เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 2

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 31

โพสต์

[quote="คัดท้าย"][quote="ด๊กดิงด่าง"]คนไทยไม่ว่ารวยว่าจนช่วยๆกัน ไปเที่ยวต่างประเทศ
"Winners never quit, and quitters never win."
lekmak333
Verified User
โพสต์: 697
ผู้ติดตาม: 0

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 32

โพสต์

มีเพื่อนคนหนึ่งเขียนไว้ดีมาก เรื่อง off shore onshore
อยู่ในกระทู้เก่า ในบอร์ดนี้ล่ะครับ แต่ผม serach หาไม่เป็น
ด๊กดิงด่าง
Verified User
โพสต์: 312
ผู้ติดตาม: 0

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 33

โพสต์

แหมท่านคัดท้าย ผมก็ประชดนิดหน่อย  แต่ว่าที่จริงมันก็น่าจะดีนะ  เรามีเงินมากขึ้นก็หาความสุขดิ

เวลามีเงินมีทองคนก็เข้าหา ไม่เป็นตัวของตัวเอง  ทำไงจะแก้ได้ ก็กลับไปจนเหมือนเดิมนั่นแหละ
การทำอะไรแบบเดิมๆเป็นเวลานานๆทำให้ชีวิตเสียหาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
CEO
Verified User
โพสต์: 1243
ผู้ติดตาม: 0

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 34

โพสต์

มีใครคิดแบบว่า


ก่อนนี้แค่พักตัวไหมครับ แล้วไปต่อ ถ้าเป็นหุ้นก็ แบบว่า เจ้ามือทุบเก็บของ
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
ด๊กดิงด่าง
Verified User
โพสต์: 312
ผู้ติดตาม: 0

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 35

โพสต์

คิดดูอีกที  แทนที่แบ็งค์ชาติจะเอาเงินไปต่อสู้ค่าเงิน  ก็เอามาปล่อยกู้ให้ประชาชนทำแบบผมว่าดีกว่า เป็นผลดีกับreal sector ด้วยแม้จะไม่ใช่ในประเทศเดี๋ยวก็ย้อนกลับมาคืนอยู่ดี  แทนที่จะเอากระดาษไปแลกกระดาษ

เงินตั้งสองสามแสนล้าน กู้ได้กี่คนน่ะ
การทำอะไรแบบเดิมๆเป็นเวลานานๆทำให้ชีวิตเสียหาย
lekmak333
Verified User
โพสต์: 697
ผู้ติดตาม: 0

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 36

โพสต์

ดอกเบี้ยถือว่าเป็นต้นทุนทางธุรกิจ

สำหรับเหตุการณ์ปกติ

ดอกเบี้ยสูงขึ้น ==>>> ต้นทุนมากขึ้น ===>>> กำไรลดลง ===>> ราคาหุ้นมีทิศทางลดลง

ดอกเบี้ยต่ำลง ==>>> ต้นทุนต่ำลง ===>>> กำไรสูงขึ้น ===>> ราคาหุ้นมีทิศทางสูงขึ้น


หรือกลายเป็นไปได้ว่า มีการส่งสัญญาณที่ผิด จริงๆ ในการลดอัตราดอกเบี้ย

มันแปลกจริงๆ ไม่เป็นไปตามทฤษฎี ตอนนี้ค่าเงินอยู่ที่ 35.20 ต่ำกว่าตอนใช้มาตราการ 30% เสียอีก

รอฟังเพื่อนคนอื่นมาเคลียร์ปมดีกว่า  :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 37

โพสต์

CEO เขียน:มีใครคิดแบบว่า


ก่อนนี้แค่พักตัวไหมครับ แล้วไปต่อ ถ้าเป็นหุ้นก็ แบบว่า เจ้ามือทุบเก็บของ
เป็นไปได้ทั้งนั้นแหละครับ

ผมคิดง่ายๆนะ ถ้าจะแก้ปัญหา มันต้องรู้ก่อนว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไร

แต่เคสนี้ ผมเห็นคนพูดกันไปเรื่อย พูดโน่นพูดนี่ แต่พอถามจริงๆ เงินบาทแข็งเพราะอะไร ไม่เห็นมีใครตอบแบบเป็นรูปธรรมได้เลย

ถ้าไม่รู้ว่าปัญหาคืออะไร มันจะแก้ปัญหาได้ยังไงครับ  :lol:
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
ภาพประจำตัวสมาชิก
CEO
Verified User
โพสต์: 1243
ผู้ติดตาม: 0

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 38

โพสต์

มีใครคิดบ้างว่า เงินจากการส่งออกที่ขยายตัวสุดๆตอนคิดเป็น กี่เปอร์เซ็นต์ของเงินที่เอามาแลกบาท

มันแข็งเพราะเงินจากพวกส่งออกเอามาด้วยหรือเปล่า
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
ShexShy
Verified User
โพสต์: 577
ผู้ติดตาม: 0

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 39

โพสต์

ถอนเงินออกเร็ว โดนเก็นค่าเข้ามา 10% หรือเปล่าครับ?

ผมเอาเงินเข้ามา 100
หัก ไป 30 เหลือ 70

ภายใน 1 ปี ต้องให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นอีก กี่ % ถึงจะ ได้กำไร ???

:o
buglife
Verified User
โพสต์: 942
ผู้ติดตาม: 0

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 40

โพสต์

ทำงบประมาณแบบขาดดุลเยอะๆ เลยครับ
ถ้าไม่รู้เอาตังค์แบบขาดดุลไปทำอะไร
แจกโบนัส เพิ่มเงินเดือนราชการก็ได้ครับ

เงินบาทจะได้อ่อน ช่วยเหลือผู้ส่งออก

ตกลงมาตรการ30%
พี่อุ๋ยไม่ต้องรับผิด รับชอบอย่างเดียว
ผมช่วยพยุงค่าเงินแล้วนะ
ไอ้ที่เอาไปเล่นเจ๊งไม่ต้องนับ
ไอ้คนเสนอลดดอกเบี้ยมันผิด
ผมทำตามวันสองวันไม่ลด

ต้องจับไปยิงเป้าให้หมด
ภาพประจำตัวสมาชิก
CEO
Verified User
โพสต์: 1243
ผู้ติดตาม: 0

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 41

โพสต์

[quote="คัดท้าย

ถ้าไม่รู้ว่าปัญหาคืออะไร มันจะแก้ปัญหาได้ยังไงครับ
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
lekmak333
Verified User
โพสต์: 697
ผู้ติดตาม: 0

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 42

โพสต์

เห็นด้วยครับ ตอนนี้เหมือนเรายังไม่รู้ปัญหาจริงๆ ของเรื่องบาทแข็งตัว
คงต้องรอดูอีก ซักสัปดาห์หนึ่ง ว่าบาทยังยื่นแข็งอยู่ในระดับนี้หรือเปล่า
เรื่อง ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน วันที่ 17 มกราคม 2550


นางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในวันนี้ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาภาวะเศรษฐกิจและแนวโน้มในระยะต่อไป เพื่อกำหนดแนวนโยบายการเงินที่เหมาะสม โดยมีประเด็นที่สำคัญ ดังนี้

ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดชี้ว่าอุปสงค์ในประเทศชะลอตัวลง การบริโภคและลงทุนใน 2 เดือนแรกของไตรมาสที่ 4 ของปี 2549 ยังคงชะลอตัวต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 3แม้การส่งออกยังขยายตัวได้ดี แต่ยังมีความไม่แน่นอนจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ ขณะที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อลดลงจากปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะราคาน้ำมัน โอกาสที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในระยะ 2 ปีข้างหน้าจะสูงเกินเป้าหมายมีน้อยลงชัดเจน

คณะกรรมการฯ ประเมินว่าขณะที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อมีน้อยลงแต่ความเสี่ยงด้านการ เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมีมากขึ้น นโยบายการเงินจึงสามารถผ่อนคลายลงเพื่อเอื้ออำนวยต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป จึงมีมติให้ลดอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1วันลงจากอัตราปิดในวันก่อนหน้าที่ร้อยละ 4.9375 ต่อปี เป็นร้อยละ 4.75 ต่อปี และกำหนดให้อัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืน พันธบัตรระยะ 1 วันเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแทนอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 14 วัน นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ธนาคารแห่งประเทศไทย
17 มกราคม 2550
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 32

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 43

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

เป็นไปได้ทั้งนั้นแหละครับ 

ผมคิดง่ายๆนะ ถ้าจะแก้ปัญหา มันต้องรู้ก่อนว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไร 

แต่เคสนี้ ผมเห็นคนพูดกันไปเรื่อย พูดโน่นพูดนี่ แต่พอถามจริงๆ เงินบาทแข็งเพราะอะไร ไม่เห็นมีใครตอบแบบเป็นรูปธรรมได้เลย 

ถ้าไม่รู้ว่าปัญหาคืออะไร มันจะแก้ปัญหาได้ยังไงครับ  
ผมอ่านดร. ที่พี่แมทริก ให้อ่านนั้น ผมว่า พูดแบบค่อนข้างรู้เรื่อง และน่าจะรู้จริง

ก็ไม่เห็นคัดท้ายสนใจอะไร
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 32

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 44

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ประเมินมาตรการควบคุมเงินทุนของแบงก์ชาติ 


ดร.โชติชัย  สุวรรณาภรณ์ 
[email protected] 


              มาตรการควบคุมเงินทุนจากต่างประเทศของแบงก์ชาติ ได้ก่อให้เกิดผลกระทบและต้นทุนอย่างมาก ซึ่งผมเชื่อว่า มาตรการนี้คงเป็นมาตรการชั่วคราว ไม่เกิน 13 อาทิตย์ก็คงยกเลิก (หากไม่คิดว่าเสียหน้า) เพราะมีผลเสียมากกว่าได้ ทั้งก่อให้เกิดความเสียหายชัดเจนและขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งคาดว่าแบงก์ชาติคงกำลังรอประเมินผลและศึกษาหามาตรการทางเลือกอื่นๆ 
              มาตรการควบคุมเงินทุนดังกล่าว ทำไปเพราะต้องการสกัดการเก็งกำไรค่าเงินบาท เพื่อไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งเกินไปจนกระทบกับความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของผู้ส่งออก โดยที่ไม่ได้ตอบคำถามว่าทำไมถึงมีการเก็งกำไรค่าเงินบาท ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ในเอเชียไม่ได้รับผลกระทบจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐเท่ากับประเทศไทย สาเหตุอันหนึ่งน่าจะมาจากการที่อัตราดอกเบี้ยของไทยอยู่ในระดับที่สูงมาเป็นเวลาพอสมควร แต่นั่นคงไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด สาเหตุอีกประการหนึ่งน่าจะมาจาก นักเก็งกำไรเคยได้รับผลกำไรอย่างมหาศาลจากการต่อสู้ค่าเงินในช่วงวิกฤตการเงินปี 2539-2540 โดยแบงก์ชาติมีประวัติชอบต่อสู้ค่าเงินและอุปนิสัยที่ชอบเอาชนะ ซึ่งเข้าทางของนักเก็งกำไรในการวางกับดักเก็งกำไร (Speculation Trap) ทำให้ท้ายที่สุดถูกสถานการณ์จำนนให้ต้องออกมาตรการควบคุมเงินทุน ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่า ทำเพื่อลดการขาดทุนจากการซื้อขายเงินตราต่างประเทศและปรับปรุงฐานะทางการเงิน ณ สิ้นปีให้ดีขึ้น 
              เราสามารถเปรียบเทียบผลที่เกิดขึ้นจากมาตรการของแบงก์ชาติ (Action  Consequence) กับหลักไวยากรณ์ของภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาเยอรมัน ภาษาฝรั่งเศส ภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ ที่มีกฎว่า ประธาน+กริยา+กรรม โดยเฉพาะภาษาเยอรมันจะมีหลักไวยากรณ์ที่แน่นอนตายตัว นั่นคือ Dative และ Akkusative ที่ตามด้วยกรรมตรงและกรรมรอง (ทำให้ต้องผันคำคุณศัพท์ บุพบทและคำนำหน้านาม) เปรียบเทียบกับการกระทำของแบงก์ชาติ ทำให้เกิดกรรมตรงและกรรมรอง กรรมตรงก็คือ ต้นทุนที่เกิดขึ้นกับแบงก์ชาติ ในขณะที่กรรมรองคือ ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร ตลอดจนนักลงทุน ผู้กู้เงิน ผู้นำเข้า และผู้ที่ต้องพึ่งพาเงินทุนจากต่างประเทศ 
              อาจเปรียบเทียบผลได้ผลเสียของมาตรการการแทรกแซงค่าเงินและควบคุมเงินทุน ได้ดังนี้ 
              ผลได้ ผู้ส่งออกได้รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทที่ไม่แข็งค่าไปกว่าเดิมและอ่อนค่าลงจาก 35 บาทเป็น 36 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาของผู้ส่งออกไทยที่ส่งออกสินค้าที่มีความอ่อนไหวต่อราคา (Price-Sensitive) แต่จากการวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้ พบว่า ค่าเงินหรืออัตราแลกเปลี่ยนมีผลต่อเศรษฐกิจไทยไม่มากนัก กล่าวคือเงินบาทแข็งขึ้น 1% มีผลต่อ GDP เพียง 0.01% ในขณะที่ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการส่งออกมากที่สุดคือ การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า โดยพบว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 1% ของประเทศคู่ค้าของไทย 11 ประเทศ มีผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยถึง 1% เช่นกัน 

              ผลเสียที่ 1 (กรรมตรงและผลจากกรรมเก่า) ต้นทุนที่เกิดขึ้นกับแบงก์ชาติ ประการแรก แบงก์ชาติขาดทุนจากการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน (ซื้อดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2549 ไปแล้ว 7.5 หมื่นล้านบาท และยังมีผลขาดทุนที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายเงินต่างประเทศที่มีสัญญาจะขายคืนเป็นยอดคงค้าง ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2549 อีก 8.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในส่วนนี้ไม่แน่ชัดว่าขาดทุนเท่าไหร่ แล้วแต่อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ต้องมีการส่งมอบ แต่หากคิดง่ายๆ ว่าเงินบาทแข็งค่าจาก 41 บาท เมื่อตอนต้นปี มาถึงในขณะนี้ที่ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แบงก์ชาติน่าจะขาดทุนดอลลาร์ละ 5 บาท ทำให้ขาดทุนเพิ่มในส่วนนี้อีก 4.35 หมื่นล้านบาท เมื่อรวมกับการขาดทุนที่แบงก์ชาติเข้าแทรกแซงค่าเงินบาทด้วยการซื้อดอลลาร์สหรัฐในตลาด Spot ที่มีการส่งมอบทันที ในช่วงเดือน พฤศจิกายน-ธันวาคม 2549 อีก 2 หมื่นล้านบาท ทำให้ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา แบงก์ชาติมีผลขาดทุนเกิดขึ้นแล้วเกือบ 140,000 ล้านบาท ประการที่สอง เนื่องจากแบงก์ชาติต้องออกพันธบัตร เพื่อมาดูดซับสภาพคล่องเงินบาท เป็นจำนวนเกือบ 1 ล้านล้านบาท ถ้าคิดถัวเฉลี่ยอัตราดอกเบี้ยที่เพียงแค่ 5% ต่อปี แบงก์ชาติจะเกิดต้นทุนเป็นภาระดอกเบี้ยจ่ายปีละ 5 หมื่นล้านบาท ทำให้ยอดต้นทุนที่เกิดกับแบงก์ชาติใน 2 ส่วนนี้เกือบ 2 แสนล้านบาท (140,000+50,000) เพื่อทำให้โปร่งใส งบกำไรขาดทุนและงบดุลของแบงก์ชาติ (ณ สิ้นปีวันที่ 31 ธันวาคม 2549) ควรจะแสดงให้เห็นถึงผลขาดทุนอันเกิดจากการแทรกแซงค่าเงินและต้นทุนจากการออกพันธบัตร อย่าเพียงสะท้อนคร่าวๆ ในงบย่อยหรือในธุรกรรมนอกงบดุล (Off-Balance Sheet Items) 

             ผลเสียที่ 2 (กรรมรอง) มาจากผลของมาตรการควบคุมเงินทุน ทำให้มูลค่าของตลาดหลักทรัพย์ลดลง คิดเป็นความเสียหายกว่า 4 แสนล้านบาท นอกจากนั้นตลาดพันธบัตรก็ได้รับผลกระทบด้วย ทำให้มูลค่าพันธบัตรทั้งหมดลดลงกว่า 4 หมื่นล้านบาท ทั้งหมดนี้ยังไม่ได้รวมถึงความเสียหายที่ไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขได้แน่นอน อันเนื่องมาจากการขายของนักลงทุนและการถูกบังคับขาย (Forced Sale) ในราคาที่ต่ำกว่าเดิมมาก อีกทั้งภาวะซบเซาในตลาดหุ้น ตลาดหลักทรัพย์และตลาดพันธบัตร อันเกิดจากการถอนการลงทุน และขาดเงินทุนใหม่เข้ามา ผลกระทบในทางลบต่อผู้นำเข้าและผู้ที่มีหนี้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งไม่สามารถประเมินเป็นตัวเลขความเสียหายได้ชัดเจน 

             ผลเสียที่ 3 (กรรมรอง) มาจากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากในปีหน้าทั้งรัฐบาลและภาคเอกชนต้องกู้เงินด้วยการออกขายพันธบัตร โดยในส่วนของรัฐบาลคิดเป็นตัวเลขไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณและ Re-Finance หนี้เดิม แต่ผลจากมาตรการควบคุมเงินทุน ทำให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นถึงกว่า 1% ถ้าคิดง่ายๆ ว่าเป็นพันธบัตรอายุ 10 ปี ก็จะทำให้ต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นถึง 3 หมื่นล้านบาท 
              ที่น่าเป็นห่วงและไม่ต้องการให้เกิดขึ้นก็คือ ภาวะเงินทุนไหลออก จนทำให้เกิดวิกฤต ทางเลือกที่น่าจะพิจารณาแทนที่การควบคุมเงินทุน ก็คือ 

ทางเลือกที่ 1) ช่วยผู้ส่งออกโดยตรง โดยสนับสนุนทางการเงินกับผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบจริงๆ จากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น 

ทางเลือกที่ 2) เปลี่ยนเป็นการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่ เพื่อตรึงอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินบาทกับเงิน US ดอลลาร์ ในระดับที่เห็นว่าเหมาะสม ซึ่งเป็นมาตรการชั่วคราว ดังเช่น ประเทศจีนและฮ่องกง หรือหากไม่ต้องการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ทั้งหมด ก็กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนแบบ Two-Tier Exchange Rate System โดยให้อัตราแลกเปลี่ยนสำหรับชาวต่างชาติที่นำเงินต่างประเทศเข้ามาลงทุนเป็นอัตราคงที่ ไม่เปลี่ยนแปลงในตอนนำเงินเข้าและตอนนำเงินออก 

ทางเลือกที่ 3) เก็บภาษีจากกำไรของนักลงทุนต่างประเทศ มาตรการนี้จะต่างจากมาตรการควบคุมเงินทุนที่ต้องวางเงินสำรอง เพราะจะเก็บภาษีจากกำไรที่เกิดขึ้นของนักลงทุนเท่านั้น ซึ่งจะมีผลให้ลดการเก็งกำไรค่าเงินลง โดยที่มีผลกระทบและผลข้างเคียงน้อยกว่าการต้องให้เงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศต้องตั้งสำรอง 30% ซึ่งผมจะได้กล่าวในรายละเอียดในตอนต่อไป 
ภาพประจำตัวสมาชิก
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 45

โพสต์

ที่พี่เจ๋ง เอามาโพสต์ ผมได้อ่านแล้วครับ

แต่ยังไม่เห็นว่ามันบอกว่าปัญหาจริงๆคืออะไร ????

เห็นอ่านแต่บอกว่า เสียหายเท่าไหร่ และอยากให้ช่วยผู้ส่งออกแบบอื่นๆได้อย่างไร แค่นั้นเองครับ


แต่ที่อ่านแล้วผมก็คิดอยู่นิดคือ **** เราโดนโจมตี **** แค่นั้นเอง
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 32

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 46

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

เป็นไปได้ทั้งนั้นแหละครับ 

ผมคิดง่ายๆนะ ถ้าจะแก้ปัญหา มันต้องรู้ก่อนว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไร 

แต่เคสนี้ ผมเห็นคนพูดกันไปเรื่อย พูดโน่นพูดนี่ แต่พอถามจริงๆ เงินบาทแข็งเพราะอะไร ไม่เห็นมีใครตอบแบบเป็นรูปธรรมได้เลย 

ถ้าไม่รู้ว่าปัญหาคืออะไร มันจะแก้ปัญหาได้ยังไงครับ  
คนทั้งแบงค์ ชาติก็เก่งๆกันทั้งนั้น ยังแก้ไม่ได้เลย คัดท้าย

อย่าว่าแต่คนที่คัดท้ายคุยด้วยเลยว่าจะรู้เรื่องอะไรเรื่องนี้ พวกเราไม่มีข้อมูลอยู่ในมือครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mon money
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 3134
ผู้ติดตาม: 28

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 47

โพสต์

ตราบใดที่อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังเป็นบวกอยู่ก็คิดว่ายังคงมีเงินไหลเข้ามาอยู่ดี เอาเงินมาเก็บในรูปเงินบาทไม่ด้อยค่าตามเงินเฟ้อ

เป็นผม ผมก็ทำ
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
ภาพประจำตัวสมาชิก
jody4003
Verified User
โพสต์: 372
ผู้ติดตาม: 0

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 48

โพสต์

Mon money เขียน:ตราบใดที่อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังเป็นบวกอยู่ก็คิดว่ายังคงมีเงินไหลเข้ามาอยู่ดี เอาเงินมาเก็บในรูปเงินบาทไม่ด้อยค่าตามเงินเฟ้อ

เป็นผม ผมก็ทำ
เอ ถ้าเป็นแบบที่คุณมนว่า มันก็ไม่ใช่ปัญหาสิครับ รึเปล่า  :roll:
ManInBlack
Verified User
โพสต์: 118
ผู้ติดตาม: 0

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 49

โพสต์

Just a game

ผมเองถ้าเล่นหุ้นตัวไหนกำไรเยอะๆก็จะจ้องหาจังหวะกลับไปเล่นหุ้นตัวเดิมอีกอยู่บ่อยๆ

เกมส์นี้เค้าอ่านแล้วว่าหน้าตักเค้ามีมากกว่าหลายเท่า แกล้งหมอบมั่ง แกล้งอ่อยบ้าง พอหมูหลงกลทุ่มหมดตัวก็ได้เวลาเชือดหมูอีกครั้ง

รอบก่อนทุบค่าเงินลงได้ไปตั้งเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ รสหวานทานง่าย
รอบนี้คิดแล้วว่าหมูต้องระวังโดนทุบอีก เลยเล่นปั้นขึ้นซะเลย เอาอีกสักห้าสิบเปอร์เซ็นต์ก็แล้วกัน


หมายเหตุ : หมูคนละตัวกับของ ดร.นะครับ
ที่สุดสำคัญที่ใจ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Sumotin
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1145
ผู้ติดตาม: 53

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 50

โพสต์

ใจเย็นครับ ตอนนี้ อ่อนตัวลงแล้ว

USD-THB 36.0250 0.9500 2.7085%

ต้องรอดูกันไปก่อนครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Golden Stock
Verified User
โพสต์: 615
ผู้ติดตาม: 0

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 51

โพสต์

เหตุมาจาก  การต้องการเห็นดอลลาร์อ่อน  ของมะกัน  เพราะอะไรนั้น
หากไม่ขนาดปิดหู  ตา  สมอง  ตัวเองไม่ไห้รับรู้  ก็น่าจะทราบเรื่อง
นโยบายดอลลาร์อ่อน  และทิศทางค่าเงินสกุลต่างๆ ในโลกเมื่อเทียบ
กับดอลลาร์มะกัน  

ในเมื่อมันเป็นกระแสหลัก  สิ่งที่สมควรทำ  หรือน่าจะทำ  คือทำอย่างไร  
เงินบาทถึงจะแข็งค่าในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับประเทศอื่นๆ  ไม่ใช่มากำหนด
เป้าหมายว่าควรจะเป็นเท่าไหร่


ถามว่าอัตราดอกเบี้ยลดแล้วทำไมค่าเงินบาทยังแข็ง ?  นอกจากกระแสหลัก
คือดอลลาร์อ่อนแล้ว  การลดแค่ 0.25 % มันไม่ถือว่ามาก  ตามความเห็น
หลายๆ คนที่ตอบไว้  ลองดอกเบี้ยเท่าญี่ปุ่นซิครับ  แต่ว่าคงเป็นไปไม่ได้

เห็นพูดกันจัง  เรื่องส่งออก ซึ่งคิดเป็น 60% ของ GDP ถามหน่อยเถอะว่า  
ใน100 % ของส่งออกเป็นของคนไทยจริงๆ กี่เปอร์เซนต์กัน  ?  
มาตรการต่างๆ ที่ออกมานั้น  โดยแท้จริงเป็นการช่วยคนไทยกี่เปอร์เซนต์กันครับ  

ทั้งหมดทั้งปวงของรัฐบาลเผด็จการ  ถือว่ามาถูกทางแล้วเหรอ ?
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 73

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 52

โพสต์

ดอลล่าร์ 34.xx แล้ว ผมตาฝาดไปหรือเปล่า  :roll:
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
Viewtiful Investor
Verified User
โพสต์: 1477
ผู้ติดตาม: 0

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 53

โพสต์

นักเก็งกำไรเคยได้รับผลกำไรอย่างมหาศาลจากการต่อสู้ค่าเงินในช่วงวิกฤตการเงินปี 2539-2540 โดยแบงก์ชาติมีประวัติชอบต่อสู้ค่าเงินและอุปนิสัยที่ชอบเอาชนะ
นี่คือ ปัญหาที่แท้จริง หรือเปล่าครับ?

USD จะแข็งหรืออ่อนก็มีคนได้มีคนเสียทั้งนั้น ไม่รู้จะกำหนดทิศทาง Baht ได้ยังไง ถ้าเป็น USA ยังพอเล่นค่าเงินตัวเองได้ แต่ Baht เล็กจิ๋ว จะไปสู้กะยักษ์ได้ไงเนี่ย -_-'
I do not sleep. I dream.
ภาพประจำตัวสมาชิก
NinjaTurtle
Verified User
โพสต์: 506
ผู้ติดตาม: 0

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 54

โพสต์

เมื่อเช้าฟัง Bloomberg ที่ใต้ตึก แต่เสียงมันดังไปหน่อยพอจับใจความได้ว่า นักวิเคราะห์สิงค์โปร์ (ไม่รู้บริษัทไรจำไม่ได้)
มองว่าตลาดหุ้นของไทยถึงแม้จะมีปัญหาและผลกระทบมากจากมาตรการต่างๆที่ผ่านมา แต่ในแง่ของValue investment แล้วdownside rissk น่าจะยังมีอยู่ไม่มาก การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ไม่น่ามีผลร้ายกับแบงค์ต่างๆ และมองว่าตลาดหุ้นไทยยังน่าสนใจอยู่ ยิ่งการเอาเงินมาลงทุนในขณะที่ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าต่อ

จบข่าว

น่าจะประมาณว่าเฮ้ยที่ผ่านๆมามันลงมาเยอะแล้วหุ้นมันถูกนะเฟ้ย ยังน่าลงทุนต่อวะ ว่าไงดีครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 73

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 55

โพสต์

ถ้ามองว่าหุ้นไทยน่าซื้อเพราะ PE ต่ำกว่าประเทศอื่น ตอน 800 จุดก็ยังน่าซื้อได้เลยครับ แต่ตอนนี้ไม่ได้ยินนักวิเคราะห์คนไหนกล้าพูดคำนี้อีกแล้ว
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 73

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 56

โพสต์

ในแง่ Valuation ตอนนี้หลายตัวมันถูกจริงๆ นั่นแหละ ถ้าถือไว้นานๆ น่าจะดีหลายตัวทีเดียว เพียงแต่ว่าในช่วงสั้นมันมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างที่อาจทำให้ลงไปได้อีกเลยทำให้น่ากลัว

ผมซื้อกลับไปเยอะแล้ว แต่ยังไงก็ยังขอเหลือเอาไว้ก้อนนึ่งนิดหน่อยเป็นก๊อกสุดท้าย เขาชนช้างกันเมื่อไร รอให้สะเด็ดน้ำ คงได้เอาออกมาใช้ เผื่อจะทำให้รวยแบบพี่ฉัตรชัยได้บ้าง แต่ถ้าไม่มีการชนข้างก็ไม่เป็นไร ค่อยซื้อตามน้ำยังทัน ยังไงหุ้นไทยก็ยังไม่แพง ยังไม่แพง ยังไม่แพง ..... :lovl:
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
NinjaTurtle
Verified User
โพสต์: 506
ผู้ติดตาม: 0

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 57

โพสต์

สุมาอี้ เขียน:ในแง่ Valuation ตอนนี้หลายตัวมันถูกจริงๆ นั่นแหละ ถ้าถือไว้นานๆ น่าจะดีหลายตัวทีเดียว เพียงแต่ว่าในช่วงสั้นมันมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างที่อาจทำให้ลงไปได้อีกเลยทำให้น่ากลัว

ผมซื้อกลับไปเยอะแล้ว แต่ยังไงก็ยังขอเหลือเอาไว้ก้อนนึ่งนิดหน่อยเป็นก๊อกสุดท้าย เขาชนช้างกันเมื่อไร รอให้สะเด็ดน้ำ คงได้เอาออกมาใช้ เผื่อจะทำให้รวยแบบพี่ฉัตรชัยได้บ้าง แต่ถ้าไม่มีการชนข้างก็ไม่เป็นไร ค่อยซื้อตามน้ำยังทัน ยังไงหุ้นไทยก็ยังไม่แพง ยังไม่แพง ยังไม่แพง ..... :lovl:
ท่านแม่ทัพซื้อไว้แล้วมากระซิบบอกกันมั่งซิ เพราะว่าบน :doi: ยอดดอยมันเหงานะ ไม่หาเพื่อนไว้บ้างเหรอ  :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
HI.ผมเอง
Verified User
โพสต์: 811
ผู้ติดตาม: 0

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 58

โพสต์

สุมาอี้ เขียน:ในแง่ Valuation ตอนนี้หลายตัวมันถูกจริงๆ นั่นแหละ ถ้าถือไว้นานๆ น่าจะดีหลายตัวทีเดียว เพียงแต่ว่าในช่วงสั้นมันมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างที่อาจทำให้ลงไปได้อีกเลยทำให้น่ากลัว

ผมซื้อกลับไปเยอะแล้ว แต่ยังไงก็ยังขอเหลือเอาไว้ก้อนนึ่งนิดหน่อยเป็นก๊อกสุดท้าย เขาชนช้างกันเมื่อไร รอให้สะเด็ดน้ำ คงได้เอาออกมาใช้ เผื่อจะทำให้รวยแบบพี่ฉัตรชัยได้บ้าง แต่ถ้าไม่มีการชนข้างก็ไม่เป็นไร ค่อยซื้อตามน้ำยังทัน ยังไงหุ้นไทยก็ยังไม่แพง ยังไม่แพง ยังไม่แพง ..... :lovl:
คิดเหมือนกันเลยครับ
แต่กลัวว่าคนส่วนใหญ่ก็คิดเหมือนกัน :D

บาทอ่อนบาทแข็ง ทำไมเพราะอะไร แรกๆก็อยากรู้
ตอนนี้ไม่อยากรู้แล้ว
รอแค่ว่าเมื่อไหร่ ราคาหุ้นที่อยากได้ลงมาถึงจุดที่น่าซื้อ :lol:
007-s
Verified User
โพสต์: 2496
ผู้ติดตาม: 0

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 59

โพสต์

CEO เขียน:มีใครคิดแบบว่า


ก่อนนี้แค่พักตัวไหมครับ แล้วไปต่อ ถ้าเป็นหุ้นก็ แบบว่า เจ้ามือทุบเก็บของ

:rofl:  :rofl:  :rofl:
ภาพประจำตัวสมาชิก
tachikoma
Verified User
โพสต์: 140
ผู้ติดตาม: 0

เอ ... ทำไมดอกลดปุ๊บ เงินแข็งปั๊บ เลยละครับ ????

โพสต์ที่ 60

โพสต์

ผมเข้าใจอย่างนี้นะครับ ไม่รู้ถูกเปล่า
ถ้าลดดอกลง แล้วบาทน่าจะอ่อนตัวลง เพราะต่างชาติเอาเงินเข้ามาน้อยลงครับ แต่ก็ต้องดูว่าที่ลดลงไป ลดแล้วยังสูงกว่าดอกเบี้ยธนาคารต่างประเทศหรือเปล่า ถ้ายังสูงกว่า ต่างชาติก็ยังเอาเงินเข้ามาอยู่ดี บาทก็แข็งเหมือนกัน
อันนี้ต้องรบกวนผู้ที่รู้ที่ตรวจสอบอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้และดอกเบี้ยเงินฝากในต่างประเทศครับ

เมื่อดอกเบี้ยลดลงทำให้ ตราสารหนี้ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าปัจจุบันมีมูลค่าสูงขึ้น หากผู้ถือรายใหญ่เทขายตราสารหนี้ออกมาเพื่อเอาค่า Premium แล้วมีต่างชาติมาช้อนซื้อ ก็เป็นไปได้ว่าบาทจะแข็งขึ้นอ่ะครับ ซึ่งผมไม่แน่ใจเรื่องข้อกำหนดของแบงค์ชาติที่ออกมาว่า การที่ห้ามต่างชาติลงทุนในตราสารหนี้ คลอบคลุมแค่ไหน มีช่องโหว่หรือไม่?

ข้อกำหนดที่ออกมาครอบคลุมถึงการซื้อขายแลกเปลี่ยนตราสารหนี้ในตลาดรองหรือไม่? และหากบริษัทหรือธนาคารในไทย เสนอชำระหนี้ด้วยตราสารหนี้ หรือ ไปกู้เงินต่างประเทศโดยใช้ตราสารหนี้ค้ำประกัน จะเป็นการผิดข้อกำหนดหรือเปล่า?