ความคิดของผม โดย โลกมันยังกลม

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
userxxxx
Verified User
โพสต์: 5
ผู้ติดตาม: 0

ความคิดของผม โดย โลกมันยังกลม

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ความคิดจาก โลกมันยังกลม อายุ 23 จบแค่ ม.6ขอทำนาย

เศรษฐกิจโลก รอบ10ปีนี้จะอยู่ในช่วงขาลง เนื่องจาก
สาเหตุสำคัญ ประการเดียว คือ ราคานำมั้น ที่เพิ่มสูงชึ้นเกินพื้นฐานเศรษฐกิจโลก ที่รองรับได้ ทำให้กระแส เงินที่หมุนเวียน อยู่ เกิดอาการ
ไหลไปสู่จุดๆๆเดียวทำให้เกิด ความไม่สมดุลขึ้นมา จะทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา อย่างร้ายแรง เศรษฐกิจโลกโตมาหลายปีแล้ว น่าจะสู่ ช่วงวงจรขาลง
ตามวัฏจักร มะเร็งร้ายในเศรษฐกิจที่แอบแฝงมานาน กำลังเริ่มแสดงอาการ
ดูจากอาการ ป่วย ครั้งนี้แล้ว คงจะรักษาได้ด้วยยาขนานเดียว คือ
หาเชื้อเพลิงทดแทน น้ำมัน ถ้ายังรักษาไม่ได้ อาการมันจะทำให้เกิดการ
ช๊อตร่ายกายไม่เจริญเติบโต ทำได้เพียงแค่พยุงรักษาอาการไปเท่านั้น
น่าจะสู่ยุคเงินฝืด ยุคเงินซึมถามว่าชว่งเศรษฐกิจ อาการแบบนี้
คงมีผล ต่อ การลงทุนใน หุ้นทั้งระยะ สั้นและระยะยาว เก็บเงิน สดไว้ดีกว่า
ลงทุนก็คงได้ผลตอบแทนนิดเดียว
มีแต่ความเสี่ยงทั้งนั้นเลยโอกาสได้เงินน้อยมาก

ผลพวงจากสึนามิ น้ำมันรอบแรก กระทบประเทศที่กำลังพัฒนาไปแล้ว
คลื่นลูกหลังที่จะตามมา จะใหญ่หรือเล็กไม่รู้

รู้แต่ว่านาทีนี้ ทะเล มันไม่สงบแล้ว เพราะ พวกผูกขาดทางการค้า
อย่าง พวก อะบังบ่อน้ำมัน สุดท้ายมันจะได้รับผลสะท้อน จากการที่มันเตะ
อัดลูกบอลใส่กำแพง เมื่อมันบีบ ไม่มีอะไรหรอกที่มนุษย์ ทำไม่ได้
แต่อีกกี่ปีเท่านั้นเอง เมื่อเงินมันไหลไปทิศทางเดียว ผลพวงแห่งความไม่สมดุล จะเกิดขึ้น ถามว่า จีนและ อินเดีย มันกำลังโต แต่ผมว่ามันน่าจะชะงักได้เมื่อมันโตโอเวอ เกินไป ทุกอย่างมันต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
สุดท้ายไม่หนีหลักธรรมชาติ ทำใจรับช่วง เศรษฐกิจ ขาลงได้แล้ว
แต่ถ้ามอง ดูประเทศไทย แล้วผมว่า อาการ น่าจะหนัก เอาการ
ผลิตน้ำมันไม่ได้ แล้วยังใช้แบบฟุ่มเฟือย การใช้พลังงานไม่มีประสิทธิภาพ
เผาผลาญน้ำมันแบบน่าเสียดาย เอื้อประโยช ให้ ปตท . กำไรอย่างเดียว
มองนโยบาย กองทุนราคาน้ำมัน ส่งมาเพื่อ ปตท. ชัดๆๆ
ประเทศเราปล่อยสินเชื่อเงินไปจมปลักกับ สินทรัพ ไม่ก่อเกิดรายได้มากเกินไป ทำให้ประชาชนเป็นหนี้เร่งการเจริญเติบโต ไม่เข้าท่า
ดูแล้วอาการน่าเป็นห่วงจิงๆๆ ทุกวันนี้ รากหญ้า กำลังจะตาย ยังไม่รู้เรือ่ง
เสียดาย ที่ประเทศเรามีบุญ ฟ้าส่ง ในหลวง ให้แก่คนไทย
แต่ คนไทยทำตัว ถ่วง ความเจริญ อีกทั้งยังไร้ซึงผู้นำประเทศ ที่มีความสารถและทำเพื่อประเทศชาติ ดูแล้ว ได้แต่ปลง จิงๆๆ
ประเทศเรามีปัญหาอย่างมากเกี่ยวกับโครงสร้างประเทศ ทั้งระบบการศึกษา จบมาไร้ประสิทธิภาพ ถึงมีความรู้ แต่มิได้นำมาใช้ มี 100 ใช้แค่ 20
ระบบข้าราชการไร้ซึ่งการพัฒนา ทำงานเช้าชามเย็นชาม
การใช้งบประมาณประเทศ ก็ไม่มีประสิทธิภาพ ใช้ไม่คุ้ม ค่าเลย
ปัญหาแบบนี้คนไทยเรารู้ทั้งรู้แต่ยังไม่แก้ หรือว่าหมดปัญญาแก้ก็ไม่รู้

ปล. แค่อยากระบาย เป็นความเห็นส่วนบุคคล
เป็นความคิดแบบผสมๆๆอึดอัดมานานแล้ว
ปีนึง ผมเสียภาษี ให้ ไม่เคยโกงประเทศชาติ เสียดายเงินชะมัด


มิใช่ผมจะติอย่างเดียวแต่มีแนวทางแก้ไข ให้วันหลังจะมาโพส เสนอความเห็นการพัฒนาประเทศ

แต่ขอเตือน เรื่องเศรษฐกิจที่จะกิด ขึ้น
มีความรู้น้อย แต่ขอบังอาจชี้แนะ คงไม่ว่ากัน
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 32

ความคิดของผม โดย โลกมันยังกลม

โพสต์ที่ 2

โพสต์

แต่ละคนแก้ต้องเรืองเศรษฐกิจของตัวเองให้ได้ก่อนครับ

และเมื่อแต่ละคนแก้ที่ตัวเองได้แล้ว ยืนได้แล้วค่อยไปแบ่งปันบอกเล่าให้คนอื่นแก้ได้

และเมื่อทุกๆคนเศรษฐกิจดีขึ้น กลุ่มนั้น หมู่นั้น จังหวัดนั้น ประเทศนั้นก็ดีขึ้นเองครับ

ความหวังอยู่ที่แต่ละคน

คนที่เคยพลาด ก็แก้ไข กลับมายืนใหม่

คนที่ไม่เคยพลาด ก็อย่าประหมาด

ผมยกตัวอย่างเช่น ส่วนตัวผมเองไม่เคยตื่นเต้นกับรถเบนซ์ รถปอเช่ รถหรูหรา ผมไม่เคยตั้งใจไปดูงานมอเตอร์โชว์ แต่จำได้ว่าเคยไปเดินเล่นๆ 1 ครั้ง ที่สวนอัมพรนานแล้ว และก็ไม่เห็นมีอะไรน่าดู แปลกใจนิดๆ ทำไมคนเยอะจัง

ตราบใดที่ผู้หลักผู้ใหญ่ ในบ้านเมืองเรา หมายถึงคุณๆ ท่านๆนะ คือคนระดับหมอ วิดวะ ปริญญาโท เจ้าของกิจการ และผู้บริหาร

ยังตื่นเต้นกับสิ่งเหล่านี้ ในทีสุด คนรุ่นหลังๆก็ตื่นเต้นตามครับ

เราก็ต้องจ่ายแพงเกินจริง

อย่างเครืองจักร เครืองมือ คอมพิวเตอร์ มือถือ บางรุ่น ทีเราตื่นเต้น กับคุณสมบัติ แล้วเราก็ไปซื้อ ซึ่งส่วนใหญ่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศมา สุดท้ายก็ไม่ค่อยได้ใช้ตามคุณสมบัติที่เขาให้มา หรืออย่างมากก็ใช้เท่ห์ๆ

ก็อย่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราทรงตรัสไว้ในเรืองเศรษฐกิจพอเพียงอะครับ

เราแต่ละคน ก็ค่อยๆพยายามพอเพียงดูครับ ถ้าค่อยๆทำได้ทีละ 1 คนไปเรือยๆ เดี๋ยวก็พอเพียงกันทั้งประเทศเองครับ

เรืองน้ำมันแพงไม่ค่อยมีผลกับผมเลยครับ เพราะวันๆผมไม่ค่อยได้ไปไหน อยู่บ้านก็สบายดีครับ
BHT
Verified User
โพสต์: 1822
ผู้ติดตาม: 0

ความคิดของผม โดย โลกมันยังกลม

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ส่วนตัวผม ผ่านวิกฤติทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจมาหลายครั้ง

ผมเคยกินใช้อย่างไร ผมเคยมีรายได้อย่างไร ก็ยังคงจนเหมือนเดิม บางครั้งข่าวที่ออกมาทำให้เราประหยัดหนักไปอีก ทั้งที่ปกติก็ประหยัดสุดๆอยู่แล้ว

ผมจึงคิดว่าเศรษฐกิจกับการเมืองดีหรือไม่ดี มันเป็นภาพรวม ไม่ได้มีคนกระทบทุกคนหรอก

ปล. คนอื่นอาจจะรู้สึกแตกต่างกันก็ได้นะ เพราะผมเจอมาแบบนี้
007-s
Verified User
โพสต์: 2496
ผู้ติดตาม: 0

ความคิดของผม โดย โลกมันยังกลม

โพสต์ที่ 4

โพสต์

มีแง่คิด บางประโยค บางตอน น่าสนใจ อ่านมา แล้วคิดว่า น่าจะเป็นอะไรที่ดี จึงเอามาฝาก
(จาก The Science Of Getting Rich ,โดย วอลเลส ดี. วัตเทิลส์ ,แปลโดย พัชรี เกรแฮม)
(ไม่แค่จะโยงว่า จำเป็นต้อง rich หรือไม่ แต่เพียงอย่างเดียว ทั้งมันน่าจะนำมาประยุคใช้ได้ ในหลากหลายประเด็น)

....................................................................................................

"จงมีความเชื่อมั่นในความสามารถของคุณ ว่าจะเผชิญหน้ากับทุกๆสถานการณ์ได้ เมื่อมันมาถึง"

"ไม่มีใครหรอกที่จะหลงทางเสียจนไม่สามารถค้นพบสถานที่ ที่ถูกต้องได้"

"จงฝึกตนเองให้คิด และมองโลกว่าเป็นสิ่งซึ่ง กำลังจะเกิดขึ้น กำลังเติบโต และมองสิ่งซึ่งดูเหมือนจะเลวร้ายว่า เป็นเพียงสิ่งที่จะไม่ได้รับการพัฒนาอีกต่อไป"

"สิ่งที่คุณต้องการ จะมาสู่ตัวคุณได้โดยความคิด และคุณจะสามารถรับมันได้โดยการปฏิบัติ"

....................................................................................................

:D
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 49

ความคิดของผม โดย โลกมันยังกลม

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ปีเตอร์ลินช์บอกให้ขายหุ้นตอนที่ใครๆก็พูดถึงหุ้น เช่น

แท็กซี่พูดถึงหุ้นในบทบาทของนักวิเคราะห์หุ้นตัวฉกาจ........
เพื่อนบ้านก็พูดถึงหุ้นในฐานะนักข่าววงในที่รู้ลึกยิ่งกว่าเจ้าของบริษัทเสียอีก.....
สามล้อไม่เคยเล่นหุ้นเลยก็ยังพูดเรื่องหุ้นจนคนเล่นหุ้นเป็นสิบๆปีต้องอายม้วน........

เหล่านี้เป็นสัญญาณให้ลินช์ขายหุ้น

ส่วนสัญญาณให้ซื้อหุ้นจะตรงกันข้ามกัน ลินช์เขาว่าอย่างนั้น
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 49

ความคิดของผม โดย โลกมันยังกลม

โพสต์ที่ 6

โพสต์

มีแง่คิด บางประโยค บางตอน น่าสนใจ อ่านมา แล้วคิดว่า น่าจะเป็นอะไรที่ดี จึงเอามาฝาก
(จาก The Science Of Getting Rich ,โดย วอลเลส ดี. วัตเทิลส์ ,แปลโดย พัชรี เกรแฮม)

เห็นนามสกุลแล้วสะดุดอ่ะครับ

ไม่ทราบว่ามีความเกี่ยวพันกับ เบนจามิน เกรแฮม บิดาแห่ง VI ไหมครับคุณ 007-s
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
yutarng
Verified User
โพสต์: 80
ผู้ติดตาม: 0

ความคิดของผม โดย โลกมันยังกลม

โพสต์ที่ 7

โพสต์

คุณสามัญชน ตาไวจริง ๆ เลยครับ :rofl:
007-s
Verified User
โพสต์: 2496
ผู้ติดตาม: 0

ความคิดของผม โดย โลกมันยังกลม

โพสต์ที่ 8

โพสต์

สามัญชน เขียน:มีแง่คิด บางประโยค บางตอน น่าสนใจ อ่านมา แล้วคิดว่า น่าจะเป็นอะไรที่ดี จึงเอามาฝาก
(จาก The Science Of Getting Rich ,โดย วอลเลส ดี. วัตเทิลส์ ,แปลโดย พัชรี เกรแฮม)

เห็นนามสกุลแล้วสะดุดอ่ะครับ

ไม่ทราบว่ามีความเกี่ยวพันกับ เบนจามิน เกรแฮม บิดาแห่ง VI ไหมครับคุณ 007-s
:shock: เพิ่งสะดุดตามคุณหมอค่ะ

คิดว่าอาจจะไม่เกี่ยวมังคะ เป็นหนังสือที่เพิ่งเอามาแปล พิมพ์ครั้งที่หนึ่ง เมื่อต้นปีนี่เอง มค.49
(แต่แปลมาจากต้นฉบับ ที่เขียนขึ้นเมื่อร้อยปีก่อน)

ชื่อหนังสือ "ศาสตร์แห่งความร่ำรวย" อ่านหน้าปกครั้งแรก นึกไปว่า เป็นหนังสือ ทำนองการเงินการลงทุนทั่วไป (นึกไปประมาณพ่อรวยสอนลูก :lol: )

แต่พลิกอ่านด้านในแล้วจะพบว่า เป็นเชิงจิตวิทยา กึ่งๆอาจจะมีแนวปรัชญาแฝงๆ ,ถ้าอ่านแนวนี้ในเล่มอื่นๆบ้าง จะเป็นการทำความเข้าใจ เชิงวิทยาศาสตร์เล็กน้อย ด้วยซ้ำ ในเรื่องการทำงานผสานกัน ,หน้าที่ๆแยกส่วนกัน ของ จิตสำนึก กะจิตใต้สำนึก ....อะไรประมาณนี้อ่ะค่ะ ดิฉันอาจจะอธิบายได้ไม่เคลียร์เท่าไหร่นักนะคะ :oops:

สำหรับผู้แปล ไม่ทราบเลยค่ะ ว่าเกี่ยวกันยังไงสายไหน หรือไม่ประการใด

แต่ชื่อที่ลงมาเต็มๆ ในวงเล็บนามสกุลเดิม-คงแปลว่าสมรสไป คือ ...พัชรี (สุวรรณนาวาสิทธิ์)เกรแฮม ค่ะ

:D
โพสต์โพสต์