Value Way:กว่าจะเป็นเซียน (จบ) by วิบูลย์ พึงประเสริฐ

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
PERFECT LUCKY
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 795
ผู้ติดตาม: 0

Value Way:กว่าจะเป็นเซียน (จบ) by วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

Value Way ฉบับวันที่ 2 มีนาคม 2552
โดยวิบูลย์ พึงประเสริฐ
กว่าจะเป็นเซียน (จบ)
ท่านดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าระดับตำนานของไทยได้ให้สัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์ดิจิตอลรายวันสถานีนักลงทุน Investor Station (www.istationnews.com) ซึ่งบทสัมภาษณ์ดังกล่าวน่าสนใจในหลักการและชีวิตการลงทุนของท่านมาก จึงขอนำมาลงในบทความนี้
(ต่อจากฉบับที่แล้ว)

แนะนำมือใหม่หัดเทรด
หุ้นตอนนี้ถูกๆ มีเยอะ แต่ควรเลือกกิจการประเภทที่เป็นผู้นำที่โดดเด่นในตลาด มีรายได้เกิดซ้ำ รักษากำไรไว้ได้ มีเงินสดดี อย่างน้อยก็ควรจะเท่ากับกำไร และราคาหุ้นถูก ซึ่งอย่างงี้คุณก็เลือกได้เลย ซึ่งก็จะช่วยให้เลือกหุ้นที่ปลอดภัยได้ อย่างกลุ่มโมเดิร์นเทรดทุกตัวเป็นแบบนี้ แม้บางตัวอาจจะมียอดขายลดลงแต่ถ้ามีโปรดักส์อยู่ในเทรนด์มีความต้องการใช้ ในที่สุดยอดขายก็จะกลับมาเท่าเดิมได้ สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ถือเป็นโอกาสทองในชีวิต เพราะมีหุ้นที่ปลอดภัยและมีโอกาสที่จะได้กำไรสูงๆ เยอะ ในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า สมัยตอนที่ผมเข้าไปตอนนั้นโหดร้ายกว่าเยอะ เพราะมีหุ้นเล็กๆ บางตัวที่รอดมาได้ แต่ตอนนี้มีบูลชิพที่มีความแข็งแกร่งสูงแต่ถูกๆ มากมาย แต่ก็ต้องศึกษาหน่อย ซึ่งก็ไม่ได้ยากหรอก

หุ้นดีเพราะตัวเอง แต่แย่เพราะการเมือง
การเมืองในประเทศไทยไม่ได้ทำให้หุ้นดีหรอก แต่มันจะทำให้หุ้นเสียหายได้และก็คิดว่าในที่สุดแล้วการเมืองก็จะกลับมาที่เดิมในสภาพที่ไม่ค่อยดี ไม่รุนแรง แต่ก็ไม่เลวร้ายดำดิ่ง เป็นการเมืองแบบไทยๆ ถ้าการเมืองทำให้หุ้นตก ส่วนใหญ่ถ้าได้ซื้อไปก็จะเป็นโอกาสเพราะมันจะเป็นแค่วิกฤตสั้นๆ และเดี๋ยวมันก็กลับมาเอง

สำหรับรอบนี้ที่มีการยึดสนามบินก็ต้องถือว่ารุนแรงกว่าที่คิดเอาไว้เยอะ เพราะแต่เดิมที่เรื่องการเมืองจะเป็นของนักการเมืองเล่นกันเอง แต่ตอนหลังดูเหมือนจะลุกลามเข้ามาที่ภาคเศรษฐกิจโดยตรงและลุกลามมาก ซึ่งก็น่ากลัวเพราะมันมากระทบของจริง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการเมืองไม่เคยทำให้ผมขายหุ้น แต่เราก็ต้องระวัง เพราะถ้าบ้านเมืองไร้ระเบียบกฎเกณฑ์ก็จะกระทบแรงและนาน ในเมื่อตอนนี้มันกลับขึ้นมาแล้วขั้นนี้ก็ต้องถือว่าพอรับได้

เศรษฐกิจโลกน่ากลัวกว่าการเมือง
สำหรับพิษเศรษฐกิจโลกตอนนี้ซึ่งทำให้ดัชนีลงมาครึ่งหนึ่งแล้ว ขายตอนนี้ก็ไม่คุ้ม มันคงบอกได้ยากว่าจะดำดิ่งไปสิบปีหรือเป็นแค่ปีสองปีแล้วมันจะหวนกลับมา มันก็ไม่มีใครรู้ แต่ด้วยราคาหุ้นขนาดนี้ผมก็คิดว่ามันคุ้มที่จะเสี่ยงต่อ ก็ต้องถือว่าเป็นอะไรที่น่ากลัวเหมือนกัน แน่นอนว่าน่ากลัวกว่าปัจจัยการเมือง

มาเร็ว เคลมเร็ว ไปเร็ว
ถึงตลาดจะวูบวาบขึ้นเพราะมีเฮดจ์ฟันด์ทำให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ผมก็ไม่ได้ปรับอะไรมาก เพราะถ้าเป็น วีไอ มองระยะยาวก็จะเน้นที่ตัวบริษัทส่วนใครที่จะมาเล่นหรือซื้อขายหุ้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นระยะสั้น แต่ในระยะยาวแล้วสิ่งที่จะบอกว่าราคาหุ้นจะอยู่ที่ไหนคือตัวบริษัทไม่ใช่นักลงทุนหรือเฮดจ์ฟันด์ เราไปกังวลว่าฝรั่งจะขายหรือซื้ออันนั้นมันระยะสั้น ผมยังไม่เคยเห็นเลยว่ามีบริษัทที่ดีเหลือเกินแล้วระยะยาวราคาตกเอาๆ มันต้องดีแต่ตอนนี้ระยะสั้นมันเป็นโอกาส บริษัทดีๆ ราคาหุ้นลดลงมาครึ่งหนึ่ง

ดวง..เรื่องจำเป็น
สำหรับเรื่องดวง (แม็ททิว เอฟเฟ็กซ์) ผมว่ามันคือความจำเป็นประการหนึ่งเหมือนกัน แม้จะไม่ใช่เงื่อนไขที่ทำให้สำเร็จ แต่ดวงนี่จำเป็นพอสมควร ประมาณ 80-90% คือถ้าคุณไม่มีดวงแล้วโอกาสจะประสบความสำเร็จจะยากมาก แต่การมีดวงแล้วก็ไม่ใช่ประสบความสำเร็จเพราะต้องมีเงื่อนไขอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น ไอคิว เพราะฉะนั้นดวงเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นเหมือนกัน
ยังไม่สายที่จะตัดสินใจเปลี่ยนสไตล์การลงทุนมาเป็นนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าอย่างท่าน ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำเช่นกัน เพราะก่อนจะก้าวไปถึงจุดนั้นต้องเรียนรู้ให้รอบด้าน

โดยหัวใจสำคัญคือการเลือกหุ้นที่มีหัวใจสำคัญๆ ไม่กี่อย่างที่ต้องดูคือ 1) รายได้ไม่ลด 2) กำไรไม่ลด 3) หนี้ไม่มี 4) ความเสี่ยงที่จะเกิดจากความต้องการสินค้าน้อยลงมีน้อยมาก 5) ราคาต่ำแต่มีเงินปันผลจ่ายสูง และ 6) ต้องมีจุดแข็งทางด้านการตลาด โดยมีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับ 1 และเป็นผู้นำอย่างโดดเด่น นักลงทุนจะก้าวไปถึงเป้าหมายหรือไม่คงต้องวัดกันที่ใจว่าจะทำได้หรือไม่ก็เท่านั้นเอง
Miracle Happens Everyday !
"ปาฎิหารย์คือการเดินบนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว" :)
โพสต์โพสต์