ปรึกษาแนวคิดนี้หน่อยครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ลุงยาม
Verified User
โพสต์: 31
ผู้ติดตาม: 0

ปรึกษาแนวคิดนี้หน่อยครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

คือคิดมาเองก็เลยอยากมาปรึกษาว่าทำแบบนี้พอจะได้ไหม
สมมุติว่าผมมีเงิน 100000
แบ่งเป็นสองส่วน เท่าๆกัน
ส่วนแรก
ซื้อหุ้นโดยดูปัจจัยพื้นฐานทั้งหมดตามแนว VI
สมมติว่าซื้อหุ้น A ตัวละ 100 ซื้อมา 500 ตัวเป็นเงิน 50000
เวลาต่อมาหุ้น A ราคาขึ้นไปที่ 200 (สมมติ) ผมทำการขายไป 250 หุ้น
ได้เงินมา 50000 เหลือหุ้น 250 หุ้นใน port โดยผมถือว่า 250 หุ้นนี้เป็นหุ้น
ที่มีต้นทุน 0 บาท แล้วเก็บปันผลยาว จนกว่าพื้นฐานจะเปลี่ยน โดยที่ไม่สนใจ่ว่าราคาจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหรือไม่ เพราะต้นทุนต่ำมาก

ส่วนที่สอง
ผมซื้อหุ้น A เหมือนกัน แต่ผมจะซื้อขายหุ้น A ตามภาวะตลาด
โดยที่เมื่อหุ้น A ถึงเป้าหมายและมีราคาแพงก็จะขาย
หรือตลาดโดยภาพรวมจะลง ก็ขาย  แล้วซื้อกลับ โดยเน้นซื้อขายตามภาวะตลาด แต่ไม่ใช่ซื้อขายแบบ day trade อาจจะเป็นระยะ หกเดือนหรือ 1 ปี หรือแล้วแต่จังหวะ


โดยเงินปันผลที่ได้จากส่วนที่ 1 ก็ซื้อหุ้นเพิ่ม โดยถือว่าหุ้นที่ได้ได้มาฟรีๆไปโปะส่วนที่ 1
เงินจากส่วนที่สอง กำลังสับสนว่าจะไปโปะส่วน 1 หรือ 2 ดี
พี่ๆมีความเห็นว่าการบริหารแบบนี้เป็นไงบ้างครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
kurapica
Verified User
โพสต์: 587
ผู้ติดตาม: 0

ปรึกษาแนวคิดนี้หน่อยครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

แนวคิดดีครับ แต่การจะขายหุ้น A ไปครึ่งหนึ่งหรือไม่ ผมคิดว่ามันน่าจะขึ้นอยู่กับว่า
ตอนนั้นคุณเห็นหุ้นอื่นที่ดีกว่าหุ้น A หรือเปล่า ถ้าไม่เห็นหุ้นอื่นดีกว่าหุ้น A เลย
แสดงว่าหุ้น A ดีที่สุดสำหรับเรา แล้วเราจะขายไปทำไม
ภาพประจำตัวสมาชิก
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3779
ผู้ติดตาม: 75

ปรึกษาแนวคิดนี้หน่อยครับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

และถ้าหุ้น A ราคาลดลงเหลือ 50 บาทล่ะครับ ลุงจะทำยังไง :roll: ?

ปล.
นี่ก็สมมุติอีกเหมือนกัน :lol:
ลุงยาม
Verified User
โพสต์: 31
ผู้ติดตาม: 0

ปรึกษาแนวคิดนี้หน่อยครับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

kurapica เขียน:แนวคิดดีครับ แต่การจะขายหุ้น A ไปครึ่งหนึ่งหรือไม่ ผมคิดว่ามันน่าจะขึ้นอยู่กับว่า
ตอนนั้นคุณเห็นหุ้นอื่นที่ดีกว่าหุ้น A หรือเปล่า ถ้าไม่เห็นหุ้นอื่นดีกว่าหุ้น A เลย
แสดงว่าหุ้น A ดีที่สุดสำหรับเรา แล้วเราจะขายไปทำไม

ที่ขายไปครึ่งหนึ่งเพื่อต้องการลดต้นทุนให้ต่ำน่ะครับ เวลาหุ้น A เหลือ 50 บาท หรือแม้แต่ 20 บาท ถ้าพื้นฐานไม่เปลี่ยนก็จะได้ไม่กังวลน่ะครับ  อีกอย่างถ้ามันเหลือ 20 บาทจะได้นำเอาต้นทุนที่ขายครั้งก่อนมาซื้อเพิ่ม เนื่องจาก ณ ที่ราคานี้มันต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงแน่นอน เพราะตอนแรกซื้อ 100 มันก็ต่ำกว่าอยู่แล้วเนื่องจากเราดูหุ้นจากพื้นฐานและมี MOS อยู่ครับ
ลุงยาม
Verified User
โพสต์: 31
ผู้ติดตาม: 0

ปรึกษาแนวคิดนี้หน่อยครับ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ส.สลึง เขียน:และถ้าหุ้น A ราคาลดลงเหลือ 50 บาทล่ะครับ ลุงจะทำยังไง :roll: ?

ปล.
นี่ก็สมมุติอีกเหมือนกัน :lol:
ถ้าหุ้น A เหลือ 50 บาท ลุงคงเฉยๆถ้า พื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลงในกรณีที่ซื้อมา 100 แล้วลดมาเหลือ 50
แต่ถ้าซื้อมา 100 แล้วขายไปครึ่งนึงแล้ว แล้วราคาหุ้นเหลือ 50 ก็เอาเงินที่ขายได้ซื้อเพิ่มอีกครับ
Likhit
Verified User
โพสต์: 270
ผู้ติดตาม: 0

ปรึกษาแนวคิดนี้หน่อยครับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

แล้วถ้าหุ้น เอ  ราคามันไม่ลดล่ะครับ   วิ่งรวดเดียวเข้าวินไปเลย

อย่างนี้ก็เสียโอกาสสิครับ :shock:
ลุงยาม
Verified User
โพสต์: 31
ผู้ติดตาม: 0

ปรึกษาแนวคิดนี้หน่อยครับ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

[quote="Likhit"]แล้วถ้าหุ้น เอ
ศิษย์เซียน007
Verified User
โพสต์: 1252
ผู้ติดตาม: 0

ปรึกษาแนวคิดนี้หน่อยครับ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ถึงคุณลุงยามครับ

แนวทางแรกมีความคล้ายคลึงกับแนวความคิดของท่านเซียนเทพ(หุ้นห่านทองคำ)แต่คุณลุงยามถือหุ้นกระจายมากไปหรือไม่ครับอาจจะทำให้ดูแลลำบากได้ก็เป็นได้ครับ TDEXอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าไหมครับ

ส่วนแนวทางที่สองอาจจะต้องมีความรู้ทางด้านฟันด์โฟว์มากหน่อยถึงจะWorkโคตรๆครับ  :lol:  หรือต้องมีความเข้าปัญหาในประเทศมากเช่นการเมืองถึงจะฉกโฉยโอกาสทองได้ครับ  :idea:
acousticwinter
Verified User
โพสต์: 213
ผู้ติดตาม: 0

Re: ปรึกษาแนวคิดนี้หน่อยครับ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

[quote="ลุงยาม"]คือคิดมาเองก็เลยอยากมาปรึกษาว่าทำแบบนี้พอจะได้ไหม
สมมุติว่าผมมีเงิน 100000
แบ่งเป็นสองส่วน เท่าๆกัน
ส่วนแรก
ซื้อหุ้นโดยดูปัจจัยพื้นฐานทั้งหมดตามแนว VI
สมมติว่าซื้อหุ้น A ตัวละ 100 ซื้อมา 500 ตัวเป็นเงิน 50000
เวลาต่อมาหุ้น A ราคาขึ้นไปที่ 200 (สมมติ) ผมทำการขายไป 250 หุ้น
ได้เงินมา 50000 เหลือหุ้น 250 หุ้นใน port โดยผมถือว่า 250 หุ้นนี้เป็นหุ้น
ที่มีต้นทุน 0 บาท แล้วเก็บปันผลยาว จนกว่าพื้นฐานจะเปลี่ยน โดยที่ไม่สนใจ่ว่าราคาจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหรือไม่ เพราะต้นทุนต่ำมาก

ส่วนที่สอง
ผมซื้อหุ้น A เหมือนกัน แต่ผมจะซื้อขายหุ้น A ตามภาวะตลาด
โดยที่เมื่อหุ้น A ถึงเป้าหมายและมีราคาแพงก็จะขาย
หรือตลาดโดยภาพรวมจะลง ก็ขาย
Penguins
Verified User
โพสต์: 366
ผู้ติดตาม: 0

Re: ปรึกษาแนวคิดนี้หน่อยครับ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ลุงยาม เขียน:โดยเงินปันผลที่ได้จากส่วนที่ 1 ก็ซื้อหุ้นเพิ่ม โดยถือว่าหุ้นที่ได้ได้มาฟรีๆไปโปะส่วนที่ 1
เงินจากส่วนที่สอง กำลังสับสนว่าจะไปโปะส่วน 1 หรือ 2 ดี
พี่ๆมีความเห็นว่าการบริหารแบบนี้เป็นไงบ้างครับ
สามารถใช้เงินทั้ง 2 ส่วนที่ได้กำไร เข้าซื้อได้ทั้ง 2 แบบ

ซึ่งผมเข้าใจว่า แบบที่ 1 เป็นแผนการลงทุน เพื่อใช้ในการปลดเกษียณในระยะยาว

ส่วนแบบที่ 2 อาจจะไม่สามารถไว้วางใจได้ เพราะยิ่งอายุมากขึ้น กำลังก็ลดน้อยลง...แต่ ณ ปัจจุบัน ก็สามารถทำได้ โดยนำเงินกำไรที่ได้นี้ ไปซื้อหุ้นที่มีพื้นฐานพอควร โดยดูที่ "ราคาตลาด" เป็นสำคัญ

ผมขอยกตัวอย่างนะครับ (ไม่เกี่ยวกับการซื้อขายตัวหุ้น) เช่น นำกำไรจากแบบที่ 2 ไปซื้อหุ้น TKS ที่ราคา 0.20 สตางค์ และรอเวลา >> ส่วนปัจจัยพื้นฐานก็น่าจะไม่ขี้เหล่ถึงขนาดล้มละลาย

** อะไรทำนองนี้ **
ภาพประจำตัวสมาชิก
holidaytours
Verified User
โพสต์: 349
ผู้ติดตาม: 0

ปรึกษาแนวคิดนี้หน่อยครับ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ผมไม่แน่ใจว่าคำแนะนำผมที่จะพูดต่อไปนี้ถูกหรือผิดนะครับ  :oops:
แต่ผมเชื่อว่าหลังจากเราศึกษาสิ่งต่าง ๆ จนเข้าใจแล้ว
เช่นอ่านคู่มือการขับรถจนเข้าใจแล้ว
สิ่งต่อไปที่เราจะทำคือลองขับมันครับ
เราอาจจะเฉี่ยวจะชน
แต่นั่นเราก็ต้องยอมครับ
ผมคิดแบบนี้นะครับ
แต่เราต้องศึกษามันให้เข้าใจก่อนนะคับ
witweew
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 236
ผู้ติดตาม: 0

ปรึกษาแนวคิดนี้หน่อยครับ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ลุงยาม
สมมติว่าซื้อหุ้น A ตัวละ 100 ซื้อมา 500 ตัวเป็นเงิน 50000
เวลาต่อมาหุ้น A ราคาขึ้นไปที่ 200 (สมมติ) ผมทำการขายไป 250 หุ้น
ได้เงินมา 50000 เหลือหุ้น 250 หุ้นใน port โดยผมถือว่า 250 หุ้นนี้เป็นหุ้น
ที่มีต้นทุน 0 บาท แล้วเก็บปันผลยาว จนกว่าพื้นฐานจะเปลี่ยน โดยที่ไม่สนใจ่ว่าราคาจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหรือไม่ เพราะต้นทุนต่ำมาก
แต่ก่อนผมก็เคยคิดแบบนี้ครับ (ซึ่งถ้าเดาไม่ผิดน่าจะมาอ่านมากจากตำราเล่มเดียวกัน "กลยุทธ์การลงทุนหุ้นห่านทองคำ") ปรากฎว่า หลังจากที่ผมขายหุ้น A ที่ผมเฟ้นหามาอย่างดี ออกไปครึ่งหนึ่ง วันนี้ หุ้น A ตัวนั้น ราคาบวกเพิ่มไปอีกไม่รู้กี่เท่าแล้วครับ ได้ปลอบใจตัวเองนะว่า ยังดีเหลืออีกตั้งครึ่ง แต่มันทำให้ผมนึกเลยว่าวันนั้นทำไมผมถึงซื้อหุ้นตัวนี้มา?  :lol:
ลุงยาม
Verified User
โพสต์: 31
ผู้ติดตาม: 0

ปรึกษาแนวคิดนี้หน่อยครับ

โพสต์ที่ 13

โพสต์

witweew เขียน:
แต่ก่อนผมก็เคยคิดแบบนี้ครับ (ซึ่งถ้าเดาไม่ผิดน่าจะมาอ่านมากจากตำราเล่มเดียวกัน "กลยุทธ์การลงทุนหุ้นห่านทองคำ") ปรากฎว่า หลังจากที่ผมขายหุ้น A ที่ผมเฟ้นหามาอย่างดี ออกไปครึ่งหนึ่ง วันนี้ หุ้น A ตัวนั้น ราคาบวกเพิ่มไปอีกไม่รู้กี่เท่าแล้วครับ ได้ปลอบใจตัวเองนะว่า ยังดีเหลืออีกตั้งครึ่ง แต่มันทำให้ผมนึกเลยว่าวันนั้นทำไมผมถึงซื้อหุ้นตัวนี้มา?
o-bo-ja-ma
Verified User
โพสต์: 1601
ผู้ติดตาม: 0

ปรึกษาแนวคิดนี้หน่อยครับ

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ผมว่าการคิดแบบไหนก็ไม่ผิดครับ ถ้าได้กำไรถ้าซื้อได้ถูกจังหวะถูกตัว แต่อย่างไรก็ตามถ้าจากที่ผมอ่านหนังสือหลาย ๆ เล่ม แล้วผมสรุปเองว่า การถือแบบ VI ซื้อในราคาที่เหมาะสม หรือถูกกว่าราคาที่ควรจะเป็นแล้วขายในราคาที่เกินราคาที่ควรจะเป็น (ทั้งซื้อและขายมองไปในอนาคต) จะทำให้เราได้ผลตอบแทนดีที่สุด ส่วนการซื้อแบบห่านทองคำผมมองว่าถ้ามีเงินเยอะมาก ๆ แล้วกินปันผลก็ดี แต่ผลตอบแทนในเรื่องของ Capital Gain อาจไม่มากอย่างที่คิด (ที่คิดคือ การซื้อและขายในแบบ VI )  :)  :idea:
โพสต์โพสต์