AUTO sector is my last answer.....

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
david
Verified User
โพสต์: 852
ผู้ติดตาม: 0

AUTO sector is my last answer.....

โพสต์ที่ 1

โพสต์

Because....
1.The more confidence of the consumers.Pls c the CCI.
2.The growth rate of domestic cars from the beginning of this year.
3.B20 CAR,n the upcoming ECO-CAR.
4.FTA between Australia,Newzealand and ASEAN.
The problem is which stocks in the sector will b the best choices.I prefer.......
1.My Facebook page, https://www.facebook.com/pages/Kitichai ... 5514051589.
2.U may follow my stock comment via http://twitter.com/value_talk
3.กระทู้ที่โพสท์นี้เป็นความเห็นส่วนตัว การซื้อขายหุ้นขึ้นอยู่กับการใช้วิจารณญาณของแต่ละคน
tt
Verified User
โพสต์: 1150
ผู้ติดตาม: 5

AUTO sector is my last answer.....

โพสต์ที่ 2

โพสต์

S A T
MindTrick
Verified User
โพสต์: 1288
ผู้ติดตาม: 0

AUTO sector is my last answer.....

โพสต์ที่ 3

โพสต์

YNP is a leader :oops:  but we rather look pick the laggard.
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
ภาพประจำตัวสมาชิก
tok
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 833
ผู้ติดตาม: 0

AUTO sector is my last answer.....

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ในยุคน้ำมันแพงแบบนี้ รถที่จะได้ประโยชน์น่าจะเป็นรถขนาดเล็ก ที่ประหยัดน่ำมันนะครับ ในอเมริกายอดขายรถขนาดเล็กในเดือนมีนาคม เช่น Ford Focus เพิ่มขึ้น 24% และ Honda Fit เพิ่มขี้น 73.8%

ในขณะที่รถกระบะ เช่น Ford F-Series ลดลง 23.8% และ Dodge Ram ลดลง 31% และรถอเนกประสงค์ SUV ยอดขายลดไปอย่างมาก

March small car sales up SUV, truck sales down
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 1

AUTO sector is my last answer.....

โพสต์ที่ 5

โพสต์

เห็นด้วยครับ  :)
nathapon_m
Verified User
โพสต์: 272
ผู้ติดตาม: 0

AUTO sector is my last answer.....

โพสต์ที่ 6

โพสต์

วันนั้นฟังข่าว ยอดขายมอร์เตอร์ไซค์ เพิ่มขึ้นกว่า 50% และส่วนใหญ่ลูกค้าซื้อเงินสดครับ  สาเหตุมาจากราคาน้ำมันล้วนๆครับ

หุ้นมอไซ หรือ leasing น่าสนมั้ยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
david
Verified User
โพสต์: 852
ผู้ติดตาม: 0

AUTO sector is my last answer.....

โพสต์ที่ 7

โพสต์

5.It is the one of advantageously competitive industry of Thailand.
6.Most of them still look cheap n in the bottom area since 2003.
1.My Facebook page, https://www.facebook.com/pages/Kitichai ... 5514051589.
2.U may follow my stock comment via http://twitter.com/value_talk
3.กระทู้ที่โพสท์นี้เป็นความเห็นส่วนตัว การซื้อขายหุ้นขึ้นอยู่กับการใช้วิจารณญาณของแต่ละคน
CANNAVARO
Verified User
โพสต์: 19
ผู้ติดตาม: 0

AUTO sector is my last answer.....

โพสต์ที่ 8

โพสต์

น้ำมันขากแคง นองกับแฟง ก้อต้องดับไฟ

น้ำมันราคาแพงแบบนี้ยอดขายรถจะดีได้เหรอครับ
woody
Verified User
โพสต์: 3763
ผู้ติดตาม: 3

AUTO sector is my last answer.....

โพสต์ที่ 9

โพสต์

CANNAVARO เขียน:น้ำมันขากแคง นองกับแฟง ก้อต้องดับไฟ

น้ำมันราคาแพงแบบนี้ยอดขายรถจะดีได้เหรอครับ

ตอบตามหลัก microecon ครับ ในระยะสั้นอาจจะไม่ดีเนื่องจาก Elaticity of Demand มันค่อนข้างสูง แต่ในระยะยาวแล้วคนจะเปลี่ยนรถหันมาใช้รถที่ประหยัดน้ำมันมากขึ้นครับ นั่นหมายถึงในระยะยาวแล้ว Elaticity of Demand จะลดต่ำลงเรื่อยๆ (ติดลบน้อยลงนะครับ)
Impossible is Nothing
CANNAVARO
Verified User
โพสต์: 19
ผู้ติดตาม: 0

AUTO sector is my last answer.....

โพสต์ที่ 10

โพสต์

Elaticity of Demand

คืออะไรครับ
woody
Verified User
โพสต์: 3763
ผู้ติดตาม: 3

AUTO sector is my last answer.....

โพสต์ที่ 11

โพสต์

CANNAVARO เขียน:Elaticity of Demand

คืออะไรครับ

อืม มันแปลเป็นไทยว่าอะไรหล่ะนี่.......ขออภัยจริงๆ ครับนึกไม่ออก ถ้าเอาเต็มๆ ก็คือ price elaticity of demand.....ซึ่งมันคือ % change in quantity over % change in price ครับ = Delta Q/Delta Price * Price/Quantity
Impossible is Nothing
vision
Verified User
โพสต์: 305
ผู้ติดตาม: 0

AUTO sector is my last answer.....

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา

แค่มันใช่อันเดียวกันหรือเปล่า

น้ำมันความยืดหยุ่นต่ำเนื่องจากเป็นสินค้าจำเป็น รถยนต์ความยืดหยุ่นสูงเนื่องจากเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย

ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ของสินค้าหนึ่งต่อราคาของสินค้าอีกชนิดหนึ่งเขาเรียกเหมือนกันหรือเปล่า อันนี้ต้องให้ผู้รู้คนอื่นตอบเพราะเรียนมานานมากแล้ว ไม่ได้ใช้ด้วย ลืมสนิท
woody
Verified User
โพสต์: 3763
ผู้ติดตาม: 3

AUTO sector is my last answer.....

โพสต์ที่ 13

โพสต์

vision เขียน:ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา

แค่มันใช่อันเดียวกันหรือเปล่า

น้ำมันความยืดหยุ่นต่ำเนื่องจากเป็นสินค้าจำเป็น รถยนต์ความยืดหยุ่นสูงเนื่องจากเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย

ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ของสินค้าหนึ่งต่อราคาของสินค้าอีกชนิดหนึ่งเขาเรียกเหมือนกันหรือเปล่า อันนี้ต้องให้ผู้รู้คนอื่นตอบเพราะเรียนมานานมากแล้ว ไม่ได้ใช้ด้วย ลืมสนิท
ต้องดูชนิดของสินค้ากับ timeframe ครับ

ถ้าเป็นพวกน้ำมันนี่ ในระยะสั้นจะไม่ค่อยยืดหยุ่นต่อราคาเนื่องจากอย่างไรคนก็ต้องใช้อยู่ แต่พอในระยะยาวแล้วคนจะค่อยๆ ลดการบริโภคลงด้วยวิธีการต่างๆ

ผิดกับพวกรถยนต์หรือสินค้าทุนที่ในระยะสั้นจะยืดหยุ่นมาก คนจะชะลอการซื้อรถยนต์ในระยะสั้น แต่ในระยะยาวแล้วก็จะเริ่มยืดหยุ่นน้อยลงครับ

ส่วนแบบข้ามสินค้านี่น่าจะเรียกว่า cross price elasticity of demand นะครับ
Impossible is Nothing
terati20
Verified User
โพสต์: 1104
ผู้ติดตาม: 0

AUTO sector is my last answer.....

โพสต์ที่ 14

โพสต์

woody เขียน:
อืม มันแปลเป็นไทยว่าอะไรหล่ะนี่.......ขออภัยจริงๆ ครับนึกไม่ออก ถ้าเอาเต็มๆ ก็คือ price elaticity of demand.....ซึ่งมันคือ % change in quantity over % change in price ครับ = Delta Q/Delta Price * Price/Quantity
คุณ  Woody  post  ผิดนะครับ ข้อมูลไม่ตรงมากๆ จริงๆเเล้วต้องเป็น











Elasticity  of demand    ครับ
 เข้ามาป่วน :wink:
สิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นในเบื้องต้น ตั้งอยู่ เเละดับไปในที่สุด
woody
Verified User
โพสต์: 3763
ผู้ติดตาม: 3

AUTO sector is my last answer.....

โพสต์ที่ 15

โพสต์

terati20 เขียน:
คุณ
Impossible is Nothing
NDD
Verified User
โพสต์: 408
ผู้ติดตาม: 0

AUTO sector is my last answer.....

โพสต์ที่ 16

โพสต์

Last answer ตอนแรกนึกว่า จะเป็นตัวสุดท้ายที่จะซื้อ จะเข้ามาดูซักหน่อย ว่า First answer คืออะไร ๕๕๕๕๕๕๕๕๕
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 2

AUTO sector is my last answer.....

โพสต์ที่ 17

โพสต์

เห็นด้วยครับ ช่วงตกต่ำที่สุดของกลุ่มยานยนต์บ้านเราคือ Q2 ปีที่แล้ว จากนั้นดัชนีเกือบทุกตัวก็ปรับขึ้นหมด แม้กระทั่งมอเตอร์ไซค์ที่เคยตกต่ำถึงลบ 20% ก็โงหัวขึ้นมาหลายเดือนแล้ว(ติดลบลดลง)ซึ่งช้ากว่ารถยนต์ ราคาสินค้าเกษตรที่สูงขึ้นในระยะหลายเดือนที่ผ่านมาคงเกี่ยวข้องด้วยเหมือนกัน  :8)
value_vi
Verified User
โพสต์: 98
ผู้ติดตาม: 0

AUTO sector is my last answer.....

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ลอกมาจาก Stanly 100คน100หุ้นครับ

ชิ้นส่วน-แม่พิมพ์ เกาะขบวนโกย!
     รัฐดันอีโคคาร์นอนกินยาว 10ปี
     
     อุตฯยานยนต์ต่อเนื่องทั้ง "แม่พิมพ์-ผลิตชิ้นส่วน" เฮรับ "อีโคคาร์" หลังภาครัฐเดินห้นาโครงการพร้อมตั้งเป้าแชมป์อีโคคาร์โลก วงในเผยนอนกินออร์เดอร์กว่า 7 แสนคันโตทันที 50 % หลังรัฐหาตลาดให้ มั่นฝีมือไทยเยี่ยม ฟันธงเกาะขบวนรวย10 ปี...
     
     ถือว่าเป็นที่สัญญานที่ดีอย่างยิ่งเมื่อนโยบายอีโคคาร์ได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งการเดินหน้าผลักดันโครงการดังกล่าวด้วยหวังว่าอีโคคาร์จะเป็นแชมเปี้ยนตัวใหม่ต่อจากรถปิคอัพ1ขนาดตันที่ไทยถือเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในขณะนี้ คาดว่าจะเป็นแรงกระตุ้นสำคัญต่อวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยรวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมต่อเนื่องอีกด้วย
     
     ข้อมูลเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าว่าบริษัทผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่เบื้องต้น 6 รายอาทิ ฮอนด้า ซูซูกิ นิสสัน มิตซูบิชิ โตโยต้า และทาทา มอเตอร์ จะมีกำลังการผลิตต่อปีที่สูงถึง 685,000 คันต่อปี มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 43,440 ล้านบาทโดยขณะนี้ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)แล้ว
     
     อุตฯต่อเนื่องโตก้าวกระโดด
     
     จากตัวเลขข้างต้นจึงเป็นการบ่งชี้อย่างดีว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยกำลังจะเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่ง วิโรจน์ ศิริธนาศาสตร์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ได้วิเคราะห์ผ่าน "ผู้จัดการรายสัปดาห์"ว่า การเกิดขึ้นของโครงการอีโคคาร์ย่อมเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการในแวดวงนี้ แน่นอนว่าจะเป็นการขยายโอกาสในการส่งออกชิ้นส่วนของรถอีโคคาร์ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ คาดการณ์ว่าจะมีผู้ใช้รถอีโคคาร์ทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 29- 30 ล้านคัน
     
     ดังนั้นอุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนทั้งหมดจะโตขึ้นอย่างมากในภาวะที่ตลาดรถปิกอัพค่อนข้างที่จะถึงจุดอิ่มตัวแล้ว
     
     "ชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ต่อ 1คันของรถยนต์ อุตสาหกรรมแม่พิมพ์ของไทยสามารถทำได้แทบทั้งหมด ยกเว้นเครื่องยนต์ และชุดเกียร์เท่านั้น ซึ่งในรถปิคอัพนี่ก็เกือบจะ 100 เปอร์เซนต์อยู่แล้ว ทั้งการหล่อเสื้อเครื่อง แม่พิมพ์ทุกอย่าง ซึ่งพื้นฐานที่แข็งแกร่งนี้จะช่วยให้เราพร้อมรับมือกับการเติบโตแบบก้าวกระโดครั้งนี้ได้ "
     
     ปัจจุบันบริษัทต่างๆก็เริ่มที่จะลงทุนเพิ่มเติมมากขึ้นแล้วเมื่อเห็นสัญญานที่ชัดเจนจากภาครัฐในการสนับสนุนโครงการดังกล่าว ที่สำคัญนั้นมาจากที่ไทยมีความเชี่ยวชาญและเป็นแหล่งผลิตรถปิคอัพมาก่อน จึงเป็นสิ่งที่หนุนช่วยอย่างดีต่อการเกิดขึ้นของอุตสาหกรรมรถยนต์อีโคคาร์ เพราะ"ประสบการณ์" ซึ่งสั่งสมมายาวนานเป็นเครื่องการรันตีว่าไทยแกร่งพอที่จะรองรับการเกิดขึ้นของโครงการนี้
     
     เม็ดเงินสูง 1.4 แสนล้าน
     
     อย่างไรก็ตาม เมื่ออีโคคาร์เป็นรถที่มีขนาดเล็กกว่ารถปิคอัพ บริษัทยักใหญ่ต่างๆจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการลงทุนเพื่อสร้าง Platform (พื้นฐานการการผลิต) ใหม่รวมถึงแม่พิมพ์ใหม่ที่จะเกิดขึ้นรวมถึงอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนซึ่งมีเม็ดเงินจากส่วนนี้สูงถึง 1.4 แสนล้านบาท ซึ่งในการนี้อุตสาหกรรมแม่พิมพ์จะกลายเป็นอุตสาหกรรมแรกๆที่จะได้รับผลประโยชน์จากโครงการดังกล่าว
     
     "โครงการอีโคคาร์เกิดขึ้น จะมีเม็ดเงินไหลเข้ามากว่า 1.4 แสนล้านบาท ทั้งจากการก่อสร้างโรงงานเพิ่มเติม ธุรกิจแม่พิมพ์ ยาง ฯลฯ ซึ่งคาดว่าบริษัทต่างจะมาลงที่ไทยทั้งหมด แม้ว่าประเทศอื่นๆจะมีค่าจ้างงานที่ถูกกว่าอย่างเวียดนาม แต่อุตสาหกรรมยานยนต์ต้องใช้ความชำนาญซึ่งไทยมีความพร้อมที่สุดในแทบทุกด้าน"
     
     นับว่าเป็นการลงทุนและเกิดการจ้างงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งแนวโน้มว่าเม็ดเงินจำนวนดังกล่าวจะยังคงไหลมาลงทุนยังประเทศไทย เมื่อเปรียบเทียบความพร้อมระหว่างไทยและประเทศอื่นๆในภูมิภาค อาทิ พม่าซึ่งมีสถานภาพทางการเมืองที่ไม่สู้จะดีนัก สิงคโปร์ก็ขาดแคลนทรัพยากรน้ำ ลาวที่ระบบโรงสร้างพื้นฐานยังไม่ดีพอ อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ที่ด้วยตัวภูมิศาสตร์ไม่เอื้อต่อการก่อตั้งโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ หรือ มาเลเซียที่มีรถประจำชาติก็กลายเป็นอุปสรรคต่อการลงทุนของชาวต่างชาติ ดังนั้นไทยจึงมีความพร้อมที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
     
     ชี้ราคาถูก-ยอดทะลัก
     
     จุดแข็งอีกประการหนึ่ง ก็ด้วยกรอบความตกลงที่ค่อนข้างเป็นจุดสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้อนาคตของอีโคคาร์ค่อนข้างสดใส ทั้ง ราคาที่ถูก แม้ว่าน้ำมัน จะแพงก็ตามแต่ราคาก็ไม่น่าที่จะเกินเพดานที่ตั้งไว้ในระดับ 3- 5แสน ซึ่งเป้าหมายที่วางไว้ว่าต้องการให้เป็นรถคันแรกของครอบครัว สำหรับคนที่เพิ่งทำงานสามารถเป็นเจ้าของได้อย่างไม่ยากเย็นเกินไปนัก
     
     "บริษัทต่างๆรู้ต่างก็ทราบกันดีว่า โครงสร้าง คุณภาพ ระบบต่างๆของไทยมีคุณภาพอยู่ในระดับใด ซึ่งแน่นอนว่าอยู่ในระดับที่สูง หากอีโคคาร์ที่กำลังจะผลิตนี้ ราคาไม่แพงเกินไปนักคุณภาพไม่หยาบเกินไปนักก็ถือว่าน่าจะขายดีอย่างแน่นอน"
     
     นอกจากคุณภาพที่ต้องเหมาะสมแล้ว กรอบที่บริษัทต่างๆรวมทั้งประเทศไทยได้วางไว้ ก็คือ ประหยัดทั้งพลังงานและเงินในกระเป๋า ทำให้เชื่อว่าจะขายได้ ขณะที่ธุรกิจต่อเนื่องในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างผู้ผลิตชิ้นส่วนก็ค่อนข้างที่จะสดใสไม่แพ้กัน
     
     รับอานิสงส์ยาว 10 ปี
     
     สามารถ ดีพิจารณ์ ประธานกลุ่มพันธมิตรผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ หนึ่งในเครือข่ายอุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งได้รับอานิสงส์จากโครงการอีโคคาร์อย่างมาก อธิบายว่า การเข้ามาลงทุนเพิ่มเติมของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านรถยนต์ทั้ง 6 บริษัท จะเกิดสร้างงานอีกอย่างน้อย 50 % เนื่องจากยอดของแผนการผลิตรถยนต์อย่างน้อย 7 แสนคันซึ่งนับว่าสูงมากเมื่อเทียบกับยอดผลิตคนเมื่อปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 1.3 ล้านคัน และเมื่อโครงการอีโคคาร์เสร็จสิ้นจะมียอดการผลิตสูงถึง 2.4 ล้านคัน ซึ่งถือว่าไทยจะเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ติด 1 ใน 4 ของโลก จากเดิมซึ่งอยู่ในอันดับ 1ใน 10ของโลก
     
     จากการวางแผนด้วยนโยบายที่ตั้งไว้ในระดับแชมเปี้ยนนี้ บริษัทต่างๆจะใช้ไทยเป็นฐานผลิตและส่งออกไปยัง 155 ประเทศทั่วโลกซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ และผู้ที่จะได้รับมหาศาล คือผู้ผลิตชิ้นส่วนจะมี 2 กลุ่มคือ โออีเอ็ม ผู้ผลิตของแท้ อาร์อีเอ็ม อะไหล่ เนื่องจาก เป้าหมายคือการส่งออกสู่ตลาดโลก (Mass Production) ซึ่งกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้เบื้องต้นก็คือ กลุ่มผู้นำเข้าเครื่องจักรในการผลิต คาดว่าจากนี้ไปอีก 10 ปีผู้ผลิตชิ้นส่วนยายนต์ไทยจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างแน่นอน
     
     "ธุรกิจต่อเนื่องที่จะโตเป็นอันดับแรกก็คือ เครื่องจักรกล ซึ่งเป็นธุรกิจต้นน้ำ และธุรกิจกลางน้ำและปลายน้ำอย่าง ยาง อะไหล่ชิ้นส่วนต่างๆก็จะพลอยเติบโตตามไปด้วย
     
     คาดว่าธุรกิจผู้ผลิตชิ้นส่วนจะมีการเติบโตไปอีกอย่างน้อย10 ปี เพราะการลงทุนของบริษัทต่างๆย่อมมากการณ์ไกล และอุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนจะพอลยได้รับอินสงส์จากโครงการนี้อย่างต่ำ 10 ปีขึ้นไป "
โพสต์โพสต์