Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

หลังจากฟังงาน TVI จบมาก็มาตั้งคำถามกับตัวเองอยู่สัก 2 - 3 วัน จนกระทั่งหาคำตอบให้กับตัวเองได้ว่าต้องการอะไรจากการลงทุน (หลังจากฟังแล้วเบี่ยงเบน..........) เลยอยากมาถามคนให้ห้องว่า วันนี้คุณลงทุนต้องการอะไร
1. ซื้อ - ถือไว้ - รอรับ dividend - ไม่ขายจนกว่า จะไม่จ่ายปันผล หรือจ่ายไม่ดี - capital gain ถือเป็นเงินลงทุนต่อไม่นำมาใช้
2. ซื้อ - ถือไว้ - มี Capital gain เกิดขึ้น ไม่ขาย - เป้าหมาย capital gain - dividend ของแถม

หลังจากผมทบทวนได้ ผมได้เลือกเอาข้อ 1 เป็นหลัก เพราะผมถือว่า capital gain มันไม่ได้ให้ผมอยู่รอดในทุก ๆ ปี ไม่ได้จ่ายให้ผมเป็นค่าใช้จ่ายรายเดือน แต่ผมถือว่ามันเป็นค่าเสียเวลาที่ผมถือมันไว้

เลยอยากให้ทุก ๆ คน share idea ของ capital gain หน่อยว่าคิดกันอย่างไร

ซื้อหวังปันผลในระยะยาวที่จะเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนต่างเป็นผลพลอยได้
แต่เวลามันมามันจะมาคู่กันเสมอ

เป็นคำถามที่ดีครับ เราต้องแยกให้ออกว่าเรากำลังทำอะไร สำหรับผมผมมีแผนและเป้าหมายดังนี้ครับ

1) ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจที่ดีๆ มั่นคง โดยผมไม่ต้องการบริหารเอง

2) มีกระแสเงินสดเพื่อใช้ดำรงชีวิตอย่างเพียงพอ

ดังนั้นสิ่งที่ผมต้องการคือ

1) เมื่อเลือกได้อย่างดีแล้วลงทุนแบบไม่คิดถอย ร่วมประชุมและเสนอข้อคิดเห็น

2) ปล่อยให้มูลค่าโตขึ้นไปเลื่อยๆ

3) รับปันผล หากมีแผนใช้ก็ใช้ หากไม่มีแผนก็ลงทุนต่อ

สรุปก็คือเป็นเจ้าของธุรกิจดีๆ มีมูลค่าและกระแสเงินสดต่อเนื่อง

เลือกกิจการที่ดีในราคายุติธรรม เมื่อมีกำไร ถ้าเขาลงทุนต่อก็ไม่ต้องปัน หรือปันออกมาน้อยๆก็ไม่เป็นไร ถ้าไม่ลงทุนต่อก็ปันออกมา

ข้อแรก เลือกกิจการที่ดี ข้อสองซื้อในราคายุติธรรม

ส่วนจะปันหรือไม่ปัน เป็นเรื่องเล็กๆ ที่แล้วแต่สถานการณ์ บางปีอาจจต้องปัน บางปีอาจจะไม่ต้องปันก็ไม่เป็นไร

ถ้าเล่นหุ้นสักตัวดั่ง...ซื้อไอติมช็อคโกแลตทานสักถ้วย
ซื้อไอติมช็อคโกแลตมาทานถ้วยหนึ่ง
คนขายตักไอติมให้สองลูก และตักแถมให้เราอีกหนึ่งลูก (ผมคงยิ้มแก้มปริ)
คนขายไอติมใจดียังเอาลูกสตอเบอรี่สีแดงสดมาวางประดับบนถ้วยให้อีกหนึ่งลูก
แหม...อะไรจะอร่อยและน่ารับประทานปานนั้น!... 8)

หมายเหตุ: ถ้าซื้อมาทิ้งไว้นานๆ ก็ละลาย และก็น่าเสียดายซะนีกระไร

ถ้าหุ้นนั้นขึ้นมาเกินมูลค่าที่เป็นจริงในปัจจุบัน ผมจะเลือกรับ capital gain แล้วมองหาตัวใหม่ครับ

สนใจที่สุดของผมเป็น กำไรต่อหุ้น ทั้งในปัจจุบัน และอนาคตนะครับ ถ้ารู้ว่าจะมีอัตราเติบโตที่ดี ตลอด 10 ปีข้างหน้า และมีราคาปัจจุบันที่เหมาะสม ก็จะเกิดอาการหน้ามืดทันทีครับ ..... ไม่รู้เป็นอารายครับ.....

สำหรับผมซึ่งไม่มีรายได้อื่นเลย ผมเลือกหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลพอสมควร (มากกว่า 5%) เป็นอย่างน้อย และมีแนวโน้มที่จะจ่ายเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต

สิ่งที่ผมหวังเป็นหลักนั้นคือ Capital Gain ครับ ซึ่งผมมีความเห็นด้วยกับคุณ yoyo ว่าปรกติมันจะมาคู่กัน ซึ่งถ้าบริษัทจ่ายเงินปันผลเพิ่ม ราคาหุ้นก็ควรที่จะสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

แต่การที่บริษัทจะจ่ายเงินปันผลเพิ่มนั้นควรจะมาจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นหรือฐานะทางการเงินที่มั่นคงขึ้นนะครับ (ภาระในการลงทุนและชำระหนี้เงินกู้น้อยลง หรือมีเงินสดเพิ่มขึ้นอย่างมากจากการขายทรัพย์สิน ) ไม่ใช่กู้ยืมเงินมาจ่ายเงินปันผล ซึ่งถ้าบริษัทมีผลการดำเนินงานดีขึ้นหรือมีฐานะทางการเงินมั่นคงขึ้น ราคาหุ้นก็ควรที่จะขึ้นด้วยเช่นกันครับ ดังนั้นผมว่าไม่เห็นต้องคำนึงเลยครับว่าคุณหวังผลตอบแทนจากอะไร ถ้าบริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดี และมีการบริหารที่ดีแล้ว คุณย่อมจะได้ผลตอบแทนจากทั้งสองอย่างที่ดีแน่นอนครับ ถ้าราคายังไม่ถึงราคาพื้นฐานคุณก้ไม่ต้องขาย ไม่ว่าราคาจะสูงขึ้นเท่าไร แต่ถ้าราคาสูงขึ้นเกินกว่าพื้นฐานคุณก้ควรที่จะขาย ถึงแม้คุณจะหวังผลตอบแทนจากเงินปันผลเป็นหลักครับ เพื่อที่คุณจะนำเงินที่ได้ไปลงทุนตัวอื่นที่มีราคาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานต่อไปครับ

ในอดีตผมเคยลงทุนด้วยกลยุทธนี้แล้วได้กำไรมากหลายครั้งแล้ว เช่น MANRIN OGC LANNA

Capital gain ครับ

เพราะผมได้จาก capital gain ประมาณ 5 เท่าของ
ปันผล

แต่เป้าหมายคือก่อนจะเกษียณตัวเอง ต้องมีรายได้
จากปันผลมากกว่ารายได้ประจำในขณะนี้หลังหัก
อัตราเงินเฟ้อไปแล้ว

แง่คิด มุมความคิดเห็นดีดี ทุกท่านครับขอสนับสนุน

คุณฉัตรชัย เลี้ยงชีพจากงานประจำจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
คุณCK ก็จะเกษียณก่อนอายุ
คุณMon ก็ให้ข้อคิด
แต่ผมคิดเหมือนน้องYOYO
อย่างนี้ละมั่งถือได้ถือหุ้นตัวเดียวกัน(ล้อเล่นครับ)

กระทู้นี้ให้มุมมองดีจังเลย สำหรับผมต้องการความมั่นคงมากที่สุดคือต้องการการปันผลที่เติบโตอย่างมั่นคงทุกปี เป้าหมายผมคืออยากเป็นอิสระทางการเงิน โดยจะค่อยๆลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยที่มีโอกาส และสักวันจะได้รับปันผลเพียงพอที่จะประทังชีวิต ส่วนcapital grain เป็นเรื่องของจังหวะราคาเกินมูลค่าเมื่อไหร่ และมีตัวที่ดีกว่าค่อยเก็บเปลี่ยนตัวเก็บ capital grain ครับ

ผมขอแสดงความคิดเห็นบ้างครับอันนี้สำหรับตัวเองนะครับที่ไม่ได้เอาเงินปันผลมาใช้จ่าย เพราะยังทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่

ผมมองมุมนี้ครับ การจ่ายปันผลทำให้ราคาหุ้นตกลงไปแน่นอนครับ ถ้าเงินยังอยู่ในบริษัทแล้วเค้าลงทุนเก่ง ผมอยากให้เค้าปันผลน้อยๆ แล้วเอาเงินไปลงทุนเพิ่มดีกว่า

ทีนี้ถ้าธุรกิจมันอยู่ในอุตสาหกรรมที่อิ่มตัวแล้ว การลงทุนต่อก้ออาจจะไม่ได้ผลตอบแทนที่ดี การลงทุนในอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ไม่ถนัดก้อมักจะล้มเหลวเพราะไม่ชำนาญ ผมอยากให้เค้าเอาเงินส่วนเกินไปซื้อหุ้นคืนคับ เพราะถ้าจะเลือกจ่ายเงินปันผล หรือ ซื้อหุ้นคืนผมว่าซื้อหุ้นคืนจะให้กำไรกับผู้ถือหุ้นมากกว่าเงินปันผล EPS ก้อจะดีขึ้นเพราะจำนวนหุ้นน้อยลง

ในขณะที่การปันผลเป็นการลดส่วนของผู้ถือหุ้นแน่ๆ ราคา/หุ้นก้อลดลงแน่ๆ ครับ อันนี้มุมมองของผมนะ

เห็นด้วยกับคุณ ayethebing ครับ ตราบใดที่ผมยังมีราย
ได้หลักจากทางอื่น ผมต้องการให้พอร์ตโตวันโตคืนโดย
เร็วที่สุดครับ ซึ่งจากประวัติที่ผ่านมา capital gain ทำให้
ผมสามารถมีเงินไปซื้อหุ้นที่ราคายังถูกอยู่ได้ และเป็นผล
ตอบแทนที่เป็นกอบเป็นกำที่สุด

ถ้าบริษัทไหนไม่ปันผลเลยแต่สามารถทำให้มูลค่าบริษัท
เพิ่มขึ้นมากๆ ผมก็โอเคแล้วครับ

ส่วนปันผลหวังไว้ตอนเกษียณครับ ไม่อยากทะยอยขาย
หุ้นเพื่อเอาเงินมาใช้

ในความคิดของผมนะครับ
หุ้นที่น่าลงทุนคือ หุ้นที่มีผลการดำเนินการที่ดีและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งมันจะสะท้อนมาที่ราคาหุ้นสูงขึ้น หรือ Capital Gain

หุ้นต้องมีกำไรก่อนจึงนำกำไรมาจ่ายปันผล เป็น Dividend
ดังนั้น โดยทั่วไปทั้ง 2 ตัวจะมาด้วยกัน

แต่ในกรณีที่ไม่เป็นดังข้างต้น
ผมจะเลือกหุ้นที่มีผลการดำเนินการที่ดีและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนจะจ่ายปันผลน้อย Pay-Out ratio ต่ำ ก็ไม่สำคัญ

เหตุผลคือ อาจมี บ.ที่ขาดทุนแล้วเอากำไรสะสมมาจ่ายปันผลเพื่อเอาใจ
ผู้ถือหุ้น ซึ่งเพื่อนๆ คงทราบว่า มันเป็นไปได้ไม่นานเท่าไหร่

แต่ถ้า บ.ทำกำไรและเก็บไว้เพื่อลงทุนหรือกันไว้ จ่ายเป็นปันผลออกมาน้อยๆ ก็ตาม ตัวมูลค่ามันก็จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
ซึ่งไม่ช้านักลงทุนหรือเจ้าของก็จะต้องมาซื้อเก็บ หากราคาตลาดยังต่ำ
กว่ามูลค่าหรือไม่วิ่งปรับราคาขึ้นสู่สภาพที่ควรเป็น ซึ่งจะส่งผลให้มี Capital Gain สำหรับผู้ซื้อไว้เกิดขึ้น
ด้วยแนวคิดดังกล่าว ผมเลือก Capital Gain ครับ

ส่วนผมปันผลเป็นหลักครับ
เรื่อง Capital Gain ใช้เป็นตัววัดตอนตัดสินใจเลือก
ถ้าหุ้นบางตัวของผมราคาเกิดขึ้นไปสูงเป็นพิเศษก็จะขายออก
แต่ไม่ใช่เพื่อทำกำไร แต่เป็นการปรับสัดส่วนของพอร์ทให้สมดุล
เงินที่ได้มาก็จะไปเพิ่มให้กับหุ้นที่ราคาต่ำกว่า Fair Value ที่มีอยู่ในพอร์ท

ผมชอบหุ้นที่ราคาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆโดยมี PE, PB ค่อนข้างคงที่ คือราคาเพิ่มอย่างเป็นธรรมชาตินะ

buffet's berkshire hathaway never pays dividend but its stock price forworth 1000 times.
dividend could not avoid tax but the retained earnings could.
buffet's firm'd rather keep their earning to raise their stock price.

(read in the buffetology)

ถ้าบริษัทสามารถนำเงินกำไรที่ได้แล้วไปลงทุนต่อมีผลตอบแทนที่ดี ปันผลก็ไม่จำเป็น ... ให้บริษัทเอาไปลงทุนต่อดีกว่า
(นี่คือสิ่งที่บัฟเฟท์ทำกับ Berkshire)

ถ้าบริษัทไม่สามารถทำเงินได้มากกว่าที่เป็นอยู่ บริษัทควรปันผลให้ผู้ถือหุ้นนำไปใช้อย่างอื่น หรือซื้อหุ้นคืน
(นี่คือสิ่งที่บัฟเฟท์คิดว่าผู้บริหารที่ดีควรทำ)

เห็นด้วยกับคุณ snail ครับ

ยังงี้ก็แสดงว่าถ้าซื้อหุ้น Birkshire Hathaway ก็ต้องหวัง
return on capital gain อย่างเดียวนะครับ

ล่าสุดราคาหุ้นของ Berkshire Hathaway อยู่ที่ 76,200
เหรียญครับ ขึ้นจาก 5,500 ตอนกลางปี 91



อยากให้พี่เจ๋งช่วยอย่างหนึ่งครับ คือช่วยเทคโอเว่อร์ SPI
แล้วเอาเงินสดในบริษัทมาลงทุนตามแนว New Buffetology
โดยไม่จ่ายปันผลไม่แตกพาร์ อยากได้หุ้นที่ราคาเป็นล้าน
เหมือน Berkshire Hathaway ในเมืองไทยบ้างครับ

ผมก็ลงทุนในหุ้นที่ว่าไม่ได้ซิครับ คุณ CK เพราะไม่มีเงินปันผลให้ผมนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ผมว่ามันยากนะครับที่ผู้บริหารสามารถที่จะหาธุรกิจที่มีผลตอบแทนที่ดีได้อย่างต่อเนื่องยาวนานแบบ Buffet ได้ อีกอย่างการที่หุ้นมีราคาที่สูงมากขนาดนั้น นักลงทุนรายใหม่หรือผู้ที่เพิ่งจบการศึกษามีเงินลงทุนไม่ยากก็จะลงทุนไม่ได้ซิครับ ผมไม่ค่อยเห็นด้วยนะ การที่ราคาหุ้นขึ้นสูงมากแล้วน่าจะแตกพาร์นะครับ

เคยอ่านจดหมายของ Buffett ถึงนักลงทุน Berkshire Hathaway
ครับ คือแกไม่อยากให้ซื้อๆขายๆ อยากให้ซื้ออย่างเดียวแล้วถือ
นานๆ พอต้องการใช้เงินหรือเกษียณอายุแล้วถึงจะขายครับ เหตุ
ผลสำคัญคือแกไม่ต้องการให้คนมาเก็งกำไรกับหุ้นแก (เหมือนที่
แกไม่เก็งกำไรกับหุ้นอื่นๆ)

หรือไม่จริงๆแล้วแกอาจจะอยากสร้างสถิติหุ้นราคาแพงที่สุดในโลก
ก็เป็นได้ครับ

เมื่อสิบปีก่อน ได้ยินว่ามีการซื้อขายหุ้นบุญรอดบริวเวอรี่ ในราคาหุ้น
ละหนึ่งแสนบาทครับ สมัยนี้คงไม่ได้แล้วมั้ง

ส่วนเงินปันผล ตอนนี้ผมไม่หวังมากครับ เพราะได้มาก็ไม่ใช้ เอาไป
ซื้อหุ้นทั้งหมดครับ เพราะฉะนั้น capital gain สำคัญกว่า

หุ้นปันผลคือวัวนม รีดนมได้ โดยไม่ต้องฆ่ามัน
หุ้นหวังกำไรจากส่วนต่างราคา คือ วัวเนื้อ จะเอากำไร ก็ต้องฆ่ามัน (ขายทิ้ง)

วัวนมบางตัว ซื้อทีแรกเราหวังนม แต่มันให้ทั้งเนื้อทั้งนมก็มีครับ

สำหรับผม เงิน 1 บาทจากปันผล กับ 1 บาทจากส่วนต่างราคา มีค่าเท่ากันครับ หุ้นแบบไหน อย่างไรก็ได้ ผมเรียกว่า return เหมือนกัน ช่วงแรกๆของการเล่นหุ้น ผมชอบ dividend ครับ แต่พักหลังๆ ตัว capital gain มันให้เยอะเสียจนคิดว่า ถ้ารอแต่ปันผล สงสัย อีก 100 ปี ก็ได้ไม่เท่า capital gain น่ะครับ

แต่หุ้นมีปันผล ดีอย่างนะครับ คือแสดงว่าเขามีกำไร มีกะตังจริงๆ ไม่ได้แต่งบัญชี ถึงมีเงินมาจ่ายปันผลให้เราได้

หากผมเลือกได้ ผมก็จะเลือกหุ้นแบบBershireครับ มิใช่เพราะมันให้Capital Gainสูง แต่มันสร้างมูลค่าได้อย่างไม่น่าเชื่อ

หุ้นปันผล ถ้าปันผลจากกระแสเงินสดอิสระก็น่าลงทุน แต่ถ้ากู้มาจ่ายปันผลละก็......น่าคิดครับ

ขอโหวตกระทู้นี้เป็นกระทู้แห่งสัปดาห์ครับ

ยอดเยี่ยมมาก ทั้งในแง่ของการตั้งกระทู้ คุณเด็กใหม่หัดขวิด
ยอดเยี่ยมมาก ในการตอบกระทู้แต่ละท่าน

ถ้าเราตั้งความหวังไว้ที่เงินปันผล
แต่ได้กลับมาทั้งเงินปันผล และ capital gain อย่างที่น้อง yoyo และพี่ปรัชญาบอก...
ชีวิตนี้คงมีความสุข ได้เกษียนก่อนกำหนดอย่างคุณ CK กล่าวไว้

มาถูกทางแล้วครับ ขอเป็นกำลังใจให้และประสบผลสำเร็จทุกคน ชาว TVI

just got the paycheck dividends from SCC.
i saw my income tax on the slip & huh!!! i got 1,500B & the government already taxed me 250B. regret!!! & thought SCC should've kept the dividends to expand itself so that its price may go up.

so i think, the whole SCC has already wasted its millions Bahts to government tax!!! by paying the dividend.

คุณ snail SCC จะจ่ายหรือไม่จ่าย dรviden scc ก็ต้องเสียภาษีเท่ากันอยู่แล้ว

ส่วนเมื่อจ่ายมาแล้วคุณเสียภาษี คุณก็เคลมคืนได้นี่ครับ

ความเห็นส่วนตัวนะครับ

เพราะถ้าเขาคิดว่าเขาเก็บเงินไว้แล้วทำให้โตได้ เขาก็เก็บ ถ้าเก็บแล้วทำให้โตไม่ได้เขาก็ไม่ต้องเก็บ

ถ้านโยบายเขาจ่าย เป็นกี่เปอร์เซ็นต์ ผู้บริหารก็ต้องแสดงความสามารถแล้วละครับ คือต้องจ่ายออกมาก่อน ถ้าขาดเงินเล็กน้อยก็ต้องไปกู้เพิ่ม

ก็คงต้องดูงบกันละครับ ว่าการจ่าย divend ของ SCC ดีหรือไม่ดี คงต้องดูกันในรายแหลกละเอียดครับ

ถ้าคุณ snail ดูอย่างละเอียดแล้วได้เรื่องอย่างไรบอกผมด้วยนะครับ

วันนี้เห็นมีข่าวจะออกหุ้นกู้มาRefinanceแล้วครับ สำหรับSCC หนี้ยังจ่ายไม่หมดแล้วทำไมมาจ่ายปันผลเอาใจผู้ถือหุ้น อย่างนี้ไม่ต่างจากการกู้มาจ่ายปันผลเลยก็ว่าได้

tax of income from divdends vs
tax exempted in retained earning to expand the company
may be different... can anybody explain? :lol:

& if you r the owner or a major shareholder of the company, which tax do u prefer?