หน้า 3 จากทั้งหมด 6

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 14, 2010 10:40 pm
โดย VI Wannabe
ตามๆอ่านมา ติดที่คำนี้  "มุทิตาจิต" ลอง google ดูได้ความตามนี้ครับ (เผื่อหลายๆท่านที่ยังไม่ทราบเหมือนผม 55 :D )

"มุทิตาจิต  คือ ความเป็นผู้มีใจยินดี ชื่นชมในเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดี หรือได้รับความสำเร็จอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นอาการที่เกิดขึ้นเองในใจ มิได้เกิดจากการบังคับ เกิดขึ้นกับจิตใจที่ปราศจากความอิจฉาริษยา"

ลองนึกย้อนไปดูเมื่อต้นปี เราคาดว่าปีนี้เราหวังผลตอบแทนที่เท่าไหร่ แล้วตอนนี้เราได้กันเท่าไหร่แล้วครับ?

เรากำลังโลภเกินความรู้หรือเปล่าครับ? ในเมื่อหุ้นเหล่านั้นไม่ได้อยู่ใน list ที่เราสนใจตั้งแต่แรกมันจะขึ้นไปกี่ร้อย % เราก็ไม่ได้คิดจะซื้อมันอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ? หรือเราอยากซื้ออะไรก็ได้ที่มันมีโอกาสขึ้นไป 100% ถึงแม้เราจะไม่เข้าใจธุรกิจมันเลยก็ตาม? (ถ้าคำตอบคือใช่ท่านคงเหมาะกับแนว trading มากกว่า ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร)

หาแนวการลงทุนที่ถูกกับจริตของตัวเองดีกว่าครับแล้วจะมีความสุขขึ้นอีกเยอะเลย โดยเฉพาะถ้าคิดจะลงทุนต่อไปนานๆ จะได้มีช่วงเวลาที่มีความสุขนานๆครับ

:D

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 14, 2010 10:42 pm
โดย rayshow
ผมเองก็มีหุ้นตัวเล็ก, สภาพคล่องน้อยซะเป็นส่วนใหญ่
หลายๆ ครั้งผมเองก็รู้สึกไม่ต่างจากคุณ croyoty เลยครับ
แต่ก็พยายามยึดหลักคำกล่าวของเกรแฮมว่า "ตลาดหุ้นในระยะสั้นเป็นเสมือนเครื่องลงคะแนน แต่ในระยะยาวเป็นเสมือนเครื่องชั่ง"

ปล. วันนี้เบาะเริ่มลอยแล้วนี่ครับ :D :P

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 14, 2010 11:17 pm
โดย ถุงเงินเก่า
กลายเป็นกระทู้คุณค่าอีกหนึ่งแล้วสิ พอไปนึกย้อนตัวเองดู ก็นึกได้ว่าตัวเองผ่านประสบการณ์ราคานิ่งมาเหมือนกัน

ข้อความที่ประทับใจตอนนี้
ต.หยวนเปียว เขียน:ทัศนคติแบบนักเก็งกำไร มาเป็นวีไอมันทรมานนะครับ  
reiter เขียน:อีกอย่างนะครับคุณหมอ.... สวนบ้านคนอื่นมักจะเขียวกว่าบ้านของเราเสมอ
ปํญหานี้แก้ได้ไม่ยากครับ ขอแค่คุณหมอมีมุทิตาจิต
slalom เขียน: ทุกวันนี้ ผมยังต้องคอยตรวจสอบตัวเองอยู่เสมอ ว่า ตัวเองไม่เข้าใจในหุ้นที่ถือ หรือว่ามีความโลภเกินกว่าความสามารถของตัวเองหรือเปล่า
VI Wannabe เขียน:เรากำลังโลภเกินความรู้หรือเปล่าครับ? ในเมื่อหุ้นเหล่านั้นไม่ได้อยู่ใน list ที่เราสนใจตั้งแต่แรกมันจะขึ้นไปกี่ร้อย % เราก็ไม่ได้คิดจะซื้อมันอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ? หรือเราอยากซื้ออะไรก็ได้ที่มันมีโอกาสขึ้นไป 100% ถึงแม้เราจะไม่เข้าใจธุรกิจมันเลยก็ตาม?

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 14, 2010 11:45 pm
โดย Croyoty
ขอบคุณมากๆเลยครับ สำหรับทุกๆความคิดเห็นและกำลังใจที่แบ่งปันกัน

กระทู้นี้ออกแนวระบายหรือบ่น ถ้าทำให้พี่ๆเพื่อนๆรู้สึกรำคาญขออภัยไว้ด้วยนะครับ

ผมเข้าใจว่ากระทู้นี้คงจะตรงกับใจใครหลายคนไม่น้อยที่มีภาวะหรือเคยผ่านภาวะ ตลาดดีีีแต่หุ้นที่ถืออยู่นิ่งไม่ค่อยวิ่ง แบบนี้


ตัวผมเองยอมรับตรงๆครับว่าเป็นคนที่่แอบอิจฉาใครๆเสมอ
แต่ผมไม่เคยริษยาเลยครับ ได้แต่อิจฉาปต่ไม่เคยคิดจะเอาชนะใคร
หรือทำร้ายใครเพื่อขัดขวางผู้อื่นคับ ได้แต่แอบอิจฉาโดยปราศจากริษยาอยู่คนเดียวบ่อยๆ  :wink:

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 14, 2010 11:51 pm
โดย Khun-Egg*
ให้กำลังใจคุณหมอครับ  หุ้นทุกตัวจะมีเวลาของมันครับ ถ้าเราวิเคราะห์
ถูกต้อง (Valuation) ได้ใกล้เคียง ราคาก็จะเข้าหามูลค่าที่เหมาะสมเองครับ
เพียงแต่เราไม่รู้ว่าเมือ่ไหร่ (ต้องขอบอกว่าไม่รู้ว่าเมือไหร่จริงๆ ครับ)แต่ต้องมีวันนั้น ผมยังจำได้ว่าซื้อ CPALL ประมาณ 8 บาท  หลังดร.ไม่นาน หลังจากนั้นกลายเป็นถูกดองเค็มอยู่นานมาก จำไม่ได้ว่านานเท่าไหร่เกือบ 1 ปี ได้มั้ง หลังจากนั้นตลาดฟื้น ก็ขายออกไปที่ 11 บาท  เพราะไม่รู้มูลค่าที่แท้จริงของมัน  ปัจจุบันก็ 41 บาท เอง แต่นับจากเวลานั้นจนถึงวันนี้ก็น่าจะเป็นเวลาประมาณถึง 2.5 ปี  ถ้ายังคงถืออยู่จะพบว่าการอดทนรอคอยคุ้มเกินคุ้มครับ
   ตัวอย่างอีกอย่างที่เพิ่งเกิดคือหุ้น AJ ซื้อไว้ต้นทุน 4 บาท ถือเกือบปีได้
มั้งครับ ช่วงแรกๆ ก็โดนดองเหมือนกัน เหมือนหุ้นตัวนี้ไม่มีค่าอะไรเลย วอลุ่มเทรดก็ไม่มี กาลเวลาผ่านมาเกือบ 1 ปี  บังเกิดมากระแสฟิมล์แอนนี่ ฮ๊อตฮิต เข้า ผมก็เลยถูกหวยโดยไม่ต้องตรวจ DNA (ได้โอกาสขายไปที่ 13 บาท) ที่ผมได้วิเคราะห์ไว้ว่าเป็นราคาของปีหน้า มันอาจจะไปต่อแต่ผมก็ไม่เสียดาย  แต่ก็นับเป็นประสบการณ์การอดทนรอคอยที่คุ้มค่าเลยที่เดียว   ตอนนี้ก็ใช้วิธีเดิมครับ กลับไปเก็บหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่า ที่คิดว่าตลาดให้มูลค่าที่ผิดเพี้ยน อดทนรอคอย จนกว่ากระแสความฮอตฮิตของหุ้นตัวนั้นจะมา  แต่ระหว่างนั้นหุ้นพวกนี้ก็จะให้ปันผลที่ดีกับคุณหมอเย็นๆ ใจไปก่อนครับ
   :)

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 15, 2010 12:24 am
โดย mameepoko
หุ้นที่หมอบ่นๆต้องรอดู 1Q54 ครับ
ผมก็ตีแตกไปเรียบร้อย รอแค่เวลาเหมือนกัน

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 15, 2010 10:17 am
โดย pak
ขออนุญาตแชร์มุมมองนะครับ
ผมมองว่า...

โดยส่วนใหญ่แล้ว...ตลาดหุ้นคือ "ความไม่รู้"
และผู้ชนะคนสุดท้ายก็คือ คนที่เค้ารู้ในสิ่งที่คุณยังไม่รู้!!!


นั่นคือสภาพความเป็นจริงส่วนใหญ่ในตลาดหุ้น
ยกตัวอย่างเช่น...
- ในวันนี้ คุณยังไม่รู้ผลประกอบการในไตรมาสที่ผ่านมา ในขณะที่บางคนรู้แล้ว
ดังนั้นคนที่รู้แล้ว เค้าไม่ต้องสงสัยเลยว่า "เค้าจะทะยอยเก็บของ" หรือ "เค้าจะทะยอยออกของ" ซึ่งจะทำอย่างแนบเนียน และยากที่นักลงทุนจะสังเกตอาการเห็น
- คุณไม่มีทางรู้ว่า เค้าจะแตกพาร์กันเมื่อไหร่
- คุณไม่มีทางรู้ว่า เค้าจะขายสินทรพย์ ที่ดิน หรือ จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล เมื่อไหร่
- คุณไม่มีทางรู้ว่า เค้ากำลังจะมี Project ใหญ่ๆอะไร และเมื่อไหร่
- คุณไม่มีทางรู้ว่า จะมีใครเค้ามาควบรวม หรือเทคโอเว่อร์กิจการเมื่อไหร่
- คุณไม่มีทางรู้ว่า เค้าจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้บริหารกันอย่างไร

สมมุติว่า วันนี้เราแปลกใจเหลือเกินว่าทำไมฝรั่งลุยซื้อหุ้น ปตท.
เป็นไปได้ไหมว่า เค้ารู้ในสิ่งที่เรายังไม่รู้เช่น
- เค้ารู้ว่าจะมีการทำราคาน้ำมันดิบกลับขึ้นไปที่ 100$US/บาเรลล์
- หรือเค้าอาจจะรู้ว่า สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ กำลังจะปรับอันดับให้แก่ประเทศไทย และตลาดหุ้นไทย ในต้นปีหน้า

ซึ่งนักลงทุนพยายามปกปิด "ความไม่รู้" ด้วย เครื่องมือช่วยต่างๆ เช่น กราฟ และเทคนิคอล
หรือแม้แต่พึ่งนักวิเคราะห์ แต่ในความเป็นจริง นักวิเคราะห์บางกลุ่ม กลับตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มทุนหรือรายใหญ่ โดยไม่ได้คำนึกถึงผลประโยชน์ของรายย่อยเป็นหลัก

ในตลาดหุ้น พวกเรารายย่อยเสียเปรียบทุกประตู เรามีเพื่อนสนิทที่สุดคือ "ความไม่รู้"!!!
นั่นคือ สิ่งที่ผมเคยผ่านมาแล้ว และเจ็บปวดมามากแล้ว

และเหล่านี้ คือมุมมองที่ทำให้ผมหันมาสนใจการลงทุนแบบ VI
และผมขอสรุปสุดท้ายว่า...

"VI สำหรับผมแล้ว มันคือเครื่องมือที่ดีที่สุดในการจัดการกับความไม่รู้นั้น"

ผมรู้สึกแบบนี้จริงๆครับ

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 15, 2010 10:52 am
โดย comrade
[quote="ถุงเงินเก่า"]กลายเป็นกระทู้คุณค่าอีกหนึ่งแล้วสิ พอไปนึกย้อนตัวเองดู ก็นึกได้ว่าตัวเองผ่านประสบการณ์ราคานิ่งมาเหมือนกัน

ข้อความที่ประทับใจตอนนี้
[quote="ต.หยวนเปียว"]ทัศนคติแบบนักเก็งกำไร มาเป็นวีไอมันทรมานนะครับ

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 15, 2010 12:36 pm
โดย chotipat
พอบ่นเสร็จ เด้งไปแตะสองหลักเลยครับ หุ้นพี่หมอ กราฟสวยซะด้วย    :P  :lovl:

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 15, 2010 1:55 pm
โดย Croyoty
[quote="chotipat"]พอบ่นเสร็จ เด้งไปแตะสองหลักเลยครับ หุ้นพี่หมอ กราฟสวยซะด้วย

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 15, 2010 2:07 pm
โดย newbie_12
น่าจะบ่นตั้งนานแล้วนะเนี่ยะ

:lol:  :lol:  :lol:

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 15, 2010 2:11 pm
โดย leky
ผมว่าต้องเข้าใจนิสัยหุ้นที่เราจะลงทุนก่อนครับ หุ้นบางตัวไม่ขึ้นตามตลาดแต่จะขึ้นมากเมื่อผลประกอบการออกมาดี แต่ถ้าตลาดไม่ดีบางทีมันก็ไม่ลงตาม ต่างชาติซื้อหุ้นบางทีเค้าไม่ได้คิดหรือวิเคราห์อะไรมากหรอกครับ ถ้าหุ้นไม่ขี้เหร่เกินไป ขอเพียงสภาพคล่องสูง เข้าง่ายออกง่าย ทิ้งแล้วมีคนรับตลอดเค้าก็ซื้อครับ จึงไม่แปลกที่เค้าจะซื้อหุ้นพลังงานหรือธนาคาร ถ้ารักจะลงทุนหุ้นที่ไม่ขึ้นลงตามตลาดต้องอดทนและยอมรับได้ก่อนครับเพราะมันเป็นอย่างนี้ทุกครั้งเวลาตลาดขึ้นแรงจากเงินต่างชาติไหลเข้า

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 15, 2010 3:53 pm
โดย แมงเม่าไฟ
[quote="ต.หยวนเปียว"]ทัศนคติแบบนักเก็งกำไร มาเป็นวีไอมันทรมานนะครับ

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 15, 2010 4:13 pm
โดย nut776
ผมคิดว่าเราต้องมีศรัทธากับทางที่เราเดิน

ของผมไม่แย่กว่าหรือคับ
ก่อนหน้านี้เฝ้ามาหลายดอยเปนปีๆ
สุดท้ายเด๋วมันก็ดี

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 15, 2010 4:27 pm
โดย phar314
ส่วนตัวผมเวลาจะเกาะฟันโฟลว์ เข้าตัวใหญ่ๆ ทีไรเจ็บทุกที
เวลาตลาดคึกเราถือตัวเงียบก็อาจเจ็บใจบ้าง
แต่ซักวันเวลาของเราต้องมาถึง

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 15, 2010 5:25 pm
โดย densin
คงต้องแยกให้ออกระหว่าง
การลงทุนเพือผลตอบแทนระยะยาว
กับการเก็งกำไรระยะสั้น

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 15, 2010 5:26 pm
โดย superboy
แซงหน้าผมไปไกลเลยง่ะ

ยินดีด้วย คัรบ

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 15, 2010 5:50 pm
โดย thaloengsak
มาฟังความคิดดีๆ และมาร่วมให้กำลังใจพี่หมอโคโยตี้
pmมาบอกผมหน่อยครับว่าถืออะไร พร้อมเหตุผลในการซื้อครับ
ขอบคุณครับ

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 15, 2010 7:03 pm
โดย Croyoty
ไม่นึกไม่ฝันเลยครับว่า จะมีเพื่อนเข้ามาตอบกันมากขนาดนี้
และมีการเข้าชมกระทู้การบ่นของผมเกิน 3000 ครั้งในไม่ถึง 24ชั่วโมง
ขอคารวะทุกๆท่านเลยคับ :bow:  :bow:  :bow:

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 15, 2010 9:09 pm
โดย tt
เคยมั๊ยครับ ที่ SET ลงแรงๆ แต่หุ้นเราลงไม่เยอะ  มีความสุขมากกว่า SET ขึ้นเยอะๆแต่หุ้นเราขึ้นน้อยๆ ทั้งๆที่กรณีแรกเราขาดทุน กรณีหลังเรากำไร
ถ้าเราเปรียบเทียบกับคนอื่นเมื่อไรเราจะไม่เคยพอหรอก
บางคนปีนี้กำไร 30% อาจกลุ้มใจอยู่ก็ได้

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 15, 2010 9:46 pm
โดย mameepoko
แหม่.. ขึ้นซะแรงเลย
พี่หมอมาบ่นบ่อยๆนะครับ ช๊อบฉอบ

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 15, 2010 10:35 pm
โดย ถุงเงินเก่า
comrade เขียน:
ถุงเงินเก่า เขียน: ข้อความที่ประทับใจตอนนี้
ฯลฯ
ขอบคุณครับที่รวบรวมให้

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 16, 2010 6:01 am
โดย kasinbua
อย่าหมดกำลังใจนะครับของผมพอร์ตเพิ่มประมาณ 15%เท่านั้นเอง

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 16, 2010 7:17 am
โดย CK
ของผมกลับกันแฮะครับ

หุ้นที่ผมซื้อ ผมหวังว่าราคาจะถูกลงเรื่อยๆ เมื่อ set วิ่งขึ้น
เพราะรายใหญ่บางคนจะขายเพื่อเอาเงินไปซื้อหุ้นตลาด

กลับกลายเป็นว่า หุ้นตัวนั้น ดันวิ่งแซงตลาดไปหลายเท่า
เมื่อเอาเงินปันผลมาซื้อเพิ่ม กลายเป็นซื้อแพงกว่าเดิมตลอด  :cry:

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 16, 2010 7:57 am
โดย Croyoty
[quote="CK"]ของผมกลับกันแฮะครับ

หุ้นที่ผมซื้อ ผมหวังว่าราคาจะถูกลงเรื่อยๆ เมื่อ set วิ่งขึ้น
เพราะรายใหญ่บางคนจะขายเพื่อเอาเงินไปซื้อหุ้นตลาด

กลับกลายเป็นว่า หุ้นตัวนั้น ดันวิ่งแซงตลาดไปหลายเท่า
เมื่อเอาเงินปันผลมาซื้อเพิ่ม กลายเป็นซื้อแพงกว่าเดิมตลอด

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 16, 2010 10:53 am
โดย CK
croyoty เขียน: ผมว่ายังไงก็ดีอยู่ดี เพราะปันผลมาซื้อเพิ่มก็เพิ่มจำนวนหุ้นได้สัก 10 % ราคาไม่ถูกดึงถัวขึ้นไปมากหรอกครับ
ดีหรือไม่ดีขึ้นกับเป้าหมายมั้งครับ
ถ้าเห็นมูลค่าในพอร์ทโตปีละร้อยสองร้อยเปอร์เซ็นต์
ผมยังไม่ดีใจเท่าได้ปันผลเพิ่มขึ้นเลย

ถ้างบบริษัทที่ผมถือโตได้ 30% ต่อปี
ผมยังดีใจกว่าราคาหุ้นเพิ่ม 100% ต่อปีอีกนะครับ

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 16, 2010 11:06 am
โดย Paul VI
CK เขียน:
croyoty เขียน: ผมว่ายังไงก็ดีอยู่ดี เพราะปันผลมาซื้อเพิ่มก็เพิ่มจำนวนหุ้นได้สัก 10 % ราคาไม่ถูกดึงถัวขึ้นไปมากหรอกครับ
ดีหรือไม่ดีขึ้นกับเป้าหมายมั้งครับ
ถ้าเห็นมูลค่าในพอร์ทโตปีละร้อยสองร้อยเปอร์เซ็นต์
ผมยังไม่ดีใจเท่าได้ปันผลเพิ่มขึ้นเลย

ถ้างบบริษัทที่ผมถือโตได้ 30% ต่อปี
ผมยังดีใจกว่าราคาหุ้นเพิ่ม 100% ต่อปีอีกนะครับ
:cool:

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 16, 2010 12:22 pm
โดย peacedev
Paul VI เขียน:
CK เขียน:
croyoty เขียน: ผมว่ายังไงก็ดีอยู่ดี เพราะปันผลมาซื้อเพิ่มก็เพิ่มจำนวนหุ้นได้สัก 10 % ราคาไม่ถูกดึงถัวขึ้นไปมากหรอกครับ
ดีหรือไม่ดีขึ้นกับเป้าหมายมั้งครับ
ถ้าเห็นมูลค่าในพอร์ทโตปีละร้อยสองร้อยเปอร์เซ็นต์
ผมยังไม่ดีใจเท่าได้ปันผลเพิ่มขึ้นเลย

ถ้างบบริษัทที่ผมถือโตได้ 30% ต่อปี
ผมยังดีใจกว่าราคาหุ้นเพิ่ม 100% ต่อปีอีกนะครับ
:cool:
:cool:
เห็นของแพงแล้ว เสียดายตังค์ ไม่ค่อยอยากซื้อเพิ่ม เพราะบางตัวราคามันเริ่มนำไปแล้ว

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 16, 2010 3:47 pm
โดย chatchai
ถ้าเราได้กำไรจาก Capital Gain คือซื้อหุ้นที่ 10 บาท  ขายได้กำไรที่ 15 บาท  โอเคว่าเราได้กำไร 50% ซึ่งก็ไม่น้อย

แต่ปัญหาก็คือ  เมื่อเราขายหุ้นไปแล้ว  เราก็จะไม่มีรายได้อีกจนกว่าเราจะซื้อหุ้นใหม่  ซึ่งก็ไม่แน่ว่าจะได้ผลตอบแทนเท่าไร

แต่ถ้าเราได้เงินปันผลเพิ่มทุกปี  เราสบายใจได้ว่ารายได้ในอนาคตของเราค่อนข้างแน่นอนกว่า  ชัดเจนกว่า

ยิ่งถ้าราคาหุ้นของบริษัทนั้นไม่เพิ่มขึ้นมากนักก็ยิ่งดี  เพราะเราจะได้จำนวนหุ้นมากขึ้นในวงเงินเท่าเดิม  ซึ่งก็หมายถึงเงินปันผลที่เราจะได้มากขึ้นในแต่ละปีด้วย

ไม่เข้าใจ ดัชนีขึ้นมากขนาดนี้ หุ้นพื้นฐานดีๆ อนาคตดีๆไม่ขึ้น

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 16, 2010 3:55 pm
โดย pipolulu
ลงทุนในหุ้นแล้วเครียด ผมว่าอย่าลงทุนเลยครับ เสียสุขภาพจิตเปล่าๆ