Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

[quote="por_jai"] ฮงเอง2ปีที่ผ่านมาก็ำทำัตัวได้มีคุณค่าสมชื่อนะครับ

[quote="por_jai"]

[quote="por_jai"]

พึ่งมีโอกาสได้อ่านกระทู้พี่ป้อม รู้สึกไม่โหด แต่ มันส์ ฮา ดีครับ เลยอ่านรวดเดียวจบ :lol:

ขอบคุณพี่ป้อมมากนะครับ บางทีพี่พูดกับผม สอนผมไม่กี่ประโยค แล้วรู้สึกได้คิดขึ้นมาในชีวิตมากเลย

ขอบคุณน้องฮง ด้วยครับที่ตั้งคำถามดี ดี มาถามเซียน อ่านแล้วได้ความรู้มากเลย :lol:
ถ้ามีโอกาสก็เอามาแปะที่ไทยวิด้วยก็ดี เพราะบางทีตามไปอ่านไม่ถูก ขอบคุณครับ

[quote="hongvalue"][quote="por_jai"]

kmphol เขียน:
ขอบคุณพี่ป้อมมากนะครับ บางทีพี่พูดกับผม สอนผมไม่กี่ประโยค แล้วรู้สึกได้คิดขึ้นมาในชีวิตมากเลย

จริงๆผมไม่เคยเฉลยที่ไหนเลยนะ
คนที่คุยกับผมพูดอย่างนี้หลายคน
ผมก็ปล่อยให้เข้าใจผิดไปว่าผมพูดให้คิดใช่ม๊า
แต่นี่ใกล้ปีใหม่แล้วเฉลยดีกว่า











ผมเฉลยให้ว่าทำไมรู้สึกอย่างนั้น
คือน้องเครียดอยู่นะครับ
ช่วงเครียดนั้นเราก็มักคิดอะไรไม่ค่อยออกใช่ไหม
ทีนี้พอมาฟังเรื่องไร้สาระจากผมเข้า
ก็รู้สึกผ่อนคลาย
หัวสมองก็เดินคล่องโปร่งเบาตามปกตินั่นแล...ฮ่า...

อย่างเจ้าทศเจ้าตึกหรือหมอเค ที่สนิทๆกันเจอกันบ่อยจะรู้ดี
พวกนี้เดี๋ยวนี้ชวนไปกินข้าวด้วยกัน ไม่ค่อยยอมไปแล้ว
ท่าทางเบื่อ
เทศน์ซ้ำๆ...ฮ่า...

kmphol เขียน: ขอบคุณน้องฮง ด้วยครับที่ตั้งคำถามดี ดี มาถามเซียน อ่านแล้วได้ความรู้มากเลย :lol:
ถ้ามีโอกาสก็เอามาแปะที่ไทยวิด้วยก็ดี เพราะบางทีตามไปอ่านไม่ถูก ขอบคุณครับ

จริงๆแล้วผมก็ถามอยู่ 3 เว็บแหละครับ

ที่นี้ มวยวัด กระทิงเขียว

ที่กระทิงเขียวจะถามพี่ ih คนเดียว

เพราะที่นั้นใครๆก็ถามแต่พี่ ih อยู่แล้วครับ :lol:  :lol:

ส่วนตอนนี้ที่เว็บมวยวัดมีเทพคนใหม่มาให้ถามด้วยครับ

เก่งมาก ผมเองได้เปิดหูเปิดตาเยอะจริงๆ

ลองเข้าไปดูสิครับ แนะนำเลย

เข้ามานับถือน้องฮงครับ ขยันและพัฒนาตัวเองเสมอ

ถ้าตกผลึก เคล็ดลับ Fund Flow ได้ก็เอามาแชร์ให้ฟังกันบ้างนะครับ

ก้อนหิน เขียน:เข้ามานับถือน้องฮงครับ ขยันและพัฒนาตัวเองเสมอ

ถ้าตกผลึก เคล็ดลับ Fund Flow ได้ก็เอามาแชร์ให้ฟังกันบ้างนะครับ

ได้ครับ จริงๆการเล่าเรื่อง fundflow จะต้องเล่าโดยใช้ภาพประกอบเป็นส่วนใหญ่น่ะครับ


พอดีผมเองไม่มีเครื่องสแกนน่ะครับ

พอดีตอนนี้มีไม่กี่ภาพเอง

แต่ไหนๆถามมาแล้วก็เล่าให้ฟังบางส่วนก่อนละกันนะครับ

จริงๆแล้วมีคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับ fundflow อยู่นะครับ

ส่วนตัวผมเชื่อว่า fundflow ไม่ได้หมายถึง ฝรั้งซื้อขายอย่างเดียว

แต่หมายถึงเงินภายในประเทศ และหมายถึง ดัชนีชี้นำต่างๆของ set index

ไม่ว่าจะเป้น bop pii pci bondyield แบบ upward sloping

และข่าวสารต่างๆสะท้อนไปในตลาดหุ้นแค่ไหน

เพราะ fundflow จริงๆคือการโยกเม็ดเงินไปในที่ต่างๆ เมื่อสินทรัพย์ไหนถูก

ก็จะถูก re-rated มูลค่าขึ้นมาใหม่

ลองดูรูปนี้ครับ



จะเห็นว่าเส้นสีน้ำเงินเข้มล่าสุดอยู่เกือบ 500 basis point นั้นหมายความว่า

ความกลัวเศรษฐกิจถดถอยสะท้อนเข้าในตลาดเงินและตลาดหุ้นแล้ว

จะเห็นว่าส่วนต่างสูงถึงช่วงประมาณ 1929-1932 ซึ้งก็คือ great depression

เลยทีเดียว

แบบนี้ถ้า dowjone จะเริ่มเหนียว หรือไม่ลงแรงๆก็สมเหตุสมผลระดับนึงมั้งครับ

อันนี้เป็นการดูว่าอะไรสะท้อนไปในตลาดเงินและตลาดทุนบ้าง

เพื่อนำไปสู่การเล่นหุ้นแบบ low risk high return ครับผม

ก้อนหิน เขียน:เข้ามานับถือน้องฮงครับ ขยันและพัฒนาตัวเองเสมอ

ถ้าตกผลึก เคล็ดลับ Fund Flow ได้ก็เอามาแชร์ให้ฟังกันบ้างนะครับ

สำหรับคนที่สนใจหนังสือ fundflow ผมมีหนังสืออีกเล่มนึงแนะนำครับ

TOMORROW'S GOLD ASIA'S AGE OF DISCOVERY

เล่มนี้มีแปลเป็นไทยด้วยนะครับ คนเขียนคือ marc faber

เนื้อหาหลักๆในหนังสือเล่มนี้ก็คือ มีการเล่าเกี่ยวกับประวัติของตลาดหุ้นเกิดใหม่ ตลาด usa nasdaj คนเขียนมีแนวคิดว่า
ทุกเวลาจะต้องมีสินทรัพย์อะไรบางอย่างในโลกที่ถูก underweight ตลอดเวลา

และมีเรื่องราวของหุ้น south sea ที่ทำให้ เซอร์ ไอแซค นิวตัน  เจ๊งหุ้นครับ

และมีกราฟของสินค้าโภคภัณฑ์หลายอย่าง

และมีเรื่องราวฟองสบู่ของราคาบ้านด้วยครับ

ผมเองก็กำลังอ่านรอบที่สองเพื่อเก็บตกเรื่องราวเกี่ยวกับ

การโยกย้ายเม็ดเงินในสินทรัพย์ต่างๆ (asset allcation) ผมว่าน่าสนใจมาก

หลายคนอาจจะเคยอ่านแล้วก็ได้นะครับ

ส่วนใครยังไม่เคยอ่านก็ลองดูได้ครับ

บัญญัติ 10 ประการของการเล่นหุ้นแบบ VI

ดร.นิเวศน์  21 มี.ค. 52

พูดถึงเรื่องของการซื้อขายหุ้นแล้ว   ผมคิดว่ามีเทคนิคหรือมีกฎต่าง ๆ  มากมายที่มีการคิดค้นและนำเสนอ   วิธีการหรือกลยุทธ์ที่ใช้ในแต่ละเรื่องนั้นมีหลากหลายแนวทางขึ้นอยู่กับว่าคนที่เสนอเป็นนักลงทุนแนวไหน   กลยุทธ์เหล่านั้นบ่อยครั้งขัดกันเอง   เช่น  ถ้าเป็นนักเก็งกำไร  พวกเขาอาจจะบอกว่าการเล่นหุ้นต้องเล่น  “ตามกระแส”  แต่ถ้าเป็นแบบ  Value  Investor  บางพวกเขาจะให้ซื้อขาย   “สวนกระแส”   วันนี้ผมขอนำเสนอหลักสำคัญบางประการของการซื้อขายหุ้นที่ผมเชื่อและใช้   เรียกให้เท่ว่า  บัญญัติ 10 ประการของการเล่นหุ้น

ข้อ 1  ศึกษาข้อมูลหุ้นให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อหุ้น   อย่าซื้อหุ้นโดยใช้อารมณ์  อย่าโลภ   อย่ารีบด่วนตัดสินใจซื้อหุ้นโดยเฉพาะในกรณีที่หุ้นกำลังวิ่ง  อย่าลืมว่ามีหุ้นที่กำลัง  “วิ่ง”  ทุกวัน   ถ้าเราซื้อ   เราก็จะเป็นนักเล่นหุ้นรายวันที่มีโอกาสถูกผิด 50-50   ถ้าเราทำแบบนี้ในระยะยาวเราจะขาดทุนเสมอ

ข้อ 2  อย่าสนใจข่าวลือหรือ  “หุ้นเด็ด”  ที่เราได้ยินมาไม่ว่าจะมาจากเซียน  คนในหรือ  Insider  ของบริษัท  หรือจากคนแปลกหน้าในงานเลี้ยง   เชื่อเถอะว่าถ้าเราได้ยินก็คงมีคนอีกไม่น้อยที่ได้ยิน   ข่าวหรือข้อมูลแบบนี้ไม่มีความหมายอะไรนอกจากจะทำให้เราเสียเงิน

ข้อ 3  ให้ความสำคัญกับตัวกิจการหรือตัวหุ้นมากกว่าสภาพตลาดหรือเศรษฐกิจโดยทั่วไป   เพราะถึงแม้ว่าสภาพทางเศรษฐกิจอาจจะไม่ดีแต่ตัวบริษัทก็อาจจะดีได้   นอกจากนั้น  ถึงกิจการอาจจะไม่ดีนักแต่ราคาหุ้นก็อาจจะต่ำกว่าพื้นฐานมาก   ดังนั้น   อย่าให้ภาพของตลาดหรือเศรษฐกิจมาหันเหการตัดสินใจซื้อหุ้นของเรา

ข้อ 4  หุ้นนั้นมักจะดูแย่กว่าที่คิดในช่วงที่ตลาดตกต่ำถึงพื้นในช่วงตลาดหมี   และดูดีกว่าที่คิดในช่วงที่ตลาดวิ่งถึงจุดสูงสุดในช่วงตลาดกระทิง    มีความกล้าหาญที่จะซื้อเมื่อทุกอย่างดูเลวร้าย   และขายเมื่อทุกอย่างดูดีจนไม่น่าเชื่อ

ข้อ 5  จำไว้ว่า   มันเป็นเรื่องยากที่เราจะสามารถซื้อหุ้นที่พื้นพอดีและขายหุ้นได้ที่จุดสูงสุด   ในยามที่ตลาดเลวร้ายมาก ๆ   นั้น   หุ้นอาจจะตกต่ำลงไปเกินกว่ามูลค่าพื้นฐานจริงได้มาก   เช่นเดียวกัน  ในยามที่ทุกคนกำลังมองโลกในแง่ดีมาก ๆ   หุ้นอาจจะขึ้นไปเกินพื้นฐานได้มากเหมือนกัน   ดังนั้น   อย่าคาดหวังว่าเมื่อซื้อหุ้นแล้วราคาจะต้องขึ้นทันที   หรือขายหุ้นแล้วก็หวังว่ามันจะลงถึงแม้ว่าเราจะเชื่อมั่นกับการวิเคราะห์หามูลค่าของเรา

ข้อ 6  ถ้ามั่นใจว่าบริษัทที่เราลงทุนมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีอนาคตในการเติบโตที่ดีมาก  อย่าขายเพียงเพราะว่าราคาหุ้นอาจจะดูเหมือนว่าสูงเกินไปหรือหุ้นวิ่งขึ้นมาเร็วเกินไปชั่วคราว   เพราะถ้าเราพลาด     เราอาจจะไม่สามารถซื้อมันกลับมาและทำให้เราพลาดที่จะได้ผลตอบแทนที่ดีเยี่ยมในอนาคต

ข้อ 7  อย่า  “หลงรักหุ้น”  จน  “ตาบอด”   เพราะมันจะทำให้เราไม่สามารถวิเคราะห์กิจการได้อย่างเป็นกลางไม่มีความลำเอียง    หุ้นนั้นรักได้แต่อย่าหลง   เราจะต้องตรวจสอบและประเมินดูฐานะและความคุ้มค่าอยู่ตลอดเวลา   และเมื่อถึงเวลาเราก็อาจจะต้องมีความ  “โหดร้าย”  พอที่จะ  “ตัดรัก”  หรือขายทิ้งได้ถ้าพิจารณาดูแล้วว่ามัน  “หมดเสน่ห์”  แล้ว

ข้อ 8  อย่าสนใจว่าหุ้นเคยอยู่ที่จุดไหนมาก่อน   จงสนใจว่าหุ้นจะไปที่ไหน    กิจการอาจจะเคยกำไร  100 ล้านบาท   ราคาหุ้นอาจจะเคยอยู่ที่  10  บาทต่อหุ้น  แต่ขณะนี้กำไรเหลือเพียงหลัก  10-20  ล้านบาท  ราคาหุ้นตกลงมาเหลือเพียง  2  บาทต่อหุ้น   อย่าไปคิดว่ากิจการและหุ้นจะต้องกลับไปที่เดิมหรือใกล้ ๆ  กับที่เดิม    อย่าลืมว่าของเดิมอาจจะเป็นปรากฏการณ์ที่ผิดปกติก็ได้   ตัวเลขใหม่คือของจริง    ดังนั้น   ลืมตัวเลขเก่าแล้วมองไปข้างหน้า  หุ้นราคา  2  บาทอาจจะยังแพงเกินไปก็ได้

ข้อ 9  เน้นการลงทุนในหุ้นคุณภาพสูง   หุ้นคุณภาพต่ำนั้นบางครั้งอาจจะให้ผลตอบแทนที่ดีและเร็วมาก   แต่ความสำเร็จในระยะยาวนั้นมีโอกาสสูงกว่าที่จะเกิดกับพอร์ตของหุ้นที่เน้นการลงทุนในหุ้นคุณภาพสูงเป็นหลัก   Value Investor จำนวนมากหลีกเลี่ยงหุ้นดีประเภทซุปเปอร์สต็อกและชอบเล่นหุ้นคุณภาพต่ำที่มีโอกาสทำกำไรหวือหวารวดเร็ว   การทำแบบนี้ถ้าทำเป็นครั้งคราวก็คงไม่เสียหายอะไรนัก    แต่ถ้าเริ่มต้นก็ทำแล้วจนในที่สุดติดเป็นนิสัย   โอกาสที่เขาจะประสบความสำเร็จในระยะยาวก็จะยาก   พอร์ตที่ประกอบไปด้วยหุ้นของกิจการที่มีคุณภาพต่ำนั้นยากที่จะทำให้เรารวย    ตรงกันข้าม  พอร์ตของกิจการที่มีคุณภาพสูงนั้น   สามารถทำให้เรารวยได้และด้วยความเสี่ยงที่ต่ำกว่ามาก

ข้อ  10  ใช้เวลากับการลงทุน   ตรวจสอบกิจการและหุ้นอย่างสม่ำเสมอ   ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไป    เราต้องปรับการลงทุนเพื่อให้สะท้อนกับการเปลี่ยนแปลง   ตัดหุ้นที่อ่อนแอลงออก   ซื้อหุ้นที่ดีกว่าเข้ามา   แต่นี่ไม่ใช่การเทรดหรือซื้อขายหุ้นรายวัน  รายเดือน  หรือแม้แต่รายปี  มันขึ้นกับสถานการณ์และตัวหุ้น   โดยเฉลี่ยแล้วถ้าเราซื้อหุ้นแล้วถือไม่ถึงปี   วิธีการลงทุนของเราคงไม่ใช่การเน้นหุ้นคุณภาพในการลงทุนเป็นหลัก

มาเก็บเกี่ยวครับผม

กระทู้ ดีจริงครับ

อ่าน 12 หน้าต่อเนื่อง

ขอบคุณพี่ๆทุกคนให้มาให้ความรู้  มือใหม่

Boyadvance เขียน:กระทู้ ดีจริงครับ

อ่าน 12 หน้าต่อเนื่อง

ขอบคุณพี่ๆทุกคนให้มาให้ความรู้  มือใหม่

Boyadvance นี่ไม่ใหม่แล้วมังครับ
ถ้าPSP ค่อยใหม่หน่อย

บอย  ว่าพี่พอใจ  อาจจะคิดว่าเป็น พี่บอยท่านอื่นนพครับ

ผมนี้  มือใหม่  มาใหม่  แน่นอน ฟันธง ครับ
ประสบการณ์จริง  เริ่มตั้งแต่  เดือน พฤษศจิกายน  ปีที่แล้วครับ

ส่วนความสนใจก็ประมาณ  2 ปีได้ ครับ  แต่ไม่ได้ ศึกษาจริงจัง เพราะ บอยไม่ได้เรียนเกี่ยวกับ  ด้านนี้ เลย  

ส่วนใหญ่บอย  ให้ความสำคัญกับ  การจัดการการจะเพิ่ม เงินยังไง  คิดไป คิดมา  ก็มาเจอวิธีนี้แหละครับ  ที่เค้าว่าให้เงินทำงานให้  แต่บอยว่ามันไม่ใช้ให้เงินทำงานให้เลยครับ  เหมือน เราทำเองทั้งหมด เงินเป็นเพียงอุปกรณ์สำคัญในการทำงาน

คิดว่าพี่พอใจ น่าจะปล่อยมุขมากกว่านะครับ คือว่าเครื่อง Game Boyadvance ผลิตมานานพอสมควร ครับถ้าเปรียบเทียบกับเครื่อง Game PSP ซึ่งน่าจะใหม่กว่า จริงเท็จประการใด คงต้องให้พี่พอใจ มา confirm ครับ

earthcu เขียน:คิดว่าพี่พอใจ น่าจะปล่อยมุขมากกว่านะครับ คือว่าเครื่อง Game Boyadvance ผลิตมานานพอสมควร ครับถ้าเปรียบเทียบกับเครื่อง Game PSP ซึ่งน่าจะใหม่กว่า จริงเท็จประการใด คงต้องให้พี่พอใจ มา confirm ครับ

สวัสดีครับพี่ earthcu เป็นไงบ้างครับ สบายดีไหม

ผมพูดถึงตัวเองก่อนละกันว่าช่วงนี้ทำอะไรบ้าง

ช่วงนี้ผมไล่อ่านหนังสือเศรษฐศาสตร์อยู่ เอาไว้ไปถามพี่ ih ใหม่

น่าเสียดายพี่ bezos ไม่อยู่แล้ว

แล้วก็มีศึกษาเรื่องการดูกราฟด้วย ค่อนข้างสนุกทีเดียว

พยายามติดอาวุธให้เยอะๆ

พี่ earthcu ช่วงนี้อ่านหนังสืออะไรบ้างครับ หรือว่าไปอบรมอะไรบ้าง

แนะนำหน่อยครับ

:lol:

กระทู้นี้คือ พูดถึงอาจารย์ของพี่พอใจ

เดี่ยวนี้พี่ไม่ค่อย update กระทู้นี้

หมายความว่าพี่ไม่มีอาจารย์ใหม่ๆแล้วรึป่าวครับ

ก็คือเรียนรู้จากอาจารย์คนเดิมไปเรื่อยๆ หรือ

วิชากราฟผมว่าน่าสนใจมาก

ถ้าตกผลึกอะไรเพิ่มเติมก็อย่าลืมมา update

ให้อ่านกันบ้างนะครับ

earthcu เขียน:คิดว่าพี่พอใจ น่าจะปล่อยมุขมากกว่านะครับ คือว่าเครื่อง Game Boyadvance ผลิตมานานพอสมควร ครับถ้าเปรียบเทียบกับเครื่อง Game PSP ซึ่งน่าจะใหม่กว่า จริงเท็จประการใด คงต้องให้พี่พอใจ มา confirm ครับ

แฮ่...ตามนี้เลยครับ

hongvalue เขียน:
สวัสดีครับพี่ earthcu เป็นไงบ้างครับ สบายดีไหม

ผมพูดถึงตัวเองก่อนละกันว่าช่วงนี้ทำอะไรบ้าง

ช่วงนี้ผมไล่อ่านหนังสือเศรษฐศาสตร์อยู่ เอาไว้ไปถามพี่ ih ใหม่

น่าเสียดายพี่ bezos ไม่อยู่แล้ว

แล้วก็มีศึกษาเรื่องการดูกราฟด้วย ค่อนข้างสนุกทีเดียว

พยายามติดอาวุธให้เยอะๆ

พี่ earthcu ช่วงนี้อ่านหนังสืออะไรบ้างครับ หรือว่าไปอบรมอะไรบ้าง

แนะนำหน่อยครับ

:lol:

สวัสดีครับน้องฮง ยินดีมากครับที่น้องฮงยังจำพี่ได้ ช่วงนี้พี่ก็สบายดีครับ มีความสุขอยู่กับการเลี้ยงเจ้าตัวเล็กครับ ตอนนี้เจ้าตัวเล็กก็อายุ 9 เดือนแล้วครับ กำลังซนเลยครับ หลังๆพี่ไม่ค่อยได้คุยกับน้องฮงเลย ,พี่เองก็เสียดายกระทู้น้องฮงกับพี่ bezos ที่ templeboxing เหมือนกันครับ ยังรอให้พี่ bezos กลับมาเหมือนกันครับ, ในส่วนตัวของพี่เองหลังๆมานี้ถ้าพี่มีเวลาก็พยายามทบทวนความรู้เก่าๆอย่างเช่นอ่านหนังสือของ Peter Lynch, Phillip A.Fisher แล้วก็หนังสือเกี่ยวกับงบการเงิน ของ อ.ภาพรครับ เอามาทบทวนใหม่ก็ได้ความรู้ แง่คิด ซึ่งในครั้งแรกที่อ่าน อาจจะยังไม่เข้าใจ แล้วก็หาหนังสือแนว Technical Analyis มาลองอ่านดู เพิ่งซื้อมา 2 เล่มครับ ก็มี"วิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคด้วย กราฟแท่งเทียนและชาร์ตแพตเทิร์น"และก็ "มหัศจรรยแห่งเทคนิค" 2 เล่มนี้เพิ่งอ่านไปได้อย่างละหน่อยครับ ช่วงหลังๆมานี้ก็เห็นน้องฮง ตาม web ของพี่วิบูลย์กับกระทู้ที่ห้องพี่สายลับ 007 เพียงแต่อาจจะไม่ได้เข้าไปทักทายด้วย ยังไงขออภัยด้วยนะครับ ไว้ถ้ามีเวลาจะเข้าไปคุยด้วยนะครับ  

ปล.ขออภัยพี่พอใจ ด้วยนะครับที่มาคุยในกระทู้ของพี่ แล้วก็ขอขอบคุณพี่พอใจด้วยครับ มาแอบอ่านกระทู้ของพี่เป็นระยะๆครับ

hongvalue เขียน:กระทู้นี้คือ พูดถึงอาจารย์ของพี่พอใจ

เดี่ยวนี้พี่ไม่ค่อย update กระทู้นี้

หมายความว่าพี่ไม่มีอาจารย์ใหม่ๆแล้วรึป่าวครับ

ก็คือเรียนรู้จากอาจารย์คนเดิมไปเรื่อยๆ หรือ

วิชากราฟผมว่าน่าสนใจมาก

ถ้าตกผลึกอะไรเพิ่มเติมก็อย่าลืมมา update

ให้อ่านกันบ้างนะครับ

ล่าสุดผมก็ไปเยี่ยมโจ ลูกอิสานมา
ลูกอิสานอะไรก็ไม่รู้ ไปอยู่ในมอ.สงขลา หาดใหญ่ซะได้
จริงๆผมก็ไปเที่ยวตามประสา
ไปกับหมอเค
หมอเคนี่เขากลัวคนแก่ไม่มีอะไรทำ
เขาก็เลยชวนไปเที่ยวอยู่เรื่่อยๆ
ดีที่ตอนปลายปีไม่ได้ชวนไปเที่ยวซานติก้าผับกัน
เมื่อหน้าร้อนปีที่แล้วก็พากันไปดูนมแหม่มที่เกาะพะงันกันมา
ปีนี้เคเขาว่า ไปหาพี่โจกันดีกว่า
ได้เที่ยวด้วย ได้ความรู้ด้วย ไปให้เซียนเล่้าให้ฟังว่ามีวิธีเอาชนะตลาดอย่างไร
ก็ได้วิชามาสมใจ
แต่จะว่าไปผมกลับมาอ่านกระทู้ปรับพอร์ต
ปรากฏว่าแม่ไม้ที่อยู่ในกระทู้ ก็ประมาณเดียวกับที่โจคุยกับผมนั่นเอง
ไม่ได้ลึกลับ เป็นปริศนาอักษรไขว้แต่อย่างใด
แต่พอมาลองเลือกๆหุ้นดูเองบ้าง
ดูติดขัดไปหมด ข้อมูลในสมองไม่พอ
ประมาณว่าเราเห็นอินทรีย์บินจับเหยื่อได้อย่างง่ายดาย
นั่นเป็นเพราะสายตาก็ีดี กรงเล็บก็ดี ปีกที่ร่้อนถลาลมเร่งความเร็วได้ก็ดี
ทั้งหมดนี้สำหรับนกอินทรีย์แล้วไม่ยากนัก หรือจะเรียกว่าง่ายก็ยังได้
แต่ที่เห็นนั้นล้วนเป็นคุณสมบัติที่ยากแก่การทำตาม(เลียนแบบ)เป็นยิ่งนัก
แต่อย่างน้อย
ผมก็รู้แล้ว เห็นแล้ว ว่าอินทรีย์นั้นมีกรรมวิธีอย่างไรในการจับเหยื่อ
เรียกว่าเริ่มมีเค้ารอยให้สืบเสาะ ว่างั้น
ถึงทำตามได้ไม่เท่า
ก็ถือว่าเป็นบุญตาอยู่ดีครับ...

[quote="earthcu"]

สวัสดีครับน้องฮง ยินดีมากครับที่น้องฮงยังจำพี่ได้ ช่วงนี้พี่ก็สบายดีครับ มีความสุขอยู่กับการเลี้ยงเจ้าตัวเล็กครับ ตอนนี้เจ้าตัวเล็กก็อายุ 9 เดือนแล้วครับ กำลังซนเลยครับ หลังๆพี่ไม่ค่อยได้คุยกับน้องฮงเลย ,พี่เองก็เสียดายกระทู้น้องฮงกับพี่ bezos ที่ templeboxing เหมือนกันครับ ยังรอให้พี่ bezos กลับมาเหมือนกันครับ, ในส่วนตัวของพี่เองหลังๆมานี้ถ้าพี่มีเวลาก็พยายามทบทวนความรู้เก่าๆอย่างเช่นอ่านหนังสือของ Peter Lynch, Phillip A.Fisher แล้วก็หนังสือเกี่ยวกับงบการเงิน ของ อ.ภาพรครับ เอามาทบทวนใหม่ก็ได้ความรู้ แง่คิด ซึ่งในครั้งแรกที่อ่าน อาจจะยังไม่เข้าใจ แล้วก็หาหนังสือแนว Technical Analyis มาลองอ่านดู เพิ่งซื้อมา 2 เล่มครับ ก็มี"วิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคด้วย กราฟแท่งเทียนและชาร์ตแพตเทิร์น"และก็ "มหัศจรรยแห่งเทคนิค" 2 เล่มนี้เพิ่งอ่านไปได้อย่างละหน่อยครับ ช่วงหลังๆมานี้ก็เห็นน้องฮง ตาม web ของพี่วิบูลย์กับกระทู้ที่ห้องพี่สายลับ 007 เพียงแต่อาจจะไม่ได้เข้าไปทักทายด้วย ยังไงขออภัยด้วยนะครับ ไว้ถ้ามีเวลาจะเข้าไปคุยด้วยนะครับ

ผมว่าถ้ามีเวลา การไปอบรมข้างนอกเป็นพักๆก็ทำให้เราได้มุมมองดีๆเพิ่มเติมนะครับ

ผมว่านั่งอ่านหนังสืออย่างเดียว บางทีมันก็จำเจไปหน่อยครับ

ออกไปฟังคนหลายๆแนว จะได้ idea ทางการลงทุนเยอะขึ้นครับ

แล้วก็ผสมผสานกับการถามบ่อยๆ อ่านเยอะๆ

ผมว่าจะทำให้ก้าวหน้าได้เร็วขึ้นครับ

ขออ่านเก็บเกี่ยวความรู้ด้วยคนครับ

อ่านในกระทู้หน้าแรกๆ เห็นว่าพี่พอใจชอบตีแบดด้วย ตอนนี้ยังตีอยู่เรื่อยๆมั้ยครับ อยากไปตีแบดด้วยจะได้ไปคาราวะเป็นอาจารย์ถ่ายทอด แลกเปลี่ยนความรู้ และทำความรู้จักกับพี่ๆท่านอื่นด้วย

Skyforever เขียน:อ่านในกระทู้หน้าแรกๆ เห็นว่าพี่พอใจชอบตีแบดด้วย ตอนนี้ยังตีอยู่เรื่อยๆมั้ยครับ อยากไปตีแบดด้วยจะได้ไปคาราวะเป็นอาจารย์ถ่ายทอด แลกเปลี่ยนความรู้ และทำความรู้จักกับพี่ๆท่านอื่นด้วย

พุธนี้(30ตค.09)มาได้เลยครับ
     ผมเข้าไปเล่นแบดประจำแค่วันพุูธ

   

อ่านจบสักทีครับ ขอบคุณพี่ๆ ทุกๆท่านเลย

ผมเพิ่งเข้าตลาดได้ไม่ถึงสามเดือนเอง ยังไงก็คงจะต้องฝากเนื้อฝากตัว

รู้แล้วว่ามีอาจารย์ดีๆ ที่ไหน?

คงจะต้องนำเอาแนวทางหาความรู้ของพี่พอใจไปปฏิบัติมั่งซะแล้วครับ

(อ่านรวดเดียวตั้งแต่ สี่ทุ่มครึ่งยันตีหนึ่ง ได้ความรู้มากเลยครับ)

โอ้โหโพสสุดท้ายอยู่กันยา.2009
     จำได้ว่าธันวา.2008 หุ้นเริ่มขยับขึ้นจากแถวๆ400
     มาขึ้นหนักๆแถวเมย.2009
     แล้วก็ขึ้นมาเรื่อยๆปีกว่าๆจน ณ บัดนาว ตค.2010
     ทะลุหนึ่งพันไปแล้ว
     ตอนนี้ย่อลงมาหน่อย
     ความรู้และประสบการณ์จากกันยาถึงตอนนี้
     ถ้าจะเล่า คงมีเรื่องเล่าอีกมากมายก่ายกอง
     แต่คงไม่มีความหมาย
     เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นช่วงที่วีไอเป็นกลุ่มนักลงทุนที่ได้เปรียบที่สุุด
     จะเห็นได้ว่า กลยุทธในการเล่นหุ้นในช่วงที่เอ่ยมา
     กลยุทธbuy and hold เป็นกลยุทธที่ดีที่สุด
     ในเวบมีแต่คนได้ตัง
     มากบ้างน้อยบ้างตามฐานานุรูป
     โพ้มว่า...ไว้รอหุ้นตกอีกรอบนึง
     แล้วค่อยเข้ามาคุยปลอบใจกันจะดีกว่ากระมัง...ฮ่า...

ตอนนี้ผมกำลังค้นหาตัวเองอยู่ครับพี่พอใจ เมื่อก่อนผมเคยศึกษาเรื่องการใช้กราฟจากเว็บไซต์แห่งหนึ่งรวมถึงอ่านหนังสือ"มหัศจรรย์แห่งเทคนิค" เลยลองเป็น day-trader ในกิจกรรม click 2 win ผลตอบแทนก็พอค่าขนมประจำวัน

ตอนนี้ผมมาศึกษาแนว vi จริงๆจังๆ เหตุมันเริ่มจากเมื่อปลายปีที่แล้วพี่ชายผมเอาหนังสือตีแตกของ ดร.นิเวศน์ มาให้อ่านครับ ตอนแรกก็ไม่สนใจมากเท่าไหร่ครับ เพิ่งจะมาสนใจก็เมื่อ 1-2 เดือนก่อนเองครับ ผมอ่านเยอะแยะเลยครับทั้งของ ดร.นิเวศน์ พี่พรชัย ท่านแม่ทัพ หนังสือแปลของบัฟเฟต์ ลินซ์ ช่วงนี้พยายามจะปรุงมาเป็นสไตล์การลงทุนของตัวเองครับ

erickiros เขียน: ผมอ่านเยอะแยะเลยครับทั้งของ ดร.นิเวศน์ พี่พรชัย ท่านแม่ทัพ หนังสือแปลของบัฟเฟต์ ลินซ์

ขยันอ่านเป็นพื้นฐานที่จำเป็นยิ่งครับ
     ผมอ่านเรื่องหุ้นและที่เกี่ยวข้อง
     เฉลี่ยวันละ3-5ชั่วโมงต่อวัน
     มาตั้งแต่ปี2547
     ทุกวันนี้ก็ยังอ่านอยู่