Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ในงาน TVI Meeting ครั้งที่2 ที่กานมณี...

"...ถ้าเราเห็นหุ้นของเราตกแล้วเราดีใจ กระโดดๆเพราะเราดีใจ คนอาจจะว่าเราบ้า ...แต่มันดีนะ มันดีที่เราจะได้ซื้อหุ้นดีๆถูกๆ...."

เอามาให้น้องใหม่อ่าน ข้อความนี้ไม่เชย ไม่ล้าสมัย

จำได้ซิ

นี่ก็กำลังหาอยู่ ทั้งตลาด หายังไม่เจอเลยที่ว่าถูกไร้ตำหนิ

แบบสมัย 400 จุด

แต่ก็ดีใจ ที่มีโอกาสได้ซื้อของดี ราคาถูกครับ ท่านมน มันนี่

เงินสดไม่เหลือเลยครับซัดไปหมดมือ ตั้งแต่งวดก่อน ปีนี้ผมต้องแก้ไขเรื่องการสำรองเงินสด จริงๆจังๆซะแล้ว:oops:

แดงแรกๆก็กร่อยๆครับ แต่พอพอร์ตช้ำเลือดช้ำหนองแบบตอนนี้ กลับกำลังบอกตัวเองว่า ซึมไปอีก นานๆด้วย รอให้มีเงินมาซื้อเพิ่มก่อน

ปล ผมอยากได้ส่วนลดอีกซัก 10% แต่มันจะโหดร้ายกับคนอื่นเกินไปมั้ยเนี่ย

ในการทำการค้านั้น

เราก็ต้องประมาณการ ยอดขาย รายได้ รายจ่าย กำไร และเตรียมเงินทุน

เมื่อคำนวณ แล้วว่า การค้าการลงทุนของเรานันได้ผลตอบแทน คุ้มค่า เราก็ลงทุน

พ่อค้า นักธุรกิจ เมื่อเจอธุรกิจ ที่ project ไป 5 ปี 10 ปี แล้ว มีโอกาสโตขึ้น มีกำไรมากขึ้น

ก็ตั้งใจทำงาน ถ้าเป็นไปตามแผน ผู้ถือหุ้น พนักงาน และทุกคนก็ happy

กลับมาเรืองหุ้น ผมเห็น เราวิเคราะห์กันสุดๆ กับ ข่าว สถานการณ์ปัจจุบัน อย่าดุเดือด

ยิ่งราคาวิ่งขึ้นเท่าไร ยิ่งคิดว่าธุรกิจนั้น ดี

ซึ่ง ถ้าราคาวิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะ ยอดขาย กำไร ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เราก็ยิ่งเชื่อ ว่า ราคานั้นๆ มีพื้นฐาน

อย่างไรก็ตาม เราคำนวณได้ง่ายมากเลย ว่าบริษัทนั้นๆ ยอดขาย จะโตอีกกี่เปอร์เซ็นต์ กำไรโตกี่เปอร์เซ็นต์

โดยประมาณ

ธุรกิจจริงๆก็ทำแบบนี้ โอกาสที่โตหลุดแผน น้อยมาก มีแต่โตต่ำกว่าแผน

อย่าง ktc พอการโตของกำไร สุดเล็กน้อย คือ ไม่โต ราคาหุ้นกลับวิ่งลงไป 16 บาท ก่อนย้อนกลับ เพราะแบงชาติเพิ่มเพดานสินเชื่อ 18 % เป็น 20 %

หุ้นที่ pe สูงๆ ที่ผมพูดแบบไม่เคยเหนื่อยเลย ว่า เราหวัง อัตราการเติบโตเท่าไร กับหุ้น pe สูง เกิน เช่น 18 ขึ้นไปถึง 35 เกิน 35 คนก็อาจจะกลัวกันหมด

ถ้าหุ้นใด ที่ เราซื้อ pe สูงๆ แล้วอัตราการเติบโต ไม่โตอย่างที่คิด หรือ หักหัวแรงนิดๆ หุ้นก็ลงอย่างมาก

และยังมีสถานการณ์อื่นๆอีกมากมาย ที่ทำให้หุ้นดีๆ ตกลงมาในจุดที่น่าซื้อ เช่น วิกฤติท่านอุ้ย 108 หรือ ระเบิด ตามด้วย นอมินี่

ซึ่ง เป็นโอกาสซื้อ อย่างท่านมนว่าไว้ครับ

"...ถ้าเราเห็นหุ้นของเราตกแล้วเราดีใจ กระโดดๆเพราะเราดีใจ คนอาจจะว่าเราบ้า ...แต่มันดีนะ มันดีที่เราจะได้ซื้อหุ้นดีๆถูกๆ...."

ครับแน่นอน เราต้องดีใจครับถ้ามีเงินสดเหลือ

แต่ถ้าไม่มีนี่สิ

ผมว่าคนที่อ่านหนังสือเกี่ยวกับ vi ส่วนนึงทำให้ถือแล้วไม่ขาย

เพราะอย่างประโยคของ warren เช่นถ้าทนเห็นหุ้นที่ถือตกไป 50%ไม่ได้ก็ไม่ควรซื้อหุ้น อะไรทำนองนี้

ทำให้หลายคนไม่ได้ขายเลยเมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น

อยากให้ช่วยแนะนำคนที่คิดแบบนี้ น่าจะเรียนรู้อะไรได้บ้าง

เพราะ warren จะเอาตังไหนมาซื้อตอนหุ้นถูก อย่างที่พี่เจ๋งว่า

buffet เองก็คงเคยถือหุ้นและผ่านช่วงที่ยากลำบาก ตก 50% มาก็เลย
พูดอย่างนั้น

แล้วตกแบบไหนละครับที่ buffet ถือโดยไม่ขาย แล้วตกยังไงขาย จนมีตังมาซื้อเวลาที่คนขยาด

คือคงไม่ต้องพูดถึงเรื่องหุ้นดีหรือไม่ เพราะคงมีแต่หุ้นที่ดีราคาต่ำกว่ามูลค่าอยู่แล้วของ buff อะนะ

buffet ทำยังไง คิดยังไง

เท่าที่อ่านในหนังสือ the new buffetology คือ กรอบของ บัพเฟต น่าจะใหญ่กว่าพวกเราคือ

เขาขายตอน

1. insainly high price ราคาสูงประสาทแดก

เช่น ถ้า pe หุ้นบางตัวไป 35 สำหรับตลาดบ้านเราตอนนี้ ผมว่า ขายๆ ไปเหอะๆ

ถึงจะขึ้นไป pe 40 ก็ช่างเหอะ

2. stuctural change เช่น บริษัท consumer monopoly ไป merge กิจการ กับ บริษัท commodity เป็นต้น

ส่วนถามว่าเอาเงินที่ไหนมาซื้อ ก็เอาปันผล มาซื้อก็ได้ เบิกไชน์ ณ ปัจจุบัน มีปัน ผลมหาศาล

ดร.นิเวศน์เอง เฉพาะปันผล ก็มากกว่าพอร์ทของคน อีกหลายแสนคนที่เข้ามาเล่น

ถ้าคิดว่า คนเล่นส่วนใหญ๋ มีพอร์ท ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

ตอนนี้ก็งงๆ อยู่ครับ

การสำรองเงินสด คงเป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่ง
คงต้องมีการกันเงินสดไว้เพื่อการลงทุนในอนาคต
หรือเวลารับเงินปันผล เราต้องเก็บไว้ ไม่ใช่รีบ reinvest ทันที

วอเรนตั้ง เบริกร์ไชร์ในรูปแบบของบริษัทครับ
คงได้รับเงินปันผลจากบริษัทลูก
แล้วคงเก็บเงินรอจังหวะให้การซื้อครับ

ส่วนผมตอนนี้ ไม่เหลือเงินสดเลยครับ เศร้า

ถ้าเราเหลือเงินทุกเดือน เราก็มีเงินลงทุนครับ

ต้องประหยัดครับ

ถ้าเล่นหุ้นแล้ว กินดอกกินผลกำไร

ในขณะที่ หุ้นขึ้น มีกำไร ก็ไม่มีปัญหา

ถ้าหุ้นลงนี่ ซิ

จะทำอย่างไร

วอเรน มีเงินเดือน อยู่บ้านหลังเดิม กินอาหารง่ายๆ

บริษัทที่ถือไว้ มีปันผล

อย่างไรก็ตาม วอเรนก็ขายหุ้นนะครับ แต่คงไม่ใช่เหตุผลเพียงแค่ ราคา สูง หรือ พื้นฐานเปลี่ยน

การเลือกหุ้น ผมคิดว่าถ้าเขารู้ว่าเลือกผิดเขาก็ขาย

และวงจรอุตสาหกรรม เช่นตอน ที่ตลาดหุ้น ตกต่ำปี 2000

ปรากฎว่า วอเรนเหลือเงินบาน มาซื้อ ตอนตลาดตกต่ำครับ

ผมคิดว่า วอเรน ขายหุ้น ที่ขึ้นมาสูงๆ ในช่วง ที่เล่น ใหม่ๆ

เมื่อแก่แล้วก็เน้นถือครับ

เพราะขายไปก็ไม่รู้จะซื้ออะไร และปันผลที่ได้รับ ก็ต้องหาทางลงทุนเพิ่มอีก เนื่องจาก เบิกไชน์ไม่ได้ปันผลครับ

เขาว่า ผู้บริหารที่ดี ต้องเป็น นักพยากรณ์นิยม

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ กับการตัดสินใจ
โดยเห็นอนาคตธุรกิจไปอีก 4-5 ปีข้างหน้า  :D

ท่านประธานฯมารื้อฟื้นความหลัง ขอบคุณครับ

ถ้าหุ้นตกนานๆ เรามีเงินสดก็ค่อยๆเติมก็ได้นี่นา ค่อยๆซื้อไปเรื่อยๆไม่เห้นต้องรีบ

ผมไม่เข้าใจคำว่าไม่มีเงินสดเหลือ? แล้วทุกวันนี้เอาเงินที่ไหนกิน ใช้?

sunrise เขียน: ส่วนผมตอนนี้ ไม่เหลือเงินสดเลยครับ เศร้า

8) อาซันนะ
    อย่าไปติดกับดักไม่เหลือเงินสดนะ..
    หุ้นที่อาซันมีอยู่นะ เงินนะ ไม่ใช่แมว...
    น้องซันขายเมื่อไร ก็เป็นเงินเมื่อนั้น..

por_jai เขียน:

8) อาซันนะ

ตัวไหนอ่ะครับพี่sun บอกกันบ้างดิ  :P

อีก 25 ปี ผมจะมีมูลค่าพอร์ต เท่ากับ 1/4 ของท่าน ดร.นิเวศน์ฯ

แต่อีก 13 ปี ผมก้อจะสบายตัวแล้ว ...

8)  8)  8)

ขอบคุณสำหรับข้อเตือนใจ
เมื่อก่อน ฟุ่มเฟือย ฟู่ฟ่า เดี๋ยวนี้ หันกลับมาใช้ชีวิตเรียบง่าย ประหยัด เก็บเงินลงทุนกองทุนตราสารหนี้ครึ่งหนึ่ง เก็บไว้ซื้อหุ้นครึ่งหนึ่ง
จะมุ่งมั่นกับเส้นทางนี้