คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1011
- ผู้ติดตาม: 30
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 841
สวัสดีครับ คุณวิบูลย์
ไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ มาแวะเยี่ยมชมอยู่ทุกวัน
พอดีเป็นคนทำงานช้า ทำเท่าไหร่ไม่หมดซักที
กว่าจะได้แวะเข้ามาก็ต้องตอนค่ำหรือดึก
เอาเป็นว่า ผมอยู่กะดึกก็แล้วกันครับ
ตอนนี้แทบจะไม่ได้ทำอะไรหวือหวาเกี่ยวกับหุ้น
ไม่ได้เพิ่มตัว ถ้าซื้อก็ซื้อเพิ่มไปเรื่อยๆ กับตัวเดิม
เนื่องจาก หาหุ้นราคาที่เหมาะสมหรือต่ำไม่ค่อยมี
ว่าไปแล้วการลงทุนอย่างของผม
นับวัน นับวัน จะรู้จักหุ้นน้อยลงทุกที คอยแต่ติดตามตัวที่เราลงทุนนะ
ผมสักเกตุดูจากหลายกระทู้ จะมีเพื่อนสมาชิกถามว่า
ตัวนี้เป็นไง ตัวนั้นเป็นไง น่าลงทุนหรือไม่
ความจริงไม่ใช่ไม่อยากตอบหรอก แต่ไม่รู้ข้อมูลในแนวลึกนะครับ
คงต้องหาเวลานั่งศึกษาเพิ่มเติม ตะลุยอ่าน 56-1 ดูงบเพิ่มเติมแล้วละมั้ง
ผมสังเกตุว่า คุณวิบูลย์ มีเวลาศึกษาเยอะดี นับถือ นับถือ
เอาเป็นว่า ผมขอให้คุณวิบูลย์ใบ้หวยหุ้น (อีกแล้ว) หน่อยครับ
ไม่ใช่จะให้ใบ้ให้ซื้อ แต่เอาตัวที่คุณวิบูลย์คิดว่าน่าสนใจในอุตสหกรรมต่างๆ
แล้วเดี๋ยวผมจะไปศึกษาเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุนครับ
ถ้ามี ก็ช่วยแนะนำแบบตลาดปิดไปสัก 5 ปีก็ยังอยู่นะครับ
อุตสหกรรมที่อยากให้คุณวิบูลย์หรือเพื่อนๆ ช่วยแนะนำสักสองตัวครับ
1. ประกันภัย
2. สิ่งพิมพ์
3. พาณิชย์
เอาเท่านี้ก่อนครับ ขอบคุณส่วงหน้าครับ
ไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ มาแวะเยี่ยมชมอยู่ทุกวัน
พอดีเป็นคนทำงานช้า ทำเท่าไหร่ไม่หมดซักที
กว่าจะได้แวะเข้ามาก็ต้องตอนค่ำหรือดึก
เอาเป็นว่า ผมอยู่กะดึกก็แล้วกันครับ
ตอนนี้แทบจะไม่ได้ทำอะไรหวือหวาเกี่ยวกับหุ้น
ไม่ได้เพิ่มตัว ถ้าซื้อก็ซื้อเพิ่มไปเรื่อยๆ กับตัวเดิม
เนื่องจาก หาหุ้นราคาที่เหมาะสมหรือต่ำไม่ค่อยมี
ว่าไปแล้วการลงทุนอย่างของผม
นับวัน นับวัน จะรู้จักหุ้นน้อยลงทุกที คอยแต่ติดตามตัวที่เราลงทุนนะ
ผมสักเกตุดูจากหลายกระทู้ จะมีเพื่อนสมาชิกถามว่า
ตัวนี้เป็นไง ตัวนั้นเป็นไง น่าลงทุนหรือไม่
ความจริงไม่ใช่ไม่อยากตอบหรอก แต่ไม่รู้ข้อมูลในแนวลึกนะครับ
คงต้องหาเวลานั่งศึกษาเพิ่มเติม ตะลุยอ่าน 56-1 ดูงบเพิ่มเติมแล้วละมั้ง
ผมสังเกตุว่า คุณวิบูลย์ มีเวลาศึกษาเยอะดี นับถือ นับถือ
เอาเป็นว่า ผมขอให้คุณวิบูลย์ใบ้หวยหุ้น (อีกแล้ว) หน่อยครับ
ไม่ใช่จะให้ใบ้ให้ซื้อ แต่เอาตัวที่คุณวิบูลย์คิดว่าน่าสนใจในอุตสหกรรมต่างๆ
แล้วเดี๋ยวผมจะไปศึกษาเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุนครับ
ถ้ามี ก็ช่วยแนะนำแบบตลาดปิดไปสัก 5 ปีก็ยังอยู่นะครับ
อุตสหกรรมที่อยากให้คุณวิบูลย์หรือเพื่อนๆ ช่วยแนะนำสักสองตัวครับ
1. ประกันภัย
2. สิ่งพิมพ์
3. พาณิชย์
เอาเท่านี้ก่อนครับ ขอบคุณส่วงหน้าครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 83
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 843
สวัสดีครับพี่ไก่thanwa เขียน:สวัสดีครับ คุณวิบูลย์
ไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ มาแวะเยี่ยมชมอยู่ทุกวัน
พอดีเป็นคนทำงานช้า ทำเท่าไหร่ไม่หมดซักที
กว่าจะได้แวะเข้ามาก็ต้องตอนค่ำหรือดึก
เอาเป็นว่า ผมอยู่กะดึกก็แล้วกันครับ
เอาเป็นว่า ผมขอให้คุณวิบูลย์ใบ้หวยหุ้น (อีกแล้ว) หน่อยครับ
ไม่ใช่จะให้ใบ้ให้ซื้อ แต่เอาตัวที่คุณวิบูลย์คิดว่าน่าสนใจในอุตสหกรรมต่างๆ
แล้วเดี๋ยวผมจะไปศึกษาเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุนครับ
ถ้ามี ก็ช่วยแนะนำแบบตลาดปิดไปสัก 5 ปีก็ยังอยู่นะครับ
อุตสหกรรมที่อยากให้คุณวิบูลย์หรือเพื่อนๆ ช่วยแนะนำสักสองตัวครับ
1. ประกันภัย
2. สิ่งพิมพ์
3. พาณิชย์
เอาเท่านี้ก่อนครับ ขอบคุณส่วงหน้าครับ
งั้นผมเข้ากะกลางวันแล้วกันครับ
พี่เข้ากะกลางคืน
ผมรู้จักหุ้นไม่มากหรอกครับ
ก็เฉพาะธุรกิจที่ผมสนใจ
จะให้ผมใบ้หุ้นคงไม่ถนัด
เพราะอย่างที่บอก
เคยบอกไปแล้วหุ้นตกเอาตกเอา
จน"คนรับแทง"กลัวจนเข็ดขยาด
เวลาผ่านมา
ผมว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ"จิตใจ"ครับ
ถ้าได้หุ้นดีแค่ไหนมา แต่ถ้าจิตใจไม่พร้อมที่จะลงทุนแบบ VI แล้ว
คงยากที่จะไปถึงฝั่ง
แค่หุ้นลงไป 100 จุดก็"ขวัญผวา" กันแล้วใช่มั๊ยครับ
ตอนนี้หุ้นที่จะถือสัก 5 ปี 10 ปี สบายๆคงหายากพิลึก
เพราะราคามันไม่น่าจับ
ยิ่งราคาสูงขึ้นเท่าไหร่ ความเสี่ยงในการลงทุนก็สูงขึ้นแค่นั้น
หุ้นในพอร์ตผมตอนนี้
ระยะเวลาการถือลดลงมาเหลือประมาณ 1-3 ปีครับ
เพราะหุ้นถือยาว ราคาไม่แพง หายากมากๆๆๆๆๆ
อุตสาหกรรมที่บอกมาผมไม่ถนัดเลยครับ
1. ประกันภัย-คงต้องให้ท่าน Ayethebing มาบรรยาย
ผมไม่มีหุ้นประกันเลย ส่วนใหญ่ผลตอบแทนการลงทุนต่ำ
2. สิ่งพิมพ์-ผมไม่มีหุ้นสิ่งพิมพ์เลยครับ
ผมว่าจะลงทุนในหุ้นที่อากู๋ไพบูลย์เปิดธุรกิจแข่งไม่ได้
แต่สิ่งพิมพ์นี่ Barrier to Enrty ต่ำมากๆ
แต่ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในระยะยาวก็มีไม่มากครับ
เรียกว่า เข้าง่ายออกง่าย
3. พาณิชย์-อันนี้ต้องถามพี่เจ๋ง เพราะพี่ท่านลงทุนใน
Big-C, Makro, SPI ส่วนผมความรู้ในพาณิชย์น้อยครับ
แต่ถ้าถามเรื่อง พลังงาน ปิโตรเคมี สื่อสาร หรือแบงค์ละก็
ผมพอจะมีปัญญาตอบได้ครับ
มีทั้ง"ก้นบุหรี่"และ"หุ้นช้อน(หัก)" ครับ
สนใจอุตสาหกรรมไหน คุยกันได้ครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 844
ผมขอถามพี่ VIB เกี่ยวกับหุ้นในกลุ่ม ปิโตรเคมี กับ Bank หน่อยนะครับ ซึ่งมีคำถามดังนี้ครับ
1. อยากขอถามว่าทำไมหุ้น NPC กับ TOC ส่วนตัวผมคิดว่า NPC ดีกว่าในแง่ของการ ที่มีความมั่นคงฐานะการเงินก็ดีกว่า มีการจ่ายปันผลแน่นอน ซึ่งผมชอบห้นแบบนี้นะ แต่ทำไมหลายๆ คนมักจะบอกว่า TOC มีอนาคตดีกว่า ทำให้ผมอยากทราบว่าการที่ TOC มีอนาคตดีกว่า NPC นั้นเพราะว่าอะไรครับ
2. ผมสนใจกลุ่ม Bank เหมือนกันมีตัวที่สนใจคือ BBL SCB KBANK แต่ไม่รู้จะตัดสินใจเลือกตัวใดดี ส่วนตัวผมคิดว่าดีพอๆกันนะครับ
1. อยากขอถามว่าทำไมหุ้น NPC กับ TOC ส่วนตัวผมคิดว่า NPC ดีกว่าในแง่ของการ ที่มีความมั่นคงฐานะการเงินก็ดีกว่า มีการจ่ายปันผลแน่นอน ซึ่งผมชอบห้นแบบนี้นะ แต่ทำไมหลายๆ คนมักจะบอกว่า TOC มีอนาคตดีกว่า ทำให้ผมอยากทราบว่าการที่ TOC มีอนาคตดีกว่า NPC นั้นเพราะว่าอะไรครับ
2. ผมสนใจกลุ่ม Bank เหมือนกันมีตัวที่สนใจคือ BBL SCB KBANK แต่ไม่รู้จะตัดสินใจเลือกตัวใดดี ส่วนตัวผมคิดว่าดีพอๆกันนะครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 845
VIB007 เขียน: 2. สิ่งพิมพ์-ผมไม่มีหุ้นสิ่งพิมพ์เลยครับ
ผมว่าจะลงทุนในหุ้นที่อากู๋ไพบูลย์เปิดธุรกิจแข่งไม่ได้
แต่สิ่งพิมพ์นี่ Barrier to Enrty ต่ำมากๆ
แต่ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในระยะยาวก็มีไม่มากครับ
เรียกว่า เข้าง่ายออกง่าย
พี่ครับ ธุรกิจสิ่งพิมพ์จริงๆ เข้ายากนะครับ ถ้าจะให้ขายดีและมีคุณภาพ เพราะว่าถ้าจะครบวงจรมันต้องมีทั้งโรงพิมพ์ และสายส่งที่ดี เครื่องพิมพ์ดีๆก็หลายล้านบาท สายส่งดีๆต้องครอบคลุมทั่วประเทศ และทีมงานกองบก.ต้องมีความรู้มาก และวิเคราะห์วิจารณ์ได้เจ๋งด้วย
สำหรับกลุ่มนี้ผมมอง สยามสปอร์ตกับมติชนไว้ครับ ตัวแรกนี่ผมว่าได้ยาวเพราะด้านกีฬานี่ผมมองว่าเข้ามาแข่งได้ แต่จะเหนือกว่าสยามกีฬานี่ยากมากๆๆครับ ส่วนมติชนผมคิดว่าเค้ามีทีมงานด้านการเมืองดี และเป็นหนังสือพิมพ์ที่เน้นเนื้อหา แม้ว่าจะปรับตัวให้เบาลงบ้าง ด้วยการเพิ่มเซ็คชั่นใหม่ และยังมีข่าวสดที่เป็นหนังสือพิมพ์เบา แล้วทั้งสองหัวก็รวมกันแล้วมากกว่าไทยรัฐ แม้ว่าไทยรัฐจะเป็นเบอร์ 1 ก็ตาม เท่าที่ทราบมา post ก็ให้ไทยรัฐเป็นสายส่งให้ด้วยครับ (อันนี้รู้มาจากคนใน)
ผมมันคงวงการนี้ครับ เลยดูง่ายหน่อย แถมซีเอ็ดให้ว่าร้านหนังสือดีหาง่ายมากๆ แต่ผมเองยังไปเดินศูนย์หนังสือจุฬาฯกับสวนจตุจักรเพื่อหาหนังสือราคาถูก และบางร้านก็ไม่รับมาขายก็มีครับ หนังสือเก่าๆดีๆก็หายาก เลยต้องไปตามร้านมือสอง ซีเอ็ดไม่มีโรงพิมพ์เองเห็นจ้างโรงพิมพ์อื่นอยู่ ไม่แน่ใจว่าที่เนชั่นมาถือหุ้นด้วย จะแชร์โรงพิมพ์กันใช้หรือเปล่า ส่วนตัวเนชั่นผมมองว่าธุรกิจมันเยอะเกินจนไม่ค่อยน่าสนใจ แม้ว่าชื่อเนชั่นในด้านข่าวสารข้อมูลจะดูน่าเชื่อถือมากกว่ารายอื่นก็ตาม ด้าน aprint ผมว่าดีมากครับ มีครบเครื่องเหมือนสยามกีฬา แต่เค้าไม่มีด้านเด่นชัดเจนว่าเจ๋งด้านไหน พวกด้านบ้าน จัดสวน เค้าก็ดัง แต่ไม่เห็นพูดกันเลยว่า ถ้าจัดสวนต้องบ้านและสวน ไรทำนองนี้ครับ ส่วนตงฮั้วไม่ค่อยได้ดูเท่าไหร่ รู้แต่ว่าเป็นหนังสือพิมพ์จีน แม้ว่าคนจีนจะมาก แต่ผมไม่เคยเห็นคนอ่านกันเลย และยังเห็นว่ามีขาดทุนสะสมอยู่ด้วย ส่วน tbsp ที่พิมพ์เอกสารที่สำคัญกันการปลองแปลง มันไม่ใช่พวกนิตยสาร หนังสือพิมพ์ เลยเหมือนไม่ค่อยเกี่ยว แต่ก็เป็นธุรกิจที่ดีมากเหมือนกัน ผมก็มองอยู่ แต่จากที่เคยถามไปในกระทู้ก่อน ก็คงมองไว้เป็นหุ้นปันผลมากกว่าการถือยาวเพื่อมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของครับ
ผมอาจมองไม่ตรงกับใครก็เชิญมาเสริมเติม แก้ไขได้ครับ
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 846
พิมพ์ตั้งนาน เพิ่งเห็นว่าลืมล็อกอิน
เพิ่มอีกนิด การเข้ามาของธุรกิจนิตยสาร ทำได้ไม่ยาก แต่ต้องทุนหนาหน่อย เพราะว่ารายได้จากโฆษณามักจะไม่ได้มาแบบเดือนต่อเดือน มักจะจองกันว่า 3 เดือนหรือ 6 เดือน หรือ 1 ปี เป็นการขายพื้นที่แบบแพกเกจ และว่าจะได้เงินก็ต้องรอก่อน ไม่ใช่ว่าตกลงก็ยื่นเช็คให้เลย และยอดขายกว่าจะได้รับเงินจากสายส่งต้องรอหกเดือนถึงจะตัดยอดแล้วกว่าจะมา ทำให้ต้องสายป่านยาวมากพอควร ทำให้รายใหญ่ทีมีอยู่ในปัจจุบันสามารถทำได้ แต่หนังสือ นิตยสาร เนื้อหาคือตัวพิสูจน์ ทำให้บุคลากรที่ดีๆ มันหายากและเป็นจุดสำคัญที่รายใหญ่หรือเจ้าเดิมจะทำได้ดีกว่า
เพิ่มอีกนิด การเข้ามาของธุรกิจนิตยสาร ทำได้ไม่ยาก แต่ต้องทุนหนาหน่อย เพราะว่ารายได้จากโฆษณามักจะไม่ได้มาแบบเดือนต่อเดือน มักจะจองกันว่า 3 เดือนหรือ 6 เดือน หรือ 1 ปี เป็นการขายพื้นที่แบบแพกเกจ และว่าจะได้เงินก็ต้องรอก่อน ไม่ใช่ว่าตกลงก็ยื่นเช็คให้เลย และยอดขายกว่าจะได้รับเงินจากสายส่งต้องรอหกเดือนถึงจะตัดยอดแล้วกว่าจะมา ทำให้ต้องสายป่านยาวมากพอควร ทำให้รายใหญ่ทีมีอยู่ในปัจจุบันสามารถทำได้ แต่หนังสือ นิตยสาร เนื้อหาคือตัวพิสูจน์ ทำให้บุคลากรที่ดีๆ มันหายากและเป็นจุดสำคัญที่รายใหญ่หรือเจ้าเดิมจะทำได้ดีกว่า
Expecto Patronum!!!!!!
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 83
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 847
ฟังน้อง harry พูดเรื่องสิ่งพิมพ์จนผมเคลิ้มเลย
นึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของโรงพิมพ์อยู่ตอนนี้
จริงๆแล้วหุ้นสิ่งพิมพ์ดีๆก็มีเยอะนะครับ
เพียงแต่ผมไม่ถนัดเท่านั้นเอง
ขอบคุณน้อง harry มากครับ
เรื่อง NPC กับ TOC
ดูไปดูมาเหมือนหนังชีวิตยังไงก็ไม่รู้
ลองนึกภาพละครผัวๆเมียๆดูแล้วกันนะครับ
เปรียบเทียบดู NPC ก็เหมือนเมียหลวง
อดทน ใจเย็น ทำทุกอย่างเพื่อลูกและครอบครัว
เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว มั่นคง ไม่วอกแวก
เชื่อถือได้ มีปันผล
แต่ข้อเสียคือ มันไม่ตื่นเต้นเร้าใจ ใช่มั๊ยครับ
ก็มันของตายนี่หนา นับวันก็จะ"แก่"ไปเรื่อยๆ
ส่วน TOC ก็เหมือน "กิ๊ก" ครับ
ของใหม่ๆ สดๆซิงๆ
ดูแล้วสดชื่น น่ารัก
มองดูแล้วอนาคตไม่แก่เร็ว ว่างั้นเถอะ
ยิ่งโต ยิ่งน่า..... (พิมพ์ไม่ได้ครับ เดี๋ยวถูกจัด Rate)
แต่ข้อเสียของ"กิ๊ก" ก็มีนะครับ
ไม่ว่าจะเป็น อารมณ์ไม่มั่นคง เอาใจยาก
นิสัยเป็นเด็ก (ก็เด็กนี่นา)
วันดีคืนดีก็เปลี่ยนใจเฉยเลย อะไรทำนองนี้
ถามว่า ทำไมคนมาสนใจ TOC มากกว่า
ก็เป็นเรื่องธรรมดาครับที่ในระยะสั้น
"กิ๊ก"ก็ได้รับความสนใจมากกว่า "น้ำพริกถ้วยเก่า"
แต่สุดท้ายก็พบว่า "น้ำพริก"อร่อยกว่าในระยะยาว
ก็เห็นกลับมา"ตายรัง"ทุกคนนั่นหละครับ
เอาล่ะ พอมองเห็นภาพแล้ว
ก็เข้าเรื่องเสียที
NPC มีฐานะการเงินดีกว่า มีปันผลด้วย
แต่ไม่มีโครงการในอนาคตให้นักลงทุนเอาไปฝันหวาน
มีแต่เงินปันผลของจริงๆแน่นอน
พวกนักลงทุนเลยไม่ชอบ
เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ชอบฝัน(กลางวัน) ชอบซื้ออนาคต
เลยเหลือแต่นักลงทุนกินปันผลมาเก็บกัน
หุ้นเลยไม่หวือหวา
แถมอยู่ในตลาดมานาน เลยไม่มีอะไรตื่นเต้น
ส่วน TOC นั้นมีโครงการในอนาคตให้นักลงทุนเก็บไปฝันมากมาย
ทั้งการเพิ่มกำลังการผลิตอีกเท่าตัว
อันนี้ของจริงเพราะจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 3 นี้แล้ว
ไม่ว่ากัน
แถมมี"ข่าว"ว่าจะตั้งโรงงานผลิต MEG เพื่อผลิต PET ทดแทนการนำเข้า
ของจริงคือ ยังหาผู้ร่วมทุนไม่ได้เลย ขอบอก
และอีกข่าวก็คือ
การจะเทคโอเวอร์บริษัท BPE ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของตัวเอง
แค่นี้ก็ทำให้นักลงทุนฝันหวาน
มองเห็นอนาคตอันสวยหรูของบริษัทลอยอยู่ตรงหน้า
ทั้งๆที่โรงงาน MEG ก็ยังไม่ได้สร้าง แผนยังลุ่มๆดอนๆ
และการซื้อ BPE ยังอยู่ในขั้นศึกษาความเป็นไปได้
ถ้าโรงงาน MEG ไม่ได้สร้าง
ถ้า BPE ไม่ยอมขายหุ้นให้
พวกนักลงทุนคงต้องฝันสลาย
ถึงวันนั้นก็ตัวใครตัวมันหละครับ
ดังนั้น อย่าไปว่าพวกเขาเลยครับ
ผมมองว่า ผู้บริหาร TOC นี่เก่งนะ
สามารถสร้างฝันให้นักลงทุนเอาไปฝันกลางวันได้เรื่อยๆ
พวกนักวิเคาระห์ก็ชอบอยู่แล้วแบบนี้ มันมี Story ดี
แถมผมยังได้ยินนักวิเคาระห็บางโบรกฟันธงเลยครับว่า
ให้รับเงินปันผลของ NPC แล้วให้Switch มาเข้า TOC แทน
เออ.....ดูครับดู ทำกันยังงี้ได้ลงคอ
นี่ละหนา เขาถึงว่า เล่นหุ้นเป็นการ"ซื้อ"อนาคตจริงๆครับท่าน
ดังนั้นใครจะซื้ออนาคตหรือซื้อปัจจุบัน ก็ตามสะดวกครับ
และมีเงินเยอะ
ทำตามคุณน้า Peter Lynch ก็ได้ครับ
ก็ซื้อมันทุกตัวเลย
กวาดให้หมดทั้งอุตสาหกรรม
ถ้าใครมีเงินเยอะๆเหมือนน้าLynch
ผมก็จะแนะนำเหมือนกันครับ
"ซื้อทุกตัว"เลย
แต่ถ้าเบี้ยน้อยหอยน้อย
ก็ต้องเลือกตัวที่เราเข้าใจที่สุดและอนาคตดีที่สุด(ซื้อฝันอีกแล้ว)
ทั้งสามตัวที่บอกมาก็ดีๆทั้งนั้นหละครับ
อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนตัว
ชอบใครพอใจใครก็"สู่ขอ"ได้เลยครับ
ผมจะยอมเป็น"เถ้าแก่"ให้ทั้งสามคน เอ๊ย... สามตัวเลยครับ
แค่นี้น่าจะพอนะครับ
สำหรับคำถามที่ว่าเลือกตัวไหนดี
สวัสดีครับ
นึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของโรงพิมพ์อยู่ตอนนี้
จริงๆแล้วหุ้นสิ่งพิมพ์ดีๆก็มีเยอะนะครับ
เพียงแต่ผมไม่ถนัดเท่านั้นเอง
ขอบคุณน้อง harry มากครับ
มาเข้าเรื่องที่ผมถนัดดีกว่าครับtoon เขียน:ผมขอถามพี่ VIB เกี่ยวกับหุ้นในกลุ่ม ปิโตรเคมี กับ Bank หน่อยนะครับ ซึ่งมีคำถามดังนี้ครับ
1. อยากขอถามว่าทำไมหุ้น NPC กับ TOC ส่วนตัวผมคิดว่า NPC ดีกว่าในแง่ของการ ที่มีความมั่นคงฐานะการเงินก็ดีกว่า มีการจ่ายปันผลแน่นอน ซึ่งผมชอบห้นแบบนี้นะ แต่ทำไมหลายๆ คนมักจะบอกว่า TOC มีอนาคตดีกว่า ทำให้ผมอยากทราบว่าการที่ TOC มีอนาคตดีกว่า NPC นั้นเพราะว่าอะไรครับ
เรื่อง NPC กับ TOC
ดูไปดูมาเหมือนหนังชีวิตยังไงก็ไม่รู้
ลองนึกภาพละครผัวๆเมียๆดูแล้วกันนะครับ
เปรียบเทียบดู NPC ก็เหมือนเมียหลวง
อดทน ใจเย็น ทำทุกอย่างเพื่อลูกและครอบครัว
เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว มั่นคง ไม่วอกแวก
เชื่อถือได้ มีปันผล
แต่ข้อเสียคือ มันไม่ตื่นเต้นเร้าใจ ใช่มั๊ยครับ
ก็มันของตายนี่หนา นับวันก็จะ"แก่"ไปเรื่อยๆ
ส่วน TOC ก็เหมือน "กิ๊ก" ครับ
ของใหม่ๆ สดๆซิงๆ
ดูแล้วสดชื่น น่ารัก
มองดูแล้วอนาคตไม่แก่เร็ว ว่างั้นเถอะ
ยิ่งโต ยิ่งน่า..... (พิมพ์ไม่ได้ครับ เดี๋ยวถูกจัด Rate)
แต่ข้อเสียของ"กิ๊ก" ก็มีนะครับ
ไม่ว่าจะเป็น อารมณ์ไม่มั่นคง เอาใจยาก
นิสัยเป็นเด็ก (ก็เด็กนี่นา)
วันดีคืนดีก็เปลี่ยนใจเฉยเลย อะไรทำนองนี้
ถามว่า ทำไมคนมาสนใจ TOC มากกว่า
ก็เป็นเรื่องธรรมดาครับที่ในระยะสั้น
"กิ๊ก"ก็ได้รับความสนใจมากกว่า "น้ำพริกถ้วยเก่า"
แต่สุดท้ายก็พบว่า "น้ำพริก"อร่อยกว่าในระยะยาว
ก็เห็นกลับมา"ตายรัง"ทุกคนนั่นหละครับ
เอาล่ะ พอมองเห็นภาพแล้ว
ก็เข้าเรื่องเสียที
NPC มีฐานะการเงินดีกว่า มีปันผลด้วย
แต่ไม่มีโครงการในอนาคตให้นักลงทุนเอาไปฝันหวาน
มีแต่เงินปันผลของจริงๆแน่นอน
พวกนักลงทุนเลยไม่ชอบ
เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ชอบฝัน(กลางวัน) ชอบซื้ออนาคต
เลยเหลือแต่นักลงทุนกินปันผลมาเก็บกัน
หุ้นเลยไม่หวือหวา
แถมอยู่ในตลาดมานาน เลยไม่มีอะไรตื่นเต้น
ส่วน TOC นั้นมีโครงการในอนาคตให้นักลงทุนเก็บไปฝันมากมาย
ทั้งการเพิ่มกำลังการผลิตอีกเท่าตัว
อันนี้ของจริงเพราะจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 3 นี้แล้ว
ไม่ว่ากัน
แถมมี"ข่าว"ว่าจะตั้งโรงงานผลิต MEG เพื่อผลิต PET ทดแทนการนำเข้า
ของจริงคือ ยังหาผู้ร่วมทุนไม่ได้เลย ขอบอก
และอีกข่าวก็คือ
การจะเทคโอเวอร์บริษัท BPE ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของตัวเอง
แค่นี้ก็ทำให้นักลงทุนฝันหวาน
มองเห็นอนาคตอันสวยหรูของบริษัทลอยอยู่ตรงหน้า
ทั้งๆที่โรงงาน MEG ก็ยังไม่ได้สร้าง แผนยังลุ่มๆดอนๆ
และการซื้อ BPE ยังอยู่ในขั้นศึกษาความเป็นไปได้
ถ้าโรงงาน MEG ไม่ได้สร้าง
ถ้า BPE ไม่ยอมขายหุ้นให้
พวกนักลงทุนคงต้องฝันสลาย
ถึงวันนั้นก็ตัวใครตัวมันหละครับ
ดังนั้น อย่าไปว่าพวกเขาเลยครับ
ผมมองว่า ผู้บริหาร TOC นี่เก่งนะ
สามารถสร้างฝันให้นักลงทุนเอาไปฝันกลางวันได้เรื่อยๆ
พวกนักวิเคาระห์ก็ชอบอยู่แล้วแบบนี้ มันมี Story ดี
แถมผมยังได้ยินนักวิเคาระห็บางโบรกฟันธงเลยครับว่า
ให้รับเงินปันผลของ NPC แล้วให้Switch มาเข้า TOC แทน
เออ.....ดูครับดู ทำกันยังงี้ได้ลงคอ
นี่ละหนา เขาถึงว่า เล่นหุ้นเป็นการ"ซื้อ"อนาคตจริงๆครับท่าน
ดังนั้นใครจะซื้ออนาคตหรือซื้อปัจจุบัน ก็ตามสะดวกครับ
ถ้าคิดว่าแบงค์จะดีtoon เขียน:2. ผมสนใจกลุ่ม Bank เหมือนกันมีตัวที่สนใจคือ BBL SCB KBANK แต่ไม่รู้จะตัดสินใจเลือกตัวใดดี ส่วนตัวผมคิดว่าดีพอๆกันนะครับ
และมีเงินเยอะ
ทำตามคุณน้า Peter Lynch ก็ได้ครับ
ก็ซื้อมันทุกตัวเลย
กวาดให้หมดทั้งอุตสาหกรรม
ถ้าใครมีเงินเยอะๆเหมือนน้าLynch
ผมก็จะแนะนำเหมือนกันครับ
"ซื้อทุกตัว"เลย
แต่ถ้าเบี้ยน้อยหอยน้อย
ก็ต้องเลือกตัวที่เราเข้าใจที่สุดและอนาคตดีที่สุด(ซื้อฝันอีกแล้ว)
ทั้งสามตัวที่บอกมาก็ดีๆทั้งนั้นหละครับ
อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนตัว
ชอบใครพอใจใครก็"สู่ขอ"ได้เลยครับ
ผมจะยอมเป็น"เถ้าแก่"ให้ทั้งสามคน เอ๊ย... สามตัวเลยครับ
แค่นี้น่าจะพอนะครับ
สำหรับคำถามที่ว่าเลือกตัวไหนดี
สวัสดีครับ
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 2
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 848
เอ คุณ harry เอาข้อมูลมาจากที่ไหนเหรอ ครับเผื่อวันหน้าวันหลังอยากตามไปดูมั่งนะครับ รบกวนช่วยบอกหน่อยจะได้ไม่ต้องมารบกวนข้อมูลคุณ harry บ่อยๆ ขอบคุณครับส่วนมติชนผมคิดว่าเค้ามีทีมงานด้านการเมืองดี และเป็นหนังสือพิมพ์ที่เน้นเนื้อหา แม้ว่าจะปรับตัวให้เบาลงบ้าง ด้วยการเพิ่มเซ็คชั่นใหม่ และยังมีข่าวสดที่เป็นหนังสือพิมพ์เบา แล้วทั้งสองหัวก็รวมกันแล้วมากกว่าไทยรัฐ แม้ว่าไทยรัฐจะเป็นเบอร์ 1 ก็ตาม เท่าที่ทราบมา post ก็ให้ไทยรัฐเป็นสายส่งให้ด้วยครับ (อันนี้รู้มาจากคนใน)
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1011
- ผู้ติดตาม: 30
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 849
มาเข้ากะกลางคืนครับ
วันนี้เข้าใจว่าหุ้นลงเยอะพอสมควรเหมือนกัน
เพื่อนๆ โทรศัพท์มา 3-4 คน พอดีผมประชุมตลอดจนถึงค่ำ
เลยไม่ได้คุยด้วย เดี๋ยวพรุ่งนี้คอยทะยอยโทรกลับแล้วกัน
แต่ถ้าให้ผมเดา ก็คงประมาณถามว่า ทำไมวันนี้หุ้นลง ตัวนี้ซื้อได้หรือยัง
ทำว่า ทำไมหุ้นลง บอกตรงๆ ผมก็ไม่ทราบ แต่ไม่รู้จะตอบเขายังไง
บางครั้งก็ถามคนอื่นมาเพื่อไว้ตอบคำถามอย่างว่าเหมือนกัน
สำหรับหมวดสิ่งพิมพ์ ต้องลองให้น้อง harry เข้าไปตรวจสอบอีกที
ผมเข้าใจว่านสพ.มติชน รวมกับ ข่าวสด market share อยู่ประมาณ 27%
ยังตามหลังไทยรัฐอยู่ครับ แต่แซงเดลินิวส์ ถ้าสองอันรวมกัน
ช่วยเช็คดูอีกที แล้วช่วยconfirm กลับก็ได้ครับ เพื่อนๆในที่นี้จะได้ทราบโดยทั่วกัน
อายุก็ปูนนี้แล้ว ความจำอาจจะเลอะเลือนได้ครับ
ที่ถามหาหมวดพาณิชย์นะผมว่ามีน่าสนใจหลายตัว
อย่างที่คุณวิบูลย์ว่ามาก็จำนวนหนึ่ง
ผมสนใจ CP7-11 นะ PE แพงไปนิด อยากให้ราคาลงมากว่านี้
ไม่รู้จะลงมาหรือเปล่า คุณวิบูลย์คิดว่าตัวนี้ เป็นเมียหลวง หรือ กิ๊ก ครับ
วันนี้เข้าใจว่าหุ้นลงเยอะพอสมควรเหมือนกัน
เพื่อนๆ โทรศัพท์มา 3-4 คน พอดีผมประชุมตลอดจนถึงค่ำ
เลยไม่ได้คุยด้วย เดี๋ยวพรุ่งนี้คอยทะยอยโทรกลับแล้วกัน
แต่ถ้าให้ผมเดา ก็คงประมาณถามว่า ทำไมวันนี้หุ้นลง ตัวนี้ซื้อได้หรือยัง
ทำว่า ทำไมหุ้นลง บอกตรงๆ ผมก็ไม่ทราบ แต่ไม่รู้จะตอบเขายังไง
บางครั้งก็ถามคนอื่นมาเพื่อไว้ตอบคำถามอย่างว่าเหมือนกัน
สำหรับหมวดสิ่งพิมพ์ ต้องลองให้น้อง harry เข้าไปตรวจสอบอีกที
ผมเข้าใจว่านสพ.มติชน รวมกับ ข่าวสด market share อยู่ประมาณ 27%
ยังตามหลังไทยรัฐอยู่ครับ แต่แซงเดลินิวส์ ถ้าสองอันรวมกัน
ช่วยเช็คดูอีกที แล้วช่วยconfirm กลับก็ได้ครับ เพื่อนๆในที่นี้จะได้ทราบโดยทั่วกัน
อายุก็ปูนนี้แล้ว ความจำอาจจะเลอะเลือนได้ครับ
ที่ถามหาหมวดพาณิชย์นะผมว่ามีน่าสนใจหลายตัว
อย่างที่คุณวิบูลย์ว่ามาก็จำนวนหนึ่ง
ผมสนใจ CP7-11 นะ PE แพงไปนิด อยากให้ราคาลงมากว่านี้
ไม่รู้จะลงมาหรือเปล่า คุณวิบูลย์คิดว่าตัวนี้ เป็นเมียหลวง หรือ กิ๊ก ครับ
- raruen
- Verified User
- โพสต์: 161
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 851
สวัสดีครับทุกท่าน
ผมอ่านหนังสือราคาหุ้นและการปรับโครงสร้างทางการเงินเล่มสองจบไปแล้วนะครับ เฉพาะแต่ส่วนการหามูลค่ากิจการ
ในหนังสือเขาว่า DCF มีอยู่ 3 จำพวก
อย่างแรกคือใช้ Dividen เป็น CF, discount rate = ke คือของนักลงทุน
อย่างหลังคือใช้ Earning เป็น CF, discount rate = ke คือของนักลงทุน
อย่างสุดท้ายคือใช้ FCF เป็น CF, discount rate = WACC คือของกิจการ
ทำให้ยังติดใจสงสัยอยู่น่ะครับ
อยากหาเหตุผลให้ได้ว่าทำไมพอดิสเค้าด้วย FCF ถึงต้องใช้ WACC ของกิจการ
ผมมันแบบถ้าถูกบังคับให้จำสูตรแล้วจะไม่สบายใจ
ก่อนจะทำอะไรต้องรู้จักมันให้ดีก่อน
แต่เกรงใจว่าถามซ้ำคุณพี่ๆจะรำคาญ
เฮ้อ
ต่อไปคงต้องไปทำแบบฝึกหัดมั่งแล้วครับ
ควรเริ่มจากตัวไหนดีครับ
อันไหนถึงจะอุดม DCA กว่าชาวบ้านเขาครับ
ผมจะได้เดาอนาคตได้ใกล้เคียงหน่อย
ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ.
ผมอ่านหนังสือราคาหุ้นและการปรับโครงสร้างทางการเงินเล่มสองจบไปแล้วนะครับ เฉพาะแต่ส่วนการหามูลค่ากิจการ
ในหนังสือเขาว่า DCF มีอยู่ 3 จำพวก
อย่างแรกคือใช้ Dividen เป็น CF, discount rate = ke คือของนักลงทุน
อย่างหลังคือใช้ Earning เป็น CF, discount rate = ke คือของนักลงทุน
อย่างสุดท้ายคือใช้ FCF เป็น CF, discount rate = WACC คือของกิจการ
ทำให้ยังติดใจสงสัยอยู่น่ะครับ
อยากหาเหตุผลให้ได้ว่าทำไมพอดิสเค้าด้วย FCF ถึงต้องใช้ WACC ของกิจการ
ผมมันแบบถ้าถูกบังคับให้จำสูตรแล้วจะไม่สบายใจ
ก่อนจะทำอะไรต้องรู้จักมันให้ดีก่อน
แต่เกรงใจว่าถามซ้ำคุณพี่ๆจะรำคาญ
เฮ้อ
ต่อไปคงต้องไปทำแบบฝึกหัดมั่งแล้วครับ
ควรเริ่มจากตัวไหนดีครับ
อันไหนถึงจะอุดม DCA กว่าชาวบ้านเขาครับ
ผมจะได้เดาอนาคตได้ใกล้เคียงหน่อย
ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ.
เผ่งอังๆ
- house
- Verified User
- โพสต์: 683
- ผู้ติดตาม: 1
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 852
อือ ผมเห็นด้วยกะพี่แฮรี่ทุกอย่างเลย เว้นซีเอ็ดครับ
ผมยอมรับว่า ร้านหนังสือดีๆหาง่ายมากๆ(ผมยังเข้า B2S เลย)แต่ผมมองว่าซีเอ็ด ผูกขาดด้านหนังสือวิชาการครับ โดยเฉพาะถ้าซีเอ็ดบุกตลาดหนังสือแบบเรียนด้านอุดมศึกษาจริงๆ
สำหรับในสายวิชาที่ผมเห็นชัดว่าถ้าซีเอ็ดเข้ามาทำแล้วจะเป็นเสือนอนกินคือหนังสือทางด้านอิเล็กทรอนิกส์และวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งคงหาทีมงานอื่นที่พร้อมกว่าซีเอ็ดได้ยาก(อ. ยืนคนเดียวก็กินขาดแล้ว)
นอกจากนั้นพฤติกรรมการซื้อหนังสือในกลุ่มนี้(โดยเอาตัวเองและเพื่อนร่วมคณะเป็นเกณฑ์) คือไม่เกี่ยงราคาและซื้อดะ ขอแค่อ่านรู้เรื่องมากกว่า text book แล้วสอบผ่านเป็นพอ
ด้านนิตยสารผมว่า แนวเทคโนโลยีนี่ มีนิตรยสารแข่งกับแค่ 2 เจ้าคือ AR กับ Se-ed
และอย่างที่ว่าครับ แนวนี้ ไม่เกี่ยงราคาขอแค่เนื้อหาดีจริง
ผมอาจจะมองในแง่ดีไปหน่อย ความชอบส่วนบุคคลครับ
ผมยอมรับว่า ร้านหนังสือดีๆหาง่ายมากๆ(ผมยังเข้า B2S เลย)แต่ผมมองว่าซีเอ็ด ผูกขาดด้านหนังสือวิชาการครับ โดยเฉพาะถ้าซีเอ็ดบุกตลาดหนังสือแบบเรียนด้านอุดมศึกษาจริงๆ
สำหรับในสายวิชาที่ผมเห็นชัดว่าถ้าซีเอ็ดเข้ามาทำแล้วจะเป็นเสือนอนกินคือหนังสือทางด้านอิเล็กทรอนิกส์และวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งคงหาทีมงานอื่นที่พร้อมกว่าซีเอ็ดได้ยาก(อ. ยืนคนเดียวก็กินขาดแล้ว)
นอกจากนั้นพฤติกรรมการซื้อหนังสือในกลุ่มนี้(โดยเอาตัวเองและเพื่อนร่วมคณะเป็นเกณฑ์) คือไม่เกี่ยงราคาและซื้อดะ ขอแค่อ่านรู้เรื่องมากกว่า text book แล้วสอบผ่านเป็นพอ
ด้านนิตยสารผมว่า แนวเทคโนโลยีนี่ มีนิตรยสารแข่งกับแค่ 2 เจ้าคือ AR กับ Se-ed
และอย่างที่ว่าครับ แนวนี้ ไม่เกี่ยงราคาขอแค่เนื้อหาดีจริง
ผมอาจจะมองในแง่ดีไปหน่อย ความชอบส่วนบุคคลครับ
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 2
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 853
เอเรื่องหนังสือวิชาการของ se-ed นี่ผมขอมองต่างมุมนะครับ เพราะหากดูจริงๆแล้วส่วน อาจารย์ตามหาวิทยาลัยก็มักแต่งตำราเป็นของตนเองอยู่แล้ว ส่วน text book เองก็มีคนเต็มใจอ่านไม่น้อยนะครับผมว่า ในส่วนที่จะไปขายหนังสือ ด้านวิศวกรรม คงยากเพราะอาจารย์ที่เก่งๆในประเทศไทยก็มีซึ่งท่านเฟล่านั้นก็แต่งหนังสือได้ดี และสำนักพิมพ์ก็มักเป็นของตัวมหาวิทยาลัยเองหรือมหาลัยไปจ้างข้างนอกเองเพราะ volume ไม่สูงนักซึ่งส่วนตัวแล้วหนังสือ อย่างของ สสท. สำนักพิมพ์ของจุฬา หรือของ แมคกรอฮิวเป็นที่ผมใช้มากกว่านอกเหนือจาก text book
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 4
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 854
เห็นคุยกันเรื่องสื่อ ก็เลยเอาข่าวในกรุงเทพธุรกิจมาลงให้ดู
กรุงเทพธุรกิจ:
WACC = ความเสี่ยงในการทำธุรกิจ - ส่วนลดภาษีจากดอกเบี้ยจ่ายหนี้ (M&M ครับ)
FCF ต้อง discount ด้วยอัตราผลตอบแทนที่ยอมรับได้ และ WACC เป็นผลตอบแทนต่ำสุดที่ควรจะได้จาก FCF ในอนาคต
ก็เลยต้องใช้ WACC เป็นอัตราส่วนลดในการทำ FCF
ไม่รู้เข้าใจอะป่าวอะ
กรุงเทพธุรกิจ:
ตอนแรกว่าจะช่วยอธิบายว่าทำไมต้องใช้ WACC แต่เขียนเองอ่านแล้วมันงงงงมากเลยครับ ลองเขียนใหม่ครับซีเอ็ด" เผยผลสำรวจธุรกิจหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ปี 46 "คมชัดลึก" เบียด "ข่าวสด" ขึ้นที่ 3 ตลาดหนังสือพิมพ์รายวัน ขณะที่ "กรุงเทพธุรกิจ" ยังครองแชมป์ นสพ.ธุรกิจรายวัน ตามด้วยผู้จัดการรายวัน และ โพสต์ทูเดย์ ......ทั้งนี้ ได้ร่วมมือกับผู้จัดส่งหนังสือพิมพ์และนิตยสารรายใหญ่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จากสมาชิกที่จดทะเบียนกับสมาคมผู้จำหน่ายหนังสือพิมพ์ทั่วประเทศปี 2546 จำนวน 391 ราย ซึ่งมียอดขายหนังสือพิมพ์และนิตยสารประมาณ 600 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของยอดขายของฐานข้อมูลดังกล่าว
นายทนง โชติสรยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น กล่าวว่า จากข้อมูลปี 2545 ผู้ประกอบการสื่อสิ่งพิมพ์มีการเติบโตมากกว่า 13.8% โดยอันดับ 1 ได้แก่ บริษัท วัชรพล จำกัด (เจ้าของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ) มียอดขาย 3,797 ล้านบาท
อันดับ 2 บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป (เจ้าของหนังสือพิมพ์ คมชัดลึก กรุงเทพธุรกิจ เดอะเนชั่น เนชั่นสุดสัปดาห์) ด้วย ยอดขาย 2,896 ล้านบาท 3.บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น ยอดขาย 2,003 ล้านบาท 4.บริษัท สี่พระยาการพิมพ์ จำกัด (เจ้าของเดลินิวส์ ) ยอดขาย 1,957 ล้านบาท และอันดับ 5 ได้แก่ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง ยอดขาย 1,425 ล้านบาท
กรุงเทพธุรกิจครองอันดับ1นสพ.รายวันธุรกิจ
สำหรับผลการสำรวจที่สุดของกลุ่มหนังสือพิมพ์รายวัน อันดับ 1 คือ ไทยรัฐ อันดับ 2.เดลินิวส์ อันดับ 3.คมชัดลึก 4.ข่าวสด 5.มติชน ส่วนที่สุดของหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวัน อันดับ 1 คือ กรุงเทพธุรกิจ 2.ผู้จัดการรายวัน 3.โพสต์ทูเดย์ ที่สุดของหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายสามวันและรายสัปดาห์ คือ 1.ฐานเศรษฐกิจ 2.ประชาชาติธุรกิจ 3.ผู้จัดการรายสัปดาห์ ส่วนหนังสือพิมพ์กีฬารายวัน อันดับ 1 ได้แก่ สปอร์ตพูล 2.สตาร์ซอคเกอร์ 3.คิกออฟ และ 4.สปอร์ตแมน
ขณะที่ข้อมูลผลสำรวจในหมวดนิตยสาร ในหมวดนิตยสารวาไรตี้สำหรับผู้หญิง คือ 1.คลีโอ 2.แอล 3.ลิซ่า และ คอสโมโพลิแตน 4.แพรว นิตยสารวาไรตี้สำหรับวัยรุ่นผู้หญิง คือ 1.สไปซี่ 2.เซเว่นทีน 3.บุซ นิตยสารวาไรตี้สำหรับผู้ชาย คือ 1.เอฟเอชเอ็ม 2.จีเอ็ม 3.บอส
ส่วนที่สุดของนิตยสารรายสัปดาห์ คือ 1.มติชนสุดสัปดาห์ 2.เนชั่นสุดสัปดาห์ 3.สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ ที่สุดของนิตยสารธุรกิจ คือ 1.แบรนด์เอจ 2.มาร์เก็ตเธียร์ 3.เอ็มบีเอ ที่สุดของนิตยสารรถยนต์ คือ 1.เอ็กซ์โอออโต้สปอร์ต 2.คาร์เพอร์ฟอร์มานซ์ 3.ยานยนต์ ที่สุดของนิตยสารท่องเที่ยว คือ 1.อนุสาร อสท. 2.ทริปส์ 3.แอดวานซ์ไทยแลนด์จีโอกราฟฟิค
ขณะที่ผลสำรวจของนิตยสารคอมพิวเตอร์ ได้แก่ 1. CHIP 2. COMPUTER TODAY 3. PC WORLD นิตยสารสารคดี สำหรับครอบครัว 1.เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก 2.สารคดี 3.ศิลปวัฒนธรรม นิตยสารเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว 1.รักลูก 2.ดวงใจพ่อแม่ 3. บันทึกคุณแม่ 4. คิดส์ แอนด์ แฟมิลี่ 5.แม่และเด็ก ที่สุดของนิตยสารวาไรตี้และบันเทิง สำหรับวัยรุ่น 1.แฮมเบอร์เกอร์ 2.MONO 3.DNA
WACC = ความเสี่ยงในการทำธุรกิจ - ส่วนลดภาษีจากดอกเบี้ยจ่ายหนี้ (M&M ครับ)
FCF ต้อง discount ด้วยอัตราผลตอบแทนที่ยอมรับได้ และ WACC เป็นผลตอบแทนต่ำสุดที่ควรจะได้จาก FCF ในอนาคต
ก็เลยต้องใช้ WACC เป็นอัตราส่วนลดในการทำ FCF
ไม่รู้เข้าใจอะป่าวอะ
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 83
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 855
ชอบมามีคนมาถามผมเหมือนกันครับว่า "ทำไมวันนี้หุ้นลง"thanwa เขียน:มาเข้ากะกลางคืนครับ
วันนี้เข้าใจว่าหุ้นลงเยอะพอสมควรเหมือนกัน
เพื่อนๆ โทรศัพท์มา 3-4 คน พอดีผมประชุมตลอดจนถึงค่ำ
เลยไม่ได้คุยด้วย เดี๋ยวพรุ่งนี้คอยทะยอยโทรกลับแล้วกัน
แต่ถ้าให้ผมเดา ก็คงประมาณถามว่า ทำไมวันนี้หุ้นลง ตัวนี้ซื้อได้หรือยัง
ทำว่า ทำไมหุ้นลง บอกตรงๆ ผมก็ไม่ทราบ แต่ไม่รู้จะตอบเขายังไง
บางครั้งก็ถามคนอื่นมาเพื่อไว้ตอบคำถามอย่างว่าเหมือนกัน
ผมก็เลยบอกว่า
กูจะไปรู้ได้ยังไง(ว่ะ) ก็มีคนขายมากกว่าคนซื้อมันก็ลงเป็นเรื่องธรรมดา (โว๊ย)
เพื่อนผมกลุ้มใจหุ้นลง ขาดทุนต้องCutloss
ส่วนผมดีใจ หุ้นลงจะได้ซื้อเพิ่ม
เสียดายตอนนี้กระสุนหมด เลยต้องมองน้ำลายไหลไปพลางๆก่อน
ขอให้ตกถึงกลางปีเลยก็ดี
รอโบนัสออกพอดีจะได้เอามาพยุงตลาดเป็นเพื่อนกันไงครับ
ไม่ทราบพี่ไก่เก็บไปได้เยอะหรือเปล่า รอบนี้
ยังไม่ได้ดูเลยครับ CP7-11thanwa เขียน:ที่ถามหาหมวดพาณิชย์นะผมว่ามีน่าสนใจหลายตัว
อย่างที่คุณวิบูลย์ว่ามาก็จำนวนหนึ่ง
ผมสนใจ CP7-11 นะ PE แพงไปนิด อยากให้ราคาลงมากว่านี้
ไม่รู้จะลงมาหรือเปล่า คุณวิบูลย์คิดว่าตัวนี้ เป็นเมียหลวง หรือ กิ๊ก ครับ
สงสัยต้องไปคุ้ยแคะแกะเกาดูสักหน่อย
เห็นมีหลายคนบ่นถึง
แต่ก่อนเป็น กิ๊ก แน่อนครับ Hot ยังกับอะไรดีเมื่อเข้าตลาดใหม่ๆ
แต่ตอนนี้เริ่มเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แถมจะประกาศจ่ายปันผล
แต่ผมว่า ยังไม่ได้แต่งงานเป็นเมียถูกต้องตามกฏหมายหรอกครับ
เพราะดู P/E P/B ยังสูงไม่ใช่เล่น
รู้สึกตอนหวัดนกไม่สะทกสะท้าน ราคานิ่งมาก
เห็นได้ข่าวผู้บริหารก็กำลังเก็บหุ้นอยู่หลายเอาการ
ถ้าพูดถึงในแง่ธุรกิจก็ดีมากครับ
หาคู่แข่งยากทีเดียว
แต่ผมไม่ชอบอย่างนึงก็คือ
ผู้บริหารชอบเอาจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นมาเป็นสิ่งที่บอกว่าประสบความสำเร็จ
ผมว่ากำลังจะหลงทางนา
เพราะสิ่งที่สำคัญน่าจะเป็นคุณภาพการทำไรของแต่ละสาขามากกว่าจำนวนร้านนะครับ
ยิ่งเร่งเปิดร้านเยอะๆ
สิ่งที่จะตามมาคือ จะมีสาขาที่ไม่ทำกำไรมากขึ้นเพราะการเร่งเปิด
เลือก location ได้ไม่ดีพอ
ดังนั้นในอนาคต อาจจะต้องมีการปิดสาขาที่ไม่ทำเงินอย่างแน่นอน
เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก
ถ้าผู้บริหารมุ่งเน้นที่จำนวนสาขามากกว่าคุณภาพสาขา
อันนี้ตอบจากประสบการณ์นะครับ
แต่ก็ไม่ใช่ว่าธุรกิจจะไม่ดีนะครับ
ถ้า P/E ประมาณ 20 ผมมีตัวเลือกในการลงทุนมากมายเลยละครับ
อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลครับ
มีใครรู้เรื่อง CP7-11 ก็โพสเข้ามาให้รายละเอียดเพิ่มเติมก็ดีนะครับ
ไม่จำเป็นต้องเป็น WACC ก็ได้ครับทำให้ยังติดใจสงสัยอยู่น่ะครับ
อยากหาเหตุผลให้ได้ว่าทำไมพอดิสเค้าด้วย FCF ถึงต้องใช้ WACC ของกิจการ
ผมมันแบบถ้าถูกบังคับให้จำสูตรแล้วจะไม่สบายใจ
ก่อนจะทำอะไรต้องรู้จักมันให้ดีก่อน
แต่เกรงใจว่าถามซ้ำคุณพี่ๆจะรำคาญ
เฮ้อ
ต่อไปคงต้องไปทำแบบฝึกหัดมั่งแล้วครับ
ควรเริ่มจากตัวไหนดีครับ
อันไหนถึงจะอุดม DCA กว่าชาวบ้านเขาครับ
ผมจะได้เดาอนาคตได้ใกล้เคียงหน่อย
สูตรคำนวณ WACC จะมีการใช้ค่า Beta มาคิดด้วย
ซึ่งเป็นการมองในแง่ของ EMT
ถ้าให้ดีก็ใช้ต้นทุนเงินทุนของกิจการดีที่สุดครับ
คือ ค่าเฉลี่ยของผลตอบแทนเงินทุน และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของบริษัทที่กู้มา
เช่น Equity 50% Debt 50%
Retrun on Equity = 15%
Debt Interest = 7%
WACC = (50*15+50*7)/100 = 11%
น่าจะใช้ได้นะครับ
ถ้าแบบฝึกหัดก็ลองบริษัทที่หมายตาเอาไว้นะครับ
เอาตัวที่เราเข้าใจที่สุด ตัวไหนก็ได้ที่เรามองเห็นอนาคตไปอีก 5-10 ปี
ส่วนเรื่องหนังสือ ร้านหนังสือที่ผมใช้บริการบ่อยๆก็ Se-Ed และ Kinokuniya ครับ
บอกให้เป็นข้อมูลการลงทุนเฉยๆ
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 857
อ้อ!!! ผมลืมนึกถึงคมชัดลึกไปเลย เท่าที่ทราบก็มียอดขายดีทีเดียว แต่ผมก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าใครเป็นอันดับที่เท่าไหร่ แล้วกี่เปอร์เซนต์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว โดยรวมแล้ว ผมก็ยังเห็นคนอ่านไทยรัฐมากสุดอยู่ดี ถ้าเป็นด้านธุรกิจหน่อย กรุงเทพธุรกิจจะขายได้ดีกว่า ฐานเศรษฐกิจก็มากเหมือนกัน และผู้จัดการเปลี่ยนไปแล้ว น่าจะดีขึ้น และหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษบางกอกโพสต์จะได้มากกว่าเดอะ เนชั่นนิดหน่อย
ส่วนพวกนิตยสารผมยังไม่ทราบชัดเจนนัก แต่จากที่เคยทำงานกับ arip หนังสือเค้าก็ดีทีเดียว ของเล่มอื่นก็จะซื้อหัวนอกมา แล้วที่รู้มาก็ดึงคน arip ที่ผมเคยรู้จักไปทำงานด้วย ด้านการท่องเที่ยวคนติดกับ อสท.มากครับ เพราะการท่องเที่ยวหนุนหลังทำให้ได้เปรียบ เพื่อนผมที่ทำหนังสือท่องเที่ยว มันยังมาบ่นเลยว่า ขึ้นฮ. ถ่ายคงมีแต่อสท.นี่แหละที่ทำได้ เข้าอุทยานแห่งชาติทุกหลืบ ก็แ_งอ่ะที่ทำได้คนเดียว ส่วนนิตยสารผู้หญิงและผู้ชายไม่เคยอ่าน แต่เท่าที่เห็นผู้หญิงจะอ่าน elle, cosmo,cleo กันเยอะนะ เพราะมันทำให้ดูว่าเป็นผู้หญิงทันสมัย มีการศึกษาดี
ส่วนพวกนิตยสารผมยังไม่ทราบชัดเจนนัก แต่จากที่เคยทำงานกับ arip หนังสือเค้าก็ดีทีเดียว ของเล่มอื่นก็จะซื้อหัวนอกมา แล้วที่รู้มาก็ดึงคน arip ที่ผมเคยรู้จักไปทำงานด้วย ด้านการท่องเที่ยวคนติดกับ อสท.มากครับ เพราะการท่องเที่ยวหนุนหลังทำให้ได้เปรียบ เพื่อนผมที่ทำหนังสือท่องเที่ยว มันยังมาบ่นเลยว่า ขึ้นฮ. ถ่ายคงมีแต่อสท.นี่แหละที่ทำได้ เข้าอุทยานแห่งชาติทุกหลืบ ก็แ_งอ่ะที่ทำได้คนเดียว ส่วนนิตยสารผู้หญิงและผู้ชายไม่เคยอ่าน แต่เท่าที่เห็นผู้หญิงจะอ่าน elle, cosmo,cleo กันเยอะนะ เพราะมันทำให้ดูว่าเป็นผู้หญิงทันสมัย มีการศึกษาดี
Expecto Patronum!!!!!!
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 859
อีกหน่อยนึง ผมก็มอง cp7-11 เหมือนกันนะครับพี่ธันวา แต่มันแพงจังเลย ผมว่าราคาที่เหมาะก็ 40 กว่าๆ เอง ตอนนี้ขึ้นเอาๆ รอดูเฉยๆดีกว่า รอตลาดหมีก่อนค่อยว่ากันใหม่ เผื่อน้ามาร์เก็ตจะมาขายให้ถูกๆๆ
Expecto Patronum!!!!!!
-
- Verified User
- โพสต์: 10
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 860
สวัสดีพี่viboo7 ครับ ผมเพิ่งเป็นสมาชิกTVI ครับ ฝากตัวด้วยครับ
อยากถามพี่ว่าทำไมคนถึงเชียร์ bbl เยอะจังครับ
ทั้งๆที่ผมดูยังไง kbank ก็ดูดีกว่าในหลายๆด้าน
ยกเว้น เรื่องขนาดที่bblใหญ่กว่าKbank ประมาณ1/3 + คุณบัณทูรเคยไปหักหน้านายกเอาไว้ตอนช่วงประกาศbest ceo ปีที่แล้ว
ที่เหลือผมว่าkbank ดีกว่าหมดเลยอะครับ
แต่ผมคงจะยังมองไม่กว้างพอก็ได้ครับ
ยังไงพี่viboo7 ช่วยเปรียบเทียบ2ตัวนี้ให้หน่อยได้ไหมครับว่ามีข้อดีข้อเสียต่างกันยังไง
อยากถามพี่ว่าทำไมคนถึงเชียร์ bbl เยอะจังครับ
ทั้งๆที่ผมดูยังไง kbank ก็ดูดีกว่าในหลายๆด้าน
ยกเว้น เรื่องขนาดที่bblใหญ่กว่าKbank ประมาณ1/3 + คุณบัณทูรเคยไปหักหน้านายกเอาไว้ตอนช่วงประกาศbest ceo ปีที่แล้ว
ที่เหลือผมว่าkbank ดีกว่าหมดเลยอะครับ
แต่ผมคงจะยังมองไม่กว้างพอก็ได้ครับ
ยังไงพี่viboo7 ช่วยเปรียบเทียบ2ตัวนี้ให้หน่อยได้ไหมครับว่ามีข้อดีข้อเสียต่างกันยังไง
I love this game.
- raruen
- Verified User
- โพสต์: 161
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 861
ขอบคุณทุกท่านที่อดทนตอบคำถามเฉิ่มๆของผมนะครับ
อันที่จริงๆผมก็หงิดๆอยู่ว่า FCF มันมาจาก Equity + Lia
แต่ไม่มั่นใจว่า Dividen กับ EPS มันมาจาก Equity อย่างเดียวเหรอ มันถึงต้องดิสเค้าด้วย Ke
ตอนนี้อยากทำแบบฝึกหัดแล้วครับ
พี่ท่านจะกรุณาเลือกมาสักตัวให้ผมไปทำแบบฝึกหัดได้ไหมครับ
ขอแบบที่งบไม่ลึกลับมาก เข้าใจง่ายๆหน่อย
แล้วก็เดาอนาคตได้ไม่ยากมากนะครับ
ไหนๆจะเป็นคอลัมน์ลุงหนวดแล้ว
ช่วยแนะนำสาวๆให้ผมสักสามสี่คนนะครับ
หน้าตาไม่สำคัญ
ขอให้จริงใจไม่ปิดบังผม
ขยันทำมาหากิน
ให้ลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง
พ่อแม่ผมจะได้เบาใจนะครับ :lol:
ขอบพระคุณ.
อันที่จริงๆผมก็หงิดๆอยู่ว่า FCF มันมาจาก Equity + Lia
แต่ไม่มั่นใจว่า Dividen กับ EPS มันมาจาก Equity อย่างเดียวเหรอ มันถึงต้องดิสเค้าด้วย Ke
ตอนนี้อยากทำแบบฝึกหัดแล้วครับ
พี่ท่านจะกรุณาเลือกมาสักตัวให้ผมไปทำแบบฝึกหัดได้ไหมครับ
ขอแบบที่งบไม่ลึกลับมาก เข้าใจง่ายๆหน่อย
แล้วก็เดาอนาคตได้ไม่ยากมากนะครับ
ไหนๆจะเป็นคอลัมน์ลุงหนวดแล้ว
ช่วยแนะนำสาวๆให้ผมสักสามสี่คนนะครับ
หน้าตาไม่สำคัญ
ขอให้จริงใจไม่ปิดบังผม
ขยันทำมาหากิน
ให้ลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง
พ่อแม่ผมจะได้เบาใจนะครับ :lol:
ขอบพระคุณ.
เผ่งอังๆ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1011
- ผู้ติดตาม: 30
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 862
มาเข้ากะกลางคืนต่อครับVIB007 เขียน:
ไม่ทราบพี่ไก่เก็บไปได้เยอะหรือเปล่า รอบนี้
คุณวิบูลย์ ยิ่งเก็บยิ่งลง ยิ่งลงก็ยิ่งเก็บ
โชคดีกระสุนยังพอมีเหลือ
ถ้าหุ้นที่เก็บยิ่งลง คงจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สักวันครับ
อืม... คุณวิบูลย์ครับ ไม่ทราบว่าน้อง zippo หายไปไหน
สงสัยติดใจหนุ่มประกันหรือเปล่าก็ทราบนะช่วงนี้
ชาว TVI รอติดตามผลงานอยู่หนะ
-
- Verified User
- โพสต์: 64
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ครับผมpost ในกระทู้มีเค้าบอกว่าวอเรนได้เตียมเงินไว้แล้ว
โพสต์ที่ 863
เมื่อวานผมได้โพสในกระทู้ถามเกี่ยวกับ พี่ๆไม่กลัว DOW ล่มเหรอครับเกี่ยวกับ ขาดดุลบช.มากๆๆขนาดนี้
มีพี่เค้าตอบกระทู้ผมว่า เมื่อเดือน ธค.ที่ผ่านมา วอเรนได้ดล่าวว่าเค้าได้เตรียมเงินไว้สำหรับคราวหน้า เท็จจริงประการใดครับ แล้วพี่มีวิธีรับมือกับสถานการณ์นี้ยังไงครับ
ขอบคุณมากครับ
มีพี่เค้าตอบกระทู้ผมว่า เมื่อเดือน ธค.ที่ผ่านมา วอเรนได้ดล่าวว่าเค้าได้เตรียมเงินไว้สำหรับคราวหน้า เท็จจริงประการใดครับ แล้วพี่มีวิธีรับมือกับสถานการณ์นี้ยังไงครับ
ขอบคุณมากครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6496
- ผู้ติดตาม: 976
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 864
ตามความเข้าใจของผม ค่าเงินของแต่ละประเทศขึ้นอยู่กับ supply demand
หรือเงินเข้า-เงินออก หากทั้งสองฝ่ายพอดีกัน ค่าเงินก็จะมีเสถียรภาพ
แต่อเมริกาตอนนี้กำลังมีปัญหาเพราะ เพราะเลือด(เงิน)กำลังไหลออกจากทุกทาง
ที่หนักหนาก็คือดุลการค้า ซึ่งขาดดุลเพิ่มขึ้นทุกปี จนผู้คนเริ่มจะวิตก
ค่าเงินเริ่มลดลง ทำให้เงินทุนที่เคยเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์อเมริกา (พันธบัตรรัฐบาล)
ซึ่งเคยเป็นเงินที่ชดเชยการขาดดุลการค้า เริ่มชะงัก หรือลดลง ทำให้เกิดการขาดดุลที่ 2 คือดุลการชำระเงินขาดดุลตามมา
นอกจากนั้นนับแต่รัฐบาลบุช ซึ่งเป็นรีพับบริกันมักนิยมใช้เงินแบบมือเติบ เช่นก่อสงคราม ทำให้รายจ่ายไม่พอกับรายได้ เกิดขาดดุลที่ 3 คือขาดดุลงบประมาณ
การขาดดุลพร้อมกันสามอย่าง เรียกว่า tripple deficit
ซึ่งหนักหนากว่าประเทศไทย ก่อนเกิดวิกฤติ ที่ขาดดุลการค้า ตามมาด้วยขาดดุลการชำระเงิน
สิ่งที่ยังทำให้ค่าเงินดอลลาร์ยังไม่ตกมาก คงจะมีหลายสาเหตุ
1.อเมริกา เป็นเจ้าโลก เป็นผู้นำในเกือบทุกด้าน มีแสนยานุภาพทางทหาร
สิ่งเหล่านี้ประเมินค่าไม่ได้ เปรียบเหมือน แบรนด์เนม คุณภาพดี
2.ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นชาติเอเชีย ซึ่งประเทศอาศัยการส่งออกเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษกิจ ไม่ต้องการให้ค่าเงินของประเทศแข็งค่า
เพราะทำให้สูญเสียความสามารถในการส่งออก ต่างแทรกแซงค่าเงิน โดยการซื้อเงินดอลลาร์ ทำให้เงินดอลลาร์ยังมีแรงซื้อเข้ามาบ้าง
3.เศรษกิจของญี่ปุ่น ซึ่งมีผลต่อเงินเยน และเศรษกิจของยุโรป ซึ่งมีผลต่อเงินยูโร ยังไม่เข้มแข็งมากนัก ทำให้การถือครองเงินเยน และเงิยยูโร ยังไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด
แต่่อย่าเพิ่งมองในดอลลาร์ในแง่ร้ายมากเกินไปนะครับ เพราะปัญหาเหล่านี้คงเป็นที่รับรู้ของนักเศรษศาสตร์ของอเมริกา
คงมีการคิดแก้ปัญหาเหล่านี้ออกมาครับ
หวังว่าค่าเงินดอลลาร์คงไม่ตกมากๆ เหมือนสิบปีที่แล้ว
ตอนนั้น 79 เยน แลกได้ 1 ดอลลาร์
สำหรับนักลงทุนเรื่องนี้ให้ข้อคิดพอสมควรนะครับ
หากค่าเงินดอลลาร์ตกลงเรื่อยๆ บริษัทที่ส่งออก ตลาดอเมริกาจะได้รับผลกระทบมากที่สุด
น้อยกว่าบริษัทที่ส่งออก ไปยังประเทศที่ค่าเงินแข็งค่าขึ้นครับ
หรือเงินเข้า-เงินออก หากทั้งสองฝ่ายพอดีกัน ค่าเงินก็จะมีเสถียรภาพ
แต่อเมริกาตอนนี้กำลังมีปัญหาเพราะ เพราะเลือด(เงิน)กำลังไหลออกจากทุกทาง
ที่หนักหนาก็คือดุลการค้า ซึ่งขาดดุลเพิ่มขึ้นทุกปี จนผู้คนเริ่มจะวิตก
ค่าเงินเริ่มลดลง ทำให้เงินทุนที่เคยเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์อเมริกา (พันธบัตรรัฐบาล)
ซึ่งเคยเป็นเงินที่ชดเชยการขาดดุลการค้า เริ่มชะงัก หรือลดลง ทำให้เกิดการขาดดุลที่ 2 คือดุลการชำระเงินขาดดุลตามมา
นอกจากนั้นนับแต่รัฐบาลบุช ซึ่งเป็นรีพับบริกันมักนิยมใช้เงินแบบมือเติบ เช่นก่อสงคราม ทำให้รายจ่ายไม่พอกับรายได้ เกิดขาดดุลที่ 3 คือขาดดุลงบประมาณ
การขาดดุลพร้อมกันสามอย่าง เรียกว่า tripple deficit
ซึ่งหนักหนากว่าประเทศไทย ก่อนเกิดวิกฤติ ที่ขาดดุลการค้า ตามมาด้วยขาดดุลการชำระเงิน
สิ่งที่ยังทำให้ค่าเงินดอลลาร์ยังไม่ตกมาก คงจะมีหลายสาเหตุ
1.อเมริกา เป็นเจ้าโลก เป็นผู้นำในเกือบทุกด้าน มีแสนยานุภาพทางทหาร
สิ่งเหล่านี้ประเมินค่าไม่ได้ เปรียบเหมือน แบรนด์เนม คุณภาพดี
2.ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นชาติเอเชีย ซึ่งประเทศอาศัยการส่งออกเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษกิจ ไม่ต้องการให้ค่าเงินของประเทศแข็งค่า
เพราะทำให้สูญเสียความสามารถในการส่งออก ต่างแทรกแซงค่าเงิน โดยการซื้อเงินดอลลาร์ ทำให้เงินดอลลาร์ยังมีแรงซื้อเข้ามาบ้าง
3.เศรษกิจของญี่ปุ่น ซึ่งมีผลต่อเงินเยน และเศรษกิจของยุโรป ซึ่งมีผลต่อเงินยูโร ยังไม่เข้มแข็งมากนัก ทำให้การถือครองเงินเยน และเงิยยูโร ยังไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด
แต่่อย่าเพิ่งมองในดอลลาร์ในแง่ร้ายมากเกินไปนะครับ เพราะปัญหาเหล่านี้คงเป็นที่รับรู้ของนักเศรษศาสตร์ของอเมริกา
คงมีการคิดแก้ปัญหาเหล่านี้ออกมาครับ
หวังว่าค่าเงินดอลลาร์คงไม่ตกมากๆ เหมือนสิบปีที่แล้ว
ตอนนั้น 79 เยน แลกได้ 1 ดอลลาร์
สำหรับนักลงทุนเรื่องนี้ให้ข้อคิดพอสมควรนะครับ
หากค่าเงินดอลลาร์ตกลงเรื่อยๆ บริษัทที่ส่งออก ตลาดอเมริกาจะได้รับผลกระทบมากที่สุด
น้อยกว่าบริษัทที่ส่งออก ไปยังประเทศที่ค่าเงินแข็งค่าขึ้นครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 83
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 865
ถามว่าทำไมคนถึงเชียร์ BBL มากกว่า KBANK143 เขียน:สวัสดีพี่viboo7 ครับ ผมเพิ่งเป็นสมาชิกTVI ครับ ฝากตัวด้วยครับ
อยากถามพี่ว่าทำไมคนถึงเชียร์ bbl เยอะจังครับ
ทั้งๆที่ผมดูยังไง kbank ก็ดูดีกว่าในหลายๆด้าน
ยกเว้น เรื่องขนาดที่bblใหญ่กว่าKbank ประมาณ1/3 + คุณบัณทูรเคยไปหักหน้านายกเอาไว้ตอนช่วงประกาศbest ceo ปีที่แล้ว
ที่เหลือผมว่าkbank ดีกว่าหมดเลยอะครับ
แต่ผมคงจะยังมองไม่กว้างพอก็ได้ครับ
ยังไงพี่viboo7 ช่วยเปรียบเทียบ2ตัวนี้ให้หน่อยได้ไหมครับว่ามีข้อดีข้อเสียต่างกันยังไง
ผมคงตอบไม่ได้เพราะไม่ได้เป็นคนเชียร์
แต่ถ้าตอบแบบกำปั้นทุบดินก็จะบอกว่า
"น่าจะเป็นเพราะ BBL มี Storyมากกว่า KBANK มั๊ง"
ไม่ว่าจะเป็น
1) ถ้านิยายเรื่อง TPI จบลง เจ้าหนี้รายใหญ่อย่าง BBL คงยกภูเขาออกจากอก
2) เป็นแบงค์ที่ใหญ่ที่สุด มีทรัพย์สินมากที่สุด
3) รายได้ในอนาคตจะเพิ่มขึ้นจากกรณี TPI จบลง
4) เพิ่มทุนแล้วมีเงินเยอะ ไม่ต้องกังวลเรื่องไถ่ถอนสลิป หรือ ตั้งสำรอง
5) มีโอกาสกลืนแบงค์เล็กๆรายอื่นๆ
และ
6) มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายก เฮอ เฮอ ใครคิดว่าไม่สำคัญ
ดู TMB และ ITV สิ
ส่วนเรื่องผลประกอบการและเรื่องให้ความสำคัญกับลูกค้าและผู้ถือหุ้น
ผมว่า KABNK กินขาด
ผมว่าอนาคตของสองแบงค์นี้น่าจะยังดี
โดยเฉพาะหลังจากแผนแม่บทการเงินออกมา
ทำให้แบงค์เล็กสูญพันธ์
แบงค์ใหญ่เท่านั้นที่จะอยู่ได้
รวมทั้งสามารถทำธุรกิจอื่นๆที่ไม่เคยทำได้ เช่น ลิซซิ่ง
ขณะที่ไฟแนนท์ที่จะแปลงร่างมาเป็นแบงค์จะเสียเปรียบกว่า
เพราะไม่มีสาขา และก้าวเข้าสู่การเป็นแบงค์เต็มตัวได้ช้ากว่ามาก
ดังนั้น แบงค์ใหญ่ก็จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
เอ.....ใครจะได้ประโยชน์จริงๆกับแผนแม่บทอันนี้นะ
ผมว่าไม่ใช่ประชาชนหรอก
คนที่ได้ประโยชน์จริงๆก็คือ เจ้าของแบงค์ใหญ่(เช่นผม)ต่างหาก ฮ่า ฮ่า
พูดแล้วเศร้าแทนประชาชนผู้เสียภาษี
เพราะหลังจากแผนนี้สำเร็จลุล่วง
เป้าหมายต่อไปคือการตั้งสถาบันประกันเงินฝาก
เพื่อรัฐบาลไม่ต้องไปประกันเงินฝาก 100% เหมือนเดิม
ให้พวกแบงค์ประกันกันเอง
ถึงตอนนั้น แบงค์เล็กก็ตายเหมือนเดิม
แล้วคนฝากเงินอาจจะได้รับการประกันประมาณบัญชีละไม่เกินเท่าไหร่ก็ว่าไป
ปัญหาของแบงค์ตอนนี้คือหนี้เสีย
ถ้าควบคุมได้ก็ไปโลด
ผมไม่พูดเรื่อง Quantiative เลยนะครับ ไปดูกันเองได้
เอ้า ไปดู APRINT แล้วกัน งบดูไม่ยากตอนนี้อยากทำแบบฝึกหัดแล้วครับ
พี่ท่านจะกรุณาเลือกมาสักตัวให้ผมไปทำแบบฝึกหัดได้ไหมครับ
ขอแบบที่งบไม่ลึกลับมาก เข้าใจง่ายๆหน่อย
แล้วก็เดาอนาคตได้ไม่ยากมากนะครับ
ถ้าเอาแบบไม่มีบริษัทลูกเลยก็ ITV ครับ
พี่ไก่จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ผมคงไม่แปลกใจมาเข้ากะกลางคืนต่อครับ
คุณวิบูลย์ ยิ่งเก็บยิ่งลง ยิ่งลงก็ยิ่งเก็บ
โชคดีกระสุนยังพอมีเหลือ
ถ้าหุ้นที่เก็บยิ่งลง คงจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สักวันครับ
อืม... คุณวิบูลย์ครับ ไม่ทราบว่าน้อง zippo หายไปไหน
สงสัยติดใจหนุ่มประกันหรือเปล่าก็ทราบนะช่วงนี้
ชาว TVI รอติดตามผลงานอยู่หนะ
สงสารแต่ตัวผมเอง กระสุนหมดเลยต้องนั่งดูข้างเวที
สงสัยน้อง zippo ไปตั้งสำนักดูหมออยู่มั้งครับ
เลยไม่ค่อยได้เข้ามาหาพี่ๆแถวนี้
จะว่าไป ดุแม่นเหมือนกันนา เมื่อไหร่จะดูให้พี่ไก่บ้างล่ะ
จะได้รู้ว่าจะได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เมื่อไหร่
อย่าไปกังวลมากครับเมื่อวานผมได้โพสในกระทู้ถามเกี่ยวกับ พี่ๆไม่กลัว DOW ล่มเหรอครับเกี่ยวกับ ขาดดุลบช.มากๆๆขนาดนี้
มีพี่เค้าตอบกระทู้ผมว่า เมื่อเดือน ธค.ที่ผ่านมา วอเรนได้ดล่าวว่าเค้าได้เตรียมเงินไว้สำหรับคราวหน้า เท็จจริงประการใดครับ แล้วพี่มีวิธีรับมือกับสถานการณ์นี้ยังไงครับ
บัฟเฟตเขามีเงินไหลเข้ากระเป๋าวันละหลายสิบล้านเหรียญ
ดังนั้นผมไม่แปลกใจที่เขามีเงินเยอะแยะ
และเขาก็รอซื้อหุ้นได้ทุกวันหละครับ
เรื่อง Dow จะขึ้นหรือจะลง
ผมไม่เอามาเป็นกังวลสักนิดเดียว
เอาเวลาไปดูผลประกอบการของบริษัทที่เราจะลงทุนดีกว่าครับ
Dow จะล่มจะพังก็ช่างหัวมัน
แต่ถ้าบริษัทผมขายของไม่ออกสิ ผมจะกังวลกว่า
ทั้งบัฟเฟตและน้าปีเตอร์ ลินซ์ก็บอกอยู่แล้วครับว่า
เขาทั้งสองให้ความสนใจกับนักเศรษฐศาสตร์น้อยมาก
เพราะพวกนี้ชอบเดา ไม่มีใครรู้จริงสักคน
ถ้านักเศรษฐศาสตร์เก่งจริงก็เป็นมหาเศรษฐีไปกันหมดแล้ว
คงไม่มีใครมาออกทีวี เดานั่นเดานี่ให้เราฟัง
ลองคิดดูซิ
ถ้าเราสนใจนักเศรษฐศาสตร์มากจะเป็นอย่างไร
"เงินเฝ้อ" เราก็กังวล
"เงินฝือ" เราก็กังวล
"เงินตึง" เราก็กังวล ฯลฯ
จริงมั๊ยครับ
อย่าไปสนใจมากครับ
เอาเวลาไปสนใจในมูลค่าธุรกิจที่เราเล็งไว้ดีกว่า
ปล่อยให้พวกนักเศรษฐศาสตร์คุยกันเถียงกันเรื่อง เงินเฝ้อ เงินฝือ ต่อไปเถอะ
ช่างเขา
ยิ่ง Dow และ Nasdaq ตกต่ำมากเท่าไหร่
เงินจะไหลมาสู่เอเซียมากขึ้นเท่านั้น
เพราะเงินจะไหลจากที่(ผลตอบแทน)ต่ำไปสู่ที่สูงครับ
แล้วจะกังวลไปทำไม จริงมะ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 36
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 866
หากสนใจสงสัยว่าทั้งDOW และ DAQจะเดี้ยงแล้วมีผลกับSETก็อ่านหนังสือ เรื่อง US Finance เศรษฐกิจแบบกาสิโน ของอ.สมภพ มานะรังสรรค์ดูครับ หาได้ที่ SE-ED และ B2S ครับ น่าอ่านมากคุณวิบูลย์อย่าลืมไปหาอ่านซะนะ
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 43
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 867
คุณวิบูลย์ คุณมนตรี คุณธันวา คุณเจ๋ง พี่ครรชิต คุณอาจอง
คุณCK ลุงขวด คุณลูกอีสาน คุณหมออยู่เกาะช้าง และทุกๆท่าน
มีความคิดและคำแนะนำสกหรับหุ้นการำไฟฟ้าไหมครับ
เป็นกิจการผูกขาดอ๊ะป่าววววววว
เห็นประกาศจะขึ้นค่าFT ต่อหน่วยอีกแล้ว
คนไม่มีหุ้นนี้คงเสียเปรียบ จริงไหมเอ่ย
คุณCK ลุงขวด คุณลูกอีสาน คุณหมออยู่เกาะช้าง และทุกๆท่าน
มีความคิดและคำแนะนำสกหรับหุ้นการำไฟฟ้าไหมครับ
เป็นกิจการผูกขาดอ๊ะป่าววววววว
เห็นประกาศจะขึ้นค่าFT ต่อหน่วยอีกแล้ว
คนไม่มีหุ้นนี้คงเสียเปรียบ จริงไหมเอ่ย
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 83
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 868
และแล้ววันนี้กระทู้นี้ก็มีการอ่านผ่าน 40,000 ครั้ง
กระทู้นี้เริ่มโดยคุณธันวาเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2546
ผ่าน 10,000 ครั้งแรก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2546
รวม 48 วัน อ่านเฉลี่ยวันละ 209 ครั้ง
ผ่าน 20,000 ครั้ง เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2546
รวม 63 วัน อ่านเฉลี่ยวันละ 159 ครั้ง
ผ่าน 30,000 ครั้ง เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2547
รวม 29 วัน อ่านเฉลี่ยวันละ 344 ครั้ง
และผ่าน 40,000 ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2547
รวม 35 วัน อ่านเฉลี่ยวันละ 285 ครั้ง
ที่มีการอ่านกันมากขึ้น
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการขยับกระทู้นี้มาเป็น"เรื่องด่วน"
ให้ผู้สนใจได้เข้ามารับชมได้ทันที ไม่ต้องค้นหา
อีกส่วนหนึ่งก็คือ มีผู้ให้ความสนใจให้ความคิดเห็นและแง่มุมต่างๆหลากหลายขึ้น
ดังนั้น ผมจึงขอยกความดีความชอบทั้งหมด
ให้กับทุกท่านที่มีส่วนร่วมในกระทู้นี้ทั้งหมด
ทั้งผู้อ่าน, ผู้ตั้งคำถาม และ ผู้ตอบกระทู้ทุกท่าน
ถ้ากระทู้นี้สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งใดในการลงทุนของท่านให้ดีขึ้น
แม้เพียงสักเล็กน้อย
ผมก็ถือว่า ผมบรรลุวัตถุประสงค์ที่ผมได้ตั้งไว้แล้ว
ขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนสนับสนุนกระทู้นี้มาโดยตลอด
อย่างที่คุณลูกอีสานบอกไว้
กระทู้นี้ชักจะลดความเข้มข้นลงไป
เพราะความรู้ (ภูมิ) เริ่มหมด รวมทั้งเวลาที่มีสำหรับตอบคำถามน้อยลงไป
ถ้าเป็นเนื้อหาที่มีอยู่แล้ว
ผมก็จะพยายามให้ไปอ่านย้อนหลังกันเอง (แค่ 31 หน้าเอง)
ผมก็จะอยู่ตรงนี้ไปเรื่อยๆแล้วกันครับ
จนกว่าจะโดนให้ใบแดงไล่ออกจากเวป TVI
ใครอยากจะคุยอะไรก็โพสกันเข้ามาคุยกันนะครับ
ขอบคุณอีกครั้งครับ
กระทู้นี้เริ่มโดยคุณธันวาเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2546
ผ่าน 10,000 ครั้งแรก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2546
รวม 48 วัน อ่านเฉลี่ยวันละ 209 ครั้ง
ผ่าน 20,000 ครั้ง เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2546
รวม 63 วัน อ่านเฉลี่ยวันละ 159 ครั้ง
ผ่าน 30,000 ครั้ง เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2547
รวม 29 วัน อ่านเฉลี่ยวันละ 344 ครั้ง
และผ่าน 40,000 ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2547
รวม 35 วัน อ่านเฉลี่ยวันละ 285 ครั้ง
ที่มีการอ่านกันมากขึ้น
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการขยับกระทู้นี้มาเป็น"เรื่องด่วน"
ให้ผู้สนใจได้เข้ามารับชมได้ทันที ไม่ต้องค้นหา
อีกส่วนหนึ่งก็คือ มีผู้ให้ความสนใจให้ความคิดเห็นและแง่มุมต่างๆหลากหลายขึ้น
ดังนั้น ผมจึงขอยกความดีความชอบทั้งหมด
ให้กับทุกท่านที่มีส่วนร่วมในกระทู้นี้ทั้งหมด
ทั้งผู้อ่าน, ผู้ตั้งคำถาม และ ผู้ตอบกระทู้ทุกท่าน
ถ้ากระทู้นี้สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งใดในการลงทุนของท่านให้ดีขึ้น
แม้เพียงสักเล็กน้อย
ผมก็ถือว่า ผมบรรลุวัตถุประสงค์ที่ผมได้ตั้งไว้แล้ว
ขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนสนับสนุนกระทู้นี้มาโดยตลอด
อย่างที่คุณลูกอีสานบอกไว้
กระทู้นี้ชักจะลดความเข้มข้นลงไป
เพราะความรู้ (ภูมิ) เริ่มหมด รวมทั้งเวลาที่มีสำหรับตอบคำถามน้อยลงไป
ถ้าเป็นเนื้อหาที่มีอยู่แล้ว
ผมก็จะพยายามให้ไปอ่านย้อนหลังกันเอง (แค่ 31 หน้าเอง)
ผมก็จะอยู่ตรงนี้ไปเรื่อยๆแล้วกันครับ
จนกว่าจะโดนให้ใบแดงไล่ออกจากเวป TVI
ใครอยากจะคุยอะไรก็โพสกันเข้ามาคุยกันนะครับ
ขอบคุณอีกครั้งครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 83
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 869
ขอรับท่านMon จะรีบไปหามาอ่านประดับสมองอันน้อยนิดขอรับMon money เขียน:หากสนใจสงสัยว่าทั้งDOW และ DAQจะเดี้ยงแล้วมีผลกับSETก็อ่านหนังสือ เรื่อง US Finance เศรษฐกิจแบบกาสิโน ของอ.สมภพ มานะรังสรรค์ดูครับ หาได้ที่ SE-ED และ B2S ครับ น่าอ่านมากคุณวิบูลย์อย่าลืมไปหาอ่านซะนะ
สวัสดีครับ พี่ปรัชญาปรัชญา เขียน:มีความคิดและคำแนะนำสำหรับหุ้นการไฟฟ้าไหมครับ
เป็นกิจการผูกขาดอ๊ะป่าววววววว
เห็นประกาศจะขึ้นค่าFT ต่อหน่วยอีกแล้ว
คนไม่มีหุ้นนี้คงเสียเปรียบ จริงไหมเอ่ย
จากที่ผมติดตามข่าวคราวของการไฟฟ้ามาตลอด
พบว่า
ถ้าในพรีเมียลีก
กรรมการกลายเป็นนักเตะเสียเอง
แล้วใครจะสู้ได้ละครับ
10 โอเวนก็คงต้องปิดประตูแพ้
สมัยก่อน ที่มีการแปรรูปกิจการไฟฟ้า
โดยแยกโรงไฟฟ้า EGCOMP และ RATCH ออกจาก กฟผ.
และอนุญาตให้มีผู้ผลิตไฟฟ้ารายย่อยเกิดขึ้น
กฟผ จะมีบทบาทเป็นผู้คุ้มกฏ กำหนดราคา
และรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายย่อย
เพื่อส่งต่อให้กับกฟภ. และ กฟน.
แต่เมื่อมีการผลักดัน กฟผ เข้าตลาด
โดยที่ไม่มีใครมาทำหน้าที่"คุ้มกฎ"แทน กฝผ.
ก็จะกลายเป็นว่า "ผู้คุ้มกฎ" ลงมาเล่นในตลาดเอง
อย่างนี้ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรนะครับ
ผมอยากเรียกมันว่า
"การผ่องถ่ายความร่ำรวยจากรัฐสู่นักการเมืองและข้าราชการประจำ"ครับ
เพราะมันเกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขัน
และความไม่เป็นธรรมในการกระจายหุ้น IPO
นักการเมืองและข้าราชการของกระทรวงคงอิ่มครับงานนี้
เรานักลงทุนรายย่อยคงได้แค่เศษหุ้น
ส่วนประชาชนตาดำๆคงได้แต่มองตาปริบๆ
ตราบใดที่ยังไม่มีองค์กรอิสระใดที่มาทำหน้าที่แทน กฟผ. ได้อย่างสมบูรณ์
ตราบนั้น กฟผ. ก็ยังคงเป็นกรรมการที่สวมเสื้อนักเตะ
และสิ่งที่กรรมการคนนี้ต้องการก็คือชัยชนะ
นั่นหมายถึง ราคาหุ้นที่สูงขึ้น
หมายถึง รายได้และกำไรที่มากขึ้น
ถ้าไม่ได้มาจากการขยายกำลังการผลิต
ก็ต้องมาจาก"การขึ้นค่าไฟ"
เพื่อดันราคาหุ้นให้สูงขึ้น
โอ.....และแล้ว ประชาชนชาวไทยก็ได้ใช้ไฟฟ้าราคาแพงกันสมใจท่านนายกแน่ๆงานนี้
ผมอาจะมองโลกในแง่ร้าย
แต่สิ่งนี้เป็นสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นจริงๆในเร็ววันนี้ ไม่ช้าก็เร็วครับ
ความเห็นผมก็คือว่า
ควรมีการตั้งองค์การอิสระขึ้นมาทำหน้าที่"ผู้คุ้มกฏ"แทน กฟผ โดยด่วน
และให้ กฟผ เปลี่ยนบทบาทเป็นแค่ผู้ผลิตไฟฟ้า
เมื่อนั้นก็จะทำให้มีการแข่งขันที่เป็นธรรม
และประชาชนจะเสียประโยชน์น้อยที่สุดครับ