โพสต์
“ชีวิตเป็นเรื่องของการตัดสินใจ เมื่อยืนอยู่บนทางแยก เราต้องเลือกเอง และเต็มใจน้อมรับผลของมัน”
.........................................................
“ไม่รู้หรอกว่าอนาคตข้างหน้าจะรวยไหม แต่ต้องไม่จน ชีวิตจะไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้แน่ๆ”.................................
กว่าจะเริ่มต้นลงทุนในหุ้นก็อายุเกือบ 40 ปีเข้าไปแล้ว ก่อนหน้านั้นทำงานหลายอย่าง มีรายได้เข้ามาเท่าไหร่ก็เก็บออมมากกว่า 50% ตลอดเวลา วัยทำงานก็ลำบาก สิ่งนี้เลือกเองเช่นกัน เพราะหนทางสบายมันเลือกง่าย แต่อนาคตลำบากแน่ๆ จุดเริ่มต้นของโลกแห่งการลงทุนคงเป็นรายการ ‘Money Talk’ โชคดีมากๆเพราะปกติไม่ค่อยดูทีวีสักเท่าไหร่ ได้ฟัง อ.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร และ อ.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา เน้นย้ำเรื่องการทำงานหารายได้เพิ่ม การประหยัดอดออม และการลงทุน ความรู้สึกมันเหมือนอาจารย์หลุดออกมาจากจอทีวี แล้วมานั่งพูดอยู่ข้างๆเราเลย นี่คือชีวิตของเรา แน่ล่ะ สิ่งเดียวที่เรายังไม่ได้ทำตามคือ “การลงทุน”.................................
จากนั้นเราก็ทุ่มเทศึกษาหาข้อมูล ใช้เวลาทุกคืนวันศุกร์-เสาร์ ซึ่งวันรุ่งขึ้นไม่ต้องตื่นเช้าเพื่อรีบไปทำงาน มุ่งมั่นอ่านหนังสือ อ่านหุ้นเอง ตัดสินใจเอง เลือกหุ้นเอง ไม่เคยถามใครเลย เรากระหายความรู้ รู้ตัวว่าไม่เก่ง แต่เราเรียนเก่ง เรามั่นใจในระบบการเรียนรู้ของตนเอง จึงขอตัดสินใจเอง รับผิดชอบผลลัพธ์แห่งการกระทำด้วยตัวเองดีกว่า เราไม่ได้เรียนจบหรือทำงานในสายการเงินหรือการลงทุน จึงต้องรีบหาความรู้เพื่อให้เพียงพอต่อการยืนหยัดบนเส้นทางนี้ ทำงานไปด้วย เลี้ยงลูกไปด้วย ลงทุนไปด้วย ไม่ได้รู้สึกว่าลำบากเลย มีความสุข เพราะเราได้เลือกเส้นทางเดินด้วยตนเอง และมองเห็นผลลัพธ์ของเส้นทางนั้นอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม.................................
เราทุ่มเทกับการลงทุนมาก ได้รับรู้ความยากลำบากในการตัดสินใจต่างๆ การลอกเลียนแบบคนอื่นอาจมีผลลัพธ์ที่ดีก็ได้ แต่คุณจะไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย ก่อนตัดสินใจลาออกจากราชการ (ได้รับเงินบำนาญเดือนละหมื่นกว่าบาท) ยังมีหนี้สินเชื่อบ้านอยู่อีกล้านกว่าบาท คิดแล้วว่าไม่มีหนี้เลยจะดีกว่า คงสบายใจมากขึ้น และจากนี้จะได้ลงทุนอย่างมั่นใจ จึงขายหุ้นบางส่วนเพื่อมาปิดหนี้บ้านและซื้อรถยนต์ด้วยเงินสด ซึ่งรถคันนั้นก็ยังคงใช้งานอยู่เป็นประจำจนถึงทุกวันนี้ เวลาก็ผ่านมากว่า 11 ปีแล้ว.................................
ในชีวิตการลงทุนมีหุ้นเปลี่ยนชีวิตอยู่หลายบริษัทเหมือนกัน เมื่อได้กำไรจากการขายหุ้นเหล่านั้นก็จะนำเงินมาซื้อหุ้นที่แข็งแกร่ง ไม่เจ๊งง่ายๆ และจ่ายปันผลดี หลักการคือ
...
เมื่อลงทุนแล้วได้กำไร จะนำไปซื้อหุ้นปันผลเมื่อหุ้นปันผล จ่ายปันผล ก็จะนำไปซื้อหุ้นปันผลต่อ...
หลักการลงทุนมีเพียงเท่านี้ รายได้จากการทำงาน รายได้จากเงินปันผล รายได้จากเครดิตภาษีเงินปันผล จะนำไปลงทุนต่อในหุ้นปันผลทั้งหมดเลย
ไม่ค่อยได้ใช้สักเท่าไหร่ อาจไม่เต็มที่นัก เพราะต้องใช้เงินเพื่อเลี้ยงลูกให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ความมหัศจรรย์ของอัตราผลตอบแทนทบต้นยังคงทำงานต่อไปอย่างไม่เหนื่อยล้า แน่นอนว่ามนุษย์ทุกคนมีความหวัง แต่อย่าคาดหวังสิ่งใดให้มันมากมายเกินไป ขอเพียงตั้งใจทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุด แล้วผลลัพธ์จะดีเอง เราเชื่อเช่นนั้น
.................................
“คนทำงาน จงทำงานต่อไป ประหยัด เก็บออม นำเงินไปสะสมหุ้นปันผล แค่นี้แหล่ะ มุ่งเน้นเพิ่มสัดส่วนความเป็นเจ้าของ หรือจำนวนหุ้นให้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งใจทำงาน ประหยัด และลงทุน ชีวิตมันจะลงเอยด้วยความจนได้อย่างไร?” : ปริญญา เธียรวร.................................
“เงินน้อย ใช้วิธีการที่ถูกต้อง มันก็เติบโตเพิ่มมากขึ้น เงินเยอะ แต่ใช้วิธีการที่ผิด มันก็ลดลง” : โจ ลูกอีสาน.................................
ชีวิตเราเป็นได้อย่างทุกวันนี้ เพราะนำคำสอนของอาจารย์หลายๆท่านมาผนวกรวมเข้าด้วยกัน แต่เราต้องรู้จักตนเองด้วย การบริหารจัดการชีวิตจะไปถามหาคำตอบจากคนอื่นไม่ได้ มองภาพใหญ่ ภาพไกลของชีวิตตนเองให้ออก ไม่แบกทุกข์ ทำใจให้เบาสบาย เมื่อใจเบาจะทำให้เกิดสติปัญญา เข้าใจทุกสรรพสิ่งอย่างที่มันเป็นอยู่ มองชีวิตอย่างมีเหตุมีผล รับรู้ว่ายังมีอีกหลายสิ่งในชีวิตที่เราควบคุมอะไรไม่ได้เลย หากแต่เราควบคุมตนเองได้ อยู่อย่างไรไม่ให้ทุกข์ ทำเหตุให้ดี แล้วผลลัพธ์จะดีเอง พึ่งพาตนเอง อย่าเอาคุณค่าของตนเองไปฝากไว้กับคนอื่น
.................................
การประหยัดอดออม และความมหัศจรรย์ของผลตอบแทนทบต้น เปลี่ยนชีวิตของใครหลายคนมาแล้วมากมาย ลองพยายามดูสักครั้ง แรกๆอาจไม่ชิน แต่ในอนาคตเราจะมีความสุขจากผลลัพธ์ของมันแน่นอน
..................
นุช : วราพรรณ วงศ์สารคาม..................................................................
ขอขอบคุณบทสนทนาบางส่วนจาก ‘TRADER KP : On Ground Business tomorrow’ (สื่อต้นทางหายไปแล้ว ค้นหาไม่พบ ผมเพิ่งจดสรุปไว้เมื่อเช้า ไม่เข้าใจเหมือนกันครับว่าเพราะเหตุใด?)ขออนุญาตใช้ภาพเก่าจากรายการ ‘MONEY TALK’ ตอน ‘VI แม่บ้าน’ ที่ทำให้ผมได้รู้จักพี่นุชผ่านจอเป็นครั้งแรกนะครับ
บันทึกไม่สำเร็จ