หุ้นถูกมองว่าเป็น asset class ที่เสี่ยงสูงมากอยู่ top tier

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
วรันศ์ บัฟเฟต
Verified User
โพสต์: 1679
ผู้ติดตาม: 0

หุ้นถูกมองว่าเป็น asset class ที่เสี่ยงสูงมากอยู่ top tier

โพสต์ที่ 1

โพสต์

แต่ในระยะยาวกลับถูก prove แล้วว่าให้ผลตอบแทนดีกว่าทุกอย่าง

เพราะอะไร ถึงถูกมองว่าเสี่ยงอยู่??

มันขัดกัน

ในเวลาแบบนี้ กองทุนต้องลดน้ำหนัก asset class ที่ถูกมองว่าเสี่ยง การไหลออกของเงินจากตลาดหุ้นเรื่องธรรมดา

กองทุนคือเงินนำ

ส่วนย่อยนั้นคือเงินตาม ย่อยส่วนมากคิดเองไม่เป็น สรุปว่าย่อย panic ตาม ไม่มีอะไรมากหรือน้อยกว่านั้น จบ.

ฉนั้นหุ้นไม่ว่าของประเทศอะไรก็ถูกขายเพราะถูกมองจากมุม asset class ซึ่งผมคิดว่าหลงประเด็น ไม่ได้ isolate ความเสี่ยงออกมาตามพื้นฐานที่เป็นแต่มันก็เป็นแบบนี้

คิดยังไงกันครับ
value trap
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
densin
Verified User
โพสต์: 1073
ผู้ติดตาม: 0

Re: หุ้นถูกมองว่าเป็น asset class ที่เสี่ยงสูงมากอยู่ top ti

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ไม่ขัดหรอกครับ
เสี่ยงมากกำไรมาก เสี่ยงน้อยกำไรน้อย

สินทรัพย์อย่างอื่นผ่านไปกี่ปีมันก็เหมือนเดิม น้ำมัน ทอง เงิน ที่ดิน
ยังไงก็เหมือนเดิม แค่อัตราแลกเปลียนตามdemand&suppply
แต่หุ้นกาลเวลาผ่านไปมีขึ้นลงไม่แน่ไม่นอน

บริษัทที่รอดอาจจะดูว่าระยะยาวกำไรดี
แต่ก็มีบริษัทมากมายล้มตาย ไม่ปรากฏให้เราเห็นในปัจจุบัน
VI สายมืด = VI หน้ามืดซื้อตัวฮอทๆอย่าไม่ลืมหูลืมตา
tharm
Verified User
โพสต์: 53
ผู้ติดตาม: 0

Re: หุ้นถูกมองว่าเป็น asset class ที่เสี่ยงสูงมากอยู่ top ti

โพสต์ที่ 3

โพสต์

วรันศ์ บัฟเฟต เขียน:แต่ในระยะยาวกลับถูก prove แล้วว่าให้ผลตอบแทนดีกว่าทุกอย่าง

เพราะอะไร ถึงถูกมองว่าเสี่ยงอยู่??

มันขัดกัน

ในเวลาแบบนี้ กองทุนต้องลดน้ำหนัก asset class ที่ถูกมองว่าเสี่ยง การไหลออกของเงินจากตลาดหุ้นเรื่องธรรมดา

กองทุนคือเงินนำ

ส่วนย่อยนั้นคือเงินตาม ย่อยส่วนมากคิดเองไม่เป็น สรุปว่าย่อย panic ตาม ไม่มีอะไรมากหรือน้อยกว่านั้น จบ.

ฉนั้นหุ้นไม่ว่าของประเทศอะไรก็ถูกขายเพราะถูกมองจากมุม asset class ซึ่งผมคิดว่าหลงประเด็น ไม่ได้ isolate ความเสี่ยงออกมาตามพื้นฐานที่เป็นแต่มันก็เป็นแบบนี้

คิดยังไงกันครับ
การที่ผลตอบแทนในระยะยาวของหุ้นสูงกว่าไม่ได้แปลว่าไม่เสี่ยงนะครับ
saichon
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1225
ผู้ติดตาม: 5

Re: หุ้นถูกมองว่าเป็น asset class ที่เสี่ยงสูงมากอยู่ top ti

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ผมชอบคำพูดของพี่ๆที่ว่า "ความไม่รู้คือความเสี่ยง" ครับ
(ขออภัยที่จำไม่ได้ว่าใครพูดน๊ะครับ)

หุ้น ผมว่าถ้าใครไม่รู้ ไม่เข้าใจเค้านี่เสี่ยงสุดๆเชียวครับ
ผมลองนั่งนึกถึงหุ้นตัวที่พื้นฐานไม่ดี หรือมีโอกาสที่จะไม่ดีในอนาคต
หากเราถือไว้รับรองว่าเงินต้นเราหายหมดแน่ครับ

แล้วก็ตามสถิติที่บอกว่าหุ้นในระยะยาวแล้วให้ผลตอบแทนดีที่สุดนี่
ผมว่าเราไม่ควรเชื่อคำพูดนี้อย่างหมดใจและไม่ดูตาม้าตาเรือครับ
เพราะเค้าพูดในภาพรวม
เราต้องเลือกดูกิจการที่จะเลือกลงทุนด้วย หากไม่ดูกิจการที่จะลงทุนจนเข้าใจนี่
ผมว่าเรามีโอกาสหมดตัวได้เหมือนกันครับ

สรุปว่าที่คนส่วนใหญ่ที่มองว่าหุ้นเสี่ยง ผมว่าถ้าเรามองในมุมของเค้า เค้าก็มีส่วนถูกน๊ะครับ
จะมีก็แต่ "คนที่ศึกษาจนพอเข้าใจการลงทุนในตลาดหุ้นแล้วเท่านั้น ถึงจะมองว่าหุ้นไม่เสี่ยงและให้ผลตอบแทนดีที่สุดได้" ครับ
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Rocker
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4915
ผู้ติดตาม: 246

Re: หุ้นถูกมองว่าเป็น asset class ที่เสี่ยงสูงมากอยู่ top ti

โพสต์ที่ 5

โพสต์

เพราะหุ้นนั้นมีความเสี่ยงที่จะ ขาดทุนเงินต้น ครับ และ ยิ่งอนุพันธ์เช่น Warrant Option DW ทีมี gearing สูงๆที่เวลาExpire =0 แม้จะIn Money ก็ถือว่าเสี่ยงกว่าหุ้นครับ เพราะ มีโอกาสที่ เงินต้น เป็น 0

ต่างกับพวก Bond Debenture T-Bill etc ที่ หากไถ่ถอนตาม Face Value (ราคาหน้าตั๋ว) ก็ไม่มีกําไรขาด ทุน ครับ
โอกาศเสียเงินต้นตํ่า

Finance Theory (Makowitz) นั้น จะมีเส้น 1 ที่อธิบาย ว่าทําไม High Risk High Return ครับ

ในเส้น Capital Market Line ตาม Finance Theory (แกน Y บอก Expected Return) (แกน X บอก Standard Deviation คือ ความเสี่ยง นั่นเอง ) ดังนั้น ที่บอกว่า High Risk High Return นั้น พวก Bond risk free Asset ต่างๆ จะอยู่ด้านซ้ายของเส้น ซึ่ง ผลตอบแทนตํ่า (แกน Y) ความเสียงก็ตํ่า จุดที่แกน X เป็น 0 พอดี
หาก ขยับไปทางขวา ก็จะเป็น Portfolio หุ้น(Market Portfolio)
ซึ่ง ผลตอบแทน (แกน Y) ก็ อยู่สูงกว่าพวก Bond ขณะเดียวกัน ความเสียงก็สูงกว่าอยู่สูงกว่าพวกBond (แกน X )
และ ความเสี่ยงที่สูงกว่า Port หุ้น ก็จะมีพวก อนุพันธ์ Option Warrent DW etc ต่าง รวมถึง Margin ด้วย ตาม Capital Market Line นั้นบอกว่า พวกที่ลงทุนใน Bond ต่าง ๆ etc นั้น คือ พวกที่รับความเสี่ยงตํ่า ฝั่งซ้ายของเส้น CML ก็ คือพวกที่นําเงินมาให้ พวกใช้ Margin ซึ่งอยู่ฝั่งขวาสุดของเส้น CML อีกที ที่ยอมรับความเสี่ยงจากการใช้ Leverage (กู้Margin, Bank etc) มาลงทุน

ถ้าตรงไหนไม่ถูกก็รบกวนชี้แนะด้วยนะครับ
โพสต์โพสต์