หน้า 1 จากทั้งหมด 2

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 13, 2004 8:20 am
โดย ch_army
เห็นราคาไม่ค่อยขยับกันเลย :?:

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 13, 2004 10:44 am
โดย Jeng
มีตัวไหนบ้างครับ ช่วยบอกหน่อยครับ

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 13, 2004 11:15 am
โดย ครรชิต ไพศาล
ของที่มันได้ด้วยอัตราที่แน่นอน มันไม่เร้าใจ เหมือนเมียที่บ้านเราเก็บไว้ที่บ้านเฉยๆ เพราะเป็นของชัวร์ๆอยากได้เมื่อไรก็ได้เมื่อนั้น :lol: :lol:

แต่หุ้นเก็งกำไร เหมือนคุณหนูที่ยั่วใจ เร้าใจ เป็นของกลาง มีคนสนใจกันมาก เลยมีการซื้อๆ ขายๆ กันมาก ราคาเปลี่ยนแปลงมาก :lol: :lol:


การลงทุน ต้องถามตัวเราเองก่อน ว่าเราเป็นคนประเภทไหน

ประเภทชอบ ผัวเดียวเมียเดียว :lol: :lol:

หรือ

ประเภทชอบ ลองไปเรื่อย ไม่ชอบมีเมียเป็นตัวเป็นตน :lol: :lol:

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 13, 2004 11:36 am
โดย ayethebing
เอ แล้วพวกที่รักทั้งหุ้นปันผล และหุ้นเก็งกำไรละครับ

ยังงี้เรียก มีเมียเดียว แต่ชอบหาเศษหาเลยใช่มั้ยเนี่ยพี่ครรชิต อิอิ
:roll:

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 13, 2004 1:24 pm
โดย บุคคลทั่วไป
เค้าเรียก "กิ๊ก" ครับบบบบบบบบ :lol: :lol:

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 13, 2004 8:51 pm
โดย genie
กิ๊กหุ้น ระวังขาดทุน
กิ๊กคุณหนู ระวังติดเอดส์
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol:

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 13, 2004 9:10 pm
โดย ลูกอิสาน
หุ้นที่ปันผลสูงตอนนี้ คงให้ผลตอบแทนประมาณ 6-7%
ซึ่งคงมีไม่กี่ตัวครับ

แต่ราคาหุ้น คงไม่ขึ้นอยู่กับเงินปันผลเพียงอย่างเดียว
คงต้องมองไปในอนาคตด้วยครับ

หากให้ปันผลสูง และในอนาคตก็ยังน่าจะให้ปันผลสูง หรืออาจสูงขึ้นเรื่อยๆ
อย่างนี้ราคาคงไม่ตกครับ แต่อาจจะขึ้นไปช้าๆ แบบมั่นคงครบ

แต่หุ้นที่ให้ปันผลสูงบางตัว อาจจะเป็นเพราะมีกำไรเป็นครั้งคราว
ไม่สม่ำเสมอ เช่นบริษัทนิคมอุตสาหกรรม

หรืออาจจะเป็นเงินปันผลที่จ่ายจากกำไรทั้งหมดของกิจการ
(ทำให้ไม่มีกำไรสะสม เพื่อขยายกิจการ)
เช่น grammy taf

หรือที่แย่ที่สุด คงเป็นหุ้นที่ให้ปันผลสูง แต่มีอนาคตที่ไม่สดใสนัก
เช่น หุ้นในหมวดเกษตรบางตัว หุ้นสิ่งทอบางตัว

หุ้นที่กล่าวมา แม้ให้ปันผลสูง แต่ราคาก็อาจจะไม่ขยับได้ครับ

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 13, 2004 9:19 pm
โดย ayethebing
genie wrote:
กิ๊กหุ้น ระวังขาดทุน
กิ๊กคุณหนู ระวังติดเอดส์
ฮา ครับ ฮา

เอาไว้ติดท้ายรถ เหมือนตามรถสิบล้อได้เลยนะเนี่ย

_ลูกอีสาน wrote:
หุ้นที่ปันผลสูงตอนนี้ คงให้ผลตอบแทนประมาณ 6-7%
ซึ่งคงมีไม่กี่ตัวครับ

แต่ราคาหุ้น คงไม่ขึ้นอยู่กับเงินปันผลเพียงอย่างเดียว
คงต้องมองไปในอนาคตด้วยครับ

หากให้ปันผลสูง และในอนาคตก็ยังน่าจะให้ปันผลสูง หรืออาจสูงขึ้นเรื่อยๆ
อย่างนี้ราคาคงไม่ตกครับ แต่อาจจะขึ้นไปช้าๆ แบบมั่นคงครบ

แต่หุ้นที่ให้ปันผลสูงบางตัว อาจจะเป็นเพราะมีกำไรเป็นครั้งคราว
ไม่สม่ำเสมอ เช่นบริษัทนิคมอุตสาหกรรม

หรืออาจจะเป็นเงินปันผลที่จ่ายจากกำไรทั้งหมดของกิจการ
(ทำให้ไม่มีกำไรสะสม เพื่อขยายกิจการ)
เช่น grammy taf

หรือที่แย่ที่สุด คงเป็นหุ้นที่ให้ปันผลสูง แต่มีอนาคตที่ไม่สดใสนัก
เช่น หุ้นในหมวดเกษตรบางตัว หุ้นสิ่งทอบางตัว

หุ้นที่กล่าวมา แม้ให้ปันผลสูง แต่ราคาก็อาจจะไม่ขยับได้ครับ
อืม คงจริงกระมัง แต่มันคงไม่หวือหวาเหมือนอีหนูที่ซุกซน เอ้ย หุ้นเกร็งกำไรตามข่าวหรอกครับ แต่บางตัวมันมีปันผลแถมได้ capital gain ด้วยนะ ผมว่าเงินปันผล 5-6 เปอร์เซนต์แถมมีลุ้น capital gain มีเยอะครับ ขาลงเมื่อไหร่ พวกนี้จะกลายเป็นหุ้นที่น่าสนใจขึ้นมาทันที

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 13, 2004 9:22 pm
โดย Jeng
ไม่เห็นมีใครตอบว่าตัวไหนปันผลสูง

ผมมี 1 ตัว ไม่รู้สูงหรือเปล่า

SPL บัวหลวงคาดว่าจ่ายปันผล 2.75 บาทต่อหุ้น ในปี 2546 และ 3.25 บาทต่อหุ้นในปี 2547

กำไรปี 2546 ประมาณ 831 หรือ 4.17 บาทต่อหุ้น กำไรปี 2547 935 ล้านบาท หรือ 4.69 บาทต่อหุ้น

ถ้า PE 12 ราคาเป้าหมาย 56

ปัจจุบัน ราคา 42.25 ซื้อแล้วได้ปันผล 2.75 เท่ากับ 6.5 เปอร์เซ็นต์

เอ ไม่รู้คุ้มรึเปล่า

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 13, 2004 10:05 pm
โดย CK
ธนชาติประกาศโพย "หุ้นปันผลสูง" อาทิตย์ที่แล้ว
เท่าที่ดูก็วิ่งกันฝุ่นตลบไปหลายตัวแล้วครับ

ล่าสุด บล.ธนชาติเค้น 10 หุ้นปันผลงามออกมาอย่างน่าสนใจ โดย
แนะให้ซื้อ

AJ คาดว่าจะจ่ายปันผลปี 46 ที่ 0.73 บาท ให้เป้าหมายหุ้นในปี 47 ไว้ที่ 11
GFPT คาดจ่ายปันผล 2.10 บาท ให้ราคาเป้าหมายปี 47 ที่ 39.25
PRANDA คาดจะจ่ายปันผล 0.60 บาท ขยับเป้าหมายราคาปี 47 ที่ 8.70
CPF คาดจ่ายปันผล 0.33 บาท ให้เป้าปี 47 ที่ 5.50
OGC ปันผล 6.47 บาท ราคาเป้าหมายที่ 120
AST ปันผล 6.56 บาท เป้าหมายที่ 106.8
ASSET ปันผล 6.58 บาท เป้าหมายที่ 182
BECL ปันผล 1.28 บาท เป้าหมายที่ 30
GMMM ปันผล 1.94 บาท เป้าหมายที่ 54 บาท
LPN ปันผล 2.02 บาท เป้าหมาย 52.25

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 13, 2004 10:23 pm
โดย Jeng
AJ คาดว่าจะจ่ายปันผลปี 46 ที่ 0.73 บาท ให้เป้าหมายหุ้นในปี 47 ไว้ที่ 11
ราคาปัจจุบัน 8.2 ยังห่างจากราคาเป้าหมาย ที่ 11 อยู่ 34.1 %
...........................................................................................

GFPT คาดจ่ายปันผล 2.10 บาท ให้ราคาเป้าหมายปี 47 ที่ 39.25
ราคาปัจจุบัน 26.50 ยังห่างจากราคาเป้าหมาย ที่ 39.25 อยู่ 48.11 %
...........................................................................................

PRANDA คาดจะจ่ายปันผล 0.60 บาท ขยับเป้าหมายราคาปี 47 ที่ 8.70
ราคาปัจจุบัน 7.55 ยังห่างจากราคาเป้าหมาย ที่ 8.7 อยู่ 15.23 %
...........................................................................................

CPF คาดจ่ายปันผล 0.33 บาท ให้เป้าปี 47 ที่ 5.50
ราคาปัจจุบัน 4.42 ยังห่างจากราคาเป้าหมาย ที่ 5.50 อยู่ 24.43 %
...........................................................................................

OGC ปันผล 6.47 บาท ราคาเป้าหมายที่ 120
ราคาปัจจุบัน 92.50 ยังห่างจากราคาเป้าหมาย ที่ 120 อยู่ 29.70 %
..........................................................................................

AST ปันผล 6.56 บาท เป้าหมายที่ 168
ราคาปัจจุบัน 120 ยังห่างจากราคาเป้าหมาย ที่ 168 อยู่ 40 %
.............................................................................................

ASSET ปันผล 6.58 บาท เป้าหมายที่ 182
ราคาปัจจุบัน 131 ยังห่างจากราคาเป้าหมาย ที่ 182 อยู่ 38.93 %
...............................................................................................

BECL ปันผล 1.28 บาท เป้าหมายที่ 30
ราคาปัจจุบัน 24.80 ยังห่างจากราคาเป้าหมาย ที่ 30 อยู่ 20.96 %
...............................................................................................

GMMM ปันผล 1.94 บาท เป้าหมายที่ 54 บาท
ราคาปัจจุบัน 37.75 ยังห่างจากราคาเป้าหมาย ที่ 54 อยู่ 43.04 %
...........................................................................................

LPN ปันผล 2.02 บาท เป้าหมาย 52.25
ราคาปัจจุบัน 49.25 ยังห่างจากราคาเป้าหมาย ที่ 52.25 อยู่ 6.09 %
.............................................................................................

เราลองมาตามดูกันซัก 6 เดือน ว่าหลังวันที่ 1 กรกฎาคม หุ้นเหล่านี้จะมีราคาเป็นอย่างไร

ผมจะเซพ หน้านี้ไว้

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 14, 2004 12:51 am
โดย CEO
ครรชิต ไพศาล เขียน:ของที่มันได้ด้วยอัตราที่แน่นอน มันไม่เร้าใจ เหมือนเมียที่บ้านเราเก็บไว้ที่บ้านเฉยๆ เพราะเป็นของชัวร์ๆอยากได้เมื่อไรก็ได้เมื่อนั้น :lol: :lol:

แต่หุ้นเก็งกำไร เหมื่อนคุณหนูที่ยั่วใจ เร้าใจ เป็นของกลาง มีคนสนใจกันมาก เลยมีการซื้อๆ ขายๆ กันมาก ราคาเปลี่ยนแปลงมาก :lol: :lol:


การลงทุน ต้องถามตัวเราเองก่อน ว่าเราเป็นคนประเภทไหน

ประเภทชอบ ผัวเดียวเมียเดียว :lol: :lol:

หรือ

ประเภทชอบ ลองไปเลย ไม่ชอบมีเมียเป็นตัวเป็นตน :lol: :lol:
คนถือหุ้นปันผลดีๆไม่ค่อยยอมบอกใคร กลัวหุ้นตัวเองขึ้น
เหมือนคนมีเมียสวย ต้องเก็ยไว้ดีๆ
แบบว่าถ้าหุ้นลงมาจะได้ซื้อเพิ่ม แบบถูกๆ
เหมือนคนมีเมียสวย แต่เก็บซ่อนไว้ด้วยหวังว่าจะหาเมียสวยๆๆได้อีกคน

5555

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 14, 2004 1:18 am
โดย เหาฉลาม
ผมขอส่งหุ้นที่คาดว่าจะจ่ายปันผลดีแต่ราคาไม่ขยับให้คุณ Jeng พิจารณา
คาดว่าจะสามารถจ่ายปันผลได้ถึง 16 บาทจากราคา 174 คิดเป็น 90 %
ทำกำไรสามไตรมาสรวมแล้ว 15 บาท โดยเฉพาะไตรมาสสามได้ 8 บาท
เป็นการกำไรจาการลงทุนในหุ้น 5 บาท กำไรดำเนินงาน 3 บาท
โดยพอร์ทลงทุนในหุ้นวงเงิน 800 ล้าน กำไร 100 ล้าน
เมื่อดูวันต้นงวดไตรมาสสาม วันที่ 2/7/46 ดัชนีอยู่ที่ 477
ลองดูวันสิ้นงวดไตรมาสสาม วันที่ 30/9/46 ดัชนีอยู่ที่ 578
นั่นคือดัชนีปรับตัวขึ้น 20% พอร์ทหุ้นมีกำไร 12% ของเงินลงทุน
อาจกล่าวว่าความสามารถทำกำไรของพอร์ทเป็น 60% ของดัชนีที่เพิ่ม

ครั้นมาดูวันเริ่มต้นของไตรมาสสี่ 1/10/46 ดัชนีอยู่ที่ 569
และวันสิ้นงวดของไตรมาสสี่ 31/12/46 ดัชนีปิดที่ 772
นั่นคือดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น 35% ซึ่งถ้าเอาตัวเลขความสามารถ
ทำกำไร 60% ของดัชนีที่เพิ่มมาคิด ก้อพอจะคาดการกำไร
ในไตรมาสสี่ของพอร์ทลงทุนในหุ้นว่าจะกำไรประมาณ .60*35%=21%
คิดเป็นตัวเงินที่บริษัทมีความสามารถทำกำไรได้ถึงประมาณ 160 ล้านบาท
หรือกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 8 บาทรวมกับกำไรปกติก้อจะได้ 10-11บาททีเดียว
นั่นคือกำไรทั้งปีจะประมาณ 25 บาท จากสถิติย้อนหลังจ่ายปันผล 65%
นั่นคือบริษัทจะสามารถจ่ายปันผลได้ 16 บาท หรือประมาณ 90% ราคาหุ้น

อ้อลืมบอกชื่อหุ้นไป หุ้นที่ว่าอยู่ในหมวดประกัน PHA ครับ

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 14, 2004 7:54 am
โดย Jeng
โห ท่านเหาฉลามวิเคราะห์ ข้าน้อย ต้องรีบพิจารณาแล้วครับ

ขอบคุณมากครับ

จริงๆด้วยว่า หุ้นประกันมี hidden asset ในรูปหุ้นค่อนข้างเยอะ

เอแต่พอร์ทประกัน ถ้าหุ้นเขาขึ้น แล้วเขาไม่ขายออกมา แล้วซื้อกลับเหมือนกองทุน เขาก็ไม่สามารถรับรู้รายได้ ใช่หรือไม่ครับ ท่านเหาฉลาม

ผมไม่แน่ใจว่า บริษัทประกันเขาชอบปรับพอร์ทให้มีกำไร เพื่อเอามาปันผลหรือเปล่า เพราะมันต้องเสียภาษี

ก็เป็นแค่คำถามนะครับ ไม่ได้ท้วงติงอะไร เพราะเชื่อว่า ประกันได้ประโยชน์แน่นอน จากราคาหุ้นที่วิ่งขึ้นมามหาศาล

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 14, 2004 8:16 am
โดย นักดูดาว
มาสวัสดีท่านเหาฉลามที่นับถือครับ
ดีใจเหลือเกินที่ท่านเหามาสนใจประกันภัย แม้ครานี้จะถือหุ้นกันคนละตัว แต่ก็เชื่อว่าเป็นหุ้นกลุ่มที่มีการเติบโตอย่างน่าสนใจทุกตัวครับ

ตัวนี้ผมไม่ได้ทำการบ้านมา ขอไปทำการบ้านก่อนแล้วจะมาเล่าสู่กันฟังนะครับ

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 14, 2004 8:45 am
โดย CK
สวัสดีครับคุณเหาฉลาม

หุ้นกลุ่มประกันจะว่าไปก็น่าสนใจทุกตัวนะครับ แต่ดูเหมือน
PHA จะเด่นสุด เพราะแฟนผมก็กำลังเก็บตัวนี้อยู่เหมือนกัน

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 14, 2004 8:51 am
โดย stockms
มาเห็นด้วยครับว่า PHA จะเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลดีมากตัวหนึ่งปีนี้ แต่ที่ผมประมาณจะ conservative กว่าของคุณเหาฉลามคือน่าจะได้ซัก 13 บาทต่อหุ้น
สังเกตว่าหุ้นปันผลดีหลายตัวที่ธนชาติเสนอเป็นหุ้นส่งออกซึ่งต้องปรับตัวพอสมควรกับค่าเงินบาทที่จะแข็งขึ้น ผมจึงถือ cpf-w2 ในฐานะหุ้นเก็งกำไร
หุ้นปันผลดีอีกตัวซึ่งถึงแม้จะเป็นหุ้นส่งออกแต่ก็มีต้นทุนเป็นดอลลาร์ด้วยเช่นกันจึงแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเลย คือ TUF

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 14, 2004 10:06 am
โดย be TVI
PHA ผมมองว่ากำไรที่ได้เยอะไม่ได้เกิดมาจากการดำเนินงานทางธุรกิจหลักคือ"ประกันภัย" แต่เป็นรายได้ที่เกิดจากการลงทุนในหลักทรัพย์ถึง 30-40%
แต่ยังไงผมยังสนใจและจะซื้อหุ้นตัวนี้เก็บไว้เหมือนกัน แต่ว่าคงจะถือไว้อีกซัก 1-2 ปี คงจะไม่ถือไว้นานครับเพราะคิดว่าปีนี้-ปีหน้าทาง PHA คงจะได้กำไรจากการลงทุนในหลักทรัพย์เยอะครับ

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 14, 2004 10:25 am
โดย ayethebing
be TVI wrote:
PHA ผมมองว่ากำไรที่ได้เยอะไม่ได้เกิดมาจากการดำเนินงานทางธุรกิจหลักคือ"ประกันภัย" แต่เป็นรายได้ที่เกิดจากการลงทุนในหลักทรัพย์ถึง 30-40%
แต่ยังไงผมยังสนใจและจะซื้อหุ้นตัวนี้เก็บไว้เหมือนกัน แต่ว่าคงจะถือไว้อีกซัก 1-2 ปี คงจะไม่ถือไว้นานครับเพราะคิดว่าปีนี้-ปีหน้าทาง PHA คงจะได้กำไรจากการลงทุนในหลักทรัพย์เยอะครับ
ประทานโทษเถอะครับ ธุรกิจประกันภัยเนี่ย รายได้จากการลงทุนมีความสำคัญเท่าๆ กับรายได้ที่ได้จากเบี้ยประกันภัยครับ สัดส่วนกำไรจากการลงทุนอาจเป็นกว่า 50% ของกำไรสุทธิเลยทีเดียว

คิดดูเอาเงินมาให้เป็นเงินกินเปล่า (ไม่ต้องคืนผู้เอาประกัน) เสียค่าสินไหมในกรณีที่มีการเรียกร้อง (ซึ่งเป็นการแสดงความสามารถในการ underwrite กรมธรรม์ของธุรกิจประกันภัย ถ้า underwrite เก่ง เคลมเรโช ก้อน้อย) เงินเหลือก้อต้องไปลงทุนอยู่แล้ว เหมือนแบงก์กลายๆ เลย

ลองมาดูพอร์ทเงินลงทุนของ PHA มี 2.8 ล้านโดยประมาณ ในงบไตรมาส 3

พันธบัตร 7.7%
ตั๋วเงินคลัง 0.4%
ตั๋วเงิน 29.9%
หุ้นทุน 28.9%
หุ้นกู้ 15.3%
หลักทรัพย์อื่นๆ 17.9%

กำไรจากเบี้ยประกันภัย = 98 ล้าน
กำไรจากการลงทุน = 105 ล้าน

แหะ แหะ ผมเก็บ PHA ไว้เลี้ยว เย้ มีเพื่อนแล้ว

อืมปันผลตั้ง 16 บาท เชียวเหรอ ผมว่าไม่ถึงแหละ น่าจะประมาณ 11-13 บาทนะ

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 14, 2004 6:44 pm
โดย champ
โอ้โห :cry: :cry: :cry: :cry:
ตัวที่พี่เจ๋งพิมพ์มาผมไม่มีเลยครับ
ตัวที่ผมหวังกินปันผลไม่อยู่ในนั้นเลยครับ
แต่ผมก็ยังก้มหน้าก้มตารับอยู่ทุกวันเลย
ไม่มีโบรคเชียร์ก็ไม่เป็นไรครับ

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 14, 2004 10:26 pm
โดย เหาฉลาม
เห็นตำนานอย่างเฮียคลายเครียดมาเชิญคุณ Jeng ไปเป็นวิทยากรถึงที่นี่แล้ว
อดปลื้มแทนไม่ได้ เฮียแกชอบซื้อหุ้นที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักแล้วปล่อยทิ้งไว้
จนมันมีราคาเป็นทองมานักต่อนัก นั่นแสดงว่าเฮียท่านต้องเห็นศักยภาพบางอย่าง
ในตัวคุณ Jeng ที่มาเล่นหุ้นได้ไม่นานว่าต่อไปจะรุ่งเรืองมีพอร์ทนับพันล้านบาท

ถ้าเฮียคลายเครียดเข้ามาอ่านกระทู้นี้ผมอยากเสนอแนะให้ส่งเทียบเชิญ
ไปที่กระทู้กระทิงเขียวและเชิญ เฮียไลท์ คุณปีเตอร์ ชาง รวมทั้งพี่น้องตระกูลเจ็ด
ผมว่าผู้คนไปจนล้นหลามแน่ และต้องขอโทษเจ้าของกระทู้ที่เข้ามาเบียดบังพื้นที่
พร้อมกันนี้ขอกล่าวสวัสดีตอบยัง คุณนักดูดาว คุณck คุณstocks คุณayethebingและท่านอื่นๆ

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 14, 2004 10:50 pm
โดย CEO
เสี่ยเจ๋งของเราดังใหญ่ ขนาดท่านเหาฉลามยังตามมาชมถึงที่นี่

อิอิ

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 15, 2004 11:25 am
โดย คลายเครียด
คุณเหาฉลาม
ศิษย์น้องจากเตรียมอุดมกวักมือเรียก คุณเหาฉลามยังไม่ยอมมาเลย
แล้วจะให้ผมไปเชิญคนจากเวป ที่ผมยังไม่เคยตั้งหรือตอบกระทู้ได้ไง
ความจริงคุณวีคเกสท์ได้ตั้งกระทู้เชิญไว้แล้วครับ
คุณไลท์ไม่อยากมา เพราะคุณสุเกียงเพื่อนซี้ไม่ยอมมา
ส่วนคุณสุเกียงไม่ยอมมา เพราะมีปัญหาเกี่ยวกับการรับฟัง
เท่าที่ผมดู รวมเบ็ดเสร็จมีคนจากกระทิงเขียว
"รับปาก" จะมาร่วมงานรวมสองคน ฮาๆๆๆ

คนมากหรือน้อย ไม่สำคัญเท่ากับเราได้อะไรไปจากงาน
ผมได้แน่ๆคือมิตรภาพแดนไกล
จากคุณเอี๋ยว คุณธราธิป คุณปรัชญา ฯลฯ
คุณเอี๋ยวนี่ ผมก็ยังงงเลยว่า
คุยกันมาได้ยังไงตั้งเกือบสามปี
โดยที่ไม่เคยซื้อหุ้นตัวเดียวกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว

สำหรับนักลงทุนรายใหม่ๆ ก็คงได้สาระความรู้กลับไปครับ

ฝากข้อความถึงคุณนักดูดาวในกระทู้นี้ด้วย
ผมได้เพิ่มเครียดเรโชหุ้นในหมวดประกันภัย
ตัวเดียวกับคุณนักดูดาว ไปอีกห้าหมื่นหุ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว
ถ้ายังจ่ายปันผลแค่บาทเดียว ผมจะโวยในที่ประชุมอย่างแน่นอน

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 15, 2004 12:04 pm
โดย นักดูดาว
ผมปรับพอร์ตมาถือหุ้นตัวเดียวกับเฮียเหาเพิ่มอีก 1 ตัว

ถ้าในหุ้นที่เฮียคลายเครียดว่านี่ พอร์ตเล็ก+มือใหม่อย่างผม มีหุ้นน้อยกว่าเฮียหลายเท่าครับ เรื่องปันผลคงต้องทวงกันถึงเรื่องนโยบายบริษัท ว่าจะปันผลให้ถึง 80% ของกำไร แต่ผมขอเพียง 50% ก็คิดว่าน่าพอใจนะครับ

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 15, 2004 1:44 pm
โดย มดง่าม
:D ปันผลแค่12บาทก็ :D :D :D แล้วละครับ

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 16, 2004 10:40 pm
โดย ปรัชญา
เหาฉลาม เขียน:เห็นตำนานอย่างเฮียคลายเครียดมาเชิญคุณ Jeng ไปเป็นวิทยากรถึงที่นี่แล้ว
อดปลื้มแทนไม่ได้ เฮียแกชอบซื้อหุ้นที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักแล้วปล่อยทิ้งไว้
จนมันมีราคาเป็นทองมานักต่อนัก นั่นแสดงว่าเฮียท่านต้องเห็นศักยภาพบางอย่าง
ในตัวคุณ Jeng ที่มาเล่นหุ้นได้ไม่นานว่าต่อไปจะรุ่งเรืองมีพอร์ทนับพันล้านบาท

ถ้าเฮียคลายเครียดเข้ามาอ่านกระทู้นี้ผมอยากเสนอแนะให้ส่งเทียบเชิญ
ไปที่กระทู้กระทิงเขียวและเชิญ เฮียไลท์ คุณปีเตอร์ ชาง รวมทั้งพี่น้องตระกูลเจ็ด
ผมว่าผู้คนไปจนล้นหลามแน่ และต้องขอโทษเจ้าของกระทู้ที่เข้ามาเบียดบังพื้นที่
พร้อมกันนี้ขอกล่าวสวัสดีตอบยัง คุณนักดูดาว คุณck คุณstocks คุณayethebingและท่านอื่นๆ

:P มายืนต้อนรับ เฮียเหาฉลาม ด้วยความนับถือครับ

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 17, 2004 9:36 pm
โดย chatchai
แล้วถ้าปีนี้ตลาดหลักทรัพย์ไม่ดี PHA จะปันผลเหลือซักกี่บาทครับ

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 17, 2004 9:57 pm
โดย stockms
คุณฉัตรชัยเริ่มมีลางสังหรณ์ว่าตลาดปีนี้จะไม่ดีหรือครับ ผมจะได้ระวังตัว

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 17, 2004 10:29 pm
โดย ลูกอิสาน
คุณฉัตรชัยคงต้องการให้ข้อคิดว่า
กำไรของบริษัทประกันในส่วนที่เกิดจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
จะผันผวนขึ้นลงไปตาม ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นครับ
ปีใดหุ้นขึ้น ก็คงได้กำไรมาก
ปีใดหุ้นลง กำไรส่วนนี้ก็น้อยลง หรืออาจจะขาดทุนไปเลย

นอกจากนั้นกำไรส่วนนี้ ยังคงเป็นตัวเลขทางบัญชี
เว้นแต่จะมีการขายหุ้นที่ถือไปครับ
ดังนั้นหากคาดหวังปันผลสูงๆ คงต้องพิจารณากระแสเงินสดด้วยครับ

สงสัยทำไมหุ้นปันผลสูงๆ ไม่ค่อยมีคนสนใจ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 18, 2004 1:03 am
โดย เหาฉลาม
รู้สึกเป็นเกียรติที่เจ้าพ่อบริษัทโฆษณาอย่างคุณปรัชญาออกมาต้อนรับครับ
จริงๆแล้วผมนับถือแนวคิดการถือหุ้นที่ดีๆนานๆโดยไม่หวั่นไหวการขึ้นลงของราคาหุ้นมากนัก
เช่นที่คุณปรัชญา คุณครรชิต ไพศาล คุณsirivajj รวมทั้งลุงขวด ยึดถือปฎิบัติอยู่
ผมไม่ได้เข้ามาเพื่อชื่นชมและหาพื่อนกับท่านที่เอ่ยนามข้างต้น แต่มาพร้อม

ทฤษฎีการเล่นหุ้นในรูปแบบความคิดของนักวิศวกรรมอุตสาหการโดยให้ความ
สนใจพุ่งตรงไปที่ productivity ในการลงทุนผมจึงมองหุ้นเสมือนสินค้าที่จะผลิตออกขาย
การผลิตสินค้าให้ตรงความต้องการของตลาดด้วยจำนวนที่มากและยาวนานจึงดีที่สุด
อุปสรรคในการผลิตสินค้าที่สำคัญๆจึงได้แก่

S stop คือหยุดเครื่อง ถ้าเป็นหุ้นก้อได้แก่การขายหุ้นทิ้งอยู่เนืองๆเพราะไม่มั่นใจตัวสินค้า
D delay คือการเสียเวลาจากการรอ เช่นรอขายหุ้นตัวนู้นซื้อตัวนี้ รอเส้นนี้ตัดเส้นนู้น เป็นต้น
T trasportation คือการเสียเวลาจากขนถ่ายวัตถุดิบระหว่างจุดต่างๆ ถ้าเป็นหุ้นคงเปรียบ
ได้คล้ายๆการเล่น net settlement เช้าซื้อบ่ายขายมีแต่การขนถ่ายหุ้นแต่ไม่มีเวลาผลิต

จากที่กล่าวข้างต้นผมจึงเชื่อในการเลือกหุ้นหรือสินค้าให้ดีแล้วลงมือผลิตให้มีproductivity สูงสุด
หรืออาจเรียกว่าอึดที่สุด โดยพยายามลดหรือกำจัดตัว S D และ T ให้ออกจากระบบมากที่สุด