขาย  :?:

มีจริงๆนะ เยอะด้วย ผมอ่านแล้วก็งง
ก็เลยไม่เคยเชื่อเลย
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 2

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 26

โพสต์

รูปภาพ

แสดงขอบเขตความเชื่อมั่นประมาณ 95% ของอัตราผลตอบแทนแยกรายโบรก 8)

การศึกษานี้ผมจับประเด็นใหญ่ที่ความน่าเชื่อถือของคำแนะนำ เรื่องแยก accuracy ก็สามารถนับเป็นแขนงของการศึกษาอีกชิ้นหนึ่งออกไปครับ แล้วก็ยังมีแยกเป็นราย SET50, SET100 แยกเป็นรายหุ้นเล็ก แยกเป็นรายหุ้นที่โบรกประสานเสียงเดียวกันเฉพาะความเห็นแบบใดแบบหนึ่ง กลุ่มหุ้นแยก sector ความโน้มเอียงในการมองตลาดคล้ายๆ กันของโบรก กลุ่มหุ้นที่โบรกเชียร์ซื้อเกินกึ่งหนึ่งของความเห็น ฯลฯ ยังไม่รวมเรื่องของราคาเป้าหมายนะครับ :lol:
ปุย เขียน:ถามหน่อย คุณริวใช้ target price เทียบด้วยหรือเปล่า
ไม่ได้ใช้ครับ 8)
ภาพประจำตัวสมาชิก
pongo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1075
ผู้ติดตาม: 0

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 27

โพสต์

:bow:  :bow:  :bow: นับถือครับ ขยันเก็บข้อมูลและขยันวิเคราะห์มากๆ
chartchai madman
Verified User
โพสต์: 7514
ผู้ติดตาม: 6

คาราวะท่านริวงะ

โพสต์ที่ 28

โพสต์

ขอชื่นชมและคาราวะ ท่านริวงะ มากๆครับ เป็นการศึกษาถือได้ว่าสุดยอดเลยครับ นับถือๆๆๆๆๆๆ
 ขอเสียงสนับสนุนให้เก็บไว้เป็นกระทู้ทรงคุณค่า ครับ
chut
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 243
ผู้ติดตาม: 13

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 29

โพสต์

ไม่เคยคิดว่าจะมีคนขยันเก็บข้อมูลขนาดนี้
เห็นด้วยที่เป็นกระทู้ทรงคุณค่าครับ
คุณRyuga นำเสนอได้ดีมาก รูปแบบเหมือนงานวิจัยทางการแพทย์เลยครับ
มีตั้งแต่ material&methods , results , discussion ขาดแต่ไม่มี abstract เพียงอย่างเดียว

ข้อมูลนี้ได้ช่วยยืนยันสิ่งที่ผมปฏิบัติมาตลอด คือ ไม่เคยเชื่อคำแนะนำของ broker  :lol: ขอบคุณมากครับที่นำมาเผยแพร่
"Many shall be restored that are now fallen and many shall fall that are now in honor."
ภาพประจำตัวสมาชิก
tummeng
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3665
ผู้ติดตาม: 0

>>>SAA Consensus : Case Study No.1 (1 Year 2007-200

โพสต์ที่ 30

โพสต์

สุดยอดครับ

:bow: :bow: :bow: