ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
Linzhi
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1526
ผู้ติดตาม: 232

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 31

โพสต์

เรื่องเปิดเสรีทางแรงงานได้ยินมาตั้งนานแล้วครับ ตั้งแต่ผมเรียนวิศวะเมื่อประมาณหกเจ็ดปีก่อนเป็นอย่างน้อย ผมว่าบางมหาวิทยาลัยที่มีวิสัยทัศน์เค้าตื่นตัว และได้ปรับตัวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

มาตรฐานแรงงานผมเห็นด้วยนะครับ ประเทศเราค่อนข้างต่ำ ซึ่งมันก็สะท้อนอยู่ใน GDP ต่อหัว
ภาพประจำตัวสมาชิก
Narkgnos
Verified User
โพสต์: 21
ผู้ติดตาม: 0

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 32

โพสต์

[quote="Onokung"]ผมว่า การศึกษาไทยแปลกๆ นะครับ
อยากเลื่อนระดับการศึกษาเวลาเค้า สำรวจกันให้ดูดี
ก็เลื่อน ราชภัฏ / เทคโน มาเป็นมหาลัยซะ จำนวนผู้จบการศึกษาขั้นต่ำในประเทศ จะได้เป็นปริญญาตรีกันมากขึ้น ซึ่งผมบอกตรงๆว่า ไม่ไหวครับแล้วครับประเทศไทย แย่แล้ว ไม่ยกระดับการศึกษาตัวเองแต่เลื่อนระดับแทน มีแต่จะตกต่ำ
บริษัท ญี่ปุ่นมัน ส่งคนมาสอนใช่เครื่องมันยังส่งพวก ปวช.ปวส.กันมาได้เลยครับ
ไม่ต้องตรีของพี่เค้าหรอก
แล้วยังเรื่องการสอบ เอ็ททร้านอีก ครับ ช่วยซะจนไม่รู้จะช่วยยังไง
แก้ปัญหา เด็กเครียด ฆ่าตัวตาย สอบไม่ติด ด้วยการ ลดระดับการศึกษา

แต่..... มันไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง ของการศึกษา เพราะ มันเป็นแค่การแก้ระยะสั้นๆ แค่ไม่ให้เด็กฆ่าตัวตาย มีที่เรียน ได้ปริญญา
อย่าตัวเองถามว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร แต่จงถามตัวเองว่าเราเกิดมาเพื่อใคร
nanchan
Verified User
โพสต์: 2938
ผู้ติดตาม: 1

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 33

โพสต์

แต่ไหนแต่ไรมา มหาลัย ไม่ได้ทำให้คนเก่ง
คนจะเก่งต้องหมั่นค้นคว้าหาความรู้เอง
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
Viewtiful Investor
Verified User
โพสต์: 1477
ผู้ติดตาม: 0

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 34

โพสต์

มองโลกในแง่ร้ายกันมากไปหรือเปล่าครับ ข่าวเด็กไทยเก่งๆก็มี จะโง่จะขี้เกียจกันแค่ไหนก็มีคนเก่งคนขยันอยู่ทั่วไปนะครับ

บริษัทผมก็รับคนใหม่เยอะก็มีทั้งขยันขี้เกียจปนๆกัน

ถึงเวลาจำเป็นขึ้นมาคนเราก็พัฒนาตัวเองได้นะ สมัยเรียนบางคนก็โง่ๆสอบตกมั่งเฉียดตกมั่ง พอตั้งใจเรียนขึ้นมา ก็ grade ดีขนาดขอทุนไปเรียนเมืองนอกได้ก็มีครับ
I do not sleep. I dream.
กล้วยทอด
Verified User
โพสต์: 1468
ผู้ติดตาม: 0

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 35

โพสต์

มองว่า ถ้าแรงงานถูก ภาษาอังกฤษก็ดีกว่า
ทำไมเค้าไม่ไปตั้งบริษัทที่ศรีลังกา หรือ
อินเดียตั้งแต่แรกเลยหล่ะคะ มีเหตุผลอื่นอีกหรือเปล่า

ไม่ได้ชื่นชมกับอาจารย์บางส่วนที่หนีไปรับ job นอกนะคะ
ตอนที่เรียนก็เจอบ้างเหมือนกัน คนเรียนเองต้องรับผิดชอบตัวเองสิ
ระดับอุดมศึกษา เลือกสายที่ตัวเองถนัดแล้ว
ถ้ายังต้องรอให้อาจารย์ป้อนทุกเรื่องอีก
จบมาแล้ว ไม่มีทางทำงานได้หรอกค่ะ

เปิดเสรีเลยดีกว่าค่ะ ชอบๆ
..สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง..
ภาพประจำตัวสมาชิก
ก้อนหิน
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2344
ผู้ติดตาม: 0

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 36

โพสต์

กล้วยทอด เขียน:มองว่า ถ้าแรงงานถูก ภาษาอังกฤษก็ดีกว่า
ทำไมเค้าไม่ไปตั้งบริษัทที่ศรีลังกา หรือ
อินเดียตั้งแต่แรกเลยหล่ะคะ มีเหตุผลอื่นอีกหรือเปล่า

ไม่ได้ชื่นชมกับอาจารย์บางส่วนที่หนีไปรับ job นอกนะคะ
ตอนที่เรียนก็เจอบ้างเหมือนกัน คนเรียนเองต้องรับผิดชอบตัวเองสิ
ระดับอุดมศึกษา เลือกสายที่ตัวเองถนัดแล้ว
ถ้ายังต้องรอให้อาจารย์ป้อนทุกเรื่องอีก
จบมาแล้ว ไม่มีทางทำงานได้หรอกค่ะ

เปิดเสรีเลยดีกว่าค่ะ ชอบๆ

บางที่ทำ project ไม่เสร็จเพราะว่าหาอาจารย์ที่ปรึกษาไม่เจอ แล้ว พอมาถึงเค้าก็ send ผ่านๆไปก่อนมันก็ไม่ดีใช่มั้ยหละครับ

สงสัยต้องทำเหมือนเป็น quota นักเตะต่างชาติ เหมือน บอล spain ครับ วิศวกรไทยถึงจะได้เกิดบ้าง ถ้ารับมาหมด ก็แย่เลย
buglife
Verified User
โพสต์: 942
ผู้ติดตาม: 0

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 37

โพสต์

ระบบการศึกษาไทยเห่ยมานานแสนนาน

บ่นอยู่แต่ในนี้คงไม่มีอะไรดีขึ้น
(ขนาด internet ช่วยพัฒนาการศึกษาได้เยอะนะ)

รัฐบาลไหนๆ ก็เอาใครก็ไม่รู้มาเป็นรัฐมนตรี
(นายกคนนี้ยังไม่เอาเลย ฮาๆ คุณจาตุรนต์ คงไม่มีปัญญาเปลี่ยนทัศนคติไดโนเสาร์ได้)

อีกหน่อยได้แข่งกะพม่า เขมรแน่  :cry:
ภาพประจำตัวสมาชิก
CEO
Verified User
โพสต์: 1243
ผู้ติดตาม: 0

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 38

โพสต์

คิดแล้วต่อไปวิศวกรคงเหมือนอาชีพนักลงทุนครับ

เข้ามา 100 กลายเป็นปุ๋ยคือเป็นคนล้มเหลวในชีวิตไป 80 เพราะติดหุ้น หางานทำไม่ได้
เหลือ 20 เท่านั้นที่อยู่รอดเป็นปรกติได้

เอ๊ะ แล้วจะเรียน วิศวะ ไปทำไม
แล้วจะเป็นนักลงทุนไปทำไม


ในเมื่ออาชีพนี้น่าจะเป็นอาชีพที่มีโอกาสล้มเหลวมากกว่าอาชีพอื่นๆ
:roll:  :roll:  :roll:
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
woody
Verified User
โพสต์: 3763
ผู้ติดตาม: 4

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 39

โพสต์

high risk high return ???
Impossible is Nothing
pttop
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 18
ผู้ติดตาม: 0

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 40

โพสต์

ถ้าเป็นผม การเรียนเป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่ส่วนสำคัญผมคิดว่าหลังจากจบนั้นคุณทำไรได้บ้าง ( เบื่อกับการที่มองแต่สถาบัน )
* เกี่ยวกับกระทู้บ้างมั้ยเนี้ย มั่วไปซะงั้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
มดง่าม
Verified User
โพสต์: 584
ผู้ติดตาม: 0

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 41

โพสต์

:|
ตกงานแล้ว  กำลังเริ่มทำสวนอ้ะ
เหงาให้ตาย ถ้าไม่ใช่เธอ(หุ้นดี) ไม่เอา
ขอให้โชคดีในการลงทุนครับ
เทียน
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 426
ผู้ติดตาม: 2

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 42

โพสต์

ไม่ค่อยได้สัมผัส แต่รู้สึกว่า ถ้าสอนให้เด็ก มีระเบียบวินัย สามารถค้นคว้าเอง มีความมุ่งมั่น ก็น่าจะมีครับ
sitti
Verified User
โพสต์: 109
ผู้ติดตาม: 0

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 43

โพสต์

พวกจบวิดวะ ปัจจุบันเมีมากจริงๆครับ เก่งๆกันทั้งนั้น แต่ภาษากับวิดวะนี่ไม่ค่อยถูกกันเลย คำนวนเก่ง แต่ไม่เก่งภาษา การทำงานจบมาไม่มีใครผมคิดส่าเป็นหรอกครับ  เพราะเรียนกับทำงานคนละเรื่องกันเลย เรียนมาเป็นสิบๆวิชา  ใช้จริงไม่กี่วิชา แถมแตกต่างจากที่เรียนมาก ต้องมาศึกษาเพิ่มเติม ยังเคยถามตัวเองว่าอาจารย์ทำไมไม่สอนให้ตรงจุดหน่อย จะได้ไม่เหนื่อย ถ้าเป็นไปได้ ปรับปรุงระบบการสอนของมหาลัยไทยให้เพิ่มภาคปฏิบัติจริงให้เยอะขึ้นอีกดีกว่าคับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
CEO
Verified User
โพสต์: 1243
ผู้ติดตาม: 0

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 44

โพสต์

[quote="มดง่าม"]:|
ตกงานแล้ว
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
ภาพประจำตัวสมาชิก
stp
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 252
ผู้ติดตาม: 0

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 45

โพสต์

ผมเคยสัมภาษณ์งาน Engineer จบใหม่ ป. โท รู้สึกความคิดความอ่าน sense ในการแก้ปัญหาไม่ค่อยได้ คำถามบางคำถามก็เป็น Engineering ง่ายๆแต่ตอบไม่ได้
เรียนเก่ง แต่รู้ในแค่วิชาเพื่อสอบหรือเปล่า ไม่ค่อยรู้จัก apply ขาดจินตนาการยังไงก็ไม่รู้ ...บางคนนะครับ แต่ก็เยอะเหมือนกัน

ถ้าบอกตอนนี้วิศวะขาดแคลน ไม่รู้ข้อมูลจากไหนกันนะ ตอนนี้ยังมีชีวิตเปลื้อนฝุ่นอีกเยอะเลย

ภาษาก็เป็นอีกตัวที่เป็นข้อด้อยของวิศวกรไทย ไม่ใช่แค่อาชีพวิศวกรหรอกครับ อื่นๆด้วย เราเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ประถมยันมหาลัยแต่ไหง เจอฝรั่งแล้วไบ้กินก็ไม่รู้


ผมเริ่มทำงานกับบริษัทญี่ปุ่นก็ไม่เห็นเขาจะฉลาดวิเศษกว่าบ้านเราตรงไหน
แต่ที่ต่างคือการทำงานครับพวกนี้ทำงานเป็นทีม และจะทุ่มเทกับงานมากกว่า
ไม่ใช่แค่วิศวกร ผมเคยไปโรงงานเขาที่ญี่ปุ่นจะรู้เลยพนักงานเขาทำงานมากกว่าเรา 2-3 เท่า เก้าอี้ไม่มีให้นั่ง ถ้าเป็นคนไทยก็ห่วงแต่ขึ้นเงินเดือนหละครับ เปลี่ยนงานสบายรายได้เยอะเป็นกิน อีกอย่างเวลาเรียก meeting นี่จะรู้เลย คำว่าตรงเวลาหรือว่ารับผิดชอบนี่

ภาษาอังกฤษของผมเองมาวิบัติตอนทำงานบริษัทญี่ปุ่นนี่แหละครับ อังกฤษผสมไทยผสมญี่ปุ่นผสมภาษาไบ้

มาที่ใหม่ความจำเป็นบังคับยังไงก็ต้องได้ อิงลิส ฟอร์ ยู ก็อิงลิส ฟอร์ ยู
ไม่มีใครทำอะไรเป็นตั้งแต่เกิด ตอนหลังฝรั่ง ก็ฝรั่ง ด่ากลับมันไปมั่งถ้าไม่ make sense

น้องๆบางคนถ้าคิดว่าตัวเองภาษาไม่แข็งแรง ลองฝึกอ่านข่าวจาก Xinhua ภาคภาษาอังกฤษดูผมว่าภาษาเขาใช้ง่ายดี UBC ก็ลองเปลี่ยนเป็น Sound track ดูนานๆเข้าก็ชิน ยิ่งต้องทำงานใช้ภาษาอังกฤษ ทุกวันอีกไม่นานก็คล่องครับ

วิศวกรที่มีประสบการณ์ คงหาได้น้อยหละ รุ่นเดียวกันกับผมก็เห็นออกไปทำธุรกิจส่วนตัวกัน หาได้น้อยที่เหลือเพื่อรออยู่จนขึ้นไปเป็นผู้บริหารกัน

คุณมน ยังไม่อยู่เลย
หลายคนในนี้ก็คงเหมือนกันแหละ ไม่งั้นคงไม่ถามเรื่องอิสรภาพทางการเงินกันหรอก

วัฒนธรรมบริษัทญี่ปุ่นคงไม่เหมาะกับคนไทยเท่าไหร่มั้ง เวลาขึ้นเงินเดือนตามอายุงานขึ้นแบบบันใดเลื่อนทำมากทำน้อยไม่แตกต่างกัน เผอิญเขาขยันกันหมด แต่คนไทยบางคนขยันบางคนขี้เกียจสุดท้ายได้มาไม่ต่างกัน คนที่ขี้เกียจก็เลยเรื่อยๆ ไอ้คนที่ขยันเก่งมันก็คงไม่อยู่กัน ไม่แปลกหรอกครับที่บริษัทญี่ปุ่นบอกวิศวกรไทยไม่ค่อยได้เรื่อง

หลักสูตรการเรียนการสอนผมว่าต้องเรียนกันหลายสิบปีมั้งกว่าจะคลุมทุกกลุ่มอุตสาหกรรม

วิศวกรที่เก่งก็มียอะไปออกอย่างน้อยก็บริษัทของพี่ CEO แหละ

ผมอยากให้มีบริษัทแบบว่าของคนไทยเยอะๆ เราจะได้เพิ่มมูลค่าให้กับประเทศได้
ตอนนี้ได้แค่รับจ้างผลิตครับ วิศวกรที่จบมาใหม่ๆเขาจะได้ต่อยอดใช้ความคิด กันมั่ง
ภาพประจำตัวสมาชิก
ch_army
Verified User
โพสต์: 1352
ผู้ติดตาม: 2

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 46

โพสต์

ในฐานะที่เรียนวิดวะคนนึงครับ ผมก็ว่าเราเรียนอะไรที่มันไม่ตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานเท่าที่ควรครับ ผมเองก็เด็กบางมดครับพี่มนครับ แต่ว่าผมก็รู้สึกว่าอาจารย์สอนครบนะครับ อันนี้เป็นเรื่องของรายบุลคลมากกว่ามั้งครับเร่องรับงานนอกเนี่ย แต่ผม เรียนอุตสาหการ รุ่น 39 นะครับ ผมยอมรับว่าพี่มนเก่งครับ เห็นบทความของพี่ในวารสารวิศวกรรมด้วย คือเรื่องแบบว่าจบ ปวส.มาต่อวิศวะเนี่ย ผมว่าได้เปรียบตอนลงชอปมากๆเลย ผมเองไม่เก่งทางช่างเท่าไรได้คะแนนไม่ค่อยดีครับได้แต่วิชาคิดเลขๆ แล้วก็จริงที่พี่ว่าครับ ชอปของบางภาคอุปกรณ์ล้าสมัยมากรับไม่ได้เลย แต่ของผมวิชาภาคก็พอได้ครับ เพราะเผอิญเค้าลงทุนสร้างตึกซื้อเครื่องใหม่ แต่ปัญหาที่มีมากขึ้นคือ เด็กรุ่นใหม่ๆ ชอบเรียนสบายๆ งานสบายๆ เงินดี ผมก็ว่าเราไม่เก่งแล้วจะไปเอาเงินเค้ามากๆใครจะให้ ละเนอะ

เรื่องการศึกษาเน่ยผมว่าเราไม่ได้โง่หรอกครับแต่ว่า มหาลัยกับภาคธุรกิจยังสนิทกันไม่พอครับ ต้องบอกกันครับว่าอยากได้แบบไหน วิศวกรก็ต้องเรียนอะไรที่มันเจาะจงมากขึ้น ได้ดูได้เห็นอะไรมากขึ้น และผมสนับสนุนเต็มที่กับระบบการทำรายงานและ term project ครับเพราะเรียนรู้อะไรมากเลย ผมเองตอนเรียนก็เหนื่อยครับตอนทำรายงาน แต่รู้เลยว่ามีประโยชน์มากๆ ความรู้ยังติดหัวมาบ้างแม้ไม่ได้ใช้ส่วนนั้นเลยตั้งแต่จบมาก็ตามครับ ผมเองได้ทำแบบนั้นเฉพาะช่วงปี 3 ครับ ส่วนปี 4 เป็นโปรเจกต์จบก็ได้ความรู้ครับ แต่ของผมมันแบบงานกลุ่มครับ หากคนไหนกินแรงเพื่อนก็ได้ความรู้น้อยครับ แล้วก็อกีอย่างครับ มีวิชานึงสอบทุกอาทิตย์เลย ดีมากๆครับ เพราะว่าได้ความรู้ดีติดแน่นทนนานด้วยครับ เพราะต้องอ่านหนังสือตลอดเลย แบบเด็กหมอเลย 55

จริงๆหาก วิศวะทั้งระบบเรียนหนักสัก 75 เอร์เซ็นต์ของหมอ วิศวะทั้งระบบคงเก่งกว่านี้อีกเยอะ แล้วจะช่วยชาติในส่วนเทคนิควิศวกรรมได้อีกมากครับ

อาชีพอื่นๆก็สำคัญนะครับ ทุกอาชีพทุกคนมีบทบาทในสังคมเสมอแหละครับ แต่กระทู้นี้เน้นเรื่องวิศวะ ผมก็เลยพล่ามยาวเลย ขอโทษด้วยครับ
http://inspirationword.blogspot.com

-กำลังใจ มีอยู่ในตัวคุณ-
-พัฒนาทัศนคติ สู่ชีวิตแห่งชัยชนะ-
ภาพประจำตัวสมาชิก
harry
Verified User
โพสต์: 4200
ผู้ติดตาม: 0

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 47

โพสต์

การศึกษาไทย เรียนมาเป็นลูกจ้าง

อยากเป็นเจ้าของกิจการ อยากเป็นนักลงทุน ก็เรียนถึงระดับไหนก็ได้ครับ ขอให้มีเงินทุน และสมองที่คิดหาช่องทางการค้า คิดหากำไรได้ ก็รวยได้ครับ
Expecto Patronum!!!!!!
ภาพประจำตัวสมาชิก
BerZerK
Verified User
โพสต์: 128
ผู้ติดตาม: 1

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 48

โพสต์

ไม่เป็นฉพาะลูกศิษย์หรอกครับ บ่อยครั้งก็เป็นที่ อาจารย์ นะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
S&K Fund
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 247
ผู้ติดตาม: 0

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 49

โพสต์

โดยส่วนตัวนะครับ  หลังจากที่จบการ ป.ตรี ไฟฟ้า
พอเข้าทำงานส่วนมากจะต้องมีการเรียนรู้งานใหม่ทั้งหมด
เนื่องจาก เนื้อหาการเรียนจะล้าหลังการทำงานหลายปี
ในตอนที่เรียน เราจะไม่ได้สัมผัสกับของจริงมาเท่าไร ทำให้ประสพการณ์จะน้อยกว่า
คนที่ทำงานด้านช่างเทคนิค  
ผมคิดว่า หลักสูตรการสอนในปัจจุบัน   ยังอยู่กับวิชาการ สมัยก่อนอยู่มาก
อย่างเช่น เราจะเรียนพื้นฐานเรื่องคณิตศาสตร์ อนุกรมต่างๆ แต่ปัจจุบัน มี
คนคิดโปรแกรมคอม มาให้ทำการวิเคราะห์งานให้เราแล้ว  
คือ หลักสูตรไม่ได้พัฒนาตามปัจจุบันมากนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ก้อนหิน
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2344
ผู้ติดตาม: 0

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 50

โพสต์

แต่บางทีผมมองต่างมุมนะครับ

ว่าเราเรียนแต่พื้นฐานอะครับ เพื่อให้สามารถไปประยุกต์กับอนาคตทุกอย่างได้ครับ
ถ้าเราไม่รู้ว่าวงจรวิเคราะห์ยังไง แล้วเราจะใช้ tool ให้เต็มประสิทธิภาพมันได้ไงครับ
แต่ผมว่ามาตรฐานการวัดผลมันน่าจะดีกว่านี้มากกว่าครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ch_army
Verified User
โพสต์: 1352
ผู้ติดตาม: 2

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 51

โพสต์

ใช่แล้วครับเรารู้พื้นฐานดีครับเพราะจะมีค่ารมากยิ่งหากเรียนสูงขึ้นไปหรืออยู่ในฐานะผู้พัฒนา คิดค้นเทคโนโลยีใช้เอง

แต่ผมว่าหากเรามานั่งวิเคราะห์กันลึกๆอาจได้หลักสูตรที่รู้พื้นฐานเพียงพอสำหรับปริญญาตรี และรู้เทคโนโลยีในปัจจุบันเพื่อจะไปทำงานเชิงเทคนิควิศวกรรมไปด้วยกันก็ดีครับ ไม่ว่าจะเป็นการเยี่ยมชมโรงงานของจริงก็ยังดีครับ จะได้เปิดหูเปิดตาด้วย

แล้วหากใครจะเรียนสูงๆก็เปิดวิชาเลือกหนัก แมท หนักฟิสิกส์ไปให้เค้าเลือกครับ น่าจะโอเคนะครับ ผมว่าเราใวเคราะห์กันดีกว่าว่าหลักสูตรควรเป็นไงบ้างและเรียนอะไรบ้างีไหมครับเผื่อว่าจะได้ความเห็นดีๆไปเสนอ สถ่นศึกษาที่มีวิสัยทัศน์(ประเทศไทยยังคงมีแน่นนอน หวังไว้นะครับ)
http://inspirationword.blogspot.com

-กำลังใจ มีอยู่ในตัวคุณ-
-พัฒนาทัศนคติ สู่ชีวิตแห่งชัยชนะ-
ภาพประจำตัวสมาชิก
CEO
Verified User
โพสต์: 1243
ผู้ติดตาม: 0

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 52

โพสต์

ผมขอสรุปประเด็นที่ผมมองนะครับ

1. ผมอยากทราบว่า สภาวิศวกร และ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยจะ respond อย่างไรกับประเด็นข่าวนี้ครับ

2. ผมต้องการให้เสียงของวิศวกรไทยดังไปถึงหูของนายกครับ
ไม่ใช่มีแต่เสียงของเจ้าของโรงงานต่างชาติเท่านั้นที่ไปถึงหูของท่านนายกเรา

3. คนที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของวิศวกรทั่วประเทศไทยมีความคิดเห็นอย่างไรกับประเด็นนี้

ไม่ใช่แค่เพียง ไปตรวจรอยร้าวที่สนามบินหนองงูเห่าครับ
ตอนนี้ผลงานท่านเข้าตาท่านนายกแล้ว ก็ขอให้ใช้จุดนั้นทำเพื่อพี่น้องวิศวกรด้วยครับ

ผมขอถามใครคนหนึ่งครับ

สมมติ นะครับ สมมุติว่า ผมเรียนจบวิศวะ มา แต่หางานทำไม่ได้ มันเป็นความผิดของผมไหม

และถ้าผมผิด ท่านมีคำแนะนำผมไหม ว่าผมควรทำอย่างไรบ้าง

และถ้า ผมไม่ผิด แล้วใครละ ผิด
และคนที่ทำผิดนั้นสมควรจะทำอย่างไรกับตัวเองดี

ขอบคุณท่านเจ้าของเวบ และผู้บริหารเวบที่ให้โอกาสพวกเราได้พุดคุยเรื่องนี้ครับ
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
sunya_j
Verified User
โพสต์: 7
ผู้ติดตาม: 0

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 53

โพสต์

ผมก็เป็นวิศวกรคนหนึ่งที่ทำงานต่างประเทศมาตลอด  ก็ได้เห็นการทำงานของวิศวกรจากทางอินเดียมาเยอะพอสมควร ถ้าเทียบความสามารถแล้วการทำงานไม่แตกต่างกัน ทางเทคนิคอลก็ไม่ต่างกัน แต่ที่ต่างกันก็เพียงแค่ภาษาเท่านั้น ขอย้ำที่ว่าไม่ต่างกันนั้นคือคุณภาพด้อยพอกัน วิศกรในประเทศเหล่านั้นมีปัญหาเหมือนเราคือการศึกษาไม่พัฒนาล้าหลัง เราต้องยอมรับว่าหลักสูตรการศึกษาของเราไม่มีการพัฒนาบวกกับอาจารย์ไม่มีคุณภาพในแง่ของความรับผิดชอบ สมัยผมเรียนเมื่อสิบปีที่แล้ว บางวิชาเจอหน้าอาจารย์แค่สองครั้งในหนึ่งเทอม แล้วที่สำคัญตัวเด็กบ้านเราสมัยนี้ก็ไม่สู้งานความรู้ทางเทคนิคอลอ่อนมากๆ เด็กจบจากปวสบางคนยังเก่งกว่าเลย  อย่างไรก็ตามผมไม่เห็นด้วยกับการนำเข้าวิศวกรจากประเทศเหล่านั้นเนื่องจากคุณภาพไม่ได้ดีกว่าเราเลย  สไตล์การทำงานก็แย่พูดมากกว่าทำ ถ้าไม่เคยทำงานด้วยอาจจะคิดว่ามีความรู้หรือทำงานดีต้องเจอกับตัวเองครับ คนต่างประเทศที่เคยทำงานร่วมกันก็บ่นกันทุกคนครับกับคนจากอินเดีย อาจจะเป็นเพราะวัฒนธรรมการทำงานของเขาที่ต้องถีบตัวเองขึ้นโดยการสร้างภาพและเลียขาเจ้านาย ถ้านำเข้ามาจริงๆ ก็นรกชัดๆครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
S&K Fund
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 247
ผู้ติดตาม: 0

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 54

โพสต์

เพิ่งนึกออก เคยได้ยิน กรรมการท่านหนึ่งในสภาวิศวกร ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องการ
นำเข้าวิศวกรจากต่างประเทศเข้ามา  ท่านได้ให้ข้อเสนอแนะว่า
ถ้าเราได้มีการนำเข้าวิศวกรจากต่างประเทศ เราจะต้องเป็นเจ้านายเค้ามากกว่า
ที่วิศวกรไทยจะไปเป็นลูกจ้าง  คือ ทำงานร่วมกัน หรือว่าเราศึกษาการทำงาน
ของวศ.ต่างประเทศ เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการพัฒนา  
 เรื่องนี้อาจจะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการศึกษาต่อเนื่องของวิศวกร
ที่ทางสภาวิศวกรได้มีการกำหนดให้มีการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อขอใบกว.นะครับ
ในส่วนของผมที่ได้ทำงานกับต่างประเทศ วิศวกรต่างประเทศ ก็ไม่ได้มี
ความสามารถทางเทคนิคที่เหนือกว่าเรามาก แต่เค้าจะมีดีกว่าในแง่ก็การพัฒนา
ความรู้ต่างๆได้ดี  เช่น  ตอนนี้เรายังต้องนำเข้า อุปกรณ์ high voltage เข้ามา
มากกว่าที่เราจะผลิตได้เอง  อย่างที่อินเดีย เทคนิคในการสร้างเบรคเกอร์
เค้าจะซื้อ license ของญี่ปุ่นมา  แล้วทำการผลิต ประกอบ ทดสอบ ในประเทศ
ตอนนี้ประเทศไทย ยังเป็นผู้ใช้เทคโนโลยี มากกว่านะครับ   :roll:  :roll:  :roll:
Concert
Verified User
โพสต์: 44
ผู้ติดตาม: 0

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 55

โพสต์

ไม่ใช่เรื่องใหม่เลย ดดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเข้า วิศวกรด้านคอมพิวเตอร์จากอินเดีย หรือการใช้ remote service โดยตรงไปยังอินเดีย ยอมจ่ายค่าโทรศัพท์ถูกกว่าจ่ายเงินเดือนให้วิศวกรไทย
genie
Verified User
โพสต์: 1474
ผู้ติดตาม: 2

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 56

โพสต์

จริงๆเรื่องการศึกษาเนี่ย จุดนึงที่ผมสังเกตุตลอดคือ อาจารย์เองมักจะกังวลเรื่องสอนไม่ครบบทเรียน มากกว่าที่จะเน้นให้นักเรียนเข้าใจและเข้าถึงบทเรียน ถ้าเราหยิบ Textbook ขึ้มมาดูจะเห็นว่าในบทแรกๆจะเป็นพื้นฐานในองค์รวมของวิชานั้นๆ(และการนำไปใช้จริงก็ขึ้นกับบทแรกๆนี่แหละ) แต่อาจารย์มักสอนแบบข้ามๆกลับมาเน้นในบทหลังๆซึ่งดูว่ามันซับซ้อน ยาก เท่ห์ (ไม่ไม่ได้ใช้จริงซักเท่าไหร่) แต่ในเมื่อการให้คะแนนมันเน้นปริมาณที่ทำได้มากกว่าความเข้าใจในองค์รวมในเนื้อหาแล้ว มันก็เหมือนบ้านที่ฐานไม่แข็งแรงนั่นแหล่ะครับ จริงๆแล้วเราน่าจะตามอาจารย์สมัยโบราณเหมือนอาจารย์มวย นักมวยต้องมีพื้นฐานทางร่างกายที่แข็งแกร่งเสียก่อน ตามด้วยแม่ไม้ ถึงค่อยจบที่ลูกไม้ แต่นี่การศึกษาบ้านเราชอบกระโดดข้ามขั้นเทคนิคสะบัดช่อลูกไม้แพรวพราวแต่พอเจอของจริง  :drink:
ภาพประจำตัวสมาชิก
ch_army
Verified User
โพสต์: 1352
ผู้ติดตาม: 2

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 57

โพสต์

เอแต่ว่า ผมดู ตารางการสอนของมหาลัยเมืองนอก(ที่ใหญ่ๆหน่อยครับ) เค้าเรียน เยอะกว่าเรานะครับ หมายความว่าในวิชานึงๆเค้าเรียนได้เนื้อหามากกว่าเราอะครับเพราะต้องมีการอ่านมาก่อน คงทำให้เด็กเข้าใจและเรียนรู้ไปได้เร็วกว่าครับ
http://inspirationword.blogspot.com

-กำลังใจ มีอยู่ในตัวคุณ-
-พัฒนาทัศนคติ สู่ชีวิตแห่งชัยชนะ-
jaychou
ผู้ติดตาม: 0

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 58

โพสต์

เนื้อหาเยอะๆ สำคัญจริงหรือ

ผมว่าการศึกษาน่าจะเป็นการทำให้คนรู้จักคิด รู้จักค้นคว้า ต่อยอด
เรื่องเนื้อหาผมมองเป็นเรื่องรอง คุยกันเรื่องสมองคน ปริมาณไม่สำคัญเท่าคุณภาพครับ

หนังสือที่เป็นหลักสูตรในเรื่องเทคโนโลยี บางเรื่องล้าสมัยมาก ทั้งนี้เป็นเพราะ ภาคการศึกษาติดตามภาคอุตสาหกรรมไม่ทัน ไม่ใช่ไม่เก่ง แต่ภาคอุตสาหกรรมไปเร็วมาก
.....ถ้าเป็นความรู้พื้นฐานจริงๆ ผมว่ารู้มากรู้น้อยไม่ทิ้งกันหรอก เพราะเนื้อหามันไม่มาก อยู่ที่เอามาใช้เป็นหรือไม่

ดังนั้นผมให้ความสำคัญกับการคิดเป็น ค้นคว้าเป็น ต่อยอดเป็นครับ


เอ้อ...ถามหน่อย คนจบวิศวะแถวนี้(จะได้ไม่นับท่าน CK) ใครยังแก้ Ordinary Differential Equation ได้อยู่บ้าง
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 30

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 59

โพสต์

เอ้อ...ถามหน่อย คนจบวิศวะแถวนี้(จะได้ไม่นับท่าน CK) ใครยังแก้ Ordinary Differential Equation ได้อยู่บ้าง
Diff Equa ไม่เคยแก้ได้อยู่แล้วครับ เกือบ F ได้คะแนนพยายามมา
เพราะฉะนั้น ไม่นับแหละ ถูกแล้ว

ตอบน้อง ch_army

เวลาเรียนที่ต่างประเทศ คนไทยเข้าคลาสวันแรกจะสติแตกครับ

เพราะไม่ได้อ่านไปก่อน อาจารย์เปิดหนังสือถามเลย
เพราะใน syllabus จะบอกไว้ว่า ต้องอ่านไปสามบทก่อนเข้าเรียน
พร้อมกับหาตัวอย่างประกอบการเรียนไปด้วย

สังคมการเรียนมหาวิทยาลัยของต่างประเทศ มักจะเป็นการเรียนด้วยตัวเอง
อาจารย์เป็นแค่พี่เลี้ยง ไม่สอนครับ

เรียกว่า coaching มากกว่า teaching

ส่วนเนื้อหา เป็นการบ้านสำหรับคิด เอาไว้ทำให้ปัญญาเบ่งบาน
ไม่ได้เอาไว้ให้ท่องจำ
jaychou
ผู้ติดตาม: 0

ใครเป็นวิศวกร เตรียมตัวตกงานถาวรได้แล้วครับ ฮา แล้วเศร้า

โพสต์ที่ 60

โพสต์

ง่ะ...ท่าน CK จบ Math ไม่ใช่เหรอคับ (ขนาดลูกชายยังชื่อ Math :B)
นึกว่าพวกนี้ขนมๆ

ประเด็นอยู่ที่ .. อย่างเรื่องที่เรียนกันเอาเป็นเอาตายในห้องอย่าง ODE จบมาไม่ได้ใช้ครับ (ผมก็แก้ไม่ได้ :lovl:) เพราะเอาเข้าจริง ODE ก็ไม่พอ ต้องว่ากันด้วย PDE ในบางระบบก็ยุ่งยากเหนือคำบรรยาย... ไปหาคำตอบจากโปรแกรมสำเร็จรูป ตาราง การทดลอง ประสบการณ์