ขอลองวิเคราะห์งบการเงินหน่อย รบกวนช่วยตรวจทีครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1036
- ผู้ติดตาม: 1
ขอลองวิเคราะห์งบการเงินหน่อย รบกวนช่วยตรวจทีครับ
โพสต์ที่ 1
พอดีว่างๆอยู่ แล้ววันนี้งบ KYE ออกแล้ว (แต่ผมไม่มีหุ้นแล้วนะครับ)
เลยอยากลองวิเคราะห์งบการเงินดูหน่อย
รบกวนพี่ๆช่วยตรวจดูให้หน่อยนะครับ ว่ามีจุดไหนที่ขาดตกบกพร่องบ้าง
ผมจะได้นำมาปรับปรุงครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ :D
สินทรัพย์ 4 ล้าน มีเงินสดปาไปเสียเกือบครึ่ง
หนี้สินน้อยมากๆ หนี้ระยะยาวไม่มีเลยก็ว่าได้
สัดส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 1:3 แถวบ้านเรียกว่า โคต รแจ่ม
รายได้ล่าสุดทำได้ใกล้เคียงปี 51 ถือว่าดีครับ
อีกทั้งเงินรับปันผลจาก MCP อีก
และที่ดีกว่าคือสามารถลดต้นทุนขายได้จริงๆตามที่ผู้บริหารบอก
กำไรต่อหุ้นเลยพุ่งกระโดดอย่างที่เห็น ^^
ปล.พูดเหมือนมีหุ้นเลยเว้ยตรู :wall:
มาดูที่งบกระแสเงินสดกันบ้าง ...
กำไรสำหรับงวดถือว่าสูงมากครับ ถึงแม้จะลบรายได้จากเงินปันผลไป ห้าแสนกว่า
แต่สุดท้าย เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินการก็ยังสูงอยู่ดี แจ่มครับแจ่ม ^^
กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุนเป็นบวก และมีค่ามากจากเงินปันผลของ MCP สะสมเจ็ดแสนกว่าบาท
กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงินเป็นลบ เนื่องจากนำเงินไปจ่ายปันผล ถือว่าโอเคครับ เป็นเรื่องปกติ
สุดท้าย ... จึงไม่น่าแปลกใจที่เงินสด ณ วันสิ้นงวดจะมีค่าสูงถึงสองล้านกว่า (หน่วยพันบาท)
แจ่มจริงๆครับ
ขอวิแคะต่ออีกหน่อยครับ พอดีแอบไปเห็นอะไรนิดหน่อย
งบสามเดือนครับ
รายได้น้อยกว่าปี 51 อยู่สองแสนกว่า แต่ชดเชยกับการที่ลดต้นทุนการขายได้สองแสนกว่าเช่นกัน
ถือว่าเจ๊ากันไปครับ
และถ้ามาดูที่กำไรก่อนเสียภาษี จะพบว่า Q3/52 สูงกว่า 51 เสียอีก
ตอนแรกผมก็ตกใจ ว่าทำไม กำไรต่อหุ้นของ q3/52 ถึงน้อยกว่า 51
ก็เลยไปเห็นค่าภาษีเงินได้ ที่ของปี 52
เกิดความสงสัย นึกอะไรไม่ออก แต่หมายเหตุงบการเงินช่วยได้
ก็เลยเข้าไปดูสักหน่อย ถึงได้ร้องบางอ้อว่า .......... (อ่านเอาเองนะครับ อิอิ)
ส่วนยอดขายนั้น
ยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น แต่ของต่างประเทศลดลง ตามที่หมายเหตุงบการเงินบอกมานี่ล่ะครับ
จบแล้วครับ ผิดถูกอย่างไร รบกวนขอคำชี้แนะด้วยครับ
ปล. งบ KYE ถือว่าเป็นงบที่อ่านง่ายครับ ความยากเต็มสิบ ผมให้ KYE 5 พอ
จบแล้วครับ พร้อมรับฟังทุกความคิดเห็นครับ
เลยอยากลองวิเคราะห์งบการเงินดูหน่อย
รบกวนพี่ๆช่วยตรวจดูให้หน่อยนะครับ ว่ามีจุดไหนที่ขาดตกบกพร่องบ้าง
ผมจะได้นำมาปรับปรุงครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ :D
สินทรัพย์ 4 ล้าน มีเงินสดปาไปเสียเกือบครึ่ง
หนี้สินน้อยมากๆ หนี้ระยะยาวไม่มีเลยก็ว่าได้
สัดส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 1:3 แถวบ้านเรียกว่า โคต รแจ่ม
รายได้ล่าสุดทำได้ใกล้เคียงปี 51 ถือว่าดีครับ
อีกทั้งเงินรับปันผลจาก MCP อีก
และที่ดีกว่าคือสามารถลดต้นทุนขายได้จริงๆตามที่ผู้บริหารบอก
กำไรต่อหุ้นเลยพุ่งกระโดดอย่างที่เห็น ^^
ปล.พูดเหมือนมีหุ้นเลยเว้ยตรู :wall:
มาดูที่งบกระแสเงินสดกันบ้าง ...
กำไรสำหรับงวดถือว่าสูงมากครับ ถึงแม้จะลบรายได้จากเงินปันผลไป ห้าแสนกว่า
แต่สุดท้าย เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินการก็ยังสูงอยู่ดี แจ่มครับแจ่ม ^^
กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุนเป็นบวก และมีค่ามากจากเงินปันผลของ MCP สะสมเจ็ดแสนกว่าบาท
กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงินเป็นลบ เนื่องจากนำเงินไปจ่ายปันผล ถือว่าโอเคครับ เป็นเรื่องปกติ
สุดท้าย ... จึงไม่น่าแปลกใจที่เงินสด ณ วันสิ้นงวดจะมีค่าสูงถึงสองล้านกว่า (หน่วยพันบาท)
แจ่มจริงๆครับ
ขอวิแคะต่ออีกหน่อยครับ พอดีแอบไปเห็นอะไรนิดหน่อย
งบสามเดือนครับ
รายได้น้อยกว่าปี 51 อยู่สองแสนกว่า แต่ชดเชยกับการที่ลดต้นทุนการขายได้สองแสนกว่าเช่นกัน
ถือว่าเจ๊ากันไปครับ
และถ้ามาดูที่กำไรก่อนเสียภาษี จะพบว่า Q3/52 สูงกว่า 51 เสียอีก
ตอนแรกผมก็ตกใจ ว่าทำไม กำไรต่อหุ้นของ q3/52 ถึงน้อยกว่า 51
ก็เลยไปเห็นค่าภาษีเงินได้ ที่ของปี 52
เกิดความสงสัย นึกอะไรไม่ออก แต่หมายเหตุงบการเงินช่วยได้
ก็เลยเข้าไปดูสักหน่อย ถึงได้ร้องบางอ้อว่า .......... (อ่านเอาเองนะครับ อิอิ)
ส่วนยอดขายนั้น
ยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น แต่ของต่างประเทศลดลง ตามที่หมายเหตุงบการเงินบอกมานี่ล่ะครับ
จบแล้วครับ ผิดถูกอย่างไร รบกวนขอคำชี้แนะด้วยครับ
ปล. งบ KYE ถือว่าเป็นงบที่อ่านง่ายครับ ความยากเต็มสิบ ผมให้ KYE 5 พอ
จบแล้วครับ พร้อมรับฟังทุกความคิดเห็นครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1036
- ผู้ติดตาม: 1
ขอลองวิเคราะห์งบการเงินหน่อย รบกวนช่วยตรวจทีครับ
โพสต์ที่ 2
ขอเพิ่มเติมข้อมูลอีกนิดหน่อยครับ :!:
edit จากผลประกอบการงวดสามเดือน
**แต่จริงๆเราควรมองว่า รายได้ลดลง ทำให้ต้นทุนลดลงตาม น่าจะเหมาะสมกว่า
เพราะรายได้ลดลง หมายถึงยอดขายน้อย ดังนั้นต้นทุนการผลิตก็ควรต้องลดตามแบบแปรผันตรง
ดังนั้น หากมองที่รายได้เป็นหลัก q3/52 รายได้ลดลงเมื่อเทียบกับ 51 ถือว่า ให้ผลเชิงลบครับ
**อีกทั้งของเรื่องปันผล ที่ได้รับจาก MCP
q3/52 ได้น้อยกว่า q3/51 เกือบเท่าตัว นั่นหมายความว่า ผลการดำเนินงานของ MCP ลดลง
ถือว่า ให้ผลเชิงลบครับ
edit จากผลประกอบการงวดสามเดือน
**แต่จริงๆเราควรมองว่า รายได้ลดลง ทำให้ต้นทุนลดลงตาม น่าจะเหมาะสมกว่า
เพราะรายได้ลดลง หมายถึงยอดขายน้อย ดังนั้นต้นทุนการผลิตก็ควรต้องลดตามแบบแปรผันตรง
ดังนั้น หากมองที่รายได้เป็นหลัก q3/52 รายได้ลดลงเมื่อเทียบกับ 51 ถือว่า ให้ผลเชิงลบครับ
**อีกทั้งของเรื่องปันผล ที่ได้รับจาก MCP
q3/52 ได้น้อยกว่า q3/51 เกือบเท่าตัว นั่นหมายความว่า ผลการดำเนินงานของ MCP ลดลง
ถือว่า ให้ผลเชิงลบครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 807
- ผู้ติดตาม: 0
ขอลองวิเคราะห์งบการเงินหน่อย รบกวนช่วยตรวจทีครับ
โพสต์ที่ 3
เงินสด เยอะกว่า หนี้ เกือบ 2 เท่า ปลอดภัยสุดๆ
แต่เยอะไปไหมครับ หรือกำลังจะมีโครงการลงทุนใหม่ๆ ถ้าคิดไรไม่ออก ปันผลเพิ่มดีกว่านะ
คิดออกแค่นี้อะคับ ไม่เคยศึกษาตัวนี้
แต่เยอะไปไหมครับ หรือกำลังจะมีโครงการลงทุนใหม่ๆ ถ้าคิดไรไม่ออก ปันผลเพิ่มดีกว่านะ
คิดออกแค่นี้อะคับ ไม่เคยศึกษาตัวนี้
อย่ายอมแพ้
- sai
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4096
- ผู้ติดตาม: 307
ขอลองวิเคราะห์งบการเงินหน่อย รบกวนช่วยตรวจทีครับ
โพสต์ที่ 4
เวลาผมดูงบผมจะดูเพื่อคาดการณ์อนาคตนะครับ ถ้าดูจากงบปี 2552 และ งบ 9เดือน 2552 และ งบ q4 2552 ก็จะค่อยค่อยเห็นงบล่วงหน้าของ kye ปี 2553 ได้บ้างครับ (ราคาหุ้นคงสะท้อนไปแล้วล่ะ ) :lol:
Small Details Make a Big Difference
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 1
ขอลองวิเคราะห์งบการเงินหน่อย รบกวนช่วยตรวจทีครับ
โพสต์ที่ 5
ตัวนี้ใครซื้อไว้เมื่อสิบเดือนที่แล้ว
ตอนนี้ก็ผลตอบแทนปะมาณ200%ได้
เสียดายครับ
ตกรถ
ตอนนี้ก็ผลตอบแทนปะมาณ200%ได้
เสียดายครับ
ตกรถ
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
-
- Verified User
- โพสต์: 191
- ผู้ติดตาม: 0
ขอลองวิเคราะห์งบการเงินหน่อย รบกวนช่วยตรวจทีครับ
โพสต์ที่ 6
ผมขอใช้ความรู้อันน้อยนิดลองวิเคราะห์ดูบ้างนะครับ
1. ค่าใช้จ่ายในการบริหารปรับตัวเพิ่มขึ้น ในขณะที่ยอดขายลดลง แสดงถึึงผลิตภาพของพนักงานที่ลดลง แต่ต้องดูอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการบริหารโดยเฉลี่ยหลายๆปี เพื่อวิเคราะห์ต่อว่าปกตินั้นขึ้นในอัตรานี้หรือไม่ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วในกรณีที่ยอดขายคงที่หรือลดลงก็ไม่ควรมีการเพิ่มขึ้นมาก
2. ต้นทุนที่สามารถลดลงได้ จากการที่มีค่าเสื่อมราคาลดลงประมาณ 30 ล้านบาท แสดงว่าต้นทุนผันแปรของกิจการลดลงค่อนข้างเยอะพอสมควร สะท้อนศักยภาพในการแข่งขันของกิจการว่ามีสูงขึ้น โดยในปัจจุบันกิจการมีต้นทุนขายหักด้วยค่าเสื่อมราคา ต่อยอดขายที่ 75% เป็นผลดีต่อกิจการมากในอนาคต
3.ค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้น อันนี้พอรับได้เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดีซึ่งต้องให้ส่วนลด และมีค่าใช้จ่ายในการตลาดสูงกว่าภาวะปกติ
4.สัดส่วนลูกหนี้การค้าต่อยอดขายลดลงจาก 16% เหลือ 11% แสดงว่ากิจการได้รับเงินจากลูกค้าเร็วขึ้น ทำให้บริษัทลดภาระทางด้านการเงินและเพิ่มสภาพคล่องให้แก่กิจการ
5.สินค้าคงเหลือต่อยอดขาย ที่เพิ่มขึ้นจาก 9% ไปเป็น 12% มองได้ 2 อย่างคือกิจการมองความต้องการในปีหน้ามีมากกว่าปีนี้ทำให้ต้องสต๊อกสินค้ามากขึ้น หรือมองได้อีกแบบคือกิจการมีการประมาณการณ์ยอดขายที่ผิดพลาดจากความเป็นจริง ซึ่งต้องตรวจสอบให้ลึกลงไปอีกว่าระดับค่าเฉลี่ยของกิจการในรอบหลายปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร เพราะการประมาณการณ์ยอดขายถ้าสูงเกินกว่าความเป็นจริงเกินไปอาจทำให้บริษัทต้องสูญเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์กับการผลิตสินค้ามากเกินความต้องการ แต่อาจมีข้อยกเว้นในกรณีที่สินค้าของบริษัทนั้นราคาไม่ลดลงมากหากเก็บไว้นานๆ เพราะการผลิตที่มากจะทำให้บริษัทประหยัดต้นทุนในการผลิตได้
6.รายจ่ายในการซื้ออุปกรณ์นั้น เป็นการทดแทนอุปกรณ์ในการผลิตเก่า ซึ่งน่าจะทำให้ประสิทธิภาพในการผลิตของกิจการดีขึ้น ดูจากต้นทุนที่ประหยัดได้
1. ค่าใช้จ่ายในการบริหารปรับตัวเพิ่มขึ้น ในขณะที่ยอดขายลดลง แสดงถึึงผลิตภาพของพนักงานที่ลดลง แต่ต้องดูอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการบริหารโดยเฉลี่ยหลายๆปี เพื่อวิเคราะห์ต่อว่าปกตินั้นขึ้นในอัตรานี้หรือไม่ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วในกรณีที่ยอดขายคงที่หรือลดลงก็ไม่ควรมีการเพิ่มขึ้นมาก
2. ต้นทุนที่สามารถลดลงได้ จากการที่มีค่าเสื่อมราคาลดลงประมาณ 30 ล้านบาท แสดงว่าต้นทุนผันแปรของกิจการลดลงค่อนข้างเยอะพอสมควร สะท้อนศักยภาพในการแข่งขันของกิจการว่ามีสูงขึ้น โดยในปัจจุบันกิจการมีต้นทุนขายหักด้วยค่าเสื่อมราคา ต่อยอดขายที่ 75% เป็นผลดีต่อกิจการมากในอนาคต
3.ค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้น อันนี้พอรับได้เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดีซึ่งต้องให้ส่วนลด และมีค่าใช้จ่ายในการตลาดสูงกว่าภาวะปกติ
4.สัดส่วนลูกหนี้การค้าต่อยอดขายลดลงจาก 16% เหลือ 11% แสดงว่ากิจการได้รับเงินจากลูกค้าเร็วขึ้น ทำให้บริษัทลดภาระทางด้านการเงินและเพิ่มสภาพคล่องให้แก่กิจการ
5.สินค้าคงเหลือต่อยอดขาย ที่เพิ่มขึ้นจาก 9% ไปเป็น 12% มองได้ 2 อย่างคือกิจการมองความต้องการในปีหน้ามีมากกว่าปีนี้ทำให้ต้องสต๊อกสินค้ามากขึ้น หรือมองได้อีกแบบคือกิจการมีการประมาณการณ์ยอดขายที่ผิดพลาดจากความเป็นจริง ซึ่งต้องตรวจสอบให้ลึกลงไปอีกว่าระดับค่าเฉลี่ยของกิจการในรอบหลายปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร เพราะการประมาณการณ์ยอดขายถ้าสูงเกินกว่าความเป็นจริงเกินไปอาจทำให้บริษัทต้องสูญเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์กับการผลิตสินค้ามากเกินความต้องการ แต่อาจมีข้อยกเว้นในกรณีที่สินค้าของบริษัทนั้นราคาไม่ลดลงมากหากเก็บไว้นานๆ เพราะการผลิตที่มากจะทำให้บริษัทประหยัดต้นทุนในการผลิตได้
6.รายจ่ายในการซื้ออุปกรณ์นั้น เป็นการทดแทนอุปกรณ์ในการผลิตเก่า ซึ่งน่าจะทำให้ประสิทธิภาพในการผลิตของกิจการดีขึ้น ดูจากต้นทุนที่ประหยัดได้
อย่าเชื่อสิ่งที่พระเจ้าบอก แต่จงคิดและเลือกที่จะเชื่อด้วยตัวท่านเอง !!
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 0
ขอลองวิเคราะห์งบการเงินหน่อย รบกวนช่วยตรวจทีครับ
โพสต์ที่ 7
สวัสดีครับ คุณ winkung
ผมคิดว่าดีมากเลยที่เอางบมาวิเคราะห์กันให้ดู เป็นแนวทางในการวิเคราะห์สำหรับผมที่ยังไม่สามารถดูงบว่า ควรดูที่อะไร เพราะอะไร อยากให้เอามาวิเคราะห์อีกหลายๆตัวครับ
สำหรับตัวนี้พึ่งเห็นงบครับว่า % กำไรต่อยอดขายเกือบ 15 % เลยนะเนี่ย น่าสนใจมากครับ
ได้แต่ดูตั้งแต่ราคาต่ำ วิ่งไปซะสูง จนมาตอนนี้ยังไม่เคยดูงบเลย ตอนนั้นเห็นราคาวิ่งน่ากลัว เลยไม่รู้ว่าราคาเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม รบกวนช่วยหาราคาที่เหมาะสมของหุ้นตัวนี้ต่อด้วยได้มั้ยครับ จะได้เป็นแนวทางการประเมินมูลค่า :B
ผมคิดว่าดีมากเลยที่เอางบมาวิเคราะห์กันให้ดู เป็นแนวทางในการวิเคราะห์สำหรับผมที่ยังไม่สามารถดูงบว่า ควรดูที่อะไร เพราะอะไร อยากให้เอามาวิเคราะห์อีกหลายๆตัวครับ
สำหรับตัวนี้พึ่งเห็นงบครับว่า % กำไรต่อยอดขายเกือบ 15 % เลยนะเนี่ย น่าสนใจมากครับ
ได้แต่ดูตั้งแต่ราคาต่ำ วิ่งไปซะสูง จนมาตอนนี้ยังไม่เคยดูงบเลย ตอนนั้นเห็นราคาวิ่งน่ากลัว เลยไม่รู้ว่าราคาเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม รบกวนช่วยหาราคาที่เหมาะสมของหุ้นตัวนี้ต่อด้วยได้มั้ยครับ จะได้เป็นแนวทางการประเมินมูลค่า :B
-
- Verified User
- โพสต์: 362
- ผู้ติดตาม: 0
ขอลองวิเคราะห์งบการเงินหน่อย รบกวนช่วยตรวจทีครับ
โพสต์ที่ 8
ข้อ 2 เนี่ยะไม่เข้าใจครับchavanakorn :
2. ต้นทุนที่สามารถลดลงได้ จากการที่มีค่าเสื่อมราคาลดลงประมาณ 30 ล้านบาท แสดงว่าต้นทุนผันแปรของกิจการลดลงค่อนข้างเยอะพอสมควร สะท้อนศักยภาพในการแข่งขันของกิจการว่ามีสูงขึ้น โดยในปัจจุบันกิจการมีต้นทุนขายหักด้วยค่าเสื่อมราคา ต่อยอดขายที่ 75% เป็นผลดีต่อกิจการมากในอนาคต
1. เวลาต้นทุนที่ลดลง ทำไมถึงสามารถบอกได้ว่ามาจากค่าเสื่อมที่ลดลงครับ
2. แล้วทำไมถึงสรุปว่าต้นทุนผันแปรของกิจการลดลงเยอะครับ ค่าเสื่อมเป็นต้นทุนผันแปรหรอครับ
3. แล้วอัตราส่วนยอดขายต่อต้นุทนขายหักค่าเสื่อม หมายความว่าอะไรหรอครับ
รบกวนแนะนำทีครับ ขอบคุณมากครับ
- picklife
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2567
- ผู้ติดตาม: 0
ขอลองวิเคราะห์งบการเงินหน่อย รบกวนช่วยตรวจทีครับ
โพสต์ที่ 9
สุดยอดครับวินคุง.....ดีครับมีประโยชน์มากๆๆๆครับ
แต่คำที่ว่า"รายได้ล่าสุดทำได้ใกล้เคียงปี 51 ถือว่าดีครับ"
ผมว่าไม่ดีนะครับ แม้นบริษัทจะลดต้นทุนปีนี้ได้แต่ไม่มีการเติบโตของรายได้ครับ....ดังนั้นน่าจะต้องรีบไปโฟกัสว่าปีก่อนๆรายได้เท่าไหร่และหาเพิ่มว่าปีหน้าจะได้เท่าเดิมไหม?เพราะหากปีหน้าได้รายได้เท่าเดิม ต้นทุนก็ลดจนลดไม่ได้แล้ว บ.นี้ก็จะไม่มีGrowthเลย....
ไม่รู้ว่าคิดถูกผิดหรือปล่าวนะครับ ช่วยวิจารณ์ด้วยละกันนะครับ ขอบคุณครับ
แต่คำที่ว่า"รายได้ล่าสุดทำได้ใกล้เคียงปี 51 ถือว่าดีครับ"
ผมว่าไม่ดีนะครับ แม้นบริษัทจะลดต้นทุนปีนี้ได้แต่ไม่มีการเติบโตของรายได้ครับ....ดังนั้นน่าจะต้องรีบไปโฟกัสว่าปีก่อนๆรายได้เท่าไหร่และหาเพิ่มว่าปีหน้าจะได้เท่าเดิมไหม?เพราะหากปีหน้าได้รายได้เท่าเดิม ต้นทุนก็ลดจนลดไม่ได้แล้ว บ.นี้ก็จะไม่มีGrowthเลย....
ไม่รู้ว่าคิดถูกผิดหรือปล่าวนะครับ ช่วยวิจารณ์ด้วยละกันนะครับ ขอบคุณครับ