"หุ้นที่ผมลงทุนทุกตัวมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งมาก ส่วนตัวไม่ค่อยชอบซื้อหุ้นขนาดใหญ่ (บิ๊กแคป) ตลาดมักจะให้ราคาที่แพงเกินไป หุ้นขนาดกลางและเล็กราคามีโอกาสไปได้ไกลกว่า"
ก่อนจะซื้อหุ้นสักตัวหนึ่ง พิเทพ จะเริ่มจากไล่ดูประวัติศาสตร์ของบริษัท ประเด็นที่เขาให้ความสำคัญเปป็นพิเศษคือ วิธีการบริหารจัดการ บริษัทที่ดีต้องมีผลประกอบการเติบโตสม่ำเสมอไม่ขึ้นลงหวือหวา การแข่งขันทางธุรกิจไม่รุนแรง ผู้บริหารและทีมบริหารต้องมีความโปร่งใส ประเด็นเหล่านี้สามารถบ่งบอกอนาคตของบริษัทในระยะยาวได้
"ผมไม่ชอบหุ้นที่มีความซับซ้อนโดยเฉพาะในแง่ของธุรกิจ ชอบธุรกิจที่เข้าใจได้ไม่ยาก สินค้าซื้อง่ายขายคล่อง มีระบบข้อมูลที่ชัดเจนค้นหาได้ตามเว็บไซต์ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทนั้นต้องไม่มีความตื้นลึกหนาบางให้ชวนสงสัย"
เมื่อได้ข้อมูลเหล่านี้ครบถ้วนแล้วก็จะหา "จังหวะซื้อ" พิเทพ เตือนว่า การซื้อหุ้น "อย่ารีบร้อน" มั่นใจแล้วค่อยๆเข้าไปลงทุน ถ้าหุ้นตัวนั้นดูยุ่งยากมากก็จะซื้อผ่านกองทุน (ส่วนบุคคล) เพื่อความปลอดภัย การลงทุนจะให้น้ำหนักที่ตัวหุ้นมากกว่าสภาวะตลาด ถ้าคิดว่าการตัดสินใจรอบคอบดีแล้วจะไม่กังวลกับสภาวะตลาดจะขึ้นหรือลง
สำหรับระยะเวลาการลงทุนนั้นไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว กำไรขึ้นอยู่ที่ "ความพอใจ" ถ้าหุ้นที่ลงทุนไว้ปรับตัวขึ้นเร็วในจุดที่น่าพอใจก็อาจ "เปลี่ยนตัว" หรือ "ลดปริมาณหุ้นลง" ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในเวลานั้นๆ แม้ความตั้งใจเริ่มแรกจะเลือกหุ้นเพื่อเน้นถือลงทุนระยะยาวก็ตาม
"ทุกครั้งที่ลงทุนหุ้นหนึ่งตัว ผมจะคิดเสมอว่าหุ้นตัวนั้นอยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ และมีคนชวนไปร่วมลงทุน ฉะนั้นต้องศึกษารายละเอียดทุกอย่าง ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของคนหนึ่ง ซึ่งก็จะทำให้เราสามารถวิเคราะห์อนาคตของบริษัทนั้นได้ นั่นคือ นิยามการลงทุนของผม"
นอกจากนี้ พิเทพ จะไม่ตั้งเป้าหมายพอร์ตลงทุนสูงๆ มากดดันตัวเอง การลงทุนจะอยู่บนความเป็นจริงและไหลไปตามจังหวะที่เปิด จะไม่วาดฝันว่าภายใน 3-5 ปีข้างหน้า ต้องมีพอร์ตลงทุนเท่าไร
"ผมจะลงทุนตามจังหวะนำพาไป ไม่เคยขีดเขียน วาดความฝัน ผมยืนอยู่กับความเป็นจริง
Source : http://www.bangkokbiznews.com
กลยุทธ์การลงทุน พิเทพ จันทรเสรีกุล
- CHOOKY
- Verified User
- โพสต์: 540
- ผู้ติดตาม: 0
กลยุทธ์การลงทุน พิเทพ จันทรเสรีกุล
โพสต์ที่ 1
ขออนุญาต ตัดแปะ กลยุทธ์การลงทุน พิเทพ จันทรเสรีกุล ผู้บริหาร KCAR นะครับ
"ค้นหาคุณค่าให้พบ แล้วซื้อหุ้นกิจการที่ดีนั้น ซึ่งมีกำไรต่อเนื่อง ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ ในเวลาที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ และถือมันไว้ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดี และยังมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง"