ปีแห่งฝันร้าย : Value Way โดย วิบูลย์ พึงประเสริฐ

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
PERFECT LUCKY
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 795
ผู้ติดตาม: 0

ปีแห่งฝันร้าย : Value Way โดย วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

Value Way ฉบับวันที่ 5 มกราคม 2552
โดยวิบูลย์ พึงประเสริฐ
ปีแห่งฝันร้าย

แล้วปี 2551 ก็ผ่านไปอีกหนึ่งปี ซึ่งปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นฝันร้ายของนักลงทุนระยะยาวเลยทีเดียว ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงโดยเฉลี่ย 50% มูลค่าทรัพย์สินของนักลงทุนทั่วโลกลดลงอย่างประมาณค่าไม่ได้ มีเพียงนักลงทุนจำนวนน้อยที่ไม่ขาดทุนหรือทำกำไรได้ในปีที่ผ่านมา สำหรับนักลงทุนที่ถือหุ้นระยะยาวแล้วต่างขาดทุนกันถ้วนหน้า มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่โชคและฝีมือของแต่ละคน

สำหรับนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าในเมืองไทยนั้น อยากบอกว่าอย่าได้น้อยใจหรือเสียใจไปเลย เพราะปีที่ผ่านมานั้น กองทุนหุ้นในสหรัฐกว่า 4,000 กองทุนนั้น ไม่มีกองทุนใดสักกองทุนเดียวที่ทำกำไรได้ ทุกกองทุนขาดทุนทั้งหมด แม้แต่นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าระดับโลกยังไม่รอดจากวิกฤตรอบนี้ได้ ไม่ว่าจะมีประสบการณ์ในตลาดมานานแค่ไหนก็ตาม ขอยกตัวอย่างผลงานในปีนี้ของนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าระดับตำนานสองท่านให้ดูเป็นกำลังใจ

ท่านแรก มาร์ติน วิทแมน (Martin Whitman) ผู้เขียนตำราเกี่ยวกับการลงทุนแบบเน้นคุณค่าหลายเล่ม ปัจจุบันบริหารกองทุน Third Avenue Value ในปี 2551 ผลตอบแทนของกองทุนจนถึงต้นเดือนธันวาคมเท่ากับ -54% มูลค่่าเงินลงทุนหายไปมากกว่าครึ่ง ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี (S&P 500) ลดลง -43% ในช่วงเวลาเดียวกัน

วิทแมน ปัจจุบันอายุ 84 ปีบอกว่าเขาไม่เคยเห็นราคาหุ้นแบบนี้ในหุ้นบริษัทคุณภาพดีเช่นนี้มาก่อนในชีวิต เขามองว่ามันเป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตเลยทีเดียวในภาวะตลาดหุ้นปัจจุบัน กองทุนของเขาลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก โดยลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ปัจจุบันมากกว่าครึ่งของเงินลงทุนอยู่ในตลาดุห้นเอเซีย ทั้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกง โตโยต้ามอเตอร์ หรือแม้กระทั่งบริษัทผลิตเหล็กในเกาหลีใต้ ถึงแม้ปีนี้กองทุนจะมีผลการดำเนินงานติดลบ แต่ในช่วง 18 ปีที่ผ่านมา กองทุนของเขาทำผลตอบแทนทบต้นต่อปีได้ถึง 10.6% มากกว่าดัชนีเอสแอนด์พีหรือดัชนี MSCI Asia Index ในช่วงเวลาเดียวกัน ตอนนี้เขาถือเงินสดประมาณ 7% ของพอร์ต เพื่อที่ไม่ต้องขายหุ้นออกมาในราคาต่ำๆในกรณีที่มีการไถ่ถอนของผู้ลงทุน

ปัจจุบันเขายังคงมั่นใจในพอร์ตการลงทุนที่ถืออยู่ และบอกว่าผลตอบแทนที่แย่มากๆของปีนี้เกิดจากตลาดหุ้นที่ไม่สมเหตุสมผล เขาคิดว่าบริษัทโตโยต้าจะกลับมาดีอีกครั้งแน่นอน ถึงแม้บริษัทรถยนต์อื่นๆในอเมริกากำลังจะล้มละลาย เขากล่าวว่าราคาถูกอย่างเดียวไม่เพียงพอสำหรับการลงทุนในภาวะเช่นนี้ นักลงทุนต้องดูสภาพการเงินของบริษัทเหล่านั้นประกอบด้วย

ท่านที่สอง เมสัน ฮอร์คกิ้น (Mason Hawkins) ลงทุนแบบเน้นคุณค่ามากว่า 20 ปี ปัจจุบันบริหารกองทุน Longleaf Partners ในปี 2551 ผลตอบแทนของกองทุนจนถึงต้นเดือนธันวาคมเท่ากับ -59.6%

ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีที่แย่มากๆสำหรับฮอร์คกิ้น หุ้นถูกๆที่เขาถืออยู่ต่างมีราคาถูกลงไปอีก ถึงอย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงลงทุนตามหลักการเดิมที่ซื้อหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงต่อไป ปัจจุบันกองทุนของเขาถือหุ้นประมาณ 20 บริษัท เราเชื่อว่าการยืนดูเฉยๆอยู่ข้างนอกตลาดมันเป็นปัญหาเช่นเดียวกับการซื้อหุ้นบริษัทดีๆในตอนนี้ ดังนั้นเราคิดว่าเริ่มซื้อหุ้นจะเป็นกลยุทธที่ดีกว่า และเรามองบริษัทที่เราถืออยู่ไปอีก 10 ปีข้างหน้า หุ้นในพอร์ตปัจจุบันของกองทุนมีตั้งแต่ดิสนีย์ อีเบย์ เฟดเดรอลเอ๊กเพรส และที่ถืออยู่มากที่สุดคือ เดลล์คอมพิวเตอร์ ซึ่งเขามองว่าบริษัทยังคงไปได้ดีในเรื่องของการลดต้นทุน มาร์จินที่เพิ่มขึ้นและการซื้อหุ้นคืน

จะเห็นว่าแม้แต่เซียนหุ้นระดับโลกยังขาดทุนในปีที่ผ่านมา ดังนั้นนักลงทุนไทยจึงไม่ควรท้อแท้หรือหมดกำลังใจ ลองพิจารณาข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาเป็นบทเรียนเพื่อพัฒนาการลงทุนของเราให้ดียิ่งขึ้นต่อไป โชคดีทุกท่านครับ
Miracle Happens Everyday !
"ปาฎิหารย์คือการเดินบนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว" :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
sai
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4095
ผู้ติดตาม: 292

ปีแห่งฝันร้าย : Value Way โดย วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ปีแห่งฝันร้าย เมื่อไรจะเช้าเนี่ย อยากตื่นแล้วก้าบ
Small Details Make a Big Difference
nw108
Verified User
โพสต์: 503
ผู้ติดตาม: 0

ปีแห่งฝันร้าย : Value Way โดย วิบูลย์ พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

:D


    สงสัยจะอีกนานครับ ยังมองไม่เห็นเเสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เลย
โพสต์โพสต์