Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมมีความรู้สึกว่ากลุ่มนี้เหมือนต้องคำสาปมาหลายปีแล้วนะครับ ราคาตอนนี้ก็ถูกมากๆหลายๆตัว
สมมตินะครับ ..สมมุติว่า ถ้าเกิดการฟื้นตัวของกลุ่มนี้
1.เพื่อนๆคิดว่าจะฟื้นด้วยสาเหตุใด
2.ตัวไหนที่คิดว่าจะฟื้นเป็นผู้นำกลุ่ม

จีนโดนมาตรการโควตาจาก EU และ อเมริกา แบบหนักๆ พร้อมกัน และประเทศอื่นๆ ก็ไม่สามารถส่งไปขายได้ด้วยเหมือนกัน

คงจะเป็นตัวที่ไปตั้งโรงงานที่อาฟริกา   ในนี้มีตัวไหนบ้างไหมเอ่ย :lol:

1.เพื่อนๆคิดว่าจะฟื้นด้วยสาเหตุใด
      เรามีผู้ผลิตที่สามารถสร้าง brand ดังๆ ได้ประมาณ Esprit  Giodano  หรืออย่างแย่ก็คือ  British India ของ Malaysia

2.ตัวไหนที่คิดว่าจะฟื้นเป็นผู้นำกลุ่ม
       ยังมองไม่เห็นเลยครับ    เห็น suc เค้าสร้าง brand รองเท้าคือ D-max  แค่ชื่อก็ยังเหมือนรถปิคอัพแล้ว    คงจะมีความหวังริบหรี่ครับ

หลายธุรกิจในโลกนี้ที่เคย out of favor ไปนานมากๆ  เช่น  เหมืองแร่  โรงไฟฟ้านิวเคลียร์   กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหนึ่ง  

แต่หลายธุรกิจก็ไม่แล้ว ไปลับ  ไม่กลับมา  เช่น  ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ดีด   เพราะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยี  หรือโครงสร้างการแข่งขัน อย่างถาวรครับ  

อย่างสิ่งทอ  ยังไงผมคิดว่าค่าแรงงานไทยคงไม่กลับมาถูกเหมือนเดิมโดยเปรียบเที่ยบ     คงต้องปรับตัวพอสมควรครับ   หากให้อยู่รอด  น่าจะพอทำได้   แต่จะให้กลับมาเป็นอุตสาหกรรมดาวรุ่ง   ยังมองไม่ค่อยเห็นโอกาสครับ

จะให้กลับมาเป็นอุตสาหกรรมดาวรุ่งผมว่า

ไทยคิดค้นผ้านาโนเทคโนโลยีที่สามารถนำมาใช้เชิงพาณิชย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างเช่น ใส่แล้วทำความสะอาดตัวเองได้ -_-' เวอร์ไปหรือเปล่าเนี่ย

ซึ่งในส่วนนี้ผมว่ามันไม่ขึ้นอยู่กับบริษัทไหนจะเป็นตัวนำครับ มันขึ้นอยู่กับส่วนวิจัยของมหาวิทยาลัยอะไรจะเป็นคนคิดค้นได้
และบริษัทไหนมีเงินไปซื้อมา

ไม่น่าฟื้นแล้ว ฐานการผลิตสิ่งทอของโลกย้ายไปจีนและบังกลาเทศแบบถาวรแล้ว

เห็น suc เค้าสร้าง brand รองเท้าคือ D-max  

D-maQ ครับ ลองไปชมดูซิครับ รองเท้าวิ่งถูกจริงๆ
www.d-maq.com

สุมาอี้ เขียน:ไม่น่าฟื้นแล้ว ฐานการผลิตสิ่งทอของโลกย้ายไปจีนและบังกลาเทศแบบถาวรแล้ว

ผมว่าตลาด niche ยังมีอยู่นะ

ฟังๆมาว่าตอนนี้กำลังมีตลาดใหม่  limited  edition

ไม่รู้ทำเป็นอุตสาหกรรมได้หรือเปล่า

ผมว่า TR น่าสนใจนะครับ  แม้ในยามที่จีนปลูกฝ้ายเยอะมากและสต็อคไว้เต็มประเทศเมื่อสัก 2- 3 ปีก่อน TR ก็ยังทำกำไรได้ดี  

ค่าแรงจีนคงจะค่อยๆขยับขึ้น  

ค่าเงินจีนก็คงจะค่อยๆขยับขึ้น

ผมมองจากประวัติศาสตร์ก็ได้ความว่า  ในเรื่องสิ่งทอ อินเดียเขาเป็นจ้าวมานาน  ตั้งแต่เด็กๆก็ได้เห็นแขกขายผ้า ขายมุ้ง ส่วนคนจีนที่ผมจำความได้ก็มักจะขายอย่างอื่นที่ไม่ใช่ผ้า เช่นขายโอเลี้ยง ขายเต้าฮวย เป็นต้น

ยุคนี้จีนจะชนะอินเดียในเรื่องสิ่งทอ  ผมก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะ

:lol:

นับวัน ผมว่าจีน พัฒนา สิ่งทอ กลุ่ม electronic  ด้านความปราณีตได้เยี่ยมขึ้นเรื่อยๆครับ

การ์เมนต์ไทยออร์เดอร์ทะลัก > ผลพวงจีนถูกสหรัฐ-อียูกีดกัน/แข่งผุดโรงงานใหม่ 5 ตค. 2548
 
การ์เม้นต์ไทยเฮ ผลพวงจีนถูกสหรัฐ-อียูกีดกันนำเข้า ดันออเดอร์ทะลักถึงสิ้นปี หลายรายวิ่งหาที่สร้างโรงงานใหม่ขยายกำลังผลิตเพิ่ม ขณะที่จีนแห่ลงทุนไทยหวังลดกระทบ พร้อมเล็งใช้เป็นฐานส่งออกรับอานิสงส์เอฟทีเอไทย-สหรัฐ เผยสินค้าสวมสิทธิ์เริ่มแทรกซึมเข้าไทยแล้ว


นายเธียรชัย มหาศิริ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่าจากการที่สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป(อียู)ได้ใช้มาตรการปกป้องการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้นมาก(เซฟการ์ด) กับสินค้าสิ่งทอจากประเทศจีน เมื่อเดือน ก.ค.2548 หลังจากที่องค์การการค้าโลก(WTO)ได้เปิดเสรีสิ่งทอมาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้สินค้าสิ่งทอราคาถูกจากจีนได้บ่าทะลักเข้าสู่ตลาดนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ผลพวงดังกล่าวได้ส่งผลดีกับประเทศไทย โดยเวลานี้โรงงานผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป(การ์เม้นต์)ขนาดใหญ่และขนาดกลางได้รับคำสั่งซื้อเต็มกำลังการผลิตไปจนถึงสิ้นปี ซึ่งขณะนี้ผู้ประกอบการหลายรายอยู่ระหว่างการหาพื้นที่เพื่อตั้งโรงงานขยายกำลังการผลิต ซึ่งส่วนใหญ่ได้มุ่งการลงทุนไปยังภาคตะวัยออกเฉียงเหนือเนื่องจากยังมีแรงงานในพื้นที่อีกมาก ขณะที่โรงงานในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลมีปัญหาแรงงานขาดแคลน


ด้านนายกาสชัย แจ่มขจรเกียรติประธานกรรมการบริษัท แอพพาเรล แอ็ฟวีนิว จำกัด เปิดเผยว่า จากผลพวงจีนถูกกีดกันการค้าจากสหรัฐและยุโรป ลูกค้าได้มาลงออเดอร์กับบริษัทเพิ่มขึ้นและเต็มกำลังการผลิตไปจนถึงสิ้นปีแล้ว ทั้งนี้ช่วง 8 เดือนแรกบริษัทมีอัตราการขยายตัวของยอดขายมากกว่า 30% ซึ่งจากแนวโน้มที่ดีดังกล่าวบริษัทจึงมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตเสื้อเชิ้ต และกางเกงสแล็กอีก 6 แสนตัว/เดือน จากปัจจุบันโรงงานเดิมมีกำลังการผลิต 3.5 แสนตัว/เดือน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าของที่ดินเพื่อตั้งโรงงานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คาดว่าในต้นปีหน้าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ ปัจจุบันบริษัทมีตลาดหลักที่สหรัฐอเมริกาสัดส่วน 80% และอียู 20%


นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทยกล่าวต่อว่า นอกจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะขยายโรงงานไปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว มีผู้ประกอบการไทยประมาณ 2-3 รายได้ขยายการลงทุนไปที่ประเทศกัมพูชา เนื่องจากมีแรงงานจำนวนมาก ค่าแรงยังถูกกว่าไทยมากกว่าครึ่ง ขณะที่ปัญหาสหภาพแรงงานในกัมพูชาได้สงบแลงสร้างบรรยากาศที่ดี ขณะเดียวกันนอกจากการขยายการลงทุนของผู้ประกอบการไทยแล้ว ล่าสุดจากผลกระทบถูกกีดกันการนำเข้าสิ่งทอของจีนจากสหรัฐ และอียู ได้มีความเคลื่อนไหวของนักลงทุนจีนเข้ามาสำรวจเพื่อดูลู่ทางการตั้งโรงงานในไทยอย่างคึกคัก เพื่อใช้ไทยเป็นฐานการผลิตส่งออกไปยังสองตลาดแทนการส่งออกจากจีนโดยตรง เนื่องจากไทยไม่ถูกกีดกันจากสองตลาดดังกล่าว นอกจากนี้นักลงทุนจีนยังหวังผลในการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐหากเขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ)ไทย-สหรัฐได้บรรลุข้อตกลง


"ช่วงครึ่งแรกของปีนี้หลังเปิดเสรีสิ่งทอ สินค้าสิ่งทอจากจีนได้ส่งเข้าไปจำหน่ายในสหรัฐอย่างถล่มทลาย แต่พอเขาถูกใช้มาตรการเซฟการ์ด ออเดอร์ได้ย้ายไปประเทศอื่นมากขึ้น ซึ่งรวมทั้งไทย ในช่วงครึ่งปีแรกแม้เราจะเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงจากสินค้าจีน แต่การ์เม้นต์ไทยสามารถขยายตัวได้ถึง 5-6% แสดงให้เห็นว่าไทยมีศักยภาพในการแข่งขันสูง ซึ่งถึงสิ้นปีนี้ผมคิดว่าเราจะโตไม่ต่ำกว่า 10%"


นายเธียรชัย กล่าวอีกว่า จากการเปิดเสรีสิ่งทอนอกจากมีผลทำให้จีนย้ายฐานการผลิตมาที่ไทยมากขึ้นแล้ว ส่วนหนึ่งได้มีความเคลื่อนไหวสินค้าจากจีนเข้ามาสวมสิทธิ์ไทยในการส่งออก ซึ่งขณะนี้ทางสมาคมอยู่ระหว่างการประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยไปยังตลาดสหรัฐและอียู อย่างไรก็ตามเขาระบุว่าการเปิดเสรีสิ่งทอจนถึง ณ เวลานี้คาดว่าจะมีผู้ประกอบการปิดกิจการไปแล้วไม่ต่ำกว่า 10% จากจำนวนโรงงานการ์เม้นต์ที่มีอยู่ประมาณ 2,000 โรงในประเทศไทย


อนึ่งช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ไทยส่งออกเครื่องนุ่งห่มมูลค่า 2,271 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่สิ้นปีนี้ตั้งเป้าส่งออก 3,975 ล้านดอลลาร์สหรัฐขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 17%


http://www.thannews.th.com/detialNews.p ... issue=2049

jaychou เขียน:ผมว่าตลาด niche ยังมีอยู่นะ

ใช่คะ คราวก่อนไปจีน... ความปราณีตยังสู้เราไม่ได้

ส่วนคนจีนที่ผมจำความได้ก็มักจะขายอย่างอื่นที่ไม่ใช่ผ้า เช่นขายโอเลี้ยง ขายเต้าฮวย เป็นต้น

นึกออกเพิ่มเติมครับ  อย่างอื่นก็เช่น ขายทอง(โดยเฉพาะเยาวราช) สมุนไพรจีน ยาจีน เป็นต้น แต่ถ้าเสื้อผ้าก็น่าจะเป็นพาหุรัดซึ่งแขกครองอยู่มาช้านานและเป็นจ้าวครองตลาดอยู่

ใช่คะ คราวก่อนไปจีน... ความปราณีตยังสู้เราไม่ได้

ใช่ครับ  ไปจีนคราวที่แล้วผมซื้อเสื้อผ้าเยอะพอสมควร คุณภาพสินค้าไม่ค่อยดีเอามากๆ(ตลาดรัสเซีย) ใส่ได้วันเดียวเป้ากางเกงก็แตกซะแล้ว แต่ตลาดอืนๆหรือในห้าง คุณภาพสินค้าก็ดีครับ

แต่โดยรวมการพัฒนาคุณภาพก็คงจะดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งดีเท่าหรืออาจจะดีกว่าจ้าวเดิมอย่างที่คุณโป้งว่า

ทีนี้ผมนึกถึงกฏการตลาดในคอลัมน์ที่ดร.นิเวศน์เคยพูดถึง เนื้อหามีว่าผู้ที่ครองตลาดเดิมมักจะได้เปรียบ  โดยเฉพาะในแง่ชื่อเสียงที่อยู่มานานกว่า  และอื่นๆอีกจำได้ไม่หมด อิอิ

ปล. ผมไม่มีหุ้น TR นะครับ  


แต่แฟนผมมี อิอิ  (คนละพอร์ทกัน)

ดังนั้นโปรดใช้วิจารณญาณ  เพราะผมมีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง(ทางอ้อม)ครับ  แล้วยิ่งสภาพคล่องน้อยๆด้วย การดึงขึ้นดึงลงก็ทำได้ง่าย  :lol:

หุ้นบางตัวอยู่ในกลุ่มสิ่งทอ แต่รายได้หลักมาจากธุรกิจอื่นๆ
อย่าให้ประเด็นนี้มาหลอกเราครับ

สิ่งทอต้องสร้างแบรนด์ให้ได้อย่าง nike
ถ้าปัจจุบันจะฟื้นก็เพราะจีนปรับหยวน
ทำให้ต้นทุนเขาสูงขึ้น
ส่วนตัวลีดบ้านเรามองยาก
อย่าง tr เขาไม่ได้ผู้บริโภคคนสุดท้ายเหมือน nike
แต่ tr ก็สร้างแบรนด์ได้ ต้องถามโรงงานผลิตที่ใช้สินค้า tr ครับ
ว่าเป็นไง

ในระยะกลาง ถึง ยาว คง ทอสู้จีนไม่ได้ครับ

จีนเขาก็ค่อยๆพัฒนาด้านคุณภาพแล้ว
ลองไปเดิน ประตูน้ำ สิครับ
เดี๋ยวนี้ เสื้อจากจีน เยอะมาก
แต่แบบ ยังไม่ค่อยหลากหลาย

เรื่องการ copy ให้ถูก china ถนัดนัก

สิ่งทออาจกลับมาในช่วง 5-10 ปีน้ได้ครับ

เนื่องจาก มาตราการปกป้องพิเศษด้านสิ่งท้อ (safeguard) ของ WTO  ที่สินค้าจีนเข้าไปเหมาตลาดในประเทศต่างๆ น่าจะมีผลให้ไทยกลับเข้าไปครองตลาดแถบ สหรัฐ ยุโรป ได้

ผมชอบ Arrow นะ .. สวยดีใส่สบาย

แต่ราคาไม่ถูกเลยนะ สแลกตัวละเป็นพัน ไม่ค่อยมี Sale ด้วยสิ

อิจฉานายตั๋งมาก ถือหุ้น TNL เนี่ย..มีส่วนลดมั้ยครับ

พวกนี้อาจจะโดนบ้าง แต่ถ้าวัตถุดิบอย่างผ้า ราคาถูกลง พวกนี้น่าจะได้ผลดีนา

อิจฉาผมทำม๊าย มีอยู่กะจึ๋งนึง

ผมไม่ค่อยได้สนใจหรอกครับ เรื่องการกีดกันหรือไม่กีดกัน
ผมว่า แบรนด์ มันมีอยู่ ยังไงมันก็มีตลาดรองรับ
ยังไงมันก็ขายได้ อย่างน้อยก็ในบ้านเรา
อีกอย่าง ผมว่าพวกนี้มันอยู่ที่ ดีไซน์มากกว่านะ
ถ้าเสื้อผ้าคุณมีดีไซน์ มันก็คนละตลาดกับผ้าโหลแล้ว
ไหนจะเรื่องการตลาดอีก
หลังๆนี่ ผมจะดูๆยี่ห้อ BSC มากกว่า คือดูเรื่องการตลาดนะครับว่าเป็นอย่างไร
เคยถามสาวๆ เขาก็โอเคนะ
ตอนประกวดนางงามก็เป็น สปอนเซอร์ด้วย

ที่ซื้อมาตอนนู๊น ก็เห็นมันถูกดี หนี้ก็ไม่มี ธุรกิจก็ง่ายๆ
brand มันติดตลาดดี เค้ามี arrow, guy laroach, daks, bsc
etc เห็นว่าสินค้าครอบคลุมหลายกลุ่มลูกค้าดี
ก็เลยซื้อๆมาครับ

เรื่องสิ่งทออยู่ช่วง sunset indrustry นี่ ผมก็เฉยๆครับ
ก็เห็นมันก็กำไรของมันอยู่ทุกปี อาจจะไม่ได้มากมายอะไร
แต่ถ้ามันถูก มันก็โอเคไม่ใช่เหรอ
เออ ถ้าเป็นอย่างเจ้า ตายเกลี้ยง ต่อให้สิ่งทอ เป็น super sun rise ผมก็ไม่เอา

ผมมีเสื้อผ้าที่ทอจากเส้นใยเรยอนผสมกับเส้นใยอื่น ๆ สี่ห้าตัว เนื้อผ้านุ่มใส่สบายมาก ๆ แล้วก็อยู่ทรงดีไม่ค่อยยับด้วยล่ะ ... ขอบอก

แต่หาซื้อยากหน่อยนะครับ  :D

กลุ่มนี้ต้อง tr แน่นอน แต่เมื่อไหร่จะแตกพาร์ละครับ หุ้นราคาสูงจริงๆ ผมเก็บเงิน 2 เดือน ยังซื้อไมได้ 100 หุ้นเลย ไม่เห็นใจคนเบี้ยน้อยหอยน้อยเลย  

แปลกเนอะ ชุดยี่ห้อ ยี่ห้อ BoonyaSith Chokewattana
ไม่น่าทำขึ้น แต่ก็ขึ้น ...นับถือฝีมือเจ้าของแบรนด์ครับ

ICC เคยมีเหมือนกัน และขายหมูไปแล้ว เหอๆๆ

พาณิชย์   มั่นใจอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มปีนี้โต 20%   มูลค่าไม่ต่ำกว่า
4,000ล้านดอลล่าร์สหร้ฐ   เชื่อหลังเอฟทีเอไทย-สหรัฐสำเร็จ   ช่วยทำให้มูล
ค่าส่งออกไปสหรัฐไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้าน US  เร่งผู้ประกอบการปรับโครง
สร้างรองรับ   ชี้ 2 ปัจจัยการแข่งขันสิ่งทอโลก   นวัตกรรมและขบวนการผลิต
ที่ดี
      นายปรีชา   เลาหพงศ์ชนะ  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิด
เผยถึงการส่งออกอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอไทยปีนี้ว่า    น่าจะมีการส่งออกไม่ต่ำกว่า 4,000ล้านUS  โดยตลาดสหรัฐคาดว่าจะส่งออกได้มากกว่า
2,000ล้านUS   หลังจากที่ไทยเจรจาเปิดเขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ)กับสหรัฐ
ซึ่งเชื่อว่าการส่งออกในอุตสาหกรรมนี้จะเพิ่มขึ้น  
      โดยปี 2549  ตั้งเป้าส่งออกไว้ไม่ต่ำกว่า 4,500ล้านUS  หรือขยายตัว
25%ตลาดสหรัฐภายใต้กรอบเอฟทีเอ  น่าจะส่งออกได้ไม่ต่ำกว่า 3,000ล้าน
US  คาดว่าการส่งออกไปสหรัฐจะเพิ่มขี้น50% เพื่อลองรับการเติบโตฯ