Seminar Knowledge เรียนรู้การลงทุนผ่านการสัมมนา

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2706
ผู้ติดตาม: 343

Re: Seminar Knowledge เรียนรู้การลงทุนผ่านการสัมมนา

โพสต์ที่ 211

โพสต์

AGM KKP 19 apr 2024 10.00

ผลการดำเนินงานปีที่ผ่านมา
คุณบรรยง ประธานกรรมการบริหารสรุปภาพรวมศก และของกลุ่มธุรกิจกล่าวว่า
ปีที่แล้ว ศก ขยายตัว1.9% จากปีก่อน2565 โต 2.5% ภาคบริการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
สินเชื่อธนาคารรวม หดตัวลง 0.3% จากการทยอยคืนสินเชื่อโควิด สินเชื่อส่วนบุคคลขยายตัวเล็กน้อย
สินเชื่อลดลง 3.5% ปีนี้น่าจะขยายตัวดีกว่าปีที่แล้ว แต่ยังต่ำกว่าในอดีต

จากนักท่องเที่ยวจีนกลับมามากขึ้น ภาคส่งออกขยายตัวได้เล็กน้อย จากวัฐจักรการผลิตโลกฟื้นตัว
ศกไทยปีนี้ปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ภาคการผลิตฟื้นตัวช้าลง จากstockยังมีอยู่
ข้อจำกัดการปรับลดดบ และสถานการณ์ยังไม่แน่นอน ราคาน้ำมัน อาจปรับตัวสูงขึ้น
ในส่วนภาพรวมของกลุ่ม กำไร 5,443 ลบ ลดลง 28.4% กำไรเบ็ดเสร็จ 5442 ลบ
รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น รายได้ที่ไม่ใช่ดบ ลดลง
อัตราการใช้จ่าย operation cost to income ratio xx

คุณภาพสินเชื่อ
อุตสาหกรรมยานยนต์ ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากการยึดรถ และราคารถมือสองลดลง
ROE 9.2%

คุณอภินันท์ กล่าวเพิ่มเติม
โดยรวมผลประกอบการ ถดถอยลง จาก ปัจจัยภายในและภายนอก
รายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง การดำเนินนโยบายการขยายสินเชื่อ แต่อุต สินเชื่อตกต่ำ
ผลขาดทุนเครดิต เพิ่มขึ้นอย่างมาก สินเชื่อระมัดระวังมาก แต่ปี2565 ยังส่งผลมาปีที่แล้ว และปีนี้
ช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้นเป็นสัญญาณที่ดี ที่ระมัดระวัง ควบคมเครดิตได้ดีขึ้น
รายได้ดบ ยังโตอยู่ 5.3% เมื่อรวมความสามารถควบคุม
รายได้ไม่ใช่ดบ เช่น ขายสินค้าพร้อมสินเชื่อ ชะลอตัวลง
Trading , invest ,ค่าธรรมเนียม ในธุรกิจหลัก ก็ถูกกระทบ ipo ลดลง
รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย ก็ลดลง
เช่าซื้อถูกกระทบ
ปีที่แล้ว ได้ดอกเบี้ยโต 5.2%
หนี้เสียเหลือ 900 ลบ แก้เมื่อสิ้นปี ทำให้ NPL ลงมา 3.2% ปลายปีมีสินเชื่อ
บางประเภทมีแนวโน้มไม่ดี เราถือกันสำรองไป แต่ไม่ได้จัดชั้นในปีที่แล้ว
แต่มาจัดชั้นในปีนี้ เราตัดสินใจเป็น สินเชื่อ nPL 3.8% เราสำรองไปเรียบร้อยแล้ว
รถยึดและขายขาดทุนลดลงเป็นลำดับ แต่ตัวเลขยังไม่เป็นสาระ
เงินสำรองต่อNPL อัตราส่วนสำรองต่อ NPL 150 to 164%
ตลาดทุนยังซบเซา คาดว่า บล อีก 10 ที่ยังขาดทุน เรากำไรลดลง ปีที่แล้วลดลง30%
เราสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 21% ปีนี้ 24%
ลูกค้าบุคคล เราดูแล 750,000 MB เพิ่มขึ้น 1% ทั้งที่ราคาหุ้นลดลง
บลจ เกียรตินาคินภัทร ตราสารหนี้ขายดี เติบโตอย่างมาก 40% = 160,000 ลบ
ยังโตต่อเนื่องเป็น 180,000 ลบ ภาวะตกต่ำ ยังกระทบทั้งตลาดรองและตลาดแรก
ปีที่แล้ว ไม่ได้ ออก ipo เลย
เราเป็นที่ปรึกษาการเงินกับธุรกิจ ช่วยธุรกิจระดับนึง เช่น การควบรวม บางจากซื้อเอสโซ่
รายไตรมาส ไตรมาสแรก ดี แต่ต้นทุนด้านเครดิตเพิ่ม ทำให้ผลประกอบการลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสำรองด้วย
กำไรไตรมาสหนึ่ง 1500 ลบ กำไรเบ็ดเสร็จ รวมสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น และ fix asset มูลค่าตึกสูงขึ้น ในปี2565 ต้องตัดออกไป
ทำให้กำไรเบ็ดเสร็จ ลดลงไปเยอะ
จำนวนพนักงาน เราระมัดระวังการเพิ่มจำนวนพนักงาน แต่มีหลายกิจกรรม wealth management เพิ่มคนเยอะ
แต่จำนวนสาขาไม่เปลี่ยนแปลง ควบคุมเรื่องคนในสาขา สอดคล้องกับภาวะธุรกิจปัจจุบัน ที่คนมาใช้บริการที่สาขาน้อยลง
เสถียรภาพกองทุนอยู่ในระดับที่สูง ซึ่งสูงไปไม่ดี 16.6%
ธุรกิจหลักที่แข่งขัน สินเชื่อ ดูผลกระทบทางศก ถ้าเร่งไป อาจสร้างภาระได้ เหมือนปี2565
สินเชื่อบางประเภท ยังเติบโตยังต่อเนื่อง บางธุรกิจ ที่รุ่งเรืองจากท่องเที่ยว หรือ หลีกเลี่ยงจากdisruption
มีหลายธุรกิจไม่เสี่ยงธุรกิจ เช่น ธุรกิจตัวกลางของตลาดทุน
ภาวะลงทุนในประเทศไม่ดี ก็พาลูกค้าไปลงทุนในต่างประเทศ
การพึ่งพิงการซื้อขายหุ้นไทย ก็จะถูกกระทบ เมื่อก่อนเคยถึง 90% ตอนนี้เหลือ 20%
มีasset class หลายหลาย ทำให้สร้างรายได้ได้เพิ่มขึ้น
ช่วยลูกค้าระดมทุนตราสารหนี้
ส่วนตราสารทุน ความคาดหวังของคนออกจะยากได้ราคาสูง
เราต้องทำให้ดี กับแนวโน้มของโลก ในช่วง2-3ปี โครงสร้างพื้นฐานดีขึ้น หาลูกค้าที่มีข้อจำกัด
ได้ลูกค้าบุคคลขนาดใหญ่ มากขึ้น หาลูกค้าใหม่ได้ เพิ่มขึ้นนับล้านราย แต่profile ไม่เหมือนในอดีต เช่น ขนาดเม็ดเงิน
ทำผ่านช่องทางดิจิตอล เช่น KKP mobile หรือ KKP Edge
KKP dime ก็เติบโตมาก มีลูกค้า 250,000 ราย ลูกค้าโหลด 800,000 ราย
ลูกค้าไปลงทุน เงินฝาก $ เพื่อเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต ขยายในsegmentที่ไม่เคยไปได้ โดยไม่ต้องลงทุนมากนัก. แต่ทำอย่างระมัดระวัง ไม่ได้ดูแค่caption โหลดแอปอย่างเดียว ทำอย่างต่อเนื่อง
สินเชื่อ ก็ต้องระมัดระวังอย่างสูง โดยรวม ประสิทธิภาพ ก็ยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

พอดีเวลาตรงกับ QH เลยไปเข้าฟังQHแทน
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2706
ผู้ติดตาม: 343

Re: Seminar Knowledge เรียนรู้การลงทุนผ่านการสัมมนา

โพสต์ที่ 212

โพสต์

AGM ETL 22 APR 67 10.00

Mr Lee Yik Chieh CEO ETL ได้พูดถึงแผนการเติบโตในอีก3ปีดังนี้
Business plan for growth 3years
1.expand service included cold chain
2.expand business to new market
3.increase of vehicles for future growth
4.improve transportation management system : cloud
5.cost and expense control and management

งบดุลรวม
สทรวม 1068ลบเพิ่ม5%
หนี้สิน 409.4ลบ
ผู้ถือหุ้น 659ลบ

งบกำไรขาดทุนรวม
รายได้รวม 14,739ลย ลดลง7%
GP 15%
กำไรสุทธิรวม 57ลบ =0.14บาทต่อหุ้น
กำไรสุทธิงบเฉพาะ 0.09 บาทต่อหุ้น
NP growth 12.5%,NP. 4.5%
ROA 5.2%
ROE 8.5%

รายได้มาจาก ไทย 28%,malay 42%,จีน 30%

วาระที่4 งดปันผล

Q&A

1.เสนอประชุมแบบ online+onsite
2.ราคาน้ำมันผันแปร เราแจ้งลูกค้าเพื่อปรับราคาตามราคาตลาดและเหมาะสมกับลูกค้า
3.มีเริ่มรับขนส่งผลไม้ ทยอยเข้ามาเรื่อยๆ
4.จำนวนเที่ยวขนส่งมาเลย์ปีนี้คาดว่าจะดี เติบโตแต่น้อยกว่า2ปีที่แล้ว
Mr Lee เสริม เราส่งในเอเชียเช่น มาเลย์ เวียดนาม เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว
5.ตั้งเป้าโต18-20% ex utilize transportation, cold chain
6.งบการเงินปีที่แล้วลูกหนี้6เดือนเพิ่มขึ้นทำไมไม่ตั้งสำรองพิ่มขึ้น
ตอบ มีการคำนวณค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ หนี้มากกว่า6เดือน
ได้ติดตามทวงถามตลอด ลูกหนี้ทยอยจ่ายมาตลอด เลยไม่ได้ตั้งเพิ่มเติม
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2706
ผู้ติดตาม: 343

Re: Seminar Knowledge เรียนรู้การลงทุนผ่านการสัมมนา

โพสต์ที่ 213

โพสต์

AGM Spalai 23 Apr 67 14.00

ดร ประทีป ประธานกรรมการบริษัท กล่าวเปิดประขุม
คุณไตรเตชะ CEO พูดถึงมาตราการอสังหา กระตุ้นภาคอสังหา
ก่อนหน้าค่าจดจำนองราคาบ้าน ได้3ล้าน ปีนี้ไม่ถึง7ล้านได้ส่วนลดเหลือ0.01%
ช่วยคนที่ซื้อบ้านได้ถึง90%ของทั้งหมด จากตัวเลขคนซื้อบ้านศุภาลัยปี66
บ้านBoiก็ช่วยบริษัทได้ยกเว้นภาษี3ปีด้วย

2023 pre-sales
High rise 29% bkk
Low rise 24% bkk

High rise up country 3%
Low rise upcountry 46%

2024
Launch 50,000ลบ
Pre-sales 36,000
Total revenue 36,000
Bkk 51% up 49%

Transfer
ส่วนใหญ่จะอยู่ในปีนี้

Launch plan 29โครงการ
เน้นแนวราบ
กท 40%
ตจว 47%

ที่ออสเตรเลีย ลงทุนมา12โครงการ 10ปี ขยายอีก12โครงการ4state,5city
New south wales คือพื้นที่ใหม่ที่เข้าไปลงทุนรวม 24โครงการ 4state 6city

พลังงาน
วิกฤตสภาพอากาศ ภาวะโลกร้อน ทำอย่างไรจึงลดภาวะเรือนกระจก40%ภายในปี2573
เพื่อให้โลกยั่งยืน น่าอยู่
supalai go green ร่วมกับตลท
สร้างบ้านแบบรักษ์โลก มาตราวัดก่อให้เกิดมลภาวะให้น้อยลง
เอาเศษวัสดุ เศษปูน กลับมาใช้
ใช้วัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ติดตั้งsolar roof บ้านกลางใหญ่
ติดตั้ง EV charger
โครงการตัดแว่นให้กับคนงานก่อสร้างปีสอง
เป็นพี่เลี้ยงsme อสังหาภูธร แชร์ ปสก
เสนองบกับราชการ เปลี่ยนท่อกันน้ำท่วม
บริจาคที่ดินรังสิตสร้าง รร สวนกุหลาบรังสิต

ธรรมมภิบาล
ปรับปรุงนโยบายปรับปรุงกิจการให้สอดคล้อง
กำหนดแนวทางการปฏิบัติ
กำหนดsupplier day ให้พบปะกัน
ดำเนินเชิงรุกกับนักลงทุนและนักวิเคราะห์
ยอดโอน ลดลง มาจาก อาคารชุด7โครงการปี65ยังขายไม่หมด ทำให้รายได้คอนโดปี65มามาก
แต่ปี66 ที่เราซื้อทั้งหมดเนี่ยมันมีใบนิ เราไม่มีความเ 4 ยงว่า
Gp 35.6% มาจากสัดส่วนการโอน
ปี65 โอนคอนโดเยอะ เลยมีGPสูงกว่าปี66

คชจ การขายและบริหาร 12.1%เราทำได้ตำสุดในอุตสาหกรรม

ต้นทุนการเงินปรับขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น
กำไรต่อหุ้น 3.07บาท

งบดุล
สท 86,000ลบ
หนี้สินโต 7%จากการขยายธุรกิจ
Project loan 8500ลบ
ชำระหุ้นกู้ 8400ลบ
ออกใหม่ดอกเบี้ย 3.47% 12,000ลบ อายุ1-2ปี มีหุ้นกู้ กพ 67 ครบกำหนดไป2,000ลบ
หุ้นกู้ในระบบ default แต่ไม่กระทบบริษัท เราออกใหม่ก็ขายหมด

Equity 51,465 ลบ
ต้นทุนทางการเงิน 2.78% ปรับขึ้นมาบ้างจากธปท ปรับดอกเบี้ย
Tris rating A stable

Q&A

Q:สินค้าคงเหลือปลายปี67เหลือสักกี่% ,Q1เป็นอย่างไร?
A: แนวราบroll overไปเรื่อยๆ มีสินค้าคงคลังเหลือ6,000ลบ ขายหมดใน1-2เดือน
ปกติสินค้าคงคลังจะดูแนวคอนโด 12,000ลบ ต่อโครงการเป็นหลักร้อยล้านบาทเอง
สายสีม่วงตอนนั้นมีเหลือเยอะตอนนี้ขายหมดแล้ว
Q1 อัตรการกู้ไม่ผ่านบ้างประมาณ13-14%ในปีที่ผ่านแต่บ้านราคาถูกไม่ผ่านเยอะกว่า

ปีนี้น่าจะใกล้เคียง เพราะดอกเบี้ยยังเท่าเดิม
Q1ขายได้6,000ลบ มาตรการมาตอนเมษา q2น่าจะดีกว่าq1

Q: Australia12โครงการเป็นอย่างไร?
A:เราลงนามธค 66 ศื้อขาดและรับรู้รายได้ตั้งแต่1มค
แต่ที่ดินที่เขาให้ขายได้รับรู้31มีค ATTTC ดูแล คาดว่าเสร็จสิ้นในมิย
เงินที่ต้องจ่ายตามสัญญา ยังไม่ได้จ่ายรอหน่วยงานรัฐอนุมัติก่อน

Q:ข่าวที่ส่งเสริมต่างชาติมาซื้ออสังหา?
A: โลกแคบลง ในไทยจะมีเพิ่มขึ้น เทียบกับUAE ต่างชาติ80%
ในไทย ต่างชาติซื้อได้คอนโด49% คิดว่าต่างชาติจะเข้ามาเรื่อยๆโดยเฉพาะคนพม่ามาซื้อมากขึ้น

Q:ผู้ถือหุ้นอินเดีย ได้แนะนำแนวทางเพิ่มเติมแต่ความเสี่ยงสูงขึ้นโดยใช้leverage กู้มากขึ้น?
A:คุณประทีปพูดด้วยความมั่นใจว่า บริษัทเน้นความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนสูง

Q:Loftประชา วงค์สว่าง อยากทราบความคืบหน้า?
A: โครงการนี้น่าจะไปต่อได้ แต่ถ้าไม่ผ่าน ที่ดินเก่า เราพัฒนาแนวราบได้

วาระที่2 พิจารณาปันผล 1.45บาท แต่จ่ายระหว่างกาลไปแล้ว0.7
ดังนั้นงวด6เดือนหลังอีก75สต
กำไรสุทธิปี66=5,312ลบ ลดลงจากปี65 7,621ลบ

วาระที่3 พิจารณาเลือกกรรมการ แทนที่ออกตามวาระ
ดร ประทีป คุณไตรเตชะ และ นายประศาสน์ ตั้งมติธรรม

วาระที่4 อนุมัติค่าตอบแทน ค่าบำเหน็จ และเบี้ยประชุมของกรรมการ
ปีนี้เท่าปีก่อน ตามรูป และ
ประธานกรรมการและกรรมการ ได้รับค่าบำเหน็จลดลงเหลือ800,000บาท

วาระที่5 อนุมัติแต่งตั้งผู้สอบบัญชี และ กำหนดค่าสอบบัญชีราคาเท่าเดิม

วาระที่6 ออกเสนอขายหุ้นกู้ ไม่เกิน 34,000ลบเพิ่มขึ้นอีก15,000ลบจากเดิม
เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนขยายกิจการทั้งในประเทศแลต่างประเทศ
ปรับญาการลงทุน low risk high return เราได้ดอกเบี้ยต่ำ2%กว่าๆ
หุ้นกู้มีการจองล้น3เท่าตัว

Q:อธิบายโครงการที่ออสเตรเลีย มูลค่าเท่าไหร่ เป็นบ้านเดี่ยว คอนโด
ขายเสร็จค่อยขายใช่ไหม?
A:เราลงทุนมาครบ11ปีแล้ว เมื่อก่อนลงด้วยเงินไม่เยอะ เสร็จก็ต่อโครงการใหม่ จบครบ12โครงการ
ก็มีstock lance มาชวนเราลงทุน12โครงการ สร้างเสร็จค่อยขายให้ลูกค้า
ซื้อที่ดิน วางผัง ขออนุมัติ ทำโครงสร้างพื้นฐานให้ เสร็จแล้วขายที่ดิน โอนให้ลูกค้า
มีบริษัทที่สร้างตัวอย่างบ้านให้ดูก่อน เพื่อให้คนซื้อมาจ้างสร้างบ้าน ได้1,000กว่าไร่มา10ปี
ส่วนใหญ่ขายได้เดือนละ20โครงการ
ต้นทุนการก่อสร้างในออสเตรเลีย ปรับตัวสูงขึ้น เราพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้แล้วค่อยขายที่ดิน
เราไปเพราะเพิ่มศักยภาพการเติบโตและกระจายความเสี่ยง

Q: ปีนี้ดูค่อนข้างaggressive ออกหุ้นกู้เพิ่ม มีวิธีอย่างไรให้เกิดความมั่นใจ?
A: คุณดูจำนวนเวินที่ลงทุน gearing 44%เอง DE 0.7เท่า ซึ่งตรงกันข้ามกับผู้ถือหุ้นอินเดียเสนอให้กู้มากขึ้น
SG&Aต่ำสุด บริษัทเสี่ยงน้อย มั่นคง แข็งแรง กว่าหลายบริษัท ไปลงทุนที่ออสเตรเลีย
ดอกเบี้ยที่ได้รับถูกกว่าตปท
เราบุกตลาดช่วงนี้เพราะช่วงโควิดกระทบมาก ตอนนี้เราฟื้นเร็ว จำนวนdeveloperน้อยลง
และโครงการที่ออกมาน้อยกว่าโควิด
เมื่อก่อน ยื่น EIA 12โครงการต่อปี ปีที่แล้วมีแค่2-3โครงการ เรามองว่าเป็นโอกาส

Q: คดีที่เกิดขึ้น EIAผ่านได้อย่างไร?
A: กรรมการพิจารณาสิ่งแวดล้อมถูกฟ้องร้อง แต่จริงๆโปร่งใสที่สุด เราใช้เวลาเสนอแล้วเสนออีกกว่า6ปี
ที่ดินตรวละแสน ตอนนี้200,000แล้ว
คดีที่เกิดเป็นโครงการที่นานสุด ปรับหลายรอบ คณะกรรมการทราบดีว่ามีคนจ้องจะฟ้อง
ช่วงเวลายื่นEIAรอบคอบครอบที่สุดจากทุกโครงการเพราะเราทราบว่ามีประเด็น

Q:ออสเตรเลีย ส่วนแบ่งรายได้ไม่เกิน300ลบ เทียบกับรายได้ทั้งหมดดูน้อย คุ้มไหม ?
ตอบ jv รวม10ปี 2,300ลบแล้ว เราไม่ได้ส่งเงินไปทุกโครงการ บางอันก็ใช้สภาพคล่องในjvมาทำ

Q:อัตราส่วนทางการเงินที่บอกว่าดีกว่าตลาด อยากให้ทำตารางเทียบกับทุกบริษัท?
A: จะทำโชว์เทียบบริษัทกับค่าเฉลี่ย

Q:คอนโดปีที่แล้ว มีข่าวแผ่นดินไหว รองรับได้เท่าไหร่
A: ดร ประทีป บอกว่า กฎหมายไทยมีเพิ่มความแข็งแรงของเสาใหญ่ขึ้นในจังหวัดเชียงรายล่วงหน้าแล้ว ตอม่อขยายให้ใหญ่กว่าคู่แข่งแล้ว
คุณไตร :คอนโดใหม่ๆสามารถรองรับกับความรุนแรงของแผ่นดินไหวในพื้นที่นั้น

Q:เหล็กเส้นโครงการอื่นใช้6หุน ของเรา?
A:ตึกใหญ่ใช้ใหญ่กว่า6หุน เป็นนิ้วเลย
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2706
ผู้ติดตาม: 343

Re: Seminar Knowledge เรียนรู้การลงทุนผ่านการสัมมนา

โพสต์ที่ 214

โพสต์

AGM Master 23 apr 67 10.00

มีผู้เข้ามาประชุมด้วยตนเอง 29ราย
รับมอบฉันทะ 496 ราย รวม 78.11%

โครงสร้างรายได้ 1916 ลบเพิ่มจากปี65 1482ลบเพิ่มขึ้น 29.3%
1.รายได้จากศัลยกรรม 1552ลบ 79.9%
2. รายได้ดูแลผิวพรรณ 135 ลบ 7%
3.รายได้ปลูกผม ดูแลเส้นปม 114ลบ 5.9%
4.รายได้ดูแลหลังศัลยกรรม 69ลบ 3.6%
5.รายได้ประกอบกิจกรรมโรงพยาบาลอื่น 43ลบ 2.2%

SG&A เพิ่มจาก 462 ลบไป 633ลบ
กำไรสุทธิ416 ลบ เพิ่มขึ้น 38%

สท 3637 ลบ
หนี้สิน 646 ลบ
ส่วนผู้ถือหุ้น 2991 ลบ
1000031619.jpg
1000031621.jpg
1000031632.jpg
1000031622.jpg
วาระที่๓ อนุมัติงบการเงิน
วาระที่4 อนุมัติจ่ายหุ้นปันผลในอัตรา 1หุ้นเดิมต่อ 0.142857142857หุ้นปันผล
และเงินปันผล หุ้นละ 0.01587302 บาทเพื่อชำระภาษีหักณ ที่จ่าย
วาระที่5 อนุมัติ ลดทุนจดทะเบียนโดยตัดหุ้นที่ยังไม่ได้จำหน่ายและแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ
วาระที่11 พิจารณาอนุมัติ เข้าซื้อหุ้น เอส 45
1000031654.jpg
1000031653.jpg
1000031656.jpg
1000031655.jpg
ที่ปรึกษาทางการเงินพิจารณาแล้วเหมาะสม ราคาไม่เกิน 565.7ลบ
Q:การซื้อหุ้นมีที่ปรึกษา ราคาเท่าไหร่ครับ book valueเท่าไหร่ รายงานที่ปรึกษาอิสระน่าจะมีรายละเอียด
A: มีส่งให้แล้วเรื่องQR code จะรับพิจารณาในคราวหน้า เรื่องพิมพ์ใบมอบอำนาจ
และวิธีการเดินทาง
ส่วนวิธีการประเมิน
1.book valueไม่สะท้อนกิจการ 62ลบ
2.มูลค่าทางบัญชี220ลบ เป็นเวลาณ ขณะหนึ่ง
3 วิธีdcf

วิธีการประเมินมูลค่าแบบDCF น่าจะเหมาะสมสุด 1196- 1541ลบ ทำให้ราคาที่ทำรายการไม่เกิน 565.71ลบ
ดูเหมาะสม ราคาเข้าซื้อ100บาทต่อหุ้น

วาระที่12 พิจารณา อนุมัติเสนอขายหุ้นกู้ ไม่เกิน2000ลบ

1000031658.jpg
1000031657.jpg
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2706
ผู้ติดตาม: 343

Re: Seminar Knowledge เรียนรู้การลงทุนผ่านการสัมมนา

โพสต์ที่ 215

โพสต์

Agm bkkcp 23 apr 67 10.00

กองทุนมีรายได้หลักจากค่าเช่า และค่าบริการ108ลบ
ค่าสาธารณูโภค 0.190ลบ
ดอกเบี้ยรับ 1.5ลบ
รวมรายได้ 109.86ลบ
ค่าใช้จ่าย
ต้นทุนค่าเช่า 28ลบ
ค่าธรรมเนียมจัดการ 5.05ลบ
ค่าธรรมเนียมบริหารอสังหา5.4ลบ
รวมค่าใช้จ่าย 44ลบ
กำไรสุทธิ 65ลบ
ขาดทุนสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการประเมินมูลค่าสุทธิ 10ลบ
การเพิ่มขึ้นของNAV 55ลบ

การจัดหาผลประโยชน์
อาคาร1 พท เช่า 3423 ตรม อัตราเช่าเฉลี่ย 56.77%
อาคาร2 พท เช่า 15,835 ตรม อัตราเช่าเฉลี่ย 66.13%
เฉลี่ย 62%

แนวทางการจัดการกองทุนรวมในอนาคต
1.ดูแล ทส อยู่ในสภาพเหมาะสม
2.ติดตามจัดเก็บรายได้
3.ควบคุมค่าใช้จ่าย
4.ดูแลผู้เช่าเดิม และหาผู้เช่าใหม่
5.พัฒนากลยุทธ์การบริหารอาคารสนงอย่างต่อเนื่องและทันสมัย

Q:ขอประขุมonline+onsite
A: เราทำมากกว่ามาตรฐาน แต่ขอรับไปพิจาราณาเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่าย
Q:วันนี้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรไหม
A:supply เพิ่มขึ้นเยอะ แต่ตึกเราก็มีpotential,locationดี เราร่วมมือกับชาญอิสระตลอด
Q:ขอรับรองว่าไม่มีการโหวตปิดfundถึงแม้ราคาตลาดต่ำกว่าnav
A:ราคาตลาดขึ้นกับdemand supply ไม่ต้องกังวลว่าจะมีโหวตปิดกอง มั่นใจได้

วาระที่2 พิจารณางบการเงิน
งบดุล
สท ลดลง0.77%
หนี้สิน ลดลง4.97%
สท สุทธิ ลดลง0.67%
งบกำไรขาดทุน กำไรสุทธิ 55ลบ

วาระที่3 การจ่ายปันผล 63สต คิดเป็นอัตราปันผล 6.3%คิดจากมูลค่าที่ตราไว้ 10บาท

Q&A:ไม่สามารถซื้อหุ้นคืนได้ถึงแม้ราคาลงมาต่ำกว่าNAV
การจ่ายปันผล มาจาก Net asset value มาจากoperating result
Q: NAV realize market value ตอบ ไม่ได้เพราะ ราคาตลาดขึ้นกับการซื้อขาย
Q:บริษัทมีกลยุทธ์หาลูกค้าใหม่อย่างไร
ตอบ ชาญอิสระ บอกว่า supplyค่อนข้างเยอะ
เราพยายามรักษาผู้เช่าไว้ Globalพยายาม ลดพื้นที่ลง
เราพยายามหาผู้เช่าใหม่ หาagent ใหญ่ กลาง เล็ก
มีผู้เช่าใหม่ walkin แต่พื้นที่50-200ตรม แต่หาแบบ500-1000ตรม ยาก
มค 67 เติมมา800ตรม เป้า 3,000ตรม
ผู้เช่าใหม่ ต่างชาติ ต้องการอาคารสีเขียว
Siment ก็แจ้งไปว่าต้องการเช่าอาคารสีเขียว
ตอนนี้ทำงบประมาณเพื่อปรับปรุงเป็นอาคารสีเขียว
ผู้เช่าที่จะครบกำหนด16.8% แจ้งล่วงหน้า90วันเพื่อเจรจาcontactใหม่
ตอนนี้ยังไม่มีใครออกครับ

Q: Dividend downเทียบกับ15ปีก่อน
A: เป็นทั้ง2เหตุผล มาจาก อัตราการเช่าลดลง แต่rate keep มีการเจรจาขอลดบ้าง
Q&A สัดส่วนสัญญาเช่า16%ยังเหลืออีก1ปี ครับ ถ้าต่อ ก็ยืดไปอีก3ปี
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2706
ผู้ติดตาม: 343

Re: Seminar Knowledge เรียนรู้การลงทุนผ่านการสัมมนา

โพสต์ที่ 216

โพสต์

AGM ROJNA 25 Apr 2024 10.00

ผู้ถือหุ้น มาด้วยตนเอง 61 ราย มอบฉันทะ 155 ราย รวม 65%
คุณธีรพงษ์ กรรมการผู้จัดการ แถลงผลการดำเนินงาน
มีสองภาพ
ด้านบวก การขายที่ดินอุตสาหกรรม มีกระแส การลงทุนจากจีนเป็นหลัก เราขายที่ดินให้กับนลท จีน
ชึ่งใหญ่สุด
เราขายที่ดิน กว่า 2000 ไร่สูงที่สุดในรอบ 35 ปี ธุรกิจค่อนข้างหลากหลาย ต่างกับคราวก่อนที่ญี่ปุ่นมาแบบ supply chain
เราเปิดนิคมใหม่สองแห่ง มีที่ดินรองรับ การทำตลาดมาระยะนึงแล้ว ผลการดำเนินงานดีมาก

อีกด้านการขายไฟ ยังไม่สะท้อนค่าเชื้อเพลิง กับค่าไฟที่ขาย ที่กำหนดจากFT ซึ่งเป็นสินค้าการเมืองไปแล้ว
การขยับFT เมื่อก่อน ปี64-65 ราคาปรับตามกลไกตามตลาด ตอนนี้ การปรับFT ไม่เป็นไปตามกลไกตลาด
แต่ค่าก๊าซปรับตามกลไกตลาด ค่าไฟก็ปรับตัวดีขึ้น และ มีกำไรในปีที่แล้ว ถ้ากลไกถูกผ่อนคลาย น่าจะดีขึ้น
ค่าก๊าซปรับขึ้นจากสงคราม ตอนนี้เริ่มดีขึ้นแล้ว ถ้าค่าFTปรับตามต้นทุนก๊าซได้ เราก็จะได้กำไรมากขึ้น
ปีนี้คิดว่า มองที่ขายที่ดินเป็นหลัก 3-4 เดือนที่ผ่านยังขายดีอยู่ แต่ไม่สามารถขาย 2000 ไร่ทุกปี แต่อยู่ในเกณฑ์ที่พอใจ
แต่จะมองให้ออกใช้เวลาอีก 2-3 เดือน จีนยังติดต่อมาสม่ำเสมอ คิดว่า ยังไปได้ แต่ค่าเงินบาทอ่อนลงทุกวัน ก็กระทบบางธุรกิจ
อัตราดอกเบี้ย ถ้าให้บาทแข็งค้องขึ้นดอกเบี้ย ธปท ก็คงยังไม่ทำ
หลายสำนัก คิดว่า การปรับดอกเบี้ยของเฟดอ่านเลื่อนจากกลางปีไป อาจขึ้นดอกเบี้ยจำนวนครั้งน้อยลงเพราะขึ้นกับอัตราเงินเฟ้อ
ตลาดแรงงานดีมาก

Q:ค่าไฟค่อนข้างต่ำกว่าคู่แข่ง ปีที่แล้วกำไร 1000 ลบ 8-9% กว่า
A: combination หลายอย่าง ขึ้นกับโครงสร้างของ STP ตอนนั้นที่น้ำท่วม และสร้างโรงไฟฟ้าขึ้นมาใหม่ ก็มีค่าเสื่อมขึ้นมา
ปีที่เกิดปัญหา 2022-23 FT มีปัญหา
ต้นทุนขาย ดูค่าก๊าซ SPP1 ประสิทธืภาพต่ำกว่า SPP2 เยอะ

Q: ที่ดิน ผู้บริหารบอกยอดขายดี แต่ยอดโอน 1600ไร่ ต้องใช้เวลาทยอยโอนใน2ปี อาจมาจากการขอใบอนุญาตและงวดในการชำระเงิน
ปกติเราให้บางรายผ่อนชำระ 1 ปีได้
การนำเงินออกจากจีน ขั้นตอนค่อนข้างซับซ้อนและใช้เวลานานกว่า
เราขายใหม่ขึ้นตลอดเวลา เรามีเงินเก็บกิน คือ Backlog ค่อนข้างเยอะ supportอีก 2-3 ปีได้

ข้อดี ช่วยในเรื่องกระแสเงินสด เรามีสภาพคล่องสูง
Q: ค่าเงินบาทอ่อน ลูกค้าจะรีบโอนไหม
A: เงินหยวนไม่ค่อยแข็ง การพัฒนาโรงงาน ที่ดินเป็นสัดส่วนแค่15%เอง การตัดสินใจจะมองสภาพการตลาด
เช่น circuit board ครั้งนึงนิยมมาก แต่ตอนนี้ชะลอลงไป

Q: ปัจจุบันทีดินรอขาย เรามีเป็น 2000-3000 ไร่
วิธีการทำงาน เราไม่สะสมที่ดินชิ้นใหญ่เพราะมีcarry cost
การสะสมที่ดินชิ้นใหญ่มีภาระ ถ้าขายไม่ได้ เรามี9 แห่งแล้ว เราซื้อเพิ่มในที่ดินที่เรามีอยู่ เพื่อใม่ให้ต้นทุนที่ดินเพิ่มขึ้นเยอะ
การซื้อที่ดินชิ้นใหญ่ต้นทุนสูง
ไม่รวม ไรแลนด์ ที่สุวรรณภูมิ 4000 ไร่ที่เราถือหุ้นส่วนนึง รองรับอุตสาหกรรมไฮเทค
การสะสมที่ดินมา 35 ปี ไม่ใช่เรื่องใหม่ จะดูdemand , feedback ของลูกค้า
การมีนิคมหลายแห่ง สามารถต่อยอดข้างนอกได้ ค่อนข้างกระจายใน EEC

วาระที่4 พิจารณาอนุมัติจ่ายปันผล
เงินปันผล XD 3 may , pay 24 may อัตรา 0.40 บาทต่อหุ้น

วาระที่6 คุณพงษ์ศักดิ์ ไม่ขอต่อวาระเป็นกรรมการ อนุมัติ เลือก คุณ จิตรมณี สุวรรณพูลมาแทน
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2706
ผู้ติดตาม: 343

Re: Seminar Knowledge เรียนรู้การลงทุนผ่านการสัมมนา

โพสต์ที่ 217

โพสต์

AGM CPALL 26 Apr 2024 14.00 ผ่านระบบ Online IR plus
รู้สึกระบบรวนพอสมควร มีหลุดเป็นช่วงๆ แต่ก็ยังพอฟังรู้เรื่อง เลย
สรุปคำถามและคำตอบช่วงท้ายประชุมมาฝากครับ

Q&A
1.Ticket ต่อวัน กี่บาทต่อใบเสร็จ สำหรับร้าน 7-11 ที่มีที่จอดรถ ?
ตอบ เกี่ยวกับร้าน7-11 ที่มีที่จอดรถ มีจำนวนลูกค้าเทียบกับ 7-11 แบบตึกแถว จะน้อยกว่าสัก10%ครับ
เช่น จำนวนลูกค้าของ 7-11 ห้องแถว 980 คนต่อวัน ถ้าเป็น 7-11 มีที่จอดรถ ลูกค้าเหลือ 900 คนต่อวันk,[
แต่ยอดซื้อต่อบิลของ 7-11 มีที่จอดรถ ประมาณ 90บาท มากกว่า7-11 ตึกแถว 70บาทต่อบิล
ข้อเสียคือ เงินลงทุนมากกว่า แต่ในระยะยาวร้านstand alone มีที่จอดรถ จะดีกว่า

2.ในการขยายร้านstandalone นอกปั้มน้ำมัน อัตราการเปิดใหม่เป็นอย่างไร?
ตอบ ปกติขยาย700สาขาต่อปี พิจารณาแล้ว มีข้อดี เราจะเปิดสาขาที่เป็น standaloneมากขึ้น
เพราะร้านเดิมห้องแถวจะrelocateด้วย ไปสู่locationที่ดีกว่า เป็น standalone รวมแล้วจะมากกว่า 700สาขาต่อปี

3.ตอนคิวยาว อาจมีmobile check out ใช้การเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงานและใช้เทคโนโลยีมาช่วยด้วย
แต่การบริการอาจทำให้ลูกค้าพอใจไม่ถึง100%

4.อยากให้7-11 มีสินค้าตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ขายด้วย?
ตอบ เราเอาสินค้าขายดีมาขาย แต่คำนึงถึงสินค้า otop เราตั้งศูนย์SME เพื่อช่วยเศรษฐกิจ เป็นฐานรากของชุมชมด้วย
และเอาสินค้าotopของแต่ละตำบลมาขายด้วย

5. สอบถามเงินกู้ที่ไปtake Lotusมา?
ตอบ เราเริ่มจากการกู้ยืมธนาคารในช่วงแรกตอนทำรายการ เมื่อทำรายการเสร็จสิ้นแล้ว เปลี่ยนเงินกู้ยืมสกุลต่างประเทศ
เป็นเงินกู้สกุลบาทสอดคล้องกับรายได้ และเปลี่ยนเงินกู้ธนาคารเป็นหุ้นกู้ ซึ่งtermยาวกว่า
หุ้นกู้ล่าสุด เราบริหารต้นทุนได้น่าพอใจ มีการลดและเปลี่ยนสถานะและควบคุมอัตราดอกเบี้ย
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2706
ผู้ติดตาม: 343

Re: Seminar Knowledge เรียนรู้การลงทุนผ่านการสัมมนา

โพสต์ที่ 218

โพสต์

AGM VIH 26 Apr 2024 9.00

วันนี้ได้มีโอกาสเข้าประชุมที่ รพ วิชัยเวช อ้อมน้อย และเจอน้องPOP
ผู้เชี่ยวชาญกลุ่ม รพ พอดี เห็นมีเขียนเกี่ยวกับ ผู้บริหารGen2 และ รพ ใหม่ไปแล้ว
เลยขอเสริมเนื้อหาอื่นเพิ่มละกัน

อาจารย์วิชัย วนดุรงค์วรรณ CEO กล่าวเปิดการประชุม
บริษัทอยู่ระหว่างการรับรองโครงการแนวร่วมต่อต้านคอรับชั่นปี2565
1.การประกอบธุรกิจแบบโปร่งใส เป็นพื้นฐานการเติบโตแบบยั่งยืน
2.การกำกับธุรกิจCGR2023ให้เป็นบริษัทดูแลกิจการระดับห้าดาวต่อเนื่องเป็นปีที่หก
3.ผลการประเมินตามโครงการประเมินคุณภาพAGM 99คะแนน เพื่อดูแลกิจการที่ดีส่งเสริม

นายแพทย์มงคล วณิชภักดีเดชา พูดถึง ผลการดำเนินงาน
ด้านรายได้ CAGR 6.31% จากรายได้ตั้งแต่ปี 2563 =2275 ลบ เป็นปี2564,2565= 4717 , 3645 ลบ ปี2566 = 2733 ลบ
รายได้ผู้ป่วยทั่วไป เพิ่มจาก 1778 ลบ ในปี 2563 เป็น 2117 ลบในปี2566 เพิ่ม 6.1%ต่อปี
ผู้ประกันตน รวมกัน 200,000คนเศษ

สัดส่วนรายได้ผู้ป่วยทั่วไป และ ผู้ป่วยเหมาจ่ายปี63-66
เราพยายามเพิ่มผู้ป่วยทั่วไป 76% ประกันสังคมและเหมาจ่าย 24%
เป้าเป็น 80%สำหรับคนไข้ทั่วไป
ปีที่แล้วได้ 76%ใกล้เคียงเป้าหมาย
ถึงแม้เพิ่มค่าหัวประกันสังคม แต่เราก็ยังเพิ่มรายได้ทั่วไปมากขึ้น

รายได้รวมในแต่ละไตรมาสปี66 เทียบกับปี65
รายได้รวม Q1,2 ปี66ยังdropอยู่ แต่ปี65 มีรายได้จากโควิดเข้ามาอยู่ และ รายได้หมดในQ3,4 ปี65
รายได้เพิ่มในQ3,Q4 66 ซึ่งเริ่มโดดเด่น ยังมีการเติบโตอย่างน่าพอใจ
Q3 มักมีโรคระบาดแต่ Seasonal เริ่มเปลี่ยนแปลง เป็นเกิดทุกไตรมาสเลย

กำไรสุทธิ เติบโต 15% ต่อปี ตั้งแต่ปี63-66 จาก 186 ลบ เป็น 284 ลบ

การพัฒนาในส่วนต่างๆ รพ เราสี่สาขามีความโดดเด่นกันในแต่ละสาขา เราพยายามวางกลยุทธ์อย่างโดดเด่น
เพื่อใช้คนอย่างสูงสุด เป็นจุดแข็งของทีมงานเรา
เราจัดตั้งศูนย์หัวใจ ที่เป็นสาขาหลัก คือ รพ วิชัยเวช หนองแขม ทำ mouกับภาครัฐ ตรวจหัวใจ เข้าห้องแคสแลป
รพ พหลพลพยุหเสนา จังหวัด อยุธยา
ปัญหาเรื่องผู้ป่วยหัวใจ ในจังหวัดที่ไม่ไกลจากกท เช่น ราชบุรี นครปฐม กาญจนบุรี ทำให้แก้ไขได้ทันท่วงที
การปรับปรุงทุกสาขา เช่น ที่อ้อมน้อย มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ตึกนี้มีดูแลผู้ป่วยประกันสังคม
พร้อมดูแลผู้ป่วยทั่วไป
อาคารหนึ่งมีrenovate สำหรับคนไข้ทั่วไปด้วย
มีopdแพทย์เฉพาะทางดูแลผู้ป่วยด้วย

ผลการดำเนินงาน : ด้านการพัฒนา

สถิติการตรวจวินิจฉัยและให้การรักษาในห้องปฏิบัติการสวนหัวใจ
จำนวนหัตถการเพิ่มจากปี62 ถึง ปี 66
ตรวจวินิจฉัยและให้การรักษาในห้องปฏิบัติการสวนหัวใจ จาก 2262 หัตถการ เป็น 3242 หัตถการ
การรักษาด้วยการผ่าตัดหัวใจ(Bypass) 216 เป็น 359 หัตถการ เพิ่ม 66% (นอน 7-8 วัน)

จำนวนหัตถการ และ consult ศูนย์ Intervention (OPD+IPD)
มะเร็ง จาก ปี65 = 56 เคส เป็น 77 เคส เพิ่ม 37%

การให้บริการของศูนย์ผู้มีบุตรยาก : อัครบุตร
ที่สาขาสามแยกไฟฉาย มีการให้คำปรึกษาผู้มีบุตรยาก
ปี66= 66 case และตั้งครรถ์48case (success 72%)

ESG: ติดตั้ง Solar roof top เพื่อประหยัดพลังงาน ในทุกสาขา

Q&A
Q1:
1.การร่วมมือกับรพ รัฐ จว กาญจนบุรี ขั้นตอนในการเลือกเรา และ โมเดลรายได้เป็นอย่างไร
มีโอกาสร่วมกับรพ อื่นใหม่ ?
2.ศักยภาพ หารายได้ของอันใหม่ด้านสมองเทียบกับศูนย์หัวใจไหม ?
3.การเพิ่มศูนย์เฉพาะทางได้อีกไหม ?

A:1.เป็นโครงการภาครัฐที่เริ่มต้นเอง ชวนเอกชนมาร่วมได้ รายละเอียดเปิดเผยไม่ได้
เป็นรายได้ของภาครัฐและแบ่ง%กัน ถ้าคุมค่า เราก็จะเข้าไปร่วมด้วย และจะไปร่วมกับภาครัฐ
แต่ไม่ใช่รายได้หลัก เป็นความพยายามช่วยเหลือกัน และภาครัฐขาดแคลนทรัพยากร เราเข้าไปช่วยเหลือ
2.ศูนย์ดูแลผู้ป่วยสโตรก สิทธิประโยชน์ยังไม่เข้าสปสช ถ้าเข้าเราจะรับรู้รายได้ได้ทันที คาดหวังให้เกิดขึ้น
3.โครงการอนาคตให้รอฟังในวาระถัดไป

สาระสำคัญของงบการเงิน
สท หมุนเวียน 1,368 ลบ ลดลง 12% ไปชำระการซื้อสท
สท ไม่หมุนเวียน 2,250 ลบ เพิ่มขึ้น 5%จากไปลงทุนสท
สท รวม 3,618 ลบ ลด 88 ลบ

หนี้สินหมุนเวียน 449 ลบ ลด 70 ลบ เพราะชำระหนี้การค้า และ ภาษีค้างจ่าย
หนี้สินไม่หมุนเวียน 132 ลบ ลด 50 ลบ เพื่อจ่ายคืนเงินกู้ระยะยาว 50 ลบ
ส่วนผู้ถือหุ้น 3036 ลบ +28 ลบ

รายได้จากกิจการโรงพยาบาล
คนไข้ทั่วไป เพิ่มขึ้น แต่คนไข้โควิดหาย
รายได้จึงลดลงจาก 3,645 เหลือ 2,733 ลบ ลดลง25%
Margin Covid 40% > การรักษาทั่วไป GP 15%
ปีนี้มีกำไร 285 ลบ แต่คนไข้ทั่วไปปี66เพิ่มขึ้น

เงินสดสุทธิจากการดำเนินงาน 383 ลบ ไม่มีรายได้จากโควิด
เทียบปี65 = 940 ลบเพราะมีรายได้จากโควิด
เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจการลงทุน =-281 ลบจากการซื้อที่ดินจะสร้างรพ ใหม่
เงินสดจากการจัดหาเงิน -342 ลบ
เงินสดลดลง 240 ลบ

DE 0.19 ลดจาก 0.23 เท่า

EPS พยายามจะให้สูง และปันผลไม่ต่ำกว่า 50%ของกำไร

Q: SG&A มีทางควบคุมให้ดีขึ้นอย่างไรบ้าง ?
มีแนวทางเพิ่มอัตรากำไรให้เท่าอุตสาหกรรมอย่างไร?
A: รายได้จากต่างชาติ เราให้เอเยนต์ในปีที่ผ่านมาพอสมควร ต่อมาเราจะลดตรงส่วนนี้ลง
ส่วนแนวทางกำไร อุตสาหกรรมสองดิจิต เราทำได้ในปีที่แล้วเป็นปีแรก
Margin ประกันสังคมน้อยมาก พยายามรับคนไข้ทั่วไปให้มากขึ้น
ถ้าสัดส่วนคนไข้ทั่วไปเพิ่มมากขึ้นจะทำให้GP สูงขึ้น

Q:รายได้ประกันสังคมเติบโต คนไข้ต่างด้าวพยายามผลักเข้าประกันสังคม
ทำให้ที่สาขาสมุทรสาครมารายได้เพิ่มขึ้น

Q: ในส่วนของรายได้ เราพยายามเพิ่มรายได้เงินสด แต่สาขาอ้อมน้อยปี66 ลดลงเทียบก่อนโควิด ?
A: วิชัยเวชสาขาอ้อมน้อย มีรายได้ส่วนนึง เป็นเงินปันผลด้วยนะ
และปี62 เป็นรายได้ตรวจสุขภาพของบริษัทGlobal ทำให้ตัวเลขปี62โดดขึ้นมา

Q: สาขาหนองแขม เป็นพื้นที่เช่า ใช่ไหม กำลังใกล้หมด มีการต่อสัญญาไหม
A: พื้นที่เช่าหนองแขม หมดปี2578 เราอยากซื้อ แต่ผู้เช่าไม่อยากขาย และอยากให้เราทำต่อ
ถ้าค่าเช่ารับได้ เราก็ทำต่อ

วาระที่4 จ่ายปันผล 0.20 บาท
วาระที่9 การได้มาซึ่งสทเพื่อการลงทุนในโครงการ รพ แห่งใหม่ โดย บ สายวิชัยพัฒนา เสนอต่อผู้ถือหุ้น VIH

บริษัทสายวิชัยพัฒนา เป็นบริษัทลูกของVIH เข้าลงทุนรพใหม่ แถว พุทธมณฑลสาย1
ขนาด 200เตียง โดยแบ่งออกเป็น6เฟส ซึ่งมี รพ ที่เปิดอยู่แถวนี้ เช่น พญาไท3 ธนบุรี2 ศิริราช
บางกอก9international

Q:การลงทุน 2400ลบแบ่งเป็นเฟสได้ไหม เอาเงินโครงการนี้เลี้ยงตัวมันเอง เพราะกลัวความเสี่ยง
A:เราทำเป็นหกเฟส เฟสแรกเปิดบริการ ตค ปี69=60เตียง เอง ดอกเบี้ยไม่เกิด

Q:เริ่มก่อสร้างหรือยัง ?
A:ต้องผ่านอนุมัติก่อน และEIAอนุมัติ วางแผนก่อสร้างปลายปีนี้อย่างเร็ว
และเปิดเฟสแรก วันที่ 1ตคปี69

Q: ยกตัวอย่าง รพ ราชพฤกษ์ ขอนแก่น รูปแบบ รพ น่าสนใจ ให้ลองพิจารณาดู
A:ขอบคุณความเห็นที่แนะนำมา กรรมการยุคเก่าแต่มีแนวคิดยุคใหม่ มีgen2ผ่านเมืองนอกมา
ขอให้มั่นใจ สบายใจได้

Q: 1.รพ ใหม่เน้นอะไรเป็นตัวชูโรง?
2.เน้นกลุ่มคนไข้แบบไหน ต่างชาติหรือเปล่า ?
3.คู่แข่งแถวนั้นค่อนข้างเยอะ ?
A: 1.กลุ่มคนไข้ เราสร้างรพ ดูแลโรคซับซ้อน ผู้สูงอายุ เบาหวาน หัวใจ สมอง
กำลังซื้อ คนที่อาศัยในหมู่บ้าน ถนนบรมราชชนนี มีกำลังซื้อมากกว่าหนองแขม
แผนกแม่และเด็ก แถวนี้ไม่ค่อยมีใครทำเป็นจุดชูโรง ฉีกจากกลุ่มแน่นอน
Wellnessส่งเสริมสังคมผู้สูงอายุ
รองมาตรฐาน JCI
2.เราไม่คิดว่ากลุ่มต่างชาติ เป็นประเด็นหลัก แต่มาตรฐานสูงก็ดึงต่างชาติเข้ามาหา
แต่หลักๆก็ดึงกลุ่มคนแถวนั้นมาใช้บริการก่อน
3.คู่แข่ง ที่เข้าตัวเมือง มี ธนบุรี2 เจ้าพระยา ศิริราช ธนบุรี
พญาไท3 นครธน บางปะกอก9

Q: จุดเด่น รพใหม่ การตั้งราคา ?
A: เรามองคู่เทียบ ศิริราชปิยการุณย์ สัก80%ของเค้า

Q:เราหาแพทย์มีชื่อเสียงมาได้อย่างไร
A: เราตั้งมา30ปีใกล้ศูนย์การแพทย์กาญจนา แพทย์มาจากศิริราช
เรามีจุดแข็ง หมอหัวใจ กระดูก

Q:ชื่อ รพ แห่งใหม่ และ ผอ เป็นใคร?
A: กลยุทธ์ฉีกออกจากกลุ่ม ระหว่างการทำbranding ยังไม่สามารถให้คำตอบ
แต่ไม่ใช่ชื่อวิชัยเวช ผอ ยังไม่บอก เพราะเวลาอีกนานปี69
วิชัยเวชหนองแขม มาเป็นพี่เลี้ยง

Q: ตัว รพ ใหม่ลงทุนเยอะ การตลาดเปลี่ยนแปลงไปเยอะ รพศัลยกรรมก็เปลี่ยนแปลวเยอะ
เอามาadaptใช้ได้ไหม ?
นพ บวรรัฐตอบ การตลาดเป็นสิ่งสำคัญ ต้องทำแบบเชิงรุก ธุรกิจความงามอาจไม่เหมือนกัน100%
เรามีเฟสในการทำตลาดด้วย

Q:รพ พระราม9 ใกล้เคียงกับ รพ ใหม่ มีโอกาสทำกำไร 580ลบ เหมือน รพ พระราม9ไหม
เราอาจเห็นyield 65% กำไรมีโอกาสทำได้ไหม
A: เป็นไปได้

Q: balance ฦsheet เงินสด 800กว่าลบเอามาใช้ได้ไหม?
A:เราซื้อที่ดินมา300ลบ
เราแบ่งเฟสและทยอยใช้เงิน

Q:สอบถามเรื่อง การวางpositioningมีแนวทางตลาดpremiumอย่างไร
Consultant มี ปสก อย่างไร ?
A:กลุ่มลูกค้าใหม่ ความสามารถในการรักษาเราไม่เป็นรองใคร
ระดับ รร แพทย์ ไม่มีปัญหา
แต่เรื่องการกำหนด ราคา mood and toneมากกว่า เรามีรพ วิชัยเวช หนองแขม
มีลูกค้าB+อยู่ในมือ เรามั่นใจว่า รพ เปิด ลูกค้าจะมาใช้บริการเติมเต็มได้

การก่อสร้าง design ดูพื้นที่การก่อสร้าง บริษัทที่ปรึกษาเคยได้รับรางวัล
เราไม่ประหยัดในสิ่งที่จำเป็นเข้ามาดูแลโครงการนี้

Q:ระหว่างที่ก่อสร้าง รพ มีแผนแก้ไขlearning curve ความเป็นpremiumอย่างไร ?
เช่นจ้างหมอที่เคยทำ
A: บุคลากร รพ ที่ทำมา30-40ปีไม่มีปสก ดูแลลูกค้าpremium รับใหม่ง่ายสุด
และดูคนเก่าว่าใครสามารถทำได้ก็จะmoveไป รพ ใหม่

Q:pay back period ของโรงพยาบาลใหม่ใน8ปี

วาระที่11 อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนรองรับการเพิ่มทุน
วาระที่12 อนุมัติการออกwarrantครั้งที่1 3.03%ของจำนวนจดทะเบียนในสัดส่วน 2หุ้นต่อ1warant
แปลงราคา8บาท อายุ2ปี

Q: ทำไมเพิ่มทุนแค่300ลบ?
A:เรามองว่าเหมาะสมและเสียดอกเบี้ยจากการกู้มากเกินไป
ส่วนwarrantที่ออกอายุ2ปีแปลงที่8บาท เพราะอยากให้แปลง

วาระที่13 อนุมัติจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนและwarrantให้ผู้ถือหุ้นเดิม
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2706
ผู้ติดตาม: 343

Re: Seminar Knowledge เรียนรู้การลงทุนผ่านการสัมมนา

โพสต์ที่ 219

โพสต์

AGM Kamart 26 apr 67

วันนี้ เหมือน คุณวิวัฒน์ จะรู้ว่านักลงทุนจะมากันเยอะมาก เลยเปลี่ยน รร ใหม่ซึ่งจุนักลงทุนได้เยอะขึ้น
แต่ก็ยังไม่พอกับนักลงทุนที่เข้ามาฟังในห้องประชุม จนต้องเสริมเก้าอี้มากขึ้น

ช่วงแรกที่เปิดประชุม
มีผู้ถือหุ้นมาด้วยตนเอง 110 รายมอบฉันทะ 244 ราย รวม 56%
หลังจากประชุมเสร็จ โดยใช้เวลาไปเกือบ3ชม มีผู้เข้าประชุมคะแนนเสียงรวม661 ล้านหุ้น
แบ่งเป็นคนมาด้วยตนเอง 145 คน คิดเป็น 60.17%

วาระที่2รับทราบผลการดำเนินงานปี2566

วาระที่3พิจารณาอนุมัติงบแสดงฐานะทางการเงินและกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ

วาระที่4 พิจารณาอนุมัติการจัดสรรกำไรและจ่ายปันผลปี2566

วาระที่5จ่ายเป็นหุ้นปันผลและเงินสดปันผลเพื่อรองรับภาษี10%ของปันผล

อาคารแวร์เฮ้าส์ ใหม่ เป็นโกดังเก่าแถวเพชรเกษม69 และมีอีกสองอาคาร สามารถใช้ได้อีกระยะนึง
ใช้เวลาrenovate 6 M

การจ่ายหุ้นปันผล เดิม 5:1 เป็นหุ้น220 ล้านหุ้น
ในที่ประชุม คุณวิวัฒน์ ได้เปลี่ยนเป็น จ่ายหุ้นปันผล ใหม่ 6: 1 เป็น 183.34 ล้านหุ้น แสดงว่า เหลือ หุ้น 36.66 ล้านหุ้น
ถ้ามาเพิ่มทุน 36.6 ล้านหุ้นขายราคาตลาด 14 บาท =513.24 ล้านบาท

เดิมเพิ่มทุนเมื่อปีที่แล้ว Marubini 1595 ล้านบาท
ซื้อที่ดินทำคลังสินค้า -185 ล้านบาท
เพิ่มทุน 513.24 ล้านบาท
รวม 1,923.24 ล้านบาท

ซึ่งมีสมาคมส่งเสริมนักลงทุนไทยแย้งมา เลยต้องใช้เวลาอธิบายพอสมควรกว่าจะเคลียร์กันได้
ในที่ประชุมรับรองให้เปลี่ยนได้

วาระที่6พิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนเพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผล
วาระที่7พิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผล

Q&A
1.ธุรกิจที่ช่วยให้โตขึ้น อยากทราบว่า ถ้าหากบริษัทที่ไม่เป็นตามแผน ถามป่าดอนพุทรา?
ตอบ ที่วัดป่าดอนพุทรา ตอนนั้นมีเงินเข้ามาก้อนนึงจากชนะคดี เลยซื้อไว้แปลงหนึ่ง 70ไร่
ปลูกได้สองปี มีที่ดินมาขาย 500-600 ไร่ เลยเปลี่ยนที่นาเป็นที่ป่า
ตอนกำไรเราก็ปันผล และ ซื้อที่ดิน อาคารเพิ่มขึ้น
เงินก้อนนี้ไปลงทุนlandbank ซึ่งไม่มีความเสี่ยง เพราะไม่ได้ใช้เงินกู้
ถ้าบริษัทที่ไปซื้อบริษัทอื่นแต่ไม่ใช้เงินกู้จะไม่มีความเสี่ยง เราไม่เคยเป็นหนี้ใคร
เราค่อยๆปลูกไม้ยืนต้น แปลงที่นา800ไร่ เราซื้อที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา
เป็นหนองน้ำทะเลสาบใหญ่ มีมูลค่ามหาศาล
ระหว่างนี้ก็กำไร ก็ปันผลไป เป็นไปแน่นอน ที่ดินแปลงนี้ห่างจากสนามบินตะวันตก
ภาคตะวันออก ก็มีสนามบินสุวรรณภูมิ ดังนั้นที่ดิน1000ไร่ ตำบลบางพระ ดอนพุทรา ที่จะทำสนามบิน
ย้อนที่ดินหนองงูเห่า ไม่ถึง10ปีราคาที่ดินเป็น 20ล้านต่อไร่แล้ว
ดังนั้น ที่ดินที่ได้มา ไม่ใช่สินทรัพย์ด้อยค่า เป็นสินทรัพย์เกินค่า

2.ตอนนี้ CJ mall มีสินค้าKamartเยอะ ถ้าขายไม่ดี คืนสินค้าได้ไหม?
ตอบ มีกฎ เช่นขาย 500sku ,
step 1 ก็ลดราคา
step2 บางรายการก็ตัดเลย
Step3 บางตัว ถ้าขายที่อื่นดี ก็เอาสินค้าคืน เพื่อไม่ให้ราคาเสีย

วิธีดูสินค้าว่าอันไหนขายดี เช่น ในตลาดมีแบรนด์
Kiss
Kamart

ไปหายอดขายเดือนละเท่าไหร่
Inventoryเหลือเท่าไหร่
COGSเท่าไหร่
จะรู้ว่าinventory เหลือกี่เดือน จะได้รู้ว่าบริษัทไหนดี

3. M&A สอบถามcriteriaมีอย่างไรบ้าง และ หลังจากทำ มีแผน3-5ปีอย่างไร?
ตอบ ที่ลงทุนสอง-สามบริษัท โดดเด่นมาก ยอดขาย 1000 ลบกำไรหลังภาษี 25-30%
ปันผลเด่นชัด หนี้ไม่มีเลย โตแบบorganic เวลาโตเป็น 3-4000 ล้านก็มีโอกาส
การรักษาแชมป์ ต้องใช้เวลา
อายุผู้บริหาร 35ปี บวกลบนิดหน่อย ก็ดูดี
เรามีหน่วยงานกรรมการลงทุน ทำอยู่ทุกวัน วันๆคุยแต่M&A มีเงินทุนตั้งไว้แล้วเกือบสองพันลบ
ยึดนโยบายมีแต่เจ้าหนี้การค้าอย่างเดียว

4.อยากฟังสินค้า จะขยายสินค้าไปในทิศทางไหน?
ตอบ พึ่งออก opp day

5.
5.1 เป้ายอดขายถึงปี26 เป็นอย่างไรในต่างประเทศ?
ตอบ ปี22-24 อัตราโต ปีที่แล้ว 330 ปีนี้เกิน100ลบแล้ว ตปท โตเยอะ เช่นในตะวันออกกลาง
ซาอุ อิรัก คูเวต หรือ ไต้หวัน ก็ดี
Np 30-40 ลบแล้ว ถือว่าพอใจแล้ว

5.2 ที่ไปอาหรับ สินค้าเราเหมาะเอเชีย เกาหลี ทำไมไปต่อ อาหรับ ซาอุ สินค้าเหมือนกันไหม?
ตอบ วัฒนธรรมเริ่มเปลี่ยน เมื่อก่อนไม่ยอมให้ผู้หญิงเปิดหน้า ตอนนี้ยอมแล้ว เป็นความคิดส่วนตัวคุณวิวัฒน์
อิรัก อิหร่าน ซาอุ เปิดหน้าได้แล้ว

5.3 cosmetic ของคาร์มาร์ท ไม่เหมือนกับอาหรับ ที่เป็นแบบdark?
คุณกอล์ฟมาตอบเอง ว่าเราตั้งเป้า 410 ลบ ยุโรป
อาหรับเอง โดยรวม กระจาย body care,skin care , make up คิ้ว ตา
อาหรับมีพื้นผิวที่หลากหลาย สินค้าขายไปตามอาหรับ มีการผลิตแบบexclusiveด้วย
มีสินค้าบางอย่างในไทย ไม่เหมาะสม เลยออกแบบใหม่ให้เหมาะสม

5.4 งบR&D เราจะแฝงในหลายส่วนแต่ใช้ไม่เยอะ

5.5 ความคาดหวังในกำไร?
ตอบ ปีนี้ ปัจจุบันมี15 brand จำหน่ายอยู่ และขยายอีก 4แบรนด์ เพื่อlunch

5.6 สอบถามเรื่องรีฟิวเรอร์?
ตอบ การที่ใช้influencer เป็นฟีโนมีน่านีด
ผู้ถือหุ้นที่ตามเรามา จะรู้ ว่ามีไปใช้ในblack pink โดยเคยใช้สินค้าใน7-11
ใช้สินค้าแล้วดี กวาดหมดใน7-11 มีfan club ถ่ายและไปviral on social media
คุณวิวัฒน์เสริม KOL ที่เมืองนอก ไม่เหมือนไทย
ไทย 3-8 ล้านคน แต่ตปท 280-300 ล้านคน เราไม่มีเงินไปจ้างแต่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ
พูดเปิดเผยไม่ได้ เป็นเทคนิค ถ้าจ้างก็เป็นล้าน $
แต่เรามีความสามารถและเทคนิคบางประการ พูดและบอกไม่ได้เป็นมารยาท ต่อไป จะมีมากกว่านี้

5.7 คุณวงค์วิวัฒน์ที่จะมารับตำแหน่ง แทนคุณวิวัฒน์ ?
คุณกอล์ฟตอบว่า ผมsurprise พร้อมกับผู้ถือหุ้นด้วย รอวันเกิดของพ่อ คือ 18 มิย จะประกาศตำแหน่งอีกที
เรายังทีมงาน ที่ดูแลแยกกัน ถือว่าเป็นการรวมตัวของทีมงานผู้บริหาร และ ทีมบัญชี แวร์เฮ้าส์ที่ลงตัว

6. เป้ายอดขา 3250 ลบ รวม KMGI ไหม?
ตอบ ไม่รวม ปกติบอกคืองบเดี่ยว และ KMGI พึ่งตั้งต้นปี ต้องรออีกสัก 2-3 ไตรมาส
คงไม่ใช่เครืองสำอางอย่างเดียว ครึ่งนึงเป็นเครื่องสำอาง อีกครึ่งนึงเป็นสินค้าอย่างอื่น

7.ปีที่แล้ว การโฆษณาเยอะมาก คิดเป็นกี่%ในปีนี้?
ตอบ ก่อนหน้า ประมาณ 10% แต่ตัวเลขยอดขายโต เลยคิดว่า 6-7%
ปีที่แล้ว 250 ลบใช้ไป 160 ลบเอง
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2706
ผู้ติดตาม: 343

Re: Seminar Knowledge เรียนรู้การลงทุนผ่านการสัมมนา

โพสต์ที่ 220

โพสต์

ONEE AGM Q&A โดย น้องPae

U rate โฆษณาใน Q1 เรามีแนวโน้มเป็นยังไงบ้างเทียบ YoY ?
- ปีนี้Q1 เราก็พยายามทำให้ u rate อยู่ใกล้เคียงกัน และทำให้ราคาพยายามคงราคาไว้ rating Q1 เราทำได้ดี และแนวโน้ม Q2 rating ยังดีได้ต่อเนื่อง คาดว่าเรายังสามารถทำให้รายได้จาก tv advertising อยู่เท่าเดิมได้

เห็นrating ละครค่อนข้างดี อันนี้ถือว่าดีกว่าคาดไว้รึเปล่าครับ ? มีการปรับเรทโฆษณาขึ้นระหว่างทางแบบนี้ถ้าrating ดีขึ้นไปอีก เราจะสามารถปรับrate ได้อีกไหม มี rate การปรับอย่างไร ?
- Rating เราดีมากครับตอนนี้อันดับ 1 ทั้งสอง slot ละครหลังข่าว ภาพรวมของtv industry นี่ไม่ดี แต่ผลของ ratingที่ดี ทำให้เราสามารถสวนกระแส่รายได้ของ อุตสหกรรมในประเทศไทยได้ แต่ว่าผลของ rating ที่ดีไม่ได้ส่งผลแค่ใน TV อย่างเดียว ใน social media ต่างๆ เรามีกระแส่ที่ดี ทั้งยอดview และ watch time ที่สูงขึ้นในทุก platform

ในปีที่แล้วมีเหตุการณ์/event ไหนที่เกิดขึ้นช่วงคราวทำให้การดำเนินงานของเรานั้นไม่smooth อย่างที่คิด แล้วปีนี้คาดว่าจะพบปัญหาอะไรที่ challenging ไหมครับ ?
- ปีที่แล้วก็มีทั้งการเมืองและเรื่องของทั่วโลกด้วย
- ในปีนี้ปัจจัยสำคัญของปีนี้ ยังมองเป็น ภาระเศรษฐกิจโลก และภาวะสงครามกับภัยธรรมชาติ

รายได้ในส่วน TV advertising นี่ GPM อยู่ที่ประมาณกี่ % ครับ? อยากเสนอให้ทางบริษัท breakdown GPM by product ในงบหรือคำอธิบายด้วยครับ
- จริงๆแล้วในส่วนของแต่ล่ะธุรกิจ GPM จะต่างไป แล้วขึ้นอยู่กับ contents ที่ออกแต่ล่ะช่วงด้วย ค่อนข้างจะ vary 30-50% ขึ้นอยู่กับ contents ไหนช่วงเวลาไหน โดยทั่วๆไปจะอยู่ที่ 30-50% เป็นต้นไป

ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ปีนี้กี่ % ?
- 5-10% การเติบโตจะอยู่ใน online, event media concert, artist management

รายได้ของ BU ใหญ่ๆ ในแต่ล่ะส่วนจะเติบโตกี่ % ?
- Advertising จากทีวีเราจะพยายามให้อยู่ประมาณเดิม ถ้าเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว

Highlight ของปีนี้อยู่ที่อะไรบ้าง ?
- เป็นตามความถนัดของแต่ล่ะกลุ่มของเราที่ผลิตกันขึ้นมา ถ้าเป็น boy love/girl love เพิ่มปริมาณขึ้น โอกาสประสบความสำเร็จก็เพิ่มไปด้วย ตอนนี้ที่ประกาศไป 3 เรื่อง เรื่องที่ออกอาการอยู่ตอนนี้ก็ได้รับกระแส่ที่ดี เมื่อวันก่อนพึ่งแถลงข่าว 6 เรื่อง ทั้งboy/girl love และละครปกติ ที่ตื่นต้นกันมากคือ pit babe และ กำลังทำpit babe 2 กันอยู่.
- ในส่วนของ ONED original ก็จะออกมาเรื่องบางกอกทานิกา ในเดือนพฤษภาคมนี้ เป็นตัวที่สร้างความใหม่ให้กับวงการ entertrainment ของไทย

บริษัทมีแนวทางผลิตภาพยนต์ปีล่ะกี่เรื่อง
- เราไม่ได้ทำหนังเป็นหลัก เราทำ series และละครเป็นหลัก ถ้าเป็นภาพยนต์ไปทาง GDH จะตรงกว่า ถ้าเราทำภาพยนต์คือการที่ make use of artist ของเรา แต่หากเรามองเห็นโอกาสเราก็จะทำครับ ถ้าในเรื่องความถนัดของภาพยนต์นี่คงไม่ใช่ธุรกิจหลักของเรา

รายได้ที่ได้จากภาพยนต์ oned, otp platform. ให้อธิบายกำไรในแต่ล่ะช่องน้ำหนัก
- Commercial deal แตกต่างกัน cost แต่ล่ะช่องทางก็จะแตกต่างกัน
- การผลิต content หนึ่งเรื่องเราก็จะพยายามให้ on ในทุก platform โดยผ่าน partner โดย model แต่ล่ะ platform จะไม่เหมือนกัน ถ้าเป็น scripted contents จะอยู่ที่ 30-50% GPM โดย avg ของเรื่องที่ทำปีที่แล้วจะอยู่ประมาณ 40%

Media intelligence คาดการ์ณ tv digital หดตัว 5% ต่อปี ความเสี่ยงในเรื่องนี้บริษัทจะหารายได้ชดเชยอย่างใด ?
- เราทำทุกอย่างไม่ใช่แค่ digital tv กลยูทธ์หลักของเราเป็น content creator

เรามีความเสี่ยงเสียบุคลากรสำคัญให้กับคู่แข่งอย่างไร ?
- ต้องมีความสุขในการทำงานของเรา เราต้องส่งเสริมให้เค้า successful ในช่องทางการทำงานของเค้าเช่นกัน ทั้งความสุขและรายได้

ขอเสนอแนะให้ทางช่องทำcontent อื่นหลังข่าว แทนละครที่ตบตีกัน ยกตัวอย่างหนัง Gran Turismo
- จะรับไว้พิจรณา
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2706
ผู้ติดตาม: 343

Re: Seminar Knowledge เรียนรู้การลงทุนผ่านการสัมมนา

โพสต์ที่ 221

โพสต์

Company Visit SIS (บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ) 3 May 2024

วันนี้ได้มีโอกาสมาเยือนSIS อีกครั้ง หลังจากเคยสัมภาษณ์คุณสมชัยที่ทิสโก้เมื่อ กค ปีที่แล้ว
วันนี้มาฟังคุณสมชัยและทีมงานคุยถึงธุรกิจในปีที่ผ่านมา และแผนงานปีนี้

วิทยากร
คุณสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ
คุณสุวาทิพย์ พรสุวรรณนภา ผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน
คุณนพคุณ วิศิษฐ์รัฐกุล ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจ Cloud

ขอเกริ่นนำธุรกิจของบริษัทอีกรอบสำหรับคนที่พึ่งเข้ามาศึกษาบริษัทนี้
บริษัทจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ปี 2004 เพราะเงินไม่พอ / working cap ใช้เพิ่มขึ้นตามยอดขาย
(เพราะ credit ที่ได้จาก supplier เดือนเดียว / กว่าจะได้เงินจากdealer 2เดือน มาจาก ของในstock ก็1เดือน/ ลูกหนี้กว่าจะจ่ายอีก1เดือน)

บริษัทแบ่งสินค้าที่ขายเป็นกลุ่ม Volume ซึ่งยอดขายได้เรื่อยๆ margin ไม่สูง จะมี Consumer,Phone,Commercial
ส่วน กลุ่มValue จะมีmarginสูง เพราะเป็นสินค้าใหม่ตอบสนองลูกค้า แต่มีความเสี่ยงอาจไม่ติดตลาด
ได้แก่ กลุ่ม Valued Added , Others ซึ่งตอนนี้กำไรเกิน50%แล้วของกำไรทั้งหมด ล่าสุดเป็น54%

เล่าต่อถึง สินค้าของบริษัท แบ่งออกเป็น5BU เทียบปี 2566 กับ 2565 คือ
1.Consumer ยอดขาย 31% ลดจาก 32% , GP คิดเป็น 22% ลดจาก 25%ของGPทั้งหมด , margin 4-5%
2.Phone ยอดขาย 15% ลดจาก 22% , GP คิดเป็น 6% ลดจาก 14%ของGPทั้งหมด, margin 3-8% ยอดขาย
3.Commercial ยอดขาย 28% เพิ่มจาก 25% เลิกWFH ทำให้ต้องมีอุปกรณ์ITใช้
แต่GP 18% ลดจาก 20%ของGPทั้งหมด, margin 4-5%
4.Value Added ยอดขาย 17% เพิ่มจาก 14% แต่GP คิดเป็น29% เพิ่มจาก 21%ของGPทั้งหมด , margin 10-15%
5.Others ยอดขาย 9%เพิ่มจาก 7% แต่GP คิดเป็น25%เพิ่มจาก 20%ของGPทั้งหมด

สรุป ยอดขายของ Commercial , Value Added , Others ปีที่แล้วปรับเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับอีกสองส่วนที่ลดลง เช่น Consumer,Phone
แต่ถ้าเป็น GP ที่ปรับเพิ่มสัดส่วนมากขึ้น ได้แก่ Valued Added , Others และคิดเป็นสัดส่วนของสองธุรกิจเท่ากับ 54%แล้ว

รายได้ปี2566 ชะลอตัวจากปี 2565 เล็กน้อย เป็น 27,647 ลบ แบ่งเป็น volume 20,573 ลบ , Value 7,074 ลบ
กำไรสุทธิ สินค้าVolume 886 ลบ และสินค้าValue 1,047 ลบ รวม 1,933 ลบ มากกว่าปีที่แล้ว 1,906 ลบ
แสดงว่าบริษัทมาถูกทางแล้ว ยอดขายอาจไม่โต แต่กำไรดีกว่าปี2565
สินค้าที่ขาย ปีนี้น่าจะเหนื่อยอีกปี สินค้า commercial,consumer ปลายปีน่าจะผลดี งบรัฐบาลออก , digital wallet

สินค้าใหม่ของปีทีแล้ว
- Microsoft Azure, Microsoft 365 ,Microsoft Dynamic 365 บริษัทเคยจะนำ Thoughtspot data analyticมาขาย ทดลองใช้
ในบริษัทง่าย แต่ขายยาก สุดท้ายก็ไม่ได้ขาย เอาMSมาขายแทน
- 3CX SW IP PBX เป็นระบบสื่อสารครบวงจร
- LG Display LCD,LED ขนาดเล็ก และ ขนาดใหญ่ สำหรับห้องประชุม คุณสมชัยเล่าว่าหลังจากเปิดเมืองก็ขายได้เยอะ
- Wasabi cloud storage
- Neat ผู้ผลิต Video conference
- Crowdstrike บริการด้าน Cybersecurity
- Docusign ผู้ผลิตSW ด้านelectronic agreement
- Longi บริษัทด้านพลังงานทดแทน จากจีน อันดับหนึ่งด้าน Solar PV Module
- Huawei บริษัทด้านพลังงานทดแทน จากจีน อันดับหนึ่งด้าน String Inverter สำหรับ Solar power

โครงสร้างการจัดจำหน่ายในอุตสาหกรรม IT มี3แบบ
1. Direct จากผู้ผลิตถึงผู้บริโภคเลย
2. One-Tier จากผู้ผลิตผ่าน Reseller และขายให้ผู้ผลิต
3. Two-Tier เพิ่มจากOne-Tier โดยมี Distributor รับสินค้าจากผู้ผลิตมาขายให้Reseller อีกที ซึ่งลดงานของผู้ผลิตได้เยอะ
ส่วนreseller ก็ลดเรื่องเอกสาร การstock สินค้า การบริหารอัตราแลกเปลี่ยนได้เยอะ มีAdvice ที่เคยใช้one tier แล้วขั้นตอนเยอะ
ต้องจ่ายสด เลยหันมาใช้บริการแบบTwo Tier สั่งสินค้าจากSIS แทน ได้เครดิต 7x วัน ชอบแบบนี้มากกว่า
ซึ่งSIS ก็อยู่ในแบบที่3

Vendor หรือ ผู้ผลิต
1.Dell โตมาจากขายตรง กับผู้บริโภค ที่US ลูกค้าสั่งจากwebsite แล้วส่งให้ แต่มาใช้กับในไทย
ลูกค้าเยอะ ดูแลไม่ไหว เลยให้distributorช่วยขาย (commercial ก็ร่วมมือกับresellerเพื่อยื่นbid project) ขายonlineไม่เยอะ
2.HP ลูกค้าอยากสั่งตรง ก็มีoutsourceให้distributorทำให้ ส่วนขายonlineยอดไม่ถึง1%
3.IBM เมื่อก่อนลูกค้าซื้อ Mini computer ต้องจ่ายเป็น$ และทำเรื่องนำเข้าสินค้าเอง

อุปสรรค และ ความเสี่ยง
1.การหดตัวของ device/server
2.การconsolidate ของช่องทาง retail ที่อาจเหลือแค่รายใหญ่ อำนาจต่อรองสูงขึ้น
3.อาจเกิดการเปลี่ยนกลยุทธ์ด้านช่องทางของVendorใหญ่ในการขายตรงเข้าReseller
4.อัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน กระทบกำไรได้มาก เพราะอัตรากำไรธุรกิจต่ำ

คุณสุวาทิพย์ เล่าว่า ได้เปลี่ยนแปลงการซื้อ$ จากเมื่อก่อน มีPO มาก็ซื้อเลย ซึ่งได้ประโยชน์แค่
$ขาขึ้นอย่างเดียว มาเป็น การซื้อ$ในปริมาณไม่เกินที่ใช้4 เดือน โดยมีหลักเกณฑ์
ดอกเบี้ยของการฝาก$ 5% มากกว่า อัตราเงินกู้ ซึ่งตอนนี้เข้าเงื่อนไข
มีการซื้อforward ไว้ ล่วงหน้า 1 เดือน แล้ว มาดูPO แต่ละครั้ง
ถ้า spot rate ถูกกว่า ก็ซื้อและเอาไปจ่าย vendor
ถ้า spot rate แพงกว่า ก็เอาforwardมาจ่ายแทน และ ซื้อกลับคืนมาเป็นBufferในเดือนหน้า
ซึ่งต่างกับ อีกเจ้าที่จะบอกPM เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนให้สูงกว่า BOT rate ทำให้ดูมีกำไรจากexchange
เวลาซื้อ ก็มีdeal 4-5 ธนาคาร เลือกที่ให้ดีสุด
แต่ข้อเสียคือราคาที่เสนอไป จะสูงกว่าปกติ อาจประมูลไม่ได้

5. GP ต่ำ การบริหารต้องไม่ผิดพลาด
6. การแข่งขัน ที่อาจกระทบต่อกำไรได้มาก
7. การเปลี่ยนHWไปยัง SW/Service ที่ distributor เข้าไปมีส่วนได้ยากขึ้น
8. รับภาระหนี้เสีย สินค้าเสื่อมสภาพจากการมีลูกหนี้การค้า สินค้าคงคลังล้าสมัย มูลค่าสูง

โอกาส
1.มีการเกิดของเทคโนโลยีใหม่ ต่อเนื่อง เช่น Data analytic/AI , Cloud , Renewable Energy
2.อุตสาหกรรมเทคโนโลยี ที่เติบโต
3. การสนับสนุนของรัฐบาล สินค้าIT เก็บภาษี 0% แต่อินโด มาเลย์ มีเก็บภาษี
4. Reseller / SI จดเบียนในตลท มากขึ้น เช่น Advice , Tera ขยายธุรกิจได้เร็วขึ้น ลดความเสี่ยงด้านลูกหนี้
ที่ชอบมาก คือ คุณสมชัยบอกว่า ดูงบได้ทุกไตรมาส จากเมื่อก่อน เขาให้ดูแค่ปีละครั้ง ช่วยลดความเสี่ยงไปเยอะ
5. เป็นธุรกิจลงทุนสูง กำไรต่ำ ไม่มีคู่แข่งใหม่อยากเข้ามา

จุดอ่อน/ความเสี่ยง
1.การเป็น Local distributor
1.1 สินค้าที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น distributor แบบ regional/global
1.2 การได้รับการสนับสนุนแบบกลุ่ม
1.3 การshare resource / ระบ
2.มีสินค้ากลุ่ม DIY/Component น้อย และ ขยายได้ยาก

จุดแข็ง
1.ความคล่องตัวในการปรับ / เปลี่ยน
2.การมีช่องทางที่ขยายตัว / ครอบคลุม โดยเฉพาะสำหรับ SMB
3. การมีสินค้าแข็งแรงทั้ง3ช่วง ที่ทำให้ธุรกิจต่อเนื่อง
Introduction : SaaS , EM ,Cloud
Growth : AV , MA , S&HA ,V-added
Maturity : Phone , Commercial , Consumer
Decline : ยังไม่มี

4. Cloud shift และ การเข้าธุรกิจCloudก่อนคู่แข่ง ตอนนี้ SIS นำไปไกลพอสมควรแล้ว แต่มีการแย่งบุคลากรกัน
ทำให้ต้องสร้างแรงจูงใจ เพิ่มเงินเดือนให้
5. การแบ่งเป็น BU ที่เปิดให้แตกต่างช่วยด้าน Focus และ สร้างบุคลากร แต่ยุ่งยากในการallocate cost
6.การมี process และ ระบบที่ดี ช่วยเพิ่ม ปสภ ขยายงานได้ง่าย

ธุรกิจที่คาดหวังจะเติบโตนอกจากCloud แล้ว อีกสินค้า คือ Solar Cell ซึ่งการขายไฟแบ่งออกเป็น 3 segment
1.ขายไฟ ส่วนนี้ไม่ต้องการเข้าไปยุ่ง เพราะมีเจ้าตลาด Gulf ตลาดไม่โต มีโอกาสขาดทุนจากการbid แข่งกัน
2.Commercial & Industrial โตดีกว่า
3.Residentail ติดไฟใช้ในบ้าน ลงทุน200,000 บาท
เราใช้sales ที่ติดกล้องไปทำ เพราะพวกนี้เคยติดจานดาวเทียมแล้ว ปีนเก่ง
กรมพัฒนาพลังงานทดแทน มาช่วยลดต้นทุน โดยสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ไม่เกิน 200,000
BOT มีนโยบายช่วยเหลือผ่านธนาคาร ให้กู้เงินไปติดsolar แต่ก็มีเงื่อนไขยุ่งยาก SIS เตรียมคนไปดีลกับธนาคารให้ลูกค้าที่อยากติด

ขอจบในส่วนสรุป ส่วนถามตอบ ก็มีรวมอยู่ในนี้บ้าง คงมีเพื่อนๆที่มาในงานเขียนเสริม Q&A
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2706
ผู้ติดตาม: 343

Re: Seminar Knowledge เรียนรู้การลงทุนผ่านการสัมมนา

โพสต์ที่ 222

โพสต์

Tisco Exclusive talk
NEO
แนวโน้มกำไร 2Q24 ได้ไปต่อ ล่าสุดยอดขาย 2QTD โตในอัตราสองหลักได้ตามเป้า

ผบห.ตั้งเป้ารายได้ปี 2024 โตในอัตราสองหลัก ไม่ต่ำกว่า 10% ระยะสั้น คาดรายได้ 2Q24 จะโตในอัตราสองหลักได้ตามเป้า (1Q24 +8.5% y-y) โดยยังมาจากสินค้าทั้ง 3 กลุ่มหลัก โดยเฉพาะ Personal care (กลุ่มความหอมขายดีในช่วงหน้าร้อน) และกลุ่มของใช้เด็กและผู้สูงอายุ ขายดีต่อเนื่อง เพราะมีการออกสินค้ากลุ่มใหม่ Siverage (เจาะกลุ่มผู้สูงอายุที่มีเงิน) ซึ่งเป็นตลาดใหม่ ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
(เห็นสินค้าเอามาโชว์ด้วย)
แนวโน้มอัตรากำไรขั้น 2Q24 ยังทรงสูงต่อเนื่องจาก 1Q24 ที่ระดับ 46% ด้วยผลของ Product Mix (เราคาดว่าเพราะสินค้าใหม่ที่มาร์จิ้นสูงด้วย) ขณะที่ภาพรวมวัตถุดิบยังทรงตัว q-q

เบื้องต้นคาดกำไร 2Q24 น่าจะยังปรับขึ้นต่อ q-q และจะโตสูง y-y เพราะฐานต่ำมากปีก่อน

GP ดีขึ้นจาก
1.product mixส่วนเพิ่ม
Baby kid,personal care
2.ต้นทุนวัตถุดิบลดลง
ลดการใช้พลาสติกลง

Q&A

1.ส่งออกไปต่างประเทศลดลงในQ1?

เพราะเวียดนาม q1 2023สั่งเยอะจากไม่มีโควิดแล้ว
ทำให้Y Y 22-23 ส่งออกลดลง

2.GPดีขึ้นจากเหตุผลข้างบนคือ

1.product mixส่วนเพิ่ม
Baby kid,personal care
2.ต้นทุนวัตถุดิบลดลง
ลดการใช้พลาสติกลง

3.การไปตปท กลัวคู่แข่งในแต่แต่ละประเทศไหม?

สินค้าไทยมีคุณภาพสูง ลูกค้ายินดีจ่าย

4.Seasonalไม่ค่อยมี
ยกเว้น น้ำยารีดผ้าช่วงเปิดเทอมขายดี

5.ราคาน้ำมันปาร์มปรับตัวขึ้นส่งผลต่อGP?

ปัจจุบันปรับตัวลงต่ำกว่าปีที่แล้ว

6.Silverageสร้สงยอดขายอย่างไร?

เป็นสินค้าpremium มีpotential มาก

7.personal careมาจากliquit soap
และอีกกลุ่มเช่นทรอส

8.อนาคตโพกัสแบรนด์หรือเพิ่มแบรนด์ใหม่?
บริษัทอยู่ในเฟสไหน?

อายุวัดจากนวัตกรรมแบะvisionมากกว่า
เราอายุ30ถือว่าน้อยแต่อยู่ในลำดับ1,2
เคยทำผิดแล้วมีlearning curveแล้วกลับมาทำได้อีก
การสร้างแบรนด์นึงใช้เงินมหาศาล
บางทีออกสินค้าใหม่ใช่ชื่อเดินเล่น
เรามี8brandแล้ว แต่ก็มีโอกาสออกแบรนด์อยู่ที่โอกาส

9.buyerมาจากสามประเทศ
ตอนที่เสนอมีมากกว่านี้
แต่จากการพูดคุยกับpartnerเหล่านี้แล้วเลือกตามcriteriaของเรา

10.กลยุทธ์ในการเติบโตบอกไม่ได้
แต่เราก็แข่งกับglobalจนได้ลำดับสอง

11.การขยายกำลังการผลิตเกือบเท่าตัวมีเหตุผลอะไร?

Household เราขยาย liquid detergent

ส่วนคำถามเรื่อง Esopเราทำแค่ครั้งเดียว

12.silverage เราศึกษามานาน ทุกอย่างในร่างกายเราsensitive และลูกค้าเคยใช้สินค้าเด็กมาแล้ว
เราออก Deny delux ขึ้นมา

13.ทีมเรามีประสบการณ์ยาวนาน มีโฟกัสกรุ๊ปอยู่
เราใช้Houseต่างๆซึ่งรู้ว่าทำอะไรและเลือกสินค้าตรงกับHouse
ส่วนคู่แข่งIP1ขอไม่พูดถึง

14.เอเวอร์เซนต์ โคโลญ ไม่ใช่ของใหม่ มีกินมีใช้
ดารา น้องโบ เมลดาดังมาก ผสม3กลิ่นออกมาเป็นกลิ่นหอม

ลูกค้าเข้าใจ แต่เมื่อ15ปีก่อนเคยออกมาแต่ไม่work

15.มีเป้าหมายทางการเงินอย่างไร?
GP,NP,DE,ROE?

Gpพยายามให้เพิ่มขึ้นปีนี้ได้46% และq2น่าจะเท่าq1
NP 11%พยายามmaintain
ROE,ROA พยายามใช้assetคุ้มตอบแทนผู้ถือหุ้น
DE พยายามให้อยู่ในเงื่อนไขการชำระเงิน 1กว่าๆเท่า

16.การขยายกำลังการผลิต ขอทราบตัดค่าเสื่อมกี่ปี?

ค่าเสื่อมอาคารตัด30ปี ค่าเสื่อมเครื่องจักร12ปี
เราคงจำนวนผู้ร่วมงานมา5ปีมีประสบการณ์มากขึ้น

แต่ละอาคารขนาดพื้นที่ 12,000-15,000ตรม

17.สินค้าจะไม่ค่อยผ่านคนเพื่อไม่ให้สินค้าช้ำ
ใช้automationเพื่อลดการสัมผัส

#NEO
1000033671.jpg
1000033672.jpg
1000033670.jpg
1000033668.jpg
1000033669.jpg
1000033667.jpg
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2706
ผู้ติดตาม: 343

Re: Seminar Knowledge เรียนรู้การลงทุนผ่านการสัมมนา

โพสต์ที่ 223

โพสต์

JCK กำไรQ1 400 ลบ จากการขายที่ดินเทียบY Y
Q1 66 ขาดทุน11ลบ

บริษัท มีแผนขายWarehouseและโรงงาน1,000ลบเข้ากองTIF1
Occupancy ประมาณ99% ช่วงกค 67
1000033682.jpg
1000033684.jpg
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2706
ผู้ติดตาม: 343

Re: Seminar Knowledge เรียนรู้การลงทุนผ่านการสัมมนา

โพสต์ที่ 224

โพสต์

CV ILINK 28 May 67 9.30
คุณสมบัติ มาพูดถึง กลุ่ม ilink ซึ่งupdateล่าสุดดังรูป

ตอนจบป ตรี คิดว่า ปรัญชาของการตั้งบริษัท คือ นำเทคโนโลยีมาพัฒนาประเทศไทย
ต้องการให้บริษัท เติบโต ต่อเนื่อง และ ยั่งยืน
สินค้าต้องมีคุณภาพ ราคาถูกกว่า และบริการที่ดีกว่า

๐Quality Growth
Revenue พยายามเน้นไม่ให้ขยายยอดขายแต่กำไรขาดทุน
ดังนั้นมาเน้นกำไรดีกว่า
คุณหญิงชฏาเน้นบอกคุณสมบัติว่า เน้นกำไรดีกว่า ยอดขาย จะสังเกตเห็นกว่ากำไรเติบโตดี
ถึงยอดขายเพิ่มไม่มาก ประมาณ 2,800 ลบ ถือเป็น recurring อย่างแท้จริง
วันไหนที่ธุรกิจ distributionลดลงมาว่าคุณสมบัติได้เลย
แต่ถ้าสถานการณ์ไม่เอื้อ เช่น ช่วงโควิด ก็ยังยอดขายไม่ตก
Net profit สวน Engineering ลดลงอย่างมากในปี2020 และพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้น
ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่าง Distribution,engineering,Telecom ทำให้NPโตสม่ำเสมอ
ถึงแม้รายได้ไม่ได้โตมากนัก (15%)

PE ลดลงจากปี2019 ส่วนกำไรต่อหุ้น ทยอยปรับขึ้นตั้งแต่ปี2019
ที่ดีต่อใจสำหรับผู้ถือหุ้น คือ Dividend yield ปรับมาตลอดจาก 0.7% มาที่ 5%ในปี2021
หลังจากนั้น เริ่มปรับลดลงในปี2022 และปิดปี2023 5.4%

รายได้ปีนี้ ทั้งกลุ่ม 7,002 MB โต 9% และกำไรโตไม่น้อยกว่า9%(630ลบ)
ถ้ารวมBlue solution 7,702 MB กำไร 693 MB
From มาจาก
๐ ILINK 3,000 MB >= 40%.
๐ IPOWER :Turnkey Engineering business 1,212 MB เราบริหารไม่ให้เกิน20%
๐ ITEL : Telecom & Data Center Business >= 40%. = 2,790 MB
ซึ่งขึ้นกับการบริหารจัดการ ที่กล่าวมาข้างต้น

Sustainablility of Cabling Distribution business
1.Market Dominance and Exclusivity
สินค้าของlinkจะอยู่ในบ้านแต่ละคนแน่ เวลาไปไหว้พระ เที่ยวสวนสนุก ก็เจอสายLan ตู้Rackของเรา
ไปต่างประเทศ ที่ตม ก็เห็นสายLanของเรา ตลาดยอมรับแบรนด์Linkของเรา
2.Cost Management and pricing
เราร่วมกับlinkอเมริกา ต่อรองราคา เขาตั้งExclusiveให้เราในตลาดเอเซีย เราเจรจาเมื่อ30ปีที่แล้ว
ขออย่างเดียว เอาbrand linkมาจดเครื่องการค้าในไทย เขาให้เพราะไม่มีตลาดในเอเชียเลย
ถ้าเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่สามารถเอาแบรนด์นี้ไปจากเราได้ เรากำหนดprice list จากการเรียนรู้มาเยอะ
กลไกการสร้างราคา เราเผื่อ20%ไว้แล้ว ถึงแม้ต้นทุนปรับ
เราจ่ายค่า Fee 0.25% จากยอดการสั่งซื้อทั้งหมด โดยจ่ายให้ link asia เพื่อไปต่อcertificateให้เรา
3.Market growth and future potentail
4.Long term business foundations
5.Strategic Potential for Expansion
ตลาดต่างประเทศ ถ้าไปก็วางรากฐาน เก็บกินไปเรื่อยๆ

2024’ Growth Driven Factor :
Technological Advancements
Solar Energy Policy
New Product Launches

สัดส่วนรายได้ ตามรูปที่แนบ
Lan systems 43.70%
Fiber systems 11.15%
Solar system 10.36%
19”Rack systems 12.92%

จะเห็นสัดส่วนการเปลี่ยนแปลงชองสินค้า เรามีสินค้าใหม่ออกมา
สินค้า super s series ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น
Solar cable

ในอดีต สายLan ยอดดขายเพิ่มขึ้น และกำไรดีมากๆ GP ไม่น้อยกว่า 25%
สาย fiber optic ดูกำไรไม่ค่อยโต
สาย FTTx/FTTR operator เมื่อก่อนซื้อมาติดตั้งตามท้องถนน ตอนนี้มีสินค้าใช้ในบ้าน (Residential)
ยังไม่เป็นBusiness. แต่ละห้องของResidential ถ้าต้องการ จะเอาFTTRไปติดตั้ง และอยากใช้ค่ายไหน
True , AIS ก็สามารถเรียกแต่ละเจ้ามาplugกับระบบได้เลย ไม่ต้องมาเดินสาย
บ้านสมัยใหม่ fiber optic to the room ในusเปิดตัว กพ คนสั่งจองเต็มแต่volumeไม่เยอะ
ต่อไปในไทย operator จะมาplugหน้าบ้าน ไม่ต้องเดินสายเข้าบ้าน

๐ เวลาเอาสายไฟเบอร์ลงใต้ดิน จะสั่งจากจีน ไม่ได้สั่งจากเรา เราเลยไม่ได้สนใจตลาดนี้เลย
เคยมีเจ้าจากจีน มาเสนอ เราไม่สนใจ เพราะ เราอยากขายสินค้าที่มีแบรนด์
๐ 2021 ที่รายได้ขายสายไฟเพิ่มแต่กำไรลดลง พี่สมบัติ คิดว่า ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับราคาทองแดง
แต่เป็นไปได้ว่าผลมาจากทองแดงจริงๆ หลังจากนั้นได้บทเรียนเพื่อปรับปรุง และปี2023 กำไรก็โตมาก

คุณสมบัติ วิเคราะห์ให้ฟังว่ายอดขาย telephone ถึงแม้น้อย แต่กำไรพอๆกับ FTTXเลย
สายSolar กำไรยังน้อยกว่าสายแลนแต่มีโอกาสโตอีกมาก
สาย security&Control เช่นสายไฟalarm ปีที่แล้ว รายได้เริ่มแซงCoaxialแล้ว กำไร ก็มากกว่าแล้ว
รวมถึงการควบคุมเครื่องจักร เรานำสายตัวนี้เข้ามาลองตลาด (Lissy)
Networking กำไรดูโดดเด่น ตั้งแต่ปี2019จนถึงปัจจุบัน
ตู้เยอรมัน Rack เราไปถือหุ้น10%เพื่อขายให้เราเจ้าเดียว
สินค้าComscope เป็นknowhow แต่กำไรไม่เยอะ

๐ สายsolar คู่แข่งในไทย คือ ไทยยาซากิ ที่ตปท มีแบรนด์ยุโรป ซึ่งlinkเป็นUS
ยอดขายเพิ่ม100%ทุกปี ลูกค้าใช้อยู่แล้ว ผู้รับเหมาซื้อสายlan,fiberอยู่แล้ว ก็ซื้ออย่างอื่นกับเราด้วย
สายcontrol ,ไฟalarm ซึ่งกลุ่มลูกค้าเดิมแต่เราเพิ่มproductไป
เรารับประกัน30ปี คู่แข่งรับประกัน 25ปี

ตลาดสายlanเมื่อก่อน อยู่ที่ระบบคอมพิวเตอร์ ตอนหลังตลาดมาอยู่กล้องวงจรปิด
และAccess point ตอนนี้มีAIเข้ามาช่วยด้วย ต้องใช้สายLANรุ่นใหม่ CAT6A,7
ซึ่งรุ่นเก่าไม่รองรับ

๐ สายsolar ต้นทุนหลักคือทองแดง ราคาไปไกลมาก ถ้าราคาทองแดงลงเราก็ต้องปรับราคาลง
เราเป็นธุรกิจ distribution เราขายเขาไป และเขาไปขายต่อ เรามีprice list และ มีส่วนลด
ขึ้นกับเราต้องการกำไรเท่าไหร่ ขึ้นกับต้นทุน ดังนั้น เราเคยลดให้30% ถ้าทองแดงขึ้น10% เราก้
ลดเหลือ20% ทุกคนก็มีความสุข ราคาขายก็เท่าเดิม ขายให้ลูกค้า แต่อาจเพิ่มในส่วนอื่นแทนกับลูกค้า

Target 2024

Turnkey Engineering
เราเป็นที่ยอมรับของหน่วยงานภาครัฐ เรามองว่า งานเป็นเทคโนโลยีไหม financial ต้องstrongจ่ายเงินผู้รับเหมาได้ เอา บทเรียนมาปรับปรุง และรายได้ไม่เกิน 20%ของกลุ่ม
๐ Submarine cable 115 KV เกาะสมุย 1,812 MB ในQ4
๐ Underground พิจิตรน่าจะมา Q3
๐ Power Substation 144 MมาQ2 รอได้ค่อยแจ้งตลาด
๐ Transmission line project
Telecom& Data center
ผู้บริหารเป็น leadership เรามีประสบการณ์ที่สะสมมาจากบริษัทแม่ ก้าวเดินพลาดน้อยมาก
คุณเก็ต ยังมีคุณสมบัติ คุณวริศษา ไปควบคุมในเชิงนโยบาย
ธุรกิจ มีinnovation ทำdrone
ธุรกิจ data center มีการเติบโตเยอะ เวลาบริษัทยักษ์ต่างประเทศ มาลงทุนdatacenter
ทางตรง ขายสินค้า ทางอ้อม ใช้สินค้าเรา
1.โครงข่าย Fiber optic —-> recurring income 1462
2.project installatio 1187 MB
3.data center 97 MB

Backlog 3,529 MB
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2706
ผู้ติดตาม: 343

Re: Seminar Knowledge เรียนรู้การลงทุนผ่านการสัมมนา

โพสต์ที่ 225

โพสต์

บทเรียนการลงทุนต่างประเทศกลุ่มCentral
ในยุค คุณทศ จิราธิวัฒน์
จากหนังสือ Future Crisis 12บทเรียนสร้างอนาคตจากวิกฤต ของธุรกิจไทย

คุณทศเล่าว่า ตระกูลจิราธิวัฒน์สานธุรกิจมา3รุ่นรวม76ปี รับไม้ต่อเมื่อปี2556

วิกฤตครั้งแรก ปี2538 ไฟไหม้ห้างCentralสาขาชิดลมซึ่งถือว่าเป็น เรือธงของกลุ่ม แต่ได้ข้อคิดจากพ่อตาว่า
ปิดชั่วคราว แต่ไม่ได้หมายความว่าลูกค้าจะหายไปไหน
ถือโอกาสปรับปรุงห้างให้ทันสมัยขึ้น

ครั้งที่2ช่วงต้มยำกุ้ง เราต้องขายสินทรัพย์ออกไปค่อนข้างมาก เช่น Starbuck,BigC

แต่ก็เป็นโอกาสดีที่เป็นการกลับมาfocusธุรกิจหลักและบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภ่พมากขึ้น

ครั้งที่3คือช่วงโควิด ทุกวิกฤตก็มีโอกาส
เราผ่านมาสองครั้งเลยไม่เศร้า ไม่กลัว
เรามีวินัยการเงินที่ดีขึ้นเลยกระทบน้อย

บริษัทในกลุ่มเช่น CPN ช่วงแรกก็ให้มืออาชีพมาบริหารเช่น คุณปรีชา เอกคุณากูล
พอเกษียณก็มีคุณวัลยา จิราธิวัฒน์มารับช่วงต่อ ส่วนCRC ก็มีคุณญนน์ โภคทรัพย์เป็นซีอีโอ. มีคุณวิโรจน์ ภู่ตระกูล เป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญครอบครัว

ส่วนธุรกิจในต่างประเทศ
อินโดนีเซีย เปิดสาขาเดียวไปต่อยากเพร่ะมียักษ์ใหญ่หลายแห่งและทำธุรกิจทุกอย่าง

จีน ขนาดใหญ่ ผู้เล่นมาก ไม่มีใครชนะ

มาเลเซีย ก็มีข้อติดขัดมาก

เวียดนาม ขั้นตอนดำเนินงานนานกว่าไทย
แต่น่าสนใจเพราะอนาคตอาจแซงไทย

ยุโรป กระเเสโลกเปลี่ยนมาสนใจ
แบรนด์เนมมากขึ้น เราซื้อห้างในอตาลี
เข้าสู่ luxury business
1000046087.jpg
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2706
ผู้ติดตาม: 343

Re: Seminar Knowledge เรียนรู้การลงทุนผ่านการสัมมนา

โพสต์ที่ 226

โพสต์

Theme Company Visit หุ้นกลุ่มตระกูล J Family by ThaiVi x Pi
บริษัท เจ เอ็ม ที เน็คเวอร์ค เซอร์วิสเซ๊ส จำกัด (มหาชน) (JMT Network)
ผู้บริหารที่มาให้ข้อมูล:
1.คุณ สุทธิรักษ์ ตรัยชิระอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็คเวอร์ค เซอร์วิสเซ๊ส จำกัด (มหาชน)
2. คุณ Panya Chutisiriwong Chief Investor Relations Officer Jaymart Group

JMT Network Service :

คุณ Panya ให้ข้อมูลของบริษัท ว่า JMT เป็นคนตามหนี้
ถ้าลูกค้าเป็นหนี้เสีย JMTจะเข้าไปติดต่อ เพื่อเข้าไปช่วยเหลือลูกค้า
ไม่ให้เป็นback list

สถาบันการเงิน แบ่งออกเป็น
1.Bank
2.NonBank
พอซื้อหนี้เสียมา ก็เข้าไปหาลูกค้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้
และพอเก็บเงินได้ รายได้ส่วนนี้ก็เข้ามาอยู่ในงบการเงิน

หนี้มีสองอย่าง แบ่งตามหลักประกัน
1.Unsecure loan หนี้ไม่มีหลักประกัน เช่น สินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล
2. secure loan หนี้มีหลักประกัน เช่น สินเชื่อบ้าน

เราเป็นเบอร์ต้นๆของสถาบันการเงิน unsecure loan เช่น หนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล
ปีนี้เราแจ้งนักลงทุน เรารอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ผลประกอบการใน Q2 ต่ำที่สุดแล้ว (ดูcash collection เทียบกับ เพื่อนๆ เช่น BAM , CHAYO,
CHASE , KCCAMC แล้วคนอื่นเติบโตหมด แต่ JMT -6%ในช่วงครึ่งปีแรก)
1H67 จัดเก็บเงิน กับทางกสิกร ไทย สิ้นปี น่าจะได้เงินเข้ามา 8,000 MB
สัดส่วนหนี้ครัวเรือนเทียบGDP 92% ถือว่าสูงมาก เป็นความเปาะบางของ เศรษฐกิจไทย
JMT เข้าไปซื้อหนี้เสีย

1H67 ซื้อหนี้เสียน้อย เหตุผลมาจากนโยบาย ธนาคารแห่งประเทศไทยว่า
สถาบันการเงินจะขายหนี้เสียออกมาได้ ต่อเมื่อปรับโครงสร้างหนี้เรียบร้อยก่อน

JMT
1.รับจ้างตามหนี้ margin ไม่เยอะ เพราะมีการต่อรองค่าคอมให้ต่ำสุด
2.หลังจากทำมาสักพัก เราซื้อหนี้ไม่มีและมีหลักประกันมาบริหาร
ปี2017 เริ่มซื้อหนี้มีหลักประกัน เพราะถ้าเราหาทรัพย์ดี ผลตอบแทนไม่ต่างกัน
สองปีที่ผ่านมา JMT เน้นซื้อ unsecure มาปล่อยมากกว่า

ปีแรกที่ซื้อหนี้เสียมา ลงทุนแค่4% ปัจจุบัน เก็บหนี้ได้มากกว่า 6 เท่า
Cash collection เรามีโอกาสซื้อหนี้จากสถาบันแห่งนึง 7000ลบ และ เก็บได้ 22%
ในปีแรก ขึ้นกับความสามารถในการจัดเก็บกระแสเงินสดของ JMT

การแข่งขันของธุรกิจAMC ในความคิดของJMT คือ แข่งขันกับตัวเอง ซื้อหนี้เสียมาแล้ว จัดเก็บได้กี่%
สิ่งที่monitor คือ cash collection คือตัวเลขกำไรอย่างแท้จริง
ดังนั้นนักลงทุนต้องติดตามตัว cash collection
Digital wallet กระทบด้านดีกับ AMC (ทำให้คนได้รับเงิน10,000บาท ส่วนนึงมาคืนหนี้)

ถ้าเราเข้าใจในการจัดเก็บ
GP ปกตินิ่งๆ 70%กว่า
COGS คือค่าแรงของคนตามหนี้ ค่าทนายความ เป็นต้นทุนทางตรง

SG&A
1.ECL คล้ายJMT ถ้าการจัดเก็บตรงตามprojectionหรือใกล้เคียง ECLจะน้อย
ถ้าจัดเก็บไม่ตรงกับที่projection ก็จะต้องตั้งECLเพิ่ม
เวลาเศรษฐกิจดี ECLไม่เยอะ แต่ช่วงเศรษฐกิจไม่ดี ECL เยอะ
ตอนนี้ ECL ใน Q3 เริ่มลดลง

2.NON ECL เช่น ค่าเช่า ค่าพนักงาน ค่าเสื่อม ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายfix

คุณ สุทธิรักษ์ CEO JMTมาอัปเดทข้อมูลของ 2H67
ในช่วง1H67 ลูกค้าประสบภาวะที่เศรษฐกิจไม่ดี ทำให้บางคนที่เคยจ่าย บางเดือน short
กลับบ้านหลังไม่มีโควิด ก็ให้เงินกับทางบ้าน ทำให้มีเงินเหลือน้อยลง ขอจ่ายงวดน้อยลง

เราปรับตัวในเชิงกลยุทธ์
เราเพิ่มงบประมาณในการดำเนินคดี พาเขามาอยู่ในกรอบคุยกัน เราเพิ่มความเข้มข้นขึ้นไป
ช่วง มิย 67 มาถึงปัจจุบัน ลูกค้าเริ่มปรับโครงสร้างหนี้กันแล้ว
ECL คล้ายธนาคาร เป็นการตั้งสำรอง แต่ยังไม่ใช่ค่าใช้จ่ายจริง
ถ้าลูกค้าเริ่มกลับมาจ่าย จะกลับ reverse ECLกลับมาได้
ช่วง1H67 ECL อยู่ระดับสูง แต่ช่วง2H67 เราแถลงข่าวในมิยว่าจะน้อยลง
Oct 67 ทุกอย่างตามเส้นประในรูป คือเป็นทิศทางขาลง ECLเริ่มลดลงแล้ว
ผู้บริหารเสริมต่อว่า ทิศทางของECLในช่วง2H67 ดีกว่า และ จุดbottom ได้ผ่านไปแล้ว

Q1: ภาพครึ่งปีหลังเป็นอย่างไร?
A1: จากครึ่งปีแรก ซื้อหนี้ไป 700กว่าลบ
ช่วงโควิด มีการพักชำระหนี้ หนี้ก็อยู่เต็มธนาคาร ดังนั้นก็ไม่มีการขายหนี้
ตอนนี้คุณสุทธิรักษ์บอกว่า หนี้ค้างอยู่เยอะ ปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อย
หนี้เหมือนน้ำ ที่โดนกัก จนร่วมเลยมาปี2022 หลังหมดมาตรการช่วยเหลือ
เกิด JKAMC กับ กสิกรไทย เราได้เป้าหมายปลายทางพร้อมกัน
JK จะมีหนี้โอนมาแสนล้านในปีแรกเลย ปีนั้นใช้เงินลงทุนจาก JMT 8,000 ลบ
ปี 2566 JMART ได้unsecure loan ล้วนๆ
เวลาที่เหมาะสม เปิดก๊อก ทุกคนแห่ขาย ปีที่แล้วได้มา 100,000 กว่าลบ
ราชการมาบอก
Respondent Lending
ตัวเลข 400,000 ขยับมา 500,000 แล้ว
สถาบันการเงินขาประจำ รินขาย ลูกค้าไม่เกี่ยวข้อง Respondent lending
หลายที่เริ่มทยอยเอาออก แต่ไม่เต็มที่
ลูกค้าหลายราย ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ RL ต้องรอให้ครบองค์ประกอบ
NPL เยอะ ไม่ต้องแย่งกันซื้อ ตอนซื้อ บางกองแพง แต่ Yieldดีมาก เช่น
เก็บปีแรก ได้ 22% อย่าไปworry ว่าบังคับให้ซื้อหนี้เสียไม่เกิน 5%เท่านั้น

Q2: Cash collection จำเป็นต้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆไหม?
A2: ไม่จำเป็นต้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เพราะ บางกองอาจเป็น side way up , บางกองจะเป็น sideway down
บางกอง reverse uturn
เราต้องวาดเส้น บางปีชนะตลาด ถึงแม้cash collectionน้อยลงแต่มากกว่าเป้าก็ถือว่าใช้ได้

Q3: 3ปัจจัยแรก มีผลต่อพอร์ตunsecure loan?
A3: จะยกตัวอย่างเพื่อจะได้เข้าใจ
1.กองหนี้sideway up เป็นกองหนี้มูลค่าสูง
เช่น ค้างหนี้ 8แสน กับ 8 หมื่น ใครจ่ายก่อนก็ต้องเป็นหนี้ 8หมื่น เพราะจำนวนน้อย
แต่หนี้8แสน ต้องปรับโครงสร้างหนี้ จ่ายช้า บางปีได้โบนัส อยากhair cut
ออกมาเป็น scenario
2.ที่มีคำถามของSGC , ลูกค้าไม่จ่ายunsecure loan ก็ส่งมาให้JMT ได้ สำหรับพนักงานอาชีพอิสระ
3.กฏหมายตามหนี้ คุยได้ 1 ครั้ง คือ อย่าไปกลัวโดนนับ บางทีลูกค้าไม่รับสายก็ไม่นับ
จนกว่าจะแจ้งให้ลูกค้าทราบเรื่องตามหนี้ จึงจะนับหนึ่ง
4.ถ้าลูกค้าอยู่แต่ละสถาบันถ้ารวมกันถือว่าเยอะมา มาอยู่กับJMTดีกว่า
เพราะทางJMTจะให้ลูกค้าทยอยเคลียร์แต่ละเจ้า หรือ จ่ายรวมก็ได้
ลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้ได้ ขอเพียงแค่ให้เดินมาหาเรา

Q4: ECL ลดลง 500 ลบ ขอทราบรายละเอียด?
A4: ECL 500ลบ จากเดือน12
เป็นการเพิ่ม500ลบ จากเดิมที่มีอยู่แล้ว

Q5: ECL กระทบคนที่ภาคเหนือไหม? เห็นน้ำท่วมเชียงใหม่แล้ว
A5: เราก็ไม่จัดเก็บคนเหนือที่เจอน้ำท่วมไป1เดือน ไปเก็บภาคอื่นแทน
เรามีประสบการณ์จากน้ำท่วมใหญ่ปี54 พอเลยไป1เดือน ลูกค้าก็มาไล่จ่ายให้ทัน
ถือเป็น impact ระยะสั้นเอง
เราไม่เคยคิดดอกเบี้ยของหนี้ก้อนที่ซื้อมากับลูกค้า
เราหยุดดอกเบี้ยตั้งแต่ปี2549

Q6: แนวโน้ม ECL ดีขึ้น ลงค่อนข้างเร็ว มีรวมเรื่องdigital walletที่แจกเข้าไปไหม?
A6: ภาพนี้เราไม่ได้รวมเงิน digital wallet มาตั้งแต่แรก
เงินพิเศษที่ได้มา ลูกค้าก็มาชำระเพิ่มขึ้น
สภาวะเศรษฐกิจ คนมีเงิน แต่ไม่ได้ใช้
ตอนนั้น ลูกค้าไม่ได้หนี แต่ขอจ่ายช้าลง จ่ายน้อยลง หรือ จ่ายเดือนเว้นเดือน

เรามองbudget 500 MB อาจใช้ไม่ครบในปลายปี
NPL ปีหน้ายังมีแนวโน้มลดลง
เราฟ้องไม่เกิน 10%ของพอร์ต ดำเนินการเท่าที่จำเป็น
กลุ่มคนที่มีความสามารถจ่ายแต่ไม่จ่าย ใช้ทนายของเราฟ้อง
ไม่มีคำว่าไม่คุ้ม ถึงแม้หมื่นเดียวก็ฟ้อง
แต่ถ้าบางคนมีโอกาสน่าจะกลับมาจ่ายเราไม่ฟ้อง
แต่ถ้าใครท้าทายตอนไปทวงถามและบอกให้ฟ้อง ก็จะสั่งฟ้องทันที
นโยบายหลัก ไม่ได้คิดจะฟ้องต้งแต่แรก
เวลาดำเนินคดี มีfront load ช่วงต้นปี

Q7: การบริหารจัดการ ก่อนฟ้องร้อง อยากให้อธิบาย?
A7: เราคือ Born to be
พี่ๆสถาบันการเงิน เขาเก่งเรื่องปล่อยสินเชื่อ
ถ้าAMC ไหนบอกว่าซื้อมาฟ้อง ก็จะไม่คุ้ม คุณสุทธิรักษ์บอกไว้ก่อนจบ
เราไม่มี profit sharing ในการเก็บหนี้ได้
แต่มีKPI ว่า เดือนนึงจะรับได้กี่คดี แต่ไม่ได้ส่วนแบ่งจากที่เก็บหนี้ได้
ไม่เหมือนทนายที่ได้ส่วนแบ่ง หลังฟ้องแล้วชนะ
การที่ลูกค้าที่กล้าๆเดินมาคุยเองจบง่ายกว่าไปเอาทนายมา
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2706
ผู้ติดตาม: 343

Re: Seminar Knowledge เรียนรู้การลงทุนผ่านการสัมมนา

โพสต์ที่ 227

โพสต์

Company visit Thaivi x PI singer vs sgc 8 Oct 2024 by Seminar Knowledge page
ผู้บริหารที่มาให้ข้อมูล:
คุณนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน)
คุณอโณทัย ศรีเตียเพ็ชร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)

Net profit by Quarter 2023-2024 (Conso)
กำไรเริ่มกลับมาเป็นบวก Q1 2024 = 20 MB, Q2 2024 = 28 MB
หลังตั้งสำรองครั้งใหญ่ไปเมื่อ Q2 2023 ทำให้ขาดทุน 2,396 MB
การตั้งสำรองหลังจากนั้น ไม่ได้อยู่ในระดับสูง

สินค้ามือสอง การจัดการของsinger
มือสอง เทียบ Y-Y ปีที่แล้ว ตู้น้ำมันมีมูลค่าสูง เลยไว้ข้างบน
ตู้น้ำมัน เอาไปตั้ง ไม่ใช่ใกล้ปั้มน้ำมันอื่น แต่จะไปตั้งใกล้ชุมชน
รายได้จากการเติมน้ำมัน จะmark up 7-10บาท
Progress จะดีขึ้นเรื่อยๆ ตู้น้ำมันเกือบ 1,400 ตัวที่ออกไปตั้ง เพิ่มจากQ2 ที่มี778ตู้เอง

ควบคุมการปล่อยสินเชื่อแบบมีประสิทธิภาพ
ถ้าคนไหน %การเก็บเงินลูกค้าไม่ดี จะให้หยุดขาย จนกว่าจะเก็บเงินได้

Singer เปลี่ยน ไป จากอายุครบ 135 ปี เป็น Financial Services Network Tech
การทำLock phone การปล่อยสินเชื่อได้ มี barrier to entry
1. License High purchase ทำให้ธุรกิจ Lock phone scales ออกไปได้
2. เราtransform business จาก vision : Network เราไป empower พนักงานขาย
3. Network เรามีผลิตภัณฑ์ ที่หลากหลายไม่ใช่เช่าซื้ออย่างเดียว
4. เรามีPlatform ที่หลากหลาย เวลาtransformแล้วต้องจับต้องได้
5. SG Finance+ ทำให้ธุรกิจscaleได้

Singer New Business
1.New Product Mix ( Low NPL , Higher Margin , Green Energy )
1.1 Appliance Locking TV
1.2 Multi brand ตอนนี้สัดส่วน 11%
1.3 EV Bike
1.4 Mobile Q2 เริ่มเป็น consignment , Q4 67 จะเริ่มเป็นการซื้อมือถือตรง ไม่ผ่านDistributor
ดังนั้นการบันทึกยอดขายก็คือ ยอดขายมือถือด้วย

2. New Platform
2.1 SG Finance+ for Electric Appliance
เป็นplatform ทำสินเชื่อ ร้านค้า 4,000 ร้านค้ามาใช้platform
2.2 E-Catalog เป็นplatform ของ Singer พนักงานเอาอันนี้ไปขายให้กับลูกค้า และ ลูกค้าสามารถชำระเงินได้ในplatform โดย ลูกค้าไม่จำเป็นต้องมาหน้าร้าน

3.New Network (Franchise & Multi-Channel Network Expansion )
ด้วยธุรกิจsinger เป็นเครือข่ายอยู่ตั้งแต่แรก
3.1 SG Finance+ (For SINGER network & partners) เครือข่ายแรก ขยายด้วย SG Finance+ พนักงานเริ่มก่อน โดยทำสัญญากับลูกค้าบนระบบนี้ เรามีแผนไปนอกSingerด้วย
3.2 MCN and Afflilate Network ที่singer liveขายของ เช่น ตี่โอว live content
3.3 Offline Partners การขยายสาขาของsinger ไม่ใช่เรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด

New product mix
1. Margin increase : Multi Brand Electric Appliance 11% share (unit) in Q3
2. Low NPL & Sales Increase : Appliance Locking
3. Increase sales for New Lineup : Commercial Appliance New Lineup
เครื่องทำBingsu ให้ ร้านสุกี้ตี๋น้อยเช่า
4. EV : Electronic Bike start E-Bike Locking Q4
5. Mobile : Mobile Network start Oct 67

New product mix
Appliance Locking
1. TV Q3 2024
2. Commercial washing machine เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ Q4 2024
3. E-Bike Q4 2024

New platform July 2024
1.สำหรับสายผ่อน เช่น พนักงาน
2.สำหรับสายเพย์
3.สำหรับสายช๊อปออนไลน์

July 2024
Singer e-catalog เห็นสินค้าและจ่ายของได้

Sale Network with SG Finance+
ช่วงครึ่งปีแรก จะได้พันกว่าคน พอครึ่งปีหลังวางเป้าให้ถึง2500คน
1. Jaymart Mobile : Q3 มีพนักงาน 2000ราย เราขยายเข้าไปในJmart moblieด้วย นี่แค่ปริมาณ
การขยายหลัก มาจาก Singer และ อีกช่องทาง คือ Jmart
2. Mobile partner : ช่องทางใหม่ในQ4 สำหรับ SG Finance+ : สำหรับdealer ที่ปล่อย Lock phoneอยู่แล้ว ให้มาขายสินค้าของsingerด้วยเช่นกัน
เช่น Partner ร้านเตือนใจเปิดร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่นสาขา มวกเหล็ก หัวหินขยายการลงทุนที่ต่ำ ได้ 30สาขาในครึ่งปีหลัง(เปิด11สาขาในQ3 2024)

Outlook 2H 2024
1.Sales increase QQ +25%
New Products & Network Expansion, Government campaign
2.Cost reduction in 2H 2024 close 2nd Hub move to 3rd party WH
3.Network Expansion : เป้าหมาย 2,000ราย จาก SG Finance+

Net Financial Income
เราคืนหุ้นกู้ไปแล้ว 2000 MB , อีกlot 1,700 MB กำลังคืน
เราปรับโครงสร้างหนี้ของ SGC ทำให้รายได้ดอกเบี้ยรับของเราSinger
ลดลงจาก 133M Q3 to 94M on Q4
Net Financial income สูงขึ้น ตั้งแต่Q1 2025 เป็น 77 MB เพราะFinancial cost ลดลง
Singer debt free company ถ้าไม่ได้ออกหุ้นกู้อีก
การเติบโตของบริษัทลูกจะตามมา

คุณ อโณทัย SGC
SG Capital เปิดมา 10กว่าปี เดิม ชื่อ Singer capital ปล่อยสินเชื่อของสินค้าsinger
ต่อมา ปี2020ปล่อยเงินกู้ให้รถบรรทุก เรียกว่า รถทำเงิน(C4C)
ลูกค้ากลุ่มนี้เอาเงินไปใช้ค่าน้ำมัน ค่าแรงคนชับรถบรรทุก

ภายใต้กลุ่มการเงิน ธนาคาร
ธุรกิจหลัก
1.สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ
2.เช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า
3.สินเชื่อ lock phone

Net profit
1H24 = 56 MB
2H23 = 11MB
2Q24 = 38 MB
1Q24 = 18 MB

ต้นปี 23 พนักงาน 1,000 คน แต่ตอนนี้พนักงานเหลือ400กว่าคน แต่รายได้ไม่ลดลงเลย

Structure ฐานทุน
เพิ่มทุน RO มาที่ 1.3 บาทต่อหุ้น จำนวน 3,861 MB
ทำให้ฐานทุนเพิ่มจาก 3,270 MB เป็น 6,240 MB
ณ 30 Jun 24 Outstanding loan from singer 10,172 MB,IBD/E =3.21
เราสามารถขยับ DE ratio 3 เท่า ลดลงเหลือ 1เท่ากว่าๆ
ฐานทุนแข็งแกร่งขึ้น ต้นทุนการเงินดีขึ้น กู้เมื่อต้องการใช้เงินได้

Singer & SGC
4 Crucial elements for business turnarround

“ Lock phone “
1.Technology : SG Finance+ , Locked system มีความสำคัญ โดย co กับ brand ต่างๆ lockแล้ว ไม่ใช่ว่าจะเปิดเครื่องได้
2.High EIR: ธุรกิจlock phone ภายใต้สัญญาเช่าซื้อ ดอกเบี้ย 28% compare with C4C 14%
3.Scale :
- Shops
- Mobile Brand เรามี5แบรนด์มาจอยกัน
4.Risk Management :
ปล่อยแล้ว ต้องเก็บเงินได้ด้วย และ low NPL ตอนนี้ทำมา 10 เดือน ยังดีต่อเนื่อง

ระบบ เราพัฒนามาเองด้วย SGC Finance+

How SG Finance+ works? ขั้นตอนการขอสินเชื่อ
1.visit participate shop&select smart phone
2.E-KYC by JDID E=application
3. Credit Approval SG Finance+
4.E-Contract (Hire Purchase ) realtime payment
ลูกค้าไปดูค่างวดจากระบบได้
ทำมา10เดือน technology ทำให้ขายดีขึ้น SG Finance+ app ทำให้คนอยากใช้มากขึ้น
อีกapp SG Finance เป็น customer app ซึ่งพัฒนาเพิ่มจากเดิมที่ให้ร้านค้าใช้

Key Features Lock Phone :
1. 5 Leading Chinese brands
2. Minimum mobile price 8,000 B
3. Contract period 12-24 M
4.High return EIR > 28%
5.NCB checked
6.Down payment 10-50%

Lock phone with 5 Chinese brand : Oppo, vivo , Xiaomi , realme , infinix (60%ของตลาดมือถือ)

เรามีการปิดคนขายไม่ดี หรือ ทำไม่เป็น ออกจากSGC
ณ สิ้นเดือน กย ปล่อยให้ลูกค้า 56,xxx สัญญาต่อเดือนแล้ว
สัญญา รวม 16x,xxx contracts และร้านค้าเข้าร่วม 4,7xx ร้านค้า

Loan size from 168 MB on Jun 24 เป็น 49x MB ในเดือน กย 67

เดือนหน้าจะมีbrandใหม่เข้ามาอีก ธค ที่ตั้งเป้า 100,000 เครื่อง ผู้บริหารยังมั่นใจ

Update status Lock Phone:
1.Cash collection : การเก็บเงิน ยังถือว่าดี เพราะ lock phoneยังทำงานได้ดี
2.Locked account : ยังต่ำ ถ้าไม่จ่าย จะขอเครื่องไปขายในตลาดมือสองต่อ
3.NPL ยังต่ำ

Q&A
1. เราเป็นแค่ strategic partner ดังนั้นคู่แข่งยังสามารถเข้ามาได้
2. ปีหน้ามอง coverage จาก 5000ร้านค้าในปีนี้
ผู้บริหารบอกยังไม่มีข้อมูลแน่นอน ประมาณ 5000-10,000 ร้านค้า แต่เป็นร้านค้าในทำเลรองๆแล้ว
3. ถ้าเราตั้งเป้า 100,000 contact เฉลี่ย ร้านค้าละ 20 contact บน ช่วง high season
แต่ถ้าดูจาก มือถือซัมซุง ยอดไม่เคยตกเลย
เรามี5brand จะมีการเปิดตัวใหม่ของแต่ละค่ายไม่ตรงเดือนกัน
July = oppo , aug – vivo , sep - Xioami 14 เป็นการdiversifyอีกทาง

4. KBJ ไม่รู้ยอดขาย แต่เขาบอกว่า ทำซัมซุงอย่างเดียว ก็มีโอกาสทำได้ ตอนนี้ได้ ล้านราย เปิดมา2-3ปีเอง
5. มีการแยก มือถือ และ เครื่องใช้ไฟฟ้า ออกมา
เบื้องต้นคงไม่ได้ แยก เพราะ สัญญา High purchase
เครื่องใช้ไฟฟ้า จะwrite off state 3 ตั้งไป 80% ถ้าจะwrite off จะขาดทุนในส่วน 20% นั้น การขายจะดีกว่า write off

6. แผนการลด c4c แล้วมาปล่อย lock phone ก็เอาเงิน RO ส่วนนึง และ lockphone 60% ผ่อน 12 เดือน จะมีเงินเข้ามา อนาคตปีหน้า อาจออกbondเพิ่ม
7. สค ดูการปล่อยลดลง เราดาวน์มากขึ้น
8. เรื่องการคัดกรองลูกค้า อยากทราบว่าส่วนใหญ่ไม่มีบัตรเครดิต เวลาเช็ค เครดิตบูโร เราเก็บดาวน์ 20-30% เราdesignค่างวดต่อเดือน เช่น ไม่เกินพันบาท ลูกค้ามีความสามารถในการจ่าย
ดูแล้ว กลุ่มนี้ไม่น่าจะโกง เรามีreject rate 70%
9. NPL 2-4% การติดตามบริหาร NPL ทำอย่างไรบ้าง ?
ด้วย accounting ที่วางไว้ 6 months auto write off , NPL ไม่สูง
ช่วงก่อน 6 เดือน เรามีพนักงานติดตามสินเชื่อ ภาคสนาม+ collector 200 คน จะเป็นคนtake care ลูกค้าที่ไม่จ่าย จ่ายช้า หรือ จ่ายยาก
9เดือนทีผ่านมา ระบบหลังบ้าน call center เราจะแก้ปัญหาต้นทางง่าย
10 การตั้งสำรอง เราต้องอิงกับ KBJ เป็นหลัก , Coverage ratio พอร์ตหนี้เสีย การสำรองควรเป็นlevelไหน
หมายถึง kbj npl ต่ำกว่า 2% ,ทุก6เดือนauto write off
11 หนี้เสียที่ซัมซุง ไม่ได้เยอะ
12 ร้านปลดlock เสียค่าใช้จ่ายประมาณ 2000 baht ถ้าลูกค้าไปขายที่ตู้ แล้วกินส่วนต่าง อาจติดcredit
มองความน่าจะเป็นขนาดไหน จัดการอย่างไร?
เราไปให้ความรู้กับลูกตู้ เปิดเครื่องจะเจอ property with SGC
ส่วนการรับซื้อ ให้ทีมงานไปแฝงพบว่า ยังปลดlockไม่ได้
คุยกับแต่ละแบรนด์ ว่าปลดlockได้ไหม ล่าสุดยังทำไม่ได้
และให้แต่ละเจ้ามือถือไปsurveyด้วย
คนที่ไปunlock แล้วมีโอกาสเจอlock และ รับซื้อของโจรมีความผิด
13. ลูกค้าติดหลายงวด ต้องจ่ายให้ครบ จึงจะปลดlockได้ เช่น ไม่ได้จ่าย3เดือน ก็ต้องจ่ายให้ครบจึงปลดlockได้
14. การขอมือถือคืน ยากไหม?
เช็คกับกรมการปกครอง รู้ว่าบ้านอยู่ไหน และ เราให้ลูกค้าupdateบ้านที่อยู่ปัจจุบันตลอดเวลา
15.เครื่องใช้ไฟฟ้า ต้องเริ่มกับsinger ก่อน
16. Provision state1 =1% , 2 = 50% ดังนั้นปล่อยให้ดี และ เก็บให้ได้
17. SGC มีlicenseกับ แบงค์ชาติ ขอความร่วมมือแต่ละร้านว่าโฆษณาต้องให้เราดูก่อน
เราเล่นกับmass ทั่วประเทศ complianceจะไม่ลิดรอนสิทธิ์คนอื่น
18. 6M ลูกค้าอาจมองว่าคุ้ม ถ้าเอาปลดlock?
ตอบว่า ไม่คุ้มที่จะทำแบบนี้ เพราะอาจโดนlockรอบ2 มีการส่งรายชื่อไปNCDด้วย
ลูกค้าไม่อยากเสี่ยงเรื่องนี้ แต่กลุ่มลูกค้า ที่เป็นพ่อค้า แม่ค้า ไม่สนใจ NCd
ข้อมูลที่ผ่านมา เราไปกินแชร์ ลูกค้าที่ซื้อเงินสด หรือ วงเงินบัตรเครดิตไม่สูง
Pattern ยังดีอยู่
ถ้าเห็นว่ายุ่งยากขึ้น ก็จะขยับวงเงินดาวน์ ขึ้น
19. มือถือappleก็ดูหลายอย่าง ก่อนตัดสินใจเข้าร่วมโครงการนี้
เราเป็นธุรกิจ สินเชื่อ ไม่อยาก hold stock
20 สัดส่วน C4C มองว่าอย่างไร?
เรามองว่า lock phone โตอีกเท่านึงในปีหน้า ส่วนพอร์ต C4C เราหยุดปล่อยสินเชื่อแล้ว
เจ้าอื่น ก็ปล่อยสินเชื่อน้อยลง รวมกับกฎ LTV เมื่อก่อนเล่นปล่อบ140-150
ตอนนี้ปล่อยแค่ 40-50เอง เลยหยุดปล่อย แล้วมาปล่อยLock phone
พอร์ตไหนเก็บเงินได้ดี ก็ปล่อยต่อ
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2706
ผู้ติดตาม: 343

Re: Seminar Knowledge เรียนรู้การลงทุนผ่านการสัมมนา

โพสต์ที่ 228

โพสต์

บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) หรือ MEDEZE
เป็น ผู้นำด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเซลล์ต้นกำเนิดและเซลล์ภูมิคุ้มกัน

ประวัติความเป็นมาของบริษัท
นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า
บริษัทฯ ประกอบธุรกิจ
1.ให้บริการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells)
2.ตรวจศักยภาพเซลล์ภูมิคุ้มกัน (NK Cells)

โดยเริ่มจาก นพ วีรพล ได้รับการจุดประกายเรื่องstem cell จากอาจารย์คือ นพ จำรัส สกุลไพศาล ดังนั้นทั้งสองท่าน
ได้ร่วมกับ รศ ดร รังสรรค์ พาลพ่าย ก่อตั้งบริษัท กรุงเทพสเต็มเซลล์ และจดทะเบียนวันที่ 19 กค 2553 โดยดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องมามากกว่า 14 ปี
โดยมี
บริษัทเป็นบริษัทแรกๆเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับ biotech , cord blood (ที่ สิงคโปร์ มี2 บริการ ครอบคลุมแค่เด็กเท่านั้น)
เราเปิดปีพศ. 2553 เราเก็บเลือดจากสายสะดือ ผ่านไปก็เติบโตมากขึ้น
เราโตในเรื่อง R&D อีกกลุ่มเก็บได้แค่เลือดกับสายสะดือ เราเก็บสายสะดือ ด้วยเครื่อง Automate
คู่แข่งอีกสี่ที่มาจากต่างประเทศ เราเติบโตด้วยความเชื่อมั่น ยิ่งตอบโจทย์บริษัทแค่นั้น

ปี 2556 เครื่อง AutoXpress เครื่องคัดแยกเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต(Stem Cell)
ที่มีชีวิตออกจากเลือดที่เก็บได้จากสายสะดือแบบอัตโนมัติ ได้ถึง 98.7%
เครื่อง Quantum เพาะเลี้ยงเซลล์แบบอัตโนมัติ เพิ่มจำนวนเซลล์ต้นกำเนิดจากเนื้อเยื่อภายในระยะเวลาอันสั้น เรามีทั้งหมด 3 เครื่อง
ห้องปฏิบัติการ clean room classB 100 สะอาดกว่าห้องผ่าตัดทั่วไป 1,000เท่า พร้อมด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยี
ที่มีความทันสมัยในวงการธนาคารจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell Banking)
บริษัทฯได้รับมาตรฐานการจัดเก็บแช่แข็งในระดับสากล Association for the Advancement of Blood and
Biotherapies (AABB) จากสหรัฐอเมริกา
การแช่แข็ง stem cell โดยใช้ระบบความเย็นต่ำกว่าจุดเยือกแข็งแบบไอระเหยของไนโตรเจน
เพื่อควบคุมอุณหภูมิการจัดเก็บที่ต่ำกว่า -196องศาเซลเซียส ผมทดลองไปจับตัวถังไนโตรเจน ยังรู้สึกว่าเย็นมากเลย

เราจัดเก็บจากเนื้อเยื่อสายสะดือ ทำให้เราเติบโตมากขึ้น
ปกติใช้เทคนิคการแพทย์ในการจัดการ แต่เราเริ่มจากนักวิทย์ มีแนวโน้ม ยังไม่ได้สร้าง
เทคนิคการแพทย์เป็นคนดูแลห้องแลป และ เทคนิคการแพทย์เป็นผู้เพาะเลี้ยงเซลล์
แต่นักวิทย์ไปไกลกว่า ถ้าเราแช่แข็งเซลล์ และ ตอนอายุ60ปี ก็นำเซลล์ออกไปใช้ เกิดความเสื่อม
ก็นำเซลล์ของเราที่จัดเก็บไว้มาใช้ทดแทนได้
มือถืออาจแทนด้วยแว่นตา ทุกคนใช้ mobile banking แต่สเตมเซลล์ยังใช้อย่างต่อเนื่อง (ไม่โดนdisrupt)
คนเปิดเก็บเซลล์ แต่จุดสำคัญคือการจัดเก็บสเตมเซลล์ เราต้องมีraw material ก่อน
อายุ 60-80 ปี อวัยวะเสื่อม ดังนั้นเราจัดเก็บstem cell แบบ Banking ก่อนถึงช่วงอวัยวะเสื่อม
ซึ่ง raw material เราได้มาจาก 4 ทาง คือ

สำหรับเด็กแรกเกิด
1.โปรแกรมการฝากเก็บสำหรับทารกแรกเกิด (Newborn Program) ซึ่งฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดชนิดเม็ดเลือด(HPCs)
จากเลือดสายสะดือ(Cord Blood Saving) สัดส่วน รายได้ 1H67 = 9.66% , GP = 49.7%
2.การฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดชนิดเนื้อเยื่อมีเซนไคม์(MSCs)จากเนื้อเยื่อสายสะดือ(Placenta Saving) สัดส่วนรายได้ 1H67 = 54.4% , GP = 88%

สำหรับคนทั่วไป
3.ฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดชนิดเนื้อเยื่อมีเซนไคม์(MSCs) จากเนื้อเยื่อไขมัน(Adipose Saving) สัดส่วนรายได้ 1H67 = 17.47% , GP = 92.6%
สังเกตว่า GP จาก เนื้อเยื่อ ทั้งจากสายสะดือและไขมัน จะสูงมากกว่า 88% ส่วน GP จากเม็ดเลือด จะต่ำกว่า 50%
ส่วนอันที่4 น่าจะเริ่มได้หลังIPOเสร็จ
4.ผ่านทางเส้นผม

เคล็ดลับในการจำ ถ้าเป็น stem cell จากเลือด เรียกว่า HPCs , ถ้ามาจากเนื้อเยื่อ เรียกว่า MSCs

ปี 2560 NK Cell ตรวจศักยภาพของภูมิคุ้มกันเม็ดเลือดขาว สัดส่วน 1H67 = 16.30%

บริษัทย่อย ประกอบด้วย

1. บริษัท เมดีซ เอ็นเค จำกัด ถือเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท เมดีซ จำกัด เปิดบริการด้าน NK Cell – Natural Killer Cell หรือ เซลล์เพชรฆาต อย่างครบวงจร และได้รับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการ “บริการทดสอบทางวิทยาศาสตร์” ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) โดย ให้บริการทดสอบศักยภาพความแข็งแรงของเอ็นเค เซลล์ หรือ NK Activity และบริการทดสอบสมรรถนะและนับจำนวนของ NK Cells โดยเทคนิค Osaki Method ซึ่งเป็นสิทธิบัตรจากประเทศญี่ปุ่น ของนายแพทย์จุนอิชิ มัตซึยามา

2.บริษัท เมดีซ คอสเมซูติคอล จำกัด ดำเนินธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงามภายใต้ตราสินค้า DAA แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการบำรุงและปกป้องผิว ที่คิดค้นพิเศษผ่านเซลล์เทคโนโลยี โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพเป็นสำคัญ ยืนยันความปลอดภัย และรองรับด้วยการตลาดที่เข้าถึงผู้ใช้ได้หลากหลาย และ AEDEZEL แบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคุณภาพสูง

3.บริษัท เมดีซวิจัยและพัฒนา จำกัด ดำเนินธุรกิจวิจัยและพัฒนาเชิงทดลองด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งได้ผ่านการคัดเลือกและได้รับการประกาศในราชกิจานุเบกษา ให้เป็นผู้รับทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ตามหลักเกณฑ์ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร ในปี 2564

4.Medeze Treasury Pte. Ltd. ดำเนินธุรกิจเป็นบริษัทเพื่อการลงทุน (Investment Arm) โดยเป็นบริษัทที่ถือครองและบริหารตราสินค้าของกลุ่มบริษัทฯ และดูแลการลงทุนในต่างประเทศ

5.Medeze Group Pte. Ltd. ดำเนินธุรกิจวิจัยและพัฒนาเชิงทดลองด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ และห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ สู่แนวทางการสร้างชีวิตที่ยืนยาว ด้วยการสร้างอวัยวะสำรองเพื่อการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะในอนาคต

ทั้งนี้ มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับการรับรอง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 มีดังนี้
ISO 9001:2015 หรือ มาตรฐานการจัดการระบบคุณภาพ
ISO 22716:2007 หรือ มาตรฐานคุณภาพการผลิต (Good Manufacturing Practice หรือ GMP)
มาตรฐาน Association for the Advancement of Blood and Biotherapies (AABB) ตั้งแต่ปี 2562 จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้การรับรองมาตรฐาน
การดำเนินงานของธนาคารสเต็มเซลล์ที่เข้มงวด โดยเป็นมาตรฐานระบบคุณภาพสากลตามข้อกำหนดขององค์การอาหารและยา สหรัฐอเมริกา (U.S. FDA)
สำหรับกระบวนการฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต
มาตรฐานห้องปฏิบัติการคุณภาพคลีนรูม คลาส 100 (Clean Room Class 100) ตั้งแต่ปี 2556 โดย National Environmental Balancing Bureau (NEBB)
จากประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นมาตรฐานควบคุมอนุภาค ความดันและอุณหภูมิภายในห้องปฏิบัติการอย่างเหมาะสม

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MEDEZE กล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจด้วยวิสัยทัศน์ ที่จะส่งมอบชีวิตที่ยืนยาวกว่าด้วยความล้ำหน้าของ BIOLongevity Technology
พร้อมรางวัลการันตีคุณภาพมาตรฐานระดับโลก รางวัลธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดที่ดีที่สุดของประเทศไทยต่อเนื่องถึง 4 ปีซ้อน สู่รางวัลระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 3 ปีต่อเนื่อง
และล่าสุด 2023 Southeast Asia Stem Cell Banking COMPANY OF THE YEAR AWARD จากสถาบันระดับโลก Frost & Sullivan ประเทศสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ MEDEZE พร้อมแล้วที่จะเติบโตไปอีกขั้นของความสำเร็จด้วยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อมุ่งมั่นที่จะส่งมอบบริการอย่างเหนือระดับ
ด้วยมาตรฐานสูงสุดทางการแพทย์ สู่การเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมไบโอเทคและธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดที่ดีที่สุดของเอเชีย โดยมีแผนการใช้เงินจากการระดมทุนดังนี้

1) การวิจัยและพัฒนาธุรกิจด้านเซลล์รากผม (Hair Cell) ด้วยเงินลงทุนจาก IPO 100 ล้านบาทภายในปีหน้า
ปี2017 เริ่มจัดเก็บ stem cell รากผม และ เปลี่ยนชื่อบริษัท จาก กรุงเทพสเต็มเซลล์ เป็น Medeze

กลุ่มบริษัทฯมีความตั้งใจในการจึงได้พัฒนานวัตกรรมเซลล์จากรากผม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการช่วยบรรเทาปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเส้นผมและหนังศีรษะ
เช่น ปัญหาผมร่วง อาการผมบาง ศีรษะล้าน ที่มีแนวโน้มจะพบเจอมากขึ้นในกลุ่มผู้สูงวัย

2) แผนในการติดตั้งระบบการทำจัดเก็บเซลล์ด้วยหุ่นยนต์ (full automated robotic cell processing system)
ด้วยเงินลงทุนจาก IPO 400 ล้านบาทภายในปีหน้า

นับเป็นนวัตกรรมขั้นสูงและล้ำสมัยที่ได้รับการยอมรับจากสถาบันและองค์กรในหลากหลายประเทศ โดยมุ่งหวังให้กระบวนการจัดเก็บมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ลดความเสี่ยงจากการผิดพลาดของพนักงาน และลดความเสี่ยงจากตัวแปรที่มาจากสภาพแวดล้อมต่างๆ อีกทั้งยังจะช่วยให้สถานให้บริการธนาคารเซลล์ของ
กลุ่มบริษัทฯ มีความน่าเชื่อถือทัดเทียมกับผู้ประกอบการชั้นนำทั่วโลก สามารถดึงดูดลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศได้มากขึ้น

3) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ 1,837 ลบ

ปัจจุบัน MEDEZE มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 600 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท เป็นทุนเรียกชำระแล้ว 225 ล้านบาท
โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 150 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด

ทั้งนี้ MEDEZE มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินของบริษัทฯ ภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและภายหลังการจัดสรรทุน
สำรองต่าง ๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและบริษัทฯ กำหนดไว้ในแต่ละปี โดยปัจจุบัน

โครงสร้างการถือหุ้นใหญ่ประกอบด้วย
1. บริษัท เมดีซ โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 45.09% ซึ่งภายหลัง IPO จะลดสัดส่วนเหลือ 33.81%
2. นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ถือหุ้น 32.02% ซึ่งภายหลัง IPO จะลดสัดส่วนเหลือ 24.01%
3. นายแพทย์จำรัส สกุลไพศาล ถือหุ้น 18.47% ซึ่งภายหลัง IPO จะลดสัดส่วนเหลือ 13.85%
4. นายแพทย์รังสรรค์ พาลพ่าย ถือหุ้น 3.69% ซึ่งภายหลัง IPO จะลดสัดส่วนเหลือ 2.77%
5. นางพรรณอุไร อัครศักดิ์สกุล ถือหุ้น 0.73% ซึ่งภายหลัง IPO จะลดสัดส่วนเหลือ 0.55%

ผลการดำเนินงานของ MEDEZE ในปี 2564-2566 , 1H 67
มีรายได้รวม 446.41 ล้านบาท , 595.70 ล้านบาท , 701.81 ล้านบาท , 404 ล้านบาทตามลำดับ
และมีกำไรสุทธิ 112.06 ล้านบาท , 147.19 ล้าน , 239.57 ล้านบาท , 145.8 ล้านบาทตามลำดับ

ไปพูดที่ รพ BCH เรื่องไขมันทำจากสเตมเซลล์ แต่ไม่มีใครรู้ ซึ่งเป็นเรื่องดี
ในเรื่องการนำสเตมเซลล์จากไขมันและเนื้อเยื่อสายสะดือ ซึ่งสองแหล่ง ที่ทุกคนทิ้ง เช่น ไขมัน สายสะดือ ทิ้งได้
เราเชื่อมั่น ว่าเราเข้าตลาดหลักทรัพย์ ทำให้จัดเก็บ stem cell ได้คนเดียว เพราะเลี้ยงยาก

Aging population ทุกคนแก่มากขึ้น คนไทยอายุเฉลี่ย 77 ปี เราอยู่ถึง 80-90ปี
เกิดภาวะเสื่อมได้เลย หลักการเพิ่มstem cell มากขึ้น และ ฉีดเข้าไปสู่ตัวเอง
เราครอบคลุม ทุกช่วงอายุ คือนำมาจาก ไขมัน สายสะดือ
เรามีบริษัทR&D เป็นเทคโนโลยีของเรา ทั้งไทยและสิงคโปร์ ต้นทุนต่ำ
แพทย์อยากต้องการอะไร แต่ใช้ไม่ได้ในระดับ economic เราตอบโจทย์ทางการแพทย์
นำมาสู่วิทยาศาสตร์ได้

ดร ธณัท กุลกาญจนาวรรณ Chief Laboratory officer ร่วมกับบริษัทพัฒนา เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการเลี้ยง ไม่มีการแพ้จากมนุษย์
ผ่านไปจนถึงปี2560 เราเริ่มเปิด NK cell ซ่อมแซมอวัยวะ เรามักติดเชื้อเซลล์เม็ดเลือดขาว
เราเพาะเลี้ยงสู้ญี่ปุ่นไม่ได้ เราขอซื้อknowhow NK service ,EMU systemจากญี่ปุ่น
อายุคนต่อไปจะยืนยาวขึ้น แต่ก็มีโอกาสติดเชื้อจากไวรัส หรือ ไข้หวัด มะเร็งมากขึ้นจากภูมิคุ้มกันเราต่ำลง
เป็นครั้งแรกของไทย เรามองสิ่งที่ดีที่สุดให้กับทุกคนตั้งแต่ต้น อันไหนไม่เก่งพอ ก็ไปหามา
ทุกคนเจาะเลือดจาก รพ นับเม็ดเลือดขาวเท่านั้น เป็นองค์ความรู้เมื่อ50ปีเอง เป็น Quantitative
เรารู้ว่าเซลล์ว่าแข็งแรงไหม
มะเร็งปากมดลูก ต้องเห็นมาล่วงหน้า 10ปี จึงจะเป็น
โอกาสการติดเชื้อ มีมากขึ้น ธุรกิจ NK ได้BOI มาสามฉบับ
บริษัทลูกเช่น รากผม ก็ขอBOIมาได้มา 10 years

หลังปี2017 เราขยายไปกัมพูชา ออสเตรเลีย
After covid , concern only southeast asia แต่ยังไม่มีเจ้าถิ่นในแต่ละประเทศ
เราเลยรีบจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพื่อคุมตลาด และ ขยายตลาด มีเครือข่ายnetworkเพียงพอ
ก็จะทำให้คนเชื่อมั่นเรา คู่แข่งก็เข้ามายากขึ้น

มีไอเดียอยากเข้า ตลาดหลักทรัพย์ 7 ปีก่อน สร้างระบบ internal control
เราเป็น CEO ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ
เรามีระบบ ERP ของเราเอง , SAP ไม่เข้าใจระบบของเรา
เราจดทะเบียนของเรา เครือข่ายในต่างประเทศก็ใช้ ERP ของเรา ทำให้เราเห็นข้อมูลหมด
ค่า Branding , License fee เราพยายามเป็นบริษัท international

การใช้ Robot กับ ธุรกิจ:
เราคิดเรื่องระบบ robotic กับชิบูย่า ใช้งบ 400 ลบ แต่เรามี asset แค่ 700 ลบ ทำให้เข้าตลาดไม่ได้
เราพยายามพัฒนาคนของเรา เป็นคนคุมเครื่อง ให้หุ่นยนต์ทำเองมา5ปี มีdata หลักแสน
AI สามารถทำแทนได้ จากข้อมูล 5 ปี

อย approve และเราทำห้องแลป
Blue print ออกแล้ว และ launchกลางปีหน้า หุ่นยนต์เพาะเลี้ยงเซลล์เอง

เราทำวิจัย และ ทำ launch ตอนนี้ขยายสาขาไม่ได้ เช่น ที่สิงคโปร์ เราต้องauditor ไปตรวจด้วย
และต้องเพิ่มยอดขายทุกปี เรามีความอั้นของกำไรมาพอสมควร 4-5 year

Innovation หลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์:
1.จะเห็นหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ เซลล์รากผม มีBOI , การต่ออายุใน 9 มค 2568
ดังนั้นถ้าเราไม่เปิด จะถูกให้ขอต่อใหม่เลย เราจึงรีบเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพื่อได้ทำservice ได้เลย

2.serviceใหม่ หลังเข้า ตลาดหลักทรัพย์ เป็น roboticครั้งแรกของโลก productivity จะสูงขึ้น
Medical innovation ซึ่งชิบูย่า มาช่วยให้เกิด ลูกค้าก็มีความเชื่อมั่น ปีหน้าเซลล์รากผมจะเป็นตัวเด่นของเรา

รพ ขนาดใหญ่ มีจุดอ่อนเรื่อง ไม่มีใครต้องการรับความเสี่ยงเรื่อง Banking ในระยะยาวเกิน5ปี
เราคือ compound service เราเก็บความต้องการของ High Network เพื่อสามารถเอาmemberเก่าอยู่กับเรา

การscaleธุรกิจ:
บริษัทในต่างประเทศ สามารถ copy ,paste ไปใช้ ทำได้ทันที เป็นการ multiply
นี่คือวัตถุประสงค์ข้อนึงในการเข้าตลาดหลักทรัพย์ ทำให้ขยายธุรกิจในต่างประเทศ

ข้อดี
1.เรามอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ด้วยมาตราฐานสูงสุด
2.เราได้มาตราฐานของโลกที่ลูกค้าต้องการ
3.เราเป็นที่เดียวในไทย ที่ครอบคลุมทุกอย่าง ทุกช่วงอายุ Biolongtivity คือหลักการการแช่แข็งเซลล์
มาต่ออายุให้ตอนเซลล์หมดอายุ
4.เรามีเครือข่ายกว้างขวางทั้งไทยและต่างประเทศ เรารู้จักหมอในต่างประเทศจากเป็นเลขาขององค์กรระหว่างประเทศ
ทำให้เราง่ายจากการเปิดในต่างประเทศ ผมเป็นหมอสูตินารีแพทย์ ซึ่งเป็นคนจัดเก็บเซลล์ และ เพาะเลี้ยงเซลล์เป็น
5.มีลูกค้าอย่างเหนียวแน่น ช่วงโควิดก็ไม่มีปัญหา
6.เราไม่เคยมีหนี้ หรือ กู้แบงค์เพราะทำธุรกิจB2C กับ High network ทำธุรกิจ B2B กับคุณหมอ

Stem cell banking เราเป็นอันดับหนึ่ง
เรามีเครื่องautomatic และคนดูแลให้อุณหภูมิที่เหมาะสม
NP ขยับจาก 23% to 32% เพราะต้นทุนเป็นfix cost , เวลารายได้เพิ่ม ทำให้ NP increaseด้วย
รายได้จาก Hair cell , after เข้าตลาดหลักทรัพย์ จะเริ่มทำอย่างจริงจังได้

ข้อเสียของ cord blood คือเป็นนวัตกรรมแบบเก่า งานวิจัยน้อย ใช้จากโรคเลือด
อัตราการเติบโตจึงต่ำ อัตราการใช้ 0.004% เราเปิดมายังไม่มีใครมาขอใช้ เพราะใช้จากแผนก โลหิตวิทยา

Financial Performance:
Revenue / GP
1. Revenue 1H67 403 ลบ เทียบกับ 1H66 330 ลบ
2. GP 1H67 316 ลบ เทียบกับ 1H66 259 ลบ
3. NP 1H67 146 ลบ เทียบกับ 1H66 115 ลบ
4. แยกรายได้ ตามประเภทการให้บริการ
4.1 Cord Blood Saving สัดส่วน รายได้ 1H67 = 9.66% , GP = 49.7%
4.2 เนื้อเยื่อสายสะดือ(Placenta Saving) สัดส่วนรายได้ 1H67 = 54.4% , GP = 88%
4.3 เนื้อเยื่อไขมัน(Adipose Saving) สัดส่วนรายได้ 1H67 = 17.47% , GP = 92.6%
4.4 NK Cell ตรวจศักยภาพของภูมิคุ้มกันเม็ดเลือดขาว สัดส่วน 1H67 = 16.30%
5. รายได้แยกตามช่องทางการจัดจำหน่าย 1H67
5.1 ตัวแทนจำหน่ายในประเทศ (Agent + Dealer ) = 130 MB (32.3%)
5.2 ตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ = 30.89 MB ( 7.65%)
5.3 ช่องทางการจัดจำหน่ายของกลุ่มบริษัท 242.34 MB ( 60.04% )

S curve ใหม่ : ทำกับ ไขมัน กับ รากผม
NP ของรากผม สูง เรามีเซลล์แยกทีม แต่เริ่มต้นมาจากพัฒนาธุรกิจ คุณตา จะมาทำตั้งแต่แรก ผู้บริหารลุยในทุกธุรกิจก่อน
ไขมัน เรามีกลุ่มลูกค้าเก่าแต่เราตั้งใจบุกลูกค้าใหม่ด้วย พยายามให้ลูกค้าเข้าใจเรื่องเอาStem cellsมาจากไขมัน ซึ่งไปได้ไกล
คุณหมอจาก รพ มงกุฏ ก็มาทำที่ รพ พญาไท2

Cell รากผม ต่างจากที่ปลูกผมตรงที่ใช้เส้นผมน้อยกว่า คือ เอาเส้นผมมาแค่50เส้น มาเพาะเส้นผมเพิ่มเป็น30,000เส้น สามารถเก็บไว้ได้ จะใช้เมื่อไหร่
ก็ค่อยมาแจ้งบริษัท และ ตำแหน่งในวางเส้นผม จะข้างหน้า หรือ ข้างหลังก็ได้ เพื่อให้ดูดี
แต่ต้องใช้เวลาหลายเดือน ราคาที่ถามมา ในการทำรากผม ราคาลูกค้าใหม่ประมาณ 390,000 บาท
ถ้าเป็น ลูกค้าเก่า 350,000 บาท แต่ถ้าเป็น นักลงทุนวีไอ เหลือแค่ 300,000 บาท
แบบเดิมที่ปลูกผม ใช้เวลาเยอะ 8ชม ทำให้return ต่ำมาก

Estimate Hair Follicle Market 891 ล้านบาท คำนวณมาจาก
จากข้อมูล ประชากร 31-80 ปี มี 39.80 ล้านคน
• Total market คือ 25% มีปัญหาเส้นผม หรือ หนังศีรษะ = 9.9 ล้านคน
• TAM 3% ของ Total market 9.9 ล้านคนที่มีกำลังซื้อ = 2.97 แสนคน
• SAM 10% ของ TAM ที่มีกำลังซื้อ และเข้าถึง HFC =2.97 หมื่นคน
• MEDEZESOM Hair Follicle Market 10%ของ SAM = 2,970 คน x 300,000บาท = 891 ล้านบาท

ทีมR&D
เป็นคนไทย 5ท่าน คนสิงคโปร์ 6 ท่าน
ค่าใช้จ่าย R&D 16 ลบ แบ่งเป็นสองส่วน
Basic knowledge ช่วยคุณหมอเขียน ใช้5%ของรายได้ ทำThesis R&D เพื่อตีพิมพ์ผลงาน
เป้าเราไม่ถึง 5% of ปี2566
ตอนนี้ ไม่เกิน 5% บันทึกเป็นexpense
เราลงทุน บริษัทที่ สิงคโปร์ ทำกระจกตา : ทำstem cell เพื่อทำกระจกตาตอนอายุเยอะได้
Banking ไม่ใช่ส่วนสำคัญ แต่ innovationเป็นสิ่งสำคัญ เช่นมาทำกระจกตา สร้างอวัยวะ
หัวใจ ไต โครงไขกระดูก กระจกตา ได้แค่6อย่างที่ปลูกถ่ายขึ้นมาได้

คู่แข่งในตลาด ได้แก่ cryoviva , thai stemlife , Stem Cell for Life , Wincell Research
ถ้าให้ทุกเจ้า รายได้ เป็น 100 หน่วย จะพบว่า
GP ของ thai stemlife , MEDEZE ดีสุด คือ 85 , 78 ตามลำดับ
ค่าใช้จ่าย ในการขายและบริการ Stem Cell for life น้อยสุด คือ 29
กำไร ก่อนภาษี ที่เด่น คือ thai stemlife = 43 , Medeze = 42

ความเสี่ยง
1.กฎหมายเรื่องของการใช้cell กฎหมายอาจเปลี่ยนแปลงได้ เราเลยไปเปิดที่ กัมพูชา คุยกับรมต
ที่ฟิลิปปินส์ คุยกับผู้นำมา
บางประเทศยังไม่เกิด ต้องไปคุยก่อน ดังนั้นเราไปคุยกับ High Network เพื่อปูทาง
คนรวยสนใจเรื่องสุขภาพ ดังนั้นคุยผ่านเรื่องนี้
2.ความเสี่ยงเรื่องregulation

Banking fee ค่าธรรมเนียมในการเก็บ Stem cells :
amortize การตัดค่าเสื่อม คิดเป็น 60ปี ค่าใช้จ่าย แค่ 4,000 บาท ต่อเคส
รายได้ เกิดจากการเพาะเลี้ยง
ค่า 4000 บาท เป็นช่วงแช่แข็ง เรารับรู้ทันที ตอนจัดเก็บ แช่แข็งเสร็จ ห้องแลปใช้เวลาหนึ่งเดือนประมาณ 95%
อีก 5%จะเป็นการ amortize ส่วนต้นทุน COGS การจัดเก็บ คัดแยก ค่าไฟ ค่าน้ำยา รับรู้ไปแล้ว
ดังนั้น 4000 ถือเป็นรายได้ ทยอยรับรู้ไป 60ปี
ถังนึงเก็บได้ 2000 stem cell
ต้นทุนจะต่ำลงเรื่อยๆตามที่มีเคสเยอะขึ้น
ส่วน 95%ที่รับรู้ สัดส่วนต้นทุน ดูจาก COGS 20%กว่า และ Admin ,SG&A หลักๆก็เป็น Fix cost รวม พนักงาน
ส่วน variable cost เป็นต้นทุนค่าน้ำยา
กลต ไม่ให้ไปback up ที่สิงคโปร์ ก็เลยเก็บไว้ที่อีกตึกนึง
ตัวเลขยอดขาย เรามีผู้แทนที่ครอบคลุมทุก รพ ในกรุงเทพ
แต่ใน ต่างจังหวัด เราพยายามทำความรู้จักกับ รพ ในต่างจังหวัด กลุ่มลูกค้าในต่างจังหวัด
จะพยายามมาคลอดที่ จังหวัดใหญ่ๆ หรือ ในกรุงเทพแทน

การแข่งขันในรพ คู่แข่ง ข้อแตกต่าง คือ เราก่อตั้งด้วยนักวิทย์
เป็นสิ่งที่ลูกค้าเรียนรู้ และ ตัวฝาก 60ปี เป็นตัวดึงดูดให้กับลูกค้าด้วย อยู่ในสัญญา
คู่แข่ง จะเป็นการเซ็นต์กับผู้แทน ไม่ใช่กับบริษัท
ส่วนของเรา สัญญาเป็นการทำกับบริษัท
ข้อสำคัญ คือ หมอสูติในต่างจังหวัด ซึ่งผู้แทนไปเข้าหา ดังนั้นห้ามเปลี่ยนผู้แทนบ่อยเพราะหมอจำไม่ได้

มี รร แพทย์ ลูกค้าไม่เคยเก็บ stem cell แต่ หมอไปนั่งใน รพ เอกชน เราทำCSR 14 MBกับ เอกชน แจกเครื่อง อัลตราซาว์
เราพยายามติดต่อ รพ รัฐด้วย Q3 ไม่ต้องกังวล เพราะ ได้ Tax credit 2 เท่า คือ 28 MB ด้วย
เราไม่ค่อยทำpromotion นอกจาก ทำแพค
โปรรองมา เอาไว้ชน เวลาแข่งกับคู่แข่ง
แต่ 125,000 baht สำหรับบุคคลากรทางการแพทย์

ไม่เคยขึ้นราคามา14ปี ไม่เน้นการขึ้นราคา แต่เน้นบริการใหม่ๆ
ที่พยายามเล่นกัน คือ แถมจำนวนเซลล์มากขึ้น แต่fixราคาขายไว้
ที่สำคัญ คือ credit และ Trust

Q1: Roboticที่ลงทุนมูลค่า 400 ลบ อยากทราบว่าเพิ่มประสิทธิภาพ อย่างไร?
A1: โครงการอนาคต IRR 60% return within 3 Years ประสิทธิภาพ มากขึ้น เพราะ robotic ไม่ต้องพัก
มาช่วยคนทำงาน แค่8 ชมต่อวัน และ ใช้เวลาน้อยลง ทำ16ชมได้ ความผิดพลาดก็น้อยลงด้วย
เราได้กำไรจากการลงทุนด้วย

Q2: เงินสดที่ไม่ใช้ เราเอาไปลงทุนอะไร?
A2: เราเอาเงินไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล 400 MB
เราได้จากคำแนะนำจาก FA เราทำธุรกิจเกี่ยวกับ เก็บ Stem cell ซึ่งรับประกันยาว 60 years ก็เลยคิดเอาเงินเก็บไว้ที่พันธบัตรรัฐบาล
ส่วนนึงไปคืนให้ลูกค้าในอีกหลายปี และ เผื่อต้องมีการชดเชยให้ลูกค้า เวลาเจอผิดเงื่อนไข

กลุ่มลูกค้าตลาดบน จะแนะนำปากต่อปาก ได้ยินเก็บstem cell ตลาดใหญ่มาก เก็บจากไขมัน
ต่อมาต้องการเก็บกับผม และเริ่มหาความรู้ว่า stem cellใช้กับอะไรได้บ้าง
กระดูกก็ใช้ได้ ก็เริ่มเพิ่มcell ก็เริ่มเก็บมากขึ้น ไม่เหมือนสินค้าฉาบฉวย ตลาดเป็นขาขึ้น
ตัวไขมัน ยังไม่รู้ว่าonอีกกี่ปี เป็นบริการที่จำเป็นใช้กับbodyได้หมด
เราสามารถสื่อกับVIP เพราะลูกหลานมาใช้บริการกับเราและไปใช้กับเจ้าสัว
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2706
ผู้ติดตาม: 343

Re: Seminar Knowledge เรียนรู้การลงทุนผ่านการสัมมนา

โพสต์ที่ 229

โพสต์

สรุป สัมมนา Investor run#10

1.หุ้น10เด้ง โดย เชาว์ เฉลิมเดช
https://www.facebook.com/share/p/K1JHVH4JJRxHXD8G/

2.หุ้นเด้งตัวต่อไปของน้องJump
https://www.facebook.com/share/p/GiGSvwbcoVRUsV8H/

3.หุ้นจีนที่น่าสนใจ ของหมอนก นาโอกะ
https://www.facebook.com/share/p/usb7uSVvaBSvugiR/

4.หุ้นกลุ่มอสังหาและท่องเที่ยว โดย น้องมายด์
https://www.facebook.com/share/p/GzW4rwM5ynXxg7Ls/

5.หุ้นBTSน่าสนใจอย่างไร โดย อ.โอ๊ค
https://www.facebook.com/share/p/Q6mXnf4aQpdvc4xW/