กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
Blueblood
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3645
ผู้ติดตาม: 24

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 31

โพสต์

เอ้า... สนกลุ่มเรือ ยังมีอีกลำน่า (ที่ผู้บริหารโปร่งใสกว่านี้เยอะ) หรือว่าไงครับ ท่าน Blueblood?
:D
t/u.
ผู้ติดตาม: 0

t

โพสต์ที่ 32

โพสต์

ว้าว กัปตันโลโซกลับมาลงเรือแล้วเหรอนี่
Guest
ผู้ติดตาม: 0

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 33

โพสต์

คิดว่าจะคล้ายกับของ Enron หรือปล่า?
ภาพประจำตัวสมาชิก
Amorna
Verified User
โพสต์: 454
ผู้ติดตาม: 0

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 34

โพสต์

จาก Efinancethai
แกะรอยกลุ่มไทเก้นทิ้งหุ้น TTA
ขายปกติหรือสวมบทไอ้เสือถอย!!!



การลดสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือใหญ่ใน บมจ. โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ หรือ TTA อย่างกลุ่ม"ไทยเก้น"เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ดูเหมือนจะยังมีจุดที่ค้างคาใจในกลุ่มนักลงทุนและแฟน TTA บางกลุ่มว่า การลดสัดส่วนถือครองหุ้นดังกล่าวจากล่าสุดที่ถืออยู่ที่ระดับ 9.9% เหลือเพียง 3% ณ วันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีนัยสำคัญมากไปกว่าการขายหุ้นออกไปแบบปกติธรรมดาที่ไม่มีนัยใดๆ ซ่อนอยู่ตามที่บริษัทชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์หรือไม่
หากพิจารณาจากสัดส่วนหุ้นที่ถือครองอยู่ล่าสุดก่อนที่จะขายออกเมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา ก็ไม่น่าจะมีคำถามใดๆ จากนักลงทุนและแฟนพันธุ์แท้ของ TTA เพราะเป็นการลดสัดส่วนลงจาก 9.9% เหลือเพียง 3% แต่ถ้าลองมองย้อนกลับให้ลึกเข้าไปอีกสักเล็กน้อยประมาณเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาก็จะเห็นว่าการลดสัดส่วนการถือครองหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มนี้น่าจะไม่ใช่แค่การขายเข้าๆ ออกๆ แบบธรรมดา
ณ วันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุด 31 พฤษภาคม 2547 กลุ่มไทเก้นถือหุ้นประมาณ 157 ล้านหุ้น หรือร้อยละ 24.65 ของจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายและเรียกชำระแล้ว และในช่วงระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม 2547 - 16 กันยายน 2547 กลุ่มไทเก้นได้ขายหุ้นออกไปประมาณ 93 ล้านหุ้น หรือประมาณร้อยละ 14.6 ส่วนการลดลงของสัดส่วนการถือหุ้นจากร้อยละ 9.9 เป็นร้อยละ 3.0 เกิดจากการขายหุ้นประมาณ 44.8 ล้านหุ้น ในช่วงวันที่ 11 ถึง 14 ตุลาคม 2547ซึ่งเป็นงวดล่าสุด
ซึ่งการขายหุ้นทั้งหมดเป็นการขายในตลาดหลักทรัพย์ และหากกรณีเช่นนี้เกิดกับบริษัทอื่นๆ ทั่วไปการที่กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่นำหุ้นออกมาเลหลังในตลาดเช่นนี้ถือได้ว่า กำลังแสดงเจตนาอย่างชัดแจ้งที่จะทิ้งบริษัท หรือทิ้งธุรกิจที่ตนดูแลอยู่ในแง่ของการลงทุนทางธุรกิจ
แต่การขายหุ้นครั้งนี้ ได้รับการยืนยันจากผู้บริหาร TTA ว่าไม่มีอะไรมากไปกว่าการขายหุ้นออกเพื่อหันไปลงทุนด้านอื่นๆ และกลุ่มไทยเก้น ก็ยังทำหน้าที่ผู้บริหารใน TTA เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ..ในขณะนี้ พร้อมทั้งยืนยันว่า หลังจากผู้บริหารจากกลุ่มไทเก้นครบวาระแล้วจะยังเสนอให้เลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้งในอีก2 ปีข้างหน้า โดยให้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณา
การออกมายืนยันของผู้บริหาร TTA ชัดเจนในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะจุดที่กลุ่มไทยเก้นยังสามารถนั่งในตำแหน่งผู้บริหารได้ต่อไป เพราะสอดคล้องกับเหตุการณ์ปัจจุบันที่กลุ่มผู้ถือหุ้นทั้งหมดของ TTA แทบจะพูดได้ว่าส่วนใหญ่เป็นเพียงผู้ลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนทางธุรกิจเท่านั้น ไม่ได้หวังเข้ามากำหนดนโยบายและแนวทิศทางทางธุรกิจให้กับ TTA แต่อย่างใด เนื่องจากธุรกิจนี้ถือเป็นธุรกิจเฉพาะทางที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ถือหางเสือ และในขณะนี้ก็มีเพียงกลุ่มไทยเก้นเท่านั้นที่เชี่ยวชาญในธุรกิจชิปปิ้ง

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากกลุ่มไทยเก้นจะนั่งในตำแหน่งบริหารต่อไปได้..จนกว่าจะมีผู้ที่เหมาะสมกว่าเข้ามารับหน้าที่แทน หรือมีความเปลี่ยนแปลงอื่นใดติดตามมาในอนาคต ซึ่งผู้บริหาร TTA ยังไม่ได้กล่าวถึงในขณะนี้
แต่ความชัดเจนในจุดดังกล่าว ก็ไม่ได้ทำให้ความสงสัยหมดไปจากหัวใจดวงน้อยๆ ของนักลงทุนไทย เพราะประเด็นที่น่าสงสัยอยู่ที่การขายหุ้นออกอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา
- ทำไมกลุ่มไทยเก้นถึงได้ขายหุ้นออกในช่วงที่ธุรกิจกิจขนส่งกำลังโกยกำไรอื้อซ่า?
- ยังมีธุรกิจอื่นใดที่น่าลงทุน จนทำให้ไทยเก้นต้องขาย TTA ออกไปเพื่อลงทุนหรือ?(บอกบ้างสิ!!)
- พฤติกรรมที่แสดงออกจากการขายหุ้นกำลังบ่งชี้ว่าไทยเก้นกำลังแสดงบทไอ้เสือถอยหรือไม่? ถ้าใช่..แล้วทำไมต้องถอย(ด้วยเล่า)
- แล้วนักลงทุนอย่างเราท่าน..จะเข้าใจว่าอย่างไรดี
- แล้วความเปลี่ยนแปลงหลังจากนี้ล่ะนักลงทุนจะปลอดภัยหรือไม่
คำถามเหล่านี้ ล้วนแต่ยังค้างคาใจ..และรอการไขข้อข้องใจจากบิ๊ก TTA อยู่อย่างใจจดใจจ่อ หรือจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าขณะนี้บางสิ่งบางอย่างกำลังก่อหวอดอยู่ใน TTA รอวันและเวลาที่เหมาะสมก่อนจะเผยโฉมออกมาให้เห็น ประหนึ่งระเบิดเวลาที่ซ่อนอยู่ (เพราะยังมองไม่เห็น)
แต่อีกนั่นแหละถ้ามองในแง่ดี ขณะนี้ TTA กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ธุรกิจกำลังขยายตัวอย่างก้าวกระโดด จากการมีเรือใหม่เข้ามาเพิ่ม สถานะทางการเงินมั่นคงแน่นปั๊ก ธุรกิจกำลังไปได้สวยจากค่าระวางที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงแล้วจะเป็นไปได้หรือที่บริษัทจะปล่อยให้มีบางสิ่งบางอย่างมาทำลายบรรยากาศการลงทุน
ความข้องใจและคำถามที่มีอยู่ในใจของนักลงทุนในวันนี้ อาจจะแตกต่างกันไปตามมุมมองของแต่ละคน แต่เชื่อว่าที่เหมือนกันก็คือ สุดท้ายทุกมุมมองจะแปรไปเป็นราคาหุ้นในกระดาน ซึ่งนั่นจะเป็นตัวตัดสินว่านักลงทุนเขามอง TTA เช่นไร ในยุคที่สิทธิเสรีภาพทางด้านข่าวสารเบ่งบานและนักลงทุนกำลังรู้สึกเหมือนถูกบิดเบือนข้อมูลบางประการให้ภาพของ TTA ผิดไปจากความเป็นจริง


***
By : แองเจิลลิก้า
Price is what you pay, value is what you get.
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 87

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 35

โพสต์

เชียร์ให้ PSL ไปซื้อ TTA เลยเป็นไงครับดีไหม
XXyyZZ
Verified User
โพสต์: 42
ผู้ติดตาม: 0

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 36

โพสต์

...Banpu ยังขาย ATC ได้เลยนา อิอิ...
hot
Verified User
โพสต์: 6853
ผู้ติดตาม: 1

อืม

โพสต์ที่ 37

โพสต์

ขนาดเรืออีกลำไม่ได้ขายยังโดนหายเลข
บุคคลทั่วไป
ผู้ติดตาม: 0

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 38

โพสต์

เชียร์ให้ PSL ไปซื้อ TTA เลยเป็นไงครับดีไหม
นึกไม่ถึงว่าท่านพี่ฉัตรชัยก็เชียร์ PSL เหมือนกันนะครับ :lol:
TTA + PSL
ผู้ติดตาม: 0

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 39

โพสต์

เป็นไปได้ไหม
ที่ PSL จะเก็บหุ้น TTA เยอะ ๆ


กลายเป็นกองเรือที่ใหญ่ ลำดับต้น ๆ ของโลก


โดยไม่ต้องหา ฐานลูกค้าใหม่? ??
บุคคลทั่วไป
ผู้ติดตาม: 0

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 40

โพสต์

เอ้าพวกลูกเรือฝันกันเข้าไป :lol: :lol:
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 87

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 41

โพสต์

ไม่ได้เชียร์ PSL ครับ และไม่เคยซื้อหรือเชียร์ซื้อเลยครับ มีแต่ไม่วางใจ
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 29

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 42

โพสต์

ผมเคยซื้อเก็งกำไร UTL PSL TTA JUTHA และ RCL มาครบหมดครับ
ไม่ค่อยไว้ใจสักบริษัท :) แต่ RCL ดูดีสุด

แต่ return ของผมแปลกดี (ถ้าไม่นับ UTL) คือสวนกับชาวบ้าน เพราะ
มี JUTHA ที่ได้กำไร 3-4 เท่า RCL ได้ 1 เท่า PSL ได้ 20% ส่วน
TTA ขาดทุน 5% :lol: UTL ยังไม่รู้หมู่หรือจ่า กำลังรอคุณชวลิต
ขอซื้อคืนในราคาหุ้นละหมื่นบาท :) -- ซึ่งคงไม่มีทาง
DERDEN.
ผู้ติดตาม: 0

รอสักครู่

โพสต์ที่ 43

โพสต์

รอหน่อยครับ รอผมเก็บได้มากกว่ากลุ่ม ไทเกน ก่อน แล้วจะไล่อออกให้หมด แล้วจะจ้างกลุ่มคนอย่างพวกเราชาว VI เข้ามาช่วยบริหาร รอหน่อยนะครับ
asdf
ผู้ติดตาม: 0

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 44

โพสต์

ผมคิดง่ายๆ กลุ่มไทเก้น เป็นกลุ่มที่มีความเชี่ยวชาญ ด้านธุรกิจเดินเรือ ดูดีๆเค้าเป็นคนสัญชาติอะไร อิอิ ฉะนั้นคงไม่มีใคร กล้าไปแย่งการบริหารจาก เค้าแน่ แต่ การขายหุ้น ผมว่า เค้าคงมองเห็น ไซเคิล ธุรกิจ อะไรบางอย่าง อันนี้ผมให้ความสนใจมาก เพราะ รายย่อย มักจะแห่มา ซื้อตอนกำไรดีๆ แต่ ผู้ที่ อ่านขาดในธุรกิจ กลับ ขาย น่าสนใจ จริงๆ ลองย้อนกลับไปดูในอดีต หุ้น 1000 กว่าจุดสิ อะไรๆ ก็ดูดีไปหมด แล้วไงล่ะ คงรู้กันดี น่ะ ผมว่าไม่มีไร มากหรอก
คิดดูน่ะ ถ้าธุรกิจในอนาคต จะโตต่อเนื่อง ละก้อจะต้อง เทรดหุ้นกัน ไม่ใช่ พีอี แค่ นี้ หรอก
คนเรือ VI
Verified User
โพสต์: 1647
ผู้ติดตาม: 4

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 45

โพสต์

ธุรกิจเรือตู้ปี 2005 จะถึง peak แล้วแน่ๆครับ เพราะมี supply เข้ามามหาศาล ซึ่งมากกว่า demand ในปัจจุบัน กองเรือมี capacity utilization ประมาณ 91-92% ปีหน้าจะมีเรือขนาดยักษ์ Super Post Panamax 8000-10000 teus เข้ามามากกว่า 20 ลำ โดยเฉพาะกองเรือสัญชาติ ฝรั่งเศส ที่เพิ่ม เรือถึง 10 ลำ x 8000 teus

การเพิ่มของขนาด supply ที่มีอัตราการเติบโตมากกว่า demand (ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ได้ มากกว่า 100% อยู่แล้ว) จะกดดันให้ราคา freight ลงมาครับ โดย margin จะลดลงมาด้วย

ผมไม่แปลกใจที่ไทเก้น ตัดสินใจลดการลงทุนใน TTA ซึ่ง สวนทางกันกับ Temasek ที่เพิ่มการลงทุนใน NOL เมื่อกลางปีที่ผ่านมา

ขอให้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจครับ
newbie2
ผู้ติดตาม: 0

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 46

โพสต์

คนเรือ VI เขียน:ธุรกิจเรือตู้ปี 2005 จะถึง peak แล้วแน่ๆครับ เพราะมี supply เข้ามามหาศาล ซึ่งมากกว่า demand ในปัจจุบัน กองเรือมี capacity utilization ประมาณ 91-92% ปีหน้าจะมีเรือขนาดยักษ์ Super Post Panamax 8000-10000 teus เข้ามามากกว่า 20 ลำ โดยเฉพาะกองเรือสัญชาติ ฝรั่งเศส ที่เพิ่ม เรือถึง 10 ลำ x 8000 teus

การเพิ่มของขนาด supply ที่มีอัตราการเติบโตมากกว่า demand (ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ได้ มากกว่า 100% อยู่แล้ว) จะกดดันให้ราคา freight ลงมาครับ โดย margin จะลดลงมาด้วย
Does it also applicable to the PSL ??? :?:
Blueblood
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3645
ผู้ติดตาม: 24

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 47

โพสต์

คนเรือ VI เขียน:ธุรกิจเรือตู้ปี 2005 จะถึง peak แล้วแน่ๆครับ เพราะมี supply เข้ามามหาศาล ซึ่งมากกว่า demand ในปัจจุบัน กองเรือมี capacity utilization ประมาณ 91-92% ปีหน้าจะมีเรือขนาดยักษ์ Super Post Panamax 8000-10000 teus เข้ามามากกว่า 20 ลำ โดยเฉพาะกองเรือสัญชาติ ฝรั่งเศส ที่เพิ่ม เรือถึง 10 ลำ x 8000 teus

การเพิ่มของขนาด supply ที่มีอัตราการเติบโตมากกว่า demand (ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ได้ มากกว่า 100% อยู่แล้ว) จะกดดันให้ราคา freight ลงมาครับ โดย margin จะลดลงมาด้วย

ผมไม่แปลกใจที่ไทเก้น ตัดสินใจลดการลงทุนใน TTA ซึ่ง สวนทางกันกับ Temasek ที่เพิ่มการลงทุนใน NOL เมื่อกลางปีที่ผ่านมา

ขอให้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจครับ
ไม่แนใจว่าสถานการณ์แบบนี้ของเรือตู้จะกระทบเรือเทกองยังไงได้บ้างนะครับ แต่ supply ของเรือเทกองน่าจะยังโตน้อยกว่า demand ไปอีกสองปีเป็นอย่างน้อยแหล่ะครับ เพราะมีเรือรอปลดเยอะกว่าเรือสร้างอีกมาก :)
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 87

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 48

โพสต์

วันนี้เหลือ 34 บาทแล้ว กลุ่มไทเก้นคงยิ้มเลย
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
ภาพประจำตัวสมาชิก
วัวแดง
Verified User
โพสต์: 1429
ผู้ติดตาม: 0

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 49

โพสต์

เริ่มสนกลุ่มเรืออีกครั้ง เห็นราคาถูก :D

สถานะการณ์ตอนนี้ คงคล้ายกลุ่มแบงค์ ตอนข่าว npl :roll:

ซื้อตอนข่าวร้ายนี่มันจริงๆๆๆๆๆๆ :shock:

แต่ไม่ใช่ผมนะครับ..................เพราะผม........ไม่กล้าครับ :mrgreen:

กลัว............เป็น :twisted:
ถ้าผมคิดเหมือนคนทั่วๆไป ผลตอบแทนผมก็เหมือนคนทั่วๆไป
ใจผมคงละลาย ถ้าผมคิดตามคนอื่น
ผู้ชนะไม่แน่ว่าจะต้องเป็นคนที่วิ่งเร็วที่สุด...แต่เป็นผู้ที่อดทนที่สุดต่างหาก
ภาพประจำตัวสมาชิก
infinity
Verified User
โพสต์: 30
ผู้ติดตาม: 0

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 50

โพสต์

ช่วงปีที่ผ่านมานับเป็นช่วง peak ของกลุ่มเรือไปแล้ว
ไม่แปลกหากจะขาย ถ้าอีกสองสามปีข้างหน้า แม้บริษัทจะยังกำไร
แต่ก็จะลดลง...
ภาพประจำตัวสมาชิก
ครรชิต ไพศาล
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 4638
ผู้ติดตาม: 56

ปันผล 2.50 รวม 1ปี 4.50

โพสต์ที่ 51

โพสต์

Symbol: TTA
Headline: การจ่ายเงินปันผลประจำปี/การประชุมใหญ่สามัญประจำปีผู้ถือหุ้น
Time: 22 ธ.ค. 2004 08:52:59
Ref: COR:MS/EL04047t/st


วันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2547

เรื่อง แจ้งการจ่ายเงินปันผลประจำปี / การประชุมใหญ่สามัญประจำปีผู้ถือหุ้น
เรียน คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ตามที่บริษัทฯ ได้จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2547 คณะกรรมการของ
บริษัทฯ ได้มีมติดังนี้

1. รับรองงบการเงินประจำปี สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2547
2. อนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำรอบปีบัญชี 2547 ในอัตราหุ้นละ 4.50 บาท ทั้งนี้คณะกรรมการ
ได้ประกาศการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 2 ครั้งในรอบปีบัญชีนี้ รวม 2 บาทต่อหุ้น ดังนั้นในส่วน
ที่เหลืออีก 2.50บาท จะจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีชื่ออยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ณ วันอังคารที่
8 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา 12.00 น. และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ 2548
การจ่ายเงินปันผลประจำรอบปีบัญชี 30 กันยายน พ.ศ. 2547 ในอัตราหุ้นละ 4.50 บาท นั้น
สอดคล้องกับผลประกอบการของบริษัทฯ ที่เติบโตอย่างมากในรอบปีที่ผ่านมา และจากการพิจารณาของคณะ
กรรมการซึ่งเห็นว่ารายได้และงบกระแสเงินสดจะยังคงเติบโตได้ดีในปีหน้า
3. อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ โดยยกเลิกหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายจำนวน 76,315,578
หุ้น ซึ่งได้สำรองไว้สำหรับการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญตามใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งสองชุด (TTA-W และ TTA-W2)
ใบสำคัญแสดงสิทธิทั้ง 2 ชุดนี้ ได้หมดอายุลงในปี พ.ศ. 2543 และ พ.ศ. 2547 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม
บริษัทฯ ยังคงสำรองหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายอีกจำนวน 50,000,000 หุ้น ไว้เพื่อการจัดสรรหุ้นสามัญ
เพิ่มทุนให้แก่นักลงทุนโดยเฉพาะเจาะจง (Private Placement) ตามมติที่ประชุวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ
ครั้งที่ 1/2542 เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2542 ดังนั้น ทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จะเปลี่ยนจาก
770,000,000 บาท เป็น 693,684,422 บาท ซึ่งจำนวนนี้รวมถึงหุ้นสามัญ 50,000,000 หุ้นที่สำรอง
เพื่อการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่นักลงทุนโดยเฉพาะเจาะจง (Private Placement) แล้ว

4. อนุมัติการแก้ไขบริคณห์สนธิข้อ 4 ของบริษัทฯ เป็นดังนี้
ข้อ 4 ทุนจดทะเบียน : 693,684,422 บาท
จำนวนหุ้น : 693,684,422 หุ้น
มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ : 1 บาท
แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน : 693,684,422 หุ้น
หุ้นบุริมสิทธิจำนวน : ไม่มี
5. อนุมัติการแก้ไขข้อบังคับของบริษัทฯ ข้อ 49 เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศของตลาดหลักทรัพย์แห่ง
ประเทศไทยเรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์
พ.ศ.2547 ลงวันที่ 29 ตุลาคม 2547 (ส่วนที่ขีดเส้นใต้คือส่วนที่แก้ไขเพิ่มเติม)

"ข้อ 49 ในกรณีที่บริษัทหรือบริษัทย่อยตกลงเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน หรือรายการเกี่ยวกับ
การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทตามความหมายที่กำหนดตามประกาศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ที่ใช้บังคับกับการทำรายการที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทจดทะเบียน หรือการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของ
บริษัทจดทะเบียน แล้วแต่กรณี ให้บริษัทปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่ประกาศดังกล่าวกำหนดไว้ในเรื่องนั้น ๆ
ด้วย"

ทั้งนี้มติที่ประชุมคณะกรรมการข้อที่ 1-5 จะนำเสนอต่อผู้ถือหุ้นในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี
ผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาต่อไป
6. กำหนดวันประชุมใหญ่สามัญประจำปีของผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2548 ในวันจันทร์ที่ 31 มกราคม 2548 เวลา
14.00 น. ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ถนนราชดำริ กรุงเทพมหานคร
โดยมีระเบียบวาระการประชุมดังนี้
6.1 รับรองรายงานการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2547 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 30
มกราคม 2547
6.2 พิจารณารับรองรายงานของคณะกรรมการ งบดุล งบกำไรขาดทุน และงบกำไรสะสม สำหรับปี
บัญชี สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2547 พร้อมทั้งรายงานของผู้สอบบัญชี
6.3 รับทราบการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลของบริษัทฯ
6.4 พิจารณาจัดสรรกำไรในรูปของเงินปันผล และจัดสรรเงินสำรองตามกฎหมาย
6.5 พิจารณาเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ออกตามวาระ พร้อมกับกำหนดค่าตอบแทนกรรมการ
6.6 พิจารณาแต่งตั้งผู้สอบบัญชีสำหรับปีสิ้นสุด 30 กันยายน 2548 และกำหนดค่าตรวจสอบ
6.7 พิจารณาอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ โดยการยกเลิกหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้ออกจำหน่าย
จำนวน 76,315,578 หุ้น ซึ่งสำรองไว้สำหรับการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญตามใบสำคัญแสดงสิทธิ
ทั้งสองชุด (TTA-W และ TTA-W2)
6.8 พิจารณาอนุมัติแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 4 เรื่องทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ
6.9 พิจารณาอนุมัติการแก้ไขข้อบังคับของบริษัทฯ ข้อ 49 พื่อให้สอดคล้องกับประกาศของตลาดหลักทรัพย์
แห่งประเทศไทยเรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียน ในการได้มาหรือ
จำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547 ลงวันที่ 29 ตุลาคม 2547
6.10 พิจารณากิจการอื่น ๆ
7. กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปีของ
ผู้ถือหุ้น ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 10 มกราคม 2548 เวลา 12.00 น. จนเสร็จสิ้นการประชุม และกำหนดให้
วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา 12.00 น. เป็นวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิในการรับ
เงินปันผล
8. อนุมัติการลงทุนในหุ้นเพิ่มทุนของ บริษัท ชิดลม มารีน เซอร์วิสเซส แอนด์ ซัพพลายส์ จำกัด ซึ่งเป็น
บริษัทย่อยที่บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 99.9 มูลค่าเงินลงทุนประมาณ 40
ล้านบาท เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทดังกล่าว (รายละเอียดอยู่ในเอกสารแนบท้าย)

ขอแสดงความนับถือ
บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)

(ม.ร.ว. จันทรแรมศิริโชค จันทรทัต) (นายอาร์เน่ ไทเก้น)
ประธานกรรมการ กรรมการผู้จัดการ

รายละเอียดของมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ


การลงทุนในบริษัทย่อย

บริษัท ชิดลม มารีน เซอร์วิสเซส แอนด์ ซัพพลายส์ จำกัด


1. วันที่เกิดรายการ ประมาณสิ้นเดือนธันวาคม 2547
2. ชื่อบริษัทย่อย บริษัท ชิดลม มารีน เซอร์วิสเซส แอนด์ ซัพพลายส์ จำกัด
เป็นบริษัทย่อย ซึ่งบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)
ถือหุ้นร้อยละ 99.9
3. ประเภทธุรกิจ บริการวัสดุจัดเรียงสินค้าบนเรือ
4. ทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วก่อนเพิ่มทุน 20 ล้านบาท แบ่งเป็น 200,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ
100 บาท
5. ทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วหลังเพิ่มทุน 60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40 ล้านบาท
6. มูลค่าการลงทุนโดยบริษัท โทรีเซนไทย
เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) ประมาณ 40 ล้านบาท หรือเท่ากับร้อยละ 100 ของทุนที่เพิ่มขึ้น
7. วัตถุประสงค์ในการลงทุน เพื่อการขยายธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคต
8. แหล่งเงินทุนที่ใช้ จากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท


ขอแสดงความนับถือ
บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)
(ม.ร.ว. จันทรแรมศิริโชค จันทรทัต) (นายอาร์เน่ ไทเก้น)
ประธานกรรมการ กรรมการผู้จัดการ
รูปภาพ
ความสุขอื่น ยิ่งกว่าความสงบใจไม่มี นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ
หัดเล่น Facebook กะเขาบ้างแล้วนะครับ ใช้ชื่อ Kanchit Paisan ครับ
Facebook เพจ Eps16year Settrade Set ตลาดหลักทรัพย์ งบดุล ปันผล อัตราส่วนการเงิน กราฟ
Google เพจ kanchitpaisan
Google+ KANCHIT PAISAN
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ
Verified User
โพสต์: 1280
ผู้ติดตาม: 0

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 52

โพสต์

เท่ากับปีนี้จ่าย 4.50 บาท เลยนะครับ
ปันผลรับอู้ฟู่เลยครับ
ไม่ทราบว่ากลุ่มไทเก้นคิดยังไงครับ
ผมดูว่าจะดีนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 37

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 53

โพสต์

Anonymous เขียน:เอ้าพวกลูกเรือฝันกันเข้าไป :lol: :lol:
ตามมาเชียร์
ชวนกันเพลง รางวัลแด่คนช่างฝัน
Blueblood
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3645
ผู้ติดตาม: 24

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 54

โพสต์

หวังว่าคงไม่ได้ทำเพื่อพยุงหุ้นนะ เล่นจ่ายเยอะขนาดนี้แบบปุบปับ ไม่ค่อยสบายใจเลยแฮะ ... กลัวจะทำให้มุมมองเรือเพื่อนเสียไปด้วย แค่นี้ก็แทบไม่เหลือมุมมองดีๆแล้ว ... :P
It's earnings that count
ภาพประจำตัวสมาชิก
ROGER
Verified User
โพสต์: 609
ผู้ติดตาม: 1

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 55

โพสต์

PSL ในแง่ธรรมาภิบาลก็ไม่ได้ดีไปกว่า TTA นักหรอก
Blueblood
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3645
ผู้ติดตาม: 24

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 56

โพสต์

ROGER เขียน:PSL ในแง่ธรรมาภิบาลก็ไม่ได้ดีไปกว่า TTA นักหรอก
ช่วยขยายหน่อยได้มั๊ยครับ อยากทราบเหตุผล ... เผื่อผมจะตกหล่นอะไรไป
It's earnings that count
ภาพประจำตัวสมาชิก
Golden Stock
Verified User
โพสต์: 615
ผู้ติดตาม: 0

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 57

โพสต์

ตามความเห็นของผม มองว่ากลุ่มเรือเทกองยังไม่ Peak ครับ แต่ว่าอยู่ในช่วงใกล้จะ Peak (ถามว่ารู้ได้อย่างไร? ก็ตอบว่าฟังจากผู้บริหารที่ออกมาพูดหรือคาดการณ์ตามสื่อต่างๆ และนักวิเคราะห์ครับ) นั่นคืออัตราการเติบโตแตกต่างจากช่วงต้นของรอบขาขึ้น ช่วงก่อนอัตราการเติบโตเป็นไปในลักษณะสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น แต่พอถึงช่วงปลาย(ใกล้จุดสูงสุด) อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่ลดลง ดังนั้นจึงไม่มีนักลงทุนหรือนักเก็งกำไร เต็มใจที่จะจ่ายราคาซื้ออนาคตแพงๆ แบบแต่ก่อน ซึ่ง PE ของหุ้นสูงมาก เมื่อเทียบกับปัจจุบันที่พีอีอยู่ระดับ 6-7 เท่า เพราะว่าจะต้องมองเผื่อสำหรับช่วงถดถอยด้วยเช่นกัน

ในช่วงปีที่ผ่านมา มีโบรกเกอร์ นักวิเคราะห์ และคนที่ถือ พยายามบอกว่าราคาหุ้นถูก พีอีแค่นี้เอง ควรจะมีพีอีเท่านี้บ้าง เท่านั้นบาง โดยไม่ได้มองถึงวัฏจักรของอุตสาหกรรมว่ามีชีวิตอยู่ในช่วงไหนแล้ว คือคนที่เคยซื้อพีอีสูงเมื่อตอนต้นของวัฏจักร แต่กำไรเติบโตในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น จนทำให้พีอีต่ำลงเมื่อเวลาผ่านไป แต่สำหรับคนที่จะซื้อในตอนนี้ ก็ต้องมีการประเมินเช่นกันว่า ซื้อไปแล้วจะได้อะไร? จากหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ใกล้ Peak แล้ว เมื่ออัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่ลดลงเช่นนี้ ราคาหุ้นก็ไม่น่าจะโตตามด้วยเช่นกัน และเมื่อถึงช่วงถดถอยแล้วอัตราการเติบโตลดลง ราคาหุ้นก็ต้องลดลงตามพื้นฐานของกิจการด้วยเช่นกัน

สำหรับการลงทุนในหุ้นที่มีลักษณะเป็นวัฏจักรนั้น หุ้นในอุตสาหกรรมที่อยู่ในช่วงใกล้ Peak (ถัดจากนั้นก็จะเป็นช่วงถดถอย) คงไม่มีใครกล้า Buy and hold หรอกนะครับ ถ้าจะบอกว่ามีเงินปันผล แต่ว่าเงินปันผลที่ได้รับนั้นจะคุ้มหรือเปล่า ดังนั้นผมจึงไม่แปลกใจว่าทำไมผู้บริหารที่เคยถือหุ้นใหญ่ในหุ้นกลุ่มเรือตัวหนึ่งถึงได้ขายออกมาเกือบหมด และแนวคิดของเขาก็ไม่ใช่อะไรใหม่ ที่ว่านอกจากจะเป็นนักบริหารแล้ว ยังต้องมีหัวใจของนักลงทุนด้วย

ก็เป็นความเห็นส่วนของผม ไม่ได้มาเชียร์ให้ใครซื้อหรือขาย ควรใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยครับ

โชคดีในการลงทุนครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ROGER
Verified User
โพสต์: 609
ผู้ติดตาม: 1

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 58

โพสต์

[Blueblood]
ช่วยขยายหน่อยได้มั๊ยครับ อยากทราบเหตุผล ... เผื่อผมจะตกหล่นอะไรไป
[/quote]


การซื้อหุ้นคืนนั้นก็ขัดต่อหลักธรรมาภิบาลอย่างแรงประการหนึ่ง ผมว่าคุณยังไม่เข้าใจหลักธรรมาภิบาลดีพอนะ ลองศึกษาดูนะครับ
Stock Broker
Verified User
โพสต์: 2509
ผู้ติดตาม: 1

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 59

โพสต์

ROGER เขียน:การซื้อหุ้นคืนนั้นก็ขัดต่อหลักธรรมาภิบาลอย่างแรงประการหนึ่ง ผมว่าคุณยังไม่เข้าใจหลักธรรมาภิบาลดีพอนะ ลองศึกษาดูนะครับ
ผมมายกมืออีกคนครับ ผมก็ไม่เข้าใจว่า การซื้อหุ้นคืนนั้นขัดต่อหลักธรรมาภิบาลอย่างแรง อย่างไรครับ ยังไงรบกวนช่วยแถลงไขให้หายเบาปัญญาหน่อยครับ

วอเรนเองก็ชอบหุ้นกิจการที่มีการซื้อหุ้นคืนไม่ใช่หรือครับ หรือผมเข้าใจผิด
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6492
ผู้ติดตาม: 919

กรณี TTA น่าติดตามนะครับ

โพสต์ที่ 60

โพสต์

ROGER เขียน:[Blueblood]
ช่วยขยายหน่อยได้มั๊ยครับ อยากทราบเหตุผล ... เผื่อผมจะตกหล่นอะไรไป

การซื้อหุ้นคืนนั้นก็ขัดต่อหลักธรรมาภิบาลอย่างแรงประการหนึ่ง ผมว่าคุณยังไม่เข้าใจหลักธรรมาภิบาลดีพอนะ ลองศึกษาดูนะครับ[/quote]


ยกมือด้วยคนครับ...
คุณ Roger คิดว่าขัดหลักธรรมภิบาลยังไงครับ
เพราะหลักการซื้อหุ้นคืนก็ดูสมเหตุสมผลดี

เมื่อบริษัทคิดว่าหุ้นของบริษัทต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็นมากๆ
ก็เข้าซื้อหุ้นบริษัทเอง โดยที่บริษัทมีเงินสดเหลือ หรือมีกระแสเงินสดมาก หรือแม้กระทั่งกู้เงินมาซื้อ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว