สรุปงานสัมมนา #KAsset 2025 Capital Market Assumptions
Powered by JPMorgan Asset Management
Part 1 : 2025 KAsset Capital Market Assumptions
วิทยกร :
Leon Goldfeld Head of Multi-Asset Solution , Asia Pacific , JP Morgan Asset Management
Raisah Rasid Global Market Strategist , J.P. Morgan Asset Management
Panodphol Tantawichian CFA Chief Investment Officer , Kasikorn Asset Management
Moderated by Martina Watcharawaratorn CFA Head of Investment Strategy Kasikorn Asset Management
- KCMA (KAsset Capital Market Assumptions) เป็นการศึกษาของ JP Morgan Asset Management (JPM) และทำมานานกว่า 29 ปี เพื่อกำหนดมุมมองในอนาคตว่า แต่ละสินทรัพย์จะสร้างผลตอบแทนได้อย่างไรในระยะยาว
- การคาดการณ์ในระยะยาว ง่ายกว่าการคาดเดาในระยะสั้น ซึ่งอาจมีrangeกว้าง คาดเดายากกว่าระยะยาว
ดู 10-15ปี จะเห็นว่า หุ้นให้ผลตอบแทนเป็นบวกได้
- K. Panodphol KAsset ได้ทำการวิจัยเพื่อดูทิศทางของสินทรัพย์ KCMA จะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าอย่างไร
ผู้จัดการกองทุน ที่ปรึกษาการลงทุน ลูกค้าได้ประโยชน์ เพื่อเป็นเข็มทิศทางในการวางแผนต่างๆได้
Time, diversification and the volatility of returns
จากรูป แบ่งออกเป็นสามพอร์ต
พอร์ตแรก หุ้นอย่างเดียว Annual avg total return 11.6%
พอร์ตสอง Bondsอย่างเดียว Annual avg total return 5.2%
พอร์ตสาม หุ้น 60% Bonds 40% Annual avg total return 9.4%
ลงทุน 1 Y
Port1 return -37% to 52%
Port2 return -13% to 33%
Port3 return -20% to 30%
ลงทุน 5 Y
Port1 return -2% to 29%
Port2 return -2% to 18%
Port3 return 1% to 20%
ลงทุน 10 Y
Port1 return -1% to 20%
Port2 return 1% to 14%
Port3 return 1% to 16%
ลงทุน 20Y
Port1 return 6% to 18%
Port2 return 1% to 11%
Port3 return 5% to 15%
Why did we do the Thai CMA ? How does this benefit thai investors?
- ระยะเวลา 10 years (2015-2024)
- Global Equities : return 9.8% สูงเป็นอันดับสอง แต่ ความเสี่ยง น้อยกว่าหุ้นไทย
- Thai Equities : return 1.8% ถ้าเทียบกับหุ้นโลก สูงกว่าหุ้นไทย 5 เท่า แต่ดูความเสี่ยง 20% มากกว่าหุ้นโลกเยอะ
- ทำให้คนกลุ่มนึงไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งผลตอบแทนดีขึ้น และ ลดความเสี่ยงในการลงทุนด้วย
- ถ้าเราจัดพอร์ต asset class ที่มีการกระจายความเสี่ยง ได้ผลตอบแทน 6.9% และความผันผวน 11.7% ซึ่งนำไปใช้วางแผนระยะยาวต่อได้
- Kasset ร่วมมือกับ JPM เกิดกองทุน K Wealth plus series : (สัดส่วน หุ้น/ตราสารหนี้)
1. K Wealth plus Balance 30:70 หุ้นถือแค่ 30% return 4% ,avg volatility (ความผันผวน) 8.23%
2. K Wealth plus Speed Up 65: 35 return 5% , avg volatility 10.3%
3. K Wealth plus Ultimate 85 : 15 return 5.6 % , avg volatility 10.31%
- การร่วมมือทำงานกันมากกว่า 8 เดือน ใช้คน 30คน จากนิวยอร์ค มุมไบ ฮ่องกง สิงค์โปร์และไทย ในระยะเวลารวมกัน 80 ชม เพื่อให้ได้การคาดการณ์ เศรษฐกิจมหภาค สำหรับความสัมพันธ์และความผันผวนของ หุ้น ตราสารหนี้ ได้ดียิ่งขึ้น
- สิ่งที่เราอยากทำคือให้คุณเข้าใจว่า เราสร้างโครงสร้างมหภาคได้อย่างไร และคล้ายกับสมมติฐานตลาดทุนระยะยาวที่เราทำที่ JP Morgan Asset Management
เราจะเริ่มต้นด้วยโครงสร้างมหภาคเสมอ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนสินทรัพย์ได้อย่างแท้จริง
- ภาพการเติบโตในอีก 10-15 ปีข้างหน้า
Real GDP : DM1.7% , US 2% , Europe 1.4% , UK 1.5% , Japan 0.9%, EM 3.5% ,China 3.6% ,India 5.9% ,Brazil 2.1% ,Korea 2.1%
- ส่วนเงินเฟ้อ (Inflation) :
DM 2.2 % , US 2.4 % , Europe 2.0% , UK 2.2% , Japan 1.5%, EM 3.3% ,China 2.1% ,India 4.5% ,Brazil 4.4% ,Korea 2.0%
- Key Theme แบ่ง 4 Key themes
1. Strong private capex trends
2. Fiscal activism
3. Economic nationalism
4. Technology adoption
- AI คือการเติบโตในระยะยาว 10-15 ขึ้นไปที่สนับสนุนประสิทธิภาพการผลิตในงานต่างๆ
- มุมมอง เศรษฐกิจมหภาคของไทย
1. สังคมผู้สูงอายุ คนทำงานลดลง
2. หนี้ภาคครัวเรือนสูง
3. ประสิทธิภาพในการผลิตต่ำ 0.49 เทียบกับ US 1.0 ขณะที่ไต้หวัน 0.86 Singapore 0.71 S.Korea 0.61 Malaysia 0.6 Indo 0.4
4.เมื่อเศรษฐกิจไทยไม่ได้โตมาก 2.4% ต่อปี (ในอีก 10-15 ปีข้างหน้า) มองเงินเฟ้อโตเพียง 1.3%
5. การนำเข้าสินค้าราคาถูกจากจีน เหมือนกับทั่วโลก ทำให้เงินเฟ้อไม่สูงมาก ตอกย้ำ การลงทุน ย้ายไปลงทุนในต่างประเทศ
- Poll ในมุมมองของนักลงทุนสถาบันในห้อง มองว่า อีก 10 ปี US จะสร้างผลตอบแทนได้ดีที่สุดราวๆ 60% และที่เหลือ Private Eq 39% Gold 18% หุ้นไทย 5% fix income 4% Reits น้อยมาก
Thai Fix income returns
- ตราสารหนี้ไทย มองว่า Spread 85 bps ทรงตัว และลงทุนหุ้นกู้ Investment grade ให้ผลตอบแทนราวๆ 3.6%
สรุปผลตอบแทนเรียงตั้งแต่เงินสด 1.8% , Government bond 2.8% , Thai IG credit 3.8% จึงมองว่า ตราสารหนี้ยังลงทุนได้ และไม่ค่อยผันผวน
USD Fixed Income returns
- ส่วนตราสารหนี้ US มอง
US Cash 3.1%, 10Y UST 4.2% 30Y UST 4.3% ,US Inv grade 5.0% ,
US High Yield 6.1% น่าสนใจ ผันผวนใกล้เคียงกับพันธบัตรรัฐบาล
สรุป Global bond ดีกว่า Thai bond เพิ่มriskอีกนิด แต่return ดีกว่า แต่มีข้อเสีย คือ High Hedging cost
Equity : Return forecasts lower after the rally but still an attractive entry point
- ฝั่งตลาดหุ้นผลตอบแทนยังน่าสนใจ แต่ Valuation ก็สูง ส่งผลให้มองว่า
DM 6.8% , หุ้น US จะให้ผลตอบแทน 6.7% ต่อปี ,ยุโรป 7.3% , Japan 7.1% , EM 6.8% , จีน 6.6%, Korea 6.3%, Brazil 10.5%
- หุ้น DM valuation ไม่ถูกแล้ว , หุ้นยุโรป ญี่ปุ่นไม่ได้โตกว่า US มาก แต่ Valuation ถูกกว่า ดังนั้นปรับลดUS เล็กน้อยไปเพิ่ม EU
ขณะที่ฝั่ง EM มีเรื่องการกำกับดูแลที่เข้ามา
- ผลตอบแทนที่ประเมินออกมา มาจากทั้งรายได้ กำไร Valuation ปันผล การ Buyback
- นอกจากนี้มีเรื่องของอุตสาหกรรม AI ที่เป็นตัวหนุนเข้ามาส่งผลต่อผลตอบแทนรวมของตลาด แต่มันก็ไม่ได้เห็นภาพชัดในระยะสั้น และน่าจะส่งผลต่อ Margin แต่ละธุรกิจที่ต่างกัน EU, JP , EM ยังตามหลังเรื่อง AI อยู่ (Deep Seekจากจีน อาจเป็นความหวัง หลายคนบอกว่า ดีกว่า ChatGPTเสียอีก ต้องดูระยะยาว)
- หุ้นTech return ปรับลดลงมา
- ไทย ศก โต 2.4%เอง บริษัทจดทะเบียน Big cap เป็นพลังงาน ธนาคาร ซึ่งการเติบโตไม่สูง PE ถูกปรับลดลงมา เนื่องจากการเติบโตน้อย
หุ้นไทยมีจุดที่ดี นอกจากเป็นหุ้นกลุ่ม Old economic
- กระแสเงินสดเยอะ
- โครงการลงทุนน้อย
- Payout ratio 63%
- Div yield 4%
- Return ระยะยาว 5%
ปรับสัดส่วนในการลงทุน asset allocation
ค่าเงิน
- ในด้านค่าเงินเทียบ USD
มอง EUR 1.29 ,JPY 113.5 ,CNY 605 ,THB 31.77
โดยผลจากนโยบายการเงิน ดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ รวมถึง Valuation ของตลาด US ที่แพง โดยมองว่า USD จะอ่อนค่าลงในอีก 10-15 ปีข้างหน้า
Return Assumption in THB
- ผลตอบแทนในแต่ละประเทศ เพื่อเอามาสร้างport
US มอง 5.5% ดูดีกว่า แปลงเป็นบาทให้return น่าสนใจ
ส่วนหุ้นไทย 5% 10Y Thai Yield 2.8%
Allocation private equity return 7-9%
Commodity Return 3% ไม่สูง แต่Hedge inflationดี
Implications for Multi-Asset Portfolios:
Solution การวางแผนเกษียณแบบ Life Time ปรับลดความเสี่ยงพอร์ตลงเมื่ออายุมากขึ้น ก็เป็นอีก Implication ที่ KAsset นำมาใช้ให้กับลูกค้า เช่น K-WPSPEEDUP
ลงทุนอย่างระมัดระวัง มองเป็นปีต่อปี อีกsolution : Life time คนอายุ 25-30ปี ลงได้ระยะยาว 20-30ปีเลย
ความเสี่ยงมี แต่returnแข่งกับเงินเฟ้อได้ สามารถลงทุนในหลายสินทรัพย์ได้
Do client trust LTCMAs ?
พบว่า กว่า 70% ที่ Forecast เบี่ยงเบนไม่เกิน 0.5SD ในช่วงกว่า 24 ปีในรูป
แต่อาจจะผิดในปี 2007 2008 Crisis ส่งผลให้ภาพผลตอบแทน 10 ปี เหวี่ยงเกิน 0.5SD
เราคาดการณ์มา 29ปีแล้ว สำหรับการลงทุนในระยะเวลา 10-15ปี
Portfolioที่น่าสนใจ เป็นสัดส่วน stock 60: fix income 40
ผลลัพธ์ กับ ที่forecast ใกล้เคียงกับความจริง ดูสั้นๆยาก ต้องดูในระยะยาว
Key Takeaways :
1.การเติบโตของเศรษฐกิจของกลุ่มG7 ในเรื่อง capacity expansion , investment in technology and improve productivity
2.Expected return for US equity 2025 = 6.7% ต่ำกว่าปีที่แล้ว
3.GDP Thai 2.4% , return of Thai stock 5%, fix incomeไม่สูง